Share

หลอกตัวเอง

Author: Midzilee01
last update Last Updated: 2025-01-12 14:20:29

เหรินหลานเฟิงเดินเข้ามาที่ห้องรับรองแขกด้วยสีหน้าซีดเซียว เมื่อสองสามวันก่อนนางก็มายืนรอหวงตงหยางที่หน้าจวน แต่เขากลับบอกว่างานเยอะและไม่สะดวกพบหน้านาง แม้จะรู้สึกเจ็บปวดใจแต่นางก็ยังคงมาหาเขาทุกวัน ด้วยใจที่เปี่ยมไปด้วยความหวังว่าสักวันหวงตงหยางจะเห็นใจ และความพยายามของนางก็ไม่สูญเปล่า ในที่สุดวันนี้หวงตงหยางก็ยอมให้นางเข้ามาพบ

"ในที่สุดข้าก็ได้พบหน้าท่านเสียที" เสียงหวานเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าอ่อนแรง นางมีไข้มาตั้งแต่สองสามวันก่อนแล้ว อีกอย่างวันนี้นางก็ยืนตากน้ำค้างอยู่นานสองนาน เกรงว่ามันคงถึงขีดจำกัดของร่างกายเสียแล้ว

"เจ้ามีเรื่องอะไรอยากคุยกับข้าหรือ" หวงตงหยางเอ่ยถามด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ ใช่ว่าเขาจะไม่รู้สึกผิดต่อเหรินหลานเฟิง แต่ทว่าตอนนี้หัวใจของเขานั้นเปลี่ยนไปแล้ว และเขาไม่อยากมีปัญหากับจ้าวเยี่ยนฟาง

"ข้า..คิดถึงท่าน" หลังสิ้นคำพูดของเหรินหลานเฟิง ทั่วทั้งห้องก็เต็มไปด้วยความเงียบงัน หวงตงหยางรู้ดีว่าเหรินหลานเฟิงคิดเช่นไรกับเขา และตัวเขาเองที่เป็นคนทำร้ายนาง

"ข้า..ขอโทษ" หวงตงหยางพูดขึ้นด้วยสีหน้าและแววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เขาไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร ถึงจะชดใช้ในสิ่
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ข้าจะไม่ยอมสูญเสียเจ้าไป

    จ้าวเยี่ยนฟางมุ่งหน้าไปยังห้องที่เหรินหลานเฟิงใช้พักผ่อนตามคำบอกเล่าของสาวใช้ ด้วยความรู้สึกมากมายที่ถาโถมเข้ามา เรือนร่างงามมาหยุดอยู่หน้าประตูห้องดังกล่าว นางกดข่มอารมณ์ผิดหวังเสียใจเอาไว้อย่างสุดความสามารถ ก่อนจะดันประตูเข้าไปอย่างเบามือ..จ้าวเยี่ยนฟางเดินผ่านฉากกั้นห้องลายวิหกมาหยุดอยู่กลางห้อง ภาพที่นางได้เห็นนั้นทำเอาแขนและขาทั้งสองข้างอ่อนแรงเสียจนยืนแทบไม่ไหว หยดน้ำตาก็พรั่งพรูออกมาอย่างมิอาจต้านทานได้ นางรู้สึกราวกับหัวใจถูกหวงตงหยางบดขยี้จนไม่เหลือชิ้นดี เจ็บปวดร้าวรานจนแทบไม่อยากหายใจร่างบอบบางถอยหลังออกมาอย่างช้า ๆ อย่างล่องลอย จนกระทั่งไปชนเข้ากับแจกันหินอ่อนที่อยู่ตรงมุมห้อง เป็นเหตุให้แจกันใบงามนั้นหล่นลงมาแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ สร้างความตกใจให้กับคนทั้งสองเป็นอย่างมากหวงตงหยางผละจูบจากสตรีตรงหน้าและหันควับกลับมามองตามที่มาของเสียง หัวใจเขาพลันดิ่งวูบกระทันหันเมื่อเห็นว่าเป็นจ้าวเยี่ยนฟางที่ยืนอยู่ตรงมุมห้อง ใบหน้าคมคายเต็มไปด้วยความสับสนกังวล ส่วนทางด้านเหรินหลานเฟิงเองกลับมีสีหน้าที่เรียบเฉย มิได้ทุกข์ร้อนอะไรจ้าวเยี่ยนฟางปาดน้ำตาออกอย่างลวก ๆ ก่อนจะหันหน้าเดินออกไ

    Last Updated : 2025-01-13
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ขอโอกาสสักครั้ง

    จ้าวเยี่ยนฟางลืมตาขึ้นมาในห้องสี่เหลี่ยมแห่งหนึ่ง ซึ่งดูคุ้นตา คล้ายกับว่ามันคือโรงพยาบาลในโลกที่นางจากมา และเมื่อมองดูอีกทีก็พบว่า คนที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ก็คือร่างกายของนางเองเซี่ยซินหยานนอนอยู่ในห้องไอซียู และกำลังถูกทีมแพทย์ช่วยกันปั๊มหัวใจเพื่อยื้อชีวิต ไม่นานนักบนหน้าปัดดิจิตอลก็แสดงให้เห็นคลื่นหัวใจที่ค่อย ๆ กลับมา เธอจ้องมองร่างของตนเองด้วยความรู้สึกสับสน ตกลงมันเกิดสิ่งใดขึ้นกับเธอกันแน่ นี่เรา..ยังไม่ตายหรอกหรือ"เยี่ยนฟางเจ้าได้ยินพี่หรือไม่ เยี่ยนฟาง..ฟางฟางเจ้าอย่านิ่งไปแบบนี้สิ พี่ใจคอไม่ดีเลย" หวงตงหยางกุมมือภรรยาไว้แน่น ราวกับว่ากลัวนางจะจากเขาไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ หากเป็นเช่นนั้นเขาจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร ทุกคืนวันคงเป็นดั่งฝันร้ายหากไร้ซึ่งนางเคียงข้างเพียงไม่กี่อึดใจเจียวมิ่งพร้อมด้วยหมอชราท่านหนึ่งก็เดินทางมาถึง หวงตงหยางที่เห็นว่าหมอมาถึงแล้วก็รีบลุกขึ้นด้วยความร้อนใจ"ท่านหมอ ช่วยภรรยาของข้าด้วย ช่วยนางด้วย ข้ายินดีจ่ายด้วยทุกสิ่งที่ข้ามีขอเพียงแค่นางปลอดภัย" หวงตงหยางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ดวงตาคมเข้มแดงก่ำคล้ายคนจะร้องไห้ออกมาเต็มแก่ทำเอาหมอชรารู้สึ

    Last Updated : 2025-01-13
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   เจ้าเป็นเมียพี่

    กลางดึกคืนหนึ่งในฤดูใบไม้ร่วงที่เงียบสะงัด หวงตงหยางเพ่งพิศไปยังดวงหน้างามที่กำลังจมอยู่ในห้วงนิทรา ด้วยความรู้สึกสับสนวุ่นวายใจ เขาจะเชื่อหมอชราผู้นั้นได้จริง ๆ น่ะหรือ มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่จะมีวิญญาณดวงอื่นมาอาศัยอยู่ในร่างของจ้าวเยี่ยนฟางหากเป็นเช่นนั้นจริงแล้วนางคือใครกัน นางมาจากหนแห่งใด เหตุใดนางถึงมาอยู่ที่นี่แล้วที่สำคัญก็คือ จ้าวเยี่ยนฟาง นางตายไปแล้วจริง ๆ น่ะหรือ..ถ้าหากว่าเรื่องบ้าบอทั้งหมดนี่เป็นความจริง นั่นก็หมายว่าเขาเป็นคนที่ทำให้จ้าวเยี่ยนฟางต้องตาย หากวันนั้นคนที่เขาเลือกที่จะกระโดดลงไปช่วย คือฮูหยินของเขา นางก็คงจะไม่ตายใช่หรือไม่..ปวดหัว..ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจ เขาควรปลุกนางขึ้นมาถามให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยดีหรือไม่ นางจะว่าเขาเสียสติไปแล้วหรือเปล่า หวงตงหยางนอนใช้ความคิดอย่างวนไปวนมา สุดท้ายก็ผล็อยหลับไป โดยที่ยังมิได้ถามอะไรออกไปเลยสักคำจ้าวเยี่ยนฟางลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องนอนของตน และก็ทำกิจวัตรต่าง ๆ ดั่งเช่นทุกวัน เพียงแต่ว่าวันนี้นางตื่นสายต่างจากปกตินัก จึงมิได้ร่วมรับประทานอาหารกับหวงตงหยางในตอนเช้านัยน์ตาคู่งามจ้องมองเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามที่ไร้ซึ่งหวงตงหยาง

    Last Updated : 2025-01-13
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   กินเมียแทนขนมได้หรือไม่

    "เจ้าเป็นเมียพี่" เสียงนุ่มทุ้มของหวงตงหยางเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา ก่อนที่เขาจะโน้มตัวเข้ามาใกล้และทาบริมฝีปากลงมาอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้จ้าวเยี่ยนฟางกลับไม่ยอมให้ตนเองถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวนางงับริมฝีปากของคนด้านบนที่มองลงมาด้วยสายตาเปี่ยมอารมณ์ จ้าวเยี่ยนฟางนางอาจจะไม่รู้ว่าการกระทำของนางนั้นยิ่งทำให้เพลิงปรารถนาในใจเขาลุกโชน หวงตงหยางลุกขึ้นจากเก้าอี้ของตนเอง และเดินมาโอบรอบเอวอุ้มร่างระหงขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะทำงานเรียวแขนบางโอบกอดรอบคอเขาไว้อย่างเต็มใจ ใบหน้าคมคายก้มลงจูบริมฝีปากอ่อนนุ่มอย่างดูดดื่ม เรียวลิ้นตวัดชิมความหวานจากนางอย่างเร่าร้อน หนักหน่วงจนริมฝีปากที่ถูกบดขยี้แดงระเรื่อ มือหนาซุกซนลูบไล้ส่วนเว้าโค้งอย่างหลงใหล ทว่าเหมือนเขาจะยังไม่หนำใจ จึงปลดสายรัดอาภรณ์ของนางออก เผยให้เห็นเนินเนื้ออวบอิ่ม และผิวพรรณที่ขาวราวหิมะ หวงตงหยางเคล้นคลึงเต้าตูมด้วยความหลงใหล เรียวนิ้วไล้วนอยู่ที่ยอดถันจนกระทั่งมันแข็งขืนสู้นิ้วมือ"อื้ม.."จ้าวเยี่ยนฟางได้แต่ส่งเสียงพึงพอใจอยู่ในลำคอ หวงตงหยางที่ได้ยินเช่นนั้นยิ่งรู้สึกมีอารมณ์มากกว่าเก่า เขาก้มหน้าโลมเลียอกอิ่มอย่างหิวกระหาย และประทับรอยความเป็

    Last Updated : 2025-01-14
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   สตรีคนเดียวที่ข้ารัก

    "ข้ารู้..แต่เจ้าต้องบอกมาก่อน ว่าแท้จริงแล้วเจ้าคือใครกันแน่ แล้วเจ้ามาจากที่แห่งใด"เมื่อได้ยินเช่นนั้น ดวงตาคู่งามก็เบิกโพลงด้วยความตกใจ นางไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนล่วงรู้ความลับนี้ หวงตงหยางไปรู้อะไรมากันแน่ หรือแท้จริงแล้วเขาเพียงแค่แกล้งให้นางตกใจเล่นก็เท่านั้น.."ท่านพูดอะไร ข้ามิเห็นจะเข้าใจเลย" นางยังคงตีหน้าซื่อ แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องต่อไปหวงตงหยางที่เห็นเช่นนั้น เขาจึงมั่นใจขึ้นมาทันทีว่า เรื่องที่หมอชราท่านนั้นกล่าวมาล้วนเป็นความจริง สตรีที่นอนอยู่ข้าง ๆ เขาตอนนี้มิใช่จ้าวเยี่ยนฟาง แต่เป็นวิญญาณแปลกหน้าที่มาสวมร่างฮูหยินของเขา"เจ้าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน.. เพราะดวงวิญญาณและร่างกายไม่สัมพันธ์กัน" เขาเอ่ยขยายความกระจ่างให้นางอย่างชัดถ้อยชัดคำ จ้าวเยี่ยนฟางที่ได้ยินเช่นนั้นก็นิ่งเงียบไปราวกับว่านางตกอยู่ในภวังค์ตอนนี้นางไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน และไม่รู้ว่าควรรู้สึกเช่นไรดี นางควรตกใจเรื่องไหนก่อนระหว่างเรื่องที่หวงตงหยางล่วงรู้ความลับของนางแล้ว หรือเรื่องที่ได้รู้ว่านางมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน"ท่าน..รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่" หลังจากที่เงียบไปครู่หนึ่ง จ้าวเยี่ยนฟางก็รวบ

    Last Updated : 2025-01-14
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ขอให้ร้ายกลายเป็นดี

    หลังจากที่รบเร้าขอให้หวงตงหยางพาออกมาข้างนอกได้ นางก็ชวนให้เขามาไหว้พระขอพรด้วยกัน ซึ่งหวงตงหยางเองก็ทำตามคำขอของฮูหยินอย่างที่ไม่ปริปากบ่นเลยสักคำ นางว่าอย่างไร นางอยากไปที่ใด เขานั้นไม่คิดที่จะขัดใจเลยแม้แต่น้อยเมื่อไหว้พระและขอพรเทพเจ้าองค์อื่น ๆ มาจนเกือบครบแล้ว เซี่ยซินหยานพร้อมด้วยหวงตงหยางก็เดินมาหยุดอยู่หน้ารูปปั้นเทพเจ้าองค์หนึ่ง ซึ่งนางเองก็ไม่รู้ว่าท่านคือผู้ใด เพราะก่อนหน้านี้นางได้ไปไหว้และขอพรจากเจ้าแม่กวนอิมรวมถึงเทพเจ้ากวนอูมาแล้วเหลือเพียงเทพเจ้าองค์นี้เท่านั้นที่นางยังมิได้มาขอพร เซี่ยซินหยานหันไปมองหน้าบุรุษตัวสูงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ตาปริบ ๆ หมายจะให้เขาอธิบายถึงองค์เทพแต่ละองค์ให้ฟังเหมือนกับก่อนหน้านี้"ท่านคือเทพเจ้าเหย่โหลวหรือที่ชาวบ้านมักเรียกกันว่าเฒ่าจันทรา ท่านทำหน้าที่เป็นพ่อสื่อให้มนุษย์โลกได้สมหวังมีความรักต่อกันด้วยการผูกด้ายแดงเอาไว้ที่นิ้วของคู่ชายหญิง" หวงตงหยางอธิบายให้นางฟังอย่างคร่าว ๆอันที่จริงใช่ว่าเขาจะสนใจเรื่องพวกนี้ เพราะยามที่จับกระบี่อยู่ในสนามรบ มิมีสิ่งศักดิ์สิทธ์ที่ใดมาช่วยให้เขาชนะศึก มีเพียงสองมือและสองเท้าของเขาและเหล่าทหารเท่านั้น ท

    Last Updated : 2025-01-14
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   เดินทางกลับ

    เสียงตบโต๊ะดังปังทำเอาองครักษ์หนุ่มถึงกับสะดุ้งตกใจคิดว่ามีศัตรูบุกเข้ามา แต่เมื่อมองไปยังที่มาของเสียงก็พบเข้ากับภาพที่สตรีตัวเล็ก ๆ กำลังพยายามลุกขึ้นยืนด้วยอาการกระฟัดกระเฟียด นางถกชายกระโปรงขึ้นเพื่อให้ลุกขึ้นเดินได้สะดวก ภาพที่เห็นทำเอาองครักษ์หนุ่มถึงกับยกมือขึ้นมากุมขมับ เจ้านายของเขาทิ้งให้เขาอยู่กับสิ่งที่น่ากลัวเช่นนี้ได้อย่างไร..ที่ผ่านมาเขามิเคยต้องหวั่นเกรงผู้ใด ไม่ว่าศัตรูจะเป็นใครเขาก็พร้อมที่จะปลิดชีพทิ้งอย่างไม่ลังเล แต่กับสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ นี้นั่น เขารับมือไม่ถูกจริง ๆเจ้าของเรือนร่างบอบบางเดินโซเซไปทางมุมห้องราวกับศพที่เดินได้ ตอนนี้นางรู้สึกเหมือนกับว่าพื้นห้องมันไม่ค่อยเท่ากันสักเท่าไหร่ และด้วยชายกระโปรงที่ยาวเกะกะนั้น ทำให้นางล้มตึงลงข้างหน้าบุรุษที่นั่งมองมาที่นางด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง"เจียวมิ่ง ทำไม่ท่านไม่รับข้า""ข้ารับไม่ทัน แล้วเจ้าจะเดินมาทางนี้ทำไม ไยจึงไม่นั่งดื่มสุราของเจ้าต่อไป" เขาเก็บกระบี่เข้าฝักก่อนจะหันมาคุยกับสตรีที่นั่งจ้ำเบ้าอยู่กับพื้น นางเมาถึงเพียงนี้ยังจะฝืนสังขารเดินมาถึงนี่อีก'นอกจากจะแปลกประหลาดแล้วยังขี้เมาอีกด้วย ดีจริง ๆ ที่ข้าไม

    Last Updated : 2025-01-16
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   เพื่อเจ้า(1)

    เสียงจากฝูงชนดังจอแจอย่างไม่ขาดสาย ผู้คนต่างเดินไปมาอย่างขวักไขว่ พ่อค้าแม่ค้าต่างก็ตั้งหน้าตั้งตาตะโกนขายของ แม้มันจะเป็นวันที่อากาศหนาวเย็นก็ตาม แต่ถนนเทียนหนิงนั้นกลับไร้ซึ่งความเงียบงันสายลมเย็นพัดเอื่อยพาเกศาและอาภรณ์พลิ้วไหว จ้าวเยี่ยนฟางนั่งดื่มชาดอกท้ออยู่ริมระเบียงชั้นสองของโรงน้ำชาด้วยสีหน้าราบเรียบ นัยน์ตาคู่งามมองบรรดาของที่ตนซื้อมาวันนี้ด้วยความอาลัย นางหลุบตาต่ำลงก่อนจะยิ้มออกมาอย่างขมขื่นวันนี้นางรอให้หวงตงหยางออกไปข้างทำงานเสียก่อน นางถึงได้แอบออกมาข้างนอกเช่นนี้ เพราะหากเขารู้เขาคงจะห้ามจนหัวชนฝา หรือไม่ก็ขอตามมาด้วยอย่างแน่นอน แต่ทว่าสิ่งของที่นางจะซื้อในวันนี้นั้นเป็นสิ่งที่จะให้เขารู้ไม่ได้จ้าวเยี่ยนฟางตั้งใจจะปักผ้าเช็ดหน้า รวมถึงอาภรณ์ต่าง ๆ ไว้ให้หวงตงหยาง เผื่อวันหนึ่งที่นางไม่อยู่แล้ว เขาจะได้ใช้ผ้าเช็ดหน้าที่นางปักให้ ในงานเทศกาลล่าสัตว์ของทุก ๆ ปี แต่ถ้าหากตอนนั้นเขามีฮูหยินคนใหม่แล้ว เขาก็คงจะใช้ผ้าเช็ดหน้าที่สตรีผู้นั้นเป็นคนปักให้ และคงมิได้ใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนที่นางปักอีกแล้ว.. ถึงแม้มันจะน่าเศร้า แต่ตอนนั้นนางคงสบายใจและหลับใหลได้อย่างหมดห่วงข้าหวังว่า

    Last Updated : 2025-01-16

Latest chapter

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ตอนพิเศษ

    "หยางหยาง เธอคนนั้นสวยเนอะนายว่ามั้ย" ลู่ฉือเฉิงใช้ศอกสะกิดเพื่อนรักของตัวเองด้วยความตื่นเต้น พลางใช้นิ้วชี้ไปยังผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่ยืนหันหลังอยู่ เธอสวมมินิเดรสสีครีม พร้อมกับรองเท้าส้นสูงแบรนด์ดัง ผมสีน้ำตาลอ่อนเหยียดตรงยาวจนถึงกลางหลัง ยิ่งมองดูยิ่งรู้สึกหลงใหล"อืม" เขาตอบกลับเพียงสั้น ๆ ทำเอาลูู่ฉือเฉิงถึงกับหน้ายู่ด้วยความผิดหวัง ทำไมเพื่อนของเขาถึงได้ทำตัวเหมือนกับก้อนหินแบบนี้ อายุอานามก็ไม่ใช่น้อย ๆ กันแล้ว แต่เขายังไม่เคยเห็นเพื่อนสนิทคนนี้มีแฟนกับเขาเลยสักคน"นี่หยางหยาง ฉันถามนายจริง ๆ นาย..คงไม่ได้ชอบผู้ชายหรอกใช่มั้ย" ลู่ฉือเฉิงเอ่ยถามเพื่อนรักด้วยน้ำเสียงที่ติดตลก"ฉันชอบผู้หญิงเหมือนกับนายนั่นแหละน่า" หวงตงหยางหรือที่เพื่อนสนิทเรียกว่าหยางหยางตอบกลับด้วยสีหน้าราบเรียบ อันที่จริงเขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับศิลปะเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่ว่าที่ยอมมาหอศิลป์เป็นเพื่อนเจ้าลู่ฉือเฉิง เพราะมีเรื่องเกี่ยวกับศิลปินท่านหนึ่งที่เขาจะต้องรู้ให้ได้..ชื่อของศิลปินคนนี้ เหมือนกับนางในฝันของเขา .."หยางหยางนายยังฝันแปลก ๆ อยู่ใช่มั้ย เพราะเธอคนนั้นหรือเปล่านายถึงไม่ยอมมีแฟนสักที" คำถาม

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ความทรงจำในม่านหมอก

    แสงไฟจากโคมระย้าคริสตัลส่องประกายระยิบระยับไปทั่วห้องโถงคอนโดหรู ผนังห้องสีครีมอ่อนประดับด้วยภาพวาดสีน้ำมันฝีมือประณีตที่บ่งบอกถึงรสนิยมอันเลิศหรูของเจ้าของห้อง เรือนร่างระหงยืนอยู่หน้าหน้าต่างบานใหญ่ เธอมองลงไปยังถนนด้านล่างที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนและยานพาหนะ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ามีจดหมายที่รอให้เธอเปิดอ่านวางรออยู่บนโต๊ะแขนเรียวเอื้อมมือไปหยิบซองจดหมายสีครีมที่วางอยู่บนโต๊ะข้างตัวออกมาเปิดอ่าน เนื้อหาภายในจดหมายแจ้งว่าเธอได้รับเชิญให้ไปจัดแสดงภาพวาดที่หอศิลป์แห่งหนึ่ง ริมฝีปากบางเผยอเป็นรอยยิ้มน้อย ๆ ก่อนที่จะลุกขึ้นและเดินไปยังมุมหนึ่งของห้องภาพวาดขนาดใหญ่ถูกคลุมไว้ด้วยผ้าสีขาวผืนหนึ่ง เรียวแขนเล็กค่อย ๆ ดึงผ้าคลุมออกอย่างช้า ๆ เผยให้เห็นภาพวาดสีน้ำมันที่วิจิตรงดงาม สิ่งที่ปรากฏบนผืนผ้าใบก็คือรูปของชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาในชุดจีนโบราณสีเปลือกไข่ เธอจ้องมองภาพนั้นด้วยสีหน้าราบเรียบ แต่ทว่ามิอาจซ่อนความโศกเศร้าในดวงตาสีน้ำตาลอ่อนได้ แพขนตางอนหลุบต่ำลงเล็กน้อย นิ้วมือเรียวลูบดวงหน้าคนในภาพอย่างทะนุถนอม ราวกับกำลังสัมผัสใบหน้าของผู้เป็นที่รัก..เสียงริงโทนเรียกเข้าดังขึ้น ทำให้เจ้าของดว

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ตำราหน้าสุดท้าย

    หวงตงหยางนอนกอดหมอนที่ฮูหยินเคยหนุนนอน ด้วยความโศกเศร้าที่ไม่อาจบรรยายได้ น้ำตาแห่งความคิดถึงไหลอาบแก้มของเขา หมอนใบนั้นยังคงอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของนาง กลิ่นที่เขาจะไม่มีวันลืมเลือนไปได้ตลอดชีวิตหวงตงหยางโอบกอดหมอนแน่นยิ่งขึ้น ราวกับว่านั่นคือสิ่งเดียวที่ยังเชื่อมโยงเขากับนางได้ นัยน์ตาเศร้าสร้อยหลับตาลงและปล่อยให้ความทรงจำอันแสนหวานไหลเวียนอยู่ในหัวใจ ภาพของนางที่ยิ้มแย้ม หัวเราะ และร้องไห้ปรากฏขึ้นในความคิดของเขา ภาพเหล่านั้นชัดเจนราวกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้แต่ความจริงแล้ว นางได้จากเขาไปแล้ว..หลังจากที่จ้าวเยี่ยนฟางสิ้นลมหายใจ หวงตงหยางก็รู้สึกราวกับว่าส่วนหนึ่งของตัวเขาได้ตายไปพร้อมกับนาง ความรู้สึกผิดและความเจ็บปวดทรมานหัวใจ ภาพที่นางโผเข้ามารับคมกระบี่แทนเขายังคงตามหลอกหลอนเป็นดั่งเงา ทำให้เขาไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแต่กระนั้นเขาก็ยังตายไม่ได้ เพราะนางได้ยอมสละชีวิตเพื่อช่วยเขาเอาไว้ เขาจำต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปกับความรู้สึกผิดที่กดทับหัวใจตลอดเวลาคำพูดที่จ้าวเยี่ยนฟางพูดไว้วันนั้นก็เป็นดั่งคำสาป "โปรดมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างมีความสุขนะเจ้าคะ" นางพูดด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มชี

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า

    "หลานเฟิง เจ้าทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร" หวงตงหยางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตรนัก"ข้าเคยบอกท่านแล้วว่า ข้าจะมิยอมตกนรกอยู่คนเดียว ในเมื่อข้ามิสามารถครอบครองท่านได้ จะใครหน้าไหนก็มิคู่ควรทั้งนั้น!!" บัดนี้ดวงหน้าที่เคยงดงามอ่อนหวาน ถูกไฟริษยาแผดเผาจนไม่เหลือชิ้นดี ความรักทำให้นางตาบอดงมงาย ชายที่นางหลงรักกลับเห็นนางเป็นเพียงแค่ของเล่น สตรีที่นางชิงชังที่สุดกลับมีความสุขอยู่บนความทุกข์ของนาง!!"ปล่อยเยี่ยนฟางไป นางมิได้เกี่ยวอะไรด้วย หากเจ้าโกรธแค้นนักก็มาลงที่ข้า ข้าขอรับความโกรธแค้นของเจ้าไว้แต่เพียงผู้เดียว""ฮ่าๆๆๆ จนป่านนี้ท่านก็ยังปกป้องมัน ในวันที่ข้าจมน้ำ ข้ารู้ว่าท่านแสร้งทำเป็นลงโทษนาง เพื่อที่จะได้มิต้องส่งตัวนางให้ทางการใช่หรือไม่ ท่านมิเคยคิดเข้าข้างข้าอยู่แล้ว แล้วที่ผ่านมาท่านจะมาให้ความหวังลมๆ แล้งๆ กับข้าทำไม""..." หวงตงหยางนิ่งเงียบมิยอมตอบกลับอะไร จริงอย่างที่เหรินหลานเฟิงพูด เขารู้ดีว่าจ้าวเยี่ยนฟางร้ายกาจเพียงใด แต่อย่างไรนางก็เป็นภรรยาที่รักและซื่อสัตย์ต่อเขาเพียงคนเดียว เหรินหลานเฟิงเองก็มิใช่สามัญชนคนธรรมดา หากบิดานางล่วงรู้ว่า ฮูหยินจงใจผลักลูกสาวของเข

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   เทศกาลฉงหยาง

    แสงแดดสาดส่องผ่านหน้าต่างไม้สลัก มากระทบลงบนใบหน้าเนียนผ่องที่กำลังหลับใหลอยู่ในอ้อมแขนอันอบอุ่นของผู้เป็นสามี เซี่ยซินหยานลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างช้า ๆ ด้วยความงัวเงีย ดวงตาคู่งามจับจ้องไปยังใบหน้าคมคายที่บัดนี้กำลังหลับไหลอยู่ด้วยความรู้สึกรักใคร่ ฝ่ามือเล็กสัมผัสกับใบหน้าของเขาอย่างแผ่วเบา เรียวนิ้วลูบไล้สันจมูกโด่งด้วยความหลงใหล"ฮูหยินเจ้าหลอกกินเต้าหู้ข้าหรือ" เสียงนุ่มทุ้มของเขาเอ่ยขึ้น ก่อนจะจับข้อมือของภรรยาตัวน้อยเอาไว้มิยอมปล่อย อันที่จริงเขาตื่นมาสักพักแล้ว เพียงแต่ว่าแสร้งทำเป็นนอนต่อก็เท่านั้น ผู้ใดจะรู้เล่าว่าฮูหยินจะมีมุมเช่นนี้อยู่ด้วย "ข้ามิได้คิดเช่นนั้นเสียหน่อย" เซี่ยซินหยานขมวดคิ้ว ประท้วงคำพูดของเขาด้วยเสียงแผ่ว นางมิได้มีความคิดเช่นนั้นเสียหน่อย นางเพียงแค่คิดว่าหวงตงหยางเป็นบุรุษที่รูปงามมากก็เท่านั้น มิได้มีอารมณ์ความรู้สึกใดแอบแฝงอย่างที่เขากล่าวหาเลยแม้แต่น้อย"หากมิได้คิดเช่นนั้น..แล้วเจ้าคิดเช่นไรกันล่ะ" สายตาวิบวับเจ้าเล่ห์จับจ้องไปยังริมฝีปากของนางพร้อมซักถาม "ข้าคิดว่าท่านรูปงามมากก็เท่านั้นเอง..พอใจหรือยังเจ้าคะ" เซี่ยซินหยานตัดสินใจตอบกลับไปตามตรง หวงต

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   คนหลอกลวง!

    อาทิตย์อัสดงสาดส่อง ย้อมให้สิ่งต่าง ๆ เปลี่ยนเป็นสีแสด กระทั่งเงาของต้นหลิวที่สะท้อนอยู่ในน้ำก็ยังมองเห็นเป็นสีแสดด้วยเช่นกัน จ้าวเยี่ยนฟางนั่งยังคงชะเง้อมองหาร่างของผู้เป็นสามี ด้วยความกระวนกระวายใจ"อากาศเย็นลงแล้วนะเจ้าคะฮูหยิน เข้าไปพักผ่อนด้านในเรือนเถิดเจ้าค่ะ" สาวใช้คนสนิทเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง วันนี้ฮูหยินของนางนั่งรอท่านแม่ทัพอยู่ที่ศาลาริมน้ำมาทั้งวันแล้ว ไม่ว่านางจะพูดเช่นไรก็ดูเหมือนว่าฮูหยินท่านจะไม่ยอมฟังเลยแม้แต่น้อย"ข้าขอรอเขาอยู่ตรงนี้อีกสักหน่อยนะ.." เสียงผู้เป็นนายตอบกลับมาอย่างอ่อนโยน ถิงถิงจึงทำได้เพียงปล่อยให้ท่านนั่งรออยู่เช่นนี้ต่อไป สิ่งที่นางพอจะทำให้ฮูหยินได้ในเวลานี้ก็คือนำเสื้อคลุมหนา ๆ มาให้ท่านสินะ.."เช่นนั้นบ่าวจะไปนำเสื้อคลุมอุ่น ๆ มาให้นะเจ้าคะ" "อื้อ" จ้าวเยี่ยนฟางพยักหน้าตอบกลับเล็กน้อย ก่อนจะกวาดสายตามองไปยังซุ้มประตูทางเข้าของเรือนจงหยุนไม่นานนักถิงถิงก็เดินกลับมาพร้อมกับเสื้อคลุมสีฟ้า มืออีกข้างหนึ่งของนางถือตะเกียงไม้มาด้วย นางช่วยใส่เสื้อคลุมให้กับฮูหยินและจัดแจงวางตะเกียงไว้ด้านข้าง เพราะนางรู้ดีว่าฮูหยินคงจะนั่งอยู่ต่อไปเช่นนี้ต่อไป หาก

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ไว้พบกันใหม่

    ยามอู่ ของวันที่ห้าในป่าลึกเจียวมิ่งควบอาชาสีนิลมาหยุดอยู่ลานกว้างหน้ากระท่อมหลังเล็ก ร่างกำยำกระโดดลงจากหลังม้า ก่อนจะมุ่งหน้าเดินไปผลักประตูไม้บานเก่า ๆ ออก จนเกิดเสียงดังเอี๊ยด ภาพที่เห็นนั้นยิ่งทำให้องครักษ์หนุ่มนั้นประหลาดใจก็คือภาพที่ เจ้านายของเขาพูดคุยกับตาเฒ่าเจ้าเลห์อย่างสนิทสนมราวกับว่ารู้จักกันมานานหรือตอนนี้ท่านแม่ทัพกำลังถูกสะกดจิต.. เขาคิดเช่นนั้นอยู่ในใจ แต่กลับต้องหลุดออกจากภวังค์เพราะเสียงของผู้เป็นนาย"อ้าว เจ้ามาแล้วรึ" หวงตงหยางเอ่ยทักทายองครักษ์คนสนิท หลังจากที่มิได้เจอหน้ากันนานถึงสี่วัน"นายท่าน.. ท่านผู้เฒ่า" เจียวมิ่งประสานมือทำความเคารพก่อนจะค้อมศีรษะลงอย่างนอบน้อม แม้ว่าในใจจะมิไว้ใจตาเฒ่าเจ้าเลห์ผู้นั้น แต่ทว่าตอนนั้นตาเฒ่านั่นก็มีศักดิ์เป็นถึงอาจารย์ของท่านแม่ทัพ มิว่าจะชอบหรือไม่ชอบอย่างไร เขาก็ต้องทำความเคารพ"ว่าแต่เจ้าหอบอะไรมาล่ะนั่น พะรุงพะรังเชียว"สายคมกริบจ้องมองห่อผ้าด้วยความสงสัย อันที่จริงเขากำลังรอให้เจียวมิ่งกลับมา เพราะจะได้ถามว่าฮูหยินได้ฝากจดหมายมาบ้างหรือเปล่า"อ่อ..ของพวกนี้ฮูหยินเป็นคนเตรียมมาให้ท่านน่ะขอรับ" เจียวมิ่งตอบกลับ ก่อนจะยื

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ความหวัง

    บริเวณลานกว้างในป่าลึก หวงตงหยางฝึกฝนวิชาโดยการนั่งสมาธิเพื่อตามหาจุดที่มีแก่นของวิญญาณอยู่ โดยที่มีอาจารย์เฉิงคอยเฝ้าดูอยู่ไม่ห่าง และเมื่อเพ่งสมาธิถึงจุดหนึ่ง เสียงของเหล่าวิหกรวมถึงเสียงของสายลมนั้นได้ดับเงียบลงหวงตงหยางจ่มดิ่งสู่ห้วงแห่งสมาธิ และมุ่งหน้าตามหาแสงแห่งชีวิต จนกระทั่งพบเข้ากับดวงไฟสีขาวที่ลุกโชน เขาได้เอื้อมมือไปแตะกับดวงไฟดวงนั้น และเมื่อมือของเขาสัมผัสเข้ากับดวงไฟ ความรู้สึกมากมายก็ถาโถมเข้ามาอย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุด ราวกับคลื่นทะเลที่คอยซัดเข้าหาชายฝั่งเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดขึ้นทั่วร่างของหวงตงหยาง จนอาภรณ์ของเขานั้นเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ เมื่อผู้เป็นอาจารย์เห็นเช่นนั้นจึงรู้ได้ทันทีว่า ลูกศิษย์ของเขาได้พบเจอเข้ากับแก่นของวิญญาณแล้วแก่นของวิญญาณนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์อันมากมายของมนุษย์ทั้ง รัก โลภ โกรธ หลง หวงตงหยางจะต้องเห็นภาพที่เขานั้นได้ใช้มาทั้งชีวิต รวมถึงได้เห็นอดีตทั้งดีและร้าย ต่อให้เป็นเรื่องที่เขานั้นลืมเลือนไปแล้ว มันก็จะกลับมาฉายซ้ำให้ได้เห็นหากเขาได้พบเข้ากับภาพแห่งความสุข เขาอาจจะไม่อยากกลับออกมายังโลกความเป็นจริงอีก ถ้าหากได้พบกับสิ่งที่เขาเกลียดหรือห

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   จดหมายถึงเจ้า

    จ้าวเยี่ยนฟางลืมตาตื่นขึ้นมาในยามเฉิน ก็ไม่พบกับหวงตงหยางเสียแล้ว ในตอนแรกนางคิดว่าเขาคงจะไปที่ค่ายทหาร หรือไม่ก็คงจะเข้าวังตามปกติ นางจึงไม่คิดติดใจหรือสงสัยอะไรและใช้เวลาเกือบทั้งวันไปกับการเขียนตำราและปักเย็บผ้า"เหตุใดฮูหยินจึงปักผ้าเช็ดหน้าหลายผืนนักล่ะเจ้าคะ" ถิงถิงที่เงียบอยู่นานเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย เจ้านายของนางจะเปิดร้านขายผ้าเช็ดหน้าหรืออย่างไรกัน นี่ก็ปาไปผืนที่สามแล้ว ท่านก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดปัก"ข้าตั้งใจปักไว้ให้ตงหยางน่ะ" ดวงหน้างามเงยหน้าขึ้นมาตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน บอกตามตรงว่านางก็มิได้มีฝีมืออันใด เพียงแต่ว่าอยากทำให้เขาก็เท่านั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าหวงตงหยางจะชอบผ้าเช็ดหน้าที่นางปักให้หรือไม่ เพราะว่ามันก็มิได้วิจิตรและมิใช่ลวดลายที่ทำยากอะไร"หากท่านแม่ทัพรู้ ท่านจะต้องดีใจมากแน่เจ้าค่ะ" "งั้นหรือ.. หากเขาชอบนั่นก็คงจะดี"ณ กระท่อมกลางป่าหวงตงหยางอยู่ในสภาวะอ่อนแรงหลังจากที่สูญเสียอายุไขให้กับเฒ่าเจ้าเล่ห์ผู้นั้นไปสิบปี เขามองเห็นทุกการกระทำที่ชายคนผู้นั้นทำ แต่กระนั้นก็ยังไม่เข้าใจว่า มนุษย์คนหนึ่งจะดึงเอาอายุไขผู้อื่นไปได้อย่างไร"วันนี้เจ้าพักผ่อนอยู่ท

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status