92 : อยากทำลายโฉมของข้างั้นรึ นางวิ่งเลียบเคียงไปตามแนวระเบียงจวน ไม่ช้าก็ถึงเรือนของฮู่อวิ้นเซียน พุ่งตัวขึ้นไปบนหลังคาห้องของนาง พื้นกระเบื้องลื่นเพราะหิมะ นางเกือบเสียหลักล้มลง แต่ยังดีดตัวขึ้นไปได้อย่างปลอดภัย บ้าจริง หิมะจับตัวกันเป็นก้อน เปิดกระเบื้องหลังคาออกไม่ได้ ต้อ
“โอ๊ย !” “เจ้าเป็นใคร อ้าย !” ผ้าห่มนางหลุดร่น ให้เห็นร่องรอยแดงปื้นเต็มตัว แน่นอนว่าฝีมือหลี่เมิ่งเหยา ทีนี้แม้ไม่ได้สูญเสียสิ่งใดไป แต่สายตาผู้อื่น มองว่านางสูญเสียไปแล้ว ราชครูฮู่ให้คนลากตัวชายอัปลักษณ์ไปขังไว้ก่อน บอกให้เฉินอวิ้นหยางดูแลบุตรสาวให้ดี ๆ จากนั้นก
93 : วันนี้ข้าถึงต้องมากับนางด้วย “มีคนในจวนเอาออกมาพูดเอง เรื่องใหญ่ขนาดนี้ปิดไม่มิดหรอก อีกทั้งจวนราชครูฮู่เหมือนน้ำบ่อลึก เรือนหลังก็ดูซับซ้อนวุ่นวาย ใช่ว่าสตรีนางนั้นจะเป็นที่รักของทุกคนเสียเมื่อไหร่” เขาใช้คำว่าสตรีนางนั้น เพราะไม่อยากเอ่ยชื่อของนาง หลี่เมิ่ง
“เสี้ยนจู่” ท่านหมอเซวียนฮวนเดินเข้ามาหานางใกล้ ๆ “ท่านหมอเซวียนฮวน ท่านเรียกข้าแม่นางหลี่ตามเดิมเถอะ ข้าสะดวกใจเช่นนี้” ชายชราพยักหน้าลงช้า ๆ “ได้แม่นางหลี่ ไม่คิดว่าท่านจะสามารถหายาพวกนี้มาได้ ข้าต้องขอบคุณแทนคนป่วยเหล่านี้เป็นอย่างมาก” “ไม่เป็นไร ข้าบอกว่าจะช่ว
94 : ไม่ใช่ขอรับ เรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือข้า ทั้งคู่เดินไปยังจุดแจกอาหาร สองแม่ลูกมีเรื่องคุยกับหลี่เมิ่งเหยา จึงให้สาวใช้ไปแจกอาหารแทนก่อน ทว่าเรื่องที่คุยนั้นคงไม่พ้นเรื่องของฮู่อวิ้นเซียน “พี่เมิ่งเหยาท่านได้ยินข่าวนางไหม” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านางที่ว่านั้นหมายถึงใคร
“หม่าฮูหยินข้าต้องขอตัวก่อนนะขอรับ” เห็นนางเหม่อลอยลุงจงจึงรู้ว่า นางคงทำใจกับเรื่องนี้ได้ยาก “ได้ ๆ ท่านไปเถอะ” หม่าหลินเฟยกลับมาบอกเรื่องนี้ กับหยวนเหวินเซียวในตอนค่ำบุตรชายของนางกลับมายืนได้เป็นปกติแล้ว ทั้งยังสืบหาตัวคนร้ายมาลงโทษจนได้ เขากำลังได้รับตำแหน่งสำคัญจากราชสำนั
95 : เมิ่งเหยาข้าขอโทษ ในใจของหลี่เมิ่งเหยาอดคิดไม่ได้ มิน่าเล่าช่วงเดือนที่ผ่านมานี้ ชีวิตของนางกับเขาถึงได้ราบรื่นจนน่าสงสัย เพราะมีเรื่องราวเลวร้ายซ่อนอยู่นี่เอง มารดาของนางวิ่งเข้ามา แล้วดึงมือนางออกจากมือของเจ้าบ่าว “เหยาเอ๋อร์เจ้ากลับจวนไปกับข้าเร็วเข้า” หลี
แผนที่เส้นทางอันตรายนี้ จะมีประโยชน์กับใครได้อีก นอกจากพวกที่จงรักภักดีกับราชวงศ์เก่า พวกที่ต้องการตามหาทายาทของคนเหล่านั้น ฮ่องเต้ปักใจเชื่อในทันที ไม่สนใจกระทั่งว่าวันนี้ คือวันแต่งงานของหลานสาวตัวเอง จวนองค์หญิงหนิงเหอ เฉาซูหลิ่งเดินวนไปเวียนมา จนคนในจวนพากันเวียนหัวไปหมด
ฤดูร้อนปีนี้ไม่ได้ร้อนมากอย่างที่คิด บรรยากาศกำลังเย็นสบาย สายลมพัดเอื่อยสายน้ำไหลฉ่ำ หลี่เมิ่งเหยากำลังอ้าปากรับเนื้อปลาย่าง ที่สามีป้อนให้อย่างมีความสุข นางมองเด็ก ๆ ที่นั่งกินข้าวกันอย่างเพลิดเพลิน ชีวิตแสนเรียบง่ายนั้น ต้องแลกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยเพียงใด นางค่อนข้างหวงแหนพวกเขาทุกคน
“เจ้าอยู่นิ่ง ๆ ข้าจะเอาออกให้” เซี่ยโหวหานเฟิงรีบตรงไป ดึงหนามกิ่งไม้ออกจากตัวของเขา “ขอบคุณขอรับพี่เขย” เขาเอ่ยอย่างนอบน้อม ไม่คิดว่าตอนทำธุระเสร็จ เดินกลับออกมานั้น กิ่งไม้หนามดันมาเกี่ยวเสื้อผ้า และบาดนิ้วมือของเขาเข้า บอกว่าไม่เจ็บก็คงไม่ใช่ “พี่หญิงใหญ่ข้าเจ
147 : เหมยเอ๋อร์นี่คือเมืองของแม่เจ้า (จบ) เข้าสู่คิมหันตฤดู หลี่เมิ่งเหยาตั้งครรภ์ได้สี่เดือนแล้ว แต่เพราะเป็นครรภ์แรก ท้องของนางจึงไม่ได้ใหญ่เหมือนเช่นผู้อื่น นางเคยให้สัญญากับน้องชาย ว่าจะพาเขาออกไปท่องเที่ยว เมื่อสะสางงานทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว นางจึงจัดตั้งขบวนรถม้า มุ
“ท่านรู้จักพี่ชายข้าด้วยหรือ” “รู้จัก วันก่อนข้าเพิ่งพาหลานชายไปสมัครเรียนที่นั่น” “เช่นนี้นี่เอง” สวีฟางจิงยืดอกน้อย ๆ ขึ้น นางรู้สึกเหมือนมีดอกไม้เบ่งบานอยู่ในหัวใจ ทำให้ไม่อาจหุบยิ้มลงได้ เสี่ยวหยวนมองเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เขารู้ทันทีว่าสตรีนางนี้ หมายปองเสิ่นหร
“เสี่ยวหยางโตเร็วมาก ตอนนี้ข้าอุ้มแทบไม่ไหวแล้ว” นางนั่งลงด้านข้างกับมารดา จ้องมองหน้าท้องของนางด้วยความรู้สึกยินดี “เจ้าไม่ต้องมองข้า เรื่องแบบนี้ข้าควบคุมไม่ได้” เฉาซูหลิ่งแอบอายเล็กน้อย นางตั้งครรภ์อีกแล้ว ทั้งยังท้องพร้อมกับบุตรสาวอีกด้วย “ข้าไม่ได้ว่าอะไรเสีย
146 : หยางเป่ยจวิ้นจู่ ฮ่องเต้ที่อยู่เมืองหลวงได้รู้ข่าวนี้ กลับรู้สึกพูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง ใครจะรู้ว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ ฮ่องเต้ทรงได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจมากมายนัก ราชครูฮู่ผู้เป็นอาจารย์ของพระองค์ มีสายเลือดของราชวงศ์เก่าไหลเวียนอยู่ในกาย และพยายามก่อกบฏอยู่หลายครั้ง
ใบหน้าของคนเป็นสามีซีดเผือดหลังได้ยิน “เป็นปีเลยหรือ” “อื้ม” “เช่นนั้นยังไม่ต้องมีก็ได้” เขาเอ่ยด้วยสีหน้าเจื่อน ๆ หลี่เมิ่งเหยาหัวเราะจนตัวงอ เรื่องนี้นางเลือกที่จะคุมกำเนิดด้วยการกินยาไว้ก่อน เกิดนางกับมารดาท้องพร้อมกัน คงเหนื่อยไม่น้อย เอาไว้ให้น้องของนางโตได้ส
145 :มาตกลงเรื่องงานแต่งกันเถอะ เมื่อถูหลิวได้มาเยือนที่เรือนของเฉาซูหลิ่งอย่างเป็นทางการ เขาไม่ได้มาตัวคนเดียว กลับพาแม่สื่อมากับเขาด้วย เฉาซูหลิ่งยังไม่ได้บอกเรื่องตั้งครรภ์กับเขา นางกำลังนั่งเหม่อกับคำพูดของแม่สื่อ ราวกับได้ย้อนเวลาไปเป็นบุปผาแรกรุ่น ซ่งฉีโหย่งกับหลิวอี๋เฉ
“ว่าอย่างไรได้หรือไม่” อย่าอ้อนข้า หลี่เมิ่งเหยาก้มหน้าลงต่ำ ดันเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นเข้า เขาพร้อมขนาดนี้ หากนางปฏิเสธจะดูใจร้ายใจดำเกินไปไหม “เหยาเอ๋อร์” เสียงแหบพร่าบ่งบอกถึงอารมณ์ของสามี นางจะทำสิ่งใดได้ นอกจากพยักหน้าลงช้า ๆ เอวนางถูกรว