เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น“ฮัลโหล พี่มีนาฉันเอง”“พิไล มีอะไรเหรอ?” มีนาเอ่ยถามพิไลตอบกลับด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความเครียดและหวังดี “พี่มีนา คุณพ่ออยากพบคุณที่โรงแรมในเมืองค่ะ เขารู้สึกเสียใจเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นและต้องการปรับความเข้าใจอีกครั้ง”มีนารู้สึกถึงความกังวลในใจ เธอรู้ดีว่าความสัมพันธ์กับพ่อของเธอมีความซับซ้อนและอาจจะไม่ง่ายอย่างที่คิด แต่เธอก็รู้ว่าการพูดคุยและเคลียร์ความเข้าใจเป็นสิ่งที่สำคัญ“ พี่อาทิตย์ก็อยู่ที่นี่แล้ว ถ้าพี่รู้สึกไม่สบายใจหรือกลัว...” “ทำไมฉันจะต้องกลัวด้วย? เดี๋ยวฉันจะไปเอง” มีนาพูดเสียงเรียบ “ฉันจะไปพบคุณพ่อที่โรงแรม”“ขอบคุณมากค่ะพี่มีนา เดี๋ยวฉันบอกคุณพ่อให้นะคะ” มีนาที่เต็มไปด้วยความกังวลใจและความรีบร้อนตัดสินใจให้ป้าพิศช่วยหาคนขับรถเพื่อไปยังโรงแรมในเมืองอย่างรวดเร็วเพื่อพบกับคุณพ่อ“ป้าพิศค่ะ ฉันต้องไปที่โรงแรมในเมืองด่วนเลย” มีนาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความตื่นเต้นและวิตกกังวล “รบกวนป้าช่วยหาคนขับรถให้หน่อยค่ะ ฉันอยากไปและกลับให้เร็วที่สุด”ความวิตกกังวลยังคงอยู่ แต่เธอก็เต็มไปด้วยความหวังว่าจะสามารถแก้ไขความเข้าใจผิดและเปิดโอกาสใหม่ให้กั
ลานจอดเครื่องบินส่วนตัวที่อยู่ห่างไกลจากความวุ่นวายของเมือง เสียงเครื่องบินที่พร้อมจะบินออกอยู่ในระยะไกลๆ ทำให้บรรยากาศรอบๆ ยิ่งเพิ่มความรู้สึกตึงเครียดให้กับมีนา ธนาซึ่งยังคงอุ้มมีนาไว้ในอ้อมแขนขนาดใหญ่ของเขา เดินไปยังเครื่องบินที่จอดอยู่ในลานจอด เครื่องบินส่วนตัวที่ใหญ่โตและหรูหรา สัญลักษณ์ของอำนาจและความร่ำรวยของเขา มีนามองไปรอบๆ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว น้ำตาของเธอไหลลงมาอย่างไม่หยุดยั้ง ความกลัวและความเครียดทำให้เธอพยายามดิ้นรนออกจากอ้อมแขนของธนา แต่ความแข็งแกร่งและความมั่นคงของธนาทำให้การดิ้นรนของเธอแทบไม่มีผล“อย่าดิ้น” ธนาพูดเสียงต่ำและเย็นชา เขายิ้มอย่างไม่มีความรู้สึกขณะมองสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวของมีนา “ตอนนี้เราอยู่บนเครื่องบินแล้ว และไม่มีใครสามารถช่วยเธอได้”คำพูดของเขาเต็มไปด้วยความเย็นเยือกและความคุมขัง ทำให้มีนายิ่งรู้สึกถึงความสิ้นหวังในใจ ธนาหยุดมองไปยังมีนาอย่างไม่สนใจการดิ้นรนของเธอ ธนาเดินเข้ามาใกล้มีนาที่นั่งอยู่บนที่นั่งเครื่องบิน เขายิ้มร้ายกาจขณะพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเย็นชา“ฉันจะบอกเธอให้ก็ได้” เขาพูดเสียงต่ำพร้อมกับมองไปที่
มีนา ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกงุนงงและตกใจ เมื่อเธอพบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องที่ไม่คุ้นเคย ห้องนอนหรูหราที่ประดับด้วยผ้าห่มและเฟอร์นิเจอร์ที่มีความโอ่อ่า เธอรู้สึกว่าร่างกายของเธอเปลือยเปล่าและปกคลุมไปด้วยผ้าห่มที่มีความรู้สึกอบอุ่น แต่ก็ยังไม่สามารถยับยั้งความรู้สึกของความสับสนได้ สาวใช้คนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง เธอแต่งตัวเรียบร้อยและมีท่าทีที่เป็นทางการ สาวใช้เงียบๆ เดินเข้ามาใกล้เตียง ก่อนจะเริ่มทำหน้าที่ของเธอด้วยการเตรียมเครื่องสำอางและเสื้อผ้าที่เตรียมไว้ให้มีนา"คุณมีนา" สาวใช้พูดด้วยน้ำเสียงสุภาพและมั่นคง "คืนนี้คุณต้องเข้าหอกับนายธนา นายใหญ่ของคาสิโนแห่งนี้ค่ะ" มีนารู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังถล่มลงมา เธอพยายามรวบรวมสติและคิดถึงเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น แต่ทุกอย่างยังคงเป็นปริศนา มีนาพยายามจะลุกจากเตียง แต่ความกลัวและความวิตกกังวลทำให้เธอแทบจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ สาวใช้มองดูด้วยความเห็นใจ แต่ยังคงยืนอยู่ที่ด้านข้างพร้อมกับเตรียมตัวที่จะช่วยมีนาแต่งตัว และเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับคืนนี้มีนาเริ่มรู้สึกไม่มั่นใจและสับสนอย่างมาก เธอหันไปถามสาวใช้ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความวิตก
ในห้องน้ำที่หรูหราและเต็มไปด้วยความสงบ มีนาแช่อยู่ในอ่างน้ำขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยฟองสบู่สีขาวที่ลอยเหนือผิวน้ำ น้ำที่อุ่นสบายทำให้ร่างกายของเธอรู้สึกผ่อนคลาย แต่ใจของเธอเต็มไปด้วยความวิตกกังวล สาวใช้สี่คนเข้ามาในห้องอย่างพร้อมเพรียง พวกเธอแต่งกายด้วยชุดสวยงามที่สอดคล้องกับบรรยากาศหรูหราแต่ยังคงให้ความรู้สึกที่สะอาดและสะดวกสบายหนึ่งในสาวใช้ยิ้มอย่างสุภาพและพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“คุณมีนา ขอให้เราช่วยคุณออกจากอ่างนะคะ”สาวใช้สองคนยื่นมือออกมาอย่างมั่นใจ หนึ่งคนยืนอยู่ข้างๆ อ่างน้ำเพื่อรองรับมีนา และอีกคนยื่นผ้าขนหนูที่ใหญ่และนุ่มให้เธอเพื่อใช้เช็ดตัว อีกสองคนใช้ผ้าขนหนูที่อุ่นและมีลวดลายละเอียดอ่อนนุ่มลูบไล้ตัวมีนาอย่างระมัดระวัง ทำให้แน่ใจว่าเธอจะไม่รู้สึกเย็นจากการออกจากน้ำ ผ้าขนหนูมีลวดลายละเอียดและขอบที่เย็บอย่างประณีต ซึ่งเพิ่มความรู้สึกของความพิถีพิถันและความหรูหรา ฟองสบู่ที่ลอยอยู่ในอ่างน้ำตกลงไปพร้อมกับน้ำที่ไหลออกไปทิ้งไว้เบื้องหลังเป็นภาพที่เต็มไปด้วยความละเอียด พวกมันสร้างเอฟเฟกต์ของหมอกสีขาวที่ลอยอยู่ในอากาศและทำให้บรรยากาศในห้องน้ำดูนุ่มนวลและเงียบสงบ สาวใช้ช่วยกันดูแล
หลังจากที่มีนาเริ่มรู้สึกเมาจากไวน์ที่ดื่มไป เธอรู้สึกถึงความผ่อนคลายและอารมณ์ที่เริ่มเบาใจลงเล็กน้อย เธอเดินไปที่หน้าต่างใหญ่ที่เปิดออกไปเห็นวิวเมืองในยามค่ำคืนมีนา นั่งลงที่ขอบหน้าต่างอย่างช้าๆ มองออกไปที่ทิวทัศน์ของเมืองที่ถูกแต่งแต้มด้วยแสงไฟระยิบระยับจากตึกสูงและถนนที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เสียงของเมืองที่ไกลออกไปแผ่วเบา แต่ก็ยังทำให้รู้สึกถึงความมีชีวิตชีวาและความเคลื่อนไหว แสงไฟสีทองจากตึกและถนนสะท้อนเข้ามาผ่านหน้าต่าง ทำให้ห้องมีบรรยากาศที่อบอุ่นและเงียบสงบ การมองออกไปที่วิวเมืองช่วยให้มีนารู้สึกเหมือนกับได้หลุดออกจากความตึงเครียดในห้องและเข้าสู่โลกที่เต็มไปด้วยความสงบ เธอเอนตัวพิงกับกรอบหน้าต่างอย่างสบายๆ เห็นแสงไฟที่สาดส่องเป็นลำแสงระยิบระยับ เธอรู้สึกถึงความสวยงามและความสงบที่มาจากทิวทัศน์ภายนอก แม้ใจของเธอยังรู้สึกหนักอยู่ แต่ภาพของเมืองในยามค่ำคืนทำให้เธอรู้สึกมีความหวังและปลอบประโลมใจ ในห้องที่เงียบสงบและเต็มไปด้วยแสงเทียน มีนาเริ่มรู้สึกถึงความสบายจากไวน์ที่ดื่มไป แต่ความรู้สึกนี้กลับกลายเป็นความอึดอัดเมื่อเธอเริ่มรู้สึกถึงการตึงเครียดจากสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด มีนา น
มีนาเริ่มดิ้นรนอย่างสุดแรงภายใต้แรงกอดและการจูบที่ร้อนแรงจากชายที่ยืนอยู่เหนือเธอ ร่างกายของเขากระชับและแน่นหนา ความรู้สึกของการควบคุมทำให้มีนารู้สึกถึงแรงกดดันที่ยากจะหลีกหนี ร่างใหญ่ของเขากอดรัดเธอแน่นจนมีนาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ การจูบที่รุนแรงและเร่าร้อนของเขาไม่หยุดนิ่ง ความร้อนจากปากของเขาท่วมท้นไปทั่วริมฝีปากของเธอ ความขัดขืนของเธอไม่สามารถทำให้เขาหยุดได้ การดิ้นรนของมีนาทำให้เธอรู้สึกถึงความอึดอัดและความท้าทายที่รุนแรง มือของเขายังคงจับแขนของเธอไว้แน่น ขณะที่เขาใช้ร่างกายของเขากดดันเธอให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น การดิ้นรนของมีนาเต็มไปด้วยความพยายามที่จะหลุดพ้น แต่การจับกุมและแรงกอดของเขายังไม่ลดละ เขาดึงตัวเธอเข้ามาใกล้มากขึ้น และการเคลื่อนไหวของเขายิ่งทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความร้อนแรงและความขัดแย้ง สัมผัสของเขาทำให้มีนาไม่สามารถหลบหลีกได้ และความรู้สึกของการถูกควบคุมทำให้เธอรู้สึกถึงการกดดันอย่างสุดขีด เมื่อเขาผละออกเล็กน้อยจากการกอดรัดแน่น เขามองไปที่มีนาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกลึกซึ้งและอ่อนโยน“ที่รัก ฉันรู้แล้วว่าเธอรักฉันขนาดไหน”เสียงของเขาดังก้องในหูของม
ธนายืนอยู่ในมุมมืดของห้อง หยิบแก้วบรั่นดีขึ้นมาดื่มอีกครั้ง กลิ่นแอลกอฮอล์รุนแรงคลุ้งในอากาศ ขณะที่เขาสูดหายใจลึก ความเมาที่คืบคลานเข้ามาทำให้ความคิดของเขาพร่ามัว แต่ภาพในอดีตกลับชัดเจนในหัวใจเขา ราวกับเวลาถูกดึงย้อนกลับไปสู่อิตาลีในช่วงเวลานั้น เขาจำได้ทุกอย่าง ช่วงเวลาที่เขาถูกไล่ฆ่า หนีรอดอย่างลำบากท่ามกลางตรอกซอยแคบๆ ของเมือง ขณะที่ทุกอย่างดูสิ้นหวัง เธอปรากฏตัวขึ้น สาวน้อยผู้บังเอิญพบเขาในสภาพบาดเจ็บหนัก ขณะที่เธอกำลังเรียนอยู่ที่อิตาลีตอนนั้น เธอไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย พาเขาหนีไปซ่อนตัวในสถานที่ปลอดภัย เขายังจำได้ว่าภาพเธอขณะพยาบาลรักษาบาดแผลของเขาด้วยความเอาใจใส่ ความอบอุ่นและความหวังที่เธอมอบให้เขาในช่วงเวลาที่มืดมนนั้นทำให้เขารู้สึกเป็นหนี้ชีวิตเธอ แต่สิ่งที่ทำให้หัวใจของเขาเจ็บปวดมากที่สุดคือ เมื่อถึงวันที่เขาหายดี เธอกลับจากไปโดยไม่ได้ทิ้งอะไรไว้ ไม่คำลาหรือคำอธิบายใดๆ เขาเฝ้ารอและตามหาข่าวคราวของเธอ แต่ก็ไม่เคยพบเธออีกเลย แก้วบรั่นดีถูกยกขึ้นอีกครั้ง ขณะที่ธนามองไปที่แสงไฟจากหน้าต่าง เงาของแสงสะท้อนเข้าตาทำให้เขารู้สึกถึงความว่างเปล่าภายในใจ การเมาหนักไม่สามารถกลบเกลื่อน
พ่อพรายรพีก้มลงมองร่างงามในอ้อมกอดด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนและลึกล้ำอย่างที่แม้แต่เขาเองก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ ร่างของเธอดูบอบบางและเปราะบางเหลือเกินในอ้อมแขนที่แข็งแกร่งของเขา เขารู้สึกถึงความอบอุ่นจากเธอที่ซึมซาบเข้ามาในหัวใจที่เคยเย็นชาของเขา เขาค่อยๆ ยื่นใบหน้าลงมาใกล้ สูดกลิ่นหอมอ่อนๆ จากเส้นผมของเธอที่พลิ้วไหวตามลมอย่างแผ่วเบา ก่อนจะกดจูบลงบนผมนุ่มของเธออย่างนุ่มนวล ริมฝีปากของเขาสัมผัสกับผมของเธอด้วยความละมุนละไม ความรู้สึกบางอย่างที่เขาไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเองก็ผุดขึ้นมาในใจ ขณะที่เขาจูบลงบนเส้นผมของเธอ เขารับรู้ได้ถึงหัวใจของตัวเองที่เต้นแรงขึ้น เสียงหัวใจที่ดังอยู่ภายในอกเหมือนจะก้องกังวานไปทั่วความเงียบสงบของค่ำคืนนี้ พรายรพีลูบไล้ผมของเธอเบาๆ ขณะที่กดใบหน้าลงใกล้มากขึ้น เขาสูดลมหายใจเข้าลึกอีกครั้งราวกับอยากจะจดจำกลิ่นหอมและความอบอุ่นจากร่างของเธอให้ฝังแน่นอยู่ในหัวใจตลอดไป พ่อพรายรพีโอบกอดร่างบอบบางในอ้อมแขนของเขาอย่างหวงแหน ราวกับกลัวว่าเธอจะหายไปจากเขาในชั่วขณะนั้น ความรู้สึกที่เขามีต่อเธอมันลึกล้ำจนเกินคำบรรยาย สองแขนที่แข็งแกร่งโอบกระชับแน่นขึ้น ขณะที่เ
ในห้องที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นเมื่อไอ้อ้วนน้อยของพ่อได้เวลาฝากพี่เลี้ยงไว้แล้ว เขาหันไปหาภรรยาสุดที่รักของเขา พร้อมรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความหมาย “เมื่อไอ้อ้วนของพ่อไปกับพี่เลี้ยงแล้ว พ่อขอเวลาส่วนตัวกับแม่หน่อยนะ”แม่ยิ้มตอบกลับ ขอบตาของเธอเบิกบาน “ได้สิค่ะ พ่อ” น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความรักและความเอื้ออาทร“พ่อคิดว่ามันเป็นเวลาที่เหมาะสมแล้วที่จะใช้เวลากับแม่” เขาพูดต่อ ดวงตาของเขาส่องแสงอ่อนโยน “เราไม่ได้มีเวลาส่วนตัวกันนานแล้ว”“ใช่ค่ะ แม่ก็รู้สึกแบบนั้น” แม่ตอบอย่างอบอุ่น ความรู้สึกที่เก็บไว้ในใจกลับมาร่วมกันอีกครั้ง “มีเรื่องที่พ่ออยากพูดหรือเปล่าคะ?”เขายิ้มกว้างขึ้น “พ่อแค่คิดว่าแม่ยังเป็นคนพิเศษในชีวิตพ่อเสมอ”“แม่ก็รักพ่อมากเหมือนกัน” เธอพูดพร้อมกับยิ้มออกมาพวกเขายิ้มให้กัน ดวงตาเต็มไปด้วยความรักและความเข้าใจ ความรู้สึกของการได้อยู่ด้วยกันในช่วงเวลาที่เงียบสงบนี้ทำให้หัวใจของพวกเขาอบอุ่นยิ่งขึ้น“มาหาเวลาที่จะทำให้แม่รู้สึกดีอีกครั้งดีกว่า” เขาพูดด้วยน้ำเสียงหวานซึ้ง“ฉันจะยังรักเธอเสมอไม่ว่าเธอจะสาวหรือจะแก่ลง” เสียงของเขาเต็มไปด้วยความจริงใจ เมื่อเขาจ้องมองไปที่เธอ ความรู้
เวลาผ่านไปจนมีนาได้คลอดลูกชายตัวน้อย ตอนนี้เขาอายุห้าเดือนแล้ว เด็กน้อยที่มีร่างอ้วนจ้ำม่ำ ทำให้ทุกคนในบ้านรู้สึกอบอุ่นใจเมื่อได้เห็นเขา ขณะที่เขานอนอยู่ในอ้อมแขนของแม่ กำลังดูดนมอย่างมีความสุข เสียงจู๊บๆ ของเขานั้นทำให้มีนารู้สึกมีความสุขและภาคภูมิใจในบทบาทใหม่ของเธอรพีมักจะนั่งอยู่ข้าง ๆ มองดูลูกชายด้วยความรักและความภาคภูมิใจ เขาไม่สามารถละสายตาจากความน่ารักของลูกได้ และรู้สึกได้ถึงความรักที่เพิ่มพูนในครอบครัวนี้“ลูกของเราน่ารักมากเลยนะ” เขาพูดพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น ขณะยื่นมือไปลูบหัวลูกชายอย่างเบา ๆ“ใช่ค่ะ ที่รัก เขาทำให้ชีวิตเรามีความหมายมากขึ้น” มีนาตอบกลับพร้อมยิ้มให้กับลูกน้อยในอ้อมแขนของเธอ ความรักในครอบครัวนี้กำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีลูกชายเป็นศูนย์กลางของความสุขเด็กชายวัยห้าเดือนนอนอยู่ในอ้อมแขนของแม่ ขณะที่เขาดูดนมจากอกของเธออย่างหิวโหย ริมฝีปากน้อยๆ ของเขาดูดตุ้บๆ เป็นจังหวะ สร้างเสียงนุ่มๆ ที่แสดงถึงความอิ่มเอมและความสุข เด็กน้อยมีใบหน้ากลมอวบอิ่ม ดวงตาหลับสนิทเหมือนกำลังฝันดี ในขณะที่มือเล็กๆ ของเขายังคงจับเสื้อแม่ไว้แน่น แสดงถึงความอบอุ่นและความปลอดภัยทันใดนั้น ร่า
ในบ้านหลังใหญ่ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและเสียงหัวเราะ รพีและมีนากลับมาจากฮันนีมูนที่น่าจดจำ หลังจากผ่านไปสามเดือน คู่รักหนุ่มสาวยังคงอยู่ในช่วงเวลาแห่งความรักและความสุขที่หวานชื่นเช้าวันหนึ่ง มีนานั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเช้าขณะที่แสงแดดส่องผ่านหน้าต่าง เธอสวมเสื้อยืดหลวม ๆ และกางเกงขาสั้น รพีก้าวเข้ามาในห้องด้วยรอยยิ้มกว้าง เขาใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นเผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่กระชับและกลิ่นอายของความเป็นชายที่ลอยมา ทำให้มีนารู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เห็นเขา“วันนี้เราจะทำอะไรดี?” มีนาถามเสียงหวาน ดวงตาของเธอเปล่งประกายด้วยความอยากรู้“ไปเที่ยวที่ทะเลกันไหม?” รพีเสนอต่ออย่างกระตือรือร้น “ฉันอยากให้เธอได้เห็นความงามของทะเลในฤดูร้อน”“ดีเลย! ฉันชอบทะเลมาก” มีนาตอบด้วยความตื่นเต้น ขณะเธอยิ้มกว้าง รู้สึกถึงความสุขที่ได้ใช้เวลาร่วมกันระหว่างที่พวกเขากินอาหารเช้า พูดคุยและหัวเราะด้วยกัน รพีไม่สามารถหยุดมองมีนาได้ เธอสวยงามในทุกมุมมอง จนเขารู้สึกว่าเขาโชคดีมากที่มีเธอในชีวิต“เราจะต้องเตรียมของไปด้วยนะ” รพีพูดอย่างคิดคำนวณ “และฉันจะต้องให้เธอสวมชุดว่ายน้ำใหม่ที่ฉันซื้อให้”มีนาหัวเราะออกมา “จะให้ฉันใ
ที่ชานกระท่อม ท่ามกลางแสงดาวที่ส่องประกายระยิบระยับ รพียืนซ้อนกอดมีนาไว้จากด้านหลัง อ้อมแขนแข็งแรงโอบรัดเธอไว้แนบแน่น เขาโน้มตัวลงจูบเธออย่างดูดดื่มและลึกซึ้ง ราวกับต้องการมอบทุกความรู้สึกที่มีให้เธอในชั่วขณะนี้เมื่อริมฝีปากผละออก รพีค่อย ๆ ใช้มือประคองใบหน้าของมีนาให้ซบลงกับอกกว้างของเขา หัวใจของเขาเต้นหนักแน่นอยู่ข้างหูเธอ สองคนมองดูแสงดาวทอประกายระยิบอยู่บนท้องฟ้ากว้าง ความเงียบสงบของค่ำคืนนี้ห่มคลุมพวกเขาไว้ ราวกับทั้งจักรวาลมีเพียงแค่สองคนนี้พ่อพรายรพีลูบเส้นผมของเธอเบา ๆ พึมพำแผ่ว ๆ ข้างหู "ดาวอาจจะสวย... แต่สำหรับฉันมันสวยน้อยกว่าเธอมาก”"มีนา..." รพีเอ่ยเรียกเสียงนุ่ม แต่น้ำเสียงแฝงไปด้วยความทะเล้น "เธอว่า... มีที่ไหนในป่านี่ที่เรายังไม่ได้เอากันบ้าง?"มีนาหน้าแดงก่ำ แม้จะอยู่ท่ามกลางความมืด เธอหันไปมองเขาอย่างตื่นเต้นและขวยเขิน ก่อนจะยกมือขึ้นตีเบา ๆ บนแขนแข็งแรงที่โอบเธอจากด้านหลัง"พูดอะไรออกมาน่ะ!" เธอตอบพร้อมหัวเราะเขิน ๆรพีหัวเราะแผ่ว ๆ ในคอ โอบกระชับเธอแน่นขึ้น รอยยิ้มซุกซนประดับบนใบหน้า "ฉันหมายถึง... มีที่ไหนที่เรายังไม่ได้ชมวิวสวย ๆ ด้วยกันต่างหาก"มีนาหันมามองรพี
เช้าวันใหม่ในกระท่อมร้อนรักรพีตื่นขึ้นมาในห้องนอนที่อบอุ่น แสงแดดยามเช้าผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง ทำให้เขารู้สึกสดชื่นและมีชีวิตชีวา เขาหันไปมองมีนาที่นอนอยู่ข้างๆ เธอหลับใหลอย่างสงบ เส้นผมยาวสลวยกระจายไปบนหมอน ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงอีกครั้ง ความรู้สึกของความรักที่เขามีให้เธอแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น“น่าเสียดายที่ไม่สามารถอยู่ในอ้อมแขนเธอได้นานกว่านี้” เขากระซิบกับตัวเอง ก่อนที่จะลุกขึ้นไปเตรียมอาหารเช้าง่ายๆ สำหรับทั้งสองคนในครัวเล็กๆ รพีเริ่มทำไข่เบคอนในกระทะ โดยมีเสียงฉ่าและกลิ่นหอมของเบคอนทำให้เขารู้สึกดี การทำอาหารเช้านี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตร่วมกันที่เขาตั้งใจจะมอบให้มีนาเมื่อทุกอย่างพร้อม เขายกกาแฟกลิ่นหอมพร้อมกับจานไข่เบคอนเดินเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง มุมปากของเขายิ้มขึ้นเมื่อเห็นมีนาค่อยๆ ลืมตาขึ้นและยิ้มให้เขา“สวัสดีเช้านี้นะครับที่รัก” รพีทักทายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ขณะที่วางจานอาหารลงบนโต๊ะข้างเตียง“ทำไมถึงทำอาหารเช้าให้ฉัน?” มีนาถามอย่างงัวเงีย ขยับตัวลุกขึ้นมานั่ง“เพราะว่าฉันอยากให้วันของเราเริ่มต้นด้วยความพิเศษ” เขาตอบพลางยิ้ม “วันนี้เราเป็นสามีภรรยากันอย่างเต็มตัวแล้
ภายใต้แสงดาวพราวฟ้าบนหุบเขาที่เงียบสงัด กระท่อมรักที่เคยเป็นสถานที่แห่งความทรงจำกลับมามีชีวิตอีกครั้ง รพี ยืนเด่นอยู่ใต้แสงจันทร์สีเงินงาม ส่องกระทบผิวกายกำยำของเขาจนดูดุดันและทรงพลัง สายลมเย็นพัดโชยมากระทบใบหน้า แต่สิ่งที่ร้อนแรงยิ่งกว่าคือสัมผัสจากมือใหญ่ของเขาที่ค่อย ๆ ลูบไล้ไปตามทรวงอกอวบอิ่มของมีนาเธอเงยหน้าขึ้นมองดวงตาของเขาที่เต็มไปด้วยความต้องการ ความเถื่อนดิบที่แฝงอยู่ในแววตาทำให้เธอไม่อาจหลบสายตาไปได้ รพีลูบไล้มือหนักหน่วงไปตามร่างกายของเธอ ปลายนิ้วไล่จากไหล่ลาดลงมาสู่ส่วนโค้งเว้าที่อกอวบที่เขาหลงใหล เขากดปลายนิ้วกับผิวเนื้อที่นุ่มนวลของเธออย่างแนบแน่น ขณะที่มีนาครางแผ่วอย่างอ่อนโยน"ที่รัก… เธอจำความรู้สึกนี้ได้ไหม?" รพีกระซิบอย่างดุดันข้างหูเธอ ก่อนจะกดริมฝีปากร้อน ๆ ลงบนเนื้ออ่อนที่หน้าอกของเธอ ขบกัดเบา ๆ ทำให้เธอสะดุ้งไหว ร่างกายของมีนาเริ่มตอบสนองต่อความสัมผัสดิบเถื่อนที่เธอคุ้นเคยเสียงครางเบา ๆ ของเธอหลุดออกมา ขณะที่รพีจับร่างเธอแน่นและกดลงกับกำแพงไม้ของกระท่อม ท่ามกลางเสียงใบไม้พลิ้วไหวและเสียงหายใจหนักหน่วง รพีทำให้ค่ำคืนนี้เต็มไปด้วยความเร่าร้อนที่แทรกซึมอยู่ในทุก
“เดี๋ยวฉันอาบน้ำให้” สียงกระซิบของเขาแผ่วเบา แต่กลับมีพลังที่ทำให้มีนาใจเต้นรัว เมื่อผ้าถุงหลุดออก มีนายืนอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าท่ามกลางแสงจันทร์ ผิวของเธอเปล่งปลั่งและมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น ขอบเขตของความใกล้ชิดในค่ำคืนนี้ยิ่งทวีความร้อนแรง เมื่อเขามองเธอ สายตาของเขาแสดงถึงความชื่นชมและความหลงใหลในร่างกายของเธอที่งดงามร่างสูงใหญ่ของเขาเข้ามาประชิดตัวมีนา มือใหญ่และอบอุ่นของเขาเลื่อนขึ้นไปสัมผัสที่ทรวงอกของเธออย่างเบามือ สัมผัสนั้นอ่อนโยนแต่หนักแน่น เขาค่อยๆ ลูบไล้ฟองสบู่วนไปบนผิวเนียนลื่น ราวกับต้องการจดจำทุกความนุ่มนวลและความโค้งเว้าของเธอ ทรวงอกใหญ่ล้นออกมาอย่างงดงาม ยิ่งทำให้เขาเผลอสายตาและหลงใหลในตัวเธอมากขึ้นเขาเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ใช้ปลายนิ้วลูบวนไปตามเนื้อเนียนละเอียด เธอหายใจสะท้านเล็กน้อยจากสัมผัสนั้นเสียงลมหายใจของเขาหนักหน่วงขึ้นเล็กน้อยเมื่อสัมผัสผิวของมีนา ทุกสัมผัสที่วนมือไปบนทรวงอกของเธอ ทำให้เกิดเสียงฟองสบู่แตกตัวเบาๆ ผสมกับเสียงน้ำที่กระเซ็นลงบนพื้น มันเป็นเสียงที่สร้างบรรยากาศเงียบสงบและนุ่มนวล ทว่าแฝงด้วยความเร่าร้อนที่กำลังปะทุขึ้นในทุกจังหวะสัมผัสเธอเผลอหายใจสั่น เส
เมื่อพิธีวิวาห์ของพ่อพรายรพีและมีนาเริ่มขึ้น ปางไม้ที่ถูกประดับด้วยดอกไม้สีชมพูอ่อนและขาว ไล่เฉดกันไปทั่วบริเวณ กลายเป็นทุ่งดอกไม้ที่งดงามเกินคำบรรยาย ทุกมุมมองเต็มไปด้วยกลิ่นอายของธรรมชาติและความบริสุทธิ์ราวกับภาพฝัน แม้มีนาจะขอให้จัดงานอย่างเรียบง่าย แต่ธรรมชาติที่รายล้อมกับความประณีตในการจัดเตรียม ทำให้บรรยากาศนั้นมีความขลังและมีเสน่ห์อย่างลึกซึ้ง บรรยากาศดูเหมือนต้องมนต์สะกด ทุกสีสันและกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้พลิ้วไหวไปพร้อมกับสายลม สร้างความรู้สึกสงบและศักดิ์สิทธิ์ผู้คนในปางต่างร่วมพิธีด้วยการแต่งกายอย่างงดงามตามขนบธรรมเนียม ผู้หญิงนุ่งผ้าถุงสีเข้ม สวมเสื้อยาวกรอมแขนที่พริ้วไหวไปกับท่วงท่าที่อ่อนช้อย แต่ละคนมีสไบเบี่ยงพาดไหล่ เพิ่มความอ่อนหวานและสง่างามดุจดั่งนางในวรรณคดี ส่วนผู้ชายแต่งกายด้วยผ้าสโร่งสีเข้ม เนื้อผ้าทอด้วยลวดลายเรียบง่าย แต่แฝงความเข้มขลัง และสวมเสื้อสีเดียวกันอย่างกลมกลืน การแต่งกายสมถะเรียบง่ายแต่มีเอกลักษณ์เหล่านี้ สะท้อนถึงความเคารพในวัฒนธรรมดั้งเดิม แต่ละคนต่างเป็นภาพสะท้อนของความงามที่ไร้กาลเวลาตรงกลางลานกว้างมีบายศรีที่ถูกจัดขึ้นอย่างวิจิตรตระการตา บายศรีส
รพีไม่รอช้า เขายกร่างสวยอวบอัดของมีนาขึ้น ก่อนจะเสียบแก่นกายแข็งใหญ่ของเขาเข้าไปในความชุ่มชื้นฉ่ำของกุหลาบป่าที่พร้อมรับสัมผัส ร่างของทั้งคู่กระแทกเข้าหากันอย่างรุนแรง ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยความดิบเถื่อนและความกระหายที่ไม่อาจระงับได้"อื้ม… ที่รัก…!" มีนาครางเสียงสั่นสะท้าน ร่างกายของเธอสั่นไหวไปตามแรงขับของเขา เสียงเนื้อกระทบเนื้อดัง "ตั๊บ ตั๊บ" อย่างต่อเนื่อง มือของรพีขย้ำสะโพกกลมกลึงของเธอแน่น ดึงเธอเข้าหาตัวอีก ขณะที่เขาเด้งเอวขึ้นรับการเคลื่อนไหวของเธออย่างต่อเนื่อง“เร็วอีกสิ… อาา... แบบนั้นแหละ” เสียงของรพีแหบพร่าด้วยความเร่าร้อน ความต้องการที่ลุกโชนในตัวเขาเหมือนเปลวไฟที่ไม่มีวันดับ เขาผลักดันความแข็งใหญ่เข้าไปลึกจนสุด จนมีนาได้แต่กรีดร้องด้วยความเสียวซ่าน "อื้ม… อาา... ไม่ไหวแล้ว!"จังหวะของพวกเขารัวเร็วขึ้นอย่างบ้าคลั่ง เหงื่อไหลซึมทั่วตัว รพีมองใบหน้าของมีนาที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนและความต้องการ สายตาของเธอพร่ามัวด้วยความเสียวซ่าน ขณะที่สะโพกของเธอเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงและเร่งรีบ“อาา… ที่รัก! ถึงพร้อมกัน!” พวกเขาเร่งจังหวะอย่างสุดแรง จนถึงจุดสุดยอดพร้อมกัน ร่างกายขอ