ซัคและคาลเลนตกใจทันทีที่ประตูเปิดออกอย่างไรก็ตามในวินาทีถัดมา ซัคยิ้มและพูดกับ ไฮด์ โซรอส ว่า “ไม่เลวเลยพ่อหนุ่ม นายแน่มาก” ความประทับใจที่เขามีต่อเจนคือสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องวันนั้นมีรอยยิ้มที่ลึกซึ้งบนใบหน้าของคาลเลนซึ่งงดงามยิ่งกว่าผู้หญิงเสียอีก“เราพบกันอีกครั้งแล้วนะคุณหนูดันน์” คาลเลนเอ่ยขึ้นไฮด์ โซรอส และ ซัค ลูคัส ดูประหลาดใจในเวลาเดียวกัน“คุณสองคนรู้จักกันหรอ?”ไฮด์ โซรอส หันหน้าไปถามเจน “คุณรู้จักคาลเลนได้อย่างไร?”ในขณะนี้แขนขาของเจนกำลังสั่นเธอไม่ได้คาดหวังว่าทั้งสามคนจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดต่อกันนอกจากนี้เธอยังไม่คาดหวังว่า ไฮด์ โซรอส จะพาเธอไปพบเพื่อนที่ดีที่สุดของเขาเจนถามตัวเองว่าเธอจะมาที่นี่ไหม ถ้าเธอรู้เรื่องนี้มาก่อนคำตอบนั้นดังและชัดเจนว่า ไม่แน่นอนไฮด์ โซรอส ดึงเก้าอี้ออกมาให้เจนอย่างเกรงใจ "นั่งเถอะ อย่ากังวลมาก ซัค และ คาลเลน เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผม อย่าคิดว่าพวกเขาไม่สามารถเข้าถึงได้ พวกเขาดีมากจริง ๆ”ใบหน้าของเจนขาวซีด เธอฝืนยิ้ม และนั่งลงตามคำสั่งของเขาซัคถามอย่างอยากรู้อยากเห็นว่า “คุณชายโซรอสเพลย์บอยหนุ่ม รู้จักคำว่าเกรงใจตั้งแต่
“เอาสิ ถ้าอย่างนั้นคุณก็โทรหาเขาด้วยตัวเองเลย ที่นี่ตรงนี้ เมื่อเขาอยู่ที่นี่เขาจะได้เห็นด้วยตาตัวเอง ว่าเพื่อนที่ดีที่สุดของเขาเองก็ไม่สนใจเขาเลย” เจนพูดออกมาเจนอยากจะหัวเราะ ผู้ชายคนนี้กล้าคิดว่าความคิดของเธอเป็นความคิดของเขาได้อย่างไร? เขากล้าคิดได้ยังไง ว่าเธอจะไม่บอกทุกอย่างกับไฮด์อ่อ บางทีเธออาจจะกลายเป็นผู้หญิงที่ไร้ยางอายในสายตาของผู้ชายคนนี้“คุณ…” สายตาของคาลเลนเปลี่ยนไปเป็นยิ่งรังเกียจ “คุณนี่มันน่าคลื่นไส้มาก คุณบอกว่าฉันไม่สนใจไฮด์ แต่เมื่อคุณพูดเช่นนั้นออกมา ก็หมายความว่าคุณไม่สนใจความรู้สึกของเขาเหมือนกัน การที่ไฮด์ปฏิบัติกับคุณเป็นอย่างดีมันเป็นเรื่องที่เสียเปล่า”เจนพูดในใจว่า "ใช่ มันเสียเปล่า"“ฉันเห็นด้วยค่ะ คุณชายคาลเลน”คาลเลนไม่คาดคิดว่าเจนจะยอมรับสิ่งนั้นโดยไม่ลังเลเลยสักนิดเขาโกรธมาก เขารู้สึกโกรธแทนเพื่อนของเขา ไฮด์ โซรอส“อย่าหลงตัวเองมากนัก ผมจะบอกให้เขารู้ ว่าคุณเป็นผู้หญิงแบบไหน ผู้หญิงอย่างคุณก็เหมือนเนื้องอกร้าย ผมจะไม่ยอมให้เนื้องอกอย่างคุณอยู่ใกล้ ๆ เพื่อนรักของผม และทำร้ายเขา”หลังจากที่เขาพูดอย่างนั้นเขาก็ปล่อยมือจากเธอ…เจนและคาลเลนกล
“เจน คุณน่าสงสาร คุณยังคิดว่าคุณเป็นคุณหนูดันน์จากเมื่อก่อนหรือไม่? ฉันต้องตอบทุกอย่างที่คุณถามใช่ไหม ฮ่า ฮ่า!”คำพูดของซูซานดังก้องอยู่ในหูของเจน เจนไม่สามารถต่อสู้กลับได้เพราะนั่นคือความจริงเธอตามซูซาน และพวกพ้องไป หลังจากที่เธอลงจากรถและแล้วเธอก็หยุด“ทำไมคุณไม่เดิน?” ซูซานหันกลับมา และชำเลืองมองผู้หญิงที่หยุดเดิน เธอขมวดคิ้วที่บอบบางของเธอ เธอไม่ชินที่เห็นเจนเป็นแบบนี้ อย่างไรก็ตามเธอคิดว่า… ‘ใช่แล้ว ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คุณหนูดันน์คนเดิมที่เธอเคยเป็น เธอเป็นเพียงพนักงานใน อีสต์ เอ็มเพอเรอร์ ที่รอคอยแขกและให้ความบันเทิงแก่พวกเขาเพียงเพราะเงิน'ซูซานหลบสายตาจากเจนด้วยเสียงหัวเราะเบา ๆ เจนปัจจุบันไม่สมควรได้รับความสนใจจากซูซาน ตอนนี้ เจน ดันน์ ขี้อายเหมือนหนูที่อาศัยอยู่ในท่อระบายน้ำ ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ เจน ดันน์ พวกเขาเคยรู้จักจากนี้ไปจะไม่มีใครเปรียบเทียบเธอกับ เจน ดันน์ ได้อีกแล้ว“ที่นี่หรอ งานปาร์ตี้?” เจนกล่าวซูซานได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะ “เฮ้เจน คุณไร้เดียงสาจริง ๆ หรือที่คิดว่าเรากำลังจัดงานเลี้ยงต้อนรับให้คุณ ปาร์ตี้เล็ก ๆ มีอะไรผิดปกติ” เธอเริ่มหัวเราะหลังจากพูด แต่ใน
เจนไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงยืนอยู่ต่อหน้าคนเหล่านี้ วันนี้เธอได้ลังเลที่จะไปร่วมมือกับการแสดงนี้บ้างหรือไม่?คำตอบคือ ไม่ เธอรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดีความหยิ่งยโสมันยังฝังอยู่ในกระดูกของเธอไม่มีวันลบล้างได้ ไม่ว่าชีวิตของเธอจะยากลำบากเพียงใด แล้วคนเหล่านี้ตรงหน้าเธอเป็นอย่างไรเมื่อสามปีก่อน?ในใจของเธอ เธอไม่สนใจสิ่งเหล่านั้น เป็นเวลาสามปีแล้ว และเธอไม่ต้องการที่จะทนทุกข์ทรมานกับรูปลักษณ์ที่น่ารังเกียจและเย้ยหยันจากพวกเขาอีกแล้วแม้ว่าเธอจะยังคงสะบักสะบอม และอยู่ในสถานการณ์ที่ที่ยากลำบากดังนั้นอะไรละ? เธอยังคงทำมัน ในท้ายที่สุดเธอก็ไม่ได้ล้มลง ความอ่อนแอบนใบหน้าของเธอซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการเห็นแค่นั้นก็เพียงพอแล้วความภาคภูมิใจในหัวใจของเธอ ทำให้เธอลังเลที่จะคบกับคนเหล่านี้ เธอรู้คำตอบในใจอย่างชัดเจนในขณะนั้นเจนไม่สนใจคำพูดหยาบคายของซูซานและไม่โต้เถียงกับเธออีกต่อไป เธอไม่ได้ถามซูซานว่าทำไมเธอถึงไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้ตั้งแต่แรกตามคำพูดของเธอเธอเคยถูกจองจำมาก่อน เธอรู้วิธีที่จะทำตัวต่ำต้อย เธอสูญเสียไต แต่เธอไม่สูญเสียสมอง หากความคิดริเริ่มนี้อยู่กับซูซาน เธอก็จะมีสิทธิในการพู
“นี่คือตัวตนที่แท้จริงของผู้หญิงคนนี้ ฉันสงสัยว่าทำไมคุณชายสจ๊วตถึงไม่ให้ความสำคัญกับเธอในตอนนั้น ดูเหมือนว่าคุณชายสจ๊วตจะรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของผู้หญิงคนนี้อยู่แล้ว”“ขอบคุณพระเจ้าที่คุณชายสจ๊วตไม่ได้ถูกผู้หญิงคนนี้หลอกในตอนนั้น แค่จินตนาการถึงหายนะถ้าเขาเลือกเธอก็ขนลุกแล้ว ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณพระเจ้า”เจนนวดชายวัยกลางคนด้วยมือของเธอ แต่จริง ๆ แล้วเธอก็ต้องตะลึง มีความเจ็บปวดวาบในหัวใจของเธอกับพูดนั้น จากนั้นมุมริมฝีปากของเธอก็โค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม "นั่นคือเหตุผล"เป็นเพราะนิสัยราคาถูกของเธอ ทำให้เขาสามารถมองทะลุเธอ และรู้จักด้านที่แท้จริงของเธอได้ใช่หรือไม่?‘นั่นคือเหตุผล!’เธออยากจะหัวเราะ อย่างไรก็ตามเธอตระหนักว่าเธอทำไม่ได้…ไฮด์ โซรอส ได้รับข้อความแปลก ๆ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป เขาขับรถและรีบไปโดยไม่คิดอะไรทั้งนั้นงานเลี้ยงแน่นขนัด เขาไม่มีเวลาเปลี่ยยนชุด ก่อนที่เขาจะหยุดงานที่ทำอยู่ในทันทีเพื่อรีบออกจากที่ทำงานในวันนั้นร่างสูงและผอมของ ไฮด์ โซรอส ดูกระเซิงเล็กน้อย หลังจากเหนื่อยล้าและทำงานล่วงเวลามาทั้งวัน ถ้าเป็นวันอื่นการปรากฏตัวของเขาคงไม่ชัดเจนขนาดนี้ อย่างไรก็ตามเ
ไฮด์!ในที่สุดเจนก็รู้ว่ามันเกี่ยวกับอะไรซูซานเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ ว่าเธอแค่ทำตามคำสั่ง แต่เธอไม่ได้บอกเจนว่าใครเป็นคนออกคำสั่งเหล่านั้นกับเธอตัวตนของบุคคลนี้ไม่สำคัญอย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่าที่ ไฮด์ โซรอส มาที่นี่?เธอสูญเสียแค่ไต ไม่ใช่สมองในที่สุดเธอก็เข้าใจว่าทำไมสิ่งนี้จึงเกิดขึ้นกับเธอ เธอไม่ได้มองไปที่ไฮด์แต่กลับจ้องไปที่ซูซาน ซูซานรู้สึกได้ถึงสายตาของเธอ เธอหันกลับมา แต่น่าเสียดายที่เธอไม่เห็นการแสดงออกที่พ่ายแพ้และทารุณบนใบหน้าของเจนที่เธอคาดหวังว่าจะได้เห็น เธอเห็นดวงตาที่ชัดเจนของเจน ราวกับว่าเจนสามารถมองทะลุทุกสิ่งได้ซูซานรู้สึกกังวลในพริบตา ภายใต้การจ้องมองของเจนที่สามารถมองทะลุทุกสิ่ง ซูซานรู้สึกราวกับว่าเธอกำลังเผชิญหน้ากับ เจน ดันน์ เมื่อสามปีก่อน ในเวลานั้นไม่สำคัญว่าเธอจะต่อสู้กับเจนตัวต่อตัวหรือแทงข้างหลังเธอ ไม่ว่าเธอจะทำอะไรดวงตาของเจนก็ดูเหมือนว่ามันสามารถมองเห็นได้ทุกอย่างทะลุปรุโปร่งราวกับว่าเจนไม่สนใจกลเม็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเธอที่ทำเมื่อสามปีที่แล้ว!เมื่อสามปีก่อน เจน ดันน์ ไม่สามารถทำลายได้แล้วตอนนี้ละ?เจนที่สูญเสียทุกอย่าง แ
ไฮด์ โซรอส กำมือของเขาที่อยู่ข้าง ๆ ตัวเขา เขาอยากจะเชื่อเธอ แต่…หลายคนอ้างว่าเธอมีความผิด บางทีอาจมีเศษเสี้ยวของความจริงเมื่อ ฌอน สจ๊วต กล่าวหาเธอ อย่างไรก็ตามหากสมาชิกในครอบครัวของเธอบอกว่าเธอมีความผิด… ไฮด์ โซรอส อยากจะเชื่อเธอ แต่เขาทำไม่ได้!เขาไม่สามารถให้อภัยคำโกหกของเธอได้ เขารับไม่ได้ที่ตัวเองทะนงตัวหลงรักผู้หญิงใจร้ายคนนี้อย่างไรก็ตาม ไฮด์ โซรอส ลืมเรื่องหนึ่งไป เจนต้องการการ การให้อภัยหรือไม่? เขามีสิทธิ์อะไรในการตัดสินใจว่าเขาต้องการให้อภัยเธอหรือไม่?เจนไม่เคยทำอะไรให้เขาเจ็บช้ำน้ำใจ!ไฮด์ โซรอส ลืมเรื่องเหล่านี้ทั้งหมด เขาโกรธมากเกินกว่าที่จะวัดได้ในตอนนี้ ความหยิ่งผยองในใจของเขาทำให้เขารับไม่ได้ที่ผู้หญิงคนแรกที่เขาอุทิศตัวให้กลับกลายเป็นคนไร้ยางอายและน่ารังเกียจขนาดนี้"เจน" ไฮด์ โซรอส ยกคางของเขาขึ้น “ผม ไฮด์ โซรอส เป็นทายาทของ บริษัทโซรอส ห้างหุ้นส่วนจำกัด เพียงแค่ผมโบกมือ ผมก็จะมีผู้หญิงหลาย ๆ คนวิ่งเข้ามาหา“เจน ผมขาดผู้หญิงแบบไหน?“ผมกินอาหารอันโอชะมากเกินไป ดังนั้นผมแค่อยากได้อะไรที่เรียบง่าย และธรรมดา ๆ ในช่วงเวลาสั้น ๆ”เขายกคางขึ้น และมองลงไปที่ผู้หญิง
การแสดงออกของอโลร่าดูซับซ้อน เธอเกลียดงานปาร์ตี้ประเภทนี้ เธอต้องการหาที่เงียบ ๆ เพื่อซ่อนตัว อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ยินหรือเห็นความลับที่น่าตกใจเช่นนี้ เธอไม่ได้ยืนหยัดเพื่อเจนเพราะแรงจูงใจที่เห็นแก่ตัวของเธอเอง อีกเหตุผลหนึ่งคือเธอได้ยินเกี่ยวกับตัวตนของเจนและอดีตจากปากของซูซาน ดังนั้นอโลร่าจึงลังเลและไม่ได้ออกมาทันเวลาอโลร่าก้มลงหยิบเช็ค 5 แสนใบนั้นส่งให้คาลเลน “ฉันรู้จักคุณค่ะคุณชายคาลเลน” เธอหัวเราะเบา ๆ และมองไปที่เช็ค “เงินห้าแสนเหรียญนี้เป็นทุกอย่างที่งี่เง่า คืนนั้นเงินจำนาณนี้มันมีค่าเท่าชีวิตของเธอ อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่อะไรที่สำคัญสำหรับคนงี่เง่าคนนั้นในตอนนี้”หลังจากที่เธอพูดอย่างนั้น เธอก็คลายนิ้วออกและเช็คก็ตกลงบนพื้นอีกครั้ง อโลร่ายกขาของเธอและเดินออกจากประตูไปหัวใจของคาลเลนเต้นแรง เขาร้องเรียกตามหลังอโลร่าไป "รอก่อน! ทำไมคืนนั้นเช็คจำนวณนี้ถึงมีค่าทุกอย่างสำหรับเธอ แต่ไม่ใช่ในตอนนี้ ห้าแสนจะยังเป็นห้าแสน มันจะไม่เปลี่ยนแปลง”อโลร่าหัวเราะเบา ๆ และไม่ตอบคาลเลน เมื่อเธอเดินออกจากประตู เธอก็หันกลับมาและให้คำตอบที่ไม่เกี่ยวข้องกับเขา“ฉันแน่ใจมากว่าเธอไ
ฉันชื่อ ลูก้า สจ๊วต มันเป็นชื่อแปลก ๆ ใช่ไหม? แบบว่ามันเหมือนกับคำว่า ‘ดูสิ! สตูว์’คุณปู่ของฉันตั้งชื่อให้ฉัน ประสบการณ์หลายปีของฉันตอนเป็นเด็กบอกฉันว่าปู่ของฉันไม่ใช่ผู้ชายที่ดีไม่ต้องนึกถึงเรื่องอื่นเลย แค่ดูชื่อที่เขาตั้งให้ฉันสิ เขามีชื่อที่ดีอย่างสมบูรณ์แบบ แต่เขากลับตั้งชื่อแปลก ๆ นี้ให้กับฉันอย่างไรก็ตามทุกครั้งที่ฉันทักท้วงเรื่องนี้กับเขา เขามักจะบอกว่านั่นเป็นความผิดของพ่อฉัน ถ้าพ่อเป็นเด็กผู้หญิงนั่นจะเป็นชื่อของเขาแทนดูสิ คุณปู่เป็นคนที่ตั้งชื่อที่น่ากลัวนี้ให้ฉัน แต่เขายังคงโยนความผิดทั้งหมดให้พ่อของฉันอ้อ ลืมแนะนำตัวอย่างเป็นทางการไปเลยปู่ของฉันชื่อ ฌอน สจ๊วตเขาค่อนข้างเป็นคนที่น่าทึ่งในวัยเยาว์ย่าของฉันชื่อ เจน ดันน์บางครั้งฉันก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทั้งสองคนลงเอยด้วยกันได้อย่างไร พวกเขาเป็นคนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยนะปู่กับย่าของฉันได้หย่าร้างกันก่อนที่พ่อของฉันจะเกิดเสียอีกหลังจากการหย่าร้างครั้งนั้น ทั้งคู่ก็ไม่ได้แต่งงานกันใหม่นะพวกเขาน่าจะแยกทางกันไปอย่างสันติ แต่คุณปู่ก็ไร้ยางอายอย่างที่สุด เขาจึงคอยรบกวนคุณย่าของฉันตลอดเวลาเลยเท่าที่ฉันจำไ
ที่โรงพยาบาล ประตูวอร์ดถูกเปิดออกเงียบ ๆ โดยที่ไม่มีเสียง ครั้งนี้ดอสไม่ได้แจ้งการมาถึงของแขกล่วงหน้าเมื่อเอลิออร์มาถึงอย่างรีบร้อน เขาก็เห็นผู้หญิงคนนั้นก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไร อโลร่าก็ดึงเขากลับออกไปที่ทางเดิน ประตูเปิดแล้วปิดลงอีกครั้งคนบนเตียงนอนตะแคง และกำลังหลับอยู่ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังฝันถึงอะไร แต่ใบหน้าที่ขมวดคิ้วลึกแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้มีความฝันที่น่าพอใจนักมือของเขาวางอยู่บนผ้าห่ม แหวนแต่งงานของเขายังคงอยู่บนนิ้วของเขาหญิงสาวเดินเข้าไปหาเขาอย่างช้า ๆ ในที่สุดก็มาหยุดอยู่ที่หน้าเตียงของเขาดวงตาของเธอสดใส และชัดเจน เธอจ้องมองแหวนบนนิ้วมือของเขาไม่มีใครรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่เธอจ้องไปที่แหวนเป็นเวลานานนาน จนเธอรู้สึกงุนงงหลังจากนั้นไม่นานดวงตาของชายคนนั้นก็เบิกโพลง สิ่งแรกที่เขาเห็นคือคนในความฝันเขายิ้มหน้าซีดให้เธอ “โอ้ ฉันฝันไปอีกแล้วสินะ”ราวกับว่าเขากำลังคุยกับเพื่อนที่เขาไม่ได้เจอมานาน เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน และดีใจจนแทบจะเห็นได้ชัดผ่านการแสดงออกทางร่างกายของเขา "ดีแค่ไหน. คุณยังเต็มใจจะมาเยี่ยมฉันในความฝัน”หญิงสาวยืนอยู่ที่เตียงของเ
"เจน เอ๋อไห่ไม่ใช่สวรรค์หรือความสงบตามที่เธอพูดหรอก มันเป็นเพียงแค่การหลบหนีของเธอ" อโลร่ากล่าวอย่างเคร่งขรึมเธอไม่ควรพูดทั้งหมดนี้ แต่เธอเห็นบางสิ่งที่เจ้าตัวมองไม่เห็นบางทีภาพอาจจะดูชัดเจนขึ้นจากคนภายนอกที่เฝ้าดู หรือบางทีอาจจะไม่ถึงกระนั้นเธอก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเจนกำลังลังเลเมื่อสามปีก่อนเธอเคยช่วยเจนหนี เพราะเธอต้องการให้เจนมีชีวิตที่สงบสุขอย่างแท้จริงนับตั้งแต่นั้นสามปีหลาย ๆ อย่างก็เปลี่ยนไป เธอก็เติบโตขึ้นด้วยเป็นเพราะความเป็นผู้ใหญ่ที่เพิ่งค้นพบทำให้เธอไม่เคยหยุดคิดถึงเรื่องนี้เช่นกันเธอคิดถูกหรือเปล่าที่ช่วยเจนหนีเมื่อสามปีก่อน มันอาจจะเป็นความผิดพลาดหรือเปล่านะ?เธอเริ่มคิดว่าเธอคิดผิดในตอนนั้นผู้หญิงคนนี้ถูกผีเข้าเต็ม ๆ ไม่มีทางที่เธอจะหยุด และมองไปรอบ ๆ เพื่อดูผู้คน และข้อเท็จจริงตลอดสามปีที่ผ่านมาอโลร่าได้เห็นว่าฌอนไม่เคยหยุดตามหาเธอเลย ทุกคนบอกให้เขาหยุด โดยบอกว่ามันไม่มีจุดหมายปลายทางเลย บางทีเจนอาจจะตายไปนานแล้วก็ได้ท้ายที่สุดแล้ว ถ้าเธอยังไม่ตายไป เหตุใดการค้นหาอย่างไม่หยุดยั้งเป็นเวลาถึงสามปีจึงไม่เกิดผลอะไรเลย?อย่างไรก็ตาม ชายคนนั้นปฏิเสธที่
"ที่นายมาที่นี่ในวันนี้ ก็เพื่อที่แค่จะคุยเรื่องของคุณปู่กับฉันหรือเปล่า?" ชายบนเตียงหัวเราะเบา ๆ ความไม่เชื่อเผยขึ้นในแววตาของเขาอย่างชัดเจน “ไมเคิล ลูเธอร์ ชายชราคนนั้นเขาไม่ห่วงว่าฉันจะเป็นหรือฉันจะตายหรอก เขายังมีหลานชายอีกคนที่จะสืบทอดบัลลังก์ของเขา”ไมเคิลหัวเราะอย่างแดกดัน“นายคิดว่าฉันจะกลับไปเป็นสจ๊วตจริง ๆ งั้นหรอ? สถานที่สกปรกแบบนั้น”“นายไม่ได้ต้องการ บริษัทสจ๊วตอุตสาหกรรม หรอกหรอ?” ฌอนกล่าวอย่างเย็นชา “ในกรณีนั้น ฉันกลัวว่านายจะต้องผิดหวัง”“สจ๊วตอุตสาหกรรมงั้นหรอ เฮอะ” ไมเคิลกวาดสายตามองไปยังฌอน ก่อนที่จะมองออกไปนอกหน้าต่าง“นั่นเป็นแหล่งเงินแหล่งทองชั้นดีเลย ดังนั้นฉันคิดว่าฉันต้องการมัน นายจะให้ฉันได้ไหมหล่ะ?”“ถ้าฉันไม่ให้ นายจะไม่บังคับเหรอ?”“ถ้านายเป็นคนถือมัน แน่นอน” ไมเคิลไม่พยายามปิดบังความทะเยอทะยานของเขา “แต่ถ้านายตายไป ฉันจะไม่เอามันมาจากเธอหรอก”ฌอนหรี่ตา “นายแน่ใจถึงความภักดีต่อความรู้สึกของนายที่มีต่อเธอไหม ฉันควรจะขอให้นายดูแลเธอก่อนที่ฉันจะตายหรือไม่?”“เฮ้อ ตัดเรื่องตลกออกไปก่อน นายกำลังจะตาย พวกนายทั้งสองไม่ได้หย่าร้างกันแล้วหรอ?“นั่นมันหมายค
ไมเคิล ลูเธอร์ เข้าสู่คฤหาสน์เก่าแก่ของสจ๊วต"คุณเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังทุกอย่างไม่ใช่เหรอ?"โดยไม่มีคำเตือนหรือบริบทใด ๆ เขาก็ตะโกนใส่ชายชราสจ๊วตที่กำลังจิบชาอย่างใจเย็นอยู่“คุณมาจากทางไหนกลับไปทางนั้นเลย…ถ้าจะมาเพื่อแสดงกิริยาความไม่เคารพต่อปู่ของคุณอย่างนี้?” ชายชราสจ๊วตวางถ้วยน้ำชาลง ใบหน้าอันแก่ชราของเขาค่อย ๆ เปลี่ยนไปอย่างยากลำบาก“คุณเป็นคนวางแผนเรื่องพ่อบ้านซัมเมอร์เองไม่ใช่หรอ?“ไม่อย่างนั้น เขาคงไม่มีทางกล้าทำหรอก จริงไหม?”"หมายความว่ายังไงหรอ? ฉันเป็นคนทำให้พ่อบ้านซัมเมอร์ทำอะไรอย่างนั้นเหรอ?""คุณเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังอุบัติเหตุของเจน นั่นคือสิ่งที่ฉันอยากที่จะรู้ความจริง เป็นคุรจริง ๆ ใช่ไหม?!" ไมเคิลยืนยันความคิดของตัวเองช่วงเวลาที่ชายชราสจ๊วตได้ยินชื่อของเจน การแสดงออกของเขาก็เคร่งขรึมลงในทันที “นี่หลานจะท้าปู่ของตัวเอง และแสดงกิริยาเช่นนี้ เพียงเพื่อเธอคนนั้นหรอ?”“นั่นคงหมายความว่า…คุณยอมรับมัน”ไมเคิลกำหมัดแน่น ทั้งตัวของเขานั้นสั่นสะท้านด้วยความโกรธ "เธอไปทำอะไรให้คุณปู่ขุ่นเคืองหรือ?""ทุก ๆ อย่าง ทุกอย่างที่เธอทำ มันทำให้ฉันขุ่นเคือง""เธอเป็นแค่เด
สามวันต่อมา บุคคลนั้นไม่ได้กลับเข้าบ้านอีกเลยเทรส และคัวโตรยืนอยู่ที่ประตูอย่างเงียบขรึมราวกับว่าพวกเขาทั้งสองคือรูปปั้นของเทพผู้พิทักษ์ที่อยู่อาศัยของเธอจากก่อนหน้านี้ได้ถูกไฟไหม้เสียหายไปบางส่วน เธอจึงกลับมาอยู่ที่คฤหาสน์สจ๊วตก่อน ลึกเข้าไปภายในคฤหาสน์ เธอไม่ได้ยินเสียงนกหรือกลิ่นดอกไม้ใด ๆ เลย พ่อบ้านก็เป็นมืออาชีพมาก ๆ เขาจัดเตรียมทุกอย่างเพรียบพร้อมไว้สำหรับเธอนอกเหนือจากเทรสและคัวโตรแล้ว เธอก็ไม่ค่อยได้พบใครเลย เธอไม่ได้พูดคุยกับใครเลยไม่แม้แต่เทรส และคัวโดรก็ไม่ได้คุยกับเธอสำหรับพ่อบ้านประจำตระกูล เขามักจะทำตัวสุภาพกับเธอทุกครั้งที่พบกันตอนนี้หูของเธอมันไร้ประโยชน์จริง ๆ แล้วปากของเธอก็คงเป็นเพียงแค่เครื่องประดับบนใบหน้าเพียงเท่านั้นคนรับใช้บางคนที่นี่ก็ดูคุ้นเคย ในขณะที่บางคนก็คงจะมาใหม่เพราะเธอไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน มันไม่สำคัญหรอกไม่ว่าใครในบ้านนี้เมื่อพวกเขาพบเห็นเธอ พวกเขาก็จะโค้งตัวด้วยความเคารพก่อนจะเดินจากไปทำงานของตัวเองต่อเธอนั่งมองดูคนสวนกำลังทำสวนผ่านกระจกหน้าต่างแม้ว่าในฤดูนี้ใบไม้ และดอกไม้ต่าง ๆ ในสวนจะร่วงโรยไปจนหมดแทบไม่มีสีสันในสวนหลงเหลืออยู่เล
วันผ่าตัดปลูกถ่ายไขกระดูกของเจสันเขาเปลี่ยนเป็นชุดผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว คุณหญิงดันน์อยู่ดูแลข้าง ๆ เขา"อย่าประหม่าไปเลย เจสัน ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี" คุณหญิงดันน์ปลอบใจ ถึงกระนั้นลูกชายของเธอก็ยังคงเอาแต่เงียบขณะที่เธอจ้องไปที่หน้าของลูกชายของเธอ เธอก็เอาแต่ด่าเจนในใจ"ถ้าไม่ใช่เพราะคนที่มีจิตใจดีคนนี้ที่บริจาคให้กับลูก นังเจน เด็กคนนั้นก็เกือบจะฆ่าลูกแล้ว"เจสันจ้องมองอย่างไม่พอใจ"คุณแม่ พอได้แล้ว!""หือ? ลูกเป็นอะไรไป?“แม่กำลังรู้สึกเสียใจกับลูกนะ จะมาตะโกนใส่แม่ทำไม?”“คุณแม่ อย่าพูดถึงเจนแบบนั้นนะ”“ทำไมจะทำไม่ได้? เธอไม่สนใจสมาชิกในครอบครัวของเธอเองเสียด้วยซ้ำ”คุณหญิงดันน์เกลียดลูกสาวคนนี้สุดหัวใจแม้ว่าจะได้รับการชี้แจงว่าเธอเข้าใจผิดว่าเจนไม่ใช่ลูกสาวของตัวเอง แต่คุณหญิงดันน์ก็ยังคงมีอคติกับลูกสาวคนนี้ของเธออยู่ดีหลังจากนั้นเธอก็เอาแต่เลี้ยงดูลูกชาย และคอยอยู่เคียงข้างเขามาตั้งแต่เขายังเด็ก มันจึงทำให้ลูกชายของเธอสนิทกับเธอส่วนนังเด็กคนนั้น ... เด็กเลว ๆ คนนั้น เธอกลับมาที่เมืองเอสนี้ในตอนนั้น ก็เพื่อที่จะยึดทรัพย์สินทั้งหมดของ ดันน์ กรุ๊ป ไปดันน์ กรุ
วันเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ชายคนนั้นมักจะทำอาหารทุกมื้อของเธอด้วยตัวของเขาเอง เมื่อเขาออกไปทำงานเขาจะพาผู้หญิงคนนั้นมาอยู่ข้าง ๆ ตัวเขาตลอด ทำให้เธออยู่ในสายตาของเขาตลอดเวลา พวกเขาจึงดูเหมือนคู่รักที่แสนหวาน และรักกันมากมีความอิจฉาริษยาในสายตาของคนทั่ว ๆ ไป เมื่อพวกเขาเห็นเจนอยู่กับฌอนเมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน ทุกคนในแวดวงต่างรู้ว่าทั้งสองมักจะตัวติดกันอยู่ตลอดเวลามีใครบางคนถอนหายใจออกมา ‘เจน ดันน์ จากตระกูลดันน์ ได้ครอบครองหัวใจชายคนนี้ในที่สุด หลังจากที่เธอไล่ตามฌอนในตอนนั้นเธอดูเป็นคนที่กล้าแสดงออกมาก 'คนทั่วไปต่างก็คิดว่า ในที่สุดเจนก็ได้รับในสิ่งที่เธอต้องการแล้วในวันหยุดสุดสัปดาห์หนึ่ง“ฉันอยากเจอเขา”"ใคร?""... พี่ชายของฉัน"มีความสั่นไหวในดวงตาของชายคนนั้น ถึงกระนั้นเขาก็ยังรักษาภาพพจน์ของตัวเอง"คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องของเจสัน"เขาพูดด้วยท่าทางสบาย ๆเจนบีบหมัดของเธอแน่น และหลังจากนั้นไม่นาน…"สภาพของเขาคงดูไม่ดีนัก ฉันจึงอยากจะเห็นด้วยตาของตัวเอง""นี่ผมปฏิบัติต่อคุณไม่ดีพอหรือ?" ชายคนนั้นเชื่ออย่างสนิทใจว่าเธอกำลังพยายามที่จะหนีจากเขาไปอีกครั้ง “เจสัน
ในที่สุดเจนก็ตื่นฟื้นขึ้นมา เมื่อเธอตื่นขึ้นมาห้องก็มืดสลัว เธอลุกขึ้น และเดินไปที่ห้องนั่งเล่น เธอไม่ได้ตกใจกับชายที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟาภายใต้แสงไฟอันอบอุ่นในห้องนั่งเล่นนั้นในห้องนั่งเล่นระดับเสียงของทีวีนั้นมันถูกตั้งไว้ในระดับที่ต่ำที่สุด ราวกับว่าเขากังวลว่าเขาจะรบกวนเธอจากการพักผ่อน ถ้าหากเขาเปิดเสียงดังกว่านี้เมื่อเขาได้ยินเสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังมาจากทางเดิน ชายคนนั้นรีบหันไปมองทันทีพวกเขาทั้งสองสบตากันอารมณ์ของพวกเขาทั้งสองดูเหมือนว่ามันจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี มันดูราวกับว่าพวกเขาเป็นสามีภรรยากันมานานมากแล้ว และดูเหมือนว่าพวกเขาจะเข้าใจซึ่งกันและกันโดยที่ไม่ต้องพูดอะไร พวกทั้งสองไม่ได้ทำลายความสงบสุขที่แปลกประหลาดนี้ทุกอย่างมันดูราวกับว่า ... พวกเขาสามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างสันติชายคนนั้นลุกขึ้นยืนและเดินไปที่เคาน์เตอร์บาร์ เขาอุ่นโจ๊ก และวางไว้บนเคาน์เตอร์บาร์หญิงสาวเดินเข้าไปเงียบ ๆ จากนั้นเธอก็นั่งทานอาหารดูเหมือนกับว่าที่นี่มันไม่เคยมี ความรัก – ความเกลียด พัวพันระหว่างทั้งสอง ไม่มีความทรงจำที่เจ็บปวดร่วมกันเกิดขึ้นทุกคนอาจจะคิดว่าบรรยากาศช่างเต็มไปด้วยค