"อีกอย่างหนึ่ง ฉันจะไม่เข้าไปดันน์ กรุ๊ปในเช้าวันพรุ่งนี้"“คุณมีอะไรต้องทำงั้นเหรอ?”“ฉันเพลียนิดหน่อย ฉันอยากจะหยุดพัก” เจนดูอิดโรยหลังจากที่เธอพูดคำเหล่านั้น "วิเวียน ฉันจะมอบอำนาจให้เธอครึ่งหนึ่งดูแลดันน์ กรุ๊ป แล้วอย่าทำให้ฉันผิดหวัง" เธอพูดด้วยท่าทางที่จริงใจ และยืนขึ้น "ฉันไม่คิดว่าจะทานอาหารกับเธอต่อ ฉันของีบสักหน่อย ฉันไม่รู้ว่าทำไมช่วงนี้ฉันถึงเหนื่อยง่ายขนาดนี้"วิเวียนดูผิดหวังเมื่อเธอได้ยินคำพูดเหล่านั้น “เฮ้อ นั่นคือสิ่งที่คุณทำมาตลอด เอาล่ะ ฉันจะออกไปแล้ว ไม่ต้องกังวลเรื่องงาน ฉันจะจัดการเรื่องต่าง ๆ ในบริษัทให้เอง”“นี่คุณให้หุ้นดันน์ กรุ๊ปกับฉันแล้ว…อืม คุณจะไม่เสียใจจริง ๆ เหรอ?”เธอยังคงสงสับ แม้ว่าเจนจะอ้างว่าเธอกำลังซื้อใจของเธอ แต่เธอก็ไม่จำเป็นต้องใช้หุ้นของดันน์ กรุ๊ปในการทำเช่นนั้น วิเวียนเต็มใจที่จะติดตามเจนไปตลอดชีวิตของเธอเมื่อวิเวียนเดินไปที่ประตู เจนก็เรียกเธอ "เดี๋ยวก่อน""หืม?"“เราไม่ได้อายุยี่สิบต้น ๆ อีกแล้ว วิเวียน… เวลาก็เหมือนมีดแล่เนื้อ หางตาของเราก็มีรอยตีนกาแล้ว”"ใช่ ฉันยังจำได้ว่าตอนที่เรายังเด็ก เราขี้โวยวายแค่ไหน พวกเราไม่มีความกล้
รถกำลังขับอยู่บนถนนซึ่งดอสเป็นคนขับ ในพื้นที่ที่มืดมน และคับแคบ ร่างเล็กของหญิงสาวที่อยู่เบาะหลังสั่นเล็กน้อยแขนที่แข็งเหมือนเหล็กมัดอยู่รอบตัวเธออย่างแน่น เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะขยับได้มันไม่เหมือนการกอดมากนัก แต่เหมือนกับการผูกมัดเธอด้วยโซ่ตรวนมากกว่า ใบหน้าของชายหนุ่มที่กักขังหญิงสาวนั้นฉุนเฉียวมากหยดเหงื่อเย็นไหลซึมออกมาจากหน้าผากของดอส และไหลลงมา เขาไม่กล้าเช็ดมันออกในเวลานี้เ ขาไม่ได้ขับรถให้ชาย และหญิง แต่เป็น…พายุความกดอากาศต่ำกำลังโอบล้อมชายหนุ่มดอสอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแอบอิจฉาเล็กน้อยอย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ต้องอยู่กับสิงโตตัวนี้ที่กำลังจะบ้าดีเดือดได้ตลอดเวลารถคันดังกล่าวกดสัญญาณไฟ และขับไปเลนซ้ายของถนน ตอนที่เสียงเย็นชาดังมาจากด้านหลัง มันผ่านฝากระโปรงมา จนเขาตั้งตัวไม่ทัน"ฉันบอกเหรอว่าเราจะกลับไปที่คฤหาสน์สจ๊วต?"ดอสตัวสั่นทันที “บอส เราจะไปไหนกันครับ?”"กลับบ้าน" ชายหนุ่มพูดสองคำนั้นอย่างไม่แยแสโชคดีที่ดอสฉลาดกว่าที่จะถามต่อไป เขาหันหัวรถ และกลับรถอีกครั้ง นี้เปลี่ยนทิศทางที่รถกำลังเคลื่อนที่ไปโดยสิ้นเชิงหญิงสาวเงียบตลอดทาง เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ดังนั้นเธอจ
เขาตรึงเธอไว้ ดวงตาของหญิงสาวพร่ามัว เสียงของเธอหยาบ และแหบแห้ง "ฉันเกลียดคุณ…'จูบที่ลึกซึ้งปิดกั้นเธอไม่ให้พูดจบหญิงสาวไม่สามารถพูดได้ แต่ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเกลียดชัง และความกลัวชายหนุ่มสัมผัสดวงตาเหล่านั้น และหัวใจของเขาก็เจ็บปวดในทันที เขาเอื้อมมือไปปิดตาคู่นั้น เขาปฏิเสธที่จะมอง เขาไม่ต้องการให้เธอมองเขาด้วยสายตาแบบนั้น!รูม่านตาสีเข้มของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความเจ็บปวดอย่างรุนแรง ในขณะนี้เขาไม่มีความกังวลใจเกี่ยวกับการเปิดเผยพวกมัน เธอ…เธอ…ถึงอย่างไรดวงตาของเธอก็ถูกปิดไปแล้ว ถึงอย่างไรเธอก็ไม่สามารถเห็นพวกมันได้ถึงอย่างไรเธอ…เธอก็เป็นของเขา!เขาเป็นคนทำเรื่องโหดร้าย เขาก็ยังเป็นคนที่เจ็บปวดอย่างแสนสาหัสอีกด้วยเช่นกัน... จริงไหมที่ว่าเพราะครั้งหนึ่งเขาพลาดไป แล้วมันก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะมีอนาคตด้วยกันอีกเลย?เจน! เจน เธอโหดร้ายเกินไป! 'มีบรรยากาศที่คลุมเครือในห้อง แต่ทั้งคู่ก็ปล่อยให้หัวใจของพวกเขาจมลงไปในส่วนลึกของทะเลสาบในใจของพวกเขาเห็นได้ชัดว่าเขากำลังทำในสิ่งที่เขาอยากทำมากที่สุดในช่วงสามปีที่ผ่านมา แต่มันทำให้เขาอึดอัดมากจนหัวใจของเขากำลังสั่นไหว และหายใจ
เจนมองคนที่ดึงประตูรถข้าง ๆ เธอให้เปิดออก หัวใจของเธอจมลง... อุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งนี้เกิดโดยไม่ได้ตั้งใจ"เราพบกันอีกแล้ว พ่อบ้านซัมเมอร์"ชายชราดูแก่กว่าตอนที่เธอเห็นเขาครั้งสุดท้าย เธอจำได้ว่าพ่อบ้านซัมเมอร์เป็นพ่อบ้านในคฤหาสน์สจ๊วตมาตลอดชีวิตของเขา ในความทรงจำของเธอชายชราคนนี้ช่างสุภาพมากไม่เคยมีรอยยิ้มบนใบหน้าทรงยาวของเขา เขาจะทำหน้าบึ้งตึงตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังมีออร่าที่เข้มงวดแผ่ออกมาทั่วร่างกายของเขาอย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ชายชราไม่มีความเป็นพ่อบ้านในคฤหาสน์สจ๊วตอีกแล้ว เนื้อตัวของเขาช่างดูร่วงโรย และเหี่ยวย่นเหมือนท่อนไม้แห้งในทะเลทรายขณะที่เธอจ้องมองไปที่ใบหน้าที่เธอจำได้เสมอว่ามักจะเข้มงวดกวดขัน ในขณะนี้เธอเห็นเพียงแต่ความบ้าคลั่ง"เธอจำฉันได้ด้วยเหรอ!”“งั้นเธอยังจำเพื่อนเก่าคนนี้ได้ไหม ฮ่ะ!”พ่อบ้านซัมเมอร์ยิ้มราวกับว่าเขาเป็นบ้า เมื่อมองมันรอยยิ้มของเขาช่างเย็นชา"เธอแปลกใจไหมที่เจอชายแก่คนนี้? เธอประหลาดใจไหมล่ะ? ฮ่า""คุณตั้งใจชนรถของฉันงั้นเหรอ?" เลือดอุ่นหยดจากหน้าผากของเธอ เธอไม่ได้เอื้อมมือไปเช็ดมัน เธอเพียงจ้องมองคนตรงหน้าโดยไม่กระพริบตาไม่จำเป็นต้อง
พ่อบ้านซัมเมอร์ล็อคประตูในทันที เมื่อหญิงสาวตระหนักได้ว่าเธอไม่สามารถเปิดประตูได้ เธอจึงเริ่มทุบหน้าต่างอย่างบ้าคลั่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาต้องการส่งเธอไปสู่ความตาย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะไม่มีทางปล่อยเธอไปอย่างแน่นอนไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาขับรถเร็วขนาดนี้อย่างบ้าคลั่ง มันก็แสดงออกได้ว่าเขานั่นไม่กลัวอะไรเลย แต่อย่างไรก็ตามเมื่อมีอีกคนที่บ้ากว่าเขา ทันใดนั้นเขาก็เกิดความกลัวขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจเขาถอยเท้าบนคันเร่งออก แต่ความเร็วของรถนั้นก็ยังไม่ได้ลดลงในทันทีมีผู้หญิงบ้าที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขาทุบหน้าต่างอย่างหมดหวัง ในที่สุดพ่อบ้านซัมเมอร์ก็ประสบกับความกลัวในตอนนี้ เขาควบคุมพวงมาลัยด้วยมือข้างหนึ่ง และจับผู้หญิงบ้าอีกคนที่นั่งฝั่งผู้โดยสารไว้แน่น"เธอบ้าไปแล้วหรือไง?"เขาคำรามออกมาอย่างโกรธเกรี้ยวในขณะนี้เขานั้นไม่ได้ฉุกคิดอะไรให้ดีเสียด้วยซ้ำ – นี่มันคือสิ่งที่เขาต้องการ ไม่ใช่หรือ?เมื่อเรื่องทั้งหมดแย่ลง เมื่อผู้หญิงคนนั้นไม่ยอมสงบนิ่งอีกต่อไป เขาก็รู้สึกกลัวขึ้นมาในทางกลับกัน“ฉันอยากกลับ!”"ปล่อยฉัน! ปล่อยฉันนะ! ฉันอยากกลับ!"หญิงสาวส่งเสียงกรีดร้องอย่างสุดเสียง
บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าเธอใช้พลังงานไปเยอะหลังจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ หญิงสาวจึงเป็นลมหมดสติไปที่ชั้นบนในอพาร์ตเมนต์เอลิออร์กำลังเก็บข้าวของ ชุดยาต่าง ๆ ของเขากลับเข้ากล่อง "เธอไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก แต่สภาพร่างกายของเธอในตอนนี้มันย่ำแย่มาก ๆ หลังจากนี้เธอจะต้องปรับสมดุลระหว่างการทำงานและการพักผ่อน รวมไปถึงดูแลตัวเองละเรื่องอาหารการกินให้มากขึ้น... "เมื่อเอลิออร์พูดอย่างนั้นออกมา เขาก็หยุดและมองไปที่หญิงสาวที่นอนหมดสติอยู่บนเตียงและเม้มริมฝีปากของเขา ก่อนจะพูดต่ออีกว่า "จะเป็นการดีที่สุด ที่เธอจะไม่ใช้แรงหรือพลังงานมากจนเกินไป เธอควรอยู่บ้านและพักฟื้น จนกว่าที่ร่างกายของเธอจะดีขึ้น"แต่มันก็เป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ว่า เธอจะสามารถดูแลร่างกายที่ย่ำแย่ของเธอนั้นให้มันกลับมามีสุขภาพที่ดีแข็งแรงได้เมื่อไหร่ระบบการทำงานขั้นพื้นฐานในร่างกายของเธอนั้น มันได้รับความเสียหายอย่างมากและย่ำแย่จากการที่เธอหักโหมร่างกาย "นอกจากนี้ฉันขอแนะนำว่า นายควรที่จะพาเธอไปโรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจร่างกายอย่างละเอียดเมื่อเธอฟื้นขึ้นมา”“ในตอนนี้ฉันไม่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เพรียบพร้อมอ
ในที่สุดเจนก็ตื่นฟื้นขึ้นมา เมื่อเธอตื่นขึ้นมาห้องก็มืดสลัว เธอลุกขึ้น และเดินไปที่ห้องนั่งเล่น เธอไม่ได้ตกใจกับชายที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟาภายใต้แสงไฟอันอบอุ่นในห้องนั่งเล่นนั้นในห้องนั่งเล่นระดับเสียงของทีวีนั้นมันถูกตั้งไว้ในระดับที่ต่ำที่สุด ราวกับว่าเขากังวลว่าเขาจะรบกวนเธอจากการพักผ่อน ถ้าหากเขาเปิดเสียงดังกว่านี้เมื่อเขาได้ยินเสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังมาจากทางเดิน ชายคนนั้นรีบหันไปมองทันทีพวกเขาทั้งสองสบตากันอารมณ์ของพวกเขาทั้งสองดูเหมือนว่ามันจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี มันดูราวกับว่าพวกเขาเป็นสามีภรรยากันมานานมากแล้ว และดูเหมือนว่าพวกเขาจะเข้าใจซึ่งกันและกันโดยที่ไม่ต้องพูดอะไร พวกทั้งสองไม่ได้ทำลายความสงบสุขที่แปลกประหลาดนี้ทุกอย่างมันดูราวกับว่า ... พวกเขาสามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างสันติชายคนนั้นลุกขึ้นยืนและเดินไปที่เคาน์เตอร์บาร์ เขาอุ่นโจ๊ก และวางไว้บนเคาน์เตอร์บาร์หญิงสาวเดินเข้าไปเงียบ ๆ จากนั้นเธอก็นั่งทานอาหารดูเหมือนกับว่าที่นี่มันไม่เคยมี ความรัก – ความเกลียด พัวพันระหว่างทั้งสอง ไม่มีความทรงจำที่เจ็บปวดร่วมกันเกิดขึ้นทุกคนอาจจะคิดว่าบรรยากาศช่างเต็มไปด้วยค
วันเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ชายคนนั้นมักจะทำอาหารทุกมื้อของเธอด้วยตัวของเขาเอง เมื่อเขาออกไปทำงานเขาจะพาผู้หญิงคนนั้นมาอยู่ข้าง ๆ ตัวเขาตลอด ทำให้เธออยู่ในสายตาของเขาตลอดเวลา พวกเขาจึงดูเหมือนคู่รักที่แสนหวาน และรักกันมากมีความอิจฉาริษยาในสายตาของคนทั่ว ๆ ไป เมื่อพวกเขาเห็นเจนอยู่กับฌอนเมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน ทุกคนในแวดวงต่างรู้ว่าทั้งสองมักจะตัวติดกันอยู่ตลอดเวลามีใครบางคนถอนหายใจออกมา ‘เจน ดันน์ จากตระกูลดันน์ ได้ครอบครองหัวใจชายคนนี้ในที่สุด หลังจากที่เธอไล่ตามฌอนในตอนนั้นเธอดูเป็นคนที่กล้าแสดงออกมาก 'คนทั่วไปต่างก็คิดว่า ในที่สุดเจนก็ได้รับในสิ่งที่เธอต้องการแล้วในวันหยุดสุดสัปดาห์หนึ่ง“ฉันอยากเจอเขา”"ใคร?""... พี่ชายของฉัน"มีความสั่นไหวในดวงตาของชายคนนั้น ถึงกระนั้นเขาก็ยังรักษาภาพพจน์ของตัวเอง"คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องของเจสัน"เขาพูดด้วยท่าทางสบาย ๆเจนบีบหมัดของเธอแน่น และหลังจากนั้นไม่นาน…"สภาพของเขาคงดูไม่ดีนัก ฉันจึงอยากจะเห็นด้วยตาของตัวเอง""นี่ผมปฏิบัติต่อคุณไม่ดีพอหรือ?" ชายคนนั้นเชื่ออย่างสนิทใจว่าเธอกำลังพยายามที่จะหนีจากเขาไปอีกครั้ง “เจสัน
ฉันชื่อ ลูก้า สจ๊วต มันเป็นชื่อแปลก ๆ ใช่ไหม? แบบว่ามันเหมือนกับคำว่า ‘ดูสิ! สตูว์’คุณปู่ของฉันตั้งชื่อให้ฉัน ประสบการณ์หลายปีของฉันตอนเป็นเด็กบอกฉันว่าปู่ของฉันไม่ใช่ผู้ชายที่ดีไม่ต้องนึกถึงเรื่องอื่นเลย แค่ดูชื่อที่เขาตั้งให้ฉันสิ เขามีชื่อที่ดีอย่างสมบูรณ์แบบ แต่เขากลับตั้งชื่อแปลก ๆ นี้ให้กับฉันอย่างไรก็ตามทุกครั้งที่ฉันทักท้วงเรื่องนี้กับเขา เขามักจะบอกว่านั่นเป็นความผิดของพ่อฉัน ถ้าพ่อเป็นเด็กผู้หญิงนั่นจะเป็นชื่อของเขาแทนดูสิ คุณปู่เป็นคนที่ตั้งชื่อที่น่ากลัวนี้ให้ฉัน แต่เขายังคงโยนความผิดทั้งหมดให้พ่อของฉันอ้อ ลืมแนะนำตัวอย่างเป็นทางการไปเลยปู่ของฉันชื่อ ฌอน สจ๊วตเขาค่อนข้างเป็นคนที่น่าทึ่งในวัยเยาว์ย่าของฉันชื่อ เจน ดันน์บางครั้งฉันก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทั้งสองคนลงเอยด้วยกันได้อย่างไร พวกเขาเป็นคนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยนะปู่กับย่าของฉันได้หย่าร้างกันก่อนที่พ่อของฉันจะเกิดเสียอีกหลังจากการหย่าร้างครั้งนั้น ทั้งคู่ก็ไม่ได้แต่งงานกันใหม่นะพวกเขาน่าจะแยกทางกันไปอย่างสันติ แต่คุณปู่ก็ไร้ยางอายอย่างที่สุด เขาจึงคอยรบกวนคุณย่าของฉันตลอดเวลาเลยเท่าที่ฉันจำไ
ที่โรงพยาบาล ประตูวอร์ดถูกเปิดออกเงียบ ๆ โดยที่ไม่มีเสียง ครั้งนี้ดอสไม่ได้แจ้งการมาถึงของแขกล่วงหน้าเมื่อเอลิออร์มาถึงอย่างรีบร้อน เขาก็เห็นผู้หญิงคนนั้นก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไร อโลร่าก็ดึงเขากลับออกไปที่ทางเดิน ประตูเปิดแล้วปิดลงอีกครั้งคนบนเตียงนอนตะแคง และกำลังหลับอยู่ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังฝันถึงอะไร แต่ใบหน้าที่ขมวดคิ้วลึกแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้มีความฝันที่น่าพอใจนักมือของเขาวางอยู่บนผ้าห่ม แหวนแต่งงานของเขายังคงอยู่บนนิ้วของเขาหญิงสาวเดินเข้าไปหาเขาอย่างช้า ๆ ในที่สุดก็มาหยุดอยู่ที่หน้าเตียงของเขาดวงตาของเธอสดใส และชัดเจน เธอจ้องมองแหวนบนนิ้วมือของเขาไม่มีใครรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่เธอจ้องไปที่แหวนเป็นเวลานานนาน จนเธอรู้สึกงุนงงหลังจากนั้นไม่นานดวงตาของชายคนนั้นก็เบิกโพลง สิ่งแรกที่เขาเห็นคือคนในความฝันเขายิ้มหน้าซีดให้เธอ “โอ้ ฉันฝันไปอีกแล้วสินะ”ราวกับว่าเขากำลังคุยกับเพื่อนที่เขาไม่ได้เจอมานาน เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน และดีใจจนแทบจะเห็นได้ชัดผ่านการแสดงออกทางร่างกายของเขา "ดีแค่ไหน. คุณยังเต็มใจจะมาเยี่ยมฉันในความฝัน”หญิงสาวยืนอยู่ที่เตียงของเ
"เจน เอ๋อไห่ไม่ใช่สวรรค์หรือความสงบตามที่เธอพูดหรอก มันเป็นเพียงแค่การหลบหนีของเธอ" อโลร่ากล่าวอย่างเคร่งขรึมเธอไม่ควรพูดทั้งหมดนี้ แต่เธอเห็นบางสิ่งที่เจ้าตัวมองไม่เห็นบางทีภาพอาจจะดูชัดเจนขึ้นจากคนภายนอกที่เฝ้าดู หรือบางทีอาจจะไม่ถึงกระนั้นเธอก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเจนกำลังลังเลเมื่อสามปีก่อนเธอเคยช่วยเจนหนี เพราะเธอต้องการให้เจนมีชีวิตที่สงบสุขอย่างแท้จริงนับตั้งแต่นั้นสามปีหลาย ๆ อย่างก็เปลี่ยนไป เธอก็เติบโตขึ้นด้วยเป็นเพราะความเป็นผู้ใหญ่ที่เพิ่งค้นพบทำให้เธอไม่เคยหยุดคิดถึงเรื่องนี้เช่นกันเธอคิดถูกหรือเปล่าที่ช่วยเจนหนีเมื่อสามปีก่อน มันอาจจะเป็นความผิดพลาดหรือเปล่านะ?เธอเริ่มคิดว่าเธอคิดผิดในตอนนั้นผู้หญิงคนนี้ถูกผีเข้าเต็ม ๆ ไม่มีทางที่เธอจะหยุด และมองไปรอบ ๆ เพื่อดูผู้คน และข้อเท็จจริงตลอดสามปีที่ผ่านมาอโลร่าได้เห็นว่าฌอนไม่เคยหยุดตามหาเธอเลย ทุกคนบอกให้เขาหยุด โดยบอกว่ามันไม่มีจุดหมายปลายทางเลย บางทีเจนอาจจะตายไปนานแล้วก็ได้ท้ายที่สุดแล้ว ถ้าเธอยังไม่ตายไป เหตุใดการค้นหาอย่างไม่หยุดยั้งเป็นเวลาถึงสามปีจึงไม่เกิดผลอะไรเลย?อย่างไรก็ตาม ชายคนนั้นปฏิเสธที่
"ที่นายมาที่นี่ในวันนี้ ก็เพื่อที่แค่จะคุยเรื่องของคุณปู่กับฉันหรือเปล่า?" ชายบนเตียงหัวเราะเบา ๆ ความไม่เชื่อเผยขึ้นในแววตาของเขาอย่างชัดเจน “ไมเคิล ลูเธอร์ ชายชราคนนั้นเขาไม่ห่วงว่าฉันจะเป็นหรือฉันจะตายหรอก เขายังมีหลานชายอีกคนที่จะสืบทอดบัลลังก์ของเขา”ไมเคิลหัวเราะอย่างแดกดัน“นายคิดว่าฉันจะกลับไปเป็นสจ๊วตจริง ๆ งั้นหรอ? สถานที่สกปรกแบบนั้น”“นายไม่ได้ต้องการ บริษัทสจ๊วตอุตสาหกรรม หรอกหรอ?” ฌอนกล่าวอย่างเย็นชา “ในกรณีนั้น ฉันกลัวว่านายจะต้องผิดหวัง”“สจ๊วตอุตสาหกรรมงั้นหรอ เฮอะ” ไมเคิลกวาดสายตามองไปยังฌอน ก่อนที่จะมองออกไปนอกหน้าต่าง“นั่นเป็นแหล่งเงินแหล่งทองชั้นดีเลย ดังนั้นฉันคิดว่าฉันต้องการมัน นายจะให้ฉันได้ไหมหล่ะ?”“ถ้าฉันไม่ให้ นายจะไม่บังคับเหรอ?”“ถ้านายเป็นคนถือมัน แน่นอน” ไมเคิลไม่พยายามปิดบังความทะเยอทะยานของเขา “แต่ถ้านายตายไป ฉันจะไม่เอามันมาจากเธอหรอก”ฌอนหรี่ตา “นายแน่ใจถึงความภักดีต่อความรู้สึกของนายที่มีต่อเธอไหม ฉันควรจะขอให้นายดูแลเธอก่อนที่ฉันจะตายหรือไม่?”“เฮ้อ ตัดเรื่องตลกออกไปก่อน นายกำลังจะตาย พวกนายทั้งสองไม่ได้หย่าร้างกันแล้วหรอ?“นั่นมันหมายค
ไมเคิล ลูเธอร์ เข้าสู่คฤหาสน์เก่าแก่ของสจ๊วต"คุณเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังทุกอย่างไม่ใช่เหรอ?"โดยไม่มีคำเตือนหรือบริบทใด ๆ เขาก็ตะโกนใส่ชายชราสจ๊วตที่กำลังจิบชาอย่างใจเย็นอยู่“คุณมาจากทางไหนกลับไปทางนั้นเลย…ถ้าจะมาเพื่อแสดงกิริยาความไม่เคารพต่อปู่ของคุณอย่างนี้?” ชายชราสจ๊วตวางถ้วยน้ำชาลง ใบหน้าอันแก่ชราของเขาค่อย ๆ เปลี่ยนไปอย่างยากลำบาก“คุณเป็นคนวางแผนเรื่องพ่อบ้านซัมเมอร์เองไม่ใช่หรอ?“ไม่อย่างนั้น เขาคงไม่มีทางกล้าทำหรอก จริงไหม?”"หมายความว่ายังไงหรอ? ฉันเป็นคนทำให้พ่อบ้านซัมเมอร์ทำอะไรอย่างนั้นเหรอ?""คุณเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังอุบัติเหตุของเจน นั่นคือสิ่งที่ฉันอยากที่จะรู้ความจริง เป็นคุรจริง ๆ ใช่ไหม?!" ไมเคิลยืนยันความคิดของตัวเองช่วงเวลาที่ชายชราสจ๊วตได้ยินชื่อของเจน การแสดงออกของเขาก็เคร่งขรึมลงในทันที “นี่หลานจะท้าปู่ของตัวเอง และแสดงกิริยาเช่นนี้ เพียงเพื่อเธอคนนั้นหรอ?”“นั่นคงหมายความว่า…คุณยอมรับมัน”ไมเคิลกำหมัดแน่น ทั้งตัวของเขานั้นสั่นสะท้านด้วยความโกรธ "เธอไปทำอะไรให้คุณปู่ขุ่นเคืองหรือ?""ทุก ๆ อย่าง ทุกอย่างที่เธอทำ มันทำให้ฉันขุ่นเคือง""เธอเป็นแค่เด
สามวันต่อมา บุคคลนั้นไม่ได้กลับเข้าบ้านอีกเลยเทรส และคัวโตรยืนอยู่ที่ประตูอย่างเงียบขรึมราวกับว่าพวกเขาทั้งสองคือรูปปั้นของเทพผู้พิทักษ์ที่อยู่อาศัยของเธอจากก่อนหน้านี้ได้ถูกไฟไหม้เสียหายไปบางส่วน เธอจึงกลับมาอยู่ที่คฤหาสน์สจ๊วตก่อน ลึกเข้าไปภายในคฤหาสน์ เธอไม่ได้ยินเสียงนกหรือกลิ่นดอกไม้ใด ๆ เลย พ่อบ้านก็เป็นมืออาชีพมาก ๆ เขาจัดเตรียมทุกอย่างเพรียบพร้อมไว้สำหรับเธอนอกเหนือจากเทรสและคัวโตรแล้ว เธอก็ไม่ค่อยได้พบใครเลย เธอไม่ได้พูดคุยกับใครเลยไม่แม้แต่เทรส และคัวโดรก็ไม่ได้คุยกับเธอสำหรับพ่อบ้านประจำตระกูล เขามักจะทำตัวสุภาพกับเธอทุกครั้งที่พบกันตอนนี้หูของเธอมันไร้ประโยชน์จริง ๆ แล้วปากของเธอก็คงเป็นเพียงแค่เครื่องประดับบนใบหน้าเพียงเท่านั้นคนรับใช้บางคนที่นี่ก็ดูคุ้นเคย ในขณะที่บางคนก็คงจะมาใหม่เพราะเธอไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน มันไม่สำคัญหรอกไม่ว่าใครในบ้านนี้เมื่อพวกเขาพบเห็นเธอ พวกเขาก็จะโค้งตัวด้วยความเคารพก่อนจะเดินจากไปทำงานของตัวเองต่อเธอนั่งมองดูคนสวนกำลังทำสวนผ่านกระจกหน้าต่างแม้ว่าในฤดูนี้ใบไม้ และดอกไม้ต่าง ๆ ในสวนจะร่วงโรยไปจนหมดแทบไม่มีสีสันในสวนหลงเหลืออยู่เล
วันผ่าตัดปลูกถ่ายไขกระดูกของเจสันเขาเปลี่ยนเป็นชุดผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว คุณหญิงดันน์อยู่ดูแลข้าง ๆ เขา"อย่าประหม่าไปเลย เจสัน ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี" คุณหญิงดันน์ปลอบใจ ถึงกระนั้นลูกชายของเธอก็ยังคงเอาแต่เงียบขณะที่เธอจ้องไปที่หน้าของลูกชายของเธอ เธอก็เอาแต่ด่าเจนในใจ"ถ้าไม่ใช่เพราะคนที่มีจิตใจดีคนนี้ที่บริจาคให้กับลูก นังเจน เด็กคนนั้นก็เกือบจะฆ่าลูกแล้ว"เจสันจ้องมองอย่างไม่พอใจ"คุณแม่ พอได้แล้ว!""หือ? ลูกเป็นอะไรไป?“แม่กำลังรู้สึกเสียใจกับลูกนะ จะมาตะโกนใส่แม่ทำไม?”“คุณแม่ อย่าพูดถึงเจนแบบนั้นนะ”“ทำไมจะทำไม่ได้? เธอไม่สนใจสมาชิกในครอบครัวของเธอเองเสียด้วยซ้ำ”คุณหญิงดันน์เกลียดลูกสาวคนนี้สุดหัวใจแม้ว่าจะได้รับการชี้แจงว่าเธอเข้าใจผิดว่าเจนไม่ใช่ลูกสาวของตัวเอง แต่คุณหญิงดันน์ก็ยังคงมีอคติกับลูกสาวคนนี้ของเธออยู่ดีหลังจากนั้นเธอก็เอาแต่เลี้ยงดูลูกชาย และคอยอยู่เคียงข้างเขามาตั้งแต่เขายังเด็ก มันจึงทำให้ลูกชายของเธอสนิทกับเธอส่วนนังเด็กคนนั้น ... เด็กเลว ๆ คนนั้น เธอกลับมาที่เมืองเอสนี้ในตอนนั้น ก็เพื่อที่จะยึดทรัพย์สินทั้งหมดของ ดันน์ กรุ๊ป ไปดันน์ กรุ
วันเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ชายคนนั้นมักจะทำอาหารทุกมื้อของเธอด้วยตัวของเขาเอง เมื่อเขาออกไปทำงานเขาจะพาผู้หญิงคนนั้นมาอยู่ข้าง ๆ ตัวเขาตลอด ทำให้เธออยู่ในสายตาของเขาตลอดเวลา พวกเขาจึงดูเหมือนคู่รักที่แสนหวาน และรักกันมากมีความอิจฉาริษยาในสายตาของคนทั่ว ๆ ไป เมื่อพวกเขาเห็นเจนอยู่กับฌอนเมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน ทุกคนในแวดวงต่างรู้ว่าทั้งสองมักจะตัวติดกันอยู่ตลอดเวลามีใครบางคนถอนหายใจออกมา ‘เจน ดันน์ จากตระกูลดันน์ ได้ครอบครองหัวใจชายคนนี้ในที่สุด หลังจากที่เธอไล่ตามฌอนในตอนนั้นเธอดูเป็นคนที่กล้าแสดงออกมาก 'คนทั่วไปต่างก็คิดว่า ในที่สุดเจนก็ได้รับในสิ่งที่เธอต้องการแล้วในวันหยุดสุดสัปดาห์หนึ่ง“ฉันอยากเจอเขา”"ใคร?""... พี่ชายของฉัน"มีความสั่นไหวในดวงตาของชายคนนั้น ถึงกระนั้นเขาก็ยังรักษาภาพพจน์ของตัวเอง"คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องของเจสัน"เขาพูดด้วยท่าทางสบาย ๆเจนบีบหมัดของเธอแน่น และหลังจากนั้นไม่นาน…"สภาพของเขาคงดูไม่ดีนัก ฉันจึงอยากจะเห็นด้วยตาของตัวเอง""นี่ผมปฏิบัติต่อคุณไม่ดีพอหรือ?" ชายคนนั้นเชื่ออย่างสนิทใจว่าเธอกำลังพยายามที่จะหนีจากเขาไปอีกครั้ง “เจสัน
ในที่สุดเจนก็ตื่นฟื้นขึ้นมา เมื่อเธอตื่นขึ้นมาห้องก็มืดสลัว เธอลุกขึ้น และเดินไปที่ห้องนั่งเล่น เธอไม่ได้ตกใจกับชายที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟาภายใต้แสงไฟอันอบอุ่นในห้องนั่งเล่นนั้นในห้องนั่งเล่นระดับเสียงของทีวีนั้นมันถูกตั้งไว้ในระดับที่ต่ำที่สุด ราวกับว่าเขากังวลว่าเขาจะรบกวนเธอจากการพักผ่อน ถ้าหากเขาเปิดเสียงดังกว่านี้เมื่อเขาได้ยินเสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังมาจากทางเดิน ชายคนนั้นรีบหันไปมองทันทีพวกเขาทั้งสองสบตากันอารมณ์ของพวกเขาทั้งสองดูเหมือนว่ามันจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี มันดูราวกับว่าพวกเขาเป็นสามีภรรยากันมานานมากแล้ว และดูเหมือนว่าพวกเขาจะเข้าใจซึ่งกันและกันโดยที่ไม่ต้องพูดอะไร พวกทั้งสองไม่ได้ทำลายความสงบสุขที่แปลกประหลาดนี้ทุกอย่างมันดูราวกับว่า ... พวกเขาสามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างสันติชายคนนั้นลุกขึ้นยืนและเดินไปที่เคาน์เตอร์บาร์ เขาอุ่นโจ๊ก และวางไว้บนเคาน์เตอร์บาร์หญิงสาวเดินเข้าไปเงียบ ๆ จากนั้นเธอก็นั่งทานอาหารดูเหมือนกับว่าที่นี่มันไม่เคยมี ความรัก – ความเกลียด พัวพันระหว่างทั้งสอง ไม่มีความทรงจำที่เจ็บปวดร่วมกันเกิดขึ้นทุกคนอาจจะคิดว่าบรรยากาศช่างเต็มไปด้วยค