แชร์

บทที่ 20

ผู้เขียน: ซวนเถียนตาหน่ายซี
“ผมในตอนนี้ ไม่ติดค้างอะไรกับคนสกุลเจียง”

เซียวเฉินทิ้งคำพูดไว้ประโยคหนึ่ง เดินออกจากประตูบ้านสกุลเจียงอย่างสบายใจ

เขายุติเรื่องราวในอดีต บุญคุณและความแค้นต่อจากนี้คิดต่างหาก

หวังฮุ่ยหรูไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว มองดูเซียวเฉินที่เดินออกไปอย่างเงียบ ๆ

“คุณแม่ ไอ้เซียวเฉินนี่กำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว! ปล่อยมันไปไม่ได้!”

“ใช่ค่ะ น้องเล็กยังกำลังทุกข์ทรมานอยู่ มีเพียงเขาที่สามารถแก้ไขได้!”

“พวกเราจะต้องจับตัวมันเอาไว้ ดูว่ามันจะทนรับความทรมานได้ไหม!”

ทันทีที่เซียวเฉินเดินออกไป พี่น้องทั้งห้าก็ส่งเสียงโหวกเหวก

“มันถึงคราวที่พวกแกจะมาสั่งสอนฉันแล้วเหรอ?” หวังฮุ่ยหรูถามด้วยสีหน้าเย็นชา

ทุกคนไม่กล้าส่งเสียงออกมาทันที

หวังฮุ่ยหรูโบกมือ

“สวบ!”

เงาดำเงาหนึ่งปรากฏตัวขึ้นทันที คุกเข่าลงข้างหนึ่งที่ใต้เท้าเธอ

“ซาอิ่งเบอร์หนึ่ง นายหญิงโปรดออกคำสั่ง!” เงาดำนั่นพูดด้วยความนอบน้อม

“ซาอิ่ง!”

พี่น้องสกุลเจียงสีหน้าประหลาดใจ

พวกเธอเคยได้ยินเพียงว่า ซาอิ่งเป็นกองกำลังลับของสกุลเจียง เชื่อฟังเพียงคำสั่งของหัวหน้าตระกูลเท่านั้น ยังไม่เคยเห็นจริง ๆ

ที่แท้หลังจากที่หัวหน้าตระกูลสกุลเจียงจากไป กองกำ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ย้อนเวลาไปทวงบัลลังก์แค้นให้คุณหนูตัวจริง   บทที่ 21

    ค่อนข้างสงบเงียบอยู่หลายวันเซียวเฉินได้ใช้ชีวิตที่สงบสุขที่หาได้ยากอยู่หลายวัน สกุลเจียงก็ไม่มีใครมาหาเขาอีกถึงแม้จะไม่รู้ว่าทางด้านสกุลเจียงกำลังวางแผนอะไร แต่ว่าตอนนี้พวกเขาน่าจะกำลังยุ่งอยู่กับการดูแลเจียงหลิว ไม่มีเวลามาจัดการเขาเซียวเฉินก็มีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเช่นกันวันนี้เป็นวันที่ต้องออกไปทำงานข้างนอกเป็นเพื่อนถังซินเวยทั้งวันเนื่องจากบริษัทของสกุลถังกลับมามีชีวิตได้อีกครั้งเพราะได้รับการช่วยเหลือจากเซิ่งหรงกรุ๊ป แต่ยังมีธุระอีกมากมายที่ต้องพึ่งพาสกุลถังของตนตอนนี้ถังซินเวยเป็นถึงประธานถัง เป็นผู้รับผิดชอบกิจการของบริษัท ย่อมต้องจัดการเล็กใหญ่ทั้งหมดให้เรียบร้อยด้วยตนเองทุกวันเซียวเฉินจะช่วยเป็นลูกมือให้เธอ แต่ก็มีความที่ได้ทำแบบนั้นเมื่อก่อนนี้คุ้นชินกับการใช้ชีวิตเสี่ยงตาย ทุ่มเทให้กับสกุลเจียงทุกวี่วัน การใช้ชีวิตแบบนี้สำหรับเขาถือว่าค่อนข้างสงบสุข ให้ร่างกายและจิตใจได้ผ่อนคลายหลังจากยุ่งมาทั้งวัน...“ไปรับถังโยวกัน จากนั้นก็กลับบ้านไปกินข้าวเย็น!” ถังซินเวยพูดพร้อมยิ้มตาหยีตอนนี้เธอมีพลังเต็มเปี่ยม มีเซียวเฉินคอยอยู่ข้าง ๆ ทำอะไรก็รู้สึกไม่เ

  • ย้อนเวลาไปทวงบัลลังก์แค้นให้คุณหนูตัวจริง   บทที่ 22

    บทละครไม่น่าจะเป็นแบบนี้เจียงอู๋ซวงใช้ถังโยวหญิงสาวคนหนึ่งมาระบายอารมณ์ แก้แค้นเซียวเฉินถังโยวน้ำตาไหลพราก เจียงอู๋ซวงกลับยกมือจะตบอีกครั้งแต่ฝ่ามือยังไม่ได้ฟาดลงไปอีก เพราะเซียวเฉินได้จับมือของเจียงอู๋ซวงเอาไว้แล้ว“เซียวเฉิน แกกล้าดียังไง! ละครเรื่องนี้มีนายท่านสามสกุลสวีแห่งพรรคชิงดูแลอยู่!” เจียงอู๋ซวงตะคอกพรรคชิง นั่นเป็นถึงพรรคใหญ่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในตอนนี้ของประเทศเซี่ย...เมืองหนานเฉิงสิ่งที่สมาคมชิงหลงจะสามารถเทียบได้ มีความยิ่งใหญ่กว่ามาก อิทธิพลก็กว้างใหญ่มากเช่นกันนายท่านสามสกุลสวีแห่งพรรคชิง เป็นบุคคลอันดับหนึ่งของวงการ บารมียิ่งใหญ่หากชื่อของเขาถูกเอ่ยออกมา ทั้งวงการขาวและดำต่างก็ต้องให้เกียรติเจียงอู๋ซวงคิดว่าเซียวเฉินจะกลัวทว่า เซียวเฉินไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย“ถังโยว มานี่” เขาพูดกับถังโยว“พี่เซียวเฉิน ฉันกำลัง...”ถังโยวพูดเสียงเบา“เจียงอู๋ซวงตบหน้าเธอหนึ่งที ฉันต้องการให้ตบเธอคืนหนึ่งที!” เซียวเฉินพูดออกมาประโยคหนึ่ง ทั้งกองถ่ายต่างพากันตกใจ“เธอกล้าเหรอ?” เจียงอู๋ซวงแค่นหัวเราะออกมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม “แค่ตัวประกอบเล็ก ๆ คน

  • ย้อนเวลาไปทวงบัลลังก์แค้นให้คุณหนูตัวจริง   บทที่ 23

    “เฮอะ ๆ ๆ...” เหมือนกับเจียงอู๋ซวงได้ยินเรื่องที่ตลกที่สุดในโลก“นอกจากตำนานเฉินเฟยเรื่องนี้แล้ว คิวงานภายในสองปีนี้ก็เต็มหมดแล้ว นักลงทุนและผู้กำกับมากมายขอร้องให้ฉันรับเล่นละครของพวกเขา บริษัทใหญ่หลายแห่งก็เสนอราคาสูงเพื่อให้ฉันเป็นพรีเซนเตอร์...แกว่า ฉันจะดับไหม?”“เซียวเฉินเอ๊ยเซียวเฉิน แกนี่มันช่างเพ้อเจ้อจริง ๆ คำพูดแบบนี้ก็กล้าพูดออกมาได้”เธอมองถังโยวแวบหนึ่ง ยิ้มบางอย่าง ๆ ดูถูก“ฉันพูดแค่ประโยคเดียว นังเด็กนี่ก็เข้ากองถ่ายละครไหนไม่ได้อีก ต่อไปเธอก็คงเป็นไม่ได้แม้แต่เป็นตัวประกอบ แกว่ามา ว่าเธอจะดังได้ยังไง?ถังโยวได้ยินสีหน้าก็เคร่งเครียดขึ้นมา เต็มไปด้วยความกังวลเซียวเฉินไม่ได้พูดอะไรเขาปล่อยมือจากเจียงอู๋ซวง หันหลังกลับไปแล้วดึงถังโยวออกจากฉากถ่ายทำละคร“ถังโยว ละคนแบบนี้มีอะไรน่าแสดง? เราไม่เล่น ฉันจะแนะนำละครเรื่องอื่นให้เธอ” เขาพูดอย่างอ่อนโยนถังโยวพยักหน้าอย่างว่าง่ายแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยเชื่อว่าเซียวเฉินจะมีความสามารถแบบนั้น แต่ถึงอย่างไรก็ออกหน้าแทนเธอ เธอจะทำให้เซียวเฉินขายหน้าไม่ได้“ก็มีแค่ความสามารถพูดจาโอ้อวดหลอกลวงเด็กสาวเท่านั้น” เจียงอู๋ซวงหัวเราะ

  • ย้อนเวลาไปทวงบัลลังก์แค้นให้คุณหนูตัวจริง   บทที่ 24

    คฤหาสน์หลังใหญ่อันหรูหราริมทะเลสาบหลังหนึ่ง ทิวทัศน์บริเวณรอบ ๆ งดงาม พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันนี่คือบ้านพักส่วนตัวของบุคคลใหญ่อย่างนายท่านสามสกุลสวีแห่งพรรคชิงนายท่านสามสกุลสวีแห่งพรรคชิง คนมีชื่อเสียงโด่งดังในแวดวงสายดำความดีบางส่วนของเขา ยังคงเป็นที่พูดถึงของผู้คนมากมายจนถึงทุกวันนี้นายท่านสามสกุลสวีเป็นคนหัวโล้น ในเวลานี้กำลังนั่งตกปลาอยู่ที่ริมทะเลสาบด้านนอกคฤหาสน์เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นนายท่านสามสกุลสวีหยิบขึ้นมามองแวบหนึ่ง กดรับสาย“คุณหนูอู๋ซวง นี่เป็นครั้งแรกที่คุณเป็นฝ่ายโทรศัพท์มาหาผม” เขากล่าวพร้อมรอยยิ้ม“นายท่านสาม เกิดเรื่องขึ้นที่โรงถ่ายภาพยนตร์เมืองหนานเฉิงแล้ว” เจียงอู๋ซวงพูดจากนั้น ก็เล่าเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นที่กองถ่ายออกมานายท่านสามสกุลสวีได้ยินก็ขมวดคิ้วแน่น“เซียวเฉิน ไอ้สวะแห่งสกุลเจียงของคุณ...” สีหน้าของเขาอึมครึม “แค่สวะคนหนึ่ง สามารถทำร้ายคนหลายสิบคนของพรรคชิงของผมเลยเหรอ?”“ไม่ว่านายท่านสามตั้งใจจะจัดการลงโทษเซียวเฉินยัง สกุลเจียงของฉันจะไม่ก้าวก่ายค่ะ” เจียงอู๋ซวงแสดงท่าทีหลังจากวางสาย สีหน้าของนายท่านสามสกุลสวีก็ดูแย่มากหลังจาก

  • ย้อนเวลาไปทวงบัลลังก์แค้นให้คุณหนูตัวจริง   บทที่ 25

    กล้าออกมาสกัดยอดฝีมือสองร้อยคนของพรรคชิงเพียงลำพัง ความกล้าหาญไม่เลวเลย“พรรคชิงมาที่นี่ด้วยจุดประสงค์อะไร?” เซียวเฉินวางขลุ่ยยาวลง ถาม“แน่นอนว่าฆ่าแก” นายท่านสามสกุลสวีพูดอย่างไม่อ้อมค้อม ด้วยท่าทางสบาย“คนที่ล่วงเกินพรรคชิงของฉัน ฆ่าไม่เว้น!”“ถ้าอย่างนั้นก็ใช่แล้ว” เซียวเฉินพูดพึมพำ“อะไรถูกแล้ว?” นายท่านสามสกุลสวีขมวดคิ้วอีกครั้ง“พวกแกจะตายอย่างยุติธรรม” เซียวเฉินพูดเสียงเรียบ”“ฮ่า ๆ ๆ...” นายท่านสามสกุลสวียืนอยู่บนเรือกลไฟหัวเราะเสียงดังสายตาของเขาที่มองเซียวเฉินเต็มไปด้วยความถากถางจะฆ่าคนสองร้อยคน ด้วยตัวคนเดียว?แถมยังเป็นยอดฝีมือพรรคชิง...คนที่อวดดีเกินไปถึงจะพูดจาแบบนี้ออกมาได้?จะต้องเย่อหยิ่ง และไม่รู้จักประเมินความสามารถของตัวเองขนาดไหน!หัวเราะไปได้สักพัก นายท่านสามสกุลสวีก็หยุดหัวเราะ สีหน้าเย็นยะเยือกเป็นอย่างยิ่ง“แกรนหาที่ตายสินะ” เขากล่าวอย่างชั่วร้ายเซียวเฉินยิ้มบาง ๆเท้าออกแรงเพียงเล็กน้อย คนก็ออกจากเรือลำเล็ก หลังจากผ่านไปสองวินาทีก็ไปลงบนเรือกลไฟ“สวบ!”เขาพุ่งตัวออกไปเหมือนกับระเบิดนิวเคลียร์ลูกหนึ่งนายท่านสามสกุลสวีโบกมือทีหนึ่ง ยอดฝี

  • ย้อนเวลาไปทวงบัลลังก์แค้นให้คุณหนูตัวจริง   บทที่ 26  

    เจียงอู๋ซวงจะคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจเลยสักนิด นายท่านสามสกุลสวีของพรรคชิงพาคนสองร้อยคนขึ้นเรือกลไฟเดินทางไปเมืองหนานเฉิง เรือกลไฟลำใหญ่ขนาดนั้น จะจมหายไปดื้อ ๆ ได้อย่างไร? คนจำนวนมากขนาดนั้น จะไม่มีใครสักคนเจอตัวเลยได้อย่างไร? แม้จะบอกว่าแม่น้ำใหญ่นอกเขตเมืองหนานเฉิงจะเคยเกิดอุบัติเหตุเรือจมเหมือนกัน แต่เหตุการณ์ที่น่าจะใหญ่โตขนาดนี้กลับไม่มีข่าวคราวแว่วมาให้ได้ยินบ้างเลย “แล้วทางพรรคชิงว่าอย่างไรบ้าง?” เจียงอู๋ซวงถามคนของพรรคชิง “หัวหน้าพรรคออกคำสั่งด้วยตนเอง ตอนนี้กำลังเร่งค้นหาอย่างเต็มกำลัง หากมีชีวิตต้องเห็นคน หากตายไปแล้วต้องเห็นศพ!” คิ้วดกดำของเจียงอู๋ซวงขมวดแน่น นายท่านสามสกุลสวีเป็นนักลงทุนของละครเรื่องตำนานเฉิงเฟย ตอนนี้ดันเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นกับเขาแล้ว แบบนี้ละครเรื่องนี้จะถ่ายต่อได้อย่างไร? เจียงอู๋ซวงยิ่งหงุดหงิดขึ้นกว่าเก่า เธอไม่เข้าใจเลยสักนิด ว่าทำเซียวเฉินถึงได้โชคดีขนาดนั้น? สกุลหลินอุตส่าห์ขนพวกองครักษ์ชุดดำของสกุลหลินไปหาเรื่องเขาตั้งขนาดนั้น ผลสุดท้ายก็หายตัวไประหว่างทาง จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้ข่าวคราวอะไรกลับมาเลย นายท่านสามสกุลสวีพรรคชิง พากำ

  • ย้อนเวลาไปทวงบัลลังก์แค้นให้คุณหนูตัวจริง   บทที่ 27  

    ละครทั้งหมดถูกยกเลิกสัญญา… เป็นไปได้อย่างไร? “เพิ่งมีข่าวแจ้งเข้ามากะทันหัน เมื่อเช้าวันนี้เองค่ะ พวกบทละครที่พี่เคยรับไว้ก่อนหน้านี้ พวกนักลงทุนเหมือนนัดกันไว้ ส่งจดหมายมายกเลิกสัญญาแทบจะพร้อมกันทุกเจ้าเลยค่ะ เป็นการยกเลิกสัญญาฝ่ายเดียวค่ะ…” เจียงอู๋ซวงได้ยินก็สีหน้ามืดครึ้มไป ยกเลิกสัญญาพร้อมกันเหรอ? เธอไม่เข้าใจ คนพวกนั้นไม่ใช่ว่าเคยขอร้องอ้อนวอนเธอแทบเป็นแทบตายให้เธอรับเล่นละครหรอกเหรอ? ตอนนี้ถูกประตูหนีบศีรษะกันหมดแล้วหรืออย่างไร? ลืมไปแล้วเหรอว่าเมื่อก่อนสภาพน่าสมเพชขนาดไหน? “แล้วผู้จัดการส่วนตัวล่ะ? ผู้จัดการส่วนตัวของฉันล่ะ? เรื่องใหญ่ขนาดนี้เพิ่งจะมาบอกฉันเอาตอนนี้เนี่ยนะ?” เจียงอู๋ซวงโมโห “ผู้จัดการส่วนตัวทิ้งจดหมายลาออกไว้หนึ่งฉบับค่ะ…” ผู้ช่วยยื่นจดหมายฉบับหนึ่งมาให้ เจียงอู๋ซวงนัยน์ตาเบิกโพลง สีหน้าไม่อยากจะเชื่อ ผู้จัดการของเธอ เป็นถึงผู้จัดการดารามือทองที่ลือชื่อมากในวงการเชียวนะ ตอนแรกที่เธอยังเป็นแค่ตัวประกอบ ผู้จัดการคนนี้ก็เป็นฝ่ายเข้าหาเธอก่อน บอกว่าเธอเป็นคนมีศักยภาพ อยากจะขอปั้นเธอด้วยตัวเอง หลายปีมานี้ ผู้จัดการมือทองคนนี้ช่วยเธอวางแผนเส

  • ย้อนเวลาไปทวงบัลลังก์แค้นให้คุณหนูตัวจริง   บทที่ 28  

    หนึ่งวัน สองวัน สามวัน… สามวันช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วเหลือเกิน จนถึงตอนนี้เจียงอู๋ซวงก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจากผู้กำกับหรือว่านักลงทุนคนไหนเลย เธอแทบจะบ้าตายแล้ว เพราะอะไรกันแค่ชั่วข้ามคืน สถานการณ์ของเธอเกิดพลิกผันราวฟ้ากับเหวขึ้นมาได้… คำถามคือ ต้นเหตุมันอยู่ที่ตรงไหน? “พี่อู๋ซวงคะ…” ผู้ช่วยเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวของเธอ “เป็นไงบ้าง? มีข่าวดีแล้วใช่ไหม?” เจียงอู๋ซวงพลันมีความหวังขึ้นมา ผู้ช่วยกลับถอนหายใจ ทำให้เธอหน้าแข็งทื่อไป “พี่อู๋ซวง พี่ดูพาดหัวข่าวของวันนี้ก่อนเถอะค่ะ…” เจียงอู๋ซวงขมวดคิ้ว รีบร้อนเปิดข่าวในโทรศัพท์มือถืออ่าน “แปดบริษัทชื่อดังร่วมออกแถลงการณ์ ยกเลิกสัญญากับดาราสาวเจียงอู๋ซวง พร้อมหาแอมบาสเดอร์คนใหม่!” “อึ้ง ดาราสาวตัวท็อปมีเอี่ยวแก๊งมาเฟีย ลือหึ่งเป็นเมียน้อยเจ้าพ่อกลุ่มอิทธิพลมืด…” “กองถ่ายใหญ่แห่เทสัญญา เจียงอู๋ซวงอาจสิ้นผลงานละคร” ……  หัวข้อข่าวแต่ละอัน ล้วนเกี่ยวข้องกับเจียงอู๋ซวงทั้งสิ้น สีหน้าของเจียงอู๋ซวงย่ำแย่ถึงที่สุด ปอดเหมือนจะระเบิดออกมาให้ได้แล้ว ไม่ใช่แค่นักลงทุนของกองถ่ายละคร แต่ตอนนี้แม้แต่แบรนด์ที่เธอเป็นแอมบาสเ

บทล่าสุด

  • ย้อนเวลาไปทวงบัลลังก์แค้นให้คุณหนูตัวจริง   บทที่ 40  

    จ้าวเทียนอีแผดเสียงร้องโหยหวนออกมาราวกับปอดจะฉีก เจ็บปวดอย่างแสนสาหัส “พูดไม่พูด?” “อยากรู้เหรอ? ฝันไปเถอะ!” จ้าวเทียนอีคำรามเสียงดังสนั่น เซียวเฉินเหยียบลงไปที่แขนอีกข้างหนึ่งของเขาอีกครั้ง แขนสองข้างถูกเหยียบจนหัก จ้าวเทียนอีเจ็บปวดจนแทบตายไปตรงนั้น ความเคียดแค้นต่อเซียวเฉินที่อยู่ในใจพุ่งสูงถึงขีดสุดแล้ว ถังซินเวยมองดูสถานการณ์จนอกสั่นขวัญแขวน ต่อให้สกุลถังจะอยู่ในช่วงรุ่งเรืองเฟื่องฟู แต่จะด้านใด ๆ ก็ยังเทียบไม่ได้กับสกุลจ้าว จะยั่วยุล่วงเกินอีกฝ่ายไม่ได้เด็ดขาด เซียวเฉินทำจ้าวเทียนอีบาดเจ็บถึงเพียงนี้แล้ว เกรงว่าเธอคงจะหมดปัญญาปกป้องแล้ว “ยังไม่บอกอีกเหรอ? ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องพูดแล้ว” เซียวเฉินเห็นจ้าวเทียนอียังคงดื้อรั้นปากแข็ง สีหน้าไม่สบอารมณ์ ก่อนจะยกเท้าขึ้นกระทืบไปบนขาซ้ายของอีกฝ่าย ไม่รอคำตอบ ก็ยกเท้ากระทืบขาขวาของเขาไปอีกครั้ง เพียงพริบตาเดียว แขนขาทั้งสี่ของเขาถูกทำลายจนหมดสิ้น ทว่าเซียวเฉินก็มิได้ใจอ่อนลงแม้แต่น้อย กล้าดูหมิ่นถังซินเวย เขาไม่มีทางยกโทษให้เด็ดขาด! “ฉันบอก…ฉันบอกก็ได้…” ในที่สุดจ้าวเทียนอีก็ทนความเจ็บปวดไม่ไหว ร้องออกมาพร้อ

  • ย้อนเวลาไปทวงบัลลังก์แค้นให้คุณหนูตัวจริง   บทที่ 39  

    บอดี้การ์ดสองคนของจ้าวเทียนอีเดินตรงเข้ามาหาเซียวเฉิน ก่อนที่จ้าวเทียนอีจะเข้ามารับช่วงต่อดูแลธุรกิจของตระกูลก็เคยเป็นคุณชายเสเพล ใช้อำนาจอิทธิพลของสกุลจ้าวมาทำตัวโอหังอวดดี บอดี้การ์ดสองคนนี้เขาจ้างมาทำงานด้วยราคาสูง และในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็คอยช่วยเขาจัดการกับคนที่ทำให้เขาไม่พอใจมานักต่อนักแล้ว ผู้ช่วยตัวเล็ก ๆ ท่าทางธรรมดาเหมือนอย่างเซียวเฉิน จ้าวอีเทียนไม่เคยเห็นอยู่ในสายตา หลังจากออกคำสั่งก็คร้านจะหันกลับไปมองอีก เขาหยิบแก้วไวน์แดงขึ้นมา จิบเบา ๆ ทว่ายังไม่ทันได้กลืน “ปึง ปัง…” ก็ได้ยินเสียงกระแทกหนัก ๆ ดังขึ้นสองครั้ง เขายกยิ้มอย่างเยือกเย็นพลางเงยหน้ามอง แต่ก็ต้องชะงักไปทันที บอดี้การ์ดที่เขาจ้างมาด้วยเงินสูงลิ่วถูกซัดลอยกระเด็น ก่อนจะล้มฟาดข้างโซฟาทั้งสองข้างอย่างแรง “หือ?” จ้าวเทียนอีขมวดคิ้วขึ้น จ้องมองเซียวเฉินอย่างประหลาดใจ “เหอะ ก็มีฝีมืออยู่บ้างนี่…” เขาดึงหน้าขรึมเอ่ยประโยคนี้ขึ้นมา “แกรู้หรือเปล่าว่าฉันเป็นใคร?” จ้าวเทียนอีวางแก้วไวน์ลง พลางถามอย่างไม่แยแส “ถ้าไม่รู้ แกก็ลองถามถังซินเวยดูสิ” “คนที่กล้าล่วงเกินฉัน มีจุดจบอยู่สองแบบ ไม่ขอโทษด้

  • ย้อนเวลาไปทวงบัลลังก์แค้นให้คุณหนูตัวจริง   บทที่ 38  

    “ประธานจ้าว พวกเรามาพบกันสักหน่อยได้ไหมคะ? ฉันอยากจะขอเจรจากับคุณสักหน่อยค่ะ…” ถังซินเวยเอ่ย “ถ้าอย่างนั้นคุณก็มาที่โรงแรมเยว่เผิงได้หรือเปล่า” น้ำเสียงจากปลายสายเจือด้วยความเจ้าเล่ห์เล็กน้อย ถังซินเวยไม่กล้าล่าช้า รีบขับรถมุ่งตรงไปที่โรงแรมเยว่เผิงทันที เมื่อมาถึง ก็รีบขึ้นลิฟต์อย่างร้อนรนไปยังห้องรับรองส่วนตัวที่อีกฝ่ายพูดถึงทันที ภายในห้องรับรองส่วนตัว มีชายหนุ่มที่ดูวัยรุ่นมาก ๆ คนหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนโซฟา ข้างกายมีบอดี้การ์ดสองคน และมีอาหารหรูหราวางอยู่เต็มโต๊ะ ระหว่างทางถังซินเวยได้บอกเซียวเฉินแล้วว่า ประธานจ้าวคนนี้ชื่อว่าจ้าวเทียนอี เป็นคุณชายจากสกุลจ้าวซึ่งเป็นตระกูลยิ่งใหญ่มีอิทธิพลในเมืองหนานเฉิง แม้ว่าอายุยังน้อยแต่ก็ได้รับความไว้วางใจให้รับผิดชอบหน้าที่สำคัญแล้ว เรื่องจัดหาวัสดุ ก็เป็นเขาเองที่ติดต่อกับถังซินเวยมาโดยตรง เห็นถังซินเวยเข้ามา จ้าวเทียนอีก็ผุดยิ้ม ทว่าเห็นด้านหลังของเธอมีเซียวเฉินตามมาด้วยอีกคน สีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นมาเล็กน้อย “ประธานจ้าว ต้องขออภัยจริง ๆ ค่ะที่ทำให้คุณต้องรอนาน…” ถังซินเวยเข้าไปก็กล่าวขอโทษทันที ด้วยท่าทีอ่อนน้อม จ้าวเ

  • ย้อนเวลาไปทวงบัลลังก์แค้นให้คุณหนูตัวจริง   บทที่ 37  

    เจียงอู๋ซวงที่เสียสติถูกส่งตัวกลับบ้านสกุลเจียง เห็นเจียงอู๋ซวงผมเผ้ายุ่งเหยิงสภาพดูอิดโรยน่าสังเวชแบบนั้น พี่น้องสกุลเจียงต่างตกตะลึงหน้าถอดสี “พี่รอง พี่เป็นอะไร? เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?” พวกเธอรีบกรูกันเข้าไปล้อมรอบ “น้องรอง เธอเป็นอะไรไป?” เจียงอีอีขมวดคิ้ว “เธอเป็นดาราสาวตัวท็อป สภาพแบบนี้ถ้าเกิดถูกนักข่าวถ่ายภาพไปได้ ต้องกลายเป็นข่าวใหญ่ถูกวิจารณ์หนักหน่วงแน่ ชื่อเสียงสกุลเจียงต้องเสื่อมเสียแน่นอน” เจียงอู๋ซวงแววตาเหม่อลอย ไม่มีท่าทีโต้ตอบใด ๆ กับคำตำหนิของเธอ “แย่แล้ว…พวกเราพลาดไปแล้ว…” เธอขยับปากพึมพำ “แย่อะไร? พวกเราทำพลาดอะไรตรงไหนเหรอ?” พี่น้องสกุลเจียงได้ยินก็งุนงงไม่เข้าใจ “ไม่ควรไล่เซียวเฉินออกจากสกุลเจียงเลย พวกเราพลาดไปแล้ว…” เจียงอู๋ซวงพูดออกมาอย่างเหม่อลอย “หุบปาก!” สีหน้าของเจียงอีอีพลันเยือกเย็นลงทันที “เจียงอู๋ซวง นี่เธอเป็นบ้าไปแล้วเหรอ? ถึงได้กล้ามาสงสัยกับการตัดสินใจของฉัน! พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดนะ!” เธอตวาดด้วยเสียงเย็นชา “คน…ผู้คนมากมาย…ตายไปหมดแล้ว” เจียงอู๋ซวงพลันร้องไห้ออกมา ความหวาดกลัวฉายชัดเต็มใบหน้า “ถูกเขาฆ่าตายหมด ทุกคนถูกเขาฆ่า

  • ย้อนเวลาไปทวงบัลลังก์แค้นให้คุณหนูตัวจริง   บทที่ 36  

    นั่นคือจุดสูงสุดที่สกุลเจียงต้องแหงนหน้ามองและไม่อาจเอื้อมถึง… “เซียวเฉิน แกซ่อนตัวได้เนียนนักนะ!” เจียงอู๋ซวงกัดฟันพลางเอ่ย หากว่าเซียวเฉินเผยตัวออกมาว่าไม่ใช่คนธรรมดาเร็วกว่านี้ ใครจะกล้าไล่เขาออกไป? คงจะรีบสอพลอเสียด้วยซ้ำ เจียงอู๋ซวงไม่ได้รู้สึกเสียใจ เพียงแต่รู้สึกว่าเซียวเฉินสมองเพี้ยนไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่มีตำแหน่งยิ่งใหญ่น่าเหลือเชื่อขนาดนั้นแล้ว แต่กลับแสร้งทำเป็นตัวไร้ประโยชน์! “เจียงอู๋ซวง พี่รู้หรือเปล่า ว่าผมตั้งใจก่อตั้งตำหนักมืดขึ้นก็เพื่อสกุลเจียง?” เซียวเฉินหัวเราะเย็นเยียบออกมาด้วยสีหน้าดูถูก “กำลังคิดว่าจะมอบให้สกุลเจียงแท้ ๆ แต่พวกพี่กลับไล่ผมออกจากสกุลเจียง!” เจียงอู๋ซวงเบิกตาโพลง ม่านตาสั่นไหว จะบอกว่า พวกเธอทิ้งอำนาจการควบคุมองค์กรอันดับหนึ่งของโลกไปเองกับมืออย่างนั้นเหรอ? ในที่สุดเจียงอู๋ซวงก็นึกเสียดายขึ้นมาแล้ว และยังเป็นความเสียดายที่รุนแรงอย่างถึงที่สุด หากว่าสกุลเจียงสามารถควบคุมตำหนักมืดได้… เจียงอู๋ซวงไม่อาจจินตนาการได้เลยว่าสกุลเจียงจะรุ่งเรืองมากขนาดไหน “ท่านเจ้า…เจ้าแห่งความมืด…” หัวหน้าพรรคชิงสีหน้าซีดเซียว ประสานมือคารวะต่อเซียวเฉิน

  • ย้อนเวลาไปทวงบัลลังก์แค้นให้คุณหนูตัวจริง   บทที่ 35  

    โถงหลักของพรรคชิงพังทลายแล้ว! คล้ายกับมีกระแสคลื่นคลั่งโหมกระหน่ำเข้ามา ทำลายทุกสิ่งแหลกละเอียด กำแพงถล่มลงมา คนจำนวนมากมายมหาศาลหลั่งไหลกันเข้ามา “โครม …” เสียงแววดังมาจากด้านบนศีรษะ คนของพรรคชิงตะลึงอึ้งงัน ทว่าไม่นานพวกเขาก็เข้าใจแล้ว แสงจากโลกภายนอกส่องเข้ามาจากด้านบน นั่นเป็นเพราะเพดานโถงทั้งอันของห้องโถงหลักกำลังเลื่อนขึ้นไป มันถูกเกี่ยวให้ลอยขึ้นไปแล้ว มองไปกลางท้องฟ้า เพียงปราดเดียวก็เห็นเฮลิคอปเตอร์ลำใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วนกำลังดึงเพดานโถงหลักของพรรคชิงออกไป ฉับพลันทันใดนั้น ก็มีเฮลิคอปเตอร์จู่โจมหลายสิบลำกำลังลอยนิ่ง ๆ อยู่เหนือศีรษะของพวกคนพรรคชิง อาวุธหนักที่ติดบนเฮลิคอปเตอร์เล็งเป้าลงมาด้านล่างแล้ว “ปึง!” ทันใดกั้นก็มีกระบอกปืนทะลุเข้ามา เมื่อมองให้ดีแล้ว นั่นคือรถถัง ซึ่งจอดเรียงกันเป็นแนวยาว อยู่ด้านหลังเซียวเฉิน ปลายกระบอกปืนสีดำมืดเล็งเป้าไปยังจุดที่เบื้องบนของพรรคชิงนั่งอยู่ หากมองทะลุรอยแยกเล็ก ๆ ออกไป ก็จะเห็นว่าที่แม่น้ำด้านนอกสำนักงานใหญ่พรรคชิง มีเรือสงครามจอดรอคำสั่งอยู่ ทั้งทางน้ำ บนบก และอากาศ ปิดล้อมพรรคชิงไว้ได้อย่างสมบูรณ์ “นะ…นี่มัน…”

  • ย้อนเวลาไปทวงบัลลังก์แค้นให้คุณหนูตัวจริง   บทที่ 34  

    สำนักงานใหญ่ของพรรคชิงตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองหนานเฉิง ตอนที่เฮลิคอปเตอร์ลงจอดนอกสำนักงานใหญ่พรรคชิง เจียงอู๋ซวงถูกเซียวเฉินโยนออกไปด้านนอก เธอกลิ้งกระเด็นกระดอนจนเศษดินเศษฝุ่นเปรอะเต็มหน้า “ไอ้บ้า! แกมันบ้าไปแล้ว!” เธอตะคอกเสียงแข็งด้วยความโกรธและอับอาย เซียวเฉินปลิดชีวิตทูตยมโลกแล้ว มิหนำซ้ำยังบังคับให้เธอขึ้นเฮลิคอปเตอร์ แล้วพามาที่สำนักงานใหญ่พรรคชิงจริง ๆ พรรคชิงครองอำนาจอิทธิพลครอบคลุมทุกพื้นที่ ภายในสำนักงานใหญ่ย่อมซ่อนเสือซ่อนมังกรไว้เสมือนเป็นถ้ำเสือรังมังกร… เซียวเฉินกล้าดีอย่างไร? อย่าบอกนะว่าเขาคิดจะลุยเดี่ยวเข้าไปในที่แบบนี้! “ใคร?” คนของพรรคชิงเดินเข้ามา ถือปืนไว้ในมือพร้อมยิงทุกเมื่อ เจียงอู๋ซวงกลัวจนต้องยกมือทั้งสองข้างขึ้น “เขาคือเซียวเฉิน ฆ่าทูตยมโลกกับนายท่านสามสกุลสวีของพรรคไปแล้ว รีบเข้าไปจับตัวมันไว้ซะสิ!” เธอตะโกนด้วยความขลาดกลัว “อะไรนะ? ฆ่าทูตยมโลกไปแล้ว?” คนของพรรคชิงตะลึงงัน ทูตยมโลกคือนักฆ่ายอดฝีมือของพรรคชิง แข็งแกร่งเก่งกาจเป็นที่สุด จะถูกฆ่าง่าย ๆ ได้อย่างไร? “กล้าหาญนัก ตายซะเถอะ!” ปากปืนสิบกว่ากระบอกเล็งเป้ามาที่เซียวเฉิน เ

  • ย้อนเวลาไปทวงบัลลังก์แค้นให้คุณหนูตัวจริง   บทที่ 33  

    เซียวเฉินผุดยิ้มบาง ๆ “ใช่ ฝีมือของฉันเอง” เสียงของเขาราบเรียบ ทูตยมโลกหรี่ตา เจียงอู๋ซวงสีหน้านิ่งชะงักงันไป สองคนต่างคิดไม่ถึงว่าเซียวเฉินจะยอมรับได้เต็มปากเต็มคำขนาดนั้น “แกทำได้อย่างไร?” ทูตยมโลกเค้นถาม “แค่ฆ่าคน จมเรือทิ้ง แค่นี้เรื่องง่าย ๆ” เซียวเฉินเอ่ยยิ้ม ๆ รอยยิ้มนั้นดูเรียบง่าย เหมือนกับสิ่งที่พูดออกมานั้นเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไปเรื่องหนึ่ง ทูตยมโลกหรี่ตาอีกครั้ง “บนเรือลำนั้นมีคนมากกว่าสองร้อยชีวิต แกฆ่าทิ้งทั้งหมดเลยเหรอ? แกคิดว่าแกเป็นใครกัน?” เจียงอู๋ซวงพ่นลมออกทางจมูกทันใด ในสายตาของคนสกุลเจียง เซียวเฉินก็เป็นแค่สวะไร้ค่าคนหนึ่ง ไม่มีความสามารถแม้แต่น้อย เขาจะทำเรื่องน่าตกใจแบบนี้ได้อย่างไร? สีหน้าของเจียงอู๋ซวงฉายประกายดูแคลนออกมาอย่างถึงที่สุด “แกฆ่าคนได้ยังไง? แล้วจมเรือทิ้งได้ยังไง?” ทูตยมโลกเค้นถามต่อด้วยสีหน้ามืดครึ้ม “แกก็ลองไปถามพวกเขาเองสิ” เซียวเฉินเอ่ยอย่างเฉยเมย ทูตยมโลกสีหน้าแข็งกร้าวขึ้นมาทันใด “เซียวเฉิน แกมันอวดดีนัก! กล้าดียังไงถึงมาหยามทูตยมโลกแบบนี้!” เจียงอู๋ซวงตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง “หุบปาก!” ทูตยมโลกตะคอกด้วยเสียงเย็

  • ย้อนเวลาไปทวงบัลลังก์แค้นให้คุณหนูตัวจริง   บทที่ 32  

    “เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง? เพราะอะไรกัน?” ในห้องแต่งตัว เจียงอู๋ซวงบันดาลโทสะอาละวาดโวยวายอีกครั้ง ไปออดิชันครั้งนี้ กลับทำให้เธอต้องอับอายขายหน้าอย่างถึงที่สุด ไม่ใช่แค่ถูกทีมผู้กำกับชักสีหน้าพูดจาดูถูกดูแคลน แต่ยังต้องพ่ายแพ้ให้ยัยเด็กหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการครั้งแรก แม้แต่บทสมทบยังไม่เคยแสดงเลยด้วยซ้ำ ด้วยอีโก้ของเธอที่สูงลิ่วปานนั้น มีหรือจะทำใจยอมรับความจริงได้? ยิ่งคิดถึงคำพูดที่เซียวเฉินมันทิ้งไว้ก่อนจะออกไป ไฟโทสะในใจเธอก็ยิ่งเดือดดาล “อีกไม่เกินสามเดือน นอกจากเธอจะตกกระป๋อง แม้แต่บทตัวประกอบก็ไม่มีใครอยากให้เธอแสดงแล้ว” “ฉันน่ะเป็นเทพีรางวัลดอกไม้ทองคำเชียวนะ แม้แต่บทตัวประกอบก็ไม่มีให้เล่นเหรอ? เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!” เจียงอู๋ซวงใบหน้ากระตุกพูดบอกกับตัวเอง “คุณคือเจียงอู๋ซวงสินะ?” พลันมีเสียงดังขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว เจียงอู๋ซวงตกใจสะดุ้งโหยง ถึงได้ค้นพบว่าภายในห้องแต่งตัวตอนนี้มีอีกคนหนึ่งเพิ่มเข้ามาตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ “คุณเป็นใคร?” เจียงอู๋ซวงซักถามด้วยความระแวงอย่างถึงที่สุด “ทูตยมโลกแห่งพรรคชิง” ผู้มาใหม่กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ สีหน้าของเจียงอู๋ซ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status