ยาริกาเดินเข้าห้องแต่งตัว เห็นเพื่อนสองแต่งตัวเสร็จ คงมีแต่แนนเพื่อนเจ้าสาวอีกคนที่ยืนหน้างออยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง “แนน ยังแต่งตัวไม่เสร็จเหรอ แยมเห็นขึ้นมาคนแรกเลย” ยาริกาทักทายก่อนจะเข้าไปยืนใกล้ๆ “แนนอยากร้องไห้ ชุดที่ซื้อมาใส่ไม่ได้แล้วล่ะแยม เพราะตลอดอาทิตย์เนี่ยแนนตามใจปากไปหน่อย ซัดทุเรีย
อีกด้านหนึ่งของห้อง บริกรหนุ่มรับเงินจากวุทธิชัยใส่กระเป๋า “ผมทำงานเรียบร้อยแล้วนะเฮียผมเอาไปเสิร์ฟให้กับพี่สาวคนที่ใส่ชุดที่เพื่อนพี่ส่งไลน์มาให้ผม เรียบร้อยนะพี่ ผมไปล่ะเดี๋ยวใครมาเห็นผมจะโดนด่า” วุทธิชัยพยักหน้าก่อนจะยกเบียร์ขึ้นดื่ม เมื่อภาระที่ได้รับมอบหมายจากเพื่อนเสร็จสิ้นลง ยาริกาพยายามพยุ
“อย่ามองผมแบบนั้น บอกว่าไม่ได้ทำ โธ่เว้ย ผมก็โดนเหมือนกันไม่เชื่อหรือไง” อดิศวรพูดน้ำเสียงเริ่มหงุดหงิด “ไอ้บ้ากาม ไอ้โรคจิต ไปให้พ้นจากห้องฉันก่อนที่ฉันจะฆ่านาย” น้ำเสียงยาริกาแฝงด้วยความเกลียดชัง อดิศวรเหมือนโดนตบหน้า ชายหนุ่มคว้าแขนของหญิงสาวตรงหน้าอย่างรุนแรง “จะบอกให้นะถ้าผมอยากได้ ไม่ต้องใช้
ก๊อกๆ ก๊อก เสียงเคาะประตูดัง ทำให้ยาริกาลืมตาขึ้น ภายในความมืดก่อนพลิกกาย รู้สึกเมื่อยล้าปวดไปทั้งร่างกาย หญิงสาวเอื้อมมือไปเปิดไฟ ที่หัวเตียง “ห้าโมงเย็น เรานอนหลับไปนานขนาดนี้เหรอเนี่ย” หญิงสาวรำพึงเบาๆเสียงเคาะประตูดังติดต่อกันอีกหลายครั้ง “แยม เปิดประตูให้ผมหน่อย” เสียงอดิศวรตะโกนเสียงดัง ยาริ
ยาริกาขมวดคิ้ว เมื่อเสียงเรียกเข้ามือถือไม่ใช่เสียงเดิม หญิงสาววางมือจากหม้อต้มจืดที่เตรียมไว้ให้หลานทั้งสอง เนื่องจากมารดาพาคุณยายไปหาหมอ จึงเป็นหน้าที่ของเธอที่จะดูแลหลานๆ เพียงลำพัง หญิงสาวเดินกลับมาที่โต๊ะที่วางโทรศัพท์มือถือไว้ “เบอร์ใครเนี่ย ไม่คุ้นเลย” “ฮัลโหล ยาริกาพูดค่ะ” “รับสายได้สักที
โรงแรมแมนดาริน โอเรียลเทลโตเกียว กอหญ้านั่งเท้าคางมองลงไปด้านล่างที่ผู้คนเดียวขวักไขว่ไปมา บรรยากาศรอบตัว จัดแต่งอย่างหรูหราสมกับห้องอาหารชื่อดังติดท๊อปไฟว์ของโตเกียว ห้องอาหารsense สถานที่กริชชัยเลือกเป็นห้องอาหารสุดท้ายในค่ำคืนนี้ กอหญ้านึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ตั้งแต่เช้าที่เธอและกริชชัยเที่ยวรอบกร
ยาริกาขับรถเพื่อมุ่งหน้าไปทำงาน หญิงสาวกดโทรศัพท์พลางเสียบหูฟัง “แก้ว เดี๋ยวพี่จะเข้าไปช้าครึ่งชั่วโมงนะจ๊ะ อื้อ ยังไงแก้วบอกแม่บ้านเข้าไปทำความสะอาดห้องคุณกริชอีกครั้งนะจ๊ะ พรุ่งนี้คุณกริชจะกลับมาแล้ว” “จ๊ะ พี่จะแวะธนาคารจัดการธุระให้คุณกริช แล้วเจอกันจ๊ะ” ยาริกาวางสาย แล้วหันมาเปิดวิทยุเพื่อฟังเพ
ห้องแต่งตัวนางแบบ เอลี่จ้องมองโทรศัพท์พร้อมกับแต่งหน้านางแบบที่จะมีคิวเดินแบบ ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ในใจทั้งหงุดหงิดและว้าวุ่น เมื่อหลายวันที่ผ่านมาไม่ได้คุยกับแฟนหนุ่มเลย ไม่มีข้อความ ไม่มีโทรศัพท์ เธอไลน์ไปแต่กลับเงียบหาย ตอนแรกตั้งใจจะงอนชายหนุ่มที่ด่าเธอต่อหน้าคนมากมาย แต่เมื่อไม่มีข้อควา
“ขอเวลา สี่ห้าวันให้พ่อกับแม่ฮันนีมูนกันหน่อยนะ แล้วจะกลับไปรบกับลูกต่อ” อดิศวรหันกลับมาจับที่ไหล่ภรรยาสาวให้มาเผชิญหน้า ส่งสายตาหวานฉ่ำ “อะไรคะเนี่ย ลูกห้าแล้วนะ ยังจะหวานอีก” ยาริกายิ้มเขิน “หวานแบบนี้ตลอดไปครับ จะรักยิ่งๆ ขึ้นไปเชื่อไหมแยม แต่ตอนนี้ผมขอเบรคสักห้าวัน ฝากลูกไว้กับปู่ยา และทวดๆ ก่
ภายในห้องรับประทานอาหาร อดิศวรกำลังสอนให้ อ้น อัคราวัฒน์ ตักอาหารกินเอง ในขณะที่ยาริกากำลังป้อนข้าวให้อั๋น อัคราวุธยาริกาหันไปมองสามีที่กำลังสอนแฝดพี่อย่างใจเย็น “อ้น หัดทานข้าวเองครับ ตักแบบนี้พ่อตักให้ดู” อดิศวรสอนอย่างใจเย็น “โถ คุณศวร ลูกยังเล็กอยู่เลย แยมอยากป้อนข้าวลูก” “ผมอยากให้ลูกช่วยต
สามปีต่อมา ยาริกามองภาพพ่อและลูกๆ ที่วิ่งเล่นกันที่สนามอย่างมีความสุข นึกย้อนไปเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา งานแต่งงานของเธอกับอดิศวรจัดอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีลูกแฝด ทั้งสอง อ้น และ อั๋น อัคราวัฒน์ และ อัคราวุธ กรณ์วิภาคและตอนนี้เธอกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ อีกหกสัปดาห์ จำได้ว่าหลังจากอดิศวรรู้ก็รีบจัดงานแต่งงาน แบ
“แยมแน่ใจนะว่าจะไม่อันตรายกับลูก ศวรกลัวว่า..” อดิศวรจ้องมองตาภรรยาสาว ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ยาริกาพยักหน้าเบาๆ ยิ้มเขิน พร้อมกับกอดชายหนุ่มกระชับ “ก็อย่ารุนแรงสิคะคุณพ่อ ทำเบาๆ หมอก็ไม่ห้ามหรอกค่ะ นอกจากจะหกอาทิตย์ก่อนคลอดหรือเปล่า แยมไม่แน่ใจ” ยาริกาใช้เล็บกรีดเบาๆ ที่หน้าอก “คุณเรียกผมว่า “คุณพ่อ
ยาริกาน้ำตาไหลตลอด ด้วยความตกใจ ซึ้งใจ ตื่นเต้น มีความสุข ไม่รู้ความรู้สึกไหนมาก่อนแต่มันผสมปนเปกันไปหมด หญิงสาวพยักหน้าๆ ยกมือปิดปาก รับดอกไม้แล้วสวมกอด ท่ามกลางเสียงเชียร์จากเพื่อนๆ ร่วมรุ่น และอีกหลายชั่วโมงต่อจากนั้น มิตติ้งร่วมรุ่นท่ามกลางทะเลแสนสวย และเพื่อนสนิท ทำให้ปาร์ตี้เต็มไปด้วยความสนุกส
สามวันผ่านไป หลังจากประชุมผู้แทนประกอบการโรงแรมที่มิลานสามวัน ยาริกาเพิ่งเห็นมาดบอสของอดิศวรเป็นครั้งแรกเวลาเค้าจริงจังกับการทำงานทำให้เค้าดูมีเสน่ห์ หญิงสาวมองสามีอย่างภาคภูมิใจ ตลอดสามวันที่มีนัดตลอดทั้งวัน ตารางแน่นมากๆ ทำให้แทบจะไม่มีส่วนตัวกันเลย วันนี้ยาริกามีความหวังว่าคงได้ไปเดินเล่นในเมือง
ยาริกาตกใจแทบสิ้นสติ เมื่ออดิศวรทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น แถมจับมือเธอไว้แน่น ยาริกาพยายามบิดมือหนีพร้อมหันไปซ้ายขวาว่ามีใครมองอยู่ไหม มีคนมองอยู่สองสามคน หญิงสาวใบหน้าร้อนด้วยความอายรีบกระตุกมือหนี แต่ชายหนุ่มจับไว้จนแน่น “นี่ คุณศวร ทำบ้าอะไร คุกเข่าทำไม...บ้าหรือเปล่า” ยาริกากัดฟันพูดเบาๆ “แยม ..
ระหว่างขับรถกลับบ้าน ยาริกาเงียบมาตลอดทาง พอๆ กับอดิศวร ก็เงียบเช่นเดียวกัน ตั้งแต่รถออกจากโรงพยาบาล เมื่อรถเลี้ยวเข้าสู่บ้าน เมื่อรถจอดนิ่งสนิทที่โรงจอดรถ อดิศวรนั่งรวบรวมสมาธิก่อนพูดกับภรรยาสาวอย่างใจเย็น “สรุป ยังไงคุณก็จะไปประชุมกับคุณกริชที่อิตาลีแน่ๆ ไม่เปลี่ยนใจ รู้ไหมการเดินทางไกลอาจเป็นอัน
ท่านผู้หญิงแพรวมองดูหลานสะใภ้กับหลานชาย สายตาเต็มไปด้วยความสุข คิดวาดฝันว่าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลานคนเล็กของตระกูลจะลืมตาดูโลก แค่นี้ท่านก็ยิ้มออกแล้ว ถึงแม้จะมีอาการเจ็บไข้อย่างผู้ป่วยสูงอายุ พอนึกถึงหลานที่จะเกิดขึ้นมาทำให้ท่านผู้หญิงไม่ยอมแพ้กับโรคภัย หมั่นไปหาหมอและกินยาตามที่หมอสั่งทุกประการ