"โอ๊ยคนบ้า ฉันหนักนะ ทับลงมาได้ยังไงทั้งตัวแบบนี้" หญิงสาวดันร่างของเขาให้ออกไป ..ที่เขาทับลงมาหมดแรงเดี๋ยวเธอคิดว่าแกล้งเมาอีกเลยใส่เต็มที่เลย"ที่รัก..ผัวขอก่อนนะ" ในขณะที่พูดใบหน้าเขายังคงฝังอยู่กับซอกคอระหง"ก็บอกว่าฉันหนักไงคุณขยับออกก่อน""ถ้างั้นคุณขึ้นเองนะผมไม่มีแรง""ไม่มีแรงก็นอนไปสิ""ม่ายยเอาอยากทำประตู""เมาขนาดนี้ยังอยากจะทำประตูอยู่อีกเหรอ" เธอเริ่มจะชินกับคำพูดของเขาแล้ว "ว่าแต่วันไหนคุณจะพาฉันไปดูงานสภาพแบบนี้จะไปไหวไหม""ถ้าคุณยอมให้ผมเตะลูกโทษ จะพาไปพรุ่งนี้เลย""พรุ่งนี้ไหวเหรอ ไม่ดูสภาพตัวเองเลย""ถ้างั้นก็มาลองดูกันว่าไหวหรือไม่ไหว" ขณะที่พูดลิ้นเขายังคงพันกันเป็นพัลวันทันทีที่จัดการกับเสื้อผ้าของเธอเสร็จริมฝีปากหนาก็โน้มลงไปดูดยอดปทุมที่ยั่วยวนสายตาอยู่ก่อนจะใช้ทั้งสองมือขย้ำเต้าขาวๆ อวบๆ"โอ๊ยฉันเจ็บนะคุณ""ก็มันมันเขี้ยวนี่" ผู้หญิงพวกนั้นที่เขาเคยสัมผัสมาไม่มีใครทำให้เขาหมกมุ่นได้แบบนี้เลย ขนาดนั่งทำงานอยู่ยังคิดถึงเรือนร่างไร้เสื้อผ้าของเธอ ยิ่งตรงอวัยวะส่วนนั้นที่ไร้สิ่งกีดขวางด้วยแล้ว"ไหนคุณบอกว่าจะให้วันละหนึ่งครั้งไง วันนี้ยังไม่ได้เลย""วันละหนึ่งครั
กว่าตุนท์จะมาขับรถแทนทันน์ก็ใช้เวลาเกือบชั่วโมง แถมตอนนี้เมียนั่งงอนตุ๊บป่องอยู่ข้างๆ"ทำไมไอ้ตุนท์ขับรถให้ไม่ชอบหรือไง""ใครขับก็เหมือนกันนั่นแหละค่ะทำให้เสียเวลาเปล่าๆ แทนที่จะเดินทางได้ตั้งนานแล้ว""ถ้าอยากไปเร็วขึ้นเครื่องไปไหมล่ะ""เอาไงดีครับนาย" ตุนท์ที่ทำหน้าที่ขับรถเห็นว่าภรรยาของเจ้านายไม่ตอบเลยถาม เพราะถ้าเปลี่ยนใจจะขึ้นเครื่องเขาจะได้เลี้ยวไปทางสนามบิน"ขับรถนี่แหละไป" ดูซิจะนั่งหน้าบึ้งแบบนี้ไปตลอดทางไหมตุนท์มองผ่านกระจกอดคิดไม่ได้ว่านี่ขนาดยังไม่ออกนอกเมืองเลยนะยังจะกินเลือดกินเนื้อกันแล้ว กว่าจะไปถึงภาคเหนือจะไม่ฆ่ากันก่อนเหรอรถมาถึงครึ่งทางเห็นว่าเธอเริ่มเมื่อยเขาเลยสั่งให้ตุนท์หาที่จอดพักก่อน"จะจอดพักทำไมแล้วเมื่อไรจะถึง""ไม่หิวหรือไง""หิว""ก็แวะหาอะไรทานก่อนค่อยเดินทาง""ถ้างั้นก็จอดร้านนี้แหละค่ะ" หญิงสาวเห็นว่ารถใกล้จะขับผ่านร้านที่มีป้ายสีเหลืองตัวหนังสือสีแดงเลยชี้บอก"คุณทานเป็นเหรอ" ที่เขาสงสัยเพราะนั่นมันร้านไก่ย่างส้มตำลูกคุณหนูแบบเธอทานเป็นด้วยเหรอ"ทำไมฉันจะทานไม่เป็นล่ะ ว่าแต่คุณทานได้ไหม" ถามออกไปถึงนึกได้ว่าเขาเกิดมาจากสถานสงเคราะห์ อาหารจำพวกนี้เข
"มีอะไรหรือเปล่าคะ" พิมพ์คิดว่าตัวเองถามอะไรผิดไปหรือเปล่า พอถามถึงเรื่องสระว่ายน้ำดูทรงอัปสรจะเอาเรื่องกับสามียังไงไม่รู้"กำลังไปได้สวยเลยค่ะ แต่มีคนแถวนี้สั่งรื้อสระว่ายน้ำออก""อ้าวทำไมวะ" สมิงดำที่นั่งฟังอยู่หันไปถามเพื่อน เพราะรู้ดีว่าคนที่มีสิทธิ์สั่งได้คือไอ้เพื่อนตัวแสบนี่แหละ"คุยเรื่องอื่นกันไม่ได้หรือไง ทำไมต้องคุยเรื่องนี้ด้วย""อย่าบอกนะคะว่าคุณอัปสรก็ร่วมโชว์ชุดว่ายน้ำด้วย" คำถามนี้ออกจากปากฟ้างามทุกคนหันไปมองเธอแทบจะพร้อมกัน"ใช่ค่ะ คืนนั้นกำลังเตรียมแสดงโชว์เลย อยู่ดีๆ ให้ช่างรื้อสระว่ายน้ำซะงั้น""หึหึ" เสียงขำนี้ทั้งพิมพ์ ฟ้างาม และสมิงดำขำออกมาแทบจะพร้อมกัน"พวกคุณขำอะไรกันคะ""พิมพ์ขอโทษค่ะที่ถามเรื่องนี้ เราคุยเรื่องอื่นกันดีกว่าค่ะ""บอกมาก่อนว่าพวกคุณขำอะไร""คงมีคนแถวนี้หึงไม่อยากให้คุณใส่ชุดว่ายน้ำโชว์"ได้ยินคำตอบจากฟ้างามเธอถึงได้หันไปมองเขาที่ตอนนี้ตีเนียนทำเป็นไม่อยากคุยเรื่องนี้"หนักเอาการอยู่นะมึง" สมิงดำแกล้งแซะเพื่อนเบาๆ"ก็มึงไม่ใช่เหรออีกคนที่ไปดูโชว์วันนั้น""อ้าวอยู่ดีๆ จะเผาบ้านกูซะงั้น" สมิงดำถึงกับหันขวับไปมองหน้าภรรยา "กูไม่ได้ดูสักหน่อย""
เย็นวันนั้นที่คลับ S̄ingk̄hr"ที่นี่ใช่ไหมคะ""ใช่""บรรยากาศแถวนี้ดีจังเลยนะคะ" ลงจากรถมาก็สัมผัสถึงอากาศที่เย็นสบาย มองไปไกลหน่อยก็จะเห็นภูเขาล้อมรอบ"อยากมาอยู่ที่นี่ไหมล่ะ""มาทำไมคะ อีกหน่อยฉันก็กลับต่างประเทศแล้ว" พูดจบหญิงสาวก็เดินตรงไปทางเข้า แต่จังหวะนั้นร่างของเธอถูกคว้าให้หันกลับมาก่อน"เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะ""เมื่อกี้หรือคะ?" ทรงอัปสรคิดอยู่ว่าเมื่อสักครู่เธอพูดอะไร"คุณบอกว่าจะกลับต่างประเทศ" เขาย้ำคำพูดของเธอให้ฟัง"อ๋อเรื่องนั้นเอง ฉันเคยใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นฉันก็ต้องกลับไปสิ" ที่พูดออกไปเธอไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะถึงยังไงเธอก็จะกลับไปใช้ชีวิตที่นั่น"แต่คุณแต่งงานแล้ว""อีกหน่อยเราก็ต้องเลิกกันอยู่ดี""ทำไมต้องเลิก""เราคุยกันไว้แล้วไม่ใช่หรือคะ" ก่อนแต่งงานเธอก็พูดกับเขาไว้แล้ว ว่าถ้าถึงเวลาเขาต้องมอบอิสรภาพให้เธอ"คุณยังคิดจะเลิกอยู่อีกเหรอ""อ้าวคุณอัปสร มาแล้วหรือคะ" เธอยังไม่ทันได้ตอบเขาเลย พิมพ์ก็เดินตรงมาทางที่ทั้งสองยืนคุยกันอยู่"สวัสดีค่ะคุณพิมพ์""สวัสดีค่ะเราเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ"ทรงอัปสรไม่ได้สนใจเขาแล้ว เธอเดินตามพิมพ์เข้าไปในคลับ"ไม่ต้องตรวจหรอกค่ะ" ก่อนเ
"ทำไมเสี่ยนเรศกลับมาคราวนี้ไม่เหมือนเดิมเลย""ใช่แต่ก่อนเรียกเราไปดูแลแทบจะไม่มีที่ให้นั่ง""มีอะไรคะคุณอัปสร" หลังจากที่ไปดูงานโซนด้านหลังเสร็จ พิมพ์ก็ติดธุระอยู่เลยให้ทรงอัปสรมาก่อน แต่พอพิมพ์ตามมาก็เห็นว่าทรงอัปสรยืนมองอะไรอยู่"เปล่าค่ะคุณพิมพ์ไปก่อนเลยค่ะอัปสรขออยู่ตรงนี้ครู่หนึ่ง"พิมพ์คิดว่าทรงอัปสรกำลังสนใจอะไรแถวนี้เลยเดินกลับไปก่อน"คราวก่อนเธอเคยเข้าห้องเผด็จศึกกับเสี่ยมาแล้วไม่ใช่เหรอ""ห้องเผด็จศึก?" ..มันคือห้องอะไร??"มัวคุยอะไรกันอยู่ตรงนี้ไม่ไปดูแลแขกหรือไง" หัวหน้าคนใหม่ที่มารับงานต่อจากพิมพ์เห็นว่าเด็กที่ตัวเองดูแลอยู่เอาแต่สุมหัวคุยกัน ..ที่ต้องมีหัวหน้าใหม่มาแทนเพราะกายไม่ค่อยให้พิมพ์มาทำงานแล้วเลยต้องดิวงานกับหัวหน้าใหม่ไว้"ก็วันนี้แขกไม่ค่อยมีนี่คะ เสี่ยนเรศมาก็ไม่เรียกพวกเราให้ไปดูแลเลย"ทนฟังต่อไม่ได้อีกแล้ว ทรงอัปสรเลยเดินตรงไปทางโต๊ะที่พวกเขานั่งอยู่"ของจริงว่ะเมียมึงมาโน่นแล้ว""มาก็มาสิวะ" นเรศวรพูดพลางหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม เพราะเมื่อครู่เพิ่งดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปกลัวเธอได้กลิ่นแรงเดี๋ยวหาว่าเขาดื่มหนักอีก"ไปดูงานเป็นยังไงบ้างครับ" สมิงดำเห็นเธอมานั่งลงข้างๆ
"ไม่ต้องบอกเขาว่าฉันจะเข้าไป" ทรงอัปสรเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องก็เห็นว่าทันน์กำลังจะเคาะประตูบอกคนที่อยู่ด้านใน "หรือว่าด้านในมีอะไรที่ฉันไม่สมควรจะรู้" เห็นอีกฝ่ายยังคงนิ่งไม่ยอมเปิดประตูให้ เธอเลยใช้ไม้เด็ด"ไม่มีหรอกครับ" ทันน์ยอมเปิดประตูให้กับทรงอัปสรเข้าไปโดยไม่ได้เคาะ"........." แต่พอประตูเปิดออกเธอก็เห็นภาพที่คิดว่าคงจะเห็น แต่ในใจลึกๆ เธอยังหวังว่าเขาอาจจะไม่ทำแบบนั้นเพราะเขาดูแคร์เธอมากนเรศวรที่กำลังปลอบใจรินรดาอยู่รีบปล่อยมือที่กำลังลูบผมของรินรดาในอ้อมกอดสายตาคมมองไปที่เธอแต่ชั่วขณะ แววตาตำหนิกรอกมองไปที่ทันน์ด้วย"คุณอัปสร คุณอย่าเข้าใจผิดนะคะ""ฉันไม่เข้าใจผิดหรอกค่ะ ฉันคิดว่าฉันเข้าใจถูกที่สุดแล้ว เชิญพวกคุณต่อเลยค่ะ ขอโทษที่เข้ามาขัดจังหวะ""เดี๋ยวก่อนสิ" นเรศวรรีบเดินไปรั้งตัวเธอไว้ ก่อนจะออกจากห้องแล้วสั่งให้ทันน์ปิดประตู"มีอะไรจะโกหกฉันอีกหรือคะ" เธอไม่แม้แต่หันกลับไปมองหน้าเขา แต่ก็ไม่ได้สะบัดมือที่รั้งแขนเธออยู่ให้ออก "พรุ่งนี้คุณว่างไหม" เห็นว่าอีกฝ่ายยังคงเงียบเธอเลยพูดต่อ"มีอะไร""ไปเจอกันที่สำนักงานเขต""เดี๋ยวก่อนสิ" เขารู้เลยว่าเธอนัดเจอที่สำนักงานเขตทำไม
"เดี๋ยวก่อนค่ะคุณ คุณจะเข้าไปในห้องตรวจไม่ได้นะคะ" ผู้ช่วยของคุณหมอที่อยู่เฝ้าหน้าร้านรีบเดินอ้อมเคาน์เตอร์ออกมาห้าม แต่ก็ไม่ทันแล้วเธอเปิดประตูเข้าไปในห้องตรวจที่ได้ยินเสียงคนคุยกันเมื่อครู่พอประตูเปิดพรวดพราดเข้ามาคนที่อยู่ด้านในหันไปมองแทบจะพร้อมกัน"งื้ออ" ผู้ใหญ่มัวให้ความสนใจกับคนที่เปิดประตูเข้ามาจนเด็กหลุดมือวิ่งไปชนกับคนที่ยืนอยู่หน้าประตู"เด็กคนนี้?" เธอจำได้ในทันทีเลยว่าเด็กคนนี้เป็นคนที่อยู่สถานสงเคราะห์"คุณป้าช่วยผมด้วยครับผมไม่อยากตรวจ""คุณป้า??" เจ็บใจกว่าภาพที่เห็นคือเด็กเรียกป้านี่แหละ"ขุนเขากลับมาหาแม่!""แม่?" ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยได้ยินเด็กคนนี้เรียกรินรดาว่าแม่ แต่ตอนนั้นทรงอัปสรคิดว่าจะเหมือนเด็กในสถานสงเคราะห์ที่เรียกเธอว่าแม่เหมือนกัน แต่ดูจากคำพูดแล้วเหมือนเด็กเป็นลูกแท้ๆ ของรินรดาเลย ..ถ้าเด็กคนนี้เป็นลูกชายของรินรดา คนเป็นพ่อจะเป็นใครล่ะนอกเสียจาก?"งื้ออ ผมกลัวหมอ" เด็กกอดทรงอัปสรไม่ยอมปล่อยเลย ถึงแม้รินรดาจะเรียกหรือผู้ช่วยของคุณหมอจะมาแกะออกจังหวะนั้นทรงอัปสรเลยค่อยๆ นั่งยองๆ ลงตรงหน้าเด็ก"ถ้าหนูไม่สบายหนูก็ต้องมาหาหมอสิครับ" ทรงอัปสรลองพูดกับเด็กดู"
"พวกคุณพักผ่อนเถอะค่ะฉันขอตัวกลับก่อน" หลังจากที่ฟังเรื่องราวของรินรดาจบแล้วทรงอัปสรก็ขอตัวกลับได้ยินว่าเธอจะกลับเขารีบออกมาจากห้องของขุนเขา"รีบตามไปสิคะ" รินรดาบอกพี่ชายต่างสายเลือด ที่ทั้งสองรักและผูกพันกันมาก เพราะตอนอยู่สถานสงเคราะห์นเรศวรถูกพวกผู้ชายรังแกอยู่บ่อยๆ รินรดาเป็นคนที่เข้ามาช่วยเสมอ ที่จริงเธอก็ไม่ได้เก่งอะไรหรอกแต่เธอสวย ผู้ชายเลยไม่อยากรังแกกลัวว่าเธอจะไม่มอง นเรศวรเลยสัญญาว่าถ้าโตขึ้นเขาจะเป็นคนปกป้องรินรดาเอง"จะกลับแล้วเหรอ"หญิงสาวที่กำลังเปิดประตูรถหยุดมือเล็กน้อยตอนที่ได้ยินเสียงเขาถาม แต่พอตั้งสติได้เธอก็เข้าไปนั่งประจำที่คนขับ"เดี๋ยวผมไปส่ง""ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันจะกลับไปค้างบ้านพ่อ" พูดแค่นี้เธอก็ขับรถออกไป"อ้าวแล้วทำไมพี่ไม่ตามไปล่ะคะ" รินรดาเห็นพี่ชายกลับเข้ามาในบ้าน บ้านหลังนี้มีห้องไว้ให้นเรศวรหนึ่งห้องเผื่อเขาอยากมาค้างกับหลาน"เธอไม่ให้ไปส่ง""ทำไมเป็นงั้นไป อุตส่าห์คิดว่าคุยเข้าใจแล้วเชียว คุณอัปสรบอกว่าไม่ให้ไปส่งหรือคะ""เธอบอกว่าจะไปค้างบ้านพ่อ""ไปค้างบ้านพ่อ..พี่ก็ตามไปสิ""ตามไปได้เหรอ เดี๋ยวก็งานเข้าอีก""พี่ไม่เข้าใจผู้หญิงเลยหรือไง เธอบอกว่า
ขุนราม [มาเฟียร้ายรัก] บทที่ 97 ตอนจบเธอไม่รู้หรอกว่าท่านให้มาบริษัททำไม แต่รินรดาก็แต่งตัวเรียบร้อยให้ดูเป็นหน้าเป็นตาของสามีตอนที่เขาพาเธอเดินเข้ามาพนักงานต่างก็ทำความเคารพกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา"เข้ามาด้วยกันสิคะ" หญิงสาวเห็นว่าพนักงานยืนรอลิฟต์กันหลายคน พอเธอกับสามีเดินเข้ามาพนักงานก็ไม่กล้าเข้ามาด้วย"เอ่อ..""เข้ามาสิ" จริงๆ ตอนที่เขาใช้ลิฟต์ไม่มีใครกล้าใช้ด้วย แต่พอท่านรองประธานอนุญาตให้เข้าพนักงานก็เข้าไปแต่ก็เข้าไม่กี่คนรินรดาขยับให้พนักงานยืนกันจนหลังเธอพิงเข้ากับร่างของขุนราม เขาเลยเอื้อมมือมาโอบเอวเธอไว้ พนักงานไม่ได้หันไปมองหรอกแต่มองผ่านผนังของลิฟต์ที่เป็นกระจก เห็นภาพนั้นแล้วต่างก็อมยิ้มไปตามๆ กันจนลิฟต์มาเปิดที่ชั้นผู้บริหาร ส่วนพนักงานออกไปก่อนหน้านั้นแล้ว"ไปห้องทำงานผมก่อน" เขาคิดว่าห้องประชุมคงยังไม่เรียบร้อย ค่อยพาเธอไปทีหลังแล้วกันแต่พอเข้ามาในห้องทำงานไม่นานเลขาก็มาตามให้เข้าห้องประชุมห้องประชุมใหญ่ของบริษัทณโยดม.."มานั่งนี่สิ" รัตติกาลที่นั่งตำแหน่งประธานบริษัทแทนสามีที่เสียไป เรียกให้ลูกชายมานั่งประจำที่ของนาง"ครับ?" ทุกครั้งที่เขาจะนั่งตรงนั้นก็ตอนท
คืนนั้นที่บ้านณโยดม..ก๊อกๆ "ที่รักครับ เปิดประตูให้ผัวหน่อย""คุณไปนอนห้องอื่นเลยค่ะฉันจะนอนกับลูก""คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ" ชายหนุ่มไม่ได้พูดเสียงดังเพราะกลัวแม่จะได้ยินว่าเธอไม่ให้เขาเข้าห้องด้วย"ถ้าคุณยังพูดอยู่แบบนี้เดี๋ยวลูกก็ตื่น" ขุนเขาเข้ามารอแม่ตั้งแต่เล่นกับคุณย่าเสร็จแล้ว จนตอนนี้แกนอนหลับรออยู่ในห้อง พี่เลี้ยงที่ดูแลก็ออกไปตอนที่เห็นคุณผู้หญิงกลับมา พอเข้ามาในห้องเธอก็จัดการล็อกห้องไม่ให้เขาตามเข้ามาได้"ไหนเราเคลียร์กันรู้เรื่องแล้วไง เปิดประตูให้ผมหน่อยนะ""รู้เรื่องแค่คุณน่ะสิคะ จำไว้ว่าอย่าทำแบบนี้อีก" ตอนที่รู้ว่าพี่ชายเปลี่ยนยาคุมกำเนิดเป็นยาบำรุงให้กับทรงอัปสรเธอก็รู้สึกโมโหมากพออยู่แล้ว พอมาเจอกับตัวยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ดุด่าว่ากล่าวเขามากมายแต่เธอต้องดัดนิสัยเขาบ้าง จะได้ไม่มีความคิดแผลงๆ แบบนี้อีก"คุณเมียครับ พรุ่งนี้ผัวต้องไปทำงาน""ก็ไปนอนห้องอื่นสิคะ" ในใจก็แอบรู้สึกสงสาร เพราะเขาต้องรับผิดชอบบริษัทที่ใหญ่โต ผ่านไปสักพักรินรดาก็รู้สึกว่าด้านนอกเงียบไปแล้ว เธอเลยเดินมาเปิดประตูดู "อุ้ยคุณ"เธอประเมินความอดทนของเขาต่ำไป เขารู้ว่าถ้าเงียบเธอต้องม
"ดูเหมือนคุณจะตกใจจังเลยนะคะ มีอะไรหรือเปล่า""ปะเปล่าา ผมจะมีอะไรล่ะก็นั่นน้องสาวผม""ไม่มีอะไรแน่นะคะ" เธอรู้ว่าเขาเป็นคนเจ้าแผนการ แถมสายตาที่มองเพื่อนดูมีพิรุธมันต้องมีอะไรแน่"อีกสามวันก็เป็นวันเกิดหุ้นส่วนอีกคนแล้ว" นเรศวรรีบเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะถ้าไม่งั้นเขาคงถูกจับได้แน่ว่ามีส่วนร่วมแต่มีหรือที่ทรงอัปสรจะปล่อยไป เธอคิดว่ามันต้องมีอะไรสักอย่างแน่ ฉับพลันนั้นทรงอัปสรก็คิดอะไรขึ้นมาได้ เพราะเธอยังไม่ได้จัดกระเป๋าใหม่ แสดงว่าเจ้าสิ่งนั้นมันยังคงอยู่ในกระเป๋า"อยู่ไหนนะ""คุณอัปสรหาอะไรเหรอคะ""ลิปสติกน่ะสิคะว่าจะเติมสักหน่อย" เธอแสร้งทำเป็นค้นหาของในกระเป๋าแต่ระหว่างนั้นคนในห้องก็คุยเรื่องวันเกิดของหุ้นส่วนอีกคนเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไปเรื่องอื่น"ปีนี้มันจะจัดวันเกิดเหรอ" พวกเขาไม่ค่อยให้ความสำคัญกับวันเกิดมากนักนอกจากครอบครัวจะเป็นคนจัดให้ แต่สำหรับคนที่ไม่มีครอบครัวก็ชวนเพื่อนมาดื่มกินที่บ้านหรือไม่ก็นัดกันที่ร้านอาหาร"มันบอกว่าจะมาสังสรรค์กันที่นี่แหละ""จะปิดร้านเลี้ยงวันเกิดเหรอ""ไม่ได้ปิดแต่มันบอกว่าถ้าลูกค้าคนไหนมาใช้บริการคืนนั้นมันจะเป็นคนเลี้ยงเอง""ไอเดียเจ๋งนี่""
"ที่คุณพูดหมายความว่ายังไงคะ" หญิงสาวตามเขาขึ้นมาข้างบน แต่ยังไม่ถึงห้องทำงานเลยด้วยซ้ำเธอก็อดถามเรื่องนี้ไม่ได้"สวัสดีค่ะท่านรอง" แต่ก่อนที่เขาจะตอบเธอก็ได้ยินเสียงนี้ก่อน"?" ทั้งสองที่เดินตามกันมาหยุดแล้วก็มองคนที่กล่าวสวัสดีเมื่อครู่ ก่อนที่ขุนรามจะหันไปมองดูสายตารินรดา "คุณเป็นใคร""ชะเอมเป็นเลขาคนใหม่ที่มาแทนคุณเอวาค่ะ""เธอไปทำงานแผนกอื่น เปลี่ยนเลขาคนใหม่มา""แต่ชะเอมสอบสัมภาษณ์ผ่านแล้วนะคะ""ตกลงใครเป็นเจ้าของบริษัท""เอ่อ.."เขาไม่รอฟังคำอธิบายก็พาเธอเข้าไปในห้องทำงานก่อน"คุณยังไม่บอกฉันเลย""ผมไม่ได้หาเลขาเองเลยไม่รู้ว่าเขาส่งใครมา""ฉันไม่ได้หมายถึงผู้หญิงคนเมื่อกี้""อ้าวแล้วคุณหมายถึงอะไรล่ะ""เรื่องที่คุณบอกว่าเลขาคนเก่าอยู่โรงพักไงคะ""ไม่ใช่แค่เลขาคนเก่าหรอกที่อยู่โรงพัก ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นตอนนี้อยู่โรงพักทั้งหมด""อะไรนะคะ คุณส่งพวกนั้นให้กับตำรวจเหรอคะ""ข้อหาพยายามฆ่า""พยายามฆ่า?""ใช่ ผมแจ้งความจับทั้งหมดเลย ผมจะไม่ให้ใครทำร้ายคุณได้อีก""อย่าบอกนะคะว่าที่คุณรับสมัครพนักงานใหม่?""อืม" ชายหนุ่มตอบเธอไปโดยการเปล่งเสียงออกมาจากลำคอเบาๆ สายตามองดูผู้หญิ
"อื้อ" สะโพกงามเด้งรับเรียวลิ้นที่ตวัดเลียวนอยู่กึ่งกลางร่อง "อ่ะอ่ะอ่ะมะไม่ไหวแล้วค่ะ"ยิ่งได้ยินเสียงครวญครางมันก็ยิ่งทำให้เขาเร่งความเร็วที่กำลังทำอยู่ เพราะเขาต้องการเห็นเธอเสร็จก่อนโดยที่ยังไม่สอดใส่และเขาก็ทำได้สำเร็จ ชายหนุ่มค่อยๆ ชักนิ้วออกมาก่อนจะขยี้นิ้วให้เธอเห็นว่าเขาเก่งไหมที่ทำให้เธอหลั่งได้โดยที่ยังไม่เจอไม้เด็ด"ทำบ้าอะไรของคุณ""แต่ก่อนชอบแบบนี้ไม่ใช่เหรอ""ยังจำได้อยู่เหรอ นึกว่าจำแต่เรื่องผู้หญิงคนอื่นได้""ผู้หญิงคนอื่นที่ไหนไม่มีหรอก" ขณะที่เอ่ยร่างหนาก็ขยับขึ้นมา ก่อนจะคว้ามือเล็กมาโอบอุ้มความแข็งแกร่งเพื่อให้เธอวัดขนาด และในเวลาเดียวกันเขาก็จับมือเธอรูดชักขึ้นและลง"พูดเหมือนฉันจะเชื่อ"ใบหน้าหล่อคมเผลอเผยรอยยิ้มออกมา แต่ก็รีบซ่อนอาการนั้นไว้"ปล่อยนะ!" ถึงแม้จะรู้ว่าเขาคงไม่เก็บร่างกายตัวเองไว้ใช้แค่กับเธอ แต่ก็อยากได้ยินเขาพูดอะไรออกมาบ้าง แม้ว่ามันจะเป็นคำโกหก"จะจบเกมคนเดียวได้ยังไง แบบนี้ผมก็เคว้งคว้างน่ะสิ""คุณก็ไปปล่อยกับผู้หญิงพวกนั้นสิ""หึงผัวเหรอ""อึบ!" รินรดากัดฟันใช้แรงที่อุ้งมือ"ซี๊ดดดอ๊อยย ถ้ามันขาดจะมีใช้ไหม" ชายหนุ่มถึงกับสะดุ้ง"ไม่มีก็ไม่ใ
"ถึงแบบนั้นก็เถอะค่ะ ข้อหาพยายามฆ่ามันไม่รุนแรงเกินไปเหรอคะ" เอวาก็เป็นลูกของผู้มีฐานะท่านหนึ่ง ไม่ยอมเจอข้อหาอะไรแบบนี้ง่ายๆ อยู่แล้ว"รุนแรงเกินไป? เธอจะให้ฉันรอจนเมียกับลูกฉันเป็นอะไรไปงั้นเหรอ" ชายหนุ่มหันหน้ามาประชันกับผู้หญิงที่เขาไม่เคยเห็นค่าเลย"แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่ ถึงยังไงฉันก็ไม่ยอมรับข้อหานี้" ในขณะที่พูดใบหน้าเอวาก็เชิดขึ้นแบบหยิ่งผยอง"แสดงว่าเธอยอมรับแล้วว่าเป็นตัวบงการ คุณตำรวจได้ยินหรือยังครับ""เชิญคุณเอวาไปที่โรงพักด้วยครับ""ฉันยอมรับตอนไหน! คุณแม่คะช่วยเอวาด้วยค่ะ" เอวาที่ถูกตำรวจพาออกไปตะโกนเข้ามาขอให้แม่ของเขาช่วย "ถึงยังไงเอวาก็ไม่ยอมถูกจับ""และก็เชิญพนักงานทุกท่านขึ้นรถด้วยนะครับ" ตำรวจหันมาบอกพนักงานที่อยู่ในที่นี้ทั้งหมด และรถที่ตำรวจเตรียมมาก็คันใหญ่พอที่จะขนคนพวกนี้ไปได้"พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะคะ เราไม่ได้แตะตัวภรรยาของท่านรองเลยค่ะ" ในคลิปกล้องวงจรปิดก็ไม่เห็นว่าคนพวกนี้ทำอะไร แค่มีแต่คำพูดที่วิพากษ์วิจารณ์"นั่นแหละมันคือข้อหาของพวกเธอ เห็นคนถูกทำร้ายร่างกายทำไมไม่ช่วย แถมยังยืนพูดให้ร้าย" เขาไม่คิดจะปล่อยใครไปง่ายๆ แน่ ยิ่งคนยืนมุงนี่แหละสำคัญเล
"ถ้างั้นเอวาขอลงไปรอข้างล่างก่อนนะคะคุณแม่" เอวาคิดว่าลงไปรอข้างล่างดีกว่า ถ้าขุนรามเห็นคงไม่ให้เธอไปด้วยแน่ หรือไม่เขาอาจจะไม่ออกไปเลย"ดีเหมือนกันถ้างั้นหนูไปรออยู่ที่รถนะ" ถึงยังไงเอวาก็เป็นบุตรสาวของเพื่อนรัก ถ้าทั้งสองไม่มีบุญวาสนาต่อกันจริงๆ ยังทิ้งความเป็นเพื่อนไว้อยู่เอวาลงมาข้างล่างก็เห็นว่าพนักงานกำลังยืนมุงอะไรกันอยู่"มีอะไรกัน" เธอเลยรีบเดินตรงไปดู นี่มันยังไม่ไปอีกเหรอ? ออกมาก็เห็นว่าคนที่ถูกมุงอยู่ก็คือรินรดา"คุณเอวามาโน่นแล้ว" พนักงานที่ยืนมองดูกันอยู่ต่างก็ขยับออกให้เอวาเดินเข้ามา"ดูมันสิคะ ยังหน้าด้านหน้าทน""เธอนี่ทนทายาทจริงๆ เลยนะ ใครก็ได้รีบลากตัวมันออกไป" จะปล่อยให้รินรดาอยู่ตรงนี้ไม่ได้แล้ว เพราะเดี๋ยวอีกหน่อยขุนรามก็จะลงมา"ปล่อยฉันนะ" พอได้รับคำสั่งรปภ.ที่อยู่ตรงนั้นก็รีบมาลากตัวรินรดาออกไป ส่วนเธอไม่ยอมให้พวกนั้นถูกเนื้อต้องตัวได้ง่ายๆ เลยมีการดิ้นรน"แล้วจะมายืนมุงอะไรนักหนาไม่ไปกินข้าวกันหรือไง" เอวาหันไปตะคอกพนักงานที่ยืนมุงกันอยู่"พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมาทำกับฉันแบบนี้!" เพราะเธอดิ้นรนจนทำให้เสื้อที่ใส่อยู่ถูกกระชากจนขาดหน่วยรักษาความปลอดภัยที่เป็นผู้ชา
"ก็บอกแล้วไงว่าไม่เป็นอะไรมาก" หลังจากตรวจอาการดูแล้วคุณหมอก็ให้แค่ยาทาแก้ฟกช้ำภายนอก"ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว""คุณจะไปไหน" เขาไม่ได้ขับรถกลับทางเดิมเธอเลยสงสัย"กลับบ้านเรา""กลับบ้าน?" รินรดามองดูทางที่เขาขับไปอีกรอบ ทางนี้ก็ไม่ได้กลับบ้านเธอนี่ "คุณจะพาฉันไปบ้านหลังไหน"[คฤหาสน์ณโยดม]"คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม""ลูกอยู่ที่นี่แล้ว""ทำไมลูกถึงมาอยู่ที่นี่""ผมจะไม่ยอมให้คุณกลับไปทำงานที่เสี่ยงอันตรายแบบนั้นอีก""มันก็ไม่ได้เสี่ยงขนาดนั้น""กี่ครั้งแล้วที่ผมเห็นคุณตกอยู่ในอันตราย แล้วไอ้ที่ผมไม่เห็นล่ะกี่ครั้ง""ฉันจะพยายามดูแลตัวเอง""คุณไม่ต้องพยายามเดี๋ยวผมจะดูแลคุณเอง""คุณก็รู้ว่าฉันกับแม่คุณไม่ค่อย..""ท่านยอมไปตามถึงที่บ้าน คุณไม่รู้เลยหรือไงว่าท่านยอมเราสองคนแล้ว"พอเขาลงจากรถเธอก็ไม่ยอมตามลงไป จนขุนรามเดินมาเปิดประตูรถให้ เธอยังคงนั่งทำหน้าบึ้งตึงอยู่"สงสัยอยากจะให้ผมอุ้ม""อุ๊ยคุณจะทำอะไร ปล่อยฉันลงนะ""อย่าดิ้นเดี๋ยวก็หลุดมือ""ฉันเดินเองได้""อุ้ยคุณผู้ชาย" แม่บ้านได้ยินเสียงรถเลยมาเปิดประตูให้ พอประตูเปิดออกก็เห็นว่าคุณผู้ชายกำลังอุ้มภรรยาอยู่"ปล่อยฉันลงได้หรือยัง" หลังจากที่
"แม่มาทำไมครับ""แกทำไมถามแม่แบบนี้""แม่อย่ามาก่อเรื่องที่นี่ดีกว่าครับ""แกอย่าลืมนะว่าฉันมีลูกแค่คนเดียว และแกก็มีแม่แค่คนเดียวด้วย"รินรดาที่เดินตามหลังเขามายกมือไหว้ท่านแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร และกำลังจะเข้าไปในบ้าน"ฉันอยากคุยอะไรกับแกและก็เมียแกหน่อย"ขุนรามหันมองไปดูเธอที่เดินเข้าไปในบ้านแต่พอได้ยินแม่เขาพูดแบบนั้นเธอก็หยุดแล้วหันกลับมา"แม่จะคุยอะไรครับ""คุยเรื่องของแกนี่แหละ บริษัทก็ไม่รู้จักเข้า ฉันแก่มากแล้วแกจะให้ฉันทำงานไปถึงไหน" หลายวันแล้วที่ลูกชายไม่เข้าบริษัท และนางก็ต้องเป็นคนดูแลเองทั้งหมด"แล้วแม่ทำตามที่ผมขอหรือยังล่ะครับ""ฉันถึงจะมาคุยกับแกอยู่นี่ไง""ถ้างั้นแม่ก็เข้ามาในบ้านก่อนสิครับ" ตอนที่ชวนแม่เข้าบ้านเขาไม่ลืมที่จะมองไปดูหน้าเธอก่อน แต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร"นี่ห้องรับแขกเหรอ แล้วทำไมไม่ติดแอร์สักตัว""แม่ครับ" ขุนรามตำหนิแม่"จะไม่ให้ฉันพูดอะไรเลยหรือไง ร้อนๆ แบบนี้หลานฉันอยู่ยังไง""ผมอยู่ในห้องกับแม่ครับ" ขุนเขาเป็นคนตอบคุณย่าเอง ช่วงนี้อากาศร้อนมาก อุณหภูมิถึง 40 องศาเลยแหละ"แม่จะพูดอะไรก็รีบพูดมาสิครับ""ฉันจะมาบอกให้แกกลับไปทำงานที่บริษัท เรื่องนั้นเดี๋ยว