Home / โรแมนติก / พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก / บทที่ 139 นี่เขาบ้าหรือว่ามีอาการทางจิตอะไรรึเปล่า

Share

บทที่ 139 นี่เขาบ้าหรือว่ามีอาการทางจิตอะไรรึเปล่า

Author: พะเนินเทินทึก
เบียงก้าเข้าไปในรถไฟใต้ดิน

ระหว่างทางจากอพาร์ตเมนต์ของลุคจนถึงสถานีรถไฟใต้ดิน แม้จะไม่ได้หันกลับไปมอง แต่เธอก็รู้ว่าเขาตามมาอย่างเงียบ ๆ อยู่ตลอด เขายังกังวลเรื่องเธออยู่

รถไฟเริ่มเคลื่อนตัว และหลังจากผ่านไปหลายสถานี ในที่สุดก็ถึงที่หมายของเธอ

เบียงก้าออกจากรถไฟแล้วเดินไปที่ทางออก

ณ ระแวกบ้านของเบียงก้า

เธอเห็นเจสันกับตำรวจ

เธอเดินตรงเข้าไปหาเจสัน พอเขาเห็นเธอ เขาก็หยุดสูบบุหรี่แล้วหันมามองที่เธอ ตอนแรกเขาคิดว่าเธอกำลังอยู่กับคุณครอว์ฟอร์ด

“ขอบคุณที่ทำงานอย่างหนักนะคะ คุณดอยล์ กลับไปพักเถอะค่ะ” เบียงก้ากล่าวอย่างซาบซึ้งและตรึงใจ

เจสันรู้ว่างานของเขาคือการทำเพื่อคนอื่น แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนกล่าวขอบคุณเขาเช่นนี้ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเขินเล็กน้อย “ไม่เป็นไรครับ ถ้าคุณอยากจะขอบคุณใครสักคน ก็ขอบคุณคุณครอว์ฟอร์ดเถอะครับ”

เขาไม่ลืมที่จะให้ความดีความชอบของเจ้านายของตน

“บี!” ซูลงจากรถพร้อมแล็ปท็อปในมือ

เบียงก้าเงยหน้าขึ้นแล้วมองไปยังซู

เจสันมองไปยังซูแล้วออกคำสั่ง “ขึ้นไปข้างบนกับเบียงก้าเถอะ”

ซูเข้าใจในความหมายของเจสัน

ตั้งแต่ที่ปู่ของเบียงก้าหายไป มันชัดเจนว่าเธอเป็นก
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 140 ฉันอยากได้เมียสักคน

    มีรอยแดงจาง ๆ บนใบหน้าของเบียงก้า ซึ่งสะดุดตาเป็นพิเศษซูนั่งอยู่ด้านหน้า แล้วไม่ไกลจากเจ้านาย เธอถือปากกาสำหรับเซ็นชื่อเอาไว้และไม่กล้าสบตาเขามากกว่าปกติเครื่องปรับอากาศในห้องประชุมนั้นดังสนั่น แต่เมื่อใบหน้าของเจ้านายหม่นลง อุณหภูมิภายในห้องก็ดูเย็นลงราวกับอากาศได้รวมกันเป็นชั้นน้ำแข็งที่มองไม่เห็นและแช่แข็งใบหน้าของทุกคน“หน้าคุณไปโดนอะไรมา?”ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงัด จู่ ๆ เจ้านายก็เอ่ยถามอย่างใจเย็นไม่มีใครกล้าตอบคำถามนั้นเนื่องจากหัวหน้าแผนกยังมาไม่ถึง ในฐานะหัวหน้าทีม ซูจึงจำใจต้องบอกแก่เขาไปด้วยสีหน้าหนักใจ “เพื่อนร่วมงานชายคนหนึ่งเกิดคลุ้มคลั่งแล้วก็คว้าแฟ้มกองหนึ่งปาใส่หน้าเบียงก้าค่ะ”การประชุมที่แสนจริงจังนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวเสียหน่อย เบียงก้าเงยหน้าขึ้นแล้วกล่าว “ฉันไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณสำหรับความเป็นห่วง คุณครอว์ฟอร์ด”เมื่อซูได้ยินดังนั้น ใจทั้งดวงของเธอก็แตกสลายเบียงก้าแสดงท่าทีห่างเหินเกินไปซูเหลือบมองหน้าเจ้านายของพวกเธออย่างระวัง เธอสัมผัสได้ถึงความโกรธขึงจากเจ้านายหน้าคมแสนหล่อเหลา… และเดือดดาล...“ฌองเหรอ?”หลังจากจมอยู่กับความเงียบนานแสนนาน ซูก

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 141 นี่คือเบียงก้า ภรรยาของผม

    เมื่อได้ฟังจากน้ำเสียงของซาเวียร์แล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้พูดเล่นเมื่อเบียงก้าเห็นว่าท่าทางของเขาดูจริงจังแค่ไหน เธอก็รู้สึกได้ถึงเหงื่อที่เย็นยะเยือกที่ปกคลุมไปทั่วร่างกายของเธอในขณะที่เธอจ้องมองไปที่เขา“คุณเป็นคนที่พาตัวคุณปู่ของฉันไปใช่ไหม?” เบียงก้าถามซาเวียร์มองเข้าไปในดวงตาของเธอที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและความเกลียดชัง เขาตอบเธออย่างจริงจังว่า "โธ่ ยังจะมีใครที่กล้าพาคุณปู่ของคุณไปได้อีกล่ะ?”ทั้งสองคนสบตากันเบียงก้าทุบตีเขาเหมือนดั่งคนบ้าพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม เธอเริ่มด่าทอ “ไอ้คนน่ารังเกียจ ไร้ยางอาย! คุณกล้าลักพาตัวคนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ไป! แบบนี้มันเรียกว่าอาชญากรรมกันชัดเจน!”ซาเวียร์คว้าร่างกายอันบอบบางของเธอด้วยมืออันใหญ่โตของเขา เขาจะไม่ยอมให้เธอทุบตีเขาตามอำเภอใจอีก “คุณรู้อะไรเกี่ยวกับอาชญากรรมบ้างเหรอ แม่สาวน้อย? เป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็ก อย่ามาเป็นรู้ดีไปหน่อยเลยนะ!”ในขณะที่เธอถูกห้ามไม่ให้ทุบตีเขา ซาเวียร์ก็ยื่นโทรศัพท์ให้เธอมองดูบนจอเธอจ้องมองตาไม่กะพริบวิดีโอกำลังเล่นอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ของซาเวียร์ เธอไม่รู้ว่าใครเป็นคนถ่ายวิดีโอนี้เอาไว้ แต่สิ่ง

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 142 ทำไมคุณลุงถึงเรียกน้าบีว่าภรรยาล่ะครับ

    “น้าบี...”เมื่อเบียงก้าได้ยินเช่นนั้น เธอจึงรีบเงยหน้าขึ้นเด็กชายลานี่นั่นเองตระกูลแทนเนอร์ได้เชิญตระกูลคอร์วฟอร์ดมาด้วย...การออกแบบภายในของห้องโถงส่วนตัวนั้นหรูหรามาก มีโต๊ะกลมอยู่เต็มห้อง บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารอันโอชะและไวน์ชื่อดัง เธอรู้จักแค่เพียงบางคนในขณะที่หลายคนเป็นคนแปลกหน้าใบหน้าอวบอ้วนสีชมพูของเรนนี่โผล่ออกจากนั้น ดวงตาของเธอก็เหลือบมองไปยังใบหน้าที่มืดมิดของชายผู้นั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทันใดนั้น เบียงก้าก็รู้สึกราวกับว่าเมฆดำได้เข้าปกคลุมร่างของเธอ เธอก้มหน้าลงและพยายามดึงมือของซาเวียร์ออก ซาเวียร์ไม่ปล่อยเธอไป เขาดึงเก้าอี้ออกมาและจับมือของเธอเอาไว้และพูดว่า "นั่งลงข้าง ๆ แม่ฉันสิ"สีของทะเบียนสมรสทั้งสองใบนั้นเจิดจ้า สีแดงของมันราวกับเลือดในแอ่งใหญ่“จากนี้ไปเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ หนูบี หนูไม่ต้องกลัวนะ ฉันจะเป็นเหมือนแม่ของหนูเอง”แม่ของซาเวียร์พูดคำเหล่านั้นเพื่อลูกชายของเธอ และเธอก็หวังว่าลูกชายของเธอจะไม่รังแกบี ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังพูดคำนั้นเพราะลุคอีกด้วย ในฐานะเจ้านายของบี เธอต้องการบ่งบอกเขาว่า บีจะไม่ใช่แค่ลูกน้องของเขาอีก แต่เธอต้องกา

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 143 เธอจะขอบคุณเขายังไง

    เมื่อลุคสบตาเธอ เขาไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ ที่ชัดเจนออกมาเบียงก้าลังเล เธอไม่รู้ว่าเธอควรจะออกไปหรืออยู่ต่อดี จากนั้นไม่นาน ลุคขมวดคิ้วและเขี่ยก้นบุหรี่ทิ้งลงในที่เขี่ยบุหรี่ จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เขาลุกขึ้นและออกจากห้องประชุมไปภายในห้องประชุมมีทางเข้าออกสองทางลุคเดินออกไปยังประตูอีกฝั่งที่ตรงกันข้ามกับเธอเบียงก้ายืนนิ่งอยู่เป็นเวลานานก่อนจะฟื้นคืนสติและจำได้ว่าเธออยู่ที่นี่เพื่ออะไรเธอเปิดเครื่องบันทึก จากนั้นเธอก็สวมหูฟังและนั่งดูเนื้อหาการประชุมที่ถูกบันทึกเอาไว้อย่างตั้งใจ เธอจดประเด็นที่สำคัญลงในแล็ปท็อปที่อยู่ตรงหน้าหลังจากบันทึกเนื้อหาของการประชุมเสร็จเรียบร้อย เมื่อเบียงก้ากลับลงมา ก็เป็นเวลาเกือบสี่โมงเย็นแล้วซูรอเธออยู่นานเมื่อเธอเห็นเบียงก้ากลับมา ซูก็วางกาแฟหนึ่งถ้วยไว้บนโต๊ะให้เบียงก้า “ฉันได้ยินจากเจสันว่าคุณพบคุณปู่เธอแล้ว”เบียงก้ารับกาแฟมาวางไว้ข้างแล็ปท็อป ขณะมือเปิดแล็ปท็อป ปากเธอก็กล่าวว่า “ขอบคุณเธอด้วยนะและคุณดอยล์ที่ทำงานหนัก ฉันต้องเลี้ยงขอบคุณทั้งสองคนแล้วล่ะ”ซูพูดหยอกล้อว่า “ขอบคุณอะไรกัน? เราไม่ใช่พนักงานพาร์ทไทม์สักหน่อย แต่มันเป็นส่

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 144 คุณพ่อ พาน้าบีกับบ้านกันเถอะ

    ณ คฤหาสน์ตระกูลแทนเนอร์แดเนียลยืนอยู่บนระเบียงที่ชั้นสองด้วยท่าทางที่ฉุนเฉียวคุณนายแทนเนอร์ขึ้นไปที่ชั้นบน เธอตามหาสามีของเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนพบเขา"แล้วคุณจะทำยังไง?" คุณนายแทนเนอร์รู้ดีว่าสามีของเธอกำลังโกรธ โดยปกติแล้วสามีของเธอเป็นคนใจเย็น แต่เป็นเพราะลูกชายที่มักจะทำให้เขาหมดความอดทนแต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังเป็นลูกของเธอ ดังนั้น ไม่ว่าเขาจะงี่เง่ามากแค่ไหน คุณนายแทนเนอร์ก็ยังต้องปกป้องเขาในฐานะแม่ผู้ให้กำเนิดคุณนายแทนเนอร์พ่นลมหายใจ “รอลูกชายของเรากลับมาก่อนดีกว่า และดูว่าเขาจะอธิบายกับผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดว่ายังไง”แดเนียลกล่าวด้วยความโกรธ “นี่ยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ? เรายังต้องการคำอธิบายอะไรอีก? คุณไม่รู้จักนิสัยใจคอของลูกชายตัวเองรึไง? สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ไม่ใช่การฟังคำอธิบายของลูกชาย แต่เป็นการทำให้ความโกรธของผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดสงบลง!”ในฐานะพ่อแม่ พวกเขารู้ความคิดและนิสัยใจคอของลูกชายดีที่สุดพวกเขาเองก็คิดว่ามันแปลกที่ไม่รู้อะไรดลใจ ลูกชายของพวกเขาก็ประกาศแต่งงานและรีบจดทะเบียนสมรส…พวกเขายังจำได้อีกว่า ในวันที่ลูกชายของเขาพาเบียงก้ามา เธอหมดสติไป และเมื่อเธอตื่นขึ

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 145 เรานอนด้วยกัน

    ลุคยืนอยู่ที่ประตูเบียงก้าไม่แน่ใจว่าชายผู้นั้นจงใจยืนขวางทางเธอรึเปล่า เนื่องจากร่างของเขาได้ขวางกั้นทางเข้าออกอยู่ที่ประตู...อลิสันยังคงนั่งนิ่งอยู่บนโซฟา เธอปล่อยให้ครอบครัวแทนเนอร์พูดในสิ่งที่พวกเขาต้องการ เธอรู้ว่าพี่สะใภ้ของเธอต้องการจะพูดอะไร ในขณะที่ทางด้านของครอบครัวครอว์ฟอร์ดนั้นมีผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดที่อยู่ที่นี่ด้วย เธอจึงไม่สามารถพูดอะไรได้ทันใดนั้น เมื่อลูกชายของเธอซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวเดินเข้ามา ทุกคนที่อยู่ภายในห้องนั่งเล่นต่างก็นิ่งเงียบโดยไม่มีใครพูดอะไรอลิสันไม่ต้องการทำให้เรื่องมันยืดเยื้ออีกต่อไป เพราะไม่มีใครต้องการกำจัดเบียงก้าไปมากกว่าเธออีกแล้วเธอทนไม่ได้อีกต่อไป เธอลุกขึ้นจากโซฟาและเดินไปที่ประตูเพื่อพาบลองช์ออกไปในขณะที่เธอพูดกับคนสองคนที่ยืนขวางทางอยู่ตรงประตูว่า “ไปนั่งลงซะ อีกเดี๋ยว ซาเวียร์ก็คงจะกลับมาแล้ว”“คุณปู่โทรหาผมมีเรื่องอะไรรึเปล่า?” เสียงที่สงบของลุคดังขึ้น เขาเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นและนั่งลงตรงโซฟาตามที่แม่เขาบอกเมื่อเขาเคลื่อนตัว ร่างที่สูงสง่าของเขาก็เว้นช่องว่างที่ตรงประตูในขณะที่เขาเดินเข้ามาการกระทำของเขาแสดงให้เห็นว่า

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 146 ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงอ่อน

    เมื่อเบียงก้าเงยหน้าขึ้น เธอก็ได้เห็นซาเวียร์“คุณปู่เป็นยังไงบ้าง?” ซาเวียร์ไม่ได้สนใจเด็กชายที่อยู่กับเบียงก้า เขาเดินตรงไปที่เตียงในขณะที่เขาถามไม่มีใครตอบคำถามของเขาเบียงก้าระมัดระวังตัวเองโดยสัญชาตญาณในขณะที่เด็กชายที่อยู่ด้านล่างเกาะติดต้นขาของเธอเงยหน้าขึ้นและพูดกับเธอเบา ๆ “ไม่ต้องกลัวนะ น้าบี เดี๋ยวคุณพ่อก็กลับมาแล้ว”ซาเวียร์นั่งอยู่หน้าเตียงมองดูชายชราที่มีรอยสะเก็ดแผลบนใบหน้า เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขุ่นเคือง ทำไมคนพวกนั้นถึงทำร้ายชายชราเช่นนั้น?แต่ถ้าหากว่าชายชราไม่ได้รับบาดเจ็บ ซาเวียร์เองก็คงไม่สามารถทำให้เบียงก้าเชื่อฟังเขาได้หลังจากที่เขาคิดเช่นนั้น เขาก็เริ่มสับสนอยู่ภายในใจ 'มันผิดเหรอที่ฉันพยายามทำทุกอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมายของตัวเอง? มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่จะทำเช่นนั้นไม่ใช่หรอกเหรอ? เพราะถ้าเขาไม่โหดเหี้ยม เขาก็จะต้องพลาดและไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้’คุณปู่ตื่นแล้วเขาถามอย่างแผ่วเบา “ซาเวียร์ มาตั้งแต่เมื่อไหร่?”"คุณปู่" เบียงก้ารีบเดินเข้ามาและเอาหมอนหนุนหลังให้คุณปู่ซาเวียร์บอกเขาว่า "คุณปู่ผมขอโทษจริง ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะความประมาทเลินเล่อของผม คุ

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 147 ราวกับว่าลุคกำลังจะหักข้อมือของเธอ

    ลุคขมวดคิ้วด้วยท่าทางที่สง่า ชายหนุ่มดูอารมณ์เสียอยู่เล็กน้อย เบียงก้ารู้ดีว่าทำไมเขาถึงอารมณ์เสีย“ช่วยให้เกียรติกันหน่อยจะได้ไหม?” เบียงก้าพยายามสะบัดแขนของเธอออก เธอไม่ต้องการถูกเขาสัมผัสอีกต่อไปแต่เธอไม่คิดว่าชายผู้นั้นจะจับข้อมือของเธอแน่นขึ้นอีกสายตาที่เย็นเยียบและล้ำลึกของลุคจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเธอ “ผมจะให้เกียรติคุณได้ยังไง? หรือคุณต้องการให้ผมเรียกคุณว่าลูกพี่ลูกน้องของผมอย่างนั้นเหรอ?”ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่เย้ยหยันและเย็นชาเบียงก้าเหนื่อยกับคำพูดเหล่านั้น “ถ้าจะเรียกแบบนั้น ฉันก็ไม่รังเกียจรังงอนอะไรหรอกนะ”ราวกับว่าชายผู้นั้นกำลังจะหักข้อมือของเธอ ในเวลานั้นคุณปู่พูดขึ้นว่า “บี หนูยังเก็บกระเป๋าให้พ่อหนูลานี่ไม่เสร็จเหรอลูก?”เบียงก้าไม่ได้ตอบคำถามของคุณปู่ เธอรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดบริเวณข้อมือ ถ้าหากว่าเขาไม่ปล่อยมือออก ข้อมือของเธออาจจะหักได้อารมณ์คุกรุ่นของลุคพุ่งผ่านดวงตาที่หม่นหมองของเธอ เธอก้มหน้าลงและกัดฟันอย่างอดทน ในไม่ช้า เธอก็หลุดพ้นจากมือของเขา...“บอกลาคุณตาทวดสิ” ลุคไม่แสดงสีหน้าใด ๆ ในขณะที่เขาบอกลูกชายเมื่อเดินไปถึงที่ประตูเด็กชายจับมื

Latest chapter

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 207 ครอบครัวทั้งสี่คนนอนอยู่ด้วยกัน

    เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เบียงก้าจึงเปิดประตูอย่างแผ่วเบา เด็ก ๆ ยังคงนอนในห้องเล็ก ๆ ขนาดสามร้อยตารางฟุตใต้แสงจันทร์ แต่ตอนนี้ผู้ใหญ่สองคนกลับกอดกันอยู่ตรงประตู เบียงก้าต้องการหันหลังกลับและมุ่งหน้าเข้าไปในห้อง แต่ชายหนุ่มก็กอดร่างอันบอบบางของเธอไว้แน่นอย่างร้ายกาจ “อย่าทำอย่างนี้สิคะ เด็ก ๆ จะเห็นเราถ้าพวกเขาตื่น…” เธอเหนื่อยหอบในอ้อมแขนของลุค ลุคเป็นสัตว์ร้ายอยู่แล้วตั้งแต่ตอนที่ยังเขาไม่ดื่ม แต่ตอนนี้เขาดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปแล้ว… เบียงก้าไม่อยากจะจินตนาการ เธอทำได้เพียงอธิษฐานว่าเขาจะไม่ดำดิ่งลงไป “ผมไม่บังคับคุณหรอกถ้าคุณไม่เต็มใจ คุณต้องบอกผมถ้าผมกำลังทำร้ายคุณอยู่ ต้องรีบบอกออกมาเลยนะ” ลุคเอาริมฝีปากบางและเย้ายวนของเขามาแนบใบหูของเธอ ก่อนจูบผิวที่ขาวเนียน เขาพยายามอย่างหนักที่จะระงับความอยากที่จะครอบงำเธอ เบียงก้าเงียบงันอยู่ในอ้อมแขนของเขา เธอรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อยเมื่อชายหนุ่มสัญญากับเธอ เธอคิดว่ามันน่าขันที่ลุคมักจะเป็นสัตว์ร้าย แต่เขาก็ยังเห็นอกเห็นใจมากขึ้นทั้งที่อยู่ในสภาพเมาเช่นนี้ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนในตอนที่พวกเขากอดกัน เรนนี่หลับใหลและพึมพำห

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 206 คุณเมารึเปล่า

    เบียงก้าส่ายหน้าอย่างงุ่มง่ามเพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอไม่เป็นไร เธอกังวลว่าใบหน้าที่บูดบึ้งของเขาอาจทำให้เด็กชายหวาดกลัว เธอจึงรีบขยับออกจากอ้อมแขนของเขาและพยักหน้าให้เขาเพื่อเป็นการขอบคุณ แขนของลุคว่างเปล่าในทันใด เขามองไปที่เบียงก้าซึ่งกำลังพาลูก ๆ ไปเล่นที่อื่นด้วยความห่วงใยและความไม่พอใจที่ก่อตัวขึ้นในหัวใจของเขา เขาไม่พอใจที่เบียงก้าตอบโต้เขาอย่างเย็นชาก่อนหน้านี้ แม้ว่าเขาจะคิดว่าเธอทำเช่นนั้นก็เพราะกลัวคนอื่นจะเห็น ความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะอ้างตัวเธอว่าเป็นของเขาเองนั้นก็ทำให้เขาไม่พอใจด้วย เขาอยากจะเดินไปกอดเธอในอ้อมแขนและประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเบียงก้า เรย์นเป็นผู้หญิงของลุค ครอว์ฟอร์ขนาดไหนใครจะรู้! ไม่เพียงเท่านั้น ผู้หญิงคนนั้นยังให้กำเนิดลูกของเขาด้วย! ไม่ใช่แค่หนึ่ง แต่ถึงสอง! เบียงก้าก้มศีรษะลงที่เท้าของผู้บริหารเมืองเป็นการทักทาย แล้วก้มหน้าก้มตาวิ่งหนีไปราวกับว่าเธอกำลังหลบหนี เธอกังวลว่าผู้บริหารเมืองจะเข้าใจผิด “ช่างอ่อนโยนและอบอุ่นเหลือเกินนะ ท่านประธานครอว์ฟอร์ด! เราก็ทานอาหารเย็นกันบ่อย ๆ ทำไมผมไม่เห็นด้านนั้นของคุณเลยล่ะ?” ผู้บริหารเมืองชายวัยกลางคนหัวเราะ

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 205 ลุคแสดงความรักต่อหน้าสาธารณชน

    “น้าบี… จริงเหรอคะ?” เรนนี่มองไปที่เบียงก้าด้วยแววตาลูกสุนัขที่มีน้ำตาเอ่อคลอ เบียงก้าก้มศีรษะลงจูบที่หน้าผากของเรนนี่ และขยี้ผมของเธอ “ไม่เลย น้าไม่เคยคิดว่าหนูน่ารำคาญเลยนะ” น้ำเสียงของเบียงก้าอาจจริงจังเกินไป ไม่เพียงแต่จะโน้มน้าวใจเด็กน้อยอย่างเต็มที่ แต่คำพูดของเธอยังทำให้เจสันซึ่งกำลังขับรถอยู่ตกใจไปด้วย เจสันถือว่าตัวเองเป็นคนที่ผ่านอะไรมามาก เขาเคยเห็นคนทุกประเภทตั้งแต่ผู้สูงศักดิ์และยิ่งใหญ่ไปจนถึงคนอนาถาและน่ารังเกียจ ในช่วงหลายปีที่ทำงานกับเจ้านายมา เขาคิดว่าเขาเชี่ยวชาญในการอ่านนิสัยของคนอื่นและสามารถบอกความจริงจากการโกหกได้อย่างง่ายดาย ในขณะนั้น เจสันไม่รู้สึกถึงคำโกหกใด ๆ จากปากของเบียงก้าเลย เขาอดไม่ได้ที่จะแอบมองเบียงก้าผ่านกระจกมองหลัง ครู่หนึ่ง เขาคิดว่าตัวเองกำลังเห็นแม่ผู้ให้กำเนิดเด็กทั้งสองคน... โรงพยาบาลในเมืองเอ เมื่อผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดตื่นขึ้น เขาไม่เห็นแม้แต่หลานชายหรือเหลนทั้งสองคนของตัวเอง เขาเริ่มกังวลทันที อลิสันเข้ามาในนาทีนั้นและพยายามปลูกฝังความคิดในหัวของชายชรา “พ่อจะโทรไปถามลุคไหม?” “ฉันควรถามอะไรล่ะ?” ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดตอบกลับระหว่

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 204 เขาอยากครอบครองเธอใจจะขาด

    เบียงก้ากับแวนด้าขึ้นไปชั้นบนเพื่อคุยกันเป็นการส่วนตัว ลุคกำลังอยู่ในสายของการประชุมธุรกิจระหว่างประเทศ ขณะกำลังคุยโทรศัพท์ เขาสามารถเห็นได้จากท่าทางของคนทั้งสองว่าการสนทนาระหว่างเบียงก้าและแวนด้านั้นไม่ปกติ แต่เขาไม่ได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคนกำลังพูดกันเท่าไหร่นัก เมื่อเขาวางสาย ลุคเห็นจากหางตาว่าเบียงก้าและแวนด้าหายตัวแถวหัวมุม “เธอบอกว่าเธอเป็นน้าของเบียงก้า” เจสันเข้ามารายงานสถานการณ์ตามความจริง ลุคหันไปสั่งเจสันว่า "ไปสืบประวัติของน้าคนนั้น" เจสันโค้งคำนับ ลุคมองเข้าไปทางหน้าต่างชั้นสองที่เปิดทิ้งไว้ เขายังคงนิ่งเฉยไม่แสดงออก แม้ว่าความต้องการของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ในห้องบนชั้นสอง เบียงก้ารู้สึกเขินอาย ไม่เพียงเพราะเป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับน้าที่เธอเคยได้ยินผ่านเรื่องเล่า แต่ยังเป็นเพราะเธอกลัวว่าน้าจะรับรู้ถึงฮอร์โมนเพศชายที่แผ่ซ่านไปทั่วห้อง เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองทำอะไรผิด แวนด้าเหลือบมองไปรอบ ๆ ห้องและถามด้วยความสงสัย “ผู้ชายที่ลงมาข้างล่างกับเธอ…” “เขาเป็นเจ้านายของฉัน” เบียงก้าตอบก่อนที่น้าของเธอจะถามคำถามเสร็จ เบียงก้ายังเด็กและไม่ค่อยรู้จักวิธี

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 203 ทำไมคุณถึงขี้อายนักเล่า ผมก็เห็นทุกอย่างไปหมดแล้วนิ

    เบียงก้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของการข่มใจที่เล็ดลอดออกมาจากร่างของชายผู้นั้น แม้ว่าเธอจะได้รับการเตือนว่าชายผู้นี้มีความรู้สึกตรงกันข้ามก็ตาม เขาน่ะหรือจะห้ามใจ มีแต่จะทำตามใจตัวเองมากกว่า หัวใจของเธอเต้นแรง และปากเริ่มมีน้ำลายสอ เมื่อนึกถึงสัตว์ร้ายที่ซ่อนอยู่ใต้กางเกงของชายหนุ่ม “คุณ… ออกไปรอข้างนอก… ฉันอาบน้ำเองได้ค่ะ” หลังจากระเริงไปหลายครั้งเมื่อคืน เบียงก้าอายเกินกว่าจะเงยหน้ามองเขา บ้านหลังเก่าที่รกร้างและมืดมิดนั้นทั้งอบอุ่นและร้อนแรงเพราะมีเขาอยู่ กลิ่นของความสกปรกและความชื้นส่งกลิ่นแรงอยู่ตรงหน้าบ้าน แม้ว่าชายผู้นั้นจะจุมพิตและหายใจแรง แต่เธอก็ได้ให้ทุกสิ่งแก่เขาไป ราวกับว่าเธอได้หลอมรวมตัวเองเข้ากับร่างกายที่เร่าร้อนของเขาไป จากนั้น ก็ร่วมรักกันในรถอีกรอบ เบียงก้าคิดว่าลุคเป็นปีศาจที่หิวกระหายเนื้อมนุษย์ ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนเขามักจะหิวโหยร่างกายของเธอเสมอ แต่ถึงกระนั้น เธอก็พลีกายให้เขาไปหลายครั้ง! โชคดีที่ความมืดมิดในยามค่ำคืนได้บดบังใบหน้าที่แดงก่ำของเธอ เพื่อที่เธอจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดใจนักเมื่ออยู่กับเขาตามลำพัง แต่เธอไม่อาจหลบซ่อนมันจากการร่วมรักที

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 202 ตัณหาอันแรงกล้าในยามเช้าของลุค

    ชั้นล่างบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้าน เพื่อนร่วมงานบางคนซื้อซาลาเปาสำหรับการทำงานกะเช้า ในขณะที่เพื่อนร่วมงานหญิงกำลังเตรียมข้าวโอ๊ตอยู่ในครัว ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าข้าวโอ๊ตที่ซื้อจากร้านมีเนื้อหยาบเกินไป เป็นครั้งแรกที่ลูก ๆ ของเจ้านายลิ้มลองซาลาเปาแป้งทำมือจากเมืองเล็ก ๆ พวกเขารับประทานคนละสองชิ้น แต่เหมือนจะยังไม่พอ เรนนี่ยัดขนมปังเต็มปากแล้วกะพริบตาอย่างไร้เดียงสาใส่คุณลุงดอยล์ของเธอ ก่อนขอเพิ่มทั้งที่ยังเคี้ยวอยู่เต็มปาก “ทานช้า ๆ ก็ได้ครับ เดี๋ยวลุงจะไปซื้อมาเพิ่ม” เจสันขยี้ผมของเรนนี่ เมื่อเขาลุกขึ้น เขาหันไปหาเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ แล้วพูดว่า "ผมจะซื้อมาฝากทุกคนเหมือนกัน" ขนมปังไม่เพียงพอสำหรับทุกคน การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเจ้านาย ผู้ช่วย และลูกสองคนของเขาทำให้เพื่อนร่วมงานต้องแบ่งอาหารให้ ในเมืองกำลังพลุกพล่าน เจสันยืนอยู่หน้ารถขายอาหารและซื้อซาลาเปาใส่ไส้ไก่มากว่าสิบห้าชิ้น เมื่อเขาหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาและกำลังจะจ่าย เขาสังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดทำงานแสนเรียบร้อยเดินเข้าไปในสนามหญ้าหน้าบ้าน เธอดูเหมือนจะอยู่ในวัยสามสิบ "ชิ้นละ 1.80 เหรียญ ซื้อ 15 ชิ้นก็เป

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 201 เจ้านายเอาใจใส่ภรรยาของลูกพี่ลูกน้องมากเลยนะ

    รถลีมูซีนเบนท์ลีย์สีดำไม่ได้ขับรถเข้ามาในสนามหญ้าหน้าบ้านแต่กลับจอดอยู่ด้านนอกแทน ลุคไม่ได้ขับรถมาเอง หลังจากที่เจสันจอดรถแล้ว เขาก็ออกไปเปิดประตูเบาะหลัง เจ้านายและลูกน้อยสองคนก้าวออกมา เหมือนเช่นเคย ลุคแต่งตัวอย่างไร้ที่ติในชุดสูทมาดธุรกิจและรองเท้าหนัง ทว่าจากใบหน้าของเขาสามารถบอกได้ง่าย ๆ ว่าเขามีชีวิตชีวามากกว่าปกติราวกับว่าเพิ่งได้ยินข่าวดีมา เรนนี่อยู่ในอ้อมแขนของพ่อ เธอได้กลิ่นโคโลญจน์ของเขา ขณะที่ลานี่วิ่งอย่างตื่นเต้นไปที่สนามหญ้าหน้าบ้านพร้อมกับสะพายกระเป๋าเป้อยู่ “สวัสดีค่ะ พ่อหนุ่มน้อยรูปหล่อ!” เพื่อนร่วมงานหญิงคนหนึ่งทักทายลูกชายของเจ้านาย 'ทริปนี้คุ้มมาก!’ 'สิ่งอำนวยความสะดวกอาจจะไม่ดีเท่าในเมือง แต่ได้เห็นหน้าเจ้านาย และลูกชายกับลูกสาวที่น่ารักของเขาก็พอแล้ว!’ 'ช่างมีความสุขเหลือเกิน!' ลานี่มองไปรอบ ๆ ฝูงชนแต่ไม่พบคุณน้าบีเลย แต่เขาก็ไม่ลืมมารยาทและทักทายกลับว่า “อรุณสวัสดิ์ครับ คุณคนสวย!” เพื่อนร่วมงานหญิงที่ถูกเรียกว่า "คุณคนสวย" ยิ้มกว้าง โจพร้อมทำหน้าที่และพยายามอย่างหนักที่จะควบคุมสิ่งต่าง ๆ ให้อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา เขาก้าวไปข้างหน้าแล

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 200 ทำไมเจ้านายถึงมาเร็วจังล่ะ

    เบียงก้าระงับเสียงครางเอาไว้ ร่างกายของเธอเกร็ง ขณะกำผ้าม่านตรงหน้าแน่น... ม่านไม่ได้ยึดอย่างแน่นหนา ขณะที่ชายที่อยู่ข้างหลังเธอเคลื่อนเข้าไปหาเธออีกนิ้ว เธออ้าปากค้าง และจิตใจว่างเปล่า ผ้าม่านหลุดลง... "ใจเย็น" ลุคก้มศีรษะลงและจูบต้นคอของเธอ ผิวขาวภายใต้แสงจันทร์ดูเรียบเนียนและอ่อนโยน การเคลื่อนไหวของเขาเชื่องช้าอย่างจงใจ ปากของเขาทิ้งร่องรอยต่าง ๆ ไว้บนร่างกายของเธอ “อา… อืม…” เธอไม่สามารถต้านทานริมฝีปากและเรียวลิ้นที่บุกรุกเข้ามาได้ เบียงก้าเชยคางและทิ้งตัวบนหน้าต่าง ชายที่อยู่ข้างหลังเธอยังคงดันนิ้วเข้าไปทีละนิ้วราวกับเขาถูกปีศาจสิง เธอรู้สึกได้ว่าการหายใจของเธอเริ่มหนักขึ้น เธอหายใจถี่และลึกขึ้นเพื่อจะได้หายใจหายคอสะดวกขึ้น อากาศก็เริ่มเย็นลง ตอนที่เบียงก้าลืมตาขึ้น เธอมองเห็นหน้าต่างที่มีฝ้าขึ้นจากลมหายใจของเธอ ความรู้สึกไม่สบายกายเกิดขึ้นเพียงห้านาทีและกลายเป็นความเลื่อนลอย... มันเป็นความรู้สึกที่คุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นเมื่อห้าปีที่แล้วที่เธอเคยชินกับการปรากฏตัวของชายคนนั้น หรือในปีนี้ที่เธอได้ติดต่อกับชายคนนั้นที่โรงแรม เธอก็รู้สึกสั่นสะท้านเช่นเดียวกัน… มื

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 199 เธอกลายเป็นผู้หญิงของลุค ครอว์ฟอร์ด

    เธอไม่อาจต้านทานจุมพิตอันเร่าร้อนของชายผู้นี้ไม่ได้ บนใบหน้าของพวกเขา กลิ่นของทั้งสองเป็นเหมือนกับสิ่งที่คุ้นเคยแต่แปลกใหม่ อาจเป็นเพราะพวกเขาเกือบเสร็จกิจเมื่อเช้านี้เอง และตอนนี้พวกเขาก็มีโอกาสอีกครั้ง ลุครู้สึกราวกับว่าตัวเองได้แปลงร่างเป็นสัตว์ร้ายที่หิวกระหาย ความปรารถนาที่ไม่ลดละของเขาบดขยี้ริมฝีปากอ่อนนุ่มของเธอ แม้ว่าเขาจะไม่ลดความรุนแรงลง เขาสามารถรับรู้ได้ถึงความทรมานจากเสียงครางของเธอ เขาอยากจะกลืนกินร่างที่เขาหิวโหยไป ชายหนุ่มดูราวกับเด็กที่เพิ่งได้ลองชิมขนมเป็นครั้งแรก เขาปรารถนาร่างกายของเธอมานานแล้ว จนเมื่อเช้าที่เขาได้มีโอกาสได้ลิ้มรสความหวานอันเป็นเอกลักษณ์ของมัน เมื่อได้รับขนมอร่อย ๆ เด็กที่ไหนก็เหมือนกันหมด พวกเขาจะแกะมันออกจากห่ออย่างตะกละตะกลาม แล้วเอาเข้าปาก ก่อนใช้ความอบอุ่นและน้ำลายละลายพวกมัน พวกเขาอาจจะอ่อนโยนหรือรุนแรง ก็แล้วแต่ระดับความกระหายของคนเป็นเจ้าของ... ลุคกับเบียงก้า เปรียบได้กับเด็กตะกละกับขนมอร่อย ... “อืมมม…” ร่างของเบียงก้าอ่อนยวบเมื่อลุคกอดเธอในอ้อมแขนจนแน่น ช่องปากของเขาอุ่นชื้น เธอจมดิ่งลงไปในจูบอันป่าเถื่อนของเขา… เธอกำ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status