@Dris Place Condo"คุณพาแก้มมาที่นี่ทำไม ทำไมไม่ไปส่งที่บ้านคุณ" แก้มหวานเปล่งเสียงถามขึ้นอีกครั้งเมื่อรถมาจอดลงยังลานจอดรถของคอนโดดวงตากลมโตจับจ้องใบหน้าหล่อเหลาอย่างไม่เข้าใจแต่เธอก็ได้รับเพียงความเงียบแทนคำตอบเหมือนเดิม"ไม่ตอบก็ไม่ต้องตอบ" เธอพ่นลมหายใจหนักๆ ออกมาระคนหงุดหงิดก่อนยกมือขึ้นปลดล็อคประตูแล้วรีบเปิดประตูลงจากรถส่าวเท้าเดินกึ่งวิ่งหนีอาจารย์หนุ่ม"ว๊าย" เสียงหวานเปล่งออกจากริมฝีปากเอิบอิ่มด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆ ตัวเธอก็ลอยขึ้นเหนือพื้นหลังจากที่ส่าวเท้าเดินได้เพียง 3-4ก้าวด้วยฝีมือของร่างสูงที่วิ่งตามมาช้อนตัวเธอขึ้นอุ้มพาดบ่า แปะ!"นอกจากโกหกเก่งแล้วยังดื้อเก่งอีกนะแก้มหวาน" กวินท์พาดฝ่ามือสากลงบนก้นงอนงามของร่างบางที่ดิ้นขลุกขลักอยู่บนบ่าด้วยความมันเขี้ยวโดยไม่สนใจว่าตรงนั้นจะมีคนอยู่หรือไม่"ที่แก้มเป็นแบบนี้ก็เพราะคุณนั้นแหละ" การกระทำและคำพูดของเขาสร้างความขุ่นเคืองให้ร่างบางไม่น้อยเธอสวนกลับทันควันพลางพยายามดีดดิ้นสุดกำลังเพื่อให้หลุดพ้นจากพันธนาการ "ปล่อยแก้มลงนะไม่ต้องมายุ่งกับแก้มม" เธอร้องโวยวายดังลั่นเอาเสียงเข้าว่าหวังให้เขาปล่อยเมื่อไม่สามารถดิ้นหลุดจากพัน
"คุณอยู่ที่นี่กับผมสัก 2-3วันก่อนค่อยกลับไปบ้านผม" กวินท์เป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อนหลังจากเขาและเธอนอนจ้องเพดานเงียบๆ มานนานหลายนาทีแล้ว"ขอเหตุผลด้วยค่ะทำไมแก้มต้องอยู่ที่นี่" แก้มหวานขมวดคิ้วชนกันเป็นปมเชิงสงสัยพร้อมหยัดกายลุดขึ้นนั่งแล้วเอี่ยวหน้ามองร่างสูงที่นอนแผ่หลาข้างๆเชิงตั้งคำถามคนถูกถามปรายตามองเสี้ยวหน้าคมแวบนึงก่อนลุกขึ้นนั่งแล้วเอ่ยออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ "คุณบอกกับแม่ผมไม่ใช่เหรอว่าน้องสาวไม่สบายจะขออยู่ดูและน้องสัก 2-3วันหากกลับไปตอนนี้แม่ผมก็สงสัยสิ""งั้นแก้มก็กลับไปอยู่หอกับน้องสาวได้ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่เลย""งั้นผมก็จะบอกน้องสาวคุณว่าเรามีความสัมพันธ์อะไรกัน คุณก็รู้นิว่าผมพูดจริงทำจริง""คุณนี่มันจริงๆเลย" เธอถึงกับกรอกตามองบนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่กับความร้ายกาจของอาจารย์หนุ่มที่ช่างลูกไม้แพรวพราวหาเรื่องมาขู่เธอได้ตลอด และเธอก็รู้ว่าเขาจะทำอย่างที่พูดจริงๆดวงตากลมโตจับจ้องใบหน้าหล่อเหลาด้วยความไม่พอใจก่อนเธอจะยกยิ้มออกมาเมื่อคิดอะไรได้ "หรือว่าคุณแอบชอบฉันเข้าแล้วถึงได้อยากอยู่ใกล้ชิดฉัน" เธอยื่นใบหน้าเข้าใกล้ร่างสูงก่อนเปล่งเสียงพูดด้วยใบหน้ากรุ่มกริ่มมองเขาอย่างจับพ
วันต่อมาแดดยามเช้าสาดส่องผ่านม่านหน้าต่างกระจกเข้ามากระทบเปลือกตาบางของคนที่นอนหลับไหลอยู่บนเตียงทำให้เธอรู้สึกตัวตื่น"เช้าแล้วเหรอเนี่ย" น้ำเสียงงัวเงียดังเล็ดลอดออกจากริมฝีปากเอิบอิ่มเบาๆ ขณะเปลือกตาบางค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาช้าๆ ก่อนจะปรับสายตาให้คุ้นชินกับแสง ทว่าเธอก็ต้องขมวดคิ้วชนกันเป็นปมเมื่อหายงัวเงียเพราะมีใครบางคนนอนกอดเธออยู่จากด้านหลังและคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากอาจารย์หนุ่มทั้งที่เมื่อวานหลังจากทานข้าวเสร็จเขาก็ให้เธอเข้ามาพักผ่อนในห้องที่เธอเคยอยู่ก่อนหน้านี้ส่วนเขาก็เข้าห้องตัวเองต่างคนต่างพักผ่อนแต่ทำไมตอนนี้เขาถึงมานอนกอดเธออยู่ได้แสดงว่าเมื่อคืนเขาคงแอบเข้ามานอนกับเธอแน่นอน"คนฉวยโอกาส" เธอบ่นอุบอิบพลางใช้มือยกแขนแกร่งที่พาดบนเอวคอดกิ่วออกอย่างระมัดระวังแต่เธอก็ต้องชะงักอัตโนมัติเมื่อเสียงทุ้มดังขึ้น "นอนนิ่งๆ" กวินท์เอ่ยทั้งที่ตายังคงปิดอยู่พร้อมกับดึงแขนออกจากมือเล็กแล้วกอดรัดตัวเธอไว้เหมือนเดิม"ไม่คุณนั้นแหละลุกขึ้นเลยนะคนฉวยโอกาส" แต่มีหรือที่แก้มหวานจะฟังเธอใช้มือแกะแขนแกร่งออกจากเอวคอดกิ่วอีกครั้งพร้อมพยายามหยัดกายลุกขึ้น ทว่าเธอกลับโดนอาจารย์หนุ่มจับให้นอนลงเหมื
ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงกวินท์ก็ผล็อยหลับไปแก้มหวานจึงค่อยๆ ยกแขนและขาของเขาออกจากตัวอย่างระมัดระวังเมื่อมั่นใจว่าเขาหลับสนิทแล้วก่อนค่อยๆ ลุกลงจากเตียงเดินมาหย่อนสะโพกนั่งลงบนเก้าอี้ที่โต๊ะเครื่องแป้ง"หรือแอบออกไปดี" เธอพึมพำออกมาเบาๆ พลางหันไปมองร่างสูงบนเตียงอย่างใช้ความคิดนี่คงเป็นโอกาสเดียวที่จะออกไปได้แต่พอคิดเรื่องโปรเจคก็ทำให้เธอล้มเลิกความคิดก่อนยกโทรศัพท์ขึ้นพิมพ์ข้อความส่งหาเพื่อนสาวคนสนิทหลังจากพูดคุยกับเพื่อนสาวจนเข้าใจเธอจึงลุกไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วออกมาทำอาหารต่อ"ผมบอกให้นอนนิ่งๆ จนกว่าผมจะตื่นไม่ใช่เหรอแอบหนีออกมาทำไม" เสียงทุ้มดังขึ้นจากด้านหลังทำให้แก้มหวานที่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับการปรุงอาหารสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจก่อนหันกลับมาตอบด้วยความน้ำเสียงห้วน "แก้มก็ลุกขึ้นมาทำอาหารเตรียมไว้ให้คุณไงคะตื่นมาจะได้ทานเลย"สิ้นเสียงพูดเธอก็กระอิ่มยิ้มในใจความจริงมันก็เป็นแค่ข้ออ้างเอาตัวรอดเท่านั้นเธอไม่ได้ตั้งใจจะเตรียมให้เขาสักน้อยเพียงแค่ไม่อยากให้เขาพาเธอออกไปทานอาหารร้านหรูๆ เหมือนเมื่อวานอีก"เหรอดูใจดีแปลกๆ นะแก้มหวาน" กวินท์เอ่ยพร้อมจับจ้องดวงหน้าเรียวอย่างไม่อยากจะเชื่อมาก
หลายชั่วโมงผ่านไป"แก้มหวานข้อมูลที่ให้หาได้หรือยัง" กวินท์เปล่งเสียงถามร่างบางข้างๆ หลังจากที่ปล่อยให้เธอหาข้อมูลมาใส่เพิ่มเติมในโปรเจค ส่วนตัวเองก็นั่งเล่นมือถือไปจนเกือบชั่วโมง แต่ก็ไร้เสียงตอบกลับจากเธอดวงตาคมกริบละจากหน้าจอมือถือตวัดมองคนข้างๆ ก็พบว่าเธอนั้นนอนฟุบหน้าหลับกับโต๊ะกระจกซะแล้ว "สั่งให้หาข้อมูลดันหลับซะงั้น"เขาถอนหายใจเบาๆ พร้อมส่ายหน้าไปมาอย่างนึกเอ็นดูกับท่านอนของเธอ มือหนายื่นไปลูบเส้นผมดำขลับอย่างแผ่วเบาจับจ้องเสี้ยวหน้าสวยด้วยแววตาที่ยากเกินคาดเดาได้"ผมชอบคุณเข้าแล้วงั้นเหรอ" เสียงทุ้มพึมพำในลำคอเบาๆ อย่างไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะเผลอใจให้เด็กกะโปโลตรงหน้าไปแล้ว เขายอมรับว่าช่วงแรกๆ รู้สึกรำคาญ หงุดหงิดกับความวุ่นวายไม่รู้เรื่องรู้ราวของเธอเอามากๆ ที่ทำให้เขาต้องคอยบ่นคอยพูดตลอดซึ่งผิดวิสัยคนพูดน้อยอย่างเขา ทว่าเพียงช่วงเวลาไม่กี่เดือนที่ได้อยู่ด้วยกันเธอกลับทำให้เขากลายเป็นพูดมากไปโดยปริยาย ความวุ่นวายไม่รู้เรื่องรู้ราวของเธอทำให้ชีวิตเขามีสีสันไม่น่าเบื่อเหมือนเมื่อก่อน ทำให้เขาหลุดออกจากกฏระเบียบที่วางไว้ ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขาเริ่มชอบเธอตอนนี้รู้
ร่างบางซบหน้าลงบนแผงอกแกร่งหอบหายใจระรัวด้วยความเหนื่อยเมื่อบทรักสุดเร้าร้อนจบสิ้นลงความอายเริ่มแทรกซึมเข้ามาจนเธอไม่อาจมองหน้าร่างสูงได้ตรงๆ เธออยากตีกบาลตัวเองแรงๆ ที่เผลอปล่อยตัวปล่อยใจไปตามอารมณ์ทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรกันไม่รู้เขาจะมองเธอเป็นผู้หญิงใจง่ายหรือเปล่า"หึ" กวินท์ระบายยิ้มบางๆ อย่างรู้ทันเขาเลือกจะไม่พูดอะไรออกไปให้หญิงสาวเอียงอายเพิ่มอีก ก่อนยกตัวเธอขึ้นอุ้มกระเตงทั้งที่ยังซบหน้าอยู่บนอกแล้วพาเดินเข้าไปยังห้องน้ำภายในห้องนอนของเขาเพื่อชำระคราบน้ำคาวที่ไหลเปรอะเปื้อนหว่างขา มือหนาวางร่างบางลงบนเคาวน์เตอร์อ่างล้างหน้าอย่างแผ่วเบาก่อนเชยคางมนให้เงยขึ้นมาเผชิญหน้ากับเขา แก้มหวานลอบกลืนน้ำลายคงคออึกใหญ่เมื่อต้องมองสบดวงตาคมกริบจังๆ ภาพบทรักสุดเร้าร้อนพลันลอยเข้ามาในโสตประสาทอีกครั้ง ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาด้วยความอายเธอจนแทบอยากจะมุดหน้าหนี น้ำลายเหนี่ยวๆ ถูกกลืนลงลำคอแห้งผากอีกครั้งก่อนเธอจะข่มความประหม่าเอาไว้เปล่งเสียงบอกร่างสูงด้วยน้ำเสียงติดๆ ขัดๆ "กะ..แก้มจะกลับไปอาบน้ำที่ห้องตัวเอง" "เดินไหวเหรอ" เสียงทุ้มเปล่งออกจากริมฝีปากหนาเชิงเย้าแหย่เพราะก่อนหน้านี้เธอขาอ่อนยวบ
วันต่อมา'ครืด ครืด"เสียงโทรศัพท์ทำให้ร่างบางที่กำลังนั่งทำโปรเจคอยู่ละสายตาออกจากหน้าจอโน้ตบุ๊คปรายตามองหน้าจอโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างๆ เมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์อาจารย์หนุ่มเธอจึงหยิบขึ้นมากดรับสาย ก่อนกรอกเสียงลงไปตามสาย (ค่ะคุณกวินท์)(ผมรอหน้าคอนโดคุณลงมาได้เลย ผมไม่ขึ้นไปละ)(ค่ะแก้มขอเก็บของแป๊บค่ะ)(โน้ตบุ๊คผมคุณก็พาไปด้วยจะได้ทำโปรเจคต่อ ไม่ต้องย้อนกลับไปเอาที่หอคุณให้เสียเวลา)(ค่ะ) หลังจากวางสายจากอาจารย์หนุ่มแก้มหวานก็จัดการปิดโน้ตบุ๊คเก็บของด้วยความเร็วไม่อยากให้เขาต้องรอนาน"อ๋อยยย" เสียงหวานร้องโอดครวญออกมาเบาๆ ในตอนที่กำลังหยัดกายลุกขึ้นยืนเพราะรู้สึกเจ็บรอบเอวลามไปถึงแผ่นหลังคงเป็นเพราะนั่งอยู่หน้าจอโน้ตบุ๊คตั้งแต่เช้าจนเย็นไม่ได้ลุกไปไหนเลยทำให้ปวดเมื่อยปึกๆ! เธอใช้มือทุบแผ่นหลังเบาๆ คลายอาการปวดเมื่อยเมื่อรู้สึกดีขึ้นจึงเดินเข้าไปหยิบกระเป๋าสะพายในห้องนอนแล้วเดินออกจากห้องลงไปหาอาจารย์หนุ่มหน้าคอนโด"ทำโปรเจคถึงไหนแล้ว" เสียงทุ้มเปล่งถามหญิงสาวทันทีที่เธอก้าวขึ้นมานั่งบนรถพร้อมปรายตามองเสี้ยวหน้าสวยแวบนึงก่อนเริ่มขับรถ"โปรเจคคืบหน้าไปเยอะแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะที่ค่อยชี้แนะ
"ทำไมถึงมาด้วยกันได้ละหื้มกวินท์" ทันทีที่ทั้งสองเดินเข้ามาในบ้านเสียงของคุณหญิงอมรรัตน์ก็ดังขึ้นระคนสงสัยเมื่อเห็นว่าทั้งสองมาด้วยกัน"แม่ก็ถามแปลกเป็นแฟนกันก็ต้องมาด้วยกันสิครับ" กวินท์ตอบผู้เป็นแม่อย่างไม่ไส่ใจมากนักพร้อมเดินมานั่งลงบนโซฟาตรงข้ามท่าน ส่วนแก้มหวานก็ยกมือไหว้คุณหญิงอมรรัตน์อย่างนอบน้อมก่อนเดินตามมานั่งลงข้างๆ เขา"...." คุณหญิงอมรรัตน์ทำตาขว้างใส่บุตรชาย แล้วหันไปส่งยิ้มให้เด็กสาวอย่างเอ็นดู "น้องสาวหายดีแล้วเหรอหนูแก้ม" "ดีขึ้นมากแล้วค่ะ" "หนูคงเหนื่อยแย่ต้องดูแลน้องด้วย ต้องเรียนด้วยไหนจะทำโปรเจคจบอีก" "ไม่เหนื่อยหรอกค่ะคุณป้า""ยังไงหนูก็หาเวลาพักผ่อนบ้างนะเดี๋ยวจะป่วยเอาได้" คุณหญิงอมรรัตน์นั่งคุยกับเด็กสาวโดยไม่สนใจบุตรชายสักนิดทำเหมือนเขาเป็นอากาศยังไงยังงั้น เธอยอมรับเลยว่าหลังจากได้รู้ข้อมูลจากนักสืบที่เธอจ้างให้ไปสืบข้อมูลการใช้ชีวิตของเด็กสาวอย่างละเอียดตั้งแต่เล็กจนถึงตอนนี้ก็ทำให้ได้รู้ว่าเด็กสาวสู้ชีวิตมากๆ บวกกับการได้ใกล้ชิดกับเด็กสาวมาสักระยะจึงทำให้มั่นใจได้ และเธอก็รู้สึกเอ็นดูเด็กสาวมากขึ้นไปอีก"หึ" ชายหนุ่มถึงกับเค้นหัวเราะในลำคอ ส่ายหน้าเบาๆ
หลายเดือนต่อมาอ๊วกกก! เสียงอาเจียนดังเล็ดออกมาจากห้องน้ำภายในห้องนอนของแก้มหวานกับกวินท์ เจ้าของเสียงอาเจียนหาใช่หญิงสาวไม่แต่กลับเป็นชายหนุ่มที่ยืนอาเจียนหน้าอ่างล้างหน้าจนหมดไส้หมดพุงเขามีอาการแบบนี้มา 2วันติดๆ แล้วก็ไม่ทราบสาเหตุเหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร"พี่กวินท์เป็นอะไรมากไหมคะ แก้มว่าไปหาหมอดีกว่าพี่เป็นแบบนี้มา 2-3วันแล้วนะ" แก้มหวานเดินเข้าไปลูบหลังให้แฟนหนุ่มเบาๆ พร้อมถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นสีหน้าซีดเผือดของเขาผ่านกระจกกวินท์ใช้มือกรอกน้ำล้างปากก่อนแหงนหน้าขึ้นสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ระบายอาการคลื่นไส้ในอกแล้วหันไปพูดกับแฟนสาวด้วยใบหน้าอิดโรย "ก็ดีเหมือนกันครับ""ค่ะ" ใบหน้าสวยเพียงพยักรับน้อยๆ มือเล็กเอื้อมไปจับแขนแกร่งไว้แล้วประคองเขาเดินออกจากห้องน้ำพาไปนั่งลงริมเตียงจากนั้นจึงเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบเสื้อออกมายื่นให้เขาเปลี่ยน "นี่ค่ะเสื้อ""ขอบคุณครับ" กวินท์รับเสื้อจากมือแฟนสาวมาวางลงข้างตัวแล้วสอดมือเข้าไปรั้งเอวคอดกิ่วของร่างบางที่ยืนตรงหน้าเข้ามาแนบชิดทำให้ตอนนี้ใบหน้าของเขาอยู่ระดับหน้าท้องแบนราบพอดี ก่อนเขาจะแหงนหน้าขึ้นมองใบหน้าแฟนสาวพลางนึกขอบคุณใน
"พี่ยังไม่ตอบแก้มเลยนะคะรู้ได้ยังไงว่าแก้มอยู่ที่นี่" แก้มหวานหันไปถามอาจารย์หนุ่มอีกครั้งขณะกำลังเดินไปหาน้องสาวกับเพื่อนริมชายหาดหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าจนเป็นที่พอใจของอาจารย์หนุ่มแล้วเธอยังคงคาใจอยู่อยากจะรู้ว่าเขาตามหาเธอถูกได้ยังไง"ผมก็หลอกถามจากเพื่อนคุณยังไงละ" กวินท์ตอบหน้าระรื่นก่อนยกยิ้มมุมปากเขาก็แค่ส่งไลน์ไปหาเพื่อนของหญิงสาวบอกให้ทั้งสองเอาโปรเจคมาให้เขาดู แต่เพื่อนของเธอบอกว่าไม่สะดวกเพราะมาเที่ยวพัทยาเขาเลยได้รู้แล้วแสร้งตีเนียนถามข้อมูลไปเรื่อยๆ จนรู้ว่าเธอพักอยู่รีสอร์ทนี้"พี่นี่มันจริงๆ เลย" เธอถึงกับกรอกตามองบนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่กับความเจ้าเล่ห์ของเขา ทว่าอีกคนกลับหัวเราะร่าออกมาอย่างอารมณ์ดีพร้อมยื่นมือไปโอบไหล่มน "ผัวคุณฉลาดไหมละ""เจ้าเล่ห์สิไม่ว่า หลอกล่อเก่ง แผนเยอะ""ก็บอกแล้วไงว่าผมเจ้าเล่ห์กับเด็กดื้ออย่างคุณคนเดียว""เพราะพี่เจ้าเล่ห์ไงแก้มก็เลยต้องดื้อ กับคนอื่นแก้มเชื่อฟังจะตาย""ผมต้องดีใจไหมที่คุณดื้อกับผมคนเดียว""ต้องดีใจสิคะ""ระวังจะโดนผมลากขึ้นไปกำราบบนเตียงนะเด็กดื้อ""คนบ้าชอบพูดจาทะลึ่งอยู่เรื่อย""ผมพูดจริงทำจริงไม่ได้ทะลึ่ง" "พอเลยไม่พูดเ
กวินท์ยืนจับจ้องแผ่นหลังร่างบางในชุดบิกินี่ด้วยแววตาดุดัน ใช้ลิ้นดันกระพุงแก้มอย่างไม่สบอารมณ์เขารู้สึกหัวเสีย และโกรธเอามากๆ แต่ก็พยายามระงับอารมณ์เอาไว้ไม่ให้ตัวเองขาดสติใช้อารมณ์เข้านำเหมือนในคืนนั้นอีก เขาผ่อนลมหายใจแล้วเดินอ้อมไปยืนข้างหน้าร่างบางที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงก้มหน้ามองดิน คิ้วเข้มถึงกับขมวดชนกันเป็นปมเมื่อเห็นหน้าอกหน้าใจที่ล้นทะลักออกมานอกบรา ไหนจะหน้าท้องขาวเนียนเรียวขาสวยนั้นอีก บิกินี่ทูพีชเผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งสัดส่วนทุกอย่างชัดเจนไปหมดผู้ชายคนใดได้เห็นก็คงคิดดีไม่ได้"ทำไมใส่ชุดแบบนี้มันโป็มากรู้ไหม" เขาอดที่จะเอ็ดหญิงสาวไม่ได้อยากจะจับเธอตีก้นให้เข็ดหลาบว่าไม่ควรแต่งตัวแบบนี้อีกแต่ก็ต้องข่มอารมณ์ไว้ ก่อนถอดเสื้อแจ็กเก็ตมาห่อตัวเธอจนมิดชิด"ว๊าย!" แก้มหวานที่ยืนมองการกระทำของอาจารย์หนุ่มอย่างงงๆ ร้องอุทานด้วยความตกใจในตอนที่เขาจับตัวเธอขึ้นอุ้มพาดบ่าจนหัวห้อยโต่งเตงไม่แคร์สายตาคนที่เดินผ่านไปมา หรือสายตาน้องสาวกับเพื่อนสาวของเธอที่ยืนอ้าปากค้างมองด้วยความงุนงงสักนิด"คุณกวินท์ปล่อยแก้มลงนะคนมองหมดแล้ว" เสียงหวานเปล่งออกจากริมฝีปากเอิบอิ่มเบาๆ ด้วยความอับอายเธอไม
"พี่แก้มดีขึ้นแล้วเหรอคะ" เสียงของแก้วตาทำให้แก้มหวานที่ยืนทอดสายตามองทะเลด้วยใจเหม่อลอยสะดุ้งหลุดออกจากภวังค์ความคิด ก่อนปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วหันกลับไประบายยิ้มตอบน้องสาว "พี่ดีขึ้นแล้ว""งั้นไปหาอะไรกินกันเถอะเริ่มหิวแล้วอะ" มิราเอ่ยชวนทันทีเมื่อเห็นสีหน้าเพื่อนสาวสดชื่นขึ้นกว่าก่อนหน้านี้พร้อมใช้มือลูบวนไปมาบนท้อง "งั้นก็ไปหาอะไรกินกัน" หญิงสาวได้แต่ส่ายหน้าไปมาให้กับการท่าทางของเพื่อนสาวก่อนเดินไปโอบไหล่เพื่อนสาวกับน้องสาวแล้วเดินพาออกจากห้อง@ร้านอาหารทั้งสามคนเลือกมาทานอาหารทะเลร้านใกล้ๆ กับรีสอร์ทที่เดินเลียบชายหาดมาเพียง 200เมตรก็ถึงเพราะได้ชื่นชมบรรยากาศระหว่างเดินมาด้วย เมื่อได้ออกมาพปปะผู้คนข้างนอกได้ชื่นชมกับบรรยากาศริมทะเลก็ทำให้แก้มหวานรู้สึกดี และผ่อนคลายมากขึ้นลืมเรื่องอาจารย์หนุ่มไปชั่วขณะหลังจากทานอาหารเสร็จทั้งสามคนก็พากันตะเวนเที่ยวทั่วเมืองพัทยาจนค่ำจึงกลับห้องมาพักผ่อน"พรุ่งนี้เล่นน้ำกันไหม" มิราเอ่ยขึ้นหลังจากเดินมาหย่อนสะโพกนั่งลงบนโซฟาในห้องแล้ว "ไปสิคะพี่มิรา" แก้วตาตอบตกลงอย่างไม่รอช้าก่อนหันไปพูดกับพี่สาวต่อ "มาทะเลทั้งทีไม่ได้เล่นน้ำก็เหมือนมาไม่ถ
@คอนโดมิรา"ฮึก ฮื่อ" เสียงสะอื้นไห้ดังระงมเบาๆ ภายในห้องนอนของคอนโดมิราแก้มหวานเลือกหนีอาจารย์หนุ่มมาหลบที่คอนโดเพื่อนสาวเพราะคิดว่าเขาคงไม่รู้แน่นอน เธอปล่อยให้น้ำตาแห่งความเสียใจ และผิดหวังหลั่งไหลออกมาเพื่อชะล้างความรู้สึกแย่ให้หมดไป และหลังจากนั้นเธอจะเริ่มต้นใหม่"คนปากเสียมาว่าแก้มแบบนั้นได้ไง แก้มไม่ชอบคุณแล้ว" ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนที่เธอนอนร้องไห้อยู่อย่างนั้นจนรู้สึกดีขึ้นจึงหยัดกายลุกขึ้นนั่งแล้วยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาออกจากพวงแก้มลวกๆ ดวงตากลมโตฉายแววเด็ดเดี่ยวขึ้นในทันตาเมื่อสิ้นเสียงงึมงำ ก่อนจะลุกลงจากเตียงเดินเข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำแล้วเดินกลับมาหย่อนสะโพกนั่งริมเตียง มือเล็กเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายข้างออกมาเปิดเครื่องหลังจากที่เธอปิดเครื่องหนีอาจารย์หนุ่มก่อนหน้านี้เพื่อโทรบอกน้องสาว ทว่าเพียงแค่เปิดเครื่องเท่านั้นข้อความพยายามติดต่อจากเขาก็เด้งเข้ามาในมือถือระรัวเกือบสิบข้อความแต่เธอหาได้สนใจไม่กลับปัดข้อความเขาทิ้งแล้วต่อสายหาน้องสาว ถือสายรอไม่นานปลายสายก็กดรับ(ว่าไงคะพี่แก้ม)(คืนนี้พี่นอนห้องพี่มิรานะแก้ว)(ค่ะ..เมื่อกี้เจ้านายพี่เขามาตามหาพี่
"แก้มหวาน!" กวินท์เดินปรี่ไปหาหญิงสาวที่กำลังยืนคุยกับผู้ชายหน้าระรื่นด้วยอารมณ์เดือดดาล มือหนาเอื้อมไปจับแขนเล็กแล้วกระชากให้ออกห่างเตชินเจ้านายเก่าของเธออย่างแรงจนเธอเซถลาปะทะลำตัวของเขาเต็มๆปึก!"อ๊ะ..คุณกวินท์" แก้มหวานเบ้หน้าออกมาด้วยความเจ็บ ก่อนแหงนมองหน้าอาจารย์หนุ่มด้วยความรู้สึกตกใจเล็กน้อย ทว่าเธอก็ต้องลอบกลืนน้ำลายเหนี่ยวๆ ลงลำคออึกใหญ่เมื่อเห็นสีหน้าแดงก่ำ และแววตาเกรี้ยวกราดของเขาที่จับจ้องเธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ "คุณฟังแก้มก่อนได้ไหม""โอ๊ย! แก้มเจ็บนะ" เธอพยายามข่มไม่ให้ตัวเองตื่นกลัวกับท่าทางเกรี้ยวกราดของร่างสูงตรงหน้า ก่อนเปล่งเสียงพูดเพืื่ออธิบายให้เขาเข้าใจ ทว่าเธอก็ต้องร้องท้วงด้วยความรู้สึกเจ็บพร้อมใช้อีกมือแกะมือหนาออกในตอนที่มือหนาออกแรงบีบแขนของเธอแรงๆ ราวกับจะให้มันแหลกคามือยังไงยังงั้น แต่แรงอันน้อยนิดของเธอหาได้ทำให้มือหนาขยับเขยื้อนออกจากแขนเธอสักนิดไม่ "ผมคนเดียวมันไม่ถึงใจใช่ไหมถึงได้ระริกระรี้กับผู้ชายคนอื่นอีก" กวินท์โกรธและหึงจนหน้ามืดตามัวไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว เขาใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มจับจ้องหน้าเธอสลับกับชายหนุ่มอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนพรั่งพรูคำ
"เฮ้อ" แก้มหวานเดินเข้ามาทิ้งตัวลงนั่งริมเตียงภายในห้องนอนด้วยสมองที่หนักอึ้งหลังจากทานมือค่ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว เรื่องที่คุณหญิงอมรรัตน์ไม่ยอมให้เธอย้ายออกไปแต่กลับให้น้องสาวย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันทำให้เธอคิดไม่ตกไม่รู้ว่าควรจะเอายังไงต่อไปดี แต่ที่แน่ๆ เธอไม่ให้น้องสาวรู้เรื่องความสัมพันธ์จอมปลอมระหว่างเธอกับอาจารย์เด็ดขาด'แกร็ก'เสียงปลดล็อคประตูดังขึ้นทำให้แก้มหวานหลุดออกจากห้วงความคิดก่อนปรายตามองทางประตู เธอถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อเห็นว่าคนที่เปิดประตูเข้ามาคืออาจารย์หนุ่มเธอก็คิดว่าหลังจากทานข้าวเสร็จเขาจะกลับคอนโดไปแล้วเสียอีก"คุณเข้ามามีธุระอะไรกับแก้มคะ" ดวงตากลมโตจับจ้องร่างสูงที่เดินมาหยุดยืนตรงหน้านิ่งๆ นานนับนาทีๆ ก่อนเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย"คุณจะเอายังไงต่อเรื่องที่แม่ผมให้น้องสาวย้ายมาอยู่ที่นี่กับคุณ" กวินท์หย่อนสะโพกนั่งลงข้างๆ หญิงสาวก่อนถามไถ่ด้วยน้ำเสียงจริงจัง ใบหน้าเคร่งขรึมไม่ได้แสดงท่าทางเจ้าเล่ห์ หรือกรุ่มกริ่มเหมือนที่ผ่านมา ท่าทางที่ดูจริงจังของเขาทำเอาแก้มหวานแปลกใจไม่น้อย ดวงกลมโตจับจ้องเสี้ยวหน้าหล่อเหลาอย่างใช้ความคิดปกติเขาคงจะหาเรื่องเข้ามา
@บ้านสิริราญานุกุล"ไม่ต้องมายุ่งกับแก้มคนเผด็จการ" แก้มหวานหันไปตะเบ็งเสียงใส่อาจารย์หนุ่มดังลั่นเมื่อเขายื่นมือมาดึงพวงแก้มนวลของเธอหลังจากรถจอดเรียบร้อยแล้วพร้อมยกมือขึ้นปัดมือหนาออกจากพวงแก้มจากนั้นก็เปิดประตูลงจากรถเดินเข้าไปในบ้านด้วยท่าทางกระเฟียดกระฟัด แต่เมื่อเข้ามาในบ้านเธอก็ต้องรีบปรับสีหน้า และท่าทางให้เป็นปกติเมื่อเห็นคุณหญิงอมรรัตน์นั่งอยู่ในห้องโถงก่อนเดินเข้าไปทักทาย "สวัสดีค่ะคุณป้า""จ้ะ" คุณหญิงอมรรัตน์พยักหน้ารับพร้อมระบายยิ้มให้เด็กสาวบางๆ แต่เธอก็ต้องขมวดคิ้วชนกันเป็นปมเมื่อเห็นบุตรชายเดินเข้ามา "ลมอะไรหอบลูกมาบ้านอีกละวันนี้" เธอแซวบุตรชายอย่างอดไม่ได้เพราะสองวันติดๆ แล้วที่บุตรชายโผล่หน้ากลับมาอย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าบุตรชายของเธอนั้นกว่าจะกลับบ้านได้แต่ละทีไม่มีธุระก็เธอโทรตามเท่านั้น แต่เธอก็ไม่ได้แปลกใจอะไรเพราะพอรู้เหตุผลว่าทำไมบุตรถึงกลับบ้าน"ไม่มีลมอะไรทั้งนั้นแหละครับ" กวินท์ไหว่ไหล่ให้ผู้เป็นแม่ก่อนเดินเข้าไปนั่งลงบนโซฟาตรงข้ามท่าน ดวงตาคมกริบปรายมองร่างบางที่ยืนเยื้องๆ กับโซฟาก่อนรอยยิ้มร้ายจะผุดขึ้นประดับมุมปากหนาเมื่อเห็นสีหน้าบึ้งตึงของเธอ"เผด็จกา
วันต่อมา@มหาวิทยาลัยคอนเวนต์'ติ๊ง ติ๊ง'เสียงแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชั่นไลน์ดังขึ้นเบาๆ ทำให้แก้มหวานที่กำลังฟังอาจารย์สอนอย่างตั้งใจละสายตาจากจอโปรเจคเตอร์ ก่อนล้วงไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายออกมาเปิดดูข้อความ"เรียนเสร็จมาหาผมที่ห้องทำงาน" เธอแบะปากน้อยๆ เมื่ออ่านข้อความที่อาจารย์หนุ่มเป็นคนส่งมาจบ "รอไปเถอะแก้มไม่ไปตามคำสั่งคุณหรอก" "งึมงำอะไรของแกแก้ม" มิราที่นั่งอยู่ข้างๆ เอียงหน้ามาถามเพื่อนสาวเบาๆ เมื่อเห็นเธอก้มมองหน้าจอมือถือแล้วงึมงำเบาๆ ราวกับคนบ้า"เปล่าาา" แก้มหวานตอบพร้อมส่งยิ้มแหย่ๆ ให้เพื่อนสาวขณะที่มือกดปิดหน้าจอมือถือแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าเหมือนเดิมไม่ได้คิดจะตอบกลับข้อความของอาจารย์หนุ่มเพราะยังรู้สึกเคืองๆ เรื่องเมื่อวานอยู่ ก่อนสนใจกับการเรียนต่อ หลังจากเรียนเสร็จเธอกับเพื่อนสาวก็เดินมานั่งที่ศาลาหน้าตึกคณะเพื่อทำโปรเจคต่อ"ฉันได้ดูโปรเจคที่แกส่งมาแล้วนะ แกทำได้ไงอะ" มิราขมวดคิ้วมองหน้าถามเพื่อนสาวด้วยความสงสัยหลังจากนั่งลงแล้วเพราะเพียงเวลาแค่ 2-3วันเพื่อนสาวก็ทำโปรเจคเกือบเสร็จแล้วแถมข้อมูลยังแน่นอีกคนถูกถามลอบถอนหายใจเบาๆระคนเหนื่อยหน่ายเธอคงต้องโกหกเพื่อนสาวอี