เดียร์ Talkฉันขับรถกลับมาที่บ้านและก็ไม่ลืมที่จะแวะซื้อขนมที่ลูกชายสั่งซื้อด้วย น้องไทเกอร์แกเป็นคนที่ยอมได้ทุกอย่างยกเว้นเรื่องกิน ถ้าลืมเมื่อไหร่จะงอนทันทีไม่รู้เหมือนกันว่าไปเอานิสัยขี้น้อยใจแบบนี้มาจากไหน เพราะฉันก็ไม่เคยเป็นเลย และก็ไม่มีใครแสดงพฤติกรรมแบบนี้ให้เห็นด้วย หรือแม้ว่าจะเป็นการทำให้แกรู้สึกน้อยใจก็ตาม แต่บางครั้งแกก็จะเป็นของแกเองอารมณ์เหมือนพ่อไม่มีผิด รายนั้นน่ะเหรอแค่พูดไม่เข้าหูก็งอนจนน่าตบละ“เย้ ๆ คุณแม่กลับมาแล้ว” พอฉันจอดรถได้ไม่นาน ลูกชายตัวดีของฉันก็วิ่งออกมาจากบ้านอย่างรวดเร็ว“ว่าไงครับ วันนี้ดื้อกับคุณตาคุณยายหรือเปล่า”“ไม่ครับ วันนี้ผมวิ่งเล่นกับคุณตาสนุกมากเลยครับ แต่น่าเสียดายคุณตาวิ่งตามผมไม่ทัน”“เหรอครับ คุณตาแก่แล้วนะครับจะให้ไปวิ่งคล่องแคล่วเหมือนกับเด็กได้ยังไง”“เหรอครับ แล้วอย่างนี้คุณตาจะวิ่งเล่นกับผมได้อีกหรือเปล่าครับคุณแม่” แกถามหน้าเศร้า เรื่องกินกับเรื่องเล่นนี่แหละเป็นเรื่องใหญ่เลย ชอบให้มีคนมาวิ่งเล่นด้วย ยิ่งมีคนตามใจนะจะยิ่งติดคนนั้นเลย“วิ่งได้ครับ แต่คุณตาก็จะวิ่งช้าๆ ไงครับ”“โห่ เริ่มไม่สนุกละ ชวนคุณพ่อเล่นด้วยคุณพ่อก็บอกว่าไม่
หลายวันต่อมา“น้องไทเกอร์ครับ สวัสดีป้าพิงค์กับลุงครามสิครับ”“สวัสดีครับ”“สวัสดีครับผม เรานี่หน้าตาคุ้นๆ นะ” ครามมเอ่ยทัก แต่ถูกพิงค์สะกิดเบาๆ ให้เงียบซะก่อนโครงหน้าถอดพ่อมาซะขนาดนี้ไม่สงสัยก็ให้มันรู้ไปสิ“ไปกันเถอะจ้ะ เดี๋ยวจะไปถึงที่พักมืดเอา” พิงค์เอ่ยพูดขึ้น“ครับ\\ค่า”พิงค์และเดียร์ตกลงกันว่าจะพาลูกๆ ไปเที่ยวที่ทะเล และค้างคืนอยู่ประมาณอาทิตย์นึงเพราะนานๆ ครั้งจะได้มา และน้องไทเกอร์ก็จะได้มีเพื่อนเล่นด้วย ระหว่างนี้โทมัสก็จะได้พักไปในตัวไม่นานรถตู้ก็แล่นมาถึงที่จอด ซึ่งเป็นบ้านพักของพิงค์กับคราม“เอาล่ะทุกคน แยกย้ายกันเอาเสื้อผ้าไปเก็บที่ห้องของตัวเองนะคะ ใครจะพักอยู่ห้องไหนก็ตามสบายเลย”“ผมขอนอนกับน้องนะครับคุณแม่ ผมอยากเล่นกับน้อง” กระทิงเอ่ยพูดขึ้น เพราะว่ากำลังเห่อน้องชาย“ได้สิครับ แต่เราเป็นพี่ใหญ่ต้องดูแลน้องนะ” พิงค์บอก“ครับคุณแม่”จากนั้นทั้งสามพี่น้องก็พากันเดินเอาของไปเก็บที่ห้องของตัวเองทันที“แกกับคุณโทมัสแยกห้องนอนกันเหรอ?” พิงค์เดินเข้าไปถาม ขณะที่เดียร์กำลังเก็บกระเป๋าเพื่อที่จะเอาขึ้นไปเก็บด้านบน“อื้อใช่ ทำไมเหรอ?” เดียร์หันไปพยักหน้าตอบ“เปล่าไม่ทำไมหรอก
ฉันหยุดเดินแล้วหันไปมองตามเสียงเรียกจากทางด้านหลัง ไม่ได้ตกใจแค่แปลกใจมากกว่าว่าเขาไม่อยู่ที่นี่ได้ยังไง จะบอกว่ามาเที่ยวเหมือนกันก็ดูเหมือนว่าจะบังเอิญเกินไปเนอะ“คุณ!?”“เลือดไหลออกมาเยอะเลยนะ ให้ฉันช่วยเถอะ” เขาเดินเข้ามาหาฉัน“ไม่ต้อง! แค่นี้เองฉันไม่เป็นอะไรหรอก” ฉันรีบปฏิเสธทันที ก่อนจะก้าวถอยหลังหนี“เลือดไหลออกจะหมดตัวอยู่แล้ว ยังจะมาทำเล่นตัวอีก”“ฉันจะเป็นอะไรก็เรื่องของฉัน มันไม่ใช่เรื่องของคุณ!”“มาเถอะน่า เลือดไหลไม่หยุดแล้วนั่น”“เอ๊ะนี่คุณ ว๊าย!” ไม่ทันที่ฉันจะได้พูดอะไรต่อ เขาก็มาดึงตัวฉันไปอุ้มทันที “นี่คุณ!”“พักอยู่ไหน?”“ปล่อยฉัน ฉันกลับเองได้”“อย่าดื้อ! อยากจะเดินเหยียบแผลให้มันเป็นบาดทะยักตายหรือไง!?” เขาขึ้นเสียงใส่ฉัน“แผลแค่นี้มันไม่ทำให้ฉันตายได้หรอก เจ็บมากกว่านี้ฉันก็เคยมาแล้วแต่ฉันก็ไม่เห็นตายเลย” ฉันประชดเขาอีกแล้ว บ้าจริงทำไมชอบพูดประชดอยู่เรื่อยเลยนะ อยากจะตบปากตัวเองจริงๆ ฉันไม่ได้อยากจะพูดประชดเพื่อให้เขามาสนใจสักหน่อย“…” เขามองหน้าฉันแล้วถอนหายใจใส่ “ถึงบ้านพักแล้วก็บอกก็แล้วกัน ฉันจะพาเดินไปเรื่อยๆ”“มาทำอะไรที่นี่อ่ะ?”“มาทะเลคงจะมาขึ้นเครื่องบิน
เช้าวันต่อมาไทเกอร์ตื่นแต่เช้าแล้วลงไปวิ่งเล่นที่ด้านล่างคนเดียว โดยที่ทั้งเดียร์และคนในบ้านยังไม่มีใครตื่น ไทเกอร์ถูกเลี้ยงมาเหมือนกับเด็กฝรั่งทั่วไป ให้หัดช่วยเหลือตัวเองตั้งแต่ยังเด็ก รู้จักระวังอะไรอันตรายหรือไม่อันตรายตุบ~“โอ๊ะ! ไอแอมซอรี่” เด็กน้อยเผลอไปวิ่งชนกับใครบางคนโดยที่ไม่ระวัง จนตัวเองล้มกลิ้งล้มหงายไปอยู่กับพื้น และก็ได้แต่ก้มหน้าก้มตาขอโทษอย่างเดียว“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” เสียงเข้มเอ่ยดังขึ้น ก่อนที่ร่างสูงกำยำจะย่อตัวนั่งลงแล้วสำรวจดูร่างกายของเด็กน้อยตรงหน้า เพราะเขาเองก็ไม่ทันระวังเหมือนกัน “ลุงขอโทษนะครับ หนูเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”“ไม่เจ็บครับ” เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นประจันหน้ากับชายหนุ่ม ก่อนที่ใบหน้ากลมจะส่งยิ้มจางๆ ให้ “คุณลุงหล่อจังเลยครับ หุ่นดีด้วย”“เหรอครับ หนูก็หล่อนะครับเนี่ย หน้ากลมเชียว” มือหนาลูบหัวเด็กน้อยแล้วโยกไปมาเบาๆ“คุณลุงมาทำอะไรแถวนี้เหรอครับ”“ลุงมาวิ่งออกกำลังกายน่ะ เราล่ะมาทำอะไรตรงนี้แต่เช้า พ่อกับแม่ของเราล่ะไปไหนกันหมด”“คุณพ่อคุณแม่ยังไม่ตื่นเลยครับ ผมตื่นก่อนก็เลยลงมาวิ่งเล่นอยู่ข้างล่างคนเดียว”“หืม…ไม่ได้เลยนะครับ เรายังเป็นเด็กลงมาเล่
ตกเย็น“คุณแม่ครับๆ กี่โมงแล้วครับ” ไทเกอร์วิ่งเข้ามาขณะที่เดียร์กำลังยืนช่วยพิงค์ทำอาหารอยู่ ท่าทางของแกดูร้อนรนมากจนน่าแปลก“จะห้าโมงแล้วครับ” เดียร์มองนาฬิกาที่ข้อมือแล้วหันไปบอกกับลูกชาย“คุณลุงบอกว่าจะมาหาผมที่เดิม เราไปกันเถอะครับ” เด็กน้อยเอ่ยพูดทวงสัญญาที่ได้พูดเอาไว้กับแม่ของตนเมื่อเช้านี้“คุณลุง? ใครกันเหรอเดียร์” พิงค์เอ่ยถาม เพราะนอกจากคนในครอบครัวที่มาด้วยกันแล้วก็ไม่ได้มีใครมาด้วยอีก“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นใคร แต่เมื่อเช้าไทเกอร์ตื่นลงมาวิ่งเล่นข้างล่างคนเดียวแต่เช้า แกบอกว่าเจอกับคุณลุงคนนึงที่ออกมาวิ่งออกกำลังกายตอนเช้าเหมือนกัน และตอนเย็นก็นัดกันจะไปวิ่งกันอีก”“แกก็เลยจะต้องไปดูให้เห็นกับตาว่างั้นว่าเป็นใคร”“ใช่สิ แกก็รู้ว่าฉันไว้ใจใครง่ายที่ไหน ยิ่งกับลูกฉันยิ่งไม่ไว้ใจใครเลย” เดียร์บอก“เรารีบไปกันเถอะครับคุณแม่ เดี๋ยวคุณลุงจะรอนาน”“ดูเหมือนเราจะอยากไปหาคุณลุงคนนี้มากเลยนะไทเกอร์” พิงค์เอ่ยถาม เมื่อได้เห็นท่าทีของหลานชาย“ครับป้าพิงค์ คุณลุงหล่อมากแถมยังพูดเพราะอีกต่างหาก ไทเกอร์ชอบครับ”“รีบไปกันเถอะ อย่ามัวยืนคุยโม้โอ้อวดเลย”น้องไทเกอร์รีบจูงมือของเดียร์
โทมัสเดินไปเฝ้ามองดูลูกชายที่กำลังวิ่งเล่นอยู่กับชายหนุ่มคนหนึ่งอยู่ที่ด้านหน้าชายหาด ก่อนที่น้องไทเกอร์จะหันมาเห็นแล้ววิ่งมายังทางที่เขานั่งอยู่“คุณพ่อครับ ไปวิ่งเล่นกับผมมั้ยครับ”“ไม่ล่ะครับ น้องไทเกอร์ไปวิ่งเล่นเลย” โทมัสปฏิเสธไป“ถ้าอย่างนั้นผมไปวิ่งเล่นก่อนนะครับ”“ครับผม ระวังตัวด้วยนะลูกอย่าลงไปเล่นในน้ำทะเลลึกนะ”“ครับคุณพ่อ”สิ้นสุดเสียงตอบรับเด็กน้อยก็รีบหันหลังวิ่งออกไปทันที โทมัสเฝ้ามองเด็กชายวิ่งเล่นอยู่แบบนั้น เขามองดูชายคนนั้นอย่างตั้งใจเหมือนว่าเขาเคยเห็นหน้าผู้ชายคนนี้ที่ไหนมาก่อนแต่ก็จำไม่ได้เวลาผ่านไปจนกระทั่งเย็นพระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงเรื่อยๆ เมื่อได้เวลากลับบ้านคิงส์ก็รีบพาน้องไทเกอร์กลับมาตามคำพูดของตัวเอง“เราจะได้เจอกันอีกไหมครับคุณลุง” เสียงของเด็กน้อยเอ่ยถามขณะที่กำลังเดินกลับเข้ามา“ถ้ามีโอกาสเราก็อาจจะได้เจอกันอีกครับ” คิงส์ตอบ“ผมอยากเล่นกับคุณลุงอีกครับ”“เหรอครับ เอาไว้เรามาแลกเบอร์กันไหม ถ้าลุงว่างลุงก็จะไปเล่นกับน้องไทเกอร์ดีไหมครับ”“ดีครับ แต่ว่าผมไม่มีโทรศัพท์ครับ มีแต่ของคุณพ่อกับของคุณแม่”“เหรอครับ”“เดี๋ยวผมไปขอโทรศัพท์ของคุณแม่ให้นะครับ”
คิงส์ Talkผมยืนฟังพิงค์กับไอ้ครามคุยกันอยู่พักใหญ่ๆ ใช่! ผมได้ยินหมดทุกคำพูดที่ทั้งสองคนกำลังคุยกัน และผมก็ได้รู้ว่าความจริงแล้วน้องไทเกอร์คือลูกของผม ซึ่งผู้ชายคนนั้นไม่ใช่พ่อของแกเดียร์เธอพยายามปกปิดเรื่องนี้กับผมนี่ถ้าผมไม่ได้ยินทั้งสองคนคุยกันก็ไม่รู้ว่าป่านนี้เมื่อไหร่ผมจะรู้ว่าน้องไทเกอร์เป็นลูกของผม ผมยืนนิ่งพูดอะไรไม่ออกเลยมันจุกอยู่ในอกไปหมด เธอหนีไปพร้อมกับมีลูกของผมติดท้องไปด้วย เธอไม่เคยติดต่อกลับมาไม่เคยขอร้องอ้อนวอนหรือรับความช่วยเหลือจากใครเลยผมเข้าใจดีว่าการที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพังมันลำบากมากขนาดไหน กว่าจะผ่านจุดนั้นมาได้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ตอนท้องอยู่ก็ต้องตอบรับสภาวะอารมณ์ของตัวเอง ไหนจะต้องมาเจ็บตัวตอนคลอดอีก ผมรู้สึกผิดที่ตอนนั้นผมไม่ได้อยู่ข้างเธอเลยแต่ไหนเธอบอกว่าเธอมีคนรักแล้วไง ทำไมพิงค์ถึงบอกว่าผู้ชายคนนั้นไม่ได้ชอบผู้หญิงล่ะ หรือว่าเธอตั้งใจที่จะโกหกผมเพื่อไม่ให้ผมไปยุ่งกับเธออีก ผู้ชายคนนั้นบอกกับผมว่าเป็นพ่อของน้องไทเกอร์แต่ไม่ใช่สามีของเดียร์ และก่อนที่ผมจะเดินออกมาพิงค์เธอก็ถามผมถึงเรื่องหน้าตาของน้องไทเกอร์ใช่! ถึงแกจะเหมือนแม่แ
เช้าวันต่อมาคิงส์เดินมาเล่นที่หน้าบ้านพักของพิงค์อีกตามเคย ทันทีที่น้องไทเกอร์เห็นคิงส์เดินมาก็รีบวิ่งเข้าไปหาทันที“อรุณสวัสดิ์ตอนเช้าครับคุณลุง”“….” ร่างกำยำย่อตัวนั่งลงให้พอดีกับเด็กน้อยตรงหน้า “อรุณสวัสดิ์ตอนเช้าเช่นกันครับคนเก่ง ออกมาวิ่งตั้งแต่เช้าอีกแล้วนะ”“ผมออกมารอคุณลุงไงครับ คุณแม่อนุญาตแล้วผมไปวิ่งเล่นกับคุณลุงได้”“แล้วตอนนี้คุณแม่อยู่ไหนเหรอครับ”“คุณแม่ยังนอนหลับอยู่ครับ ส่วนคุณพ่อก็ยังนอนหลับอยู่เหมือนกัน”“นอนอยู่ด้วยกันเหรอครับ?” คิงส์แกล้งเอ่ยถาม เพราะถ้าเป็นสามีภรรยากันจริงก็ต้องนอนอยู่ด้วยกันสิ“ไม่ครับ คุณพ่อกับคุณแม่นอนคนละห้องกันมาตั้งนานแล้วครับ”“อ๋อ ป่ะรอไปวิ่งเล่นกันดีกว่าครับ เดี๋ยวจะร้อนก่อน”“ครับผม”น้องไทเกอร์วิ่งคู่กับคิงส์ไปตามริมชายหาด พลางคุยกับไปด้วยเบาๆ ตามประสาของแกที่ชอบคุยโม้ไปเรื่อย“น้องไทเกอร์เคยมาเมืองไทยก่อนหรือเปล่าครับ”“ไม่ครับ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้มาเมืองไทย คุณแม่เล่าให้ฟังอยู่บ่อยๆ เหมือนกันครับ”“แล้วน้องไทเกอร์ชอบไหมครับ”“ชอบครับ เมืองไทยมีของเล่นเยอะแยะเลย แถมคุณตากับคุณยายก็มีขนมให้ผมกินทุกวันเลย”“แล้วน้องไทเกอร์อยากมาอยู
3 ปีต่อมา“คุณลุงขา…” เสียงเด็กน้อยดังมาแต่ไกลทันทีที่ลงมาจากรถ ก่อนที่ร่างอ้วนกลมจะวิ่งเข้าใส่ลุงครามจนเกือบหงายหลังไป “คิดถึงคุณลุงจังเลยค่ะ”“เหรอครับ ลุงก็คิดถึงเด็กอ้วนของลุงเหมือนกันครับ” มือหนาบีบแก้มยุ้ยเบาๆ อย่างมันเขี้ยว“น้องดารินครับ เข้าบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ เล่นมาทั้งวันมีแต่เหงื่อทั้งนั้นเลย” คิงส์พูดขึ้นจากทางด้านหลังลูกสาว“ค่ะคุณพ่อ”แกตอบรับคำพูดของผู้เป็นพ่อแต่โดยดี ก่อนจะวิ่งดุ๊กดิ๊กเข้าไปด้านใน“แล้วมึงล่ะ มีอะไรหรือเปล่าถึงได้แวะมา” ถึงแม้จะเป็นครอบครัวที่สนิทและรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่ได้ไปมาหาสู่กันบ่อยนัก เพราะทุกคนต่างมีหน้าที่เป็นของตัวเอง จะมาเจอกันสักครั้งก็ต่อเมื่อมีงานหรือปาร์ตี้เล็กๆ ระหว่างครอบครัว“กูเพิ่งกลับมาจากออสเตรเลียน่ะ ก็เลยซื้อของมาฝากหลานสาวกับหลานชาย ไม่ได้แวะเอามาให้สักทีวันนี้ผ่านมาพอดีก็เลยแวะเอามาให้” ครามบอก“อ๋อ ขอบใจมากนะ”“อือ..กูกลับละ”“อืม…ขับรถกลับดีๆ นะมึง อย่าไปไถลเล่นกับฟุตบาทล่ะ”“เออ!”เป็นคำพูดที่ห่วงใยแต่ก็ยังไม่วายสอดแทรกเรื่องกวนบาทาใส่กัน ไม่รู้เลยว่าใครจอมยั่วใครจอมโมโหกันแน่ เพราะทั้งสอง
บ้านพักริมทะเล“อ่า…สดชื่นจัง…” คิงส์กางแขนออกกว้างแอ่นอกรับลมบริสุทธิ์จากผืนทะเล แต่จู่ๆ ก็มีมือปริศนามาผลักเขาออกไป“ยืนกีดขวางฉิบหายมึงเนี่ย!” ครามพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูหงุดหงิด แต่ดูเหมือนจะแกล้งคนข้างๆ มากกว่า“ก็ทางเดินมีตั้งมากมายมึงไม่เดิน มาเดินเอาตรงที่กูยืนอยู่เนี่ยนะ!?” คิงส์หันไปต่อว่า ตรงที่เขายืนเป็นหน้าบ้านก็จริงแต่บ้านก็กว้างพอที่จะไปเดินทางอื่นได้“นี่มันบ้านกู กูจะเดินไปตรงไหนก็ได้ไม่ผิด” ครามทำหน้าเฉยชาใส่คิงส์ ราวกับว่าไม่รู้สึกอะไรกับการกระทำของตัวเองเลย“มันไม่ผิดหรอก มันอยู่ที่มารยาทต่างหากไอ้เวร! กูรู้ว่าบ้านหลังนี้เป็นของมึง แต่กูมายืนอยู่ตรงนี้ก่อนมึง” คิงส์หันไปเท้าเอวด่าอยู่ด้วยกันสองคนไม่ได้เลยจริงๆ สองคนนี้ มีอันเป็นต้องหาเรื่องทะเลาะกันอยู่ตลอด ส่วนมากก็จะเป็นเรื่องบ้าๆ บอๆ ที่ด่ากัน“แล้วไง? กูไม่ได้สนใจเรื่องนี้สักหน่อย”“มึงนี่มันกวนตีนไม่เปลี่ยนเลยนะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนกูกับมึงก็คงจะวางมวยกันไปแล้ว”“มาดิ ตอนนี้ยังวางได้นะ”“เดี๋ยวกูจะฟ้องเมียมึง” คิงส์พูดขู่“ฟ้องเรื่องอะไร๊ กูไม่ได้มีเรื่องปิดบังอย่างเช่นเรื่องแต่งรถเหมือนมึงสักหน่อย”“ให้กูพูดจริงๆ เ
“กูขออุ้มหลานหน่อย” ครามยื้อแขนที่รอรับเด็กสาวตัวน้อย แต่กลับถูกคิงส์พาเดินหนีออกไป “ไอ้คิงส์! กูบอกขออุ้มหลานหน่อย”“กูไม่ให้อุ้ม” คิงส์หันมาตอบกลับเสียงแข็งกร้าว“แต่นี่หลานกู”“หลานมึง แต่ลูกกู”ทั้งสองยืนเถียงกันอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะไม่มีใครยอมใครเลย อีกคนก็อยากอุ้มหลาน อีกคนก็หวงลูกราวกับจงอางหวงไข่ ไม่ยอมให้ใครได้แตะต้องลูกสาวเลยโดยเฉพาะคราม“เฮ้ย! มึงจะหวงทำไมวะ กูแค่ขออุ้มหลานหน่อยแค่นี้เอง ไม่ได้พาไปไหนสักหน่อย” ครามพูดแย้งออกไป“กูไม่ให้อุ้ม เดี๋ยวมึงเอาลูกกูไป” คิงส์หวงลูกสาวมาก เพราะแกทั้งน่ารักขี้อ้อน ตัวอ้วนกลมแถมแก้มซาลาเปาหน้าหยิกเล่น ใครเห็นก็ต้องเป็นหลง โดยเฉพาะครามที่ชอบเด็กผู้หญิงตัวอ้วนๆ กลมๆ มาก“กูขออุ้มนิดเดียว มึงก็ยืนโด่อยู่ตรงนี้ กูจะเอาลูกมึงไปไหนได้”“มึงอยากได้ลูกผู้หญิงอีก ทำไมมึงถึงไม่ทำเอาเองล่ะ เหอะ! หรือว่าหมดน้ำยาแล้ว?” คิงส์หัวเราะเย้ยหยันคนตรงหน้า“น้ำยากูยังไม่หมดหรอก แต่เมียกูไม่ยอมมีลูกให้อีกนี่หว่า บอกว่ามีแค่สองคนก็พอแล้ว” ครามถอนหายใจเฮือกใหญ่“มึงมันไม่มีน้ำยาเองนี่หว่า”“แล้วมึงล่ะ ทำไมไม่มีอีก”“กูทำหมันแล้วจะมีได้ไงวะ คนอย่างกูอะมันน้
6 เดือนต่อมาบ้านแสนอบอุ่น“แอ้ แอ้” เสียงของน้องดารินดังอ้าวออกมาถึงข้างนอก ฉันชะโงกหน้าเข้าไปมองก็เห็นว่าแกกำลังนั่งเล่นอยู่กับพี่ชายอยู่ ส่วนคิงส์ก็คอยนั่งดูแลอยู่ข้างๆ ตอนนี้พากันหลงเด็กน้อยคนนี้ทั้งพี่ชายทั้งพ่อเลย“ดูท่าคุณหนูไทเกอร์กับคุณคิงส์จะพากันหลงคุณหนูดารินจนโงหัวไม่ขึ้นแล้วนะคะเนี่ย” ป้าอิ่มพูดขึ้น“ใช่ค่ะป้าอิ่ม” สิ่งที่ฉันกลัวที่สุดคือกลัวว่าพี่น้องจะไม่รักกัน กลัวว่าจะมีคนมาพูดทำพี่น้องทะเลาะกัน แต่ตอนนี้ฉันไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้วน้องไทเกอร์มีวุฒิภาวะของความเป็นพี่มาก คอยดูแลน้องอยู่ตลอด ทุกวันหลังเลิกเรียนก็จะมาเล่นอยู่กับน้อง อายุห่างกันมากไม่ใช่ปัญหาเลย ดีซะอีกที่จะมีพี่ชายคนโตคอยดูแลน้องสาวคนเล็กคนนี้น้องไทเกอร์แกเข้าใจดีว่าทำไมฉันถึงต้องดูแลเอาใจใส่น้องมากเป็นพิเศษ แต่ฉันก็ไม่เคยละเลยแกเลยสักครั้ง ฉันทำให้แกได้เห็นว่าต่อให้จะมีน้องอีกซักกี่คนความรักที่ฉันมีให้แกก็ยังเหมือนเดิม“แล้วคุณเดียร์ ไม่คิดจะมีคุณหนูอีกซักคนเหรอคะ”“ไม่ล่ะค่ะป้า เดียร์ผ่าคลอดน่ะค่ะคุณหมอบอกว่าถ้าท้องอีกอาจจะเสี่ยงแท้งต้องยุติการตั้งครรภ์ค่ะ เดียร์แพ้ยามากค่ะ โดยเฉพาะยาชากับยาสลบ”“ตายจร
โรงพยาบาล“ทำไมต้องวางยาสลบเธอด้วยล่ะครับหมอ ปกติแค่ผ่าคลอดให้แค่ยาชาก็ได้นี่นา” คนตัวสูงเอ่ยถามคุณหมอขณะที่กำลังวุ่นวายกันอยู่ภายในห้อง“คนไข้แจ้งมาล่วงหน้าแล้วนะครับว่าแพ้ยาชา และการวางยาสลบแบบนี้มันจะปลอดภัยดีกว่านะครับ ถ้าคนไข้มีอาการแทรกซ้อนขณะที่กำลังผ่าคลอด อาจจะทำให้เป็นอันตรายทั้งแม่และเด็กได้ครับ”“เธอกับลูกจะปลอดภัยใช่ไหมครับหมอ มีกับลูกของผมจะปลอดภัยใช่ไหมครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงสั่นคลอน กลัวว่าลูกและภรรยาจะเป็นอะไรไป ถึงจะรู้มาบ้างว่าเธอแพ้ยา แต่ก็ไม่คิดว่าเธอจะแพ้หนักขนาดนี้ และคำพูดของเดียร์พี่เคยพูดเอาไว้ก็ลอยเข้ามาในหัวของเขาทันที ( ตอนที่ฉันผ่าคลอดน้องไทเกอร์ ฉันแพ้ยาชาหนักมากจนหัวใจของฉันหยุดเต้นไปหลายครั้ง แต่ฉันก็กลับมาได้ในที่สุด )“ครับผม หมอรับรองครับว่าภรรยาและลูกของคุณจะต้องปลอดภัย”“…” ถึงคุณหมอจะยืนยันและรับรองแบบนั้น ก็ไม่ได้ทำให้เขาสบายใจอยู่ดีคิงส์ยืนรออยู่หน้าห้องผ่าตัดอย่างใจจดใจจ่อ รอคุณหมอออกมาบอกข่าวดีกับเขาเวลาต่อมาแกร่ก~ประตูสีขาวบานใหญ่ถูกเปิดออกตามด้วยร่างสูงที่ใส่ชุดกาวน์ปิดหน้าปิดตาเดินออกมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของคิงส์“เมียกับลูกของผมเป็น
หลายวันต่อมา“อืม…”“เป็นยังไงบ้าง สบายดีไหมแบบนี้” คิงส์เอ่ยถามภรรยาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน พลางไล่บีบนวดตามขาให้เธอบรรเทาอาการปวด“ดีขึ้นเยอะเลยล่ะ เฮ้อ..”“เมื่อไหร่จะคลอดครับลูกสาวพ่อหืม…พ่อตั้งหน้าตั้งตารอแล้วนะ รีบๆ ออกมานะครับ” ว่าแล้วก็พลางลูบที่ท้องใหญ่ไปมา“โอ๊ะ!?” เดียร์ร้องอุทานเพราะตกใจที่ลูกในท้องถีบอย่างแรงเมื่อคิงส์พูดจบ ราวกับว่ารับรู้ได้และอยากออกมาเต็มทนแล้ว เพียงแต่ยังไม่ครบกำหนดที่จะออกมาเท่านั้น“เป็นไร! จะคลอดเหรอ?” คิงส์เอ่ยถามด้วยความตกใจ เมื่อได้ยินเสียงร้องของภรรยา“เปล่า ลูกดิ้นอะ ดิ้นแรงเลย” เดียร์บอก“เหรอ ขอจับหน่อยนะ” คิงส์เลื่อนมือไปสัมผัสกับหน้าท้องของเธออีกครั้ง เพราะอยากจะรับรู้ถึงความเคลื่อนไหวภายในนั้น “ดิ้นจริงด้วย ดูสิถีบมือฉันใหญ่เลยอะ”เขาเอ่ยขึ้นด้วยความดีใจเมื่อสัมผัสได้ถึงสิ่งมีชีวิตในท้องใหญ่ของเธอ ดวงตาคมแดงก่ำราวกับคนกำลังจะร้องไห้ มือหนาก็ยังเลื่อนสัมผัสไปมาอยู่แบบนั้น“สงสัยแกจะได้ยินสิ่งที่คุณพูดนะ ดิ้นใหญ่เลย”“เหรอ…รีบๆ ออกมานะครับ พ่ออยากอุ้มอยากหอมแก้มหนูจะแย่แล้ว”ก๊อก ๆ ๆ ๆ“คุณพ่อคุณแม่ครับ นอนหรือยังครับ” เสียงเล็กๆ ด้านนอกตะโก
หกเดือนต่อมาเดียร์ Talkตอนนี้ท้องของฉันมันใหญ่ขึ้นมากเลยแหละ ไม่ได้ลูกแฝดหรอกแต่ได้ลูกผู้หญิงสมใจอยากคุณพ่อเขาเลย พี่ชายก็อยากได้น้องผู้หญิงเหมือนกัน เห็นบอกว่าอยากเป็นพี่ชายคนโตอยากคอยดูแลน้องสาว แต่อายุห่างกันพอสมควรเลยล่ะ กว่าคนในท้องจะคลอดน้องไทเกอร์ก็ปาไปหกขวบแล้ว พี่ชายกับน้องสาวอายุห่างกันหกปีเลยทำไงได้ล่ะ ก็มันมีแต่เรื่องวุ่นวายนี่นา กว่าจะสงบลงได้ก็สาหัสเหมือนกันนะ“อื้ม…ปวดขาจัง” ฉันบ่นพึมพำพลางทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา ก่อนจะเอนตัวในท่าที่สบายที่สุด ท้องของฉันมันใหญ่มากทำอะไรก็ลำบากไปหมด ใหญ่กว่าน้องไทเกอร์อีก แต่อาจจะเป็นเพราะน้องไทเกอร์เป็นท้องแรกก็เลยไม่ใหญ่เท่าไหร่“รับของว่างมั้ยคะคุณเดียร์ เดี๋ยวป้าให้เด็กจัดมาให้”“ขอบคุณค่ะป้า” ฉันไม่ได้แค่ท้องใหญ่อย่างเดียวนะ ยังหิวตลอดเวลาอีกด้วยกินเยอะมาก“สักครู่นะคะ”“ค่ะป้า”วันๆ ฉันทำได้แค่นั่งเล่นอยู่ภายในห้อง ออกไปเดินเล่นตามในสวนบ้างเป็นบางครั้ง คิงส์ไม่ยอมให้ฉันเดินออกไปไหนโดยที่ไม่มีเขาไปด้วย เพราะกลัวว่าฉันจะไปลื่นล้มเกิดอุบัติเหตุแล้วเป็นอันตรายแต่ความจริงฉันก็ไม่อยากเดินออกไปไหนหรอก เพราะมันลำบากไหนจะปวดขาอีก เดินก้าวไป
อ้วกก อ้วกก อ้วกกนี่คือเสียงของคิงส์ที่กำลังมีอาการแพ้ท้องแทนเมียอย่างหนัก ชนิดที่ว่าไม่เป็นอันกินอันนอนกันเลยทีเดียว เขาอยากมีลูกอีกคนมากตอนนี้ก็สมใจอยากผู้เป็นพ่อแล้ว แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการแพ้ท้องแทนเมียอย่างหนักหน่วง กินอะไรก็แทบจะไม่ได้ แค่ได้กลิ่นอาหารก็อ้วกพุ่งแล้ว กินได้แค่ของเปรี้ยวๆ เท่านั้นที่จะบรรเทาจากอาการพวกนี้“เป็นยังไงบ้างเนี่ยคุณ” เดียร์เข้ามาถามผู้เป็นสามีที่กำลังนั่งหมดแรงอยู่ข้างโถส้วมด้วยความเป็นห่วง ถ้าเทียบกับอาการแพ้ท้องของเธอตอนที่ท้องลูกคนแรกยังถือว่าเบามากกับลูกคนนี้“อืม…ไหวฉันไหว..” คิงส์ทำมือเป็นรูปโอเคส่งให้ภรรยาดู เพราะตอนนี้แทบจะไม่มีเรี่ยวแรงโต้ตอบกลับแล้ว “ไอ้สังกะสีมัน…เอามะม่วงขึ้นมาให้หรือยัง”“ใกล้แล้วๆ ออกมานั่งข้างนอกก่อนสิ”“อืม…”“ค่อยๆ นะ” เดียร์เข้าไปพยุงร่างใหญ่ให้ออกมานั่งข้างนอกหลังจากที่รู้ว่าตัวเองนั้นกำลังท้องเธอก็แข็งแรงดีทุกอย่างไม่มีความผิดปกติอะไร มีเพียงคิงส์เท่านั้นที่แพ้ท้องเป็นแทนเธอทุกอย่าง“ไอ้สังกะสีมันไปเอามะม่วงถึงไหน ทำไมไปนานจังเลย” คิงส์เริ่มบ่นและก็เริ่มมีอาการหัวเสีย เพราะลูกน้องไม่ได้ดั่งใจ“ใจเย็นก่อนสิ เดี๋ยววาป
หลายวันถัดมาคิงส์ Talkจะว่าผมเร่งมีลูกก็ได้นะครับ แต่ผมก็อายุปานนี้แล้วนี่นาความจริงน่าจะมีลูกอายุเป็นสิบขวบเหมือนกับไอ้ครามได้แล้ว นี่ลูกชายคนโตของผมอายุแค่ห้าขวบเองแต่อายุผมปาไปสามสิบกว่าแล้ว ทำไมผมไม่คิดได้ตั้งแต่แรกนะว่าการมีลูกมันดีขนาดไหน มาคิดได้ก็จนตัวเองจะแก่แล้ว ผมอยากมีลูกสาวอีกสักคนนึงหรือจะเป็นลูกชายก็ได้ หรือจะเป็นแฝดก็ดี ผมได้หมดอะครับตอนนี้ ขอแค่มีผมอยากอุ้มเด็กตัวเล็กๆ เพราะตอนน้องไทเกอร์ผมก็ไม่มีโอกาสได้เจอหรือได้เห็นเลยมารู้อีกทีก็โตแล้ว ผมอยากดูแลตอนที่เดียร์เธอกำลังท้อง ผมรู้ว่ามันทดแทนกันไม่ได้ แต่ผมก็อยากจะทำให้เธอได้รู้ว่าผมใส่ใจเธอมากแค่ไหน ผมพร้อมจะดูแลเธอมากแค่ไหน ผมจะไม่ทำให้เธอต้องรู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยวอีกแล้ว ผมจะคอยอยู่ข้างๆ เธอ ไม่ทิ้งเธอไปไหนผมรู้ว่าการที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะต้องอุ้มท้องจนกว่าจะคลอดและเลี้ยงลูกคนเดียวมันรู้สึกยังไง ผมยอมรับเลยว่าเธอเก่งมากที่ผ่านจุดนั้นมาได้เธอเก่งมากครับ ไม่แปลกเลยที่น้องไทเกอร์จะรักเธอมากขนาดนี้“คุณพ่อคร้าบ โดดมาเร็ว”“ครับผม” ผมตะโกนตอบลูกชายไป ตอนนี้ผมพาเดียร์กับลูกมาเที่ยวอยู่ที่ทะเล ก่อนที่โรงเรียนของแกจะเปิด