Share

บทที่ 668

Author: โมเนโต้
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
ในพริบตาเดียว เฟนด์และผู้หญิงสวยทั้งสามก็มาถึงร้านอาหารอันเงียบสงบและตกแต่งอย่างมีระดับ

มันเป็นร้านอาหารที่ดี สภาพแวดล้อมเงียบสงบรอบ ๆ เป็นสีพาสเทล แม้ว่ามันจะมีราคาสูง แต่เฟนด์ก็ไม่มีปัญหาเรื่องเงิน ราคาไม่ได้กระทบขนหน้าแข้งเฟนด์เลยแม้แต่น้อย

“เอาล่ะ คุณผู้หญิงทั้งหลาย สั่งอะไรก็ได้เลย! เป็นเกียรติอย่างมากที่ได้สาวสวยทั้งสามมาทานอาหารกลางวันเป็นครั้งแรกด้วยกัน!”

เฟนด์ยื่นเมนูให้และพูดอย่างสุภาพ “ผมเป็นแค่บอดี้การ์ด พวกคุณมาจากตระกูลสูงศักดิ์ อย่างไรก็ตาม การที่พวกคุณยินดีให้ผมเลี้ยงข้าวก็เป็นเกียรติอย่างยิ่งเลย!”

ทันย่าพูดไม่ออกอยู่ชั่วครู่ ไอ้บ้านี่ไม่ใช่คนธรรมดา เขาจะต้องเป็นผู้ชายที่อยู่ในสถานะทางสังคมสูงกว่าเธอแน่ ๆ ถึงอย่างนั้น เฟนด์ก็ยังทำตัวงี่เง่าต่อหน้าเธอ

มันชัดเจนเลยว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่บอดี้การ์ดธรรมดา

“ราคาไม่ถูกเลยนะ กังวลไหมล่ะว่าเงินห้าหมื่นมันจะไม่พอ?” อีวอนน์ตั้งใจแกล้งเฟนด์หลังจากมองเมนู

“ฮิ ๆ! ไม่ต้องห่วงนะ คุณคิดว่างบสำหรับมื้อกลางวันมีแค่ห้าหมื่นเหรอครับ? ผมดีใจนะที่ผู้หญิงสวย ๆ ทั้งสามมาอยู่ด้วยกันตรงนี้ ผมยินดีที่จะจ่ายห้าแสนเพื่อพวกคุณด้วยซ้ำ นับประ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 669

    เมื่อทันย่าพูดจบ อันธพาลคนหนึ่งก็ยื่นมือออกมาพยายามลูบแก้มเธออีกครั้ง“ไปตายซะไป!” ทันย่าสะบัดมือออกอย่างรังเกียจ นี่เป็นเสียงโหวกเหวกที่เฟนด์ได้ยินตอนที่กำลังจะโทรศัพท์ เขาเดินเข้าไปด้านในด้วยสีหน้าเย็นชา “เฮ้! อารมณ์ร้อนนักเหรอ? กล้าดียังไงมาตบฉัน! รู้ไหมว่าการตบฉันนี่มันต้องชดใช้เท่าไหร? ฉันถามดี ๆ แล้วนะว่าจะไปด้วยกันกับพวกเราไหม แต่ในเมื่อเธอมาตบกันอย่างนี้ เธอก็ไม่มีทางเลือกอะไรแล้วนอกจากมากับเรา โอ๊ะ แน่นอนว่าเธอเลือกได้ระหว่างไปเที่ยวกับเราหรือจะจ่ายเงินให้ฉันหนึ่งล้านเหรียญสำหรับค่ารักษาพยาบาล!” ชายคนนั้นเย้ย เพราะทันย่าไปตีมือเขา เขาเลยข่มขู่เธอ “เงินล้านก็แค่ถั่ว มันไม่ได้มีค่าอะไรเลย! แต่สำหรับไอ้โง่อย่างแก ฝันไปเถอะ!” ทันย่าลุกขึ้นจากที่นั่งและขยับไปด้านหน้าเล็กน้อย พยายามผลักอันธพาลออก “นังบ้านี่! ฉันพยายามทำดี ๆ กับเธอแล้วนะ แต่ดูเหมือนจะไม่ซึ้งใจเลยใช่ไหม?” ชายคนนี้ก็ไม่ยอมง่าย ๆ เช่นกัน เขาผลักเธอกลับอย่างแรง "อ๊า!" เห็นได้ชัดเลยว่าเขาฝึกฝนมา ความแข็งแกร่งของร่างกายไม่ใช่เรื่องตลกสักนิด หญิงสาวจากตระกูลคนรวยอย่างทันย่าจะรับมือกับแรงผลักอย่างแรงขนาดนี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 670

    อันธพาลทั้งสี่ที่อยู่ตรงหน้าเฟนด์คิดว่าเฟนด์จะกลัวพวกเขาหลังจากเปิดรอยสัก แต่แล้ว ไม่ใช่แค่เฟนด์ไม่ได้กลัวรอยสักเท่าไหร่ เขายังพูดบางอย่างที่ทำให้อันธพาลทั้งสี่คนมุมปากกระตุก ไอ้เหลือขอนี่ไม่รู้จักรอยสักเหรอ?“ไอ้เด็กเหลือขอ แกไม่กลัวเหรอ? ฮะ! ถนนรอบ ๆ นี้เป็นอาณาเขตของพวกเรา! เราคือแก๊งเขี้ยวหมาป่า!”ชายคนนั้นชี้ที่รอยสักบนหน้าอกของเขาและป่าวประกาศอย่างภูมิใจว่า “ถึงแม้ว่าสมาชิกเราจะมีไม่มาก แต่แต่ละคนก็โหดเหี้ยมราวกับหมาป่า! ทำอะไรเราเท่ากับแกขุดหลุมฝังศพตัวเอง!” ชายอีกคนแสดงความเห็นว่า “ถ้าแกเข้าใจสถานการณ์นี้ แกจะอยากทำให้ตัวเองหายไป! สาวสวยคนนี้ไปกวนใจลูกพี่ฟีลิกซ์ ไม่อย่างนั้นลูกพี่คงไม่ผลักเธอ!”“เข้าใจได้ อืมมม แล้วรู้ไหมว่าฉันคือใคร? รู้ไหมว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร? พวกแกโง่หรือยังไง? กล้าดียังไงมาผลักคุณหนู!” เฟนด์หัวเราะ ตอบออกไปอย่างไม่ใส่ใจ “ฉันแคร์เหรอ? ทั้งหมดที่ฉันรู้เธอก็แค่ผู้หญิงที่น่าสนใจน่ะ ฮ่า ๆ!” ฟีลิกซ์หัวเราะอย่างควบคุมไม่ได้ เห็นได้ชัดเลยว่าเขาไม่รู้จักทันย่าและคนอื่น ๆ อย่างไรซะ จะไปโทษอย่างนั้นก็ไม่ได้ สุดท้ายแล้วพวกนี้ก็เป็นแค่อันธพาลท้องถิ่นที่ไม่ม

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 671

    “นายท่าน เรา... เราขอโทษ เราผิดไปแล้ว เราจะเลิกยุ่งและให้คุณอยู่กับสาวสวยคนนี้ โอเคไหม?” ชายอีกคนคุกเข่าต่อหน้าเฟนด์เมื่อได้รับความเจ็บปวดเฟนด์ขมวดคิ้วอย่างเย็นชา “แกพูดเรื่องอะไร? ฉันคือบอดี้การ์ดของคุณทันย่านะ! แกกล้าดีได้ยังไง!”“ช-ใช่ แน่นอน...! ผู้หญิงน่ารัก ๆ และมีเกียรติเช่นนี้ต้องเป็นคุณทันย่าแน่ ๆ ส่วนคุณก็เป็นบอดี้การ์ดที่ทรงพลัง ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมเธอถึงมีบอดี้การ์ดแค่เพียงคนเดียว... มีคุณคนเดียวเปรียบเหมือนมีกองทัพหลายร้อยคนเลย!” ชายคนนั้นพูดขณะตัวสั่น เขาเช็ดเหงื่อตัวเองออกจากหน้าถ้าสาวสวยคนที่พวกเขาตั้งใจฉวยโอกาสคือคุณทันย่าของตระกูลเดรคจริง ๆ เหล่าสมาชิกของแก๊งเขี้ยวหมาป่าจะเปล่งเสียงอะไรออกมาไม่ได้เลยหากพวกเขาโดนฆ่าตาย ตระกูลเดรคเป็นตระกูลที่โดดเด่นที่สุด แก๊งเล็ก ๆ อย่างพวกเขาไม่มีทางสู้กลับได้เลย“นายท่าน ปล่อยพวกเราไปเถอะ ได้โปรด” ฟีลิกซ์ร้องขอ “พวกเราออกไปได้ไหมครับ?”เฟนด์เหลือบมองพวกเขาอย่างเฉยเมย “ถ้าฉันเป็นแก ฉันก็จะดูสารรูปตัวเอง ถ้าครั้งต่อไปฉันเห็นแกทำแบบนี้อีกแกตายแน่!”“ได้เลยครับพี่ชาย” ฟีลิกซ์พยักหน้าขอบคุณ “เราขอบคุณจริง ๆ ที่ท่านเมตตาเรา!” ฟีลิก

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 672

    เซเลน่า คุณสวยมากเลย! ชุดสูทแบบนี้ดูมีระดับมาก!” ชารอนมองไปที่เซเลน่าและพูดด้วยความอิจฉา “ไม่แปลกเลยที่เฟนด์รักคุณมากขนาดนั้น ฉันก็รักเขา แต่เขากลับเย็นชาไม่ใส่ใจกันเลย!”เซเลน่ายิ้มอย่างอึดอัดใจ “ชารอน เฟนด์ไม่ได้ดีอย่างที่คุณคิดหรอกนะคะ เขาชอบทำหน้าเย็นชา และบางครั้งก็ทำอะไรจริงจังมากเกินไป นอกจากนั้นยังไม่ใช่คนโรแมนติกและค่อนข้างหัวรุนแรง ชอบใช้กำลังแก้ปัญหา คุณชอบเขามากขนาดนั้นเพราะยังไม่รู้จักเขาพอดีน่ะสิ”แน่นอนว่าเซเลน่าพูดออกไปทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้ชารอนยอมแพ้ไปแม้ว่าชารอนจะเป็นคนดีและร่ำรวย แต่เฟนด์ก็คือผู้ชายของเธอ ในฐานะภรรยาแล้ว เซเลน่าจะไม่เห็นแก่ตัวเองได้อย่างไร?นอกจากนั้น เธอรู้สึกว่าควรจะทำให้ชารอนยอมแพ้ไปถ้าเฟนด์ไม่สนใจเธอจริง ๆ“จริงเหรอ?” ชารอนตอบ เธอยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าเช่นเคย “ฉันรู้สึกว่าทุกอย่างที่เขาทำมันยอดเยี่ยมไปหมด เป็นเรื่องปกติที่เขาใช้กำลังในการแก้ปัญหาถ้าโดนรังแกมา ไม่อย่างนั้นเขาจะเป็นคนแบบไหนกัน? นอกจากนั้นเขายังเป็นทหารผ่านศึกที่เคยอยู่ในกองทัพ เป็นเรื่องปกติอีกที่คนแบบนี้จะมีสีหน้าจริงจังตลอดเวลา มันทำให้ดูน่าเชื่อถือ”ชารอนหยุดพูดก่อนจะม

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 673

    “มาลิ้มรสชาติไวน์กันเถอะ!” ทันยันพูดด้วยรอยยิ้มขณะที่ยกแก้วไวน์ขึ้น “สุดท้ายแล้ว พวกที่เรียกตัวเองว่าแก๊งหมาป่าก็เป็นคนจ่าย ถ้าเราไม่ดื่มไวน์ที่สั่งมาทั้งหมดมันคงจะเสียไปเปล่า ๆ สั่งมาสองสามขวดแล้วด้วย!”“เอาล่ะ” อีวอนน์พูดขึ้นขณะที่เธอยกแก้วของตัวเองขึ้น “มาเลย!” อีวอนน์ยิ้มทั้งห้าคนเริ่มดื่มแอลกอฮอลล์แม้ว่าจะยังขมขื่นเรื่องเฟนด์ แต่ชารอนก็พูดว่า “เฟนด์ ไม่เป็นไรหรอกที่คุณจะไม่ชอบฉัน แต่ต้องบอกเลยนะว่า ถ้ามันมีวันที่คุณเสียใจกับคำพูดของตัวเอง มาหาฉันได้เลย ฉันยินดีที่จะเป็นภรรยาคนที่สองและอยู่เคียงข้างคุณในทุก ๆ วัน จะไม่สร้างปัญหา และจะเข้ากับเซเลน่าให้ได้ด้วย!”เฟนด์กระแอมในลำคอกับความกล้าหาญนี้ “อะแฮ่ม อะแฮ่ม! ชารอน คุณยังเด็กนะ ยังมีชีวิตให้ใช้อีกเยอะ คุณจะได้เจอคนที่ชอบจริง ๆ ในอนาคต ผมมั่นใจ” เขาพูดก่อนจะจิบไวน์“ยังเด็กอยู่? ยังเด็กเนี่ยนะ?! ฉันไม่เด็กแล้ว ฉันกำลังอยู่ในวัยที่แต่งงานได้แล้วเมื่อหลายเดือนก่อน!” ชารอนเม้มปากนวลนุ่ม “คุณอายุมากกว่าฉันแค่หกหรือเจ็ดปีเองนะ ฮึ่ม!”จู่ ๆ ก็... “ฟีลิกซ์ พวกนายทำอะไรกันอยู่ คุกเข่าเหรอ?” ชายเจ็ดถึงแปดคนเดินเข้าไปหาพวกเขาขณะที่ทา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 674

    “โอ๊ย!” ไวท์ตี้ร้องด้วยความเจ็บปวด หน้าผากของเขาปรากฏเส้นเลือดขึ้นมา“กระทืบมัน!” ไวท์ตี้สั่งเสียงดังสนั่นขณะกัดฟัน“ลูกพี่แองกิส นี่มัน...” ลูกน้องของเขาตกใจมากเมื่อดูจากการโจมตีของเฟนด์แล้ว เขาไม่ใช่คนธรรมดาแน่ ๆ แม้ว่าพวกเขาจะมีคนมากกว่า แต่ก็อาจจะต่อกรด้วยไม่ได้“ออกไป อย่ามากวนอารมณ์ฉัน” เฟนด์บ่นเมื่อเห็นว่ามีคนเข้ามามากขึ้น ลูกค้าที่เข้ามาใหม่ก็พากันมองพวกเขาฟีลิกซ์มองไปที่เฟนด์ทันทีที่ได้ยิน “น-นายท่าน แล้วพวกเราล่ะ? ไปได้หรือยัง?”“ไสหัวไป! พวกแกทุกคนออกไปซะ! เห็นพวกแกแล้วปวดหัว!” เฟนด์มองอย่างเหลืออดและโบกมือ“ตกลง! งั้นผมไปแล้ว!” ฟีลิกซ์มีความสุขมากเมื่อได้ยินเช่นนี้ เขาพยักหน้าทันทีและยืนขึ้นพร้อมกับลูกน้อง“พวกแกโง่เหรอ? ทำไมยังยืนอยู่ได้? ตามเรามาซี่! นี่คือคุณทันย่าจากตระกูลเดรค นั่นก็คุณชารอนจากตระกูลจอร์จ!” ฟีลิกซ์มองคนที่ยังยืนอยู่จากนั้นเขาก็มองไปที่แองกิสที่กำลังเจ็บปวดอยู่ “แองกิส แกมันโง่ เห็นฉันคุกเข่าอยู่ยังจะกล้าสร้างเรื่องให้คุณทันย่ากับคนอื่น ๆ อีก กำลังทำภารกิจฆ่าตัวตายอยู่เหรอ?”“ท-ทำไมพูดแบบนั้น?!” แองกิสอยากจะสลบด้วยความโกรธ “ทำไม... ทำไมไม่บอกใ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 675

    เซเลน่าพยักหน้าอย่างพอใจ ขณะนั้น เธอรู้สึกว่าสิ่งที่ชารอนพูดเกี่ยวกับเฟนด์ว่ารู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้ ๆ เป็นเรื่องจริงอย่างยิ่ง…เซเลน่ากลับมาทำงานที่ออฟฟิศหลังจากทานอาหารเสร็จ ในขณะเดียวกัน เฟนด์และคนอื่น ๆ ก็พากันเดินเล่นอยู่รอบ ๆ บริเวณนั้นก่อนกลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลเดรคเฟนด์กำลังพักอยู่ที่ห้องพักที่ตะกูลเดรคจัดไว้ให้ เขาพร้อมจะขับรถกลับบ้านตอนห้าโมงหกโมงเย็นในขณะเดียวกัน ที่คฤหาสน์ตระกูลคลาร์ก…ฟลินน์มีความสุขมากเมื่อได้เจอเคน เขาถามทันทีว่า “เป็นยังไงบ้าง? เฟนด์ตายแล้วเหรอ? สภาพร่างกายเขาล่ะ? นายบอกว่าเขาดื่มยาพิษไปแล้วไม่ใช่เหรอ? แถมฉันยังจำได้อีกว่าพวกนายเคยไปที่เมืองมังกรฟ้าเพื่อหานักสู้ที่แข็งแกร่งของตระกูลเซนอสด้วยนี่?”ฟลินน์เชื่อว่าร่างกายของเฟนด์อ่อนแอลงทุกวันนับตั้งแต่เข้าดื่มยาพิษเข้าไปด้วยเหตุนี้ เฟนด์จะต้องตายอย่างแน่นอนหากลูกพี่ลูกน้องเคนของเขาและนายน้อยฮิวโก้ดึงตัวนักต่อสู้ที่แข็งแกร่งจากตระกูลเซนอสมาล้างแค้นให้กับควิลลูกพี่ลูกน้องของเขาและนายน้อยฮิวโก้ไปมาเมื่อวานนี้และเพิ่งกลับมา ฟลินน์จึงอยากรู้ชะตากรรมของเฟนด์เคนมองฟลินน์ด้วยสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยอ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 676

    เคนพยักหน้าอย่างพอใจกับความคิดของฟลินน์ “ฮ่า ๆ! ช่างเป็นความคิดที่ดีอะไรเช่นนี้! ตอนนี้ เราก็ตบตีกระทืบมันได้เท่าที่เราต้องการ ตราบใดที่เราไม่ฆ่าเขา เราจะรอจนกว่าจะถึงวันเกิดเซเลน่าที่มันจะเสียหน้า แล้วค่อยปล่อยให้มันตายอย่างทรมาน”“เป็นความคิดของฉันอย่างแน่นอน!” ฟลินน์ตอบ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความแค้นและดูถูกเหยียดหยาม “ฉันได้ยินมาว่าภรรยาเขาค่อนข้างดีเลยล่ะ” ฟลินน์กัดฟัน “หึ! เมื่อใดที่เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ฉันจะให้ภรรยามันคุกเข่าให้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และขอให้เธอมาขอร้องให้ฉันเล่นของเล่นกับเธอ...! ฉันจะสนุกกับการทรมานเธอทุก ๆ ทาง!”เมื่อได้ยินเช่นนี้ เคนก็ตะคอกขึ้นมาทันทีว่า “นี่ เกรงว่าจะไม่ได้นะ ฉันคอยดูเซเลน่ามาตลอด ห้ามเตะต้องเธอเด็ดขาด!”แน่นอนว่าฟลินน์ไม่โอเค “เคน ฉันแค่อยากแก้แค้น ทำตามคำขอฉันไม่ได้เหรอ? ฉัน... ฉันเสียขาไปนะ...! ฉันจะไม่ได้ระบายถ้าไม่ทำอย่างนั้น!”เคนหน้านิ่ง “ฟลินน์ ฉันอยากจะบอกนายนะว่าคนที่ทำให้นายเสียขาไปคือเฟนด์ อยากแก้แค้น ฉันก็จะช่วย พอเฟนด์ตาย การแก้แค้นก็จะสำเร็จ! เซเลน่ามาเกี่ยวอะไรด้วย? ถ้าอยากแก้แค้นก็ไปลงที่เฟนด์ไม่ใช่เซเลน่า เพราะเธออาจจะเป็น

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status