ทางด้านซ่างเหอหยวนกู้อิ๋นและเหยียนฉู่มองไปทางเสื้อผ้าที่เผยเซียวส่งมาให้ ทั้งสองนั่งมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจว่าเผยเซียวหมายความอะไรพวกเขาแต่งงานกันปลอมๆแต่ว่าเขาในตอนนี้......คนทีเป็นหัวหน้าพนักงานทั้งหมดเดินขึ้นมาด้านหน้า “นายหญิงคะ เสื้อผ้าพวกนี้เป็นของที่คุณเผยส่งมาคุณค่ะ ทั้งหมดนี้สั่งตัดจากไซส์ของคุณไม่ต้องลำบากให้คุณลองใส่ทีละตัวแล้วล่ะค่ะ”ทั้งกู้อิ๋นและเหยียนฉู่ต่างก็ยิ้มค้างโดยเฉพาะเหยียนฉู่ ตอนนี้เธอหันไปมองเท้าที่บาดเจ็บของกู้อิ๋นโดยทันทีเพราะอย่างนี้เผยเซียวก็เลยไม่ให้เธอทดลองสวมใส่ทีละตัวสินะ? ท่านประธานเผยที่แสนจะเย็นชาใส่ใจคนอื่นขนาดนี้เลยหรอ!?สมองของกู้อิ๋นในตอนนี้เต็มไปด้วยสีขาวโพลน และยังตั้งสติกับเหตุการณ์ตรงหน้าไม่ได้พนักงานเห็นทั้งสองคนไม่พูดอะไร จึงลองเรียกดูอีกที “นายหญิง นายหญิงคะ”“อื้อ? ว่ายังไง!”ตอนนี้สติของกู้อิ๋นกลับมาแล้วแต่ในสมองของเธอตอนนี้ยังตีกันวุ่นวายอยู่พนักงานคนนั้นหยิบเอาสมุดและปากกามาถือเอาไว้ ก่อนจะพูดอย่างสุภาพ “ตอนนี้ช่วยบอกสีและสไตล์ที่คุณชอบได้ไหมคะ แบบนี้จะได้สะดวกแก่การบริการคุณในอนาคตค่ะ!”“ไม่...ไม่ต้องค่ะ พวกคุณ
“นั่นเธอจะทำอะไรน่ะ?”“ฉู่ฉู่ฉันคิดว่าพวกเราปิดบังต่อไปไม่ได้แล้วล่ะ!” กู้อิ๋นพูดเธอจะยอมจำนนและรับสารภาพงั้นหรอ?‘ยอมจำนน’ ถ้าเป็นคนอื่นคงจะพอได้ แต่ถ้าเป็นเผยเซียว......คงจะยากสุดๆ!“ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็นยังไง เธออย่าเพิ่งรีบร้อนไปสารภาพสิ” เหยียนฉู่ว่า“แต่ฉันคิดว่ายังไงเขาก็ต้องดูคลิปวิดีโอนั่น ฉันคิดว่าถ้าเราไปรับผิดเองมันคงจะดีกว่า”ตอนนี้กู้อิ๋นไม่ใช้คำว่า ‘สารภาพ’ แล้วแต่เปลี่ยนมาเป็นคำว่า ‘รับผิด’ แทน!เหยียนฉู่โมโหจนจิ้มไปที่หัวของเธอสองสามที “เธอคิดว่าประธานเผยเป็นคนใจดีหรือไง?”กู้อิ๋นส่ายหน้า “ก็ไม่ใช่!”เหยียนฉู่จึงถามอีก “เธอเคยเห็นเขาเป็นคนให้อภัยใครหรือไง?”กู้อิ๋นจึงพยักหน้าอีก “ไม่เคย!”ให้อภัยคำคำนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นในชีวิตของเผยเซียวอย่างแน่นอนยอมรับด้วยตัวเองหรือให้เขาเป็นคนสืบหาจนเจอทั้งสองอย่างนี้ผลลัพธ์ก็เหมือนว่าจะไม่ต่างกันกู้อิ๋นเริ่มคิดไม่ตก น้ำตาเริ่มคลอเบ้าออกมาเธอคิดว่าตอนนี้......เธอกำลังจะเป็นบ้าจริงๆ แล้ว“ในเมื่อเธอรู้ก็ยังจะไปรับผิดอีกงั้นหรอ?” เหยียนฉู่ถาม“แต่ตอนนี้มันปิดบังไม่ได้แล้วนี่นา! หัวหน้าลั่วสงสัยในตัวฉันไ
ตอนนี้ทางด้านเผยเซียวรู้เรื่องนี้หรือไม่ทางด้านของกู้อิ๋นเองก็ไม่รู้ แต่ว่าเธอกับเหยียนฉู่จะร่วมมือกันอีกครั้ง!ไม่ว่าอย่างไรเรื่องในเมืองหนานคืนนั้นจะไม่ยอมพูดถึงโดยเด็ดขาด!และต่อให้เผยเซียวจะเกิดความสงสัยอย่างไร ถ้าเกิดว่าไม่มีหลักฐานที่มัดตัวไว้จนดิ้นไม่หลุด ไม่ว่าจะสอบสวนกู้อิ๋นอย่างไร เธอก็จะไม่ยอมรับโดยเด็ดขาดกู้อิ๋นอุตส่าห์สร้างตัวที่เมืองก่างได้แล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็จะไม่ให้เผยเซียวไล่เธอออกไปจากที่นี่ได้อย่างแน่นอนเหยียนฉู่กลับไปแล้วกู้อิ๋นก็รอเผยเซียวกลับมาเหมือนกับนักโทษที่รอการประหารแต่พอถึงเวลากลางวัน เผยเซียวไม่ได้กลับมมา แต่ก็มีคนจากคฤหาสน์ตระกูลเผยแวะเข้ามาคนที่มาเป็นแม่เลี้ยงของเผยเซียว......เหลียงม่านเข่อ!เธอทาเล็บสีแดงอย่างกับเลือดพอรวมเข้ากับผิวพรรณขาวผ่องของมือของเธอแล้วไม่ว่าจะแสดงท่าทีแบบไหนออกมาก็ดูสง่างามไปหมดเธอหยิบเอาเช็คออกมาวางที่โต๊ะตรงหน้าเธอ ก่อนจะผลักมาทางกู้อิ๋น สายตาเย็นชาเหมือนกับนกฟีนิกซ์มองมาทางเธอ “คุณกู้เป็นผู้หญิงที่ฉลาด คงจะเข้าใจความหมายของฉันใช่ไหมคะ?”กู้อิ๋นหน้ามืดลงไปมากถึงแม้ว่าโดยปกติแล้วเธอจะดูเป็นคนขี้กลัวเมื่ออยู่ต่อ
แต่ว่าพอเป็นเรื่องของผลประโยชน์แล้วมันมากพอที่จะทำให้เธอสลัดความกลัวทิ้งไปอย่างเช่นตอนที่อยู่ที่โรงเรียน เธอกลัวคุณครูทุกคนเพราะกลัวว่าตัวเองจะทำผิดจนโดนไล่ออกและไม่สามารถทำตามคำสั่งเสียของคุณย่าได้พอเมื่อมาทำงานที่เผยซื่อกรุ๊ปเธอก็กลัวเผยเซียวเพราะว่าซื้อบ้านที่เมืองก่างเอาไว้ เธอยังติดหนี้อีกก้อนโตอีกเธอกลัวจะตกงาน กลัวว่าจะทำให้เผยเซียวโกรธเข้าแล้วทำงานอยู่ที่เมืองก่างไม่ได้อีกต่อไป ถ้ามีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องเธอถึงได้กลัวและระวังเนื้อระวังตัวแต่เหลียงม่านเข่อถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นคุณหญิงของเผยซื่อ แต่กู้อิ๋นและเธอก็ไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรร่วมกัน!เหลียงม่านเข่อโกรธเอามากๆ รีบลุกขึ้นก่อนจะมองไปทางกู้อิ๋นด้วยความเกลียดชัง “แบบนี้ก็แปลว่าฉันพูดดีๆ และเธอจะไม่ยอมฟัง ต้องให้ฉันบังคับสินะ?”“คุณไม่ต้องมาขู่ฉันหรอกนะคะ”กู้อิ๋นหรี่ตาก่อนจะมองไปทางอีกฝ่ายอย่างไม่สนใจเหลียงม่านเข่อได้ยินหล่อนเรียกตัวเองว่าคุณเหลียงสายตาของเธอก็ยิ่งเย็นชามากขึ้นตอนนี้เธอรู้สึกอยากจะฉีกยัยเด็กปากมากไม่รู้ที่ต่ำที่สูงคนนี้ให้แหลกคามือเธอพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ดี ดีจริงๆ! ถ้าแกเก่งมา
หลังจากตัดสายโทรศัพท์ไปแล้ว เผยเซียวก็กลับมาสนใจภาพจากกล้องวงจรปิดในคอมพิวเตอร์ เหมือนกับว่าเขาไม่ได้สนใจเรื่องที่กู้อิ๋นด่าเหลียงม่านเข่อเลยสักนิดเพราะว่าเขาไม่เชื่อเลยด้วยซ้ำ......ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตอนนี้เป็นคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิด และภาพที่ปรากฏขึ้นตอนนี้มันเงียบมาก เงียบซะจนคนดูรู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆตั้งแต่กู้อิ๋นพาเขากลับมาที่ห้องก็ไม่มีใครเข้ามาอีกเลย และยังไม่มีคน......ออกมาอีกด้วย!ยิ่งพอดูจนถึงช่วงสุดท้าย แววตาของเผยเซียวก็หม่นแสงลงเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดโทรไปที่เบอร์หนึ่ง ฝั่งนั้นเองก็รับสายอย่างรวดเร็ว “คุณชาย!”“ข่าวเรื่องการแต่งงานนั่นช่วยปล่อยออกไปทีนะ……” สายตาของเผยเซียวสะท้อนความเย็นเยียบออกมา!ความฝันของใครบางคนก็ควรจะถูกหยุดลงได้แล้ว!ในตอนนี้ที่ซ่างเหอหยวนกู้อิ๋นจู่ๆก็กลับรู้สึกว่าเย็นขึ้นจนต้องกระชับผ้าห่มในมือให้แน่นขึ้นป้าจางที่เป็นคนทำความสะอาดห้องเข้ามาแล้ว เมื่อสักครู่ก็เพิ่งจะทำความสะอาดทั้งด้านบนและด้านล่างเสร็จไป ตอนนี้กำลังทำปลาตุ๋นน้ำแดงอยู่ในครัวกลิ่นหอมที่ลอยออกมาทำให้กระตุ้นความรู้สึกอยากอาหารของเธอมากขึ้นตอนที่ป้าจางเดินออก
เผยเซียวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นๆ “เอาคนกลับไป ถ้าครั้งหน้ายังหาที่ดีๆ ไม่ได้แกก็ลาออกไปด้วยกันซะเลย!”หลังพูดจบเผยเซียวก็กดตัดสายก่อนจะวางโทรศัพท์อย่างแรงบนโต๊ะกินข้าว น่ากลัวจนเนื้อในปากของกู้อิ๋นเกือบจะกระเด็นออกมาอาหารที่พี่สาวเธอทำอร่อยมาโดยตลอดแต่วันนี้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเคี้ยวไม้อยู่เลยแฮะ!เงินเดือนสูงๆ มักจะตามมาด้วยปัญหาจริงๆตอนนี้เธอไม่กล้ามองไปทางเผยเซียวด้วยซ้ำ กลัวว่าสายตาของตัวเธอจะทำให้ความโมโหของเผยเซียวย้ายมาที่ตัวเธอแทนไม่นานป้าจางก็ได้รับสายจากหัวหน้าพ่อบ้าน เธอย้ายตัวไปคุยโทรศัพท์อีกที่อย่างกลัวๆ “ค่ะคุณหลัว”ไม่รู้ว่าคนในสายพูดว่าอะไรบ้างป้าจางถึงเอาแต่ขอโทษหลังจากนั้นก็ไม่กล้ามองมาทางเผยเซียวอีกเลย ก่อนจะรีบพาตัวเองออกไปจากที่นี่!ไม่นานทั้งห้องก็เหลืออยู่แค่เผยเซียวและกู้อิ๋นสองคน ตอนนี้กู้อิ๋นรู้สึกอยากจะซ่อนตัวเองไว้ในชามข้าวสุดๆเผยเซียวเห็นท่าทางกล้าๆ กลัวๆ ของเธอก็กล่าวเสียงเข้มออกมา “ไม่ต้องกินแล้ว!”ขี้กลัวขนาดนี้เหลียงม่านเข่อก็กล้าที่จะไปฟ้องพ่อของเขา ไม่คิดว่าน่าอายหรือยังไงกู้อิ๋นที่ถูกเผยเซียวตวาดก็ไม่กล้ากินต่อแล้วเธอมองไปทาง
หัวใจของกู้อิ๋นอิ่มเอมเปรมใจมากเมื่อเธอได้พูดถึงบ้านของเธอเองเธอรู้สึกว่าความลำบากที่ตัวเองยอมรับมานานไม่ได้เสียเปล่า เธอพยักหน้าตอบ “อือ เพิ่งซื้อเมื่อปีที่แล้วน่ะ กุญแจฉันก็เพิ่งรับมาเมื่อเดือนก่อนนี่เองค่ะ”ตอนนี้รอแค่หาเงินมาตกแต่งเท่านั้น!เผยเซียวมองดูใบหน้านุ่มนิ่มของเธอขณะที่พูดถึงบ้านของตัวเองพร้อมกับดวงตาที่ราวกับมีแสงประกายวิบวับของเธอดูออกว่าความรักที่เธอมีให้ต่อบ้านของตัวเองมีมากแค่ไหนถึงว่าทำไมคนที่ไม่สู้คนแบบเธอ ถึงได้กล้าเถียงกับเหลียงม่านเข่อนิ้วเรียวยาวของเผยเซียวเคาะลงบนโต๊ะเป็นจังหวะ ทำให้หัวใจของกู้อิ๋นเริ่มระทึกขึ้นอีกครั้งน้ำเสียงของเขาช่างล้ำลึกอยู่เสมอมาแต่ไหนแต่ไร และมันทำให้ผู้คนรู้สึกคลางแคลงใจโดยเฉพาะวิดีโอที่ประทับตราตรึงอยู่ในใจนั่น!ตอนนี้เขาจะถามหรือว่าไม่ถามกันนะ? หรือว่าจะปล่อยไปเลยตามเลย ให้เรื่องนี้ผ่านไปไวๆ ?กู้อิ๋นรู้สึกบีบคั้นหัวใจมาก!เผยเซียวเห็นท่าทางกระสับกระส่ายของเธอ “คุณกลัวอะไรอยู่เหรอ?” เขาถามพร้อมรอยยิ้ม“หา? ฉันเปล่านะคะ” กู้อิ๋นเงยหน้าขึ้นทันทีแต่แล้วเมื่อเธอเห็นสายตาอันแหลมคมของเผยเซียว เธอก็รีบก้มหน้าลงโดยไม่กล้
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของเขาตรงๆ กู้อิ๋นก็พบว่า หัวใจของเธอเองไม่ได้ผ่อนคลายเลยโดยเฉพาะสายตาที่กำลังทิ่มแทงของเขา ทำให้เธอสนุกไม่ออกเลยสักนิด“ฉัน…ฉัน” ฉันอะไรกัน?กู้อิ๋นในตอนนี้ ลืมคำสั่งของเหยียนฉู่ไปจนหมดเพราะความตื่นเต้น ให้ตายก็ไม่ยอมรับอะไรกัน!ต่อหน้าสายตาอันลึกซึ้งคู่นี้ของเผยเซียว เธอกลัวจนพูดอะไรไม่ออกเลยสักอย่างเผยเซียว “คุณทำไม? พูดสิ!”น้ำเสียงเขาเย็นชาขึ้นในความอันตรายนั้น ทำให้กู้อิ๋นรู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าถ้าเธอยอมรับละก็ เธอคงจบไม่สวยแน่นอนน่ากลัวเกินไปแล้ว…!กู้อิ๋นกลัวจนสั่นไปทั้งตัว “ฉัน ฉันออกไปแล้วค่ะ”“ตอนไหน?”“สองชั่วโมงครึ่งให้หลังค่ะ”“เวลาแบบละเอียดล่ะ!”กู้อิ๋น: “…”เวลาแบบละเอียด รายละเอียดคือตอนเวลาไหนน่ะเหรอ?จบแล้วระยะนี้เธอและเหยียนฉู่ได้แต่คิดถึงให้ตายก็ไม่ยอมรับแต่ไม่เคยคิดว่าเผยเซียวจะซักถามเธอได้ละเอียดขนาดนี้ กระทั่งถึงขั้นขอเวลาที่แน่ชัดตอนนี้ จะให้เธอตอบยังไงล่ะ?กู้อิ๋นตื่นตระหนกในใจอย่างมาก เธอน้ำตาคลอพร้อมมองดูเผยเซียว และคิดบอกตัวเองในใจว่ายอมรับซะเถอะแต่เมื่ออยู่ต่อหน้าอันตรายของเผยเซียว เธอก็กลัวอีกแล้ว!“