“ แค่นี้ก่อนนะ บทเรียนครั้งที่สอง “ ต้นตาลจูบเบาๆที่หน้าผากนูน แววตาของพัชรายังตกอยู่ในห้วงพิศวาส มันรุนแรงจนหญิงสาวเองก็ตั้งตัวไม่ติด “ เออ พัชไปนะคะ “ “ อีกสองวัน พี่มาฟังคำตอบนะ ลองเอาไปคิดดู แต่เชื่อเถอะว่า อย่าหลอกตนเอง ปล่อยให้มันเป็นไป “ พัชราเปิ
สี่โมงเย็น กริชชัยก็มาถึงบ้าน ชายหนุ่มขึ้นไปตรวจดูสถานที่ เดินไปเดินมา ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำ เลือกชุดที่ใส่อยู่นาน “ ทำไมต้องตื่นเต้นด้วยนะ ก็แค่ทานข้าว “ ชายหนุ่มรำพึงกับตัวเอง กริชชัยยกนาฬิกา ดูเวลาแทบจะทุกวินาที “ ทำไมยังไม่กลับอีกนะ จะหกโมงเย็นแล้ว ไหนแม่ว่าจะกลับมาทานข้าวบ
“ พี่หมอจะมารับเหรอ อีกครึ่งช.มได้ไหม ยังคุยธุระกันไม่จบ “ “ โอเคค่ะ “ กอหญ้าวางสายกับหมออนวินท์ หรือหมออ้น ด้วยอาการเฉยเมย “ พี่หมอโทรมาเหรอ” “อืม “ “ ช่วงนี้ไม่เห็นแกไปไหนมาไหนกับพี่หมอเลย “ “ ฉันยุ่ง พี่หมอ
นายแพทย์อนวินท์นั่งคุยกับตรีรินทร์และธมกานต์ถึงอาการของคุณหญิงมณีจันทร์ครั้งล่าสุด กอหญ้าถอนหายใจ ก่อนจะเอ่ยขอตัว “พี่หมอ เดี๋ยวญ่ามานะคะ อยากเอาของไปเก็บแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า “ “ตามสบายครับ “ นายแพทย์อนวินท์ จ้องมองสาวน้อยที่ตนเองตามจีบมาตั้งแต่มัธยมแววตาเปี่ยมไปด้วยความ
กริชชัยเดินจากไปนานแล้ว กอหญ้าทรุดตัวลงนั่งพิงหลังกับกำแพงปิดหน้าร้องไห้กับโชคชะตาของตนเองที่ถูก ทำร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า กริชชัยเดินใบหน้าบูดบึ้ง ก่อนจะตะโกนเรียกพงษ์คนขับรถคนสนิท ท่ามกลางสายตาของคนในครอบครัว “ ตากริชกำลังจะไปไหนคะนั่น” “กริช จะไปไหนลูก” ตรีรินทร์วิ่งเข้ามาถามใบหน้าแ
‘ไม่เห็นต้องกลัว ไม่มีใครอยู่บ้านเลย พวกสาวใช้ก็ไปนอนหมดแล้ว ตีสาม คงไม่มีใครอุตริขึ้นมาบนนี้ตอนตีสามเป็นแน่’ กอหญ้าคิดพลางถอดชุดนอนพลิ้วบางออกเหลือเพียงบราตัวจิ๋วและกางเกงใน ลูกไม้สีเดียวกัน กอหญ้าแหวกว่ายน้ำเหมือนปลาน้อยเจอน้ำใส ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เกือบจมน้ำทำให้กอหญ้าถูกส่งให้เรียนว่ายน้ำอย่า
กริชชัยวางร่างบางไว้บนเตียง กอหญ้าซีดไปทั้งตัว ชายหนุ่มคว้าผ้าเช็ดตัวขึ้นมาเช็ด แววตาที่มองหญิงสาวเต็มไปด้วยความอบอุ่นและอ่อนหวาน “ตัวซีดหมดเลย” “ปล่อย จะกลับห้อง คุณก็ได้สมใจแล้วนี่ ปล่อย” “ไม่ คืนนี้ญ่าต้องนอนกับพี่ที่นี่” “ไม
“กอหญ้า ญ่า” เสียงเรียกของชายหนุ่มเบาๆ “ทำไมหลับขี้เซาแบบนี้” เสียงหัวเราะน้อยๆของกริชชัยรบกวนหญิงสาวจนต้องปัดมือไปมา อย่างหงุดหงิด “ถึงหัวหินแล้ว” “อืม” เสียงกอหญ้ายังงัวเงีย “นี่สาวน้อยตื่นได้แล้ว” กริชชัยยื่นจมูกมาใกล้ก่อนจะฝังจ
“ขอเวลา สี่ห้าวันให้พ่อกับแม่ฮันนีมูนกันหน่อยนะ แล้วจะกลับไปรบกับลูกต่อ” อดิศวรหันกลับมาจับที่ไหล่ภรรยาสาวให้มาเผชิญหน้า ส่งสายตาหวานฉ่ำ “อะไรคะเนี่ย ลูกห้าแล้วนะ ยังจะหวานอีก” ยาริกายิ้มเขิน “หวานแบบนี้ตลอดไปครับ จะรักยิ่งๆ ขึ้นไปเชื่อไหมแยม แต่ตอนนี้ผมขอเบรคสักห้าวัน ฝากลูกไว้กับปู่ยา และทวดๆ ก่
ภายในห้องรับประทานอาหาร อดิศวรกำลังสอนให้ อ้น อัคราวัฒน์ ตักอาหารกินเอง ในขณะที่ยาริกากำลังป้อนข้าวให้อั๋น อัคราวุธยาริกาหันไปมองสามีที่กำลังสอนแฝดพี่อย่างใจเย็น “อ้น หัดทานข้าวเองครับ ตักแบบนี้พ่อตักให้ดู” อดิศวรสอนอย่างใจเย็น “โถ คุณศวร ลูกยังเล็กอยู่เลย แยมอยากป้อนข้าวลูก” “ผมอยากให้ลูกช่วยต
สามปีต่อมา ยาริกามองภาพพ่อและลูกๆ ที่วิ่งเล่นกันที่สนามอย่างมีความสุข นึกย้อนไปเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา งานแต่งงานของเธอกับอดิศวรจัดอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีลูกแฝด ทั้งสอง อ้น และ อั๋น อัคราวัฒน์ และ อัคราวุธ กรณ์วิภาคและตอนนี้เธอกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ อีกหกสัปดาห์ จำได้ว่าหลังจากอดิศวรรู้ก็รีบจัดงานแต่งงาน แบ
“แยมแน่ใจนะว่าจะไม่อันตรายกับลูก ศวรกลัวว่า..” อดิศวรจ้องมองตาภรรยาสาว ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ยาริกาพยักหน้าเบาๆ ยิ้มเขิน พร้อมกับกอดชายหนุ่มกระชับ “ก็อย่ารุนแรงสิคะคุณพ่อ ทำเบาๆ หมอก็ไม่ห้ามหรอกค่ะ นอกจากจะหกอาทิตย์ก่อนคลอดหรือเปล่า แยมไม่แน่ใจ” ยาริกาใช้เล็บกรีดเบาๆ ที่หน้าอก “คุณเรียกผมว่า “คุณพ่อ
ยาริกาน้ำตาไหลตลอด ด้วยความตกใจ ซึ้งใจ ตื่นเต้น มีความสุข ไม่รู้ความรู้สึกไหนมาก่อนแต่มันผสมปนเปกันไปหมด หญิงสาวพยักหน้าๆ ยกมือปิดปาก รับดอกไม้แล้วสวมกอด ท่ามกลางเสียงเชียร์จากเพื่อนๆ ร่วมรุ่น และอีกหลายชั่วโมงต่อจากนั้น มิตติ้งร่วมรุ่นท่ามกลางทะเลแสนสวย และเพื่อนสนิท ทำให้ปาร์ตี้เต็มไปด้วยความสนุกส
สามวันผ่านไป หลังจากประชุมผู้แทนประกอบการโรงแรมที่มิลานสามวัน ยาริกาเพิ่งเห็นมาดบอสของอดิศวรเป็นครั้งแรกเวลาเค้าจริงจังกับการทำงานทำให้เค้าดูมีเสน่ห์ หญิงสาวมองสามีอย่างภาคภูมิใจ ตลอดสามวันที่มีนัดตลอดทั้งวัน ตารางแน่นมากๆ ทำให้แทบจะไม่มีส่วนตัวกันเลย วันนี้ยาริกามีความหวังว่าคงได้ไปเดินเล่นในเมือง
ยาริกาตกใจแทบสิ้นสติ เมื่ออดิศวรทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น แถมจับมือเธอไว้แน่น ยาริกาพยายามบิดมือหนีพร้อมหันไปซ้ายขวาว่ามีใครมองอยู่ไหม มีคนมองอยู่สองสามคน หญิงสาวใบหน้าร้อนด้วยความอายรีบกระตุกมือหนี แต่ชายหนุ่มจับไว้จนแน่น “นี่ คุณศวร ทำบ้าอะไร คุกเข่าทำไม...บ้าหรือเปล่า” ยาริกากัดฟันพูดเบาๆ “แยม ..
ระหว่างขับรถกลับบ้าน ยาริกาเงียบมาตลอดทาง พอๆ กับอดิศวร ก็เงียบเช่นเดียวกัน ตั้งแต่รถออกจากโรงพยาบาล เมื่อรถเลี้ยวเข้าสู่บ้าน เมื่อรถจอดนิ่งสนิทที่โรงจอดรถ อดิศวรนั่งรวบรวมสมาธิก่อนพูดกับภรรยาสาวอย่างใจเย็น “สรุป ยังไงคุณก็จะไปประชุมกับคุณกริชที่อิตาลีแน่ๆ ไม่เปลี่ยนใจ รู้ไหมการเดินทางไกลอาจเป็นอัน
ท่านผู้หญิงแพรวมองดูหลานสะใภ้กับหลานชาย สายตาเต็มไปด้วยความสุข คิดวาดฝันว่าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลานคนเล็กของตระกูลจะลืมตาดูโลก แค่นี้ท่านก็ยิ้มออกแล้ว ถึงแม้จะมีอาการเจ็บไข้อย่างผู้ป่วยสูงอายุ พอนึกถึงหลานที่จะเกิดขึ้นมาทำให้ท่านผู้หญิงไม่ยอมแพ้กับโรคภัย หมั่นไปหาหมอและกินยาตามที่หมอสั่งทุกประการ