ในเช้าวันที่อากาศสดใส โรเซ่นั่งอยู่ในห้องรับแขกที่บ้านหลังใหญ่ของครอบครัว สายตาของเธอจับจ้องไปที่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่อยู่ข้าง ๆ ตู้เสื้อผ้า พร้อมกับเสียงพูดคุยจากพ่อแม่และน้องสาวที่นั่งอยู่รอบ ๆ โต๊ะกาแฟ พ่อของโรเซ่ซึ่งเป็นผู้ชายที่เคร่งครัดและเข้มงวดในหลายเรื่อง กำลังนั่งพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่าทางสงบ ขณะที่แม่ของเธอก็นั่งเคียงข้าง พร้อมกับมีรอยยิ้มอบอุ่น"โรเซ่ลูก...ไปเมืองปารีสคราวนี้ต้องระวังตัวหน่อยนะจ๊ะ" แม่ของโรเซ่พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใย พลางยิ้มไปที่ลูกสาวคนโตของเธอ"ค่ะแม่...หนูรู้แล้วค่ะ" โรเซ่ตอบเสียงนุ่ม แต่แฝงไปด้วยความมั่นใจ "ทุกอย่างจะต้องเป็นไปได้ดีค่ะ""แม่พูดถูกนะ...ถ้าไปที่เมืองใหญ่อย่างนั้น ต้องเตรียมตัวให้พร้อมทุกด้าน" พ่อของโรเซ่เสริมอย่างหนักแน่นมินจี น้องสาวของโรเซ่ยิ้มแย้มและนั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วยท่าทางที่สดใส"พี่โรเซ่...หนูคิดถึงพี่แล้วนะคะ อยากให้พี่ไปเร็ว ๆ แต่ก็เข้าใจว่าเป็นโอกาสสำคัญสำหรับพี่" มินจีพูดพลางกอดแขนพี่สาวอย่างอ่อนโยน"แล้วตอนนี้พี่จะไปแล้วนะ มินจีต้องดูแลตัวเองด้วยนะ" โรเซ่พูดพลางยิ้มหวานให้กับน้องสาวของเธอ"พี่โรเซ่...หนูจะอยู่เ
**การปรับตัว...ในเมืองแห่งความฝัน:**หลังจากที่โรเซ่และเพื่อนสนิทของเธอมาถึงปารีส ความตื่นเต้นที่มีต่อเมืองแห่งแฟชั่นก็ไม่สามารถหยุดได้ แต่หลังจากผ่านไปสองสามวัน ปัญหาบางอย่างเริ่มเข้ามาในชีวิตของโรเซ่ พวกเขาทั้งหมดต้องเผชิญกับความแตกต่างทางวัฒนธรรมที่ค่อนข้างท้าทาย แม้ว่าโรเซ่จะเคยเดินทางไปต่างประเทศหลายครั้ง แต่การปรับตัวในเมืองใหญ่เช่นปารีสก็ยังคงเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายโรเซ่เดินไปที่ถนนที่มีร้านค้าหรูหราเรียงรายกันอย่างสวยงาม และดูเหมือนว่าความฝันของเธอจะกลายเป็นความจริง เมื่อได้เห็นทุกสิ่งที่เคยเห็นในนิตยสารแฟชั่นและแกลเลอรี่มากมาย ทว่าในขณะเดียวกัน เธอก็รู้สึกถึงความแปลกแยกในบางครั้ง การใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ไม่ได้ง่ายเสมอไป โดยเฉพาะเมื่อเธอรู้สึกว่าความเร่งรีบและการแข่งขันที่รุนแรงนั้นอยู่รอบตัว"มันรู้สึกแปลกไปนะ" ยอนฮีกล่าวขณะที่พวกเขาเดินไปตามถนนในเขตมองมาร์ต "ทุกอย่างมันเร็วไปหมด แต่เรายังรู้สึกเหมือนเรายังไม่เข้ากับที่นี่"โรเซ่หันมองไปที่เพื่อน ๆ ก่อนจะยิ้ม "ใช่ มันเหมือนกับการต้องรีบเดินตามอะไรบางอย่างที่ไม่รู้ว่าจะมีจุดสิ้นสุดไหม แต่เราไม่ยอมแพ้หรอก"**ร้านหนังสือ...และความทรง
ท่ามกลางค่ำคืนอันเงียบสงบ โรเซ่ฝันอีกครั้งถึงห้องสมุดแห่งความฝัน ที่ซึ่งหนังสือหลายพันเล่มเรียงรายอย่างมีเสน่ห์ในแสงสลัว เธอเดินสำรวจไปตามชั้นหนังสืออย่างเงียบ ๆ และทันใดนั้น เสียงที่เธอคิดถึงก็ดังขึ้นเบื้องหลัง"คุณยังมาที่นี่อีกเหรอครับ" เสียงของซูโฮฟังดูอบอุ่นและคุ้นเคย จนหัวใจของเธอเต้นแรง โรเซ่หันไปเห็นเขายืนอยู่ในมุมหนึ่ง สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวเรียบง่าย ที่ตัดกับรอยยิ้มอบอุ่นของเขา"คุณซูโฮ! ฉันคิดว่าฉันจะไม่ได้เจอคุณอีกแล้ว" โรเซ่พูดพร้อมกับยิ้ม ขณะที่เธอเดินเข้าไปหาเขา"ผมบอกแล้วไงครับ ว่าที่นี่คือสถานที่ที่เราจะพบกันเมื่อคุณต้องการ" เขาตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "แล้วคุณกำลังค้นหาอะไรอยู่ในคืนนี้""ฉัน...อาจจะกำลังมองหาแรงบันดาลใจค่ะ" โรเซ่พูดเบา ๆ "ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าความคิดของฉันยังไม่ชัดเจนพอสำหรับคอลเลกชันใหม่"ซูโฮยิ้มเล็กน้อยก่อนจะชี้ไปที่ชั้นหนังสือที่อยู่ไม่ไกล "บางครั้ง คำตอบก็ไม่ได้ซ่อนอยู่ในความซับซ้อน แต่มันอยู่ในความเรียบง่ายครับ ลองมองดูหนังสือพวกนั้นสิ คุณอาจจะเจอบางอย่างที่คุณกำลังมองหา"โรเซ่พยักหน้าแล้วเดินไปยังชั้นหนังสือที่เขาแนะนำ ขณะที่เธอพลิกดูหนังสือเล่มหนึ่ง
หลังจากตื่นขึ้นในเช้าวันใหม่ โรเซ่รู้สึกถึงพลังงานที่เต็มเปี่ยมในตัวเอง แสงแดดอ่อน ๆ ที่ลอดผ่านหน้าต่างกระทบใบหน้าเธอ เธอยิ้มรับกับวันใหม่ด้วยความมั่นใจและพร้อมเผชิญหน้ากับทุกสิ่งที่รออยู่เบื้องหน้า“วันนี้ต้องเป็นวันที่ดีแน่ ๆ” เธอพูดกับตัวเองพร้อมหยิบปากกาและสมุดบันทึกเล่มโปรดมาเขียนไอเดียที่พุ่งเข้ามาในหัว เธอเขียนไปพลางฮัมเพลงโปรดของเธอไปด้วย น้ำเสียงใสราวกับเสียงกระดิ่งเล็ก ๆ ที่ใครได้ยินก็คงอดยิ้มตามไม่ได้หลังจากนั้น โรเซ่เตรียมตัวไปประชุมกับทีมงานของเธอ เพื่อวางแผนโปรเจกต์ใหม่ ขณะที่เธอเดินเข้าห้องประชุม บรรยากาศกลับดูตึงเครียด ทีมงานบางคนดูเหมือนจะไม่เห็นพ้องต้องกันเกี่ยวกับแนวทางของงาน"เราทำแบบนี้ไม่ได้ครับ มันเสี่ยงเกินไป" หนึ่งในทีมงานพูดขึ้น น้ำเสียงเขาแฝงความกังวลโรเซ่ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแต่มั่นคง"ทุกไอเดียมีความเสี่ยงค่ะ แต่ความเสี่ยงนั้นแหละที่จะทำให้เราได้ผลลัพธ์ที่แตกต่าง ถ้าเรากลัวจนไม่กล้าก้าวไปข้างหน้า แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่ามันจะสำเร็จหรือเปล่า" โรเซ่กล่าวด้วยความเชื่อมั่นทุกคนในห้องเงียบลงเพื่อฟังเธอพูด เธอไม่เพียงแต่แสดงความมั่นใจในตัวเ
บรรยากาศที่เต็มไปด้วยแรงกดดันเริ่มก่อตัวขึ้นในสำนักงาน Aura Seoul เมื่อโรเซ่รับรู้ว่าข่าวลือที่ไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับตัวเธอเริ่มแพร่สะพัดในวงการแฟชั่น ข่าวลือพุ่งเป้าไปที่ความสามารถของโรเซ่ โดยอ้างว่าเธอลอกเลียนแบบงานออกแบบจากดีไซเนอร์คนอื่น และความสำเร็จทั้งหมดของเธอไม่ได้มาจากฝีมือจริง ๆ แต่เกิดจากการใช้สายสัมพันธ์ทางธุรกิจ เรื่องนี้ทำให้โรเซ่รู้สึกโกรธและผิดหวัง แต่เธอเลือกที่จะไม่แสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น"ข่าวลือก็เหมือนกระดาษในสายลม ถึงมันจะลอยฟุ้งกระจายไปไกลแค่ไหน สุดท้ายมันก็ไร้ค่าเหมือนเดิม" โรเซ่พูดกับตัวเองพร้อมยิ้มมุมปาก ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องประชุมอย่างมั่นใจที่โต๊ะประชุม แคลร์ เพื่อนสนิทที่ทำงานร่วมกันมาตั้งแต่เริ่มต้นมองโรเซ่ด้วยความกังวล"โรเซ่ พวกเรารู้ว่าข่าวลือพวกนี้ไม่มีมูลความจริง แต่เธอจะปล่อยผ่านจริง ๆ เหรอ" แคลร์ถามด้วยความเป็นห่วง"ใช่ โรเซ่" อลิซ เพื่อนอีกคนพูดเสริม "คนในวงการเริ่มพูดกันหนักขึ้นแล้วนะ บางคนอาจเชื่อไปแล้วด้วยซ้ำ""ทุกคนก็แค่ต้องการอะไรบางอย่างมาปั่นกระแสอยู่แล้ว ไม่ต้องไปสนใจ" โรเซ่พูดด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ แต่แววตาแฝงไปด้วยความมั่นคง"แต่ครั้งนี้มัน
บรรยากาศที่เต็มไปด้วยแรงกดดันเริ่มก่อตัวขึ้นในสำนักงาน Aura Seoul เมื่อโรเซ่รับรู้ว่าข่าวลือที่ไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับตัวเธอเริ่มแพร่สะพัดในวงการแฟชั่น ข่าวลือพุ่งเป้าไปที่ความสามารถของโรเซ่ โดยอ้างว่าเธอลอกเลียนแบบงานออกแบบจากดีไซเนอร์คนอื่น และความสำเร็จทั้งหมดของเธอไม่ได้มาจากฝีมือจริง ๆ แต่เกิดจากการใช้สายสัมพันธ์ทางธุรกิจ เรื่องนี้ทำให้โรเซ่รู้สึกโกรธและผิดหวัง แต่เธอเลือกที่จะไม่แสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น"ข่าวลือก็เหมือนกระดาษในสายลม ถึงมันจะลอยฟุ้งกระจายไปไกลแค่ไหน สุดท้ายมันก็ไร้ค่าเหมือนเดิม" โรเซ่พูดกับตัวเองพร้อมยิ้มมุมปาก ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องประชุมอย่างมั่นใจที่โต๊ะประชุม แคลร์ เพื่อนสนิทที่ทำงานร่วมกันมาตั้งแต่เริ่มต้น มองโรเซ่ด้วยความกังวล"โรเซ่ พวกเรารู้ว่าข่าวลือพวกนี้ไม่มีมูลความจริง แต่เธอจะปล่อยผ่านจริง ๆ เหรอ" แคลร์ถามด้วยความเป็นห่วง"ใช่ โรเซ่" อลิซ เพื่อนอีกคนพูดเสริม "คนในวงการเริ่มพูดกันหนักขึ้นแล้วนะ บางคนอาจเชื่อไปแล้วด้วยซ้ำ""ทุกคนก็แค่ต้องการอะไรบางอย่างมาปั่นกระแสอยู่แล้ว ไม่ต้องไปสนใจ" โรเซ่พูดด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ แต่แววตาแฝงไปด้วยความมั่นคง"แต่ครั้งนี้มั
**ความท้าทาย...และการยืนหยัด:**บรรยากาศที่เต็มไปด้วยแรงกดดันเริ่มก่อตัวขึ้นในสำนักงาน Aura Seoul เมื่อโรเซ่รับรู้ว่าข่าวลือที่ไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับตัวเธอเริ่มแพร่สะพัดในวงการแฟชั่น ข่าวลือพุ่งเป้าไปที่ความสามารถของโรเซ่ โดยอ้างว่าเธอลอกเลียนแบบงานออกแบบจากดีไซเนอร์คนอื่น และความสำเร็จทั้งหมดของเธอไม่ได้มาจากฝีมือจริง ๆ แต่เกิดจากการใช้สายสัมพันธ์ทางธุรกิจ เรื่องนี้ทำให้โรเซ่รู้สึกโกรธและผิดหวัง แต่เธอเลือกที่จะไม่แสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น"ข่าวลือก็เหมือนกระดาษในสายลม ถึงมันจะลอยฟุ้งกระจายไปไกลแค่ไหน สุดท้ายมันก็ไร้ค่าเหมือนเดิม" โรเซ่พูดกับตัวเองพร้อมยิ้มมุมปาก ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องประชุมอย่างมั่นใจที่โต๊ะประชุม แคลร์ เพื่อนสนิทที่ทำงานร่วมกันมาตั้งแต่เริ่มต้น มองโรเซ่ด้วยความกังวล"โรเซ่ พวกเรารู้ว่าข่าวลือพวกนี้ไม่มีมูลความจริง แต่เธอจะปล่อยผ่านจริง ๆ เหรอ" แคลร์ถามด้วยความเป็นห่วง"ใช่ โรเซ่" อลิซ เพื่อนอีกคนพูดเสริม "คนในวงการเริ่มพูดกันหนักขึ้นแล้วนะ บางคนอาจเชื่อไปแล้วด้วยซ้ำ""ทุกคนก็แค่ต้องการอะไรบางอย่างมาปั่นกระแสอยู่แล้ว ไม่ต้องไปสนใจ" โรเซ่พูดด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ แต่แววตาแฝ
โรเซ่หลับตาลงอย่างช้า ๆ หลังจากวันที่ยาวนานผ่านไป ความเงียบสงบของค่ำคืนนี้ชวนให้เธอนึกถึงโลกใบหนึ่งที่เธอไม่ได้ไปมาหลายวัน โลกที่เต็มไปด้วยแสงสลัวและกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของหนังสือเก่า ๆ และเมื่อเธอเปิดตาขึ้นอีกครั้งในความฝัน เธอพบว่าตัวเองอยู่ที่ห้องสมุดแห่งความฝันอีกครั้ง“คุณกลับมาแล้ว” เสียงที่นุ่มนวลและอบอุ่นดังขึ้นข้างหลัง โรเซ่หันไปและพบกับซูโฮ เขายืนอยู่ในชุดเรียบง่าย สายตาของเขามองเธอด้วยความอ่อนโยนที่โรเซ่คุ้นเคย“ใช่ ฉันกลับมาแล้ว” โรเซ่พูดพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ขณะที่เดินเข้าไปใกล้เขา “ที่นี่สงบกว่าชีวิตจริงของฉันเยอะเลย”ซูโฮหัวเราะเบา ๆ "ผมเดาว่ามันคงมีเรื่องมากมายที่ทำให้คุณเหนื่อย แต่คุณก็ยังดูสดใสเสมอ"โรเซ่ยิ้มขี้เล่น"ฉันก็ต้องพยายามทำตัวให้สดใสสิ ฉันไม่ชอบให้ใครมองว่าฉันอ่อนแอ" โรเซ่กล่าวด้วยความมั่นใจ"แต่คุณก็ไม่ได้อ่อนแอเลยสักนิด" ซูโฮพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น "คุณมีพลังในแบบที่คนอื่นไม่มี และนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้คุณแตกต่าง"โรเซ่หยุดนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง สายตาของเธอจับจ้องไปที่ซูโฮ"คุณพูดเหมือนรู้จักฉันดีจัง... มากกว่าที่ฉันรู้จักตัวเองเสียอีก" โรเซ่กล่าวด้วยความสงสัยซูโฮยิ้
โรเซ่นั่งอยู่ในห้องทำงานส่วนตัว บนโต๊ะทำงานเต็มไปด้วยหนังสือที่ซูโฮเคยอ่านและเขียนไว้ เธอมักจะเปิดดูมันในบางครั้ง เพื่อค้นหาคำตอบที่เขาเคยทิ้งไว้ในทุกบรรทัด ทุกตัวอักษรที่เขาเขียนดูเหมือนยังคงมีชีวิตและพลังงานบางอย่างหลงเหลืออยู่ แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในโลกนี้แล้ว แต่มันก็เหมือนกับเขายังคอยมอบคำแนะนำให้กับเธออยู่เสมอ"ซูโฮ...ขอบคุณที่ยังคงอยู่ในหัวใจของฉันเสมอ" โรเซ่พูดเบา ๆ กับตัวเอง ขณะที่เธอเปิดอ่านบทหนึ่งจากหนังสือที่เขาชื่นชอบ ซึ่งมันเต็มไปด้วยคำพูดที่เต็มไปด้วยความหวังและความรัก "ความฝันไม่มีวันสิ้นสุด"เมื่อเวลาผ่านไป โรเซ่เริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในตัวเอง เธอเริ่มเปิดใจให้กับสิ่งใหม่ ๆ หลังจากที่เธอได้พอใจกับการทำงานและการสร้าง Aura Seoul จนกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่บางครั้ง ความเหงาก็ทำให้เธอรู้สึกถึงความว่างเปล่าในใจ เมื่อเธอกลับบ้านในค่ำคืนที่เงียบสงบ เธอไม่อาจหลีกหนีความรู้สึกของการสูญเสียซูโฮ แม้เธอจะพยายามปล่อยให้เขาอยู่ในความทรงจำ แต่ความรู้สึกที่มีต่อเขากลับยังคงแน่นแฟ้น**การพบเจอ...และการเริ่มต้นใหม่:**จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอได้พบกับยุคยองเป็นครั้งที่สองในงานเลี้
โรเซ่ยืนอยู่ท่ามกลางแสงไฟสว่างไสวในห้องทำงานของ Aura Seoul รอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจปรากฏบนใบหน้า เธอสัมผัสได้ถึงความสำเร็จที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เสียงปรบมือและคำชื่นชมจากงานเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ยังคงดังก้องอยู่ในหู"เธอรู้ไหม โรเซ่ ฉันคิดว่าเธอสามารถทำได้ดีมาก" แคลร์ เพื่อนสนิทและผู้ช่วยคนเก่งของเธอ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความยินดี"จริงเหรอคะ" โรเซ่ยิ้มกว้าง พลางยกมือขึ้นแตะหน้าอกข้างซ้าย "ฉันเองก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมาถึงจุดนี้ได้""ความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ของเธอคือสิ่งที่วงการนี้ต้องการ ไม่มีใครเหมือนเธอหรอก" จูฮี เพื่อนอีกคนเสริมด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจโรเซ่หัวเราะเบา ๆ"ขอบคุณนะ แต่ทุกครั้งที่ฉันต้องเผชิญหน้ากับการเปิดตัวใหม่ ๆ มันก็เหมือนกับการโดนตีในท้อง แต่ถ้าฉันไม่ทำแบบนี้ ฉันคงไม่รู้จักตัวเองว่าความสามารถที่แท้จริงของฉันคืออะไร" โรเซ่กล่าวด้วยแววตาที่มุ่งมั่น"ฉันก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกันนะ" จูฮีกล่าว "แต่เราจะอยู่ข้างเธอเสมอ สู้ ๆ นะ โรเซ่"โรเซ่รู้สึกอบอุ่นใจจากคำพูดของเพื่อน ๆ ซึ่งเป็นกำลังใจสำคัญในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้**ข่าวลือ...และการเผชิญหน้
ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบของห้องสมุดแห่งความฝัน โรเซ่พบว่ามันแตกต่างจากครั้งก่อน ๆ ทุกครั้งที่เธอมาที่นี่ มักจะมีแสงอ่อน ๆ สะท้อนผ่านหน้าต่างบานใหญ่ พร้อมเสียงเพลงเบา ๆ ที่ชวนให้รู้สึกอบอุ่น แต่ครั้งนี้ มันกลับดูหม่นหมองเล็กน้อย คล้ายกับการบอกลาที่กำลังใกล้เข้ามาซูโฮยืนอยู่ตรงมุมหนึ่งของห้อง เขายิ้มให้เธอเหมือนทุกครั้ง แต่โรเซ่รู้สึกได้ถึงความเศร้าที่แฝงอยู่ในดวงตาของเขา เธอเดินเข้าไปใกล้ ก่อนจะหยุดยืนตรงหน้าเขา"ผมดีใจที่คุณมาที่นี่อีกครั้ง" เสียงของซูโฮนุ่มนวลเหมือนเคย"ฉันจะไม่มาได้ยังไงล่ะ" โรเซ่ตอบพร้อมยิ้ม แม้ในใจเธอจะรู้สึกหนักอึ้ง "คุณเป็นคนสำคัญสำหรับฉันนี่นา"ซูโฮยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า"คุณเองก็เป็นคนสำคัญสำหรับผม แต่ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องเดินไปข้างหน้า ด้วยตัวของคุณเอง" ซูโฮกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความห่วงใยโรเซ่เม้มริมฝีปาก เธอรู้ว่านี่คือบทสนทนาสุดท้ายของพวกเขา แต่เธอกลับไม่อยากยอมรับความจริง"ฉันไม่อยากจากคุณไป..." เธอพูดเสียงเบา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกที่อัดแน่นซูโฮก้าวเข้ามาใกล้ จับมือเธอไว้อย่างอ่อนโยน"ผมไม่อยากจากคุณเหมือนกัน แต่คุณมีชีวิตที่ต้องใช้ในโ
หลังจากให้คำสัญญา โรเซ่รู้สึกถึงความหนักอึ้งที่เคยเกาะกุมจิตใจเริ่มเบาบางลง เธอมองซูโฮที่ยังคงยิ้มให้เธอ รอยยิ้มนั้นแม้จะแฝงไปด้วยความเศร้า แต่กลับเต็มไปด้วยความจริงใจ"คุณเคยคิดไหมว่าทำไมฉันถึงได้พบคุณที่นี่" โรเซ่ถามพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม"ผมคิดว่าเราคงถูกกำหนดให้พบกัน" ซูโฮตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "บางทีการพบกันของเราอาจเป็นบทเรียนสำหรับทั้งคุณและผม""บทเรียน?" โรเซ่ทวนคำ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย"ใช่ครับ บทเรียนที่ทำให้คุณเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง และทำให้ผมได้เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง" ซูโฮอธิบายโรเซ่นิ่งเงียบ ดวงตาของเธอจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของซูโฮ เธอเริ่มเข้าใจความหมายที่เขาพยายามจะบอก"แต่ฉันยังไม่อยากให้คุณไป" เสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย"โรเซ่" ซูโฮพูดชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น "ทุกสิ่งในโลกนี้มีเวลาของมัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือความเศร้า สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จักยอมรับและปล่อยวาง""คุณพูดเหมือนง่าย" เธอพึมพำ"มันไม่ง่ายหรอกครับ" ซูโฮยอมรับ "แต่คุณเป็นคนที่เข้มแข็ง ผมเชื่อว่าคุณทำได้"โรเซ่เม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่รู้ว่าจะตอบกลับเขาอย่างไรดี น้ำตาเริ่มไหลลงมาช้า ๆ"ฉันไม่เคยคิดเ
หลังจากให้คำสัญญา โรเซ่รู้สึกถึงความหนักอึ้งที่เคยเกาะกุมจิตใจเริ่มเบาบางลง เธอมองซูโฮที่ยังคงยิ้มให้เธอ รอยยิ้มนั้นแม้จะแฝงไปด้วยความเศร้า แต่กลับเต็มไปด้วยความจริงใจ"คุณเคยคิดไหมว่าทำไมฉันถึงได้พบคุณที่นี่" โรเซ่ถามพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม"ผมคิดว่าเราคงถูกกำหนดให้พบกัน" ซูโฮตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "บางทีการพบกันของเราอาจเป็นบทเรียนสำหรับทั้งคุณและผม""บทเรียน?" โรเซ่ทวนคำ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย"ใช่ครับ บทเรียนที่ทำให้คุณเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง และทำให้ผมได้เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง" ซูโฮอธิบายโรเซ่นิ่งเงียบ ดวงตาของเธอจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของซูโฮ เธอเริ่มเข้าใจความหมายที่เขาพยายามจะบอก"แต่ฉันยังไม่อยากให้คุณไป" เสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย"โรเซ่" ซูโฮพูดชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น "ทุกสิ่งในโลกนี้มีเวลาของมัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือความเศร้า สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จักยอมรับและปล่อยวาง""คุณพูดเหมือนง่าย" เธอพึมพำ"มันไม่ง่ายหรอกครับ" ซูโฮยอมรับ "แต่คุณเป็นคนที่เข้มแข็ง ผมเชื่อว่าคุณทำได้"โรเซ่เม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่รู้ว่าจะตอบกลับเขาอย่างไรดี น้ำตาเริ่มไหลลงมาช้า ๆ"ฉันไม่เคยคิดเ
แสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าของกรุงโซลทอประกายผ่านม่านสีขาว ส่องกระทบใบหน้าของโรเซ่ที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียง เธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏบนริมฝีปาก เมื่อนึกถึงความฝันอันแสนหวานที่เพิ่งผ่านพ้นไป เธอลุกขึ้นจากเตียงและเดินไปเปิดม่านหน้าต่าง กวาดสายตามองทิวทัศน์ของเมืองที่ค่อย ๆ ตื่นขึ้นจากนิทรา"วันนี้ต้องเป็นวันที่ดีแน่นอน" โรเซ่พูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สดใสเมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จ โรเซ่ก็เดินลงมายังห้องครัว กลิ่นหอมของอาหารเช้าลอยมาเตะจมูก เธอพบว่าคุณพ่อกำลังตักข้าวใส่ชาม ส่วนคุณแม่กำลังจัดวางเครื่องเคียงต่าง ๆ บนโต๊ะอาหาร มินจี น้องสาวของเธอนั่งรออยู่ด้วยท่าทางสดใส"เช้านี้ดูมีพลังจังเลยนะลูก" คุณแม่ทักทายด้วยรอยยิ้มโรเซ่ยิ้มกว้าง "แน่นอนค่ะ เมื่อคืนได้นอนเต็มอิ่มและมีเรื่องอยากเล่าให้ทุกคนฟังด้วย"มินจีที่กำลังตักกิมจิใส่จาน เงยหน้าขึ้นมาพูดแซว"จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับแฟชั่นโชว์ที่ปารีสอีกหรือเปล่า พี่นี่คงไม่หยุดพูดเรื่องนั้นแน่" มินจีกล่าวด้วยน้ำเสียงขี้เล่นโรเซ่หัวเราะเบา ๆ "แน่นอนสิ! นี่มันเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตฉันเลยนะ มินจี เธอควรภูมิใจกับพี่สาวคนนี้บ้าง"ทุกคนหั
โรเซ่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวเอง ตั้งแต่เธอเริ่มฝันถึงซูโฮบ่อยขึ้น ความฝันแต่ละครั้งชัดเจนราวกับความจริง เสียงของเขานุ่มนวลเหมือนเคย แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือซูโฮในความฝันเริ่มมีอารมณ์เหมือนคนที่มีชีวิตจริง เขาหัวเราะ เสียใจ หรือแม้แต่แสดงความห่วงใยเธอในแบบที่ลึกซึ้ง จนโรเซ่เริ่มตั้งคำถามกับตัวเองคืนหนึ่ง โรเซ่ฝันว่าเธอกำลังเดินอยู่ในสวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยดอกไม้ ซูโฮเดินเคียงข้างเธอ ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มอ่อนโยน แต่ดวงตาดูลึกซึ้งจนยากจะเข้าใจ"คุณดูเงียบกว่าปกตินะคะ วันนี้มีอะไรในใจหรือเปล่า" โรเซ่ถามพลางหันไปมองเขา"บางครั้งผมก็รู้สึกว่าเวลาของเราในที่นี่มันไม่ยั่งยืน" ซูโฮตอบ น้ำเสียงของเขามีความเศร้าปนอยู่โรเซ่ขมวดคิ้ว"คุณหมายความว่ายังไง คุณเป็นใครกันแน่ ทำไมฉันถึงฝันถึงคุณบ่อยขนาดนี้" โรเซ่ถามด้วยความสงสัยซูโฮหยุดเดินและมองเธอ ดวงตาของเขาสั่นไหวเหมือนคนที่กำลังเก็บความลับบางอย่าง"ผมคือส่วนหนึ่งของความฝันที่คุณสร้างขึ้น คุณไม่ต้องกลัว ผมไม่ได้มาทำร้ายคุณ" ซูโฮตอบด้วยรอยยิ้มบางๆ"แต่คุณมาจากไหน คุณเป็นคนจริง ๆ หรือเปล่า" โรเซ่ยังคงถามต่อเขาไม่ตอบ แต่เพียงส่งยิ้มบาง ๆ ให้เธอ
เช้าวันนั้นในกรุงโซล อากาศเย็นสบายลอยผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องของโรเซ่ แสงแดดอ่อน ๆ ทอประกายลงบนโต๊ะทำงานของเธอที่ยังคงมีร่องรอยจากโปรเจกต์ก่อนหน้านี้ โรเซ่ลุกขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกสดชื่น หลังจากอาบน้ำและแต่งตัวเสร็จ เธอเดินลงไปที่ห้องครัว พ่อของเธอกำลังตักข้าวใส่ชาม และแม่ของเธอก็กำลังเตรียมเครื่องเคียง"เช้านี้ดูมีพลังจังเลยนะลูก" แม่ทักพร้อมรอยยิ้มโรเซ่ยิ้มกว้าง"แน่นอนค่ะ เมื่อคืนได้นอนเต็มอิ่มและมีเรื่องอยากเล่าให้ทุกคนฟังด้วย" โรเซ่ตอบด้วยความตื่นเต้นมินจี น้องสาวของเธอที่กำลังตักกิมจิใส่จาน เงยหน้าขึ้นมาพูดแซว"จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับแฟชั่นโชว์ที่ปารีสอีกหรือเปล่า พี่นี่คงไม่หยุดพูดเรื่องนั้นแน่" มินจีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความขี้เล่นโรเซ่หัวเราะเบา ๆ"แน่นอนสิ! นี่มันเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตฉันเลยนะ มินจี เธอควรภูมิใจกับพี่สาวคนนี้บ้าง" โรเซ่ตอบด้วยรอยยิ้มทุกคนหัวเราะและนั่งล้อมรอบโต๊ะ โรเซ่เริ่มเล่าเรื่องการแสดงแฟชั่นโชว์ ทั้งบรรยากาศของงาน ชุดที่เธอออกแบบ และเสียงปรบมือที่ได้รับ"พ่อคะ แม่คะ ตอนที่ฉันยืนอยู่บนเวทีแล้วมองไปยังฝูงชน ฉันรู้สึกเหมือนความฝันมันเป็นจริงเลยค่
โรเซ่หลับตาลงอย่างช้า ๆ หลังจากวันที่ยาวนานผ่านไป ความเงียบสงบของค่ำคืนนี้ชวนให้เธอนึกถึงโลกใบหนึ่งที่เธอไม่ได้ไปมาหลายวัน โลกที่เต็มไปด้วยแสงสลัวและกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของหนังสือเก่า ๆ และเมื่อเธอเปิดตาขึ้นอีกครั้งในความฝัน เธอพบว่าตัวเองอยู่ที่ห้องสมุดแห่งความฝันอีกครั้ง"คุณกลับมาแล้ว" เสียงที่นุ่มนวลและอบอุ่นดังขึ้นข้างหลัง โรเซ่หันไปและพบกับซูโฮ เขายืนอยู่ในชุดเรียบง่าย สายตาของเขามองเธอด้วยความอ่อนโยนที่โรเซ่คุ้นเคย"ใช่ ฉันกลับมาแล้ว" โรเซ่พูดพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ขณะที่เดินเข้าไปใกล้เขา "ที่นี่สงบกว่าชีวิตจริงของฉันเยอะเลย"ซูโฮหัวเราะเบา ๆ "ผมเดาว่ามันคงมีเรื่องมากมายที่ทำให้คุณเหนื่อย แต่คุณก็ยังดูสดใสเสมอ"โรเซ่ยิ้มขี้เล่น"ฉันก็ต้องพยายามทำตัวให้สดใสสิ ฉันไม่ชอบให้ใครมองว่าฉันอ่อนแอ" โรเซ่ตอบด้วยความมั่นใจ"แต่คุณก็ไม่ได้อ่อนแอเลยสักนิด" ซูโฮพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น "คุณมีพลังในแบบที่คนอื่นไม่มี และนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้คุณแตกต่าง"โรเซ่หยุดนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง สายตาของเธอจับจ้องไปที่ซูโฮ"คุณพูดเหมือนรู้จักฉันดีจัง... มากกว่าที่ฉันรู้จักตัวเองเสียอีก" โรเซ่กล่าวด้วยความสงสัยซูโฮยิ้มบ