กรุงเทพฯ มหานคร ต้นตาลนอนซมอยู่บนเตียง เสียงไอ และจามติดๆ กัน ทำให้ต้นน้ำ แง้มประตู ก่อนตกใจเมื่อเห็น พี่สาวเพียงคนเดียวนอนกระสับกระส่าย “ พี่ตาลไม่สบายเหรอ นี่สายแล้วยังไม่ตื่นอีก” เสียงไอและจามติดๆ กัน ทำให้ต้นน้ำเดินเข้าไปใกล้พร้อมใช้มือจับที่หน้าผาก “ ตายแล้วพี่ตาลมีไข้ด้วย พี่ตาลรอน้ำแ
“ฉันไม่ได้พูดกับคุณรีบๆดื่มสิคะจะได้กลับไปทำงานของคุณฉันก็จะได้ทำงานของฉัน”“น้ำเสียงเลขาสาวหงุดหงิด “คุณมีแฟนหรือยังแยม”“ อดิศวรถามขณะยกกาแฟขึ้นดื่ม “ไม่เกี่ยวกับใคร”“ เลขาสาวตอบน้ำเสียงเรียบ อดิศวรยิ้มขำ “ แบบคุณคงไม่มีผู้ชายคนไหนกล้ามาจีบ ถ้าวางหน้ายักษ์ตลอดเวลา ไม่มีผู้ชายคนไหนอยากได้แฟนเหมื
“แกฉันทำไงดี”“ พัชราเอ่ยถามขณะขับรถ “ก็ขอโทษ พี่ตาลโกรธง่ายหายเร็วจะตาย”“ กอหญ้าพูดจบ ก็ต้องสะดุ้งเมื่อสัมผัสถึงมือของชายหนุ่ม ที่ลูบไล้ ช่องท้อง กริชชัยจูบเบาๆ ที่ไหล่นวล แล้วก็กลางหลัง กอหญ้าใช้มือข้างหนึ่งจับมือของชายหนุ่ม กริชชัยใช้มืออีกข้าง ลูบไล้ไปทั่ว ทั้งต้นขา หน้าอกสาว กอหญ้าหายใจสะดุดเ
วันรุ่งขึ้น พัชรานอนกอดต้นตาลอยู่ หญิงสาวขยับตัวก่อนขยี้ตามอง ก่อนจะประหลาดใจที่เห็นหญิงสาวคนรัก มานอนเคียงข้าง ต้นตาลเขม่นมองนึกว่าตนเองฝันไป หญิงสาวหยิกตัวเองเบาๆ ก็รู้สึกเจ็บก่อนนึกถึงสิ่งที่หญิงคนรักทำมาตลอดสามวันที่มีปัญหากันมา ต้นตาลก็นึกน้อยใจ หญิงสาวขยับตัวนั่งก่อนจะเขย่าตัวพัชราเบาๆ “พัชพ
สนามบินสุวรรณภูมิ กอหญ้าเดินเคียงข้างกริชชัย ชายหนุ่มจับมือหญิงสาวตลอดเวลา กอหญ้าพยายามดึงมือกลับแต่ถูกชายหนุ่มจับแน่น “คุณกริช ญ่าเดินเองได้” “พี่อยากจับมือเมีย เป็นไรไหม” “บอกแล้วไง ว่าไม่ชอบคำนี้” “มันคือความจริง” “แต่ญ่าไม่ชอบนี่” “แต่พี่ชอบ”กริชชัยพูดน้ำเสียงเข้ม “ขี้เกียจคุยกับคนพูดไ
“ ปัญญาอ่อนหรือเปล่า ชวนคุณย่าขึ้นไปนอนชั้นสาม บันไดเกือบห้าสิบขั้น เธอคิดว่าคุณย่าอายุสี่สิบหรือไงฮะ” กริชชัยต่อว่าเสียงแหลม กอหญ้ากัดริมฝีปาก ก่อนตอบ “ ขอโทษค่ะ ญ่านึกไม่ถึง แค่อยากนอนกอดคุณย่า เหมือนเมื่อก่อน “ ไม่เป็นไรหรอกลูก ย่านอนคืนเดียว นอนห้องรับแขกชั้นนี้ก็ได้ จะได้ไม่ต้องเดินมาก”
“ อ๋อ ปีเตอร์เหรอ กลับจากสิงค์โปร์แล้วเหรอ เป็นไงบ้าง แฮปปี้ไหม” “ มากกก ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของยู ไอมีความสุขมากกก ไอซื้อน้ำหอมมาฝากยูด้วย พรุ่งนี้เราเจอกันตอนบ่ายได้ไหม” “ ได้สิ ร้านริมระเบียงดีไหม” “ เฮ้ ญ่า เราเองนะ ปีเตอร์ ยูอยู่ไหน” “ อ๋อ ปีเตอร์เหรอ กลับจากสิงค์โปร์แล้วเหรอ เป็นไงบ้า
กอหญ้าพยายามเดินขึ้นมาใจเต้นระรัว หญิงสาวเคาะประตูก่อนตกใจเมื่อประตูเปิดแล้วถูกมือของชายหนุ่มฉุดเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว “ ว้าย คุณกริช ตกใจหมดเลย” กอหญ้ายกมือขึ้นทาบที่หน้าอก “ ชักช้า นี่ถ้าอีกสองนาทีเธอไม่มา ฉันจะลงไปแล้วนะ” กริชชัยพูดน้ำเสียหงุดหงิด กริชชัยมองกราดไปทั่วตัวหญิงสาวแล้วหัวเรา
“ขอเวลา สี่ห้าวันให้พ่อกับแม่ฮันนีมูนกันหน่อยนะ แล้วจะกลับไปรบกับลูกต่อ” อดิศวรหันกลับมาจับที่ไหล่ภรรยาสาวให้มาเผชิญหน้า ส่งสายตาหวานฉ่ำ “อะไรคะเนี่ย ลูกห้าแล้วนะ ยังจะหวานอีก” ยาริกายิ้มเขิน “หวานแบบนี้ตลอดไปครับ จะรักยิ่งๆ ขึ้นไปเชื่อไหมแยม แต่ตอนนี้ผมขอเบรคสักห้าวัน ฝากลูกไว้กับปู่ยา และทวดๆ ก่
ภายในห้องรับประทานอาหาร อดิศวรกำลังสอนให้ อ้น อัคราวัฒน์ ตักอาหารกินเอง ในขณะที่ยาริกากำลังป้อนข้าวให้อั๋น อัคราวุธยาริกาหันไปมองสามีที่กำลังสอนแฝดพี่อย่างใจเย็น “อ้น หัดทานข้าวเองครับ ตักแบบนี้พ่อตักให้ดู” อดิศวรสอนอย่างใจเย็น “โถ คุณศวร ลูกยังเล็กอยู่เลย แยมอยากป้อนข้าวลูก” “ผมอยากให้ลูกช่วยต
สามปีต่อมา ยาริกามองภาพพ่อและลูกๆ ที่วิ่งเล่นกันที่สนามอย่างมีความสุข นึกย้อนไปเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา งานแต่งงานของเธอกับอดิศวรจัดอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีลูกแฝด ทั้งสอง อ้น และ อั๋น อัคราวัฒน์ และ อัคราวุธ กรณ์วิภาคและตอนนี้เธอกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ อีกหกสัปดาห์ จำได้ว่าหลังจากอดิศวรรู้ก็รีบจัดงานแต่งงาน แบ
“แยมแน่ใจนะว่าจะไม่อันตรายกับลูก ศวรกลัวว่า..” อดิศวรจ้องมองตาภรรยาสาว ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ยาริกาพยักหน้าเบาๆ ยิ้มเขิน พร้อมกับกอดชายหนุ่มกระชับ “ก็อย่ารุนแรงสิคะคุณพ่อ ทำเบาๆ หมอก็ไม่ห้ามหรอกค่ะ นอกจากจะหกอาทิตย์ก่อนคลอดหรือเปล่า แยมไม่แน่ใจ” ยาริกาใช้เล็บกรีดเบาๆ ที่หน้าอก “คุณเรียกผมว่า “คุณพ่อ
ยาริกาน้ำตาไหลตลอด ด้วยความตกใจ ซึ้งใจ ตื่นเต้น มีความสุข ไม่รู้ความรู้สึกไหนมาก่อนแต่มันผสมปนเปกันไปหมด หญิงสาวพยักหน้าๆ ยกมือปิดปาก รับดอกไม้แล้วสวมกอด ท่ามกลางเสียงเชียร์จากเพื่อนๆ ร่วมรุ่น และอีกหลายชั่วโมงต่อจากนั้น มิตติ้งร่วมรุ่นท่ามกลางทะเลแสนสวย และเพื่อนสนิท ทำให้ปาร์ตี้เต็มไปด้วยความสนุกส
สามวันผ่านไป หลังจากประชุมผู้แทนประกอบการโรงแรมที่มิลานสามวัน ยาริกาเพิ่งเห็นมาดบอสของอดิศวรเป็นครั้งแรกเวลาเค้าจริงจังกับการทำงานทำให้เค้าดูมีเสน่ห์ หญิงสาวมองสามีอย่างภาคภูมิใจ ตลอดสามวันที่มีนัดตลอดทั้งวัน ตารางแน่นมากๆ ทำให้แทบจะไม่มีส่วนตัวกันเลย วันนี้ยาริกามีความหวังว่าคงได้ไปเดินเล่นในเมือง
ยาริกาตกใจแทบสิ้นสติ เมื่ออดิศวรทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น แถมจับมือเธอไว้แน่น ยาริกาพยายามบิดมือหนีพร้อมหันไปซ้ายขวาว่ามีใครมองอยู่ไหม มีคนมองอยู่สองสามคน หญิงสาวใบหน้าร้อนด้วยความอายรีบกระตุกมือหนี แต่ชายหนุ่มจับไว้จนแน่น “นี่ คุณศวร ทำบ้าอะไร คุกเข่าทำไม...บ้าหรือเปล่า” ยาริกากัดฟันพูดเบาๆ “แยม ..
ระหว่างขับรถกลับบ้าน ยาริกาเงียบมาตลอดทาง พอๆ กับอดิศวร ก็เงียบเช่นเดียวกัน ตั้งแต่รถออกจากโรงพยาบาล เมื่อรถเลี้ยวเข้าสู่บ้าน เมื่อรถจอดนิ่งสนิทที่โรงจอดรถ อดิศวรนั่งรวบรวมสมาธิก่อนพูดกับภรรยาสาวอย่างใจเย็น “สรุป ยังไงคุณก็จะไปประชุมกับคุณกริชที่อิตาลีแน่ๆ ไม่เปลี่ยนใจ รู้ไหมการเดินทางไกลอาจเป็นอัน
ท่านผู้หญิงแพรวมองดูหลานสะใภ้กับหลานชาย สายตาเต็มไปด้วยความสุข คิดวาดฝันว่าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลานคนเล็กของตระกูลจะลืมตาดูโลก แค่นี้ท่านก็ยิ้มออกแล้ว ถึงแม้จะมีอาการเจ็บไข้อย่างผู้ป่วยสูงอายุ พอนึกถึงหลานที่จะเกิดขึ้นมาทำให้ท่านผู้หญิงไม่ยอมแพ้กับโรคภัย หมั่นไปหาหมอและกินยาตามที่หมอสั่งทุกประการ