หลังจากหญิงสาวหลับไปได้ไม่นานหนุ่มเจ้าของห้องก็กลับมาเขาขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อสายตาสะดุดเข้ากับร่างบางที่นั่งหลับบนโซฟา"ทำไมมานอนตรงนี้" เขาพึมพำในลำคอเบาๆ ก่อนเดินไปหยุดตรงหน้าร่างบางแล้วใช้มือเขย่าตัวเธอเพื่อปลุกให้ตื่น "แก้มหวานตื่น แก้มหวาน"แต่ดูเหมือนหญิงสาวจะหลับสนิทไม่ว่าเขาพยายามเรียกเท่าไรเธอก็ไม่รู้สึกตัว กวินท์พ่นลมหายใจหนักๆออกมาระคนหงุดหงิดสุดท้ายเธอก็เป็นภาระของเขาอีก"เธอนี่มันตัวยุ่งจริงๆ" ดวงตาคมกริบจับจ้องคนที่นอนหลับตาพริมๆนานนับนาที ก่อนโน้มลงไปช้อนเธอขึ้นมาอุ้มในท่าเจ้าสาวพาเดินเข้ามาวางบนเตียงในห้องนอนของเธอ ทว่าเพียงแค่หลังถึงที่นอนนุ่มๆเท่านั้นหญิงสาวก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา "คุณกลับมาแล้วเหรอคะ" เธอยกมือขึ้นขยี้ตาเบาๆ ไล่อาการตาพร่ามัวเมื่อเห็นว่าอาจารย์หนุ่มยืนอยู่ข้างเตียงจึงเปล่งเสียงงัวเงียถามไถ่พร้อมหยัดกายลุกขึ้นนั่ง"ไม่กลับมาแล้วจะยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้เหรอ..ทีหลังถ้าจะนอนก็นอนในห้องไม่ใช่บนโซฟาภาระคนอื่นต้องแบกเข้าห้องอีก" กวินท์ตอบแกล้มดุดวงตาคมกริบจ้องมองร่างบางระคนไม่พอใจทำเอาคนโดนดุต้องก้มหน้างุด "เดี่ยวค่ะ" มือเล็กยื่นไปคว้ามือร่างสูงเอาไว้ในตอนที่เขาห
กวินท์จับจ้องคนใต้ร่างที่พยายามดีดดิ้นให้พ้นจากการทาบทับของเขาด้วยแววตาทอประกาย แรงดีดดิ้นของเธอทำให้เนินอกอวบอิ่มเคลื่อนไหวเบียดเสียดกับแผงอกแกร่งปลุกความเป็นชายให้ตื่นตัว เลือดในกายพาลสูบฉีดขึ้นมา ทว่าแก้มหวานกลับไม่รู้เลยว่าการกระทำของเธอกำลังกระตุ้นอารมณ์ความต้องการของคนด้านบน เธอยังคงออกแรงดีดดิ้นร้องท้วงไม่ยอมหยุด “ออกไปแก้มหนัก คุณกวินท์แก้มหายใจไม่ออก คุณชอบระ..”“.....” เสียงหวานถูกกลืนหายไปในลำคอเมื่อชายหนุ่มโน้มลงประจูบปิดริมฝีปากเอิบอิ่มเพราะรู้สึกรำคาญเสียงร้องโวยวายของเธอ ลิ้นนุ่มสอดแทรกเข้าไปเกี่ยวกวัดกับลิ้นเล็กในตอนที่ร่างบางเผยอปากพยายามส่งเสียงร้องท้วงในลำคออย่างเอาแต่ใจ ฝ่ามือสากค่อยๆ ลูบไล้ไปตามเรียวขาขาวเนียนระเรื่อยขึ้นมาจนถึงเนินสามเหลี่ยมอวบอูมภายใต้ชุดเดรสตัวใหญ่ “อื้อ” ร่างบางถึงกับสะดุ้งเฮือกใจดวงน้อยกระตุกวูบในตอนที่อาจารย์หนุ่มลูบไล้ไปตามเนินสามเหลี่ยมผ่านแพนตี้ลูกไม้ตัวบาง ก่อนสอดนิ้วเข้าไปทักทายกลีบกุหลาบสีสวยเธอรู้ได้ในทันทีว่าต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น “คะ..คุณกวินท์หยุดก่อนได้ไหมคะ” น้ำเสียงหวานปนสั่นเครือเปล่งออกจากริมฝีปากเอิบอิ่มทันทีที่อาจารย์หนุ่
แก้มหวานเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์คำถามที่ตัวเองอยากรู้แล้วส่งให้อาจารย์หนุ่มทันทีหลังจากเขาเดินออกจากห้องไป จากนั้นจึงลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานตามปกติ จนกระทั่งถึงเวลาเลิกงานเธอก็รีบกลับคอนโดเพื่อพักผ่อนเอาแรงระหว่างรอเวลาไปบ้านอาจารย์หนุ่มเพราะเมื่อคืนเธอได้พักผ่อนไม่เต็มที่บวกกับพิษไข้ที่ยังไม่หายดีเลยทำให้เธอรู้สึกล้าเป็นอย่างมาก"ชีวิตน้อชีวิต" เธอโอดครวญออกมาเบาๆระคนเหนื่อยหน่ายกับชีวิตพร้อมกับทิ้งตัวลงนอนแล้วค่อยๆหลับตาลงและเพียงไม่นานเธอก็ผล็อยหลับไป ความเหนื่อยล้าที่สร้างสมมาหลายวันติดๆทำให้เธอนอนหลับเสียสนิทโดยไม่รู้สึกตัวเลยว่ามีคนเปิดประตูเข้ามา"แก้มหวานๆ" กวินท์เดินมาหยุดข้างเตียงก่อนเปล่งเสียงเรียกร่างบางบนเตียงเบาๆ ทว่าแม้ว่าจะพยายามเรียกเท่าไรก็ไม่มีทีท่าว่าเธอจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนหย่อนสะโพกนั่งลงข้างๆเธอ ดวงตาคมกริบจับจ้องใบหน้าสวยอย่างใช้ความคิดเธอคงเหนื่อยมากถึงได้นอนหลับลึกขนาดนี้เมื่อคืนก็โดนเขาเล่นงานอย่างหนักแถมเช้ามาก็ต้องไปทำงานอีก แต่ก็ช่วยไม่ได้เธอเลือกที่จะไม่รับเงินของเขาเองเลยต้องทำงานหนักแบบนี้"แก้มหวานตื่นแก้มหวาน"
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเป็นไปอย่างราบรื่นถึงแม้แก้มหวานจะรู้สึกเกร็งๆ อยู่บ้างแต่เธอก็สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ทว่าเธอกลับรับรู้ได้ว่าแม่ของอาจารย์หนุ่มกับระรินไม่ค่อยชอบเธอสักเท่าไรดูเหมือนภารกิจของเธอในครั้งนี้จะไม่ราบรื่นเสียแล้ว"นี่ก็ดึกแล้วกวินท์ไปส่งน้องหน่อย" คุณหญิงอมรรัตน์เอ่ยขึ้นหลังจากทุกคนทานอาหารเสร็จแล้ว"ให้คนขับรถไปส่งสิครับผมรู้สึกง่วงแล้วอยากพักผ่อน" กวินท์หาได้ทำตามคำสั่งของผู้เป็นแม่ไม่เขาปฏิเสธทันควันเพราะรู้ว่าผู้เป็นแม่คิดอะไรอยู่คงต้องการเปิดโอกาสให้หญิงสาวแต่มีหรือที่เขาจะยอมให้สำเร็จ"กวินท์!" คุณหญิงอมรรัตน์ตวัดมองหน้าบุตรชายด้วยความไม่พอใจเมื่อได้ยินคำตอบของเขาเธอพย่ยามสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆเพื่อระงับโทสะของตัวเองก่อนเปล่งเสียงพูดอีกครั้ง "ไปส่งน้องหน่อยเถอะกวินท์""ไม่เป็นไรค่ะคุณป้าระรินกลับเองก็ได้ค่ะ" ระรินรีบพูดแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงนบน้อมเมื่อเห็นสีหน้าไม่พอใจของชายหนุ่มทั้งที่ภายในใจรู้สึกโกรธจนเป็นฟืนเป็นไฟอยากจะกรีดร้องออกมาให้หายขุ่นเคืองแต่ก็ทำได้เพียงคิดในใจเพราะต้องรักษาภาพลักษณ์อันแสนดีของตัวเองไว้ เธอปรายตามองหน้าแก้มหวานด้วยความแค้นเคืองก่อนปรับสี
วันต่อมา'ตี๊ด ตี๊ด'นาฬิกาในโทรศัพท์แผดเสียงดังขึ้นปลุกให้ร่างบางที่กำลังนอนหลับอย่างสบายรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในช่วงเช้ามืดของวันใหม่ เธอค่อยๆยกมือขึ้นขยี้เปลือกตาไล่อาการตาพร่ามัวก่อนเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์มากดปิดนาฬิกาปลุก "เหมือนเพิ่งนอนไปเองหกโมงเช้าแล้วเหรอเนี่ย" น้ำเสียงงัวเงียเปล่งออกจากริมฝีปากเอิบอิ่มเบาๆ เมื่อเห็นเวลาบนหน้าจอมือถือ เธอบิดขี้เกียจไปมาแล้วลุกลงจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำไป หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเธอก็เดินลงไปยังห้องครัวทันทีเพื่อช่วยแม่บ้านเตรียมอาหารเช้าเพราะรู้สึกเกรงใจพ่อแม่ของอาจารย์หนุ่มเลยอยากทำตัวให้เป็นประโยชน์บ้างดั่งสุภาษิตที่ว่าอยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดายปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น และอีกอย่างเธอคงต้องเข้าออกบ้านนี้อีกหลายครั้งจึงต้องปฏิบัติตัวดีๆ ให้ทุกคนชื่นชอบจะได้ง่ายต่อการทำภารกิจ "อ้าวหนูแก้มตื่นเช้าจัง" เสียงป้าแม่บ้านเอ่ยทักทายทันที่หญิงสาวเดินเข้าไปในครัว เธอเพียงระบายยิ้มให้ป้าแม่บ้านบางๆก่อนเดินไปยืนข้างๆแล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสดใส "มีอะไรให้หนูช่วยไหมคะ" "ไม่มีค่ะหนูแก้มออกไปนั่งรอข้างนอกดีกว่า" ป้าแม่บ้านตอบด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มก่อนลงมือปร
หลังจากทานอาหารและพูดคุยกันเสร็จทุกคนก็แยกย้ายไปทำธุระของตัวเอง ส่วนแก้มหวานก็เดินขึ้นมาบนห้องนอนเพื่อเตรียมตัวออกไปข้างนอกกับคุณหญิงอมรรัตน์"ฟู่" เธอมองสำรวจตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมพ่นลมหายใจหนักๆ ออกมาด้วยความรู้สึกเซ็งๆ ก่อนเดินมาไปหย่อนสะโพกนั่งลงบนเตียงนุ่มๆแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเขี่ยเล่นระหว่างรอเวลาออกไปข้างนอก'แกร็ก'ดวงตากลมโตละออกจากหน้าจอโทรศัพท์แสมองไปทางประตูในตอนที่ได้ยินเสียงปลดล็อคประตูดังขึ้นคิ้วสวยขมวดชนกันเป็นปมเมื่อเห็นร่างสูงเดินเข้ามา ก่อนเปล่งเสียงถาม "คุณกวินท์มีอะไรคะ"กวินท์หาได้ตอบอะไรไม่เขาเดินมาหยุดตรงหน้าร่างบางที่นั่งห้อยขาริมเตียงเงียบๆ จับจ้องดวงหน้าเรียวด้วยแววตาทอประกายทำเอาคนโดนจ้องรู้สึกประหม่าไม่น้อย ตาคู่สวยกรอกกลิ้งไปมาอย่างเสียอาการให้ตายเถอะเธอไม่ชอบเอาเสียเลยเวลาถูกเขาจ้องด้วยแววตาแบบนี้มันดูเหมือนมีอะไรแอบแฝงอยู่"ถ้าไม่มีอะไรแก้มขอลงไปหาแม่คุณนะคะท่านคงใกล้จะไปแล้ว" เธอรีบยกข้ออ้างเพื่อปลีกตัวออกจากสถานการณ์อันน่าอึดอัดนี้ "อ๊ะ" น้ำเสียงหวานเปล่งออกจากริมฝีปากเอิบอิ่มระคนตกใจเมื่อจู่ๆ อาจารย์ก็โน้มลงใช้มือทั้งสองข้า
@สำนักพิมพ์สิริราญาแก้มหวานขมวดคิ้วเป็นปมด้วยความสงสัยเมื่อรถหรูเคลื่อนตัวมาจอดลงยังหน้าสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง เธอไม่เข้าใจว่าคุณหญิงอมรรัตน์พาเธอมาสำนักพิมพ์ทำไมกัน "สำนักพิมพ์ป้าเอง" คุณหญิงอมรรัตน์พูดขึ้นเมื่อเห็นเด็กสาวมีท่าทีสงสัย ก่อนเปิดประตูลงจากรถ"เป็นคนรวยนี่ดีจริงๆ" แก้มหวานพึมพำในลำคอเบาๆ ด้วยความรู้สึกอิจฉาเล็กๆในใจ ก่อนเปิดประตูลงจากรถเดินตามคุณหญิงอมรรัตน์เข้าไปในสำนักพิมพ์"หนูแก้มนั่งรอก่อนนะป้ามีเอกสารต้องรีบเคลียร์นิดหน่อย" คุณหญิงอมรรัตน์หันไปพูดกับสาวอีกครั้งหลังจากเดินเข้ามาในห้องทำงานของตัวเองแล้ว"ค่ะ" หญิงสาวพยักหน้ารับด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มก่อนเดินไปหย่อนสะโพกนั่งบนโซฟาแล้วหยิบนิตยสารบนโต๊ะขึ้นมาเปิดอ่านฆ่าเวลา'แกร็ก'ดวงตากลมโตละออกจากนิตยสารแล้วปรายมองไปทางประตูในตอนที่เสียงปลดล็อคเมื่อเห็นว่าคนที่เดินเข้ามาคือระรินก็แอบแปลกใจนิดหน่อยแต่พอจะเดาได้ว่าคุณหญิงอมรรัตน์คงเรียกมาเธอลอบถอนหายใจเบาๆก่อนเอ่ยทักทายสาวสวยที่อายุมากกว่าเธอตามมารยาท "สวัสดีค่ะคุณระริน""อ้าว..น้องแก้มสวัสดีจ้ะ" ระรินหันกลับไปทักทายกลับด้วยน้ำเสียงหวาน ทว่าเมื่อพูดจบเธอกลับเบะปากใส่แถมใช
กวินท์มองตามหลังร่างบางที่เดินหุนหันออกไปด้วยแววตาอ่อนก่อนตวัดสายตามองคนข้างๆต่อพร้อมกับแกะมือเธอออกแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบทว่ากลับทำให้คนฟังสะดุ้ง "เหม็นสาบคนจน จนแล้วไม่เจียมตัวนี่คือคำพูดที่แฟนผมว่าคุณเหรอ" สิ้นสุดคำพูดเขาก็หันมาเผชิญหน้ากับหญิงสาวตรงๆ แววตาอ่อนแปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวในฉับพลันความจริงเขาได้ยินทั้งสองสาวทะเลาะกันตั้งแต่ต้นแล้วเพราะเขาเข้ามาในห้องหลังจากผู้เป็นแม่หายหลังออกไปได้ไม่นานแต่ดูเหมือนทั้งสองจะสาดอารมณ์ใส่กันจนไม่สนใจสิ่งรอบข้างเลยไม่รู้ว่าเขามา"ค..คือระ..ริน" "รินขอโทษค่ะพี่กวินท์" ระรินถึงกับหน้าถอดสีเมื่อโดนจับเธอลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ก่อนปรับสีหน้าให้ดูเศร้าก่อนน้อมศีรษะขอโทษแสร้งทำเป็นรู้สึกผิด ทว่าภายในใจกลับไม่ได้สำนึก หรือรู้สึกผิดสักนิดเธอก็แค่แคร์ความคิด ความรู้สึกของชายหนุ่มที่มีต่อเธอเพราะกลัวว่าเขาจะมองไม่ดี ภาพลักษณ์แสนดีอ่อนหวานที่เธออุตส่าห์สร้างขึ้นมาเพื่อให้เขาถูกใจจะเสียเปล่า "คนที่คุณควรขอโทษคือแฟนผมไม่ใช่ผม" ร่างสูงเค้นหัวเราะในลำคออย่างรู้ทันจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้มันทำให้เขามองหญิงสาวเปลี่ยนไปทันทีภายใต้ภาพลักษณ์ที่แสนด
หลายเดือนต่อมาอ๊วกกก! เสียงอาเจียนดังเล็ดออกมาจากห้องน้ำภายในห้องนอนของแก้มหวานกับกวินท์ เจ้าของเสียงอาเจียนหาใช่หญิงสาวไม่แต่กลับเป็นชายหนุ่มที่ยืนอาเจียนหน้าอ่างล้างหน้าจนหมดไส้หมดพุงเขามีอาการแบบนี้มา 2วันติดๆ แล้วก็ไม่ทราบสาเหตุเหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร"พี่กวินท์เป็นอะไรมากไหมคะ แก้มว่าไปหาหมอดีกว่าพี่เป็นแบบนี้มา 2-3วันแล้วนะ" แก้มหวานเดินเข้าไปลูบหลังให้แฟนหนุ่มเบาๆ พร้อมถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นสีหน้าซีดเผือดของเขาผ่านกระจกกวินท์ใช้มือกรอกน้ำล้างปากก่อนแหงนหน้าขึ้นสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ระบายอาการคลื่นไส้ในอกแล้วหันไปพูดกับแฟนสาวด้วยใบหน้าอิดโรย "ก็ดีเหมือนกันครับ""ค่ะ" ใบหน้าสวยเพียงพยักรับน้อยๆ มือเล็กเอื้อมไปจับแขนแกร่งไว้แล้วประคองเขาเดินออกจากห้องน้ำพาไปนั่งลงริมเตียงจากนั้นจึงเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบเสื้อออกมายื่นให้เขาเปลี่ยน "นี่ค่ะเสื้อ""ขอบคุณครับ" กวินท์รับเสื้อจากมือแฟนสาวมาวางลงข้างตัวแล้วสอดมือเข้าไปรั้งเอวคอดกิ่วของร่างบางที่ยืนตรงหน้าเข้ามาแนบชิดทำให้ตอนนี้ใบหน้าของเขาอยู่ระดับหน้าท้องแบนราบพอดี ก่อนเขาจะแหงนหน้าขึ้นมองใบหน้าแฟนสาวพลางนึกขอบคุณใน
"พี่ยังไม่ตอบแก้มเลยนะคะรู้ได้ยังไงว่าแก้มอยู่ที่นี่" แก้มหวานหันไปถามอาจารย์หนุ่มอีกครั้งขณะกำลังเดินไปหาน้องสาวกับเพื่อนริมชายหาดหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าจนเป็นที่พอใจของอาจารย์หนุ่มแล้วเธอยังคงคาใจอยู่อยากจะรู้ว่าเขาตามหาเธอถูกได้ยังไง"ผมก็หลอกถามจากเพื่อนคุณยังไงละ" กวินท์ตอบหน้าระรื่นก่อนยกยิ้มมุมปากเขาก็แค่ส่งไลน์ไปหาเพื่อนของหญิงสาวบอกให้ทั้งสองเอาโปรเจคมาให้เขาดู แต่เพื่อนของเธอบอกว่าไม่สะดวกเพราะมาเที่ยวพัทยาเขาเลยได้รู้แล้วแสร้งตีเนียนถามข้อมูลไปเรื่อยๆ จนรู้ว่าเธอพักอยู่รีสอร์ทนี้"พี่นี่มันจริงๆ เลย" เธอถึงกับกรอกตามองบนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่กับความเจ้าเล่ห์ของเขา ทว่าอีกคนกลับหัวเราะร่าออกมาอย่างอารมณ์ดีพร้อมยื่นมือไปโอบไหล่มน "ผัวคุณฉลาดไหมละ""เจ้าเล่ห์สิไม่ว่า หลอกล่อเก่ง แผนเยอะ""ก็บอกแล้วไงว่าผมเจ้าเล่ห์กับเด็กดื้ออย่างคุณคนเดียว""เพราะพี่เจ้าเล่ห์ไงแก้มก็เลยต้องดื้อ กับคนอื่นแก้มเชื่อฟังจะตาย""ผมต้องดีใจไหมที่คุณดื้อกับผมคนเดียว""ต้องดีใจสิคะ""ระวังจะโดนผมลากขึ้นไปกำราบบนเตียงนะเด็กดื้อ""คนบ้าชอบพูดจาทะลึ่งอยู่เรื่อย""ผมพูดจริงทำจริงไม่ได้ทะลึ่ง" "พอเลยไม่พูดเ
กวินท์ยืนจับจ้องแผ่นหลังร่างบางในชุดบิกินี่ด้วยแววตาดุดัน ใช้ลิ้นดันกระพุงแก้มอย่างไม่สบอารมณ์เขารู้สึกหัวเสีย และโกรธเอามากๆ แต่ก็พยายามระงับอารมณ์เอาไว้ไม่ให้ตัวเองขาดสติใช้อารมณ์เข้านำเหมือนในคืนนั้นอีก เขาผ่อนลมหายใจแล้วเดินอ้อมไปยืนข้างหน้าร่างบางที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงก้มหน้ามองดิน คิ้วเข้มถึงกับขมวดชนกันเป็นปมเมื่อเห็นหน้าอกหน้าใจที่ล้นทะลักออกมานอกบรา ไหนจะหน้าท้องขาวเนียนเรียวขาสวยนั้นอีก บิกินี่ทูพีชเผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งสัดส่วนทุกอย่างชัดเจนไปหมดผู้ชายคนใดได้เห็นก็คงคิดดีไม่ได้"ทำไมใส่ชุดแบบนี้มันโป็มากรู้ไหม" เขาอดที่จะเอ็ดหญิงสาวไม่ได้อยากจะจับเธอตีก้นให้เข็ดหลาบว่าไม่ควรแต่งตัวแบบนี้อีกแต่ก็ต้องข่มอารมณ์ไว้ ก่อนถอดเสื้อแจ็กเก็ตมาห่อตัวเธอจนมิดชิด"ว๊าย!" แก้มหวานที่ยืนมองการกระทำของอาจารย์หนุ่มอย่างงงๆ ร้องอุทานด้วยความตกใจในตอนที่เขาจับตัวเธอขึ้นอุ้มพาดบ่าจนหัวห้อยโต่งเตงไม่แคร์สายตาคนที่เดินผ่านไปมา หรือสายตาน้องสาวกับเพื่อนสาวของเธอที่ยืนอ้าปากค้างมองด้วยความงุนงงสักนิด"คุณกวินท์ปล่อยแก้มลงนะคนมองหมดแล้ว" เสียงหวานเปล่งออกจากริมฝีปากเอิบอิ่มเบาๆ ด้วยความอับอายเธอไม
"พี่แก้มดีขึ้นแล้วเหรอคะ" เสียงของแก้วตาทำให้แก้มหวานที่ยืนทอดสายตามองทะเลด้วยใจเหม่อลอยสะดุ้งหลุดออกจากภวังค์ความคิด ก่อนปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วหันกลับไประบายยิ้มตอบน้องสาว "พี่ดีขึ้นแล้ว""งั้นไปหาอะไรกินกันเถอะเริ่มหิวแล้วอะ" มิราเอ่ยชวนทันทีเมื่อเห็นสีหน้าเพื่อนสาวสดชื่นขึ้นกว่าก่อนหน้านี้พร้อมใช้มือลูบวนไปมาบนท้อง "งั้นก็ไปหาอะไรกินกัน" หญิงสาวได้แต่ส่ายหน้าไปมาให้กับการท่าทางของเพื่อนสาวก่อนเดินไปโอบไหล่เพื่อนสาวกับน้องสาวแล้วเดินพาออกจากห้อง@ร้านอาหารทั้งสามคนเลือกมาทานอาหารทะเลร้านใกล้ๆ กับรีสอร์ทที่เดินเลียบชายหาดมาเพียง 200เมตรก็ถึงเพราะได้ชื่นชมบรรยากาศระหว่างเดินมาด้วย เมื่อได้ออกมาพปปะผู้คนข้างนอกได้ชื่นชมกับบรรยากาศริมทะเลก็ทำให้แก้มหวานรู้สึกดี และผ่อนคลายมากขึ้นลืมเรื่องอาจารย์หนุ่มไปชั่วขณะหลังจากทานอาหารเสร็จทั้งสามคนก็พากันตะเวนเที่ยวทั่วเมืองพัทยาจนค่ำจึงกลับห้องมาพักผ่อน"พรุ่งนี้เล่นน้ำกันไหม" มิราเอ่ยขึ้นหลังจากเดินมาหย่อนสะโพกนั่งลงบนโซฟาในห้องแล้ว "ไปสิคะพี่มิรา" แก้วตาตอบตกลงอย่างไม่รอช้าก่อนหันไปพูดกับพี่สาวต่อ "มาทะเลทั้งทีไม่ได้เล่นน้ำก็เหมือนมาไม่ถ
@คอนโดมิรา"ฮึก ฮื่อ" เสียงสะอื้นไห้ดังระงมเบาๆ ภายในห้องนอนของคอนโดมิราแก้มหวานเลือกหนีอาจารย์หนุ่มมาหลบที่คอนโดเพื่อนสาวเพราะคิดว่าเขาคงไม่รู้แน่นอน เธอปล่อยให้น้ำตาแห่งความเสียใจ และผิดหวังหลั่งไหลออกมาเพื่อชะล้างความรู้สึกแย่ให้หมดไป และหลังจากนั้นเธอจะเริ่มต้นใหม่"คนปากเสียมาว่าแก้มแบบนั้นได้ไง แก้มไม่ชอบคุณแล้ว" ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนที่เธอนอนร้องไห้อยู่อย่างนั้นจนรู้สึกดีขึ้นจึงหยัดกายลุกขึ้นนั่งแล้วยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาออกจากพวงแก้มลวกๆ ดวงตากลมโตฉายแววเด็ดเดี่ยวขึ้นในทันตาเมื่อสิ้นเสียงงึมงำ ก่อนจะลุกลงจากเตียงเดินเข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำแล้วเดินกลับมาหย่อนสะโพกนั่งริมเตียง มือเล็กเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายข้างออกมาเปิดเครื่องหลังจากที่เธอปิดเครื่องหนีอาจารย์หนุ่มก่อนหน้านี้เพื่อโทรบอกน้องสาว ทว่าเพียงแค่เปิดเครื่องเท่านั้นข้อความพยายามติดต่อจากเขาก็เด้งเข้ามาในมือถือระรัวเกือบสิบข้อความแต่เธอหาได้สนใจไม่กลับปัดข้อความเขาทิ้งแล้วต่อสายหาน้องสาว ถือสายรอไม่นานปลายสายก็กดรับ(ว่าไงคะพี่แก้ม)(คืนนี้พี่นอนห้องพี่มิรานะแก้ว)(ค่ะ..เมื่อกี้เจ้านายพี่เขามาตามหาพี่
"แก้มหวาน!" กวินท์เดินปรี่ไปหาหญิงสาวที่กำลังยืนคุยกับผู้ชายหน้าระรื่นด้วยอารมณ์เดือดดาล มือหนาเอื้อมไปจับแขนเล็กแล้วกระชากให้ออกห่างเตชินเจ้านายเก่าของเธออย่างแรงจนเธอเซถลาปะทะลำตัวของเขาเต็มๆปึก!"อ๊ะ..คุณกวินท์" แก้มหวานเบ้หน้าออกมาด้วยความเจ็บ ก่อนแหงนมองหน้าอาจารย์หนุ่มด้วยความรู้สึกตกใจเล็กน้อย ทว่าเธอก็ต้องลอบกลืนน้ำลายเหนี่ยวๆ ลงลำคออึกใหญ่เมื่อเห็นสีหน้าแดงก่ำ และแววตาเกรี้ยวกราดของเขาที่จับจ้องเธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ "คุณฟังแก้มก่อนได้ไหม""โอ๊ย! แก้มเจ็บนะ" เธอพยายามข่มไม่ให้ตัวเองตื่นกลัวกับท่าทางเกรี้ยวกราดของร่างสูงตรงหน้า ก่อนเปล่งเสียงพูดเพืื่ออธิบายให้เขาเข้าใจ ทว่าเธอก็ต้องร้องท้วงด้วยความรู้สึกเจ็บพร้อมใช้อีกมือแกะมือหนาออกในตอนที่มือหนาออกแรงบีบแขนของเธอแรงๆ ราวกับจะให้มันแหลกคามือยังไงยังงั้น แต่แรงอันน้อยนิดของเธอหาได้ทำให้มือหนาขยับเขยื้อนออกจากแขนเธอสักนิดไม่ "ผมคนเดียวมันไม่ถึงใจใช่ไหมถึงได้ระริกระรี้กับผู้ชายคนอื่นอีก" กวินท์โกรธและหึงจนหน้ามืดตามัวไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว เขาใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มจับจ้องหน้าเธอสลับกับชายหนุ่มอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนพรั่งพรูคำ
"เฮ้อ" แก้มหวานเดินเข้ามาทิ้งตัวลงนั่งริมเตียงภายในห้องนอนด้วยสมองที่หนักอึ้งหลังจากทานมือค่ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว เรื่องที่คุณหญิงอมรรัตน์ไม่ยอมให้เธอย้ายออกไปแต่กลับให้น้องสาวย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันทำให้เธอคิดไม่ตกไม่รู้ว่าควรจะเอายังไงต่อไปดี แต่ที่แน่ๆ เธอไม่ให้น้องสาวรู้เรื่องความสัมพันธ์จอมปลอมระหว่างเธอกับอาจารย์เด็ดขาด'แกร็ก'เสียงปลดล็อคประตูดังขึ้นทำให้แก้มหวานหลุดออกจากห้วงความคิดก่อนปรายตามองทางประตู เธอถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อเห็นว่าคนที่เปิดประตูเข้ามาคืออาจารย์หนุ่มเธอก็คิดว่าหลังจากทานข้าวเสร็จเขาจะกลับคอนโดไปแล้วเสียอีก"คุณเข้ามามีธุระอะไรกับแก้มคะ" ดวงตากลมโตจับจ้องร่างสูงที่เดินมาหยุดยืนตรงหน้านิ่งๆ นานนับนาทีๆ ก่อนเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย"คุณจะเอายังไงต่อเรื่องที่แม่ผมให้น้องสาวย้ายมาอยู่ที่นี่กับคุณ" กวินท์หย่อนสะโพกนั่งลงข้างๆ หญิงสาวก่อนถามไถ่ด้วยน้ำเสียงจริงจัง ใบหน้าเคร่งขรึมไม่ได้แสดงท่าทางเจ้าเล่ห์ หรือกรุ่มกริ่มเหมือนที่ผ่านมา ท่าทางที่ดูจริงจังของเขาทำเอาแก้มหวานแปลกใจไม่น้อย ดวงกลมโตจับจ้องเสี้ยวหน้าหล่อเหลาอย่างใช้ความคิดปกติเขาคงจะหาเรื่องเข้ามา
@บ้านสิริราญานุกุล"ไม่ต้องมายุ่งกับแก้มคนเผด็จการ" แก้มหวานหันไปตะเบ็งเสียงใส่อาจารย์หนุ่มดังลั่นเมื่อเขายื่นมือมาดึงพวงแก้มนวลของเธอหลังจากรถจอดเรียบร้อยแล้วพร้อมยกมือขึ้นปัดมือหนาออกจากพวงแก้มจากนั้นก็เปิดประตูลงจากรถเดินเข้าไปในบ้านด้วยท่าทางกระเฟียดกระฟัด แต่เมื่อเข้ามาในบ้านเธอก็ต้องรีบปรับสีหน้า และท่าทางให้เป็นปกติเมื่อเห็นคุณหญิงอมรรัตน์นั่งอยู่ในห้องโถงก่อนเดินเข้าไปทักทาย "สวัสดีค่ะคุณป้า""จ้ะ" คุณหญิงอมรรัตน์พยักหน้ารับพร้อมระบายยิ้มให้เด็กสาวบางๆ แต่เธอก็ต้องขมวดคิ้วชนกันเป็นปมเมื่อเห็นบุตรชายเดินเข้ามา "ลมอะไรหอบลูกมาบ้านอีกละวันนี้" เธอแซวบุตรชายอย่างอดไม่ได้เพราะสองวันติดๆ แล้วที่บุตรชายโผล่หน้ากลับมาอย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าบุตรชายของเธอนั้นกว่าจะกลับบ้านได้แต่ละทีไม่มีธุระก็เธอโทรตามเท่านั้น แต่เธอก็ไม่ได้แปลกใจอะไรเพราะพอรู้เหตุผลว่าทำไมบุตรถึงกลับบ้าน"ไม่มีลมอะไรทั้งนั้นแหละครับ" กวินท์ไหว่ไหล่ให้ผู้เป็นแม่ก่อนเดินเข้าไปนั่งลงบนโซฟาตรงข้ามท่าน ดวงตาคมกริบปรายมองร่างบางที่ยืนเยื้องๆ กับโซฟาก่อนรอยยิ้มร้ายจะผุดขึ้นประดับมุมปากหนาเมื่อเห็นสีหน้าบึ้งตึงของเธอ"เผด็จกา
วันต่อมา@มหาวิทยาลัยคอนเวนต์'ติ๊ง ติ๊ง'เสียงแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชั่นไลน์ดังขึ้นเบาๆ ทำให้แก้มหวานที่กำลังฟังอาจารย์สอนอย่างตั้งใจละสายตาจากจอโปรเจคเตอร์ ก่อนล้วงไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายออกมาเปิดดูข้อความ"เรียนเสร็จมาหาผมที่ห้องทำงาน" เธอแบะปากน้อยๆ เมื่ออ่านข้อความที่อาจารย์หนุ่มเป็นคนส่งมาจบ "รอไปเถอะแก้มไม่ไปตามคำสั่งคุณหรอก" "งึมงำอะไรของแกแก้ม" มิราที่นั่งอยู่ข้างๆ เอียงหน้ามาถามเพื่อนสาวเบาๆ เมื่อเห็นเธอก้มมองหน้าจอมือถือแล้วงึมงำเบาๆ ราวกับคนบ้า"เปล่าาา" แก้มหวานตอบพร้อมส่งยิ้มแหย่ๆ ให้เพื่อนสาวขณะที่มือกดปิดหน้าจอมือถือแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าเหมือนเดิมไม่ได้คิดจะตอบกลับข้อความของอาจารย์หนุ่มเพราะยังรู้สึกเคืองๆ เรื่องเมื่อวานอยู่ ก่อนสนใจกับการเรียนต่อ หลังจากเรียนเสร็จเธอกับเพื่อนสาวก็เดินมานั่งที่ศาลาหน้าตึกคณะเพื่อทำโปรเจคต่อ"ฉันได้ดูโปรเจคที่แกส่งมาแล้วนะ แกทำได้ไงอะ" มิราขมวดคิ้วมองหน้าถามเพื่อนสาวด้วยความสงสัยหลังจากนั่งลงแล้วเพราะเพียงเวลาแค่ 2-3วันเพื่อนสาวก็ทำโปรเจคเกือบเสร็จแล้วแถมข้อมูลยังแน่นอีกคนถูกถามลอบถอนหายใจเบาๆระคนเหนื่อยหน่ายเธอคงต้องโกหกเพื่อนสาวอี