“ใช่ และดูเหมือนว่าจะมีปรมาจารย์คนหนึ่งแอบฝึกฝนทักษะยุทธให้ลูกชายของตัวเอง และเขายังบอกลูกชายถึงหนทางการไปยังสถานที่นั้น เขาไม่คิดว่าลูกชายจะเป็นผู้นำของผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะยังไง การที่เราได้รับข่าวนี้และจะพบกับลูกบอลหินทั้งเจ็ดลูก เราก็พอมีหวัง!” แนชพยักหน้าและไม่อาจซ่อนความตื่นเต้นในดวงตาของเขาได้“เพื่อความปลอดภัย ทุกท่านโปรดนำลูกบอลหินของตัวเองกลับไปด้วย!” เฟนด์พูดขึ้นทันทีหลังจากที่เขาตระหนักได้ถึงความสำคัญของลูกบอลหินเหล่านั้น และตระกูลที่เป็นเจ้าของลูกบอลหินก็นำพวกเขากลับคืนไปเฟนด์มองไปที่บันทึกหน้าที่เหลือในตำราอีกครั้งและพูดว่า "ในตำราโบราณเล่มนี้ไม่ได้บันทึกอะไรไว้มากนัก มีการวาดแผนที่ในการเดินทางไปยังป่าไอเมฆาและเส้นทางคร่าว ๆ ของที่นั่น ด้วยการนำทางเหล่านี้ จะช่วยให้ปฏิบัติตามได้ไม่ยาก”“ฮ่า ฮ่า! มันยอดไปเลย! เราจะไปกันเมื่อไหร่? ไปกันเลยสิ! เพราะผมได้นำสมาชิกทุกคนในตระกูลที่อยู่ในระดับกึ่งเทพมาจนหมดแล้ว ทำไมเราไม่ไปเสียตั้งแต่ตอนที่เรามีกองกำลังใหญ่โตอยู่ด้วยล่ะ?” หัวหน้าตระกูลของหนึ่งในตระกูลลึกลับชั้นสองที่ทำข้อตกลงกับเฟนด์และคนอื่น ๆ ต้องการที่จะออกเดินทางอย่างรีบร้
เมื่อแฮร์รี่พูดเช่นนี้ ออเรียลและกริฟฟินก็ไม่แสดงความคิดเห็นใด ๆ และเห็นด้วยอย่างไร้ข้อกังขาในไม่ช้าเหล่าปรมาจารย์ในห้องโถงก็เดินออกไปข้างนอกทีละคนผู้ที่รออยู่ข้างนอกซึ่งรอมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ทุกคนต่างก็อยากรู้ว่าข้างในนั้นเกิดอะไรขึ้น พวกเขาต้องการรู้ว่ามีใครสามารถทะลวงเข้าสู่ระดับเทพสูงสุดหรือพบเบาะแสเกี่ยวกับระดับเทพสูงสุดบ้างหรือไม่“เจ้าวิหาร เป็นอย่างไรบ้าง? ได้เรื่องอะไรหรือไม่? พวกคุณทะลวงข้ามขั้นไปแล้วหรือยัง?”“เจ้าวิหาร คุณได้ข้อมูลเกี่ยวกับระดับเทพสูงสุดหรือไม่? มีเบาะแสอะไรที่เป็นประโยชน์หรือเปล่า? ผมเห็นว่าพวกคุณทุกคนมีรอยยิ้มบนใบหน้า เช่นนั้นคงต้องมีข่าวดีแน่ ๆ ใช่ไหม?”เมื่อเห็นสมาชิกของพวกเขาออกมา สมาชิกของวิหารแห่งทวยเทพและราชาที่ไม่ได้ติดตามพวกเขาเข้าไปข้างในรีบเดินไปถามด้วยความคาดหวัง“หัวหน้าตระกูลเป็นยังไงบ้าง?” สมาชิกของตระกูลคาเบลโลเองก็ก้าวไปถามด้วยความตื่นเต้นอเล็กซานเดอร์มองไปที่ฝูงชนและพูดว่า “เราไม่ได้ข้อมูลอะไรเลย ไว้ค่อยกลับไปคุยกัน”"อะไรนะ? คุณไม่ได้ข้อมูลอะไรเลยแม้แต่น้อยเหรอ?!” สมาชิกของตระกูลคาเบลโลรู้สึกผิดหวังเมื่อได้ยินเรื่องนี้ หลังจาก
ชายคนหนึ่งยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “เจ้าตำหนัก” เขาหัวเราะเบา ๆ “ผมมีข่าวดี! ข่าวดี!""ข่าวดี?" โจเอลขมวดคิ้วและกวนทันที “บอกฉันมาเลยสิ!”“ฮ่าฮ่า! พวกเขาไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย ผมเห็นพวกเขาบางคนดูเศร้าหมองมาก” ชายคนนั้นพูด ความสุขปรากฏชัดในน้ำเสียง “ผมคิดว่าลูกบอลหินทั้งเจ็ดก็แค่ของไร้ประโยชน์ และเป็นไปได้ว่ามันคงไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับการทะลวงเข้าสู่ระดับเทพสูงสุดเลย ทุกคนล้วนแล้วแต่เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์!”“นี่หมายความว่าไม่มีใครทะลวงไปถึงระดับเทพสูงสุดใช่หรือไม่? ถือเป็นข่าวดีจริง ๆ!” โจเอลรู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อยทว่าเขารู้สึกผิดหวังอยู่ลึก ๆ เมื่อนึกไปได้ว่าดูเหมือนจะไม่มีโอกาสที่จะก้าวไปสู่ระดับเทพสูงสุดได้ นั่นก็หมายความว่าพวกเขาจะไม่มีโอกาสอีกต่อไปแล้วไม่ใช่หรือ?‘ระดับเทพสูงสุดไม่มีอยู่จริงงั้นหรือ?’ผู้อาวุโสคนหนึ่งยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “กลับกันเถอะ เจ้าตำหนัก ดูคนพวกนั้นสิ พวกเขาเริ่มจากไปแล้ว ผมคิดว่าเราควรกลับไปที่ชนเผ่าโบราณของเราดีกว่าจะมาเสียเวลาอยู่ที่นี่ แน่นอนว่ายังดีที่ไม่มีใครทะลวงไปถึงระดับเทพสูงสุดได้ เพราะหากสมาชิกในตระกูลวู๊ดคนใดคนหนึ่งทะลวงเข้าสู่ระดับ
ในขณะเดียวกัน ผู้อาวุโสโมสลีย์จากวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ก็พบความผิดปกติเช่นกัน ในไม่ช้าหลังจากหารือกันเป็นการภายในแล้ว พวกเขาก็แอบติดตามตระกูลลึกลับชั้นสามกลุ่มเล็ก ๆ ไปเช่นกันหลังจากบินไปครึ่งวัน สมาชิกของตระกูลลึกลับชั้นสามก็ถูกโจเอลและพรรคพวกขวางทางไว้“เจ้าตำหนักโจเอล อะไรกัน...ช่างบังเอิญจริง ๆ! บังเอิญเจอคุณในสถานที่แบบนี้ใช่ไหม?” ผู้คนจากตระกูลลึกลับชั้นสามต่างชะงักงันเมื่อสังเกตเห็นสมาชิกจำนวนมากจากตำหนักนภามาอยู่ต่อหน้าพวกเขา พวกเขาประหม่ามาก คนเหล่านี้มาที่นี่ด้วยเจตนาชั่วร้าย ไม่เช่นนั้นคงไม่ได้มาพบพวกเขาในพื้นที่รกร้างเช่นนี้?“ฮ่า ฮ่า… มันเป็นเรื่องบังเอิญจริง ๆ!” โจเอลพูดพลางหัวเราะในขณะที่เขาพินิจมองอีกฝ่าย “นายท่านเวสต์ ผมจะไม่อ้อมค้อมและเข้าประเด็นเลยแล้วกัน พวกคุณเพิ่งออกมาจากตระกูลวู๊ดและเราติดตามคุณมาตลอดทาง เพราะผมรู้ว่ามีพวกคุณไม่กี่คนที่ได้เข้าไป บอกผมเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในมา”หัวหน้าตระกูลเวสต์มีสีหน้ามืดลงเล็กน้อยทันทีหลังจากที่ได้ยินเรื่องนี้ เขาเงียบไปสองสามวินาทีก่อนจะตอบอย่างยิ้มแย้มว่า “เจ้าตำหนักโจเอล เราไปหาตระกูลวู๊ดก็จริง พวกเขาอนุญาตให้พวกเราเข
เมื่อตกใจกับพฤติกรรมของโจเอล นายท่านเวสต์ก็ยังยึดมั่นในความมีเมตตาที่เฟนด์มีต่อเขาและคนอื่น ๆอย่างไรก็ตาม โจเอลไม่ใช่คนที่จะถูกหลอกง่าย ๆ เพียงแค่เขาออกแรงบีบที่มือ เขาก็หักคอผู้อาวุโสได้แล้วพลั่ก!“ผู้อาวุโสลำดับที่ห้า!” หลายคนโกรธเมื่อเห็นสถานการณ์นี้และบางคนกำหมัดแน่น แต่พวกเขารู้ว่าพวกเขามีจำนวนคนไม่มากเมื่อเทียบกับคนของโจเอล พวกเขาไม่มีนักฝึกยุทธที่อยู่ในขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงด้วยซ้ำคน ๆ เดียวที่มีพลังยุทธสูงสุดในหมู่พวกเขาคือหัวหน้าตระกูลในขั้นสูงของระดับเทพแท้จริง พวกเขาจะต่อสู้กับผู้คนจากตำหนักนภาได้อย่างไร?“ฮึ่ม! ไม่อยากบอกเหรอ?” โจเอลเพิกเฉยต่อสายตาอันโกรธเกรี้ยวที่ส่งมาทางเขา ขณะที่เขาคว้าคอของผู้อาวุโสหญิงและยกเธอขึ้นจากพื้น “บอกเรามาให้หมดว่าพวกคุณรู้อะไรมาบ้าง หากคุณไม่พูด เธอจะต้องตายเป็นรายต่อไป!”"คุณยาย!" หญิงสาวกระวนกระวาย ดวงตาของเธอแดงก่ำ“เรา...เราไม่ได้โกหก!” นายท่านเวสต์ตวาด“ฮึ่ม!” โจเอลยิ้มเยาะในขณะที่เขากำมือแน่นและฆ่าผู้อาวุโสหญิง “คุณนี่ใจเย็นดีจริง ๆ เลยนะ นายท่านเวสต์ เขาจะเป็นรายต่อไป!”โจเอลสะบัดร่างของหญิงชราทิ้ง แล้วคว้าชายหนุ่มขึ้น
“ไปป่าไอเมฆาในอีกหนึ่งอาทิตย์เหรอ?” โจเอลทั้งพอใจและตื่นเต้นกับข่าวที่เขาได้รับ ดูเหมือนว่าการไปเยือนป่าไอเมฆาจะเป็นความหวังในการก้าวไปสู่ระดับเทพสูงสุด และดูเหมือนว่านี่จะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเขาและคนอื่น ๆนายท่านเวสต์มองไปที่โจเอลและอ้อนวอน “เจ้าตำหนักโจเอล ผมบอกคุณทุกอย่างที่ผมรู้แล้ว ปล่อยลูกชายผม แล้วปล่อยเราไปได้ไหม?”โจเอลคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และปล่อยชายหนุ่มออกจากมือก่อนจะพูดว่า “พวกคุณลืมสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ไปได้เลย เฟนด์และคนอื่น ๆ จะไม่รู้ว่าคุณเป็นคนเป็นคนบอกเรื่องพวกนี้แก่เรา พวกคุณจะไม่เสียหายอะไร ทั้งสิ้น!”โจเอลหยุด ก่อนที่จะพูดต่อ “แน่นอน ถ้าคุณบอกพวกเขา ผมก็จะไม่เดือดร้อนหรอก ตรงกันข้ามตระกูลวู๊ดหรือชนเผ่าโบราณอื่น ๆ จะมองว่าคุณเป็นพวกทรยศที่ปากโป้ง จะไม่มีใครให้อภัยคุณและตระกูลเวสต์ของคุณ!”ลิลลี่ซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ พวกเขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และพูดกับโจเอลว่า “ที่รัก ฉันคิดว่าเราควรพาคนของพวกเขาไปด้วยหลาย ๆ คนหน่อยเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาทรยศเรา จะดีกว่าหากเราจับพวกเขาไปเป็นตัวประกัน”“คุณบอกว่าจะ...ปล่อยเราไปหลังจากที่เราบอกข้อมูลแก่พวกคุณ!” นายท่านเวสต์โกรธม
ผู้อาวุโสถอนหายใจและคร่ำครวญถึงชะตากรรมของพวกเขา“เราจะจำการกระทำที่น่ารังเกียจเหล่านี้ของพวกเขาไว้ เมื่อเรามีโอกาสทะลวงไปสู่ระดับเทพสูงสุดหรือกลายเป็นปรมาจารย์เมื่อไหร่ เราจะล้างแค้นให้คนของเรา!” ลูกชายของนายท่านเวสต์คำรามลอดไรฟันนายท่านเวสต์พยักหน้า แต่จากนั้นเขาก็พึมพำ “ใช่ แต่ตอนนี้เราทำอะไรไม่ได้นอกจากตามน้ำไป”“พ่อ เราควรพาพรรคพวกของเราไปที่ป่าไอเมฆากี่คนดี?” ลูกชายของนายท่านเวสต์เอ่ยถาม “ยิ่งเข้าไปลึกก็จะยิ่งออกจากป่าได้ยากขึ้น การเดินทางทั้งขาไปและขากลับนั้นล้วนยากลำบาก และเราก็ไม่รู้ว่าปรมาจารย์ในอดีตเหล่านั้นท้ายที่สุดไปอยู่ที่ใดกัน การไปที่นั่นกับพวกมันจะไม่อันตรายเหรอ? เราไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง!”“ลูกพูดถูก ระดับเทพระดับสูงสุดนั้นล่อตาล่อใจเหลือเกิน และเราควรพยายามให้ดีที่สุดและส่งคนไปที่นั่นให้มากขึ้น ถึงกระนั้นผมก็คิดว่าเราควยทิ้งให้คนในระดับเทพแท้จริงอยู่ที่นี่จะดีที่สุด เพราะมันอันตรายเกินไป เราควรแนะนำให้ผู้ที่อยู่ในขั้นต้นและขั้นกลางระดับกึ่งเทพอยู่ที่นี่ด้วย แต่ถ้าพวกเขายืนกรานก็ตามแต่พวกเขาจะต้องการ แน่นอนว่าไม่มีใครยืนยันได้ว่าพวกเขาจะได้กลับบ้านหลักจากออกเดินท
“มันพัฒนาขึ้นนิดหน่อย แต่ผมยังไม่ประสบความสำเร็จในการฝึกปรุงเม็ดโอสถ” เฟนด์ตอบ ริมฝีปากเม้มแน่น “ผมยังไม่ได้วางแผนที่จะบ่มเพาะโอสถในช่วงสองสามวันนี้ เพื่อที่ผมจะได้ใช้เวลากับไคลี่และคนอื่น ๆ แต่ผมจะกลับมาฝึกต่อทุกครั้งที่ทำได้ และจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อที่จะได้เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับสามหรือสี่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"ไม่กี่วันถัดมา ทั้งเฟนด์และเซเลน่าก็พา ไคลี่ โจแอน และคนอื่น ๆ ไปเดินเล่นในเมืองใกล้ ๆ ในเวลาว่างสำหรับเบ็น เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอยู่ต่อไปเพราะเขายังทะลวงเข้าสู่ระดับกึ่งเทพไม่ได้ ในทางกลับกัน ฟิโอน่าและคนอื่น ๆ ก็ต้องการให้เขาอยู่เป็นเพื่อนด้วย สำหรับเอเลน เฟนด์ขอให้เธอกลับมาดูแลตระกูลวู๊ดเพราะเบ็นยังอยู่พวกเขายังได้จัดเตรียมคนที่มีทักษะยุทธสูงกว่าให้ไปที่ป่าไอเมฆากับพวกเขาด้วยเพื่อความปลอดภัย เฟนด์ได้ทิ้งสมาชิกที่อยู่ขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงไว้เพื่อปกป้องตระกูลวู๊ดราวสองสามคนหลายวันต่อมา เมื่อเฟนด์และคนอื่น ๆ สังเกตเห็นว่าใกล้จะถึงเวลาแล้ว ในที่สุด พวกเขาก็เริ่มออกเดินทางมีคนเกือบ 20,000 คนไปกับพวกเขา และคนเหล่านั้นอย่างน้อยก็อยู่ขั้