Share

บทที่ 1232

Author: โมเนโต้
ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงเดินทางต่อไปบนหลังม้า โดยที่ไดอาเนียลล่ากำลังคิดอยากทานอาหารเย็นกับเฟนด์ด้วยกันสองคน

นอกจากนี้แล้ว เธอยังค้นพบว่า การได้อยู่ข้าง ๆ เฟนด์ ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย ถึงเขาจะแก่กว่าเธอหกถึงเจ็ดปี แต่ความเป็นผู้ใหญ่ของเขา ทำให้เธอหลงใหลเขามากกว่าเดิมหลังจากใช้เวลาอยู่กับเขาหลายต่อหลายวัน

เขาต่างจากนายน้อยคนอื่น ๆ ที่เอาแต่ให้กุหลาบ ช็อคโกแลต จี้หยก และหญ้าวิญญาณให้กับเธอ พวกเขาน่าเบื่อมากสำหรับเธอ

ในที่สุด ทั้งคู่ก็มาถึงชานเมืองเล็ก ๆ ในขณะที่ท้องฟ้าก็ค่อย ๆ มืดลง

เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ดูค่อนข้างใหญ่ มีแสงสว่างเจิดจ้าในตอนนี้ ดูเหมือนเทศกาลอะไรบางอย่าง เพราะมีแผงขายของในตลากกลางคืนตั้งเรียงรายอยู่ตามท้องถนน

“ไม่เลวเลย… เมืองเล็ก ๆ นี่ดูเหมือนกับเมืองโบราณที่ล่วงลับไปแล้ว ช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจจริง ๆ !” ไดอาเนียลล่ายิ้ม พลางเดินบนถนนบลูสโตนอันกว้างขวาง พร้อมกับจูงม้ามังกรโลหิตตัวสูงใหญ่

“อยากกินอะไรก็บอกนะ นายหญิงน้อยที่สามแห่งคาเบลโล ไม่ต้องเกรงใจ อยากกินอะไรเลือกเลย!”

"ข้างหน้ามีโรงแรมที่ดูดีเหมือนกันนะเนี่ย!" เฟนด์พูดกับไดอาเนียลล่า พลางดื่มด่ำกับวิวกลางคืน

“อืม
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1233

    เช่นเดียวกับผู้ฝึกยุทธทั่ว ๆ ไป คนอย่างพวกเขาไม่ได้มีหินวิญญาณอะไรมากมาย ถ้ามีหินวิญญาณหลายก้อน ก็นับเป็นเรื่องที่ดี ถึงพวกเขาจะใช้หินวิญญาณเพื่อฝึกฝนและพัฒนาตัวเองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ใช้แลกกับอาหารเนี่ยนะ?“ไร้สาระจริง! เบิกตาหมา ๆ ของนายดูซิ! หน้าฉันเหมือนคนไม่มีเงินจะจ่ายค่าอาหารรึไง?” เห็นได้ชัดเลยว่าไม่เคยมีใครปฎิบัติกับไดอาเนียลล่าแบบนี้มาก่อน เพราะเธอแทบจะระเบิดออกมาเมื่อเจอสถานการณ์แบบนี้ เธอไม่เคยคิดเลยว่าจะโดนดูถูกขนาดนี้เมื่อเธอมาที่เมืองเล็ก ๆ เพื่อทานอาหาร“สาวน้อย เธอพล่ามอะไรน่ะ? เธอรู้ไหมว่าใครเป็นหัวหน้าร้านอาหารของเรา? กล้าดียังไงมาพูดคำว่า 'เบิกตาหมา ๆ ' กับเรา! ฮ่าฮ่า…! จะบอกอะไรให้นะ ถึงเราจะเป็นแค่ลูกจ้าง แต่เราก็ไม่ใช่คนที่เธอจะมายั่วโมโหได้!” ชายร่างกำยำโกรธจัดทันที ก่อนจะมองไดอาเนียลล่าอย่างดูถูกดูแคลน “เธอก็แค่คสวยคนนึง ก็แค่นั้น ไม่ได้มีเงินอะไร นอกจากความสวย เธอรู้เรื่องอะไรด้วยรึไง?”"ถูก!" ชายร่างกำยำอีกคนก็พูดแทรกขึ้นมาทันที “ฉันก็ว่าเธอก็แค่ผู้หญิงที่มีดีแค่สวยเหมือนกันนั่นแหละ ฮ่าฮ่า…! ถ้าไม่มีปัญญาจ่าย ก็ให้พ่อหนุ่มนี่เลี้ยงอะไรง่าย ๆ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1234

    เมื่อเห็นว่าใครมาเยือน ชายล่ำทั้งสองคนก็ลุกขึ้น พลางคร่ำครวญและพึมพำ “นายน้อย สาวน้อยคนนี้ทำมาก…มากเกินไปแล้ว…! เธออัดสมาชิกตระกูลเมอร์ฟี่ของเราครับ!”นายน้อยเมอร์ฟี่มองไปที่ทั้งด้วยความหงุดหงิด “พวกแกนี่มันไร้ประโยชน์จริง ๆ สู้กับผู้หญิงไม่ได้ด้วยซ้ำ!”“นายน้อย ผู้หญิงคนนี้มีพลังยุทธระดับกึ่งเทพ และเป็นเรื่องปกติที่ปรมาจารย์ขั้นสูงอย่างเราจสู้ไม่ไหว…!” หนึ่งในนั้นอธิบาย พลางจับท้องแล้วเงิยหน้าขึ้นด้วยความเจ็บปวด “เธอดูไม่เหมือนคนแถวนี้เลย เหมือนจะเป็นพวกผู้ฝึกยุทธทั่ว ๆ ไปมากกว่า!”“กึ่งเทพงั้นเหรอ?” นายน้อยเมอร์ฟี่หน้าหม่นลงเมื่อได้ยินเช่นนั้น คนที่มีความสามารถในการต่อสู้ขนาดนี้ ถือว่าเป็นปรมาจารย์ได้เลยพ่อของเขาอยู่ขั้นสุดท้ายของระดับกึ่งเทพ และเขาก็เป็นผู้ทรงอำนาจที่น่าเกรงขามในเมืองนี้ ตระกูลของพวกเขายังมีปรมาจารย์อีกหลายคน แต่พวกเขาไม่สามารถสู้ปรมาจารย์ระดับกึ่งเทพบางคนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อยู่ขั้นสุดท้ายหรือขั้นสูงสุดเพราะงั้นเขาเลยไม่ทำท่าที่ฉุนเฉียว ถึงแม้ว่าจะมีพรรคพวกอยู่ด้วยก็ตามเฟนด์ ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ อย่างไม่แยแสก่อนจะพูดว่า “สมควรแล้วนี่ นี่คือนายหญิงน้อยที

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1235

    พวกเขาโล่งใจที่เธอให้อภัย ชายร่างใหญ่ทั้งสองก็คุกเข่าอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มตบหน้าตัวเอง“ขอบคุณที่ให้อภัยคนที่น่าสมเพชพวกนี้นะครับ คุณคาเบลโล!” นายน้อยเมอร์ฟี่เองก็โล่งใจเช่นกัน ทว่า ลูกน้องทั้งสองของเขาอยู่ในระดับปรมาจารย์ พวกเขาเป็นปรมาจารย์ระดับห้าหรือหกเลย และพลังยุทธของพวกเขา ก็ถือว่าเป็นตัวเอกของตระกูลเมอร์ฟี่เลย เพราะงั้น พวกเขาเลยถูกส่งให้ไปเฝ้าร้านเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น และมันก็ทำให้เขารู้สึกสิ้นหวังเขาครุ่นคิด ก่อนจะพูดขึ้นมาอีกครั้งว่า “ทุกคน ฟังฉัน ทุกอย่างที่นายหญิงน้อยที่สามแห่งตระกูลคาเบลโลสั่งในคืนนี้ ฟรี เข้าใจไหม?”"ครับท่าน!" พนักงานเสิร์ฟคนอื่น ๆ ในร้านอาหารตอบขึ้นมาทันที“ค่อยดีหน่อย!” ไดอาเนียลล่าตบไหล่นายน้อยเมอร์ฟี่ เมื่อเธอเห็นว่าเขาเข้าใจสถานการณ์ขนาดไหน “อย่าลืมบอกให้ลูกน้องของคุณเลิกดูถูกคนล่ะ ไม่ใช่แค่ฉันคนเดียวที่พวกเขายั่วโมโหไม่ได้ เพื่อนคนนี้ของฉันเป็นนายน้อยของตระกูลวู๊ด และพวกเขาไม่ควรไปยั่วโมโหเขาเช่นกัน เขากวาดล้างเมืองของคุณได้ด้วยมือเดียว เชื่อไหมล่ะ?”“เชื่อ… ผมเชื่อ…” นายน้อยเมอร์ฟี่เหงื่อแตกโดยไม่รู้ตัว ถึงอย่างนั้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1236

    “ครับนายน้อย เอซรา ลาเดนเบิร์กไม่ใช่คนดีอะไรเลย ส่วนนายหญิงน้อยที่สามแห่งตระกูลคาเบลโลก็สวยมากจริง ๆ อีกอย่างเอซร่าเป็นคนมักมากในกาม ผมกลัวว่าจะมีเรื่องอะไรแย่ ๆ เกิดขึ้นครับ!” ลูกน้องของเขาดูกังวลมากเมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้ เขาพูดขึ้นมาทันทีว่า “นายน้อย ไม่ได้การแล้วครับ เราต้องไปเตือนนายน้อยลาเดนเบิร์ก ไม่งั้นพวกเขาได้ทะเลาะกันแน่!”ทว่า นายน้อยเมอร์ฟี่หยุดเขาไว้ "เตือนเหรอ? จะเตือนมันไปทำไม? ตระกูลลาเดนเบิร์กข่มเหงตระกูลเมอร์ฟี่ของเรามาตลอด และนายน้อยลาเดนเบิร์กก็เป็นคนยโสโอหัง นี่เป็นโอกาสดีเลย ที่เราจะได้กำจัดตระกูลลาเดนเบิร์ก สองคนนั้นเกือบตายก็เพราะทำร้ายผู้หญิงคนนั้น พวกนายคิดว่าพวกมันจะรอดเหรอ ถ้าเอาไปเปรียบนายหญิงลำดับสามแห่งตระกูลคาเบลโลเขาน่ะ?”ดวงตาของลูกน้องเป็นประกายเมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น“ใช่ ทำไมผมถึงคิดไม่ออกนะ ผมคิดแค่ว่าโต๊ะกับเก้าอี้ของเราจะพังขนาดไหนถ้าพวกเขาทะเลาะกัน ปกติแล้วนายท่านลาเดนเบิร์กจะล้างแค้นให้ลูกชายของเขาอย่างแน่นอนโดยไม่มีเหตุผล ถ้านายน้อยลาเดนเบิร์กถูกฆ่า ถ้าอย่างนั้น…”นายน้อยเมอร์ฟี่พยักหน้า “ข้างบนมีแขกตั้งเยอะ แล้วใครจะรู้ล่ะ ว่าข่าวจะไปถึงตระ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1237

    “ฮ่าฮ่า… เล่นมุกเหรอ? นายหวังจะให้ฉันไปนั่งเป็นเพื่อนไอ้อ้วนนั้นด้วยหินวิญญาณไร้ประโยชน์ก้อนเดียวน่ะเหรอ?” ไดอาเนียลล่าหัวเราะเฟนด์ก็อดไม่ได้ที่จะยืนขึ้นด้วยความหงุดหงิด “นายไม่ได้ยินเหรอ ที่เธอบอกให้ออกไปน่ะ?”นี่เป็นครั้งแรกที่เขาตั้งใจพาไดอาเนียลล่าออกมาทานอาหารด้วยกัน และมันก็เริ่มขึ้นด้วยเหตุการณ์ที่ไม่มีความสุขเอาซะเลย เฟนด์เองก็ไม่ชอบใจเช่นกัน เพราะจู่ ๆ พวกเขาก็ถูกรบกวน เพราะงั้นเขาเลยไม่อยากทำดีกับอีกฝ่ายเลยไดอาเนียลล่าแอบดีใจ และซึ้งใจมาก เมื่อเธอเห็นว่าเฟนด์หัวเสียนิดหน่อยเธอคิด ในเมื่อเฟนด์ยืนขึ้นอย่างมั่นใจ แถมยังโมโหด้วย มันหมายความว่าเฟนด์มีใจให้เธอรึเปล่า ไม่งั้นเขาจะโกรธทำไมล่ะ ถ้าเขาไม่ได้ชอบเธอ?"แกเป็นใคร? กล้าดียังไงมาพูดกับฉันแบบนี้” ชายคนนี้เป็นพ่อบ้านคนนึงในตระกูลของนายน้อยลาเดนเบิร์ก และเขาถือเป็นคนที่มีตำแหน่งสูงส่งในตระกูลลาเดนเบิร์กทว่า เขาชอบทำตัวเยอะ ในความคิดของเขา สถานการณ์ส่วนใหญ่จะแก้ไขได้ด้วยหินวิญญาณ ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ถ้าปัญหาแก้ได้ด้วยการใช้หินวิญญาณ“ฉันเป็นใครน่ะเหรอ?” เฟนด์แค่นเสียงอย่างเย็นชาก่อนจะซัดเข้าไปที่หน้าของฝ่ายตรงข้ามเต็

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1238

    "อ๊า!" ผู้หญิงสองคนในอ้อมแขนของนายน้อยลาเดนเบิร์กตกใจสุดขีดจนหน้าซีด พวกเธอรีบหนีไปซ่อนที่มุมหนึ่ง“ไอ้...ไอ้น้อง ฉันเป็นนายน้อยของตระกูลลาเดนเบิร์ก นายจะมีปัญหากับตระกูลลาเดนเบิร์กแน่ ถ้านายกล้าฆ่าฉัน!” นายน้อยลาเดนเบิร์กยืนขึ้น เขาไปที่เฟนด์ อย่างไรก็ตาม ทั้งเสียงและนิ้วของเขาสั่นจนเห็นได้ชัดเลยว่าเขากลัวขนาดไหนฟุ่บ!เฟนด์ไม่ได้สนใจเขามากนัก เฟนด์โจมตีเขาทันที หลังจากนั้นเขาก็หันกลับมาแล้วเดินไปหาไดอาเนียลล่า พลางเก็บดาบของเขาปัง!นายน้อยลาเดนเบิร์กล้มลงไปกับพื้นด้วยความไม่เชื่อ พลางใช้มือทั้งสองปิดคอของเขา“นี่… นี่…” ลูกน้องหลายคนของตระกูลเมอร์ฟี่ตกใจมากเมื่อพวกเขาวิ่งเข้าไปดู พวกเขารีบวิ่งลงมาข้างล่างทันทีหนึ่งในนั้นไปหานายน้อยเมอร์ฟี่ “นายน้อยครับ นี่มันดีจริง ๆ ! ผู้ชายคนนั้นฆ่านายน้อยลาเดนเบิร์กจริง ๆ ด้วยครับ! ฮ่าฮ่า… ขนาดสวรรค์ยังเป็นใจให้เราเลย!”“จริงเหรอ? แล้วทำไมพวกนายถึงยังไม่ไปส่งข่าวให้ตระกูลลาเดนเบิร์กอีก? ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ เราแย่แน่ ถ้านายหญิงลำดับสามของคาเบลโลรู้ว่าเราเป็นคนส่งข่าว!” นายน้อยเมอร์ฟี่เตือนลูกน้องของเด้วยรอยยิ้มหลังจากเขาครุ่นคิดเกี่ยวกับเ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1239

    ในขณะนั้นเอง นายน้อยแม็คก็เดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เขาวางไวน์สองขวดไว้บนโต๊ะ“นายหญิงน้อยลำดับสามแห่งตระกูลคาเบลโล นายน้อยแห่งตระกูลวู๊ด ผมขอเสนอ ไวน์วานรในตำนาน ไวน์ที่มีความหวานหาตัวจับยาก และกลิ่นหอมที่เข้มและรสชาติที่เข้มข้น มันเป็นประโยชน์สำหรับผู้ฝึกยุทธที่กำลังจะกลายเป็นปรมาจารย์ฉีครับ!”นายน้อยแม็คแนะนำไวน์ให้กับเฟนด์ พลางยิ้ม “พ่อของผมเก็บมันไว้ที่นี่ ผมไม่กล้าดื่มมันเท่าไหร่ ผมจิบไม่กี่ครังเองเท่านั้นตอนที่พ่ออยู่ เหนือกว่าเรื่องอื่นใด ไวน์ชนิดนี้ หาซื้อได้ยากมากครับ!”เฟนด์เห็นที่ประจบประแจงของเขา เฟนด์ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ก่อนจะพูว่า “ถ้าไวน์นี้หายากจริง ๆ และดีอย่างที่คุณพูด ทำไมคุณถึงเอามันออกมาให้เราล่ะ?”ไดอาเนียลล่าทำหน้านิ่วคิ้วขมวด พลางจ้องเขม้งไปที่นายน้อยแม็ค “อย่าบอกนะ ว่านายใส่อะไรลงไปในไวน์น่ะ เราไม่ได้โง่อย่างที่นายคิดนะ!”นายน้อยแม็คแทบจะทรุดเมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น “ต่อให้คุณให้เงินผมล้านเหรียญ ผมก็ไม่กล้าทำอะไรแบบนั้นหรอกครับ” เขาตอบอย่างว่องไว “ผมจะทำแบบนั้นได้ยังไงครับ? ผมไม่มีสิทธิ์แตะต้องพวกคุณทั้งคู่ด้วย พวกคุณเป็นทั้งทายาทและทายาทหญิงที่ทรงอำนาจ ท

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1240

    ไดอาเนียลล่าอดเป็นกังวลไม่ได้ เมื่อเธอเห็นเฟนด์กระดกไวน์เข้าไป เธอขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดว่า “เฟนด์ ฉันรู้นะว่านี่เป็นไวน์ที่หายาก แต่คุณอย่าดื่มแบบนั้นสิ เดี๋ยวก็เมาหรอก!”เฟนด์ยิ้มอย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่เมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น “เฮ้ คุณไม่ต้องห่วงผมหรอก ผมมีความต้านทานต่อฤทธิ์แอลกอฮอลล์ได้ดีเลยล่ะ ไม่มีคนธรรมดาคนไหนมาหลอกให้ผมเมาได้ แล้วคุณรู้รึเปล่า ว่าผู้ฝึกยุทธน่ะ จะทนฤทธิ์แอลกอฮอลล์ได้ดีกว่าคนทั่วไปด้วยนะ? ผู้ฝึกยุทธมีร่างกายที่แข็งแกร่งกว่ามาก เพราะงั้นคนธรรมดาถึงสู้กับเราไม่ได้ไงล่ะ”“ก็จริง!”ไดอาเนียลล่ายิ้มเขิน ๆ กลับไปทั้งคู่ดื่มไปได้ครู่นึง นายท่านตระกูลลาเดนเบิร์ก ก็ได้พานักสู้มากมายจากตระกูลลาเดนเบิร์กมาด้วย“บัดซบ ใครฆ่าลูกชายของฉันวะ?”นายท่านลาเดนเบิร์กวิ่งไปที่ตรงนั้น ก่อนจะมองไปรอบ ๆ เขาโกรธจัดเขาสังเกตได้อย่างรวดเร็วว่าแขกทั้งหมดในร้านต่างก็พากันจับจ้องไปที่เฟนด์“แกเป็นคนฆ่าลูกชายฉันใช่ไหม ไอ้เวร? รนหาที่ตายนักรึไง?”โทมัส ลาเดนเบิร์ก พลิกฝ่ามือของเขา แก่อนจะหยิบดาบขึ้นมาแล้วชี้ไปที่เฟนด์เฟนด์ยืนขึ้น ก่อนจะพลิกฝ่ามือเช่นกัน เขามองไปที่อีกฝ่ายอย่างหมดความอดทน “

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status