(พี่อันอยู่ไหน ทำไมไม่กลับบ้าน)เธอมองซ้ายและมองขวาอย่างระแวงกลัวรามิลเดินเข้ามา คำถามของอัยย์ทำให้เธอคิดหนัก ไม่ได้กลับบ้านราวสามวันได้แล้ว วันแรกที่บอกอัยย์ เธอบอกว่านอนค้างกับเพื่อน ส่วนอีกสองวันไม่ได้บอก อัยย์ก็มีส่งข้อความมาถามว่าอยู่ไหน กลับบ้านเมื่อไหร่อัยย์ชอบบอกว่าเธอทำตัวเหมือน ‘แม่คนที่สอง’ ตัวเองก็ชอบทำตัวเหมือน ‘พ่อคนที่สอง’ เหมือนกันนั่นแหละ“ห้องเพื่อน”(บ้านตัวเองก็มีทำไมไม่กลับ?)“มันขอให้อยู่เป็นเพื่อน อีกอย่างเป็นไข้ด้วยกันทั้งคู่ ไม่อยากเอากลับไปติดแก”(…) อัยย์เงียบ“คิดว่าพี่โกหก?”(ปกติไม่เคยเห็นพี่อันนอนนอกบ้านหลายวันแบบนี้)“พรุ่งนี้เดี๋ยวกลับ วันนี้แม่ผ่าตัด อย่าลืมไปอยู่กับแม่”(รู้แล้ว แล้วนี่พี่กินยายัง) คงไม่สบายจริงๆ เพราะฟังจากน้ำเสียงแหบแห้งที่กำลังพูดกับตน“เพิ่งกินไป”(อือๆ ดูแลตัวเองด้วย ยิ่งป่วยง่ายอยู่)“เป็นห่วงพี่เหรอ?”(มีพี่สาวคนเดียวไง)“หึ…”(ถ้าจะมีแฟน ก็พาผู้ชายคนนั้นมาให้ผมสแกนดูก่อนว่าผ่านไหม อย่าตกลงคบกับใครสุ่มสี่สุ่มห้า แต่ถ้าเป็นพี่หมอรามิล ผมให้ผ่าน)เพิ่งบอกเธอหยกๆว่าอย่าคบใครสุ่มสี่สุ่มห้า เจอรามิลแค่ครั้งเดียว ยังไม่ทันรู้จักนิส
การผ่าตัดผ่านพ้นไปได้ด้วยดี อ้อมถูกย้ายไปห้องพักฟื้น และมีพยาบาลส่วนตัวคอยดูแลอย่างใกล้ชิด อัยย์รีบโทรหาพี่สาวเพื่อบอกเรื่องนี้ด้วยความดีใจ อันดาที่ป่วยอยู่แทบหายป่วยเป็นปลิดทิ้ง หลังจากรู้ว่าการผ่าตัดของแม่ผ่านไปได้ด้วยดีเธออยากไปโรงพยาบาลตอนนี้ ทว่าถูกรามิลสั่งห้าม ป่วยอยู่บวกกับอาการยังไม่ดีขึ้น แถมข้างนอกฝนยังตก โดนละอองฝนอาจจะไข้ขึ้นอีกรอบได้ นั่นคือคำพูดที่คุณหมอประจำตัวบอกช่วงนี้ไม่ค่อยกล้าดื้อกับรามิลเท่าไรนัก ถึงข้อแลกเปลี่ยนการเข้ามาเป็นเด็กในสต็อกจะต่างฝ่ายต่างได้ผลประโยชน์กลับไป แต่เธอกลับมองว่ารามิลต่างหากที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบรับผิดชอบหนี้ทุกอย่างให้ แถมยังช่วยเรื่องการรักษาของแม่ ให้ห้องพักดีๆ มีพยาบาลส่วนตัวคอยดูแลอย่างใกล้ชิดยี่สิบสี่ชั่วโมง จึงมองว่าเขานั่นแหละที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบเธอถ้าตัดข้อเสียต่างๆนานาทิ้ง รามิลเป็นผู้ชายที่ดีคนหนึ่งเลยก็ว่าได้…(พี่หมอรามิลดูแลแม่ดีมาก พี่อันอย่าปล่อยพี่หมอหลุดมือไปเด็ดขาดเชียวนะ ผมอยากได้พี่หมอเป็นพี่เขย)“ถามเขารึยัง ว่าอยากเป็นเขยบ้านเรารึเปล่า”(เดี๋ยวผมถามเลย ตอนนี้พี่หมอกำลังดูอาการแม่อยู่พอดี)“ประชด” เธอตอบกลับน้องชาย
อันดา…เธออ่านข้อความของรามิลที่ส่งเข้ามาเมื่อครู่พร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงเสียงดังโครมคราม ปกติไปไหนมาไหนเขาไม่เคยรายงาน นี่เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้กำลังกลับ…ประโยคสั้นๆ ดูเหมือนไม่มีอะไร หากแต่ทำให้คนได้รับรู้สึกพิเศษขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก มองข้อความของรามิลอีกครั้ง แชตที่คุยกันมีไม่เยอะนัก ข้อความส่วนใหญ่เป็นการคุยเรื่อง ‘งานบนเตียง’ทว่าวันนี้มันกลับแตกต่างออกไป รามิลรายงานทุกความเคลื่อนไหวตั้งแต่ ถึงโรงพยาบาลแล้ว กำลังเข้าห้องผ่าตัด ผ่าตัดเสร็จแล้ว ล่าสุดคือ กำลังกลับบทสนทนาเริ่มมีมากกว่าการคุยเรื่องงานบนเตียง เธอไม่ติดใจคำพูดไหนเท่ากับประโยคล่าสุดที่เขาส่งมา รามิลกำลังทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนพิเศษ ทั้งที่ในความเป็นจริง…แค่เด็กในสต็อก“คิดไปไกลแล้วยัยอันดา” เธอบอกตัวเอง ก่อนจะรีบสะบัดไล่ความคิดในหัวออก•••รามิลเปิดประตูเพนท์เฮาส์แล้วก้าวเข้ามา เสียงโทรทัศน์จากโซนห้องนั่งเล่นทำให้คุณหมอหนุ่มเดินไปดู สายตามองอันดาที่กำลังนอนหลับบนโซฟา ปล่อยให้หนังที่เปิดเอาไว้ดูตัวเองนอนหลับเขาวางเสื้อกาวน์รวมถึงไอแพดลงโซฟาตัวว่าง ก่อนจะโน้มตัวลงไปหาอันดาพร้อมกับใช้หลังมืออังหน้าผาก ตัวเธอยังค
ปึก! ปึก! ปึก!“อ๊ะ…อ๊า~” พายุสวาทยังคงดำเนินมาเรื่อยๆ จบลงไปแล้วก็ยังบรรเลงขึ้นมาอีกครั้งโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแต่อย่างใดต่างคนต่างยังมีอารมณ์ความต้องการ ไฟและไฟที่กำลังลุกฮือยากจะดับลง เสียงเนื้อกระทบกันปนครางดังไปทั่วห้องนอนโทนสีดำ“อึก! คะ…คุณหมอรามิล ฉะ…ฉันจะเสร็จอีกแล้ว”“อ๊าา เสร็จให้ฉันดู” เวลาผู้หญิงเสร็จสีหน้าจะทรมานมากและครางร้องเสียงหลง เขาเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น ตอกอัดท่อนเอ็นใส่ร่องสวาทอย่างหนักหน่วง สองมือวางประคองเอวบาง พลางก้มมองท่อนเอ็นที่กำลังถูกร่องรักกลืนกิน ภาพนั้นกระตุ้นอารมณ์กระสันให้เพิ่มมากขึ้น ไฟราคะจุดประกายแผดเผาร่างกายจนรู้สึกทรมาน สายตาคู่นั้นมองมาที่เขาอย่างเว้าวอนหากแต่แฝงไปด้วยความทรมานสุดหัวใจ เขามองแล้วยิ้มมุมปากอย่างพอใจ เร่งความเร็วเพื่อส่งอันดาถึงจุดหมาย“คะ…คุณหมอรามิล…อร้าย!!” เขากัดฟัดแน่น เสียงครางเรียกชื่อเขาก่อนคนป่วยแตะขอบสวรรค์มันทำอารมณ์เขาพลุ่งพล่าน อีกทั้งภายในที่บีบรัดถี่ๆ ดูดท่อนเอ็นไว้หนึบราวกับต้องการบดขยี้ให้แหลกลาญ ปึก! ปึก! ปึก!“อ๊ะ! คุณรามิล! อื้ออ!!” เธอยกมือไปดันหน้าท้องแกร่งของรามิลออก หากเขากระแทกต่อแบบนี้ฆ่าเธอให้ตายเ
“เป็นไงบ้างแม่ เจ็บตรงไหนไหม ปวดหัวรึเปล่า”“แม่โอเค คุณหมอมือเบามาก ไม่เจ็บอะไรเลย” อ้อมบอกลูกสาวที่ยิงคำถามมารัวๆด้วยรอยยิ้มใจดี ข้างๆเป็นคุณหมอรามิลรู้เรื่องของคุณหมอรามิลและลูกสาวจากอัยย์มาคร่าวๆ คุณหมอยังโสดไม่มีแฟน ก่อนหน้านี้แอบขายลูกสาวให้คุณหมอฟัง ตั้งแต่เข้ามารักษาตัวที่นี่ก็รู้สึกถูกชะตากับหมอรามิลมากเป็นพิเศษ ยิ่งได้รู้ว่าอันดารู้จักกับคุณหมอรามิล งานนี้เลยเข้าทางตนเลยละ“ต้องขอบคุณคุณหมอรามิล นอกจากจะหล่อแล้วยังมือเบาอีกต่างหาก เป็นการผ่าตัดที่ทำให้แม่ไม่รู้สึกกลัวเลยสักนิด”รามิลยิ้มรับในตอนที่อ้อมหันมาพูดด้วย“ว่างๆเชิญคุณหมอมาทานข้าวด้วยกันที่บ้านนะคะ”“ครับ”“แม่พูดไรเนี่ย…” เธอกระซิบกับแม่สองคน ยังไม่ทันรู้จักรามิลดีพอชวนไปทานข้าวที่บ้านแล้ว ส่วนรามิลก็ตามน้ำเก่งมากเหลือเกิน“อันกับคุณหมอรู้จักกันไม่ใช่เหรอ เจ้าอัยย์บอกแม่ว่าอันเคยพาคุณหมอไปที่บ้านด้วยนะ”เธอหันขวับไปมองอัยย์ ถลึงตาพร้อมกับชี้นิ้วใส่หน้าไอ้คนตัวต้นเรื่อง นึกแล้วเชียวว่าอัยย์ต้องบอกแม่เรื่องรามิล ไม่รู้เล่าไปเยอะแค่ไหน เล่าให้แม่ฟังไม่เท่าไร เธอกลัวว่าอัยย์จะเสริมในสิ่งที่ไม่ใช่เข้าไปด้วยเนี่ยสิ…พ่อ
แบบนี้ค่อยดูน่าสนใจข้อเสนอใหม่ของเขาขึ้นมาหน่อยเงินมา… สัญญาเป็นอัน ‘ตกลง’สำหรับเธอเรื่องเงินคือเรื่องสำคัญ รามิลยื่นข้อเสนอน่าสนใจมาขนาดนี้ใครจะปฏิเสธลง ตอนแรกไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้เพราะมันเป็นเรื่องที่ผิด แต่เงินสามารถเปลี่ยนทุกอย่างให้กลายเป็นถูกได้“แค่แกล้งเป็นแฟนปลอมๆให้ฉันปีเดียว หลังจากนั้นเธอจะเป็นอิสระ หรืออาจจะไม่ถึงปี”“ทำไมนานขนาดนั้น”“ก็ต้องเล่นบทแฟนให้มันเนียนหน่อยสิ ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ให้เธออยู่ในสถานะแฟนปลอมๆของฉันนานถึงปีหรอก เบื่อแล้วเดี๋ยวจะบอก หรือถ้าฉันเจอคนที่ตัวเองอยากหยุดด้วย สัญญาของเราเป็นอันสิ้นสุด”เธอครุ่นคิด สัญญาใหม่ของรามิลน่าสนใจดี เงินหลังจากจบสัญญาสิบล้านบาท เงินเดือนอีกสองแสนบาท กว่าสถานะแฟนจอมปลอมจะสิ้นสุด เธอคงได้จากเขาไปเยอะพอสมควรใครไม่เอาก็บ้าแล้ว…“ตกลง”“…”“ฉันรับข้อเสนอใหม่”รามิลยิ้มมุมปากอย่างพอใจ คิดไว้แล้วว่าเธอต้องตอบตกลงรับข้อเสนอนี้ เจรจากับอันดาต้องใช้เงินเท่านั้น“ดีล”“ดีล” เธอยื่นมือไปจับมือกับรามิลเพื่อทำสัญญาของข้อตกลงนี้ ถึงไม่ได้เซ็นสัญญาแบบจริงๆจังๆ แต่มั่นใจว่าเขาไม่มีทางเบี้ยวเธอแน่นอนถึงตอบตกลงรับข้อเสนอไปแล้วแต่ก็
เอาน่าอันดา… จบงานนี้เธอรับเต็มๆสิบล้านบาทมาถึงจุดนี้ได้มันไม่มีอะไรต้องเสียแล้ว จบงานนี้เธอและครอบครัวก็จะสบายไปอีกนาน นอกจากได้เงินสิบล้านแล้ว ยังได้เงินเดือน เดือนละสองแสนบาทอีกด้วยคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม“อันดาไปกินข้าวด้วยกันไหม””ไปกินกันเลย วันนี้เราห่อข้าวมา” เธอบอกเพื่อนร่วมงานที่ชวนไปกินข้าวเที่ยงด้วยกัน “เอาอะไรไหม เดี๋ยวซื้อมาให้”“ไม่เอาๆ ขอบใจนะ”เพื่อนร่วมงานสองคนเดินออกไปจากร้าน และสวนทางกับลูกค้าผู้หญิงสองคนพอดี ทั้งคู่เดินตรงเข้าไปหน้าเคาน์เตอร์เพื่อสั่งเครื่องดื่ม “รับอะไรดีคะ” เธอเอ่ยถามลูกค้าสองคนที่เพิ่งเดินเข้ามา ความสวยของทั้งคู่ดึงความสนใจจากลูกค้าในร้านให้หันมามอง ไม่ใช่แค่ความสวยอย่างเดียว ทั้งการแต่งตัวที่ดูดีบวกกับออร่าบางอย่างที่แผ่ซ่านออกมา ขนาดเธอที่เป็นผู้หญิงด้วยกันยังไม่อาจละสายตาไปได้ นี่สินะที่เขาบอกว่า สวยสะกดทุกสายตา…“สตอรอว์เบอร์รี่ไอซ์ทีกับมัทฉะล้าเต้”“ทั้งหมดหนึ่งร้อยหกสิบบาทค่ะ”เธอเอื้อมมือรับเงินจำนวนหนึ่ง ก่อนจะก้มหน้านับเงินทอนคืนให้ลูกค้า “หมอรามิลมีแฟนแล้วจริงๆเหรอ”กึกกเธอชะงักเมื่อได้ยินชื่อรามิล เผลอเงยหน้าขึ้นมองผู้หญิงสองคนอย่างไ
ณ ร้านอาหารหรู…เธอมองไปรอบร้านอาหารหรูระดับมิชลินสตาร์ ไม่ใช่ครั้งแรกที่มาทานอาหารหรูแบบนี้ ปกติคาร์เทียร์ชอบพาเธอมาทานอาหารที่ร้านแบบนี้บ่อย ทว่าร้านที่รามิลพาเธอมาวันนี้หรูหราหมาเห่ามาก มองไปทางไหนเห็นแต่ไฮโซทั้งนั้น การแต่งตัวที่ดูดีประดับด้วยแบรนด์เนมเกือบทั้งตัว พอมองกลับมาที่ตัวเอง เสื้อยืดและกางเกงยีนธรรมดาๆ ไม่มีของแบรนด์เนมประดับให้ดูมีราศีคนมีเงิน ตอนเดินเข้ามาในร้านเหมือนอีแจ๋วส่วนตัวของรามิลอย่างไรอย่างนั้นคนในร้านมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ เพราะทุกคนต่างแต่งตัวดูดีมีไฮคลาส ส่วนเธอเรียบง่ายและธรรมดาเกินไป ไม่แปลกใจทำไมถึงโดนกลายเป็นจุดสนใจเหมือนรามิลคราวก่อน เขาแต่งตัวเต็มยศแถมยังดูดีทุกระเบียบนิ้ว จึงทำให้เขากลายเป็นจุดสนใจในร้านอาหารตามสั่งเล็กๆ สลับกับเธอวันนี้ แต่แตกต่างตรงที่ไม่ได้ดูดีเท่ารามิลคราวก่อนรามิลตามใจเธอ คราวนี้เลยอยากตามใจเขากลับบ้าง“พาฉันมากินอาหารที่นี่คุณก็ไม่ดูชุดฉันเลย”“ไม่ได้ดูแย่สักหน่อย” ดูดีด้วยซ้ำ ถึงอันดาแต่งตัวเบากว่าลูกค้าคนอื่นในร้าน สวมใส่เพียงเสื้อยืดและกางเกงยีนธรรมดาๆ แต่มันกลับทำให้เธอดูดีอย่างบอกไม่ถูก อันดาใส่อะไรก็ดูดีและสวย แต่ดูเห
หลายวันต่อมา ปึก! ปึก! ปึก! “อะ อ๊ะ~”รามิลเริ่มเคลื่อนไหวส่วนล่างไปมาอย่างด้วยจังหวะเนิบนาบ สายตาคมเข้มมองเรือนร่างขาวผุดผ่องของคนใต้ร่างด้วยความหลงใหล หน้าท้องแบนราบตอนนี้เริ่มนูนขึ้นมาเล็กน้อยเพราะมีอีกหนึ่งชีวิตกำลังลืมตาออกมาดูโลก“อึก! อ๊ะ อ๊ะ~” เธอเสียวสะท้านไปทั่วร่างกาย ในระหว่างที่รามิลกระแทกท่อนเอ็นแข็งขึงเข้ามาเขาโน้มตัวลงไปจูบอันดาอย่างอ่อนโยน เธอยกแขนมาคล้องคอเอาไว้หลวมๆ ขณะที่ท่อนเอ็นยังคงตอกอัดใส่โพรงถ้ำอย่างหนักหน่วง ภายในตอดรัดแท่งเอ็นจนรู้สึกเสียวสะท้านไปทั่วร่างกาย กลิ่นตัวอันดาหอมเย้ายวนจนเขาอดที่จะสูดดมเข้ามาในปอดไม่ได้“อืมม ตอดดีจังเลยนะ” เขาทำหน้าเหยเกด้วยความเสียวซ่าน สีหน้าทรมานของอันดาตอนนี้ยังกระตุ้นอารมณ์กระสันในกายให้เพิ่มมากขึ้นได้ไม่ยาก“อ๊ะ…อ๊า~” แท่งเอ็นของเขามันเคลื่อนเข้ามาลึกมากขึ้นเรื่อยๆ จนรู้สึกว่าส่วนหัวมันแทบจะชนผนังด้านในอยู่แล้ว “อ่า…”“อึก! มัน…มันแรงเกินไป เบาๆ หน่อยได้ไหม…” กระแสเสียวซ่านวิ่งปราดไปทั่วร่างกายจนนอนบิดเร่าร่างกายไปมาด้วยความทรมาน แรงกระแทกหนักหน่วงจากเขาทำให้เธอแทบหยุดหายใจเสียงเนื้อกระทบกันดังไปทั่วห้องนอน คนตัวเล็กค
ก๊อก ก๊อก“ใคร” “ผมเองครับ แม็ค”“เข้ามา”‘แม็ค’ คนของราเชนทร์เปิดประตูเข้ามา หลังจากได้รับอนุญาตจากเจ้านาย เดินมาหยุดอยู่หน้าเจ้านายหนุ่มที่กำลังนั่งยกขาไขว่ห้างสูบบุหรี่ รามิลอัดบุหรี่เข้าเต็มปอด ก่อนจะพ่นควันสีขาวเจือเทาออกมาอย่างใจเย็นการมาของแม็คทำให้เขารู้สึกดีใจ เพราะแม็คคือลูกน้องคนสนิทของพ่อ เขาขอให้พ่อช่วยตามหาคนที่ขับรถชนป้าของอันดา คนของพ่อทำงานเร็วมาก ใช้เวลาแค่สามวันก็สามารถรู้ตัวคนทำแล้ว“รู้ตัวคนทำแล้วครับคุณรามิล”“มันเป็นใคร”“จริงๆคนที่ขับรถชนถูกสั่งมาอีกทีครับ ผมสืบสาวจนรู้ว่าคนสั่งการคือคุณควีน”“ควีน?” เขาเลิกคิ้วขึ้นสูงพร้อมกับย้ำชื่อที่ได้ยินเมื่อครู่อีกครั้ง “ครับ คุณควีนคือคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้” เขาอึ้งและช็อกในเวลาเดียวกัน หลังจากรู้ว่าควีนคือคนอยู่เบื้องหลังอุบัติเหตุของกุล คาดไม่ถึงว่าจะเป็นควีน จิตใจทำด้วยอะไรถึงโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้ จ้างคนให้ขับรถชนกุล ป้าแท้ๆของอันดาแบบนี้เรียกตั้งใจฆ่าให้ตายแล้ว“ผมรวบรวมหลักฐานทั้งหมดมาให้ ที่เหลือขึ้นอยู่กับคุณรามิลและคุณอันดา ว่าจะทำยังไงต่อไปครับ”ครอบครัวควีนมีอิทธิพลและมีหน้ามีตาทางสังคมพอสมควร พ่อของควีนค
หลายวันต่อมาพายุที่โหมกระหน่ำมานานกลายเป็นความสงบสุขในเวลาต่อมา รามิลให้สัญญาว่าจะดูแลอันดาและลูกน้อยเป็นอย่างดีใช่แล้ว…ตอนนี้ทั้งคู่กำลังได้รับบทบาทใหม่แสนท้าทาย นั่นคือการเป็นคุณพ่อและคุณแม่ป้ายแดง รามิลดีใจจนร้องไห้หลังจากรู้ว่ากำลังเลื่อนขั้นเป็น ‘คุณพ่อ’ในตอนแรกอันดานึกภาพไม่ออกถ้าเกิดตัวเองมีลูกขึ้นมาจริงๆ ทว่าหลังจากผลออกมาว่ากำลังตั้งครรภ์ ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นคือ อึ้ง ต่อมาตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูกเคยกังวลอะไรหลายอย่าง หลังจากกลับมาเชื่อใจรามิลอีกครั้งไม่มีอะไรให้กังวลอีกต่อไป รามิลเป็นคนเข้าไปสารภาพกับแม่อันดาเรื่องนี้ด้วยตัวเองอ้อมเข้าใจและไม่ถือโทษโกรธ ตรงกันข้ามดีใจด้วยซ้ำที่จะได้อุ้มหลานคนแรก ส่วนครอบครัวรามิลไม่มีปัญหาอะไร ดีใจและเตรียมของรับขวัญหลานไว้รอแล้วหลานคนแรกของตระกูลภูริธนากุล ว่าที่คุณปู่และคุณย่าเล่นใหญ่รัชดาลัยแน่นอนครืด ครืดเธอคว้าโทรศัพท์มาแล้วกดรับสายแม่ที่โทรมาหา“คะแม่”(อัน ป้ากุลโดนรถชน อาการสาหัสมาก ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล)“อะ…อะไรนะ ป้ากุลโดนรถชน?” ใจเธอหล่นวูบเมื่อได้ยินแบบนั้น ถึงจะโกรธกับสิ่งที่ป้ากุลทำไว้ในอดีต แต่พอเกิดเรื่องนี้ขึ้นกับป้
“คุณกำลังทำอะไร”“ทำงาน”“ทำงานแล้วทำไมถึงมีไวน์ด้วย”“เพิ่งสั่งมาเมื่อกี้”“คุณไปดื่มไกลๆได้ไหม” เธอบอกเขาด้วยท่าทางหงุดหงิด ช่วงนี้เป็นอะไรไม่รู้ รู้สึกหงุดหงิดง่ายกว่าปกติ ไม่ว่ารามิลทำอะไรก็ไม่เคยถูกใจเลยสักอย่าง แถมช่วงนี้ยังรู้สึกคลื่นไส้บ่อยๆ กินเยอะผิดปกติ แถมยังอ่อนเพลียง่าย บางครั้งเธอก็เผลอนึกย้อนกลับไปในคำพูดของรามิลตอนนั้น‘แพ้ท้องเหรอ’ถึงรามิลเคยบอกว่าอยากมีลูกกับเธอ ทว่ามันก็แอบกังวลไม่ได้อยู่ดีถ้าเกิดว่าท้องขึ้นมาจริงๆ “ทำไม”“ฉันไม่ชอบ”คุณหมอหนุ่มมองไวน์ราคาแพง ก่อนจะดึงสายตากลับไปมองคนตัวเล็กอีกครั้ง“ไม่ชอบที่ฉันดื่มไวน์?”“ไม่ชอบทั้งที่คุณดื่มไวน์และกลิ่นของมัน”“กลิ่นก็ไม่ได้แย่นะ ออกจะหอม”“ก็ฉันไม่ชอบ มันเหม็น ถ้าคุณอยากดื่มก็ไปดื่มที่อื่น”เขามองอันดาสลับกับไวน์ที่วางอยู่ตรงหน้า แบบนี้เริ่มไม่ใช่ละ อาการของอันดานับวันยิ่งเหมือนคนแพ้ท้อง เขาเป็นหมอทำไมจะดูไม่ออก ถึงไม่ได้จับตรวจโดยตรง แต่อาการของอันดามันฟ้องทุกอย่าง“พรุ่งนี้กลับกรุงเทพกัน”“ฉันยังไม่อยากกลับ”เขาดึงตัวเองขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินเข้าไปหาอันดา“เธอรู้ไหมว่าอาการของเธอนับวันยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
เช้าวันต่อมา“อื้อ~” หญิงสาวนอนส่งเสียงดังในลำคอออกมาเบาๆ พร้อมกับพลิกตัวเข้าหาไออุ่นจากคนข้างกาย ใบหน้าสวยหวานซุกลงแผงอกอุ่นคุ้ยเคย ก่อนจะเริ่มลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก และเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของอ้อมกอดอบอุ่นนี้รามิลนอนกอดเธอทั้งคืน…เมื่อคืนหลังไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ หลังจากอาบน้ำเสร็จออกมานอนเล่นโทรศัพท์อยู่โซฟา รู้สึกง่วงเลยงีบไปสักพัก ทว่าไม่คิดว่าตัวเองจะหลับจริง ตื่นขึ้นมาอีกทีช่วงเที่ยงคืนเพราะหิวน้ำ ตอนนั้นรามิลกำลังนั่งทำงานอยู่มุมหนึ่งของห้อง กลับมานอนต่อก็หลับไปเลยทันที ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเหนื่อยมาจากไหน เธอหลับตาแล้วนอนต่อในอ้อมกอดของรามิล ชอบเวลาได้นอนในอ้อมกอดอุ่นๆนี้•••คุณหมอหนุ่มตื่นจากการนอนหลับในช่วงเก้าโมงเช้า อ้อมกอดที่ว่างเปล่าทำให้รามิลลืมตาพรึ่บทันที ดีดตัวเองขึ้นมานั่งแล้วมองหาอันดา เธอไม่ได้นอนอยู่ตรงนี้แล้ว…เขาดึงผ้าห่มออกแล้วก้าวลงจากเตียง“ไปไหนอีกวะ!” เขาพูดคนเดียวอย่างกระวนกระวาย กำลังก้าวขาเดินออกไปก็ต้องชะงัก เมื่อได้ยินเสียงดังอ้วกอ้ากออกมาจากห้องน้ำเขาเปิดประตูห้องน้ำเข้าไป เห็นอันดากำลังลุกขึ้นจากชักโครก ก่อนจะกดชักโครกแล้วหันมามองเขา เธอเดิน
เธอยืนกอดอกมองออกไปนอกทะเลตรงหน้าด้วยความคิดมากมาย ปล่อยสายลมเย็นพัดผ่าน พากลิ่นอายของน้ำทะเลลอยมาเตะจมูก เสียงเกลียวคลื่นดังระงมไปทั่วชายหาด มองคลื่นทะเลที่ซัดเข้ามาชายฝั่งแล้วไหลย้อนกลับ เฉกเช่นเดียวกับความรู้สึกของเธอตอนนี้ ครั้นจะเดินออกไปก็ไม่กล้าพอ ทำได้แค่วนเวียนอยู่แบบนี้เพราะไม่สามารถไปไหนไม่ได้เธอมาที่นี่เพราะตั้งใจหนีหน้ารามิล อยากอยู่คนเดียวเพื่อทบทวนตัวเองอีกครั้งมาได้แค่ตัว ส่วนหัวใจยังอยู่กับเขา…เธอหมุนตัวเตรียมเดินกลับเข้าไปข้างในวิลล่าของครอบครัวคิระ หากแต่ต้องหยุดชะงักเมื่อสายตาพลันเห็นใครบางคนที่ยืนมองมาทางนี้รามิล…เขามาได้ยังไง?“เจอตัวแล้ว”เธอตกใจจนทำอะไรไม่ถูกที่เห็นรามิล สองเท้าถอยกรูดออกห่างเมื่อเขาเดินเข้ามาหา ก่อนจะรีบก้าวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว หากแต่ว่า…หมับรามิลคว้าแขนเธอแล้วดึงเข้าไปหา ร่างกายแนบชิดกันจนได้กลิ่นน้ำหอมประจำตัวของเขา“หนีมาทำไม”“ฉันอยากอยู่คนเดียว”“ให้จีบแล้วหนีมาดื้อๆแบบนี้ แถวบ้านเรียกขี้โกง”“ขี้โกงตรงไหน ฉันแค่อยากอยู่คนเดียว”“แต่ฉันอยากอยู่กับเธอ” เขาพูดพร้อมกับกระชับกอดอันดาให้แน่นขึ้น“คุณมาที่นี่ได้ยังไง”“เมียหายทั้งคนก็ต
“ยัยอันบอกว่าพี่หมอรามิลจะจีบ”“มันบอกพี่เหมือนกันว่าจะจีบอันดา”คิระมองภรรยาสาวที่ทำสีหน้าเป็นกังวล “เป็นห่วงอันดาเหรอ”“ใช่ค่ะ กลัวเพื่อนพี่คิระหลอกยัยอันอีก ไม่อยากเห็นเพื่อนตัวเองต้องมานั่งร้องไห้เสียใจเหมือนที่ผ่านมา”“รามิลไม่เคยจีบผู้หญิงมาก่อน การที่มันบอกว่าจะจีบอันดา พี่ว่ามันพูดจริง” เป็นเพื่อนกับรามิลมานาน รู้ไส้รู้พุงกันหมดทุกอย่างแล้ว คนที่ไม่เคยจีบผู้หญิงมาก่อนแบบรามิลไม่มีทางพูดลอยๆ เพราะมันไม่ทำอะไรที่ฝืนใจตัวเอง ถ้าบอกว่าจีบก็คือจีบ“ถ้าเพื่อนพี่คิระรักยัยอันดาจริงๆก็ดีไป กลัวแต่จะหลอกนี่สิ” ทำเพื่อนสนิทตัวเองเจ็บครั้งเดียว ไม่กล้าเชื่อคนแบบรามิลอีกเลย รักอันดาจริงก็ดี ไม่อยากให้หลอกเพื่อนสนิทตัวเองเหมือนอย่างที่ผ่านมาคิระยิ้ม“รอดู พี่ว่าครั้งนี้มันเอาจริง”“ขอให้เป็นอย่างที่พี่คิระพูด เทียร์ไปหาลูกก่อนนะ”มาเฟียหนุ่มพยักหน้าให้ภรรยาสาว นึกภาพไม่ออกเลยว่าคนที่ไม่เคยจีบผู้หญิงมาก่อนแบบรามิล จะจีบอันดายังไงให้ติดอีกครัง•••“อันดาเพิ่งลาออกไปเมื่อวานเองค่ะคุณหมอ”“ลาออก?”“ใช่ค่ะ” “ขอบคุณครับ”“ทะเลาะกันเหรอคะ?”“นิดหน่อยครับ” “สู้ๆนะคะ โบนัสเป็นกำลังใจให้” โบนัส
“สิ่งที่คุณทำกับฉัน มันทำให้ฉันไม่อยากเชื่อคำพูดของคุณอีก คาร์เทียร์เตือนฉันเรื่องคุณหลายครั้ง แต่ฉันยังพยายามที่จะรักคุณ ถ้าวันนั้นฉันทำตามที่คาร์เทียร์บอก วันนี้ฉันก็คงไม่ต้องเสียใจ” “ฉันผิดไปแล้ว…” “ฉันไม่อยากเชื่อคุณ ไม่อยากกลับไปรักคุณอีก อยากหนีคุณไปไกลๆ แต่ทำไมฉัน…ฉันถึงทำไม่ได้”รามิลดึงตัวขึ้นจากตักอันดา ดวงตาแดงก่ำมองใบหน้าสวยหวานซึ่งเต็มไปด้วยคราบน้ำตาพร้อมกับหัวใจแกร่งที่สั่นไหวเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้ เขาไม่ชอบเวลาอันดาร้องไห้ แต่มันก็มาจากตัวเองทั้งหมด ที่อันดาร้องไห้ก็เพราะเขาผิดเองที่เข้าไปหลอกให้อันดารัก ถ้าได้โอกาสอีกครั้งจะทะนุถนอมความรู้สึกเธอไว้เป็นอย่างดี“ทำไมถึงทำไม่ได้”“ฮึก…” เธอเบือนหน้าไปทางอื่นแทนการมองหน้าเขา เหตุผลเพราะอะไรนะเหรอ? เพราะเธอยังรักและขาดเขาไม่ได้“เพราะเธอยังรักฉันอยู่ใช่ไหม”“ใช่ มันน่าตลกใช่ไหมที่ฉันยังรักผู้ชายที่หลอกให้ฉันรักอย่างคุณอยู่ ฉันควรถอยออกมาไม่ใช่…ไม่ใช่ยังรักคุณอยู่”แค่รู้ว่าอันดายังรักเขาอยู่ ก็รู้สึกมีความหวังขึ้นมาแล้ว…“คุณออกไปจากชีวิตฉันได้ไหม คุณเป็นคนเดินออกไปเองได้ไหม” เพราะเธอไม่สามารถเดินออกมาจากชีวิตของรามิล
“เหอะ! รักเหรอ? พูดออกมาได้ยังไงว่ารัก ไม่อายบ้างเหรอคะ เมื่อนึกย้อนกลับไปมองการกระทำของตัวเองในอดีต”“ฉันรู้ว่าทำไม่ดีกับเธอไว้เยอะ แต่ครั้งนี้จริงจัง ไม่ได้เข้ามาหลอกเธอด้วย ฉันรักเธอจริงๆนะอันดา”เธอเบือนหน้าหนีไปทางอื่น“เธอยังไม่ต้องเชื่อฉันตอนนี้ก็ได้ แต่จะทำให้เห็นว่าฉันรักเธอจริงๆ”เธอคิดว่าวันนั้นที่รามิลมาหาถึงหน้าบ้านจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เจอกัน ทว่ามันกลับไม่ใช่ เริ่มสับสนกับสิ่งที่เขาทำอยู่ตอนนี้ว่าจริงหรือหลอก ไม่กล้าเชื่อเพราะที่ผ่านมาเขาโกหกเธอมาโดยตลอดถึงจะบอกกับตัวเองว่าไม่เชื่อ แต่หัวใจกลับอ่อนไหวทุกครั้งที่เห็นหน้าเขารามิลจับเรียวคางของอันดาให้หันกลับมาหา ก่อนจะโน้มใบหน้าลงไปใกล้คนใต้ร่าง อันดาพยายามเบือนใบหน้าหนีแต่กลับทำไม่สำเร็จ ริมฝีปากทั้งคู่บรรจบกัน แรงบดคลึงจากคนตัวโตทำหัวใจดวงน้อยสั่นไหว ริมฝีปากหยักได้รูปขบเม้มปากล่าง เริ่มสอดแทรกลิ้นสากเข้าไปในโพรงปากนุ่มเพื่อหยอกล้อกับลิ้นเล็ก มือเรียวที่พยายามดันไหล่แกร่งออกอ่อนแรงลง เช่นเดียวกับร่างกายที่เริ่มอ่อนระทวยราวกับขี้ผึ้งโดนไฟลนจูบแสนดูดดื่มถูกถอนออกอย่างอ้อยอิ่งในเวลาต่อมา“ฉันเกลียดคุณ”“ปากบอกว่าเกลียด