“ไม่ใช่!” ซ่งเชี่ยนส่ายหัว เมื่อเธออยู่กับเพื่อนสนิทที่สุดในออฟฟิศ จึงรู้สึกไม่ดีที่จะโกหก เลยบอกความจริงให้ฟังหยางตันถามด้วยความสงสัยเล็กน้อย “แล้วทำไมเธอถึงพูดแบบนั้นล่ะ?” “ฉันแค่อยากดูว่าพวกนั้นจะทำหน้ายังไง ที่ไหนได้ เป็นพวกกลับกลอก เหมือนกิ้งก่าเปลี่ยนสีทันที!” ก็แค่อยากทดสอบดูเท่านั้น แต่ผลที่ได้เกิดคาดมาก คนพวกนี้เปลี่ยนสีเร็วยิ่งกว่ากิ้งก่าเสียอีก“เอ่อ...” หยางตันเพิ่งจะพูดออกมาไม่กี่คำ อู๋เสี่ยวลี่ก็เดินเข้ามาในพื้นที่ทำงานของซ่งเชี่ยน พร้อมกับพูดด้วยท่าทีเอาใจ “ซ่งเชี่ยน คนพวกนี้มันก็แค่พวกเอาแต่ใจ อย่าไปสนใจพวกมันเลย!”หยางตันถามอย่างประหลาดใจ “เธอไม่ใช่คนที่ชอบทำตัวเป็นลูกหมาของจางเมิ่งเสวี่ย คอยเล่นงานซ่งเชี่ยนหรอกเหรอ? แล้วทำไมจู่ๆ ถึงมาช่วยพูดแทนล่ะ ไม่กลัวจางเมิ่งเสวี่ยมาหาเรื่องเหรอ?”“ฉันไม่กลัวหรอก ถ้าเธอกล้าหาเรื่อง ฉันก็จะเปิดโปงเรื่องที่เธอกับโจวหยุนหลงเล่นชู้กันในออฟฟิศนี่แหละ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้ทำให้ฉันรู้สึกงงๆ ไปบ้าง มีบางอย่างที่ฉันไม่คาดคิด...”“อะไรล่ะที่คาดไม่ถึง?” หยางตันถามด้วยความสนใจอู๋เสี่ยวลี่ตอบด้วยท่าทางซุบซิบ “ในเมื่อโจวหยุนหลงเ
"ใช่ครับ ผมเห็นว่าจางเมิ่งเสวี่ยทำเกินไปมาก เธอทำร้ายพี่สะใภ้จนต้องเข้าโรงพยาบาล ผมกลัวว่าเธอจะกลับมาหาเรื่องอีกเลยส่งคนไปสั่งสอนซะหน่อย!" เกาหมิงยอมรับอย่างซื่อสัตย์"แล้วทำไมแกไม่บอกฉันสักคำ?"ผมคิดว่าคุณเมตตาเธอมากเกินไป กลัวว่าจะไม่กล้าลงมือ เลยตัดสินใจเอง นี่ก็เพื่อความปลอดภัยของพี่สะใภ้ทั้งนั้น" เกาหมิงเอาซ่งเชี่ยนมาอ้างเพื่อไม่ให้ตัวเองถูกด่า"แกคิดบ้างไหมว่า ถ้าจางเมิ่งเสวี่ยโทรแจ้งตำรวจ อาจทำให้พี่สะใภ้ของนายมีปัญหาได้?" ไม่ได้สนใจจางเมิ่งเสวี่ยแม้แต่น้อย เขาแค่ห่วงซ่งเชี่ยน หากเรื่องถึงตำรวจก็คงสาวมาถึงเกาหมิง แน่นอนว่าคงไม่พ้นตัวเขาเอง ภรรยาอาจเดือดร้อนได้"ไม่หรอกครับ อย่างแรก จางเมิ่งเสวี่ยกลัวโดนทำร้ายอีกจึงไม่กล้าแจ้งตำรวจ อย่างที่สอง แม้ว่าเธอจะโทรแจ้ง แต่ถ้าตำรวจไม่มีหลักฐาน พวกเขาก็ไม่กล้าทำอะไรพี่สะใภ้แน่นอน..." เกาหมิงค่อนข้างมั่นใจจึงกล้าลงมือ"ลานจอดรถที่อาคารสำนักงานหลานเถียนมีกล้องวงจรปิดทุกที่ ถ้าตำรวจตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วเจอว่าแกส่งคนไปทำร้ายหล่อน จะทำอย่างไร?" ยังคงไม่วางใจอยู่ดี เรื่องที่เกี่ยวกับซ่งเชี่ยนต้องรอบคอบมากที่สุด"ไม่ต้องห่วงครับ เราซื้อ
เรื่องราวมาถึงจุดนี้ จางเมิ่งเสวี่ยทำเพียงพยักหน้าเงียบๆ ท้ายที่สุดเงินหนึ่งล้านหยวนไม่ใช่จำนวนน้อยๆ นั่นเท่ากับเงินเดือนของเธอถึงสิบปี โจวหยุนหลงก็ไม่ลังเลเช่นกัน เขาโอนเงินผ่านมือถือหนึ่งล้าน จากจำนวนหกล้านที่หลิงหยางซื้อบริษัท เข้าไปในบัญชีของจางเมิ่งเสวี่ยยังไงก็ตามเงินนี้เป็นเงินที่หลิงหยางให้เพิ่มมา ใช้เงินนี้เพื่อเลี้ยงเด็กสักคนก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ต่างคนต่างได้ผลประโยชน์กันถ้วนหน้าเมื่อจางเมิ่งเสวี่ยได้รับการแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชี ก็รู้สึกดีใจแต่ซ่อนอารมณ์กดข่มไว้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่จึงยังคงแสร้งทำหน้าเรียบเฉยและไล่เขาออกไป“คุณไปเถอะ ฉันอยากอยู่คนเดียวสักพัก”โจวหยุนหลงนึกขึ้นได้ว่าจางเมิ่งเสวี่ยมีแผลบนหน้าผาก จึงถามอย่างห่วงใย “ที่รัก ต้องการให้ผมพาคุณไปโรงพยาบาลเพื่อทำแผลไหม?”“ไม่ต้อง คุณไปเถอะ ฉันอยากอยู่คนเดียวจริงๆ”โจวหยุนหลงจึงทำเพียงแค่หันหลังและออกจากห้องของเธอ“เป็นผู้ชายที่โง่เง่าจริงๆ อย่าคิดว่าคุณให้เงินก้อนโตแล้วฉันจะซาบซึ้งใจ นี่มันเป็นสิ่งที่ฉันควรได้” จางเมิ่งเสวี่ยพูดขณะที่มองไปยังร่างของโจวหยุนหลงที่หายไปทางประตู“คุณกลัวจะไปขัดแย้งก
แน่นอนว่าจางเมิ่งเสวี่ยไม่ยอมรับ ว่าเป็นคนจ้างลักพาตัวซ่งเชี่ยน แกล้งทำท่าทางน่าสงสาร ตีหน้าเศร้าแล้วถามหลิงหยางอย่างตัดพ้อ“ในใจคุณ ฉันเป็นผู้หญิงเลวร้ายขนาดนั้นเชียวเหรอ?” “เธอเพิ่งทำร้ายซ่งเชี่ยน จนต้องเข้าโรงพยาบาลเมื่อสองวันก่อน และเมื่อวานก็ให้แม่เธอไปยุยงพ่อแม่ของฉัน เพื่อขัดขวางการแต่งงานของเรา อย่างนี้ยังไม่เลวอีกเหรอ” หลิงหยางถามด้วยเสียงเข้ม ถ้าจะมีใครน่าสงสัยในเรื่องนี้ ก็ต้องเป็นจางเมิ่งเสวี่ยเท่านั้นจางเมิ่งเสวี่ย แดงที่ถูกหลิงหยางพูดใส่ แต่ก็รีบตั้งสติแล้วตอบกลับ “แล้วเช้าวันนั้นล่ะ ที่ซ่งเชี่ยนหาคนมาทำร้ายฉัน มันหมายความว่าอะไร? หรือหล่อนไม่ใช่ผู้หญิงที่ชั่วร้ายเหมือนกัน?”“ฉันจะบอกให้ฟังชัดๆ นะ เช้าวันนั้นที่เธอถูกทำร้าย มันไม่เกี่ยวอะไรกับซ่งเชี่ยนแม้แต่นิดเดียว!” หลิงหยางพูดพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรหาภรรยา ไม่อยากโต้เถียงเรื่องไร้สาระนี้อีกแล้ว ในใจเป็นห่วงแต่ซ่งเชี่ยนขอโทษค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้…เสียงจากระบบตอบรับอัตโนมัติที่นุ่มนวลดังขึ้นจากโทรศัพท์สองโจรที่จับตัวซ่งเชี่ยนขึ้นรถไปนั้น กลัวว่าจะมีคนติดตามพวกเขาผ่านสัญญาณโทรศั
“จางฟาน แกมันสัตว์นรก ฉันยอมตายดีกว่าที่จะยอมทำตามข้อเรียกร้องของแก!” ซ่งเชี่ยนด่าทออย่างโกรธจัด“เรื่องนี้ไม่ใช่เธอที่จะตัดสินใจได้ ฟังความคิดเห็นของพ่อแม่เธอก่อนดีกว่า!” จางฟานดูไม่ใส่ใจแล้วสั่งให้ลูกน้องถอดผ้าที่ปิดปากซ่งปันซานและอู๋ซิ่วหลานออกหลังจากที่อู๋ซิ่วหลานหายใจเข้าลึกๆ หลายครั้ง เธอก็พูดกับซ่งเชี่ยน “เชี่ยนเอ๋อร์ ในเมื่อคุณจางชอบลูกขนาดนี้ ลูกก็ยอมเป็นผู้หญิงของเขาเถอะ!”เพื่อเอาตัวรอดหญิงผู้นี้ที่ไม่เคยสำนึกผิด เปิดโหมดขายลูกสาวอีกครั้ง!“ใช่แล้ว” ซ่งปันซานเสริมอย่างไร้ยางอาย “เชี่ยนเอ๋อร์ ลูกจะแต่งกับใครก็ไม่ต่างกันหรอก ลูกยอมไปกับคุณจางเถอะ!”พ่อ แม่ พวกคุณไม่รู้จริงๆ หรือว่าจางฟานเป็นคนยังไง? ทำไมถึงไม่เรียนรู้จากความผิดพลาดที่ผ่านมา และยังจะให้ฉันไปกับเขาอีก?” ซ่งเชี่ยนรู้สึกผิดหวังในตัวพ่อแม่เป็นอย่างมาก “เขาว่าคนที่รู้จักปรับตัวตามสถานการณ์คือคนฉลาด ลูกดูสิ สถานการณ์ของพวกเรามาถึงขั้นนี้แล้ว นอกจากตอบตกลง เรายังมีทางเลือกอื่นอีกเหรอ?” ซ่งปันซานถอนหายใจ เขาเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วเหมือนกัน“ใช่แล้ว” อู๋ซิ่วหลานเริ่มใช้อารมณ์ความผูกพันโน้มน้าวซ่งเชี่ยน “ลูกจะทนดู
ในห้องพักของโรงงานซ่อมรถที่ถูกทิ้งร้างในเขตชานเมืองฝั่งตะวันออก จางฟานกดซ่งเชี่ยนลงบนเตียงอย่างแรง ซ่งเชี่ยนพยายามดิ้นรนสุดชีวิต แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถสู้แรงของจางฟานได้ ร่างกายของเธอเริ่มอ่อนแรงลงเรื่อยๆ มันเตรียมที่จะลงมือข่มขืนเธอ ทันใดนั้นก็มีเสียง “ปัง” ดังขึ้นประตูห้องพักถูกถีบเปิดออกจากด้านนอก หลิงหยางและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สวมชุดเครื่องแบบหนึ่งคนปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตู และยังมีตำรวจจำนวนมากยืนอยู่ด้านหลังพวกเขา จางฟานตกใจแทบสิ้นสติ รีบพลิกตัวออกจากร่างของซ่งเชี่ยนอย่างรวดเร็วตำรวจที่นำทีมใช้ปืนจ่อไปที่ศีรษะของจางฟาน พร้อมตะโกนเสียงดัง “ยกมือขึ้นและนั่งคุกเข่าลงกับพื้น!”จางฟานรีบกระโดดลงจากเตียง ย่อตัวลงกับพื้นและยกมือขึ้นเหนือศีรษะ หลิงหยางพุ่งไปข้างหน้า เตะจางฟานจนล้มลงกับพื้น แล้วตะโกนด่าเสียง“แกมันสัตว์นรก! ครั้งที่แล้วฉันเตือนแกแล้วว่าอย่ามายุ่งกับซ่งเชี่ยนและครอบครัวของเธอ แต่แกไม่ฟัง! วันนี้ฉันจะจัดการแกให้สาสม!”พูดจบเขายกเท้าขึ้น และเหยียบลงไปที่หว่างขาของจางฟาน“โอ๊ย!” จางฟานร้องด้วยเสียงโหยหวน เมื่อถูกหลิงหยางเหยียบที่จุดสำคัญ “คุณหลิง ให้พวกเราเป็นคนจัดการกับอา
ที่เรือนจำตำรวจได้นำตัวจางฟานเข้าห้องสอบสวนทันที เจ้าหน้าที่สองนายได้ล็อคตัวเขาไว้กับเก้าอี้สอบสวน สารวัตรเฉินเริ่มทำงานของตัวเอง หลังจากสอบถามข้อมูลพื้นฐาน เช่น ชื่อ เพศ อาชีพ สถานภาพสมรส และที่อยู่แล้ว ก็เข้าสู่ประเด็นสำคัญทันที“ใครเป็นคนสั่งให้คุณลักพาตัวครอบครัวของซ่งเชี่ยน?”จางฟานคิดจะบอกชื่อจางเมิ่งเสวี่ย แต่คิดขึ้นได้ว่าเธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของเขา และเพียงต้องการแก้แค้นซ่งเชี่ยน จึงให้เงินเขา 200,000 หยวน เพื่อพาคนไปลักพาตัวซ่งเชี่ยน ส่วนตัวเขาเองก็ต้องการได้ตัวซ่งเชี่ยน จึงลักพาตัวพ่อแม่ของเธอด้วย“ไม่มีใครสั่งให้ผมทำ” เขาจำใจรับทุกอย่างไว้เอง แม้ไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่นักสารวัตรเฉินถาม “แล้วทำไมคุณถึงลักพาตัวพวกเขา?” “พ่อแม่ของซ่งเชี่ยนรับเงินค่าสินสอดจากผมไป 800,000 หยวน แต่กลับให้เธอแต่งงานกับคนอื่น ผมจึงโกรธแค้นพวกเขาและสั่งให้คนไปลักพาตัว” ทุกคำที่พูดมีเคล้าความจริง ใครๆ ก็รู้ว่าพ่อกับแม่ของซ่งเชี่ยนทำอะไรกับเขาไว้บ้างเมื่อสารวัตรเฉินเห็นว่าจางฟาน ไม่ยอมบอกว่าจางเมิ่งเสวี่ยเป็นคนบงการเบื้องหลัง จึงตั้งข้อหาลักพาตัว และฟอกเงินจากการเปิดร้านชา รวมถึงข้อหาเปิดบ่อนพนันด้วย
“ใครเป็นคนทำร้าย?” หลิวฮุ่ยหลิงถามด้วยความกังวล ยิ่งเห็นจางเมิ่งเสวี่ยมีสีหน้าเศร้าสร้อยก็ยิ่งรู้สึกเห็นใจ“คนของหลิงหยางเป็นคนทำร้ายฉัน…” จางเมิ่งเสวี่ยหน้าตาด้วยสีหน้าหม่นหมอง เธอไม่อาจกล่าวอ้างชื่อซ่งเชี่ยนได้“อะไรนะ ทำไมถึงเป็นเขา?” หลิวฮุ่ยหลิงตกใจมาก “ทำไมหลิงหยางถึงส่งคนมาทำร้ายเธอ?”“เขาทำเพื่อปกป้องซ่งเชี่ยน...”จางเมิ่งเสวี่ยเล่าเหตุการณ์เช้านี้ ที่เธอถูกคนร้ายสองคนในชุดดำทำร้ายในที่จอดรถ โดยไม่บอกเรื่องที่จ่ายเงินให้ลูกพี่ลูกน้อง ไปจ้างคนลักพาตัวซ่งเชี่ยนเมื่อหลิวฮุ่ยหลิงได้ฟังเรื่องราวก็โกรธขึ้นมาทันที “อีกแล้ว ซ่งเชี่ยน! หลิงหยางทำเรื่องไม่น่าให้อภัยก็เพราะผู้หญิงคนนั้น คาดไม่ถึงว่าเขาจะกล้าสั่งคนมาทำร้ายเธอ!”“ใช่ค่ะ” จ้าวชิงหย่าผสมโรงด้วย “ดูสิว่าลูกสาวฉันถูกทำร้ายขนาดไหน คุณต้องช่วยทวงความยุติธรรมให้เมิ่งเอ๋อร์”“ไม่ต้องห่วง ครั้งนี้ฉันจะต้องสั่งสอนเจ้าเด็กบ้าหลิงหยางให้รู้สำนึกบ้าง” หลิวฮุ่ยหลิงพูดพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะน้ำชา แล้วกดเบอร์ของลูกชายตัวดีในขณะนั้นเองหลิงหยางและซ่งเชี่ยนได้มาถึงห้องพักฟื้นของคุณย่าหลิงแล้ว หญิงสาวเป็นคนแรกที่เดินเข้าไปใกล้เ
หลิงหยางมองดูชายหัวล้านตรงหน้า ด้วยสายตาเย็นชาแล้วเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ ที่แท้ลูกพี่ที่ว่าก็คือเขาคนนี้นี่เอง"อาคัง นายกล้าจริงๆ เหรอ ส่งลูกน้องมาแย่งของจากฉัน แถมยังจะช่วยออกหน้าอีก นายมีเงินมากหรือว่ามีอำนาจใหญ่โตขนาดเชียวเหรอ?"ชายหัวล้านรีบยิ้มอย่างประจบ "คุณชายหลิง ผมจะกล้าได้ยังไง เมื่อเทียบกับคุณแล้ว พวกเราเป็นแค่เศษฝุ่นในสายตาคุณ ถึงจะให้ผมมีความกล้าร้อยเท่า ผมก็ไม่กล้าแย่งของจากคุณหรอก!""ถ้างั้นนายก็รู้แล้วใช่ไหมว่าควรทำยังไง?" หลิงหยางพูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก"รู้แล้วครับ" อาคังพยักหน้ารัวๆ แล้วรีบยกมือขึ้นตบผู้ชายที่อยู่ข้างๆ อย่างแรง ก่อนจะตะโกนด่า "ไอ้หนู นายอยากตายใช่ไหม? รีบคุกเข่าลงขอโทษคุณชายหลิงเดี๋ยวนี้!"ชายคนนั้นเห็นสถานการณ์ไม่ดี จึงรีบคุกเข่าลงกับพื้นและขอโทษหลิงหยาง "คุณชายหลิง ผมขอโทษครับ ผมตาไม่ดีเองเอง ไม่ควรแย่งของจากคุณ ได้โปรดให้อภัยผมด้วย!"หลิงหยางไม่สนใจและไม่ได้แสดงท่าทางใดๆ ว่าจะยอมรับคำขอโทษนั้น แต่กลับจับมือซ่งเชี่ยนออกจากร้าน คนมาซื้อของดีๆ กลับถูกหาเรื่องเสียได้"ที่รัก ไปกันเถอะ!"ซ่งเชี่ยนคล้องแขนเขา แล้วทั้งสองก็เดินออกจากร้านเครื่องป
หลังจากลงมายังชั้นล่าง ก็เห็นรถยนต์ของหลิงหยางจอดอยู่ที่หน้าอาคาร ซ่งเชี่ยนนั่งลงที่ข้างๆ คนขับ ก่อนจะหันไปพูดกับหลิงหยาง“คุณคะ คุณเพิ่งใช้เงินไป 6 ล้านหยวน เพื่อซื้อบริษัทโฆษณาหลานเถียนให้ฉัน นั่นก็เยอะพอแล้ว ฉันจะกล้าขอให้คุณซื้อแหวนแต่งงานให้ฉันได้ยังไง?”“การแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าฉันไม่ซื้อเครื่องประดับที่เหมาะสมให้ คนอื่นจะดูถูกเอาได้ ดังนั้นให้ฉันซื้อให้เถอะ”ซ่งเชี่ยนลังเลเล็กน้อยแล้วพยักหน้า “ก็ได้ค่ะ ฉันจะฟังคุณ”“ดี งั้นตอนนี้ฉันจะพาเธอไปที่ร้านเครื่องประดับ”หลิงหยางพูดเสร็จก็สตาร์ทรถ และขับไปที่ร้านเครื่องประดับไฮโซ ซึ่งตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมือง ไม่นานนักหลิงหยางก็ขับมาถึง ที่นี่เป็นหนึ่งในร้านเครื่องประดับที่หรูหรา และมีสไตล์ที่สุดในเมือง มีเครื่องประดับหลากหลายประเภท ทั้งแหวน, ต่างหู, สร้อยคอ, กำไล, และจี้ ในบรรดาเครื่องประดับเหล่านี้ มีผลงานของนักออกแบบชื่อดังจากทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งออกแบบและสร้างสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถัน เป็นเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลิงหยางจอดรถเรียบร้อย ซ่งเชี่ยนควงแขนเขาแ ละเดินเข้าร้านเครื่องประดับไปด้วยกัน พนักงานขายสาวอายุประมาณย
หลังจากหลิงหยางส่งวิดีโอ ที่จางเมิ่งเสวี่ยถูกจับได้ว่าเป็นชู้ไปให้แม่ของเขาดู หลิวฮุ่ยหลิงก็ไม่โทรกลับมาอีกเลย น่าจะเป็นเพราะท่านรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นเมียน้อยของคนอื่น จึงไม่กล้าพูดถึงจางเมิ่งเสวี่ยต่อหน้าเขาอีก และยิ่งไม่อยากช่วยพูดแทนแล้วเรื่องนี้ทำให้หลิงหยางและซ่งเชี่ยน รู้สึกโล่งใจและสบายใจขึ้นมาก จากนี้ไปหลิวฮุ่ยหลิงก็ไม่มีเหตุผลอะไร ที่จะจับคู่หลิงหยางกับจางเมิ่งเสวี่ยอีกต่อไปแล้ว และจะไม่มาทำลายความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองด้วยเมื่อครู่ขณะที่ทั้งสองคนเล่นรักกันบนโซฟายาว ในห้องทำงานของผู้จัดการทั่วไป มันให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่อย่างมาก และพวกเขาก็เข้าใจว่า ทำไมโจวหยุนหลงถึงชอบให้จางเมิ่งเสวี่ย มาพลอดรักในห้องทำงาน มันเป็นการเล่นที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและหวาดเสียวปัจจุบันห้องทำงานนี้รวมถึงบริษัททั้งหมด เป็นของซ่งเชี่ยนแล้ว อย่างไรก็ตามในมุมมองของหญิงสาว แม้ว่าพวกเธอจะทำเรื่องส่วนตัวในห้องทำงาน โดยที่ไม่มีใครว่าอะไรแต่มันก็ไม่ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์"เพราะคุณเลย! คนนิสัยไม่ดี!" หลังจากจัดเสื้อผ้าและผมของเธอเรียบร้อยแล้ว ซ่งเชี่ยนหันมามองหลิงหยางด้วยสายตาตำหนิ "ต่อไปห้ามทำอะไรฉ
วิดีโอที่หลิงหยางส่งมา เป็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตรงหน้าประตูห้องทำงานของผู้จัดการบริษัทหลานเถียน ซึ่งบันทึกเหตุการณ์ทั้งหมด ขณะที่ภรรยาของโจวหยุนหลงมาจับชู้ เมื่อดูจบหลิวฮุ่ยหลิงแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง จึงพยายามแก้ตัวให้จางเมิ่งเสวี่ย “ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด เมิ่งเอ๋อร์ไม่ใช่คนแบบนั้น เธอจะไปมีอะไรกับผู้ชายแก่ๆ ได้ยังไง?”“ยังมีอะไรที่เป็นไปไม่ได้อีก? ภรรยา คุณควรยอมรับความจริงได้แล้ว วิดีโอนี่เป็นของจริง โชคดีที่หลิงหยางไม่ได้ไปยุ่งกับผู้หญิงแบบนั้น ไม่งั้นตระกูลหลิงของเราคงเสียหน้าไปหมดแล้ว!” หลิงฉิงซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ดูวิดีโอด้วยกันก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจหลิวฮุ่ยหลิงขมวดคิ้ว “หมายความว่าจางเมิ่งเสวี่ย หลอกเราให้เห็นว่าเธอเป็นเด็กดี?” “ชีวิตส่วนตัวของเธอไม่ดีนัก ถ้าไม่ใช่การแสดงแล้วจะเป็นอะไร?” หลิงฉิงไม่ได้สนิทกับครอบครัวนั้นเหมือนภรรยา รู้จักเพียงแค่ผิวเผินจึงพูดไปตามเนื้อผ้า “ดูเหมือนว่าหลิงหยางตัดสินใจถูก ที่ไม่ไปคบกับจางเมิ่งเสวี่ย และเลือกแต่งงานกับซ่งเชี่ยนแทน!” มาถึงตอนนี้แม้ยากจะยอมรับ แต่ทุกอย่างมันคือเรื่องจริง หลิวฮุ่ยหลิงถอนหายใจออกมาดังๆ“ใช่แล้ว แม้ว่า
จางเมิ่งเสวี่ยขับรถกลับบ้าน แล้วก็พุ่งตัวเข้าไปในห้องนอนส่วนตัว ก่อนจะซบหน้าลงบนเตียงและร้องไห้ออกมา จ้าวชิงหย่าเปิดประตูห้องเห็นลูกเศร้าโศกจึงเดินเข้ามาถาม "เมิ่งเอ๋อร์ ลูกไม่ได้ไปทำงานที่บริษัท เพื่อตรวจสอบการทำงานของพนักงานหรอกเหรอ? ทำไมกลับมาถึงบ้านแล้วก็ร้องไห้แบบนี้ล่ะ บอกฉันสิใครรังแกเธอ?"จางเมิ่งเสวี่ยกลัวว่าแม่ของเธอ จะรู้เรื่องที่เธอแอบมีความสัมพันธ์กับโจวหยุนหลงในห้องทำงาน และภรรยาของโจวหยุนหลงจับได้ พนักงานในบริษัทก็แห่ไปดูเหตุการณ์ ดังนั้นเธอจึงนั่งขึ้นมาจากเตียง และตอบด้วยน้ำตาคลอเบ้า "เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแม่เลย แม่ออกไปก่อนเถอะ ให้หนูได้อยู่คนเดียวสักพัก!""ไม่!" จ้าวชิงหย่าปฏิเสธอย่างหนักแน่น "ถ้าลูกไม่บอกว่าเกิดอะไรขึ้น แม่จะไม่ออกไปจากห้องนี้เด็ดขาด รีบบอกมาว่ามีเรื่องอะไร""ฉัน... ฉันโดนไล่ออกแล้ว..." ถูกคาดคั้นเลยจำเป็นต้องตอบ เพราะอย่างไรไม่ช้าหรือเร็วแม่ก็ต้องรู้อยู่ดี"อะไรนะ? โดนไล่ออกเหรอ?" จ้าวชิงหย่าถามด้วยเสียงตกใจ "ใครไล่เธอออกล่ะ? หรือว่าคุณโจวไล่ออก ทำไมเขาทำแบบนั้นล่ะ ลูกไปทำอะไรผิดพลาดไว้หรือเปล่า?""ไม่ใช่ค่ะ" จางเมิ่งเสวี่ยส่ายหัว "ฉันถูกหลิงหยา
เมื่อได้ยินว่าหลิงหยางซื้อบริษัทโฆษณาหลานเถียนในนามของเธอ และซ่งเชี่ยนเป็นเจ้าของบริษัทแล้ว หญิงสาวรู้สึกเหมือนกำลังฝันไป ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง และเมื่อสามีตัดสินใจไล่โจวหยุนหลงและจางเมิ่งเสวี่ยออก เธอจึงรู้สึกเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน “ฉันไม่มีปัญหา แต่ฉันขอไล่คนเพิ่มอีกสองคนได้ไหม?” “เธอเป็นเจ้าของบริษัทนี้ ใครที่อยากไล่ก็ไล่ได้เลย ไม่จำเป็นต้องถามความเห็นฉัน” ยิ้มกว้างให้ภรรยา ตอนนี้เธอมีสิทธิ์ขาดอย่างเต็มที่ จะไล่ใครก็ตามสะดวก“ถ้าอย่างนั้น” ซ่งเชี่ยนหันไปมองซุนจิ่นเหยาแล้วพูด “วันนั้นคุณร่วมมือกับหลิวจื้อกังและจางเมิ่งเสวี่ยเพื่อรังแกฉัน คุณก็ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป ตั้งแต่ตอนนี้คุณและหลิวจื้อกังจะไม่ใช่พนักงานของบริษัทโฆษณาหลานเถียนอีกต่อไป เก็บข้าวของของคุณแล้วออกไปได้เลย” “ท่านประธานซ่ง ฉันผิดไปแล้ว โปรดยกโทษให้ฉันเถอะ ฉันมีพ่อแม่ต้องดูแลและลูกเล็กๆ ฉันไม่อยากเสียงานนี้ไป!” ซุนจิ่นเหยารีบคุกเข่าขอร้อง “แล้วตอนที่คุณร่วมมือกับจางเมิ่งเสวี่ยเพื่อต่อต้านฉัน ทำไมคุณไม่คิดถึงเรื่องนี้บ้าง?” ไม่ได้อยากใจร้าย แต่คนพวกนี้ทำร้ายเธอก่อน จะมีหน้าร่วมงานกันได้อย่างไรอีกซุน
"อ๊า!"จางเมิ่งเสวี่ยร้องเสียงหลง พร้อมกับผลักโจวหยุนหลงออกจากตัวอย่างแรง ชายแก่รีบลุกขึ้นจากตัวเธอทันที พร้อมดึงกางเกงขึ้นและมองไปที่ห่าวเหมย ซึ่งโกรธจนบุกเข้ามาในห้องทำงานด้วยความตะลึง ก่อนถามออกมาอย่างตะกุกตะกัก“หะ...ห่าวเหมย คุณ...คุณมาที่นี่ได้ยังไง?” “โจวหยุนหลง! แกมันเลวจริงๆ กล้าไปหาผู้หญิงคนอื่น ดูสิวันนี้ฉันจะจัดการแกกับอีผู้หญิงชั่วๆ นี่ยังไง!” เธอตะโกนด่าเสียงเข้มพูดจบเธอก็ตรงเข้ามาตบหน้าโจวหยุนหลงไปสองทีอย่างแรงจางเมิ่งเสวี่ยพอเห็นว่าโจวหยุนหลงเข้ามาขวางห่าวเหมยไว้ เธอจึงตั้งสติรีบใส่ชุดชั้นในแล้วดึงกระโปรงลง ทันใดนั้นเองก็เห็นหลิงหยางกำลังถ่ายรูปพวกเธออยู่ ด้านหลังของหลิงหยางมีซ่งเชี่ยน ซุนจิ๋นเหยา อู๋เสี่ยวลี่ หยางตัน และหลี่น่า ทำให้จางเมิ่งเสวี่ยอายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนีถ้าแค่หลิงหยางกับซ่งเชี่ยนอยู่ที่นี่ เธอก็ยังพอเข้าใจได้ ว่าพวกเขาอาจตามเธอมา และเป็นคนโทรศัพท์บอกห่าวเหมย แต่สิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็คือ คนที่เคยอยู่ข้างเธออย่างซุนจิ๋นเหยา อู๋เสี่ยวลี่ และหลี่น่า รวมถึงหยางตันที่สนิทกับซ่งเชี่ยนก็มาอยู่ที่นี่ด้วยสิ่งนี้ทำให้เธออับอายขายหน้ามาก และคิดว่าซ่งเชี
คืนนี้ห่าวเหมยทำเหมือนทุกวัน หลังจากอาบน้ำเสร็จ ก็นั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่นดูทีวี ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นเธอหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะชาขึ้นแล้วดู ปรากฏว่าเป็นหมายเลขที่ไม่คุ้นเคย เข้าใจผิดว่าเป็นสายรบกวนจึงกดตัดสาย แต่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง จึงเริ่มรู้สึกหงุดหงิดจึงกดรับสายเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังมาจากโทรศัพท์ "คุณเป็นภรรยาของโจวหยุนหลงใช่ไหม?""คุณเป็นใคร?" ห่าวเหมยถามด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด"ฉันเป็นใครไม่สำคัญหรอก ประเด็นคือสามีของคุณตอนนี้ อยู่ที่สำนักงานหลานเทียน และกำลังมีความสัมพันธ์กับพนักงานคนหนึ่งของบริษัท""อะไรนะ? เป็นไปได้ยังไง? ไม่น่าแปลกใจเลยที่โจวหยุนหลงดูเหม่อลอยบ่อยๆ เพราะเขาไปยุ่งกับผู้หญิงในบริษัทนี่เอง!" ห่าวเหมยตกใจ และเชื่อสนิทใจเพราะพักหลังมานี้สามีทำตัวแปลกไป"เขามีคำพูดว่า 'จับโจรต้องจับของกลาง จับชู้ต้องจับให้ได้คาหนังคาเขา' ถ้าคุณอยากจับพวกเขาให้ได้ คุณควรรีบมาที่นี่!" ไม่ทันให้ห่าวเหมยพูดอะไร ปลายสายก็วางสายไปแล้วจึงตั้งใจจะโทรหาสามีเพื่อถามยืนยันว่าเขาอยู่ที่ไหน แต่คิดว่าการทำแบบนั้นจะทำให้เขารู้ตัวเลยเปลี่ยนใจ เธอจึงถอดชุดนอนออก เปลี่ยนเสื้อผ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นสายจากโจวหยุนหลง จางเมิ่งเสวี่ยกลัวว่าแม่จะรู้เรื่อง ที่เธอมีความสัมพันธ์กับชายชราผู้นี้ จึงไม่กล้ารับสายและรีบตัดสายทิ้งทันทีจ้าวชิงหย่าถามอย่างสงสัย "เมิ่งเอ๋อร์ทำไมไม่รับสายล่ะ?""เป็นเบอร์รบกวน ไม่มีความจำเป็นต้องรับค่ะ" ได้แต่ตอบเลี่ยงๆ ไป"ฉันเห็นว่าชื่อที่แสดงบนหน้าจอคือชื่อคุณโจวนี่ เขาไม่ใช่เจ้านายของเธอหรอกเหรอ?" จ้าวชิงหย่าเป็นคนหูตาไว มองปราดเดียวก็เห็นอย่างแจ่มชัดว่าใครโทรมา ไม่เข้าใจว่าทำไมลูกสาวถึงโกหก"ฉัน..." จางเมิ่งเสวี่ยไม่รู้จะตอบอย่างไร เธอหยุดคิดคำพูดชั่วคราวก่อนพูดต่อ "ตอนนี้เลิกงานแล้วค่ะ ฉันไม่อยากรับสายจากบริษัท""แล้วถ้าเขาโทรมาสอบถามเรื่องการลักพาตัวซ่งเชี่ยนล่ะ?" เรื่องนี้ไม่ใช่เล็กๆ อย่างไรเสียซ่งเชี่ยนก็เป็นคนในบริษัทเหมือนกัน กลัวว่าเรื่องไปถึงหูคุณโจวแล้ว เรื่องของเรื่องคือกังวลว่าลูกสาวจะเดือดร้อน"คงไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ" จางเมิ่งเสวี่ยส่ายหัว "เขาไม่รู้หรอกว่าฉันเป็นคนสร้างเรื่อง และอีกอย่างซ่งเชี่ยนก็ถูกช่วยออกมาแล้ว เขาจะโทรมาหาฉันเรื่องนี้ทำไม แม่ไม่ต้องสนใจหรอกค่ะ" พยายามหาเหตุผลมาอธิบายให้แม่ฟัง แต่ถึงโจวหยุนหลงจะรู้อย่