บ้านคุณตาของนลินญาเป็นบ้านไม้ในเนื้อที่หนึ่งไร่ รอบบ้านรายล้อมไปด้วยดอกไม้และพรรณไม้หลากหลายชนิด กลิ่นดอกไม้ที่บานสะพรั่งในยามค่ำคืนลอยโชยมาตามลมทำให้อริสาที่เพิ่งเดินเข้ามาภายในบ้านพร้อมกับศารทูลรู้สึกสดชื่นสบายใจ
“ดูเหมือนเจ้าตัวป่วนจะชอบดอกไม้นะ” ศารทูลเอ่ยเมื่อเห็นท่าทีของแม่ของลูก นี่ยืนดมดอกไม้ข้างประตูรั้วขวางทางคนอื่น ๆ เขายังไม่รู้สึกรู้สาเลย ดีนะที่นลินญาบอกว่าจัดแค่ในครอบครัวไม่ได้ชวนใครมา ไม่อย่างนั้นคงมีคนบ่นเข้าให้ว่าเขากับเธอกีดขวางทางอยู่
“อยากกินอะ”
“หะ อยากกินอะไร?”
“ดอกไม้ไง ที่มันหอม ๆ เนี่ย อยากกิน” หญิงสาวเอ่ยพร้อมกับสูดกลิ่นหอมเข้าปอดอีกครั้ง ถ้าไม่ติดว่าคุณตาภานุของนลินญารักต้นไม้ ดอกไม้มากจนไม่ให้ใครแตะล่ะก็เธอจะขอลิ้มรสดอกไม้พวกนี้สักครั้ง
ศารทูลกะพริบตาปริบ ๆ ทำไมคนท้องนี่ชอบกินอะไรประหลาดจังเลย ดอกไม้เนี่ยน่ะ มันกินได้ด้วยเหรอ?
ปริ๊น ๆ
เสียงแตรรถยนต์ดังมาจากด้านหลังทำให้ศารทูลตื่นจากภวังค์ความงุนงง ชายหนุ่มรวบกอดร่างบางก่อนจะพาหลบจากทางรถ ดวงตาคมมองรถที่
ขณะที่ทุกคนพยายามทำตัวให้สนุกกับการพูดคุยและรับประทานอาหารเย็นโดยปล่อยเรื่องก่อนหน้านี้ไว้ข้างหลังคนที่นั่งเงียบมาตลอดกลับเลี่ยงออกมายืนโทรศัพท์ด้วยใบหน้าไม่บ่งบอกความรู้สึกใด ๆ ทั้งสิ้น แววตาที่เคยดูอ่อนโยนนิ่งสนิทแปรเปลี่ยนเป็นเข้มขึ้นหากไม่มองนาน ๆ ไม่มีทางดูรู้เลยว่ากำลังโกรธแค้นใครสักคนอยู่“แกทำบ้าอะไรของแกอยู่ ลูกไอ้เลวนั่นถึงยังนั่งยิ้มหน้าระรื่นอยู่ได้” เสียงเข้มน่ากลัวที่แตกต่างไปจากเสียงปกติมากโขเอ่ยถามเมื่อปลายสายรับสาย“พี่เจออลินเหรอ?”“ฉันจะเจอยัยนั่นหรือไม่มันไม่สำคัญ สำคัญที่แกไปมัวทำอะไรอยู่ยัยนั่นถึงยังยิ้มหน้าระรื่นอยู่ได้ต่างหากล่ะ แกตอบฉันมาเดี๋ยวนี้นะไอ้ตฤณ” สิรานนท์ถามปลายสายที่ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นคนที่อริสารู้จักดีอย่างตฤณกันต์นั่นเอง“ผมก็กำลังทำให้เป็นไปตามแผนอยู่ แต่ผู้หญิงคนนี้ยากกว่าที่เราคิด”“แกไม่มีปัญญามากกว่ามั้ง ฉันให้โอกาสแกอีกแค่สองวันถ้าแกยังทำให้ได้ตามแผนไม่ได้ ฉันจะจัดการเอง”“พี่นนท์ พี่...” สิรานนท์ไม่นำพากับเสียงของปลายสาย ชายห
อริสานิ่งไปกับคำชวนโต้ง ๆ ของชายหนุ่ม มีใครที่ไหนชวนมารักกันเหมือนชวนเล่นขายของแบบนี้เล่าบ้าบอจริง โรแมนตง โรแมนติกไม่มีหรอก แล้วเธอจะตอบยังไงดีล่ะเนี่ย...อยู่ ๆ ก็ปฏิเสธไม่ออกขึ้นมาเสียอย่างนั้น“อย่ามาพูดเล่นแบบนี้นะ ฉันไม่สนุกด้วย” ในที่สุดหญิงสาวก็เอ่ยขึ้น คิด ๆ ดูแล้วน่าจะเป็นคำพูดเล่นเสียมากกว่า“เรื่องแบบนี้ใครเขาเอามาพูดเล่นกันล่ะ เคยเห็นฉันพูดเล่นในเรื่องทำนองนี้มั้ย”“ก็ใครจะไปรู้เล่า นายอาจจะแกล้งพูดพอฉันเผลอหลวมตัวนายอาจจะหัวเราะเยาะฉันก็ได้”“ก็บอกว่าอย่าขี้มโนไงเล่า ฉันเคยทำแบบนั้นเหรอ?”“เคย” หญิงสาวสวนกลับอย่างรวดเร็ว “ที่ไปปลูกป่ากันตอนม.ห้าไง”ศารทูลเบิกตาแทบจะถลนเมื่อได้ยินคำว่าปลูกป่า ความทรงจำที่ฝังลงลึกจนแทบจะลืมเลือนไปแล้วผุดขึ้นมาในสมองราวกับก๊อกน้ำถูกเปิด ใบหน้าคมร้อนผ่าวจนต้องเบือนหนี มันเป็นความทรงจำที่ทำให้เขาเขินและอับอายขึ้นมาพร้อม ๆ กัน“หึ ถึงกับไม่กล้าสู้หน้าเชียวเหรอ ไงล่ะ ยังจะกล้าพูดว่านายไม่เคยทำแบบนั้นอีกรึเปล่า?”
“แต่ฉัน...” ศารทูลพูดเพื่อหยุดเด็กสาวไว้ก่อนจะถอนหายใจแรง ๆ อย่างตัดสินใจ“ฉันชอบนะ” เด็กหนุ่มเอ่ยก่อนจะเว้นคำพูด “ชอบเธอน่ะ”“อะ อะ อะไรนะ?” เด็กสาวเบิกตากว้างไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้จากคนที่เป็นคู่ปรับกัน“ชอบไงเล่า มาคบกันมั้ย?”อริสามองดวงตาคู่คมที่ทอประกายจริงจังครู่นึงก็ต้องเบือนหนีด้วยความขัดเขิน ทว่าไม่ทันได้ตอบเสียงร้องเรียกของใครคนนึงก็ดังขึ้นศารทูลตอบรับเสียงนั้นซึ่งก็คือปุริมปรัชญ์และคนอื่น ๆ ก่อนจะหัวเราะ “ฮะฮะ ดูทำหน้าเข้า ฮันแหน หลงความหล่อพี่ล่ะสิน้อง”“นี่นาย...”“ไม่คิดว่าจะเคลิ้ม แหน่ะ ๆ ไม่เจอพี่ปีเดียว ทำไมเขินอะ เห็นพี่หล่อหวั่นไหวใช่มั้ยล่า”“บ้าสิ ฉันไม่ทางเป็นแบบนั้น เหอะ ต่อให้มีนายคนเดียวบนโลกฉันก็ไม่เอา ตายดีกว่าคบคนอย่างนาย” เด็กสาวเอ่ยก่อนจะกอดอกหันหนีคนที่มาพูดเล่นในเรื่องบ้าบอ เธอจะต้องทำให้ไอ้บ้านี่เสียดายที่พูดเล่นให้ได้คอยดูเถอะศารทูลได้ยินอย่างนั้นก็โมโหเบือนหน้า
ร่างสูงนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงขณะที่มือขวากำลังสไลด์หน้าจอสมาร์ทโฟนอ่านข้อความจากแอพพลิเคชั่นไลน์ด้วยใบหน้าเคร่งเครียดการสนทนาที่กำลังเกิดขึ้นเป็นของเขากับนายตำรวจหนุ่มจากญี่ปุ่น มิซาว่า เคนอิจิได้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีที่กำลังร่วมกันทำอยู่มาเพิ่มเติมและเป็นข้อมูลที่เขาอ่านแล้วอ่านอีก ทวนสามสี่รอบก็ไม่เข้าใจ ไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายใช้คำผิดหรือเขาไม่เข้าใจที่อีกฝ่ายพิมพ์มา แต่ไม่เข้าใจที่ตัวเป้าหมายต่างหาก พ่อค้ายาข้ามชาติรายนี้ต้องการอะไรอยู่กันแน่เสียงประตูห้องน้ำเปิดออกทำให้ดวงตาคมต้องละจากสิ่งที่เคร่งเครียดหันไปมอง คนเพิ่งออกจากห้องน้ำดูจะอารมณ์ดีไม่ผิดกับก่อนเข้าไปและดูเหมือนจะสดชื่นขึ้นกว่าเดิมเสียด้วยอริสาเดินไปหยุดนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งก่อนจะทำท่าคล้ายครุ่นคิดบางอย่าง เมื่อเห็นหญิงสาวอารมณ์ดีชายหนุ่มจึงไม่คิดขัดใจอะไร ดวงตาคมหันกลับมาสนใจการสนทนากับหนุ่มสัญชาติเจแปนอีกครั้ง“ป๊า”“หืม?” ศารทูลตอบรับอย่างลืมตัวก่อนจะหันกลับไปมองอีกครั้ง “ฮะ เมื่อกี้เรียกว่าป๊าเหรอ?”“อือ” หญิงสาวตอบรับก่อนจะกว
บนเตียงกว้างที่ยับยู่ยี่ราวกับผ่านศึกสงครามมาอย่างหนักหน่วงของอริสาชายหนุ่มยังคงกกกอดร่างเปลือยเปล่าไว้ไม่ยอมปล่อย แม้ว่าจะรู้สึกตัวตื่นมาสักพักแล้วก็ตาม คนในอ้อมกอดยังคงหลับพริ้มซุกอยู่กับอกแกร่งโดยไม่มีทีท่าจะตื่นศารทูลไม่คิดที่จะปลุกแม่สาวขี้เซาให้ตื่นขึ้นมาจากนิทราภิรมย์ เขาชอบที่จะกอดเธอแบบนี้มากกว่าให้เธอตื่นมาโวยวายให้ถอยห่างใครมาเห็นตอนนี้คงคิดว่าเขาสติฟั่นเฟือน ไม่ก็กำลังเล่นละครหาความจริงใจไม่ได้อย่างแน่นอน อันเนื่องมาจากเวลาที่เขาอยู่กับอริสามันช่างน้อยจนไม่น่าเชื่อว่าเขาจะเปลี่ยนได้ปุ๊บปั๊บ แต่สำหรับเขาแล้วเวลาสองวันที่เขาได้อยู่กับอริสาไม่น้อยเลย มันให้ความรู้สึกราวกับเขาใช้ชีวิตกับเธอมาแล้วสองปีทีเดียวเรื่องของความรู้สึกมันไม่จำเป็นต้องใช้เวลานาน บางคนตกหลุมรักกันในเวลาเพียงไม่กี่นาที บางคนใช้เวลากว่าสิบปีกว่าจะรักคนคนนึงได้ ไม่มีอะไรมายืนยันได้ว่าสิ่งที่เขากระทำ สิ่งที่เขารู้สึกมันเป็นเพียงแค่ละครฉากหนึ่งหรือว่าความจริงรักไม่มีทฤษฎีตายตัว ไม่มีถูกผิด เพราะรักคือความรู้สึก ใครจะไม่เชื่อว่าเขารักอริสาก็ช่าง แต่เขารู้ตัวเองดีว่าลึก ๆ ข้างใ
ขณะที่หนึ่งคนกำลังเดินวนไปวนมาด้วยความรู้สึกหงุดหงิดใจ อีกคนกลับกำลังเปลี่ยนยางรถคันใหญ่ด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์ คนอะไรหาเรื่องแกล้งคนอื่นได้หน้าตาเฉย“รีบ ๆ หน่อยสิสารวัตร ผมต้องรีบกลับบ้านนะ” เสียงเร่งดังมาจากด้านหลังทำให้ศารทูลอยากจะค้อนใส่ เมื่อก่อนล่ะเสืออย่างนั้น อาอย่างนี้ แต่เดี๋ยวนี้สารวัตรบ้างล่ะ ผมบ้างล่ะ“นี่ อย่าชักช้าสิสารวัตร”“ผมก็รีบอยู่นี่ไงครับ ใจเย็น ๆ ยางแตกทั้งสี่ล้อแบบนี้ไม่ได้เปลี่ยนง่าย ๆ” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับเร่งมือเปลี่ยนยางให้ท่านผบช.ผู้มีเมตตา เพราะอยู่ ๆ ยางรถของท่านก็แตกอย่างกับมีคนจงใจเจาะสี่ล้อพร้อมกันแล้วเขาผู้กลายเป็นลูกน้องน่าชังเลยถูกเรียกมาเปลี่ยนยางทั้งที่กำลังจะออกไปแล้วแบบนี้มันเจตนาชัด ๆ ยืนคุยอยู่กับหนุ่มญี่ปุ่นและลูกน้องอีกตั้งสี่ห้าคนดันเรียกเขาคนเดียว ก็รู้ทั้งรู้ว่าเขาต้องรีบกลับเพราะสีหราชโทรมาบอกว่ามีคนกระวนกระวายใจรอเขาอยู่ยังจะมาเรียกให้เปลี่ยนยางอีกพ่อตาคนนี้ช่างเอ็นดูลูกเขยเหลือเกิน...ท่านอาทิตย์มองเจ้าลูกเขยน่าชังก่อนจะลอบยิ้ม ก่อนหน้านี้อริสาโทรมาหาเขาแล้วยังเลียบ ๆ เคียง ๆ ถึงศารทูลว่าก
ดวงตาคมมองสองพ่อลูกที่นั่งกันคนละมุมอย่างสงบนิ่ง พยายามกลั้นหัวเราะไว้อย่างสุดความสามารถ ทั้งที่ใจนึกขบขันสะใจที่ว่าที่คุณตาโดนหลานไม่ให้เข้าใกล้ตั้งแต่อยู่ในท้อง ไงล่ะทำให้คนอื่นต้องไปนอนโซฟาดีนัก เจอเข้าให้เป็นยังไงล่ะคุณพ่อตา“ถ้าออกจากงานแล้วก็กลับมาอยู่บ้านดีมั้ยอลิน จะได้มีคนช่วยดูแลหลาย ๆ คน”“ยังไม่ได้ค่ะ อลินยังมีเรื่องที่ต้องทำ ถ้าอยู่คอนโดฯน่าจะง่ายกว่า” อริสาตอบกลับผู้เป็นพ่อที่อยู่ ๆ ก็เสนอให้กลับบ้านหลังจากที่รู้ว่าเธอตัดสินใจไม่ทำงานบรรณาธิการแล้ว“แต่...”“อลินรู้ค่ะว่าแม่กับป๊าน่ะเป็นห่วง แต่ถ้าอลินกลับไปอยู่บ้านมันอาจจะกระทบแผนได้ ป๊าเข้าใจอลินนะคะ”“แผนอะไร?”“อลินยังบอกไม่ได้ค่ะ ต้องรอใครคนนึงติดต่อมาก่อน ถ้าถึงเวลาอลินจะบอกทุกคนค่ะ ไม่แน่อาจจะวันสองวันนี้แหละ” หญิงสาวเลือกจะไม่บอกเพราะทราบดีว่าผู้เป็นพ่อจะขัดขวาง ไว้รอสิรานนท์ติดต่อกลับมาตามเบอร์ในนามบัตรที่ให้ไปก่อนค่อยบอกจะดีกว่า ถึงตอนนั้นแผนก็เริ่มแล้วท่านก็ห้ามอะไรไม่ได้จนถึงตอนนี้สิรานนท์ยังไม่ติดต่อมา หญิงสาวก็ไม่เข้าใจนักว่าทำไมแต่ศารทูลกลับบอกว่านี่เป็นก
แม้ว่าจะมีหลายเรื่องที่เข้าทางศารทูลเหมือนฟ้าเป็นใจแต่คนเราก็ไม่ได้ดวงดีตลอดรอดฝั่ง ศารทูลมองว่าที่แม่ของลูกที่วันนี้กะจะนอนที่บ้านแทนที่จะกลับคอนโดฯตาปริบ ๆ นอกจากแม่คุณจะนอนบ้านแล้วยังชวนนลินญามานอนเป็นเพื่อนอีกด้วยคนชักชวนนั้นไม่ผิด แต่ผิดที่คนโดนชวนตอบรับนี่สิ ช่วงนี้ยัยแว่นทำอะไรขัดใจเขาจริง ๆ ไอ้คนเป็นแฟนยัยแว่นก็ไม่ห้ามสักคำ หงุดหงิดคู่รักคู่นี้จริง ๆ“ยัยแว่น เปลี่ยนใจยังทันนะ” ศารทูลเอ่ยกับเพื่อนคนสนิททว่านลินญากลับไม่มีท่าทีจะเปลี่ยนใจ“ไม่ล่ะ คืนนี้อยากนอนกับอลิน อีกอย่างนี่ก็มืดแล้ว ถ้ากลับหมอสิงห์ก็ต้องไปส่ง ไม่อยากให้หมอสิงห์เหนื่อย”“ยัยแว่น เธอนอนห้องอลินแล้วฉันจะไปนอนที่ไหนเล่า”“ก็เรื่องของแกสิ ฮึ ถึงฉันคนนี้ไม่นอนเป็นเพื่อนอลิน ฮึ คิดเหรอว่าอลินจะยอมให้นอนในห้อง คุณแม่ไม่ปลื้มขนาดนั้นยังไงก็ไล่แกออกจากห้องแน่นอน ฉันอยู่หรือไม่ก็ค่าเท่ากันล่ะ” นลินญาว่าจบก็หันไปโบกมือลาสีหราชและครอบครัว “กู๊ดไนนท์ค่ะคุณพ่อ คุณแม่ สิงห์ น้องทราย”“อลินกับคะนิ้งขอตัวนะคะ&rdquo
อริสาจับจ้องสายตาไปที่ร่างสง่าของนาวาตรีสิรภัทร อัศวโยธิน หรือผู้การสีครามพี่ชายของสิรภาพก่อนจะก้มลงด้วยความเขินอาย ผู้ชายคนนี้ดูดีโดยไม่ต้องเติมแต่ง เป็นคนที่มีบุคลิกไม่ต่างจากศารทูลนักแต่ก็ให้ความรู้สึกคนละอย่างกับศารทูล ดูเขาเป็นคนปิดกั้นตัวเองแต่ดาเมจละลายใจแรงมาก ขนาดนั่งนิ่ง ๆ ตีหน้าขรึม ๆ ยังดูมีออร่า มีเสน่ห์น่าค้นหา แม้หญิงสาวจะไม่ได้รู้สึกอยากจะค้นหาหรือเข้าหาแต่ก็รู้สึกเขินที่ได้มองอย่างไรไม่รู้ผู้ชายคนนี้ดูดีจริง ๆ กล้ามก็เป็นมัด ๆ หุ่นจัดว่าดี ผู้ชายแบบนี้ไม่น่าโสด แต่ถ้าโสดขอเอาไปฝากเพื่อนได้มั้ย?“ไม่คิดว่ามารอบนี้เสือจะพาแฟนมาด้วย” คุณนายสายพิณผู้เป็นแม่ของสองพี่น้องสีครามน้ำเงินเอ่ยขึ้น ทำให้อริสาต้องมองศารทูลที่ยังไม่ตอบไปสักที และทันทีที่มองไปก็ได้เห็นว่าศารทูลกำลังมองสิรภัทรตาขวางทั้งที่ก่อนหน้านี้บอกว่าเป็นไอดอลแน่นอนว่าหึงอีกตามเคย...นายคนนี้ก็ขี้หึงไม่น้อยเลยอริสากระแทกศอกชายหนุ่มเมื่อรู้สึกว่ากำลังจะเสียมารยาทชายหนุ่มจึงยอมเปลี่ยนท่าที“พอดีมีเวลาว่างทั้งคู่น่ะครับ เลยพาเขามาเที่ยว ผมก็ไม่คิดเหมือนกันว่า
Alin Arisa เพิ่มรูปภาพใหม่...วันนี้พี่จะแว้นNalinya NooNing แสดงความคิดเห็น : เมื่อกี้ข้างหลัง ตอนนี้ข้างขวา ถ่ายหน้าซิคุณPlim แสดงความคิดเห็น : แน่จริงถ่ายข้างหน้าเลยยุงบินว่อน แสดงความคิดเห็น : จากความล่ำแล้วน้องว่าหล่อแวมไพรส์สายพันธ์หวาน แสดงความคิดเห็น : โอ๊ยอยากเห็นหน้าริมา ชริมา แสดงความคิดเห็น : พี่เขาหล่อค่ะทุกคนปุกปุยตุ้ยนุ้ย แสดงความคิดเห็น: อะไรยังไงชิกเก้นแปลว่าไก่ แสดงความคิดเห็น : เปิดตัวแน่เลยเจตริน แสดงความคิดเห็น : แว้นมากระวังตำรวจจับนะเธออารตี ตอบกลับเจตริน : ใครกล้าจับ นางไปกับใครใหญ่แค่ไหนรู้ ๆ กันอยู่เตชินทร์ อิชยกร แสดงความคิดเห็น : พบคนขี้อวดหนึ่งอัตราปุริมปรัชญ์ แสดงความคิดเห็น : ยังยืนยันคำเดิมขอรูปคู่ด่วนนนน“คิก” เสียงหัวเราะจากคนที่เพิ่งลงจากรถไม่นานทำให้ศารทูลต้องเท้าสะเอวมองครู่หนึ่งก่อนจะแบมือออกไป“เอามา”“เอาไปทำไม”“ป๊าจะเก็บไว้ มาเที่ยวกับป๊าก็ต้องอยู่กับป๊าสิ ไม่ใช่กับโซเช
หนึ่งคนมีแผนการเก็บอีกหนึ่งคนลงในคอลเลคชั่นผู้ชายของตัวเอง ส่วนอีกหนึ่งคนก็มีแผนการสั่งสอนหญิงสาวที่มั่นใจในตัวเองจนเกินไป ทว่าทั้งสองไม่รู้เลยว่านอกจากแผนการของพวกเขาแล้วยังมีแผนการของใครอีกคนแฝงอยู่ด้วยนั่นก็คือแผนการจับคู่ของอริสานั่นเอง หญิงสาวยิ้มหน้าระรื่นเข้ามาภายในห้องด้วยความรู้สึกพอใจถ้าซากิโกะคือคาสโนวี่ เตชินทร์ก็คือคาสโนว่า ไม่คิดว่าคู่นี้เหมาะสมกันเหรอ?แน่นอนว่าเธอคิด แรง ๆ อย่างเตชินทร์ต้องเจอแม่ตำรวจสาวคนนี้ล่ะ ส่วนซากิโกะเองก็ต้องเจอเตชินทร์นี่ล่ะถึงจะสมน้ำสมเนื้อหวังว่าไป ๆ มา ๆ สองคนนี้จะสปาร์คกันนะ มือบางหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาดูข้อความที่ส่งไปก่อนหน้านี้ก่อนจะยิ้มพรายอีกครั้งกับคำตอบที่ได้รับห้องสนทนาAlin : บอกเต้ยอย่ารุนแรงนัก แค่เบาะ ๆ พอPop : เต้ยมันว่าเออน่า มันเคยรุนแรงกับผู้หญิงที่ไหนกัน“มันต้องจบสวย หึหึหึ”“ก็ไม่แน่หรอก ไอ้เต้ยมันเคยรักเคยชอบผู้หญิงที่ไหนจริงบ้างล่ะ” ศารทูลแทรกขึ้นทำเอาคนกำลังคิดแผนการหุบยิ้มฉับพลัน “ซากิโกะเองก็ใช่ย่อย เคนอิจิเคยเล่าให้ฟังว่
“ฮึก เขามากับหวานใจด้วยอ่า ฮือ”เสียงปนสะอื้นของปริมาตอบศารทูลได้ดีว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นมันคือความจริง ใครคนนั้นที่ปริมามองไปก็คือเคนอิจิและวันนี้หนุ่มแดนอาทิตย์อุทัยคนนั้นก็ควงคู่มากับซากิโกะเสียด้วย คนที่ปริมาหลงรักคือเคนอิจิจริง ๆ“อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้วะเนี่ย?” ชายหนุ่มพึมพำก่อนจะแนบหน้าซุกแขนอริสาเพื่อหลบซ่อนไม่ให้เคนอิจิหันมาเห็นตน ขืนเคนอิจิเห็นเข้าเขาก็โดนแม่ของลูกเหวี่ยงเข้าสิ เซนส์คุณแม่แรงแค่ไหนก็รู้ ๆ อยู่ขืนเคนอิจิเดินเข้ามาทักพร้อมกับซากิโกะอะไรจะเกิดขึ้นกับเขาล่ะ“ปริมเบา ๆ เดี๋ยวเขาก็สงสัยเอาหรอก” นลินญาเตือนเมื่อเพื่อนสาวแหกปากร้องไห้ออกมา ไอ้เรื่องโอเว่อร์แอดติ่งนี่ไม่มีใครเกินแม่หญิงปริมาเขาล่ะปริมาหุบปากก่อนจะก้มหน้าลงสะอื้นเงียบ ๆ ไม่มองไปที่ชายในดวงใจอีก ทว่าอริสากลับสะกิดจนต้องเงยหน้าขึ้น ปริมานิ่งชะงักเมื่อชายในดวงใจมายืนใกล้ ๆ โต๊ะที่ตัวเองนั่งอยู่กับเพื่อน ๆ“บังเอิญจัง ไม่คิดว่าจะเจอสารวัตรที่นี่ ผมนั่งด้วยนะครับ” เคนอิจิเอ่ยขึ้นทำให้ศารทูลที่คิดจะหลบต้องยืดตัวตรงและตอบรับ
ศารทูลนั่งมองแฟ้มเอกสารที่อยู่ด้านหน้าด้วยใบหน้าไม่บ่งบอกอารมณ์ ภายในห้องประชุมมีเสียงพูดคุยซุบซิบเมื่อผู้บังคับบัญชายังไม่เข้ามา ด้านขวาของศารทูลเป็นนายตำรวจญี่ปุ่นและนายตำรวจสากลสองนาย ขณะที่ด้านซ้ายคือคนที่เพิ่งกลับมาทำงานหลังจากที่ได้รับบาดเจ็บจนต้องเข้าโรงพยาบาลเธอกลับมาแล้วและกำลังนั่งพูดคุยกับร้อยตำรวจโทหญิงพิมพ์นาราหนึ่งในลูกน้องมือดีของเขาอย่างออกรส ฝั่งตรงข้ามคือพันตำรวจตรีอัคนีและร้อยตำรวจโทธนบดีรุ่นน้องคนสนิทของอัคนี ส่วนที่เหลือคือลูกน้องในทีมของเขาอีกสี่นายถ้าถามศารทูลว่าใครที่เขาไม่พอใจที่สุดในห้องนี้ เขาตอบได้เลยว่าทุกคน ทำไมจะต้องมานัดประชุมในวันดี ๆ ของเขาด้วยเล่า ท่านผู้กำกับฤทธีก็อีกคนเห็นดีเห็นงามให้เรียกประชุมวันนี้ทั้งที่วันอื่นมีตั้งมากมาย มันน่าหงุดหงิดจริง ๆไม่ต้องเดาศารทูลก็รู้ว่าการเรียกประชุมในวันนี้มีนัยยะ ไม่ใช่เพราะได้ข้อมูลสำคัญมาหรอก แต่เพราะเบื้องบนสั่งการลงมาต่างหากล่ะ เบื้องบนที่ว่าก็ไม่ใช่ใครสองพ่อลูกที่แม้จะเข้าใกล้กันไม่ได้แต่เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยคู่นั้นไงล่ะแต่ไม่เป็นไร ยังไงเขาก็ยังมีเวลาอีกทั้งคืน เขาจะต้อง
แม้ว่าจะมีหลายเรื่องที่เข้าทางศารทูลเหมือนฟ้าเป็นใจแต่คนเราก็ไม่ได้ดวงดีตลอดรอดฝั่ง ศารทูลมองว่าที่แม่ของลูกที่วันนี้กะจะนอนที่บ้านแทนที่จะกลับคอนโดฯตาปริบ ๆ นอกจากแม่คุณจะนอนบ้านแล้วยังชวนนลินญามานอนเป็นเพื่อนอีกด้วยคนชักชวนนั้นไม่ผิด แต่ผิดที่คนโดนชวนตอบรับนี่สิ ช่วงนี้ยัยแว่นทำอะไรขัดใจเขาจริง ๆ ไอ้คนเป็นแฟนยัยแว่นก็ไม่ห้ามสักคำ หงุดหงิดคู่รักคู่นี้จริง ๆ“ยัยแว่น เปลี่ยนใจยังทันนะ” ศารทูลเอ่ยกับเพื่อนคนสนิททว่านลินญากลับไม่มีท่าทีจะเปลี่ยนใจ“ไม่ล่ะ คืนนี้อยากนอนกับอลิน อีกอย่างนี่ก็มืดแล้ว ถ้ากลับหมอสิงห์ก็ต้องไปส่ง ไม่อยากให้หมอสิงห์เหนื่อย”“ยัยแว่น เธอนอนห้องอลินแล้วฉันจะไปนอนที่ไหนเล่า”“ก็เรื่องของแกสิ ฮึ ถึงฉันคนนี้ไม่นอนเป็นเพื่อนอลิน ฮึ คิดเหรอว่าอลินจะยอมให้นอนในห้อง คุณแม่ไม่ปลื้มขนาดนั้นยังไงก็ไล่แกออกจากห้องแน่นอน ฉันอยู่หรือไม่ก็ค่าเท่ากันล่ะ” นลินญาว่าจบก็หันไปโบกมือลาสีหราชและครอบครัว “กู๊ดไนนท์ค่ะคุณพ่อ คุณแม่ สิงห์ น้องทราย”“อลินกับคะนิ้งขอตัวนะคะ&rdquo
ดวงตาคมมองสองพ่อลูกที่นั่งกันคนละมุมอย่างสงบนิ่ง พยายามกลั้นหัวเราะไว้อย่างสุดความสามารถ ทั้งที่ใจนึกขบขันสะใจที่ว่าที่คุณตาโดนหลานไม่ให้เข้าใกล้ตั้งแต่อยู่ในท้อง ไงล่ะทำให้คนอื่นต้องไปนอนโซฟาดีนัก เจอเข้าให้เป็นยังไงล่ะคุณพ่อตา“ถ้าออกจากงานแล้วก็กลับมาอยู่บ้านดีมั้ยอลิน จะได้มีคนช่วยดูแลหลาย ๆ คน”“ยังไม่ได้ค่ะ อลินยังมีเรื่องที่ต้องทำ ถ้าอยู่คอนโดฯน่าจะง่ายกว่า” อริสาตอบกลับผู้เป็นพ่อที่อยู่ ๆ ก็เสนอให้กลับบ้านหลังจากที่รู้ว่าเธอตัดสินใจไม่ทำงานบรรณาธิการแล้ว“แต่...”“อลินรู้ค่ะว่าแม่กับป๊าน่ะเป็นห่วง แต่ถ้าอลินกลับไปอยู่บ้านมันอาจจะกระทบแผนได้ ป๊าเข้าใจอลินนะคะ”“แผนอะไร?”“อลินยังบอกไม่ได้ค่ะ ต้องรอใครคนนึงติดต่อมาก่อน ถ้าถึงเวลาอลินจะบอกทุกคนค่ะ ไม่แน่อาจจะวันสองวันนี้แหละ” หญิงสาวเลือกจะไม่บอกเพราะทราบดีว่าผู้เป็นพ่อจะขัดขวาง ไว้รอสิรานนท์ติดต่อกลับมาตามเบอร์ในนามบัตรที่ให้ไปก่อนค่อยบอกจะดีกว่า ถึงตอนนั้นแผนก็เริ่มแล้วท่านก็ห้ามอะไรไม่ได้จนถึงตอนนี้สิรานนท์ยังไม่ติดต่อมา หญิงสาวก็ไม่เข้าใจนักว่าทำไมแต่ศารทูลกลับบอกว่านี่เป็นก
ขณะที่หนึ่งคนกำลังเดินวนไปวนมาด้วยความรู้สึกหงุดหงิดใจ อีกคนกลับกำลังเปลี่ยนยางรถคันใหญ่ด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์ คนอะไรหาเรื่องแกล้งคนอื่นได้หน้าตาเฉย“รีบ ๆ หน่อยสิสารวัตร ผมต้องรีบกลับบ้านนะ” เสียงเร่งดังมาจากด้านหลังทำให้ศารทูลอยากจะค้อนใส่ เมื่อก่อนล่ะเสืออย่างนั้น อาอย่างนี้ แต่เดี๋ยวนี้สารวัตรบ้างล่ะ ผมบ้างล่ะ“นี่ อย่าชักช้าสิสารวัตร”“ผมก็รีบอยู่นี่ไงครับ ใจเย็น ๆ ยางแตกทั้งสี่ล้อแบบนี้ไม่ได้เปลี่ยนง่าย ๆ” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับเร่งมือเปลี่ยนยางให้ท่านผบช.ผู้มีเมตตา เพราะอยู่ ๆ ยางรถของท่านก็แตกอย่างกับมีคนจงใจเจาะสี่ล้อพร้อมกันแล้วเขาผู้กลายเป็นลูกน้องน่าชังเลยถูกเรียกมาเปลี่ยนยางทั้งที่กำลังจะออกไปแล้วแบบนี้มันเจตนาชัด ๆ ยืนคุยอยู่กับหนุ่มญี่ปุ่นและลูกน้องอีกตั้งสี่ห้าคนดันเรียกเขาคนเดียว ก็รู้ทั้งรู้ว่าเขาต้องรีบกลับเพราะสีหราชโทรมาบอกว่ามีคนกระวนกระวายใจรอเขาอยู่ยังจะมาเรียกให้เปลี่ยนยางอีกพ่อตาคนนี้ช่างเอ็นดูลูกเขยเหลือเกิน...ท่านอาทิตย์มองเจ้าลูกเขยน่าชังก่อนจะลอบยิ้ม ก่อนหน้านี้อริสาโทรมาหาเขาแล้วยังเลียบ ๆ เคียง ๆ ถึงศารทูลว่าก
บนเตียงกว้างที่ยับยู่ยี่ราวกับผ่านศึกสงครามมาอย่างหนักหน่วงของอริสาชายหนุ่มยังคงกกกอดร่างเปลือยเปล่าไว้ไม่ยอมปล่อย แม้ว่าจะรู้สึกตัวตื่นมาสักพักแล้วก็ตาม คนในอ้อมกอดยังคงหลับพริ้มซุกอยู่กับอกแกร่งโดยไม่มีทีท่าจะตื่นศารทูลไม่คิดที่จะปลุกแม่สาวขี้เซาให้ตื่นขึ้นมาจากนิทราภิรมย์ เขาชอบที่จะกอดเธอแบบนี้มากกว่าให้เธอตื่นมาโวยวายให้ถอยห่างใครมาเห็นตอนนี้คงคิดว่าเขาสติฟั่นเฟือน ไม่ก็กำลังเล่นละครหาความจริงใจไม่ได้อย่างแน่นอน อันเนื่องมาจากเวลาที่เขาอยู่กับอริสามันช่างน้อยจนไม่น่าเชื่อว่าเขาจะเปลี่ยนได้ปุ๊บปั๊บ แต่สำหรับเขาแล้วเวลาสองวันที่เขาได้อยู่กับอริสาไม่น้อยเลย มันให้ความรู้สึกราวกับเขาใช้ชีวิตกับเธอมาแล้วสองปีทีเดียวเรื่องของความรู้สึกมันไม่จำเป็นต้องใช้เวลานาน บางคนตกหลุมรักกันในเวลาเพียงไม่กี่นาที บางคนใช้เวลากว่าสิบปีกว่าจะรักคนคนนึงได้ ไม่มีอะไรมายืนยันได้ว่าสิ่งที่เขากระทำ สิ่งที่เขารู้สึกมันเป็นเพียงแค่ละครฉากหนึ่งหรือว่าความจริงรักไม่มีทฤษฎีตายตัว ไม่มีถูกผิด เพราะรักคือความรู้สึก ใครจะไม่เชื่อว่าเขารักอริสาก็ช่าง แต่เขารู้ตัวเองดีว่าลึก ๆ ข้างใ