แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าสาดส่องเข้ามาผ่านทางม่านหน้าต่าง นิดาค่อยๆ ปรือตามขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอเห็นคือใบหน้าของพี่หนุ่มที่กำลังหลับอยู่รอยยิ้มปรากฏขึ้นมาที่มุมปาก เธอมองหน้าเขานิ่งๆ อยู่หลายนาทีก่อนที่จะลุกขึ้นจากที่นอนแล้วเดินลงไปด้านล่าง“คุณดา..จะรับมื้อเช้าเลยไหมครับ”ลุงแหวนทักทายเธอด้วยน้ำเสียงสดใส ราวกับการที่เธออยู่ที่นี่เป็นเรื่องที่ลุงแหวนเคยชินซะแล้ว“หนูยังไม่ค่อยหิวเลยค่ะ เดี๋ยวรอพี่หนุ่มตื่นก่อนค่อยมาทานพร้อมกันดีกว่า”ลุงแหวนส่งยิ้มพร้อมกับยื่นแก้วกาแฟมาให้เธอ“เช้าๆ แบบนี้ออกไปเดินชมสวนได้นะครับ สวนด้านหน้าคุณหนุ่มทั้งปลูกและดูแลเองเกือบจะทั้งหมดเลย”เธอจำได้ว่าเคยฟังเขาพูดเหมือนกันว่าอยากจะเป็นคนสวนที่ทำสวนดอกไม้..ความฝันของเขามันไม่เหมาะสมกับเขาเลย ถึงความคิดแบบนั้นจะไม่น่ารักเท่าไหร่ แต่การที่เธอได้มองเห็นเขาพับแขนเสื้อเชิ้ตสีขาวขึ้นมาแล้วชี้นิ้วสั่งงานด้วยสายตาที่มุ่งมั่นและแน่วแน่ พี่หนุ่มในแบบนั้นมันหล่อมากๆ ในสายตาของเธอเลยนี่นิดาเดินออกมาจากบ้านมาเรื่อยๆ ที่สวนด้านหน้าบ้าน ที่นี่ไม่ใช่โครงการบ้านอะไรทั้งนั้น แต่เป็นบ้านเดี่ยวใจกลางเมืองที่มีสวนขนาดใหญ่อยู่หน้าบ้าน
นักเขียนนิยายงั้นเหรอ..เอเดนมองหน้าของแฟนเก่านิดาที่ยังคงพล่ามถึงเธอไม่หยุดหย่อน ผู้ชายที่น่ารังเกียจที่สุด คือผู้ชายที่ไม่ให้เกียรติผู้หญิง ถึงแม้ว่าจะเลิกรากันไปแล้ว แต่ทำไมถึงได้กล่าวคำที่ดูเหมือนกับดูถูกนิดาอยู่เอาล่ะ เขาไม่ชอบหมอนี่เลยจริงๆ“ขอบคุณนะครับที่มาส่ง..”สายตาของเอเดนเหลือบไปมองที่ผ้ากันเปื้อนของเขา มันเป็นชื่อร้านกาแฟที่อยู่ตรงข้ามที่นี่อ๋อ เป็นเจ้าของร้านกาแฟสินะเอเดนเลือกที่จะไม่สนใจแฟนเก่าของนิดาที่กำลังเดินจากไป เขารีบร้อนเดินไปที่ห้องทำงานของเขาในทัน และเมื่อเดินเข้ามาด้านในก็เห็นนิดาที่กำลังเขียนบางอย่างลงในสมุดจดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“สวัสดีค่ะพี่เอ วันนี้มีประชุมด้วยนะคะ คงจะไม่ได้กลับบ้านง่ายๆ แน่นอน”“เรื่องนั้นพี่เอื้อบอกผมแล้ว ผมก็เลยเตรียมหมอนกับผ้าห่มมา”“....”เธอไม่ได้หมายความว่าเขาจะได้นอนสักหน่อยโว้ย ทว่าเขาที่มักจะเย็นชากลับหยิบขนมออกมาจากกระเป๋าเสื้อ มันคือชอคโกแลตแท่งเล็กๆ แท่งหนึ่งเอเดนวางมันบนแลปทอปของเธอ ก่อนที่เขาจะเดินไปยังโซฟาแล้วหยิบเครื่องเล่มเกมขึ้นมาเล่นขนมนี่..เขาเอามาให้เธองั้นเหรอ เหลือเชื่อเลยแฮะนิดาหัวเราะเบาๆ“ขอบคุณนะคะ”เธ
นิดาคุกเข่าลงบนพื้น เธอช้อนสายตามองหน้าของเขาอีกครั้ง และเมื่อเราทั้งสองสบตากันมันเหมือนกับว่าโลกใบนี้มีเพียงแค่เราสองคนเท่านั้นเธอยกมือขึ้นมารูดรั้งแท่งกายขึ้นลงด้วยฝ่ามือสองสามครั้ง ก่อนจะใช้ปลายลิ้นสัมผัสด้วยความแผ่วเบาบนส่วนปลายมน เธออ้าปากเพื่อครอบครองส่วนที่ใหญ่โตที่สุด พร้อมกับใช้ปลายลิ้นไล่เลียไปบนลำแท่ง ในส่วนที่ริมฝีปากไม่อาจครอบครองหมด นิดาก็ใช้มือในช่วย เธอขยับฝ่ามือรูดรั้งแก่นกายไปพร้อมๆ กับจังหวะของปลายลิ้นที่ไล้เลีย“อา..แรงกว่านั้นนิดา ตรงส่วนปลายดูดมันแรงๆ เลยสิ”นิดาหลับตาลงพร้อมกับทำตามคำสั่ง ทว่าดูเหมือนว่าเธอจะทำไม่ได้ดั่งใจของเขาหนุ่มจับกดศีรษะให้ก้มลงต่ำ เพื่อแทรกลำเอ็นเข้าไปในโพรงปากอุ่นให้ลึกยิ่งขึ้นเมื่อได้รับสัมผัสที่แสนวาบหวามมันเหมือนกับว่าสัญชาตญาณความดิบเถื่อนในใจถูกปลุกขึ้นมาเขาหงุดหงิดเล็กน้อยที่เรามีเวลาไม่นานอย่างที่ใจต้องการ เพราะแบบนั้นทำให้เขาไม่อาจมานั่งเพลิดเพลินและมองใบหน้าที่สะกดสายตาของนิดาได้เขาผลักเธอออกเบาๆ เพื่อให้นิดาหยุดการกระทำก่อนที่เขาจะอุ้มเธอมาวางเอาไว้บนโซฟาเธอหายใจหอบเหนื่อยและน้ำลายบางส่วนก็ไหลเปรอะเปื้อนอยู่ที่มุมปาก เขาบ
เมื่อเขาเดินเข้ามาในห้องประชุม เสียงพูดคุยก่อนหน้าก็เงียบลงในทันที เขาเดินไปนั่งลงที่หัวโต๊ะ ก่อนจะเริ่มพยักหน้าเพื่อส่งสัญญาณให้ผู้จัดการเอื้อ“อะ..เอ่อ แล้วนิดาไปไหนล่ะคะ พอดีเมื่อครู่เห็นน้องเดินมากับบอส”“นิดาป่วย ผมเลยให้ไปพัก เรามาเริ่มมอบหมายหน้าที่กันเถอะ..ทั้งเรื่องการจัดวางดอกไม้และจัดโต๊ะเก้าอี้ งานนี้งานใหญ่มากนะ ผมไม่อยากให้มีการผิดพลาด”พี่เอื้ออมยิ้ม ไม่ว่าจะงานไหนบอสก็ไม่ยอมให้มีการผิดพลาดทั้งนั้นแหละ ว่าแต่พานิดาไปซ่อนเอาไว้แบบนี้ มันหมายความว่ายังไงกันนะดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของทั้งนิดาและบอสจะไปได้ดีมากเลยบรรยากาศในห้องประชุมนั้นเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด ถึงแม้ว่าจะเป็นงานที่เคยทำมานับครั้งไม่ถ้วนแต่บอสก็ยังเข้มงวดเหมือนเดิม“เอาตามนี้ก็แล้วกัน พรุ่งนี้เจอกันหน้างานนะ เอเดน..แกอยู่รอคุยกับอาก่อนสิ”ทุกคนล้วนแล้วแต่เดินออกไปเหลือเอาไว้แค่เอเดนเพียงคนเดียว“ว่าไงครับ จะมาย้ำเรื่องที่ผมใกล้ชิดว่าที่แฟนของอามากไปอีกรอบรึไง”หนุ่มมองหน้าของเอเดน ด้วยสายตานิ่งๆ“ใช่ อย่าได้คิดเลยเอเดน แกจะเหนื่อยเปล่า มีผู้หญิงอีกมากมายที่ถูกใจแกมากกว่านิดา อย่าคิดว่าอาไม่รู้ว่าสายตาขอ
เขามองรอยยิ้มของเธอด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง ดวงตาสีนิลพลันขุ่นมัวขึ้นมา หนุ่มรวบรวมสติที่เหลืออยู่ของเขาส่งยิ้มให้กับนิดา“พี่ว่าวันนี้พี่รู้สึกเหนื่อยมากเลย เราแยกย้ายกันกลับบ้านเถอะ”เขา..กลัวว่าตัวเองจะแสดงท่าทางเจ็บปวดออกมาเพราะเรื่องของเอเดน กลัวว่าเธอจะมองว่าเขามันไร้สาระนิดาเดินเข้ามาหาเขา เธอยกมือขึ้นมาแตะลงบนหน้าผากของพี่หนุ่มเบาๆการประชุมอาจจะกดดันมากสินะ“ให้หนูขับรถไปส่งไหมคะ เหนื่อยแบบนี้ก็ต้องมีคนคอยดูแลสิ เดียวหนูไปค้างที่บ้านพี่..”“ไม่เป็นไรดา! วันนี้..พี่อยากอยู่คนเดียว!!”รอยยิ้มค่อยๆ จางหายไปจากใบหน้าของนิดา เธอได้แต่ลดสายตามามองมือตัวเองเงียบๆ“อ่า พี่คงจะเหนื่อยมากๆ แบบนั้นเรากลับกันเถอะค่ะ ขับรถดีๆ นะคะ หากว่าถึงบ้านแล้วส่งข้อความมาบอกหนูด้วยนะ”วันนี้เขาอาจจะเหนื่อยจริงๆ เอาไว้..ค่อยหาโอกาสบอกเขาวันอื่นก็ได้“อื้อ ดาเองก็กลับบ้านดีๆ นะ เดี๋ยวพี่โทรไป”เธอมองหน้าของบอสเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเป็นฝ่ายเดินออกมาจากห้องทำงานของเขาก่อนทำไมกันนะ ทำไมถึงรู้สึกเหมือนกับว่ามีมือที่มองไม่เห็นกำลังพยายามแยกเราออกจากกันเลย เพราะว่าเธอไม่ให้ความชัดเจนกับเขางั้นเหรอ?ความน้อยใจซ
“.....”ทุกสายตาที่กำลังมองหน้าของนิดาอยู่นั้น ถึงกับพูดไม่ออก นีน่ายกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาโดยที่เธออ้าปากค้างด้วยความตกใจส่วนพี่เอื้อยกมือขึ้นมาปิดปากเอาไว้ คนอื่นๆ มีสภาพที่ตกใจไม่ต่างกัน แม้แต่บอสเอง..เขาก็ตกใจมากๆ เหมือนกัน และตอนนี้ในใจกำลังปรับอารมณ์ไม่ถูกเลย ก่อนหน้านี้เขารู้สึกเจ็บปวดและสิ้นหวังเรื่องที่เธอบอกกับเอเดนว่าเป็นนักเขียนนิยายแต่ไม่บอกเขา หลังจากนั้นพองานเกิดปัญหาเขาก็กำลังโกรธจนเลือดขึ้นหน้า และตอนที่เธอวิ่งเข้ามากอดเขาไม่จะเป็นความเจ็บปวดหรือว่าความโกรธมันล้วนแล้วแต่จางหายไปหมดเลย“ที่บอสเงียบ บอสจะไม่เป็นแฟนกับหนูแล้วอย่างนั้นเหรอคะ บอสไม่ชอบหนูแล้วใช่ไหม?”เขายกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาที่เอ่อล้นอยู่บนหางตาของเธอเบาๆ“อะไรทำให้เราคิดแบบนั้น”“ก็ก่อนหน้านี้บอสโกรธที่หนูไม่ยอมให้สถานะที่ชัดเจนกับบอสนี่คะ”หนุ่มยกมือขึ้นมานวดหว่างคิ้วเบาๆ เขาผ่อนลมหายใจยาวผ่านปลายจมูกด้วยความโล่งอกเราต่างก็กำลังเข้าใจผิดกัน ทั้งเขาและเธอ เรื่องมันเกิดขึ้นมาเพราะว่าเราไม่ยอมมาคุยกันดีๆคนผิดเรื่องนี้มันคือเขาอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ราวกับเชือกที่บิดปมเอาไว้ค่อยๆ คลายออก“ไม่ใช่แบบนั้นเลยครับ
“หนูมีความฝัน และอยากจะเดินตามความฝันนั้นด้วยความคิดที่แน่วแน่ แต่ในวันที่หนูบอกกล่าวความฝันของตัวเองกับพ่อแม่ พวกท่านเอาแต่หัวเราะไม่หยุดเลย”อ่า..เหมือนว่าเขาจะเข้าใจถึงความกังวลของเธอแล้วละสิ“เพราะแบบนั้นหนูถึงได้เลือกที่จะเก็บเรื่องนี้มาโดยตลอดเลย หนูเคยบอกกับพี่ไปแล้วว่าหนูพยายามทำงานอย่างหนัก เพื่อให้ไม่ต้องกังวลกับเรื่องการเงิน ให้มีเงินเก็บสักก้อน..เพื่อที่หนูจะได้ทำตามความฝันของตัวเองในวันที่ไม่มีเรื่องอะไรต้องมาคอยกังวล”“เราเก่งมากกว่าที่คิดอีกนะ..พยายามได้ดีมากๆ เลย”เธอมองหน้าเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความประหม่า ปลายนิ้วสั่นเทาด้วยอาการหวาดหวั่น“แต่หนูไม่ได้เขียนนิยายความรัก หนูหลงใหลและชื่นชอบการเขียนนิยายอีโรติก บอกเล่าเรื่องความรักผ่านการกระทำบนเตียงมากกว่าคำพูด หนูเป็นนักเขียนนิยายอีโรติกค่ะ ไม่ใช่นักเขียนนิยายความรัก!”สองมือของเธอถูกกอบกุมด้วยมือใหญ่ของเขาอย่างอ่อนโยน พร้อมกับตบที่หลังมือเบาๆ“พี่ไม่เห็นว่าการนักเขียนของเรามันจะแปลกตรงไหนเลย ชีวิตของพี่เหมือนกับมีคำสาปติดตัวมาให้พี่จะต้องเหงาและมีความรักไม่ได้ เพราะไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะชอบผู้ชายที่ส่วนนั้นจะใช้กา
หน้างานวันนี้คือการจัดงานแต่งแสนอลังการงานสร้างของลูกสาวท่านเจ้าสัว เจ้าของโครงการหมู่บ้านกว่าหมื่นล้าน..เรื่องงบไม่มีจำกัดทางลูกค้าต้องการความสวยที่เหมือนกับเทพนิยาย ชุดเจ้าสาวสีขาวที่ไม่เหมือนชุดเจ้าสาวทั่วๆ ไปเพราะว่าเป็นชุดที่ปักด้วยมุกขนาดต่างๆ ตกแต่งชายด้วยลูกไม้ เป็นชุดเจ้าสาวแขนยาวแต่มีโชว์หลังเล็กน้อย ดูเรียบหรูสมเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่ดอกไม้ในวันนี้เน้นสีแดงชมพูเป็นหลัก นี่คือการทำงานที่เหนื่อย เหนื่อยมากๆ การจัดดอกไม้ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่ว่าจะจับดอกไม้แต่ละชนิดมาปักมั่วๆ ได้ แต่ละดอกจะต้องมีความเชื่อมโยงกัน..กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีก็มีมือมาโอบเอวเธอเอาไว้“มื้อเย็นมาแล้วครับ”“อ่า หนูลืมเรื่องทานข้าวไปเลย โชคดีจังเลยนะคะที่มีแฟนมาคอยเตือน หากรู้ว่ามีแฟนแล้วดีแบบนี้หนูมาจีบบอสไปตั้งนานแล้ว”เขาหัวเราะเบาๆ ก่อนจะบีบจมูกของเธอ“ไปทานเถอะ แล้วรีบมาทำต่อ ถึงจะเป็นแฟนแต่เรื่องงานผมไม่อ่อนข้อให้หรอกนะครับ”นิดาหุบยิ้มในทันที“ทราบแล้วค่ะบอส ตอนนี้เป็นบอสใช่ไหมคะ แบบนั้นกลับบ้านไปก็เป็นบอสนะคะห้ามมาเป็นแฟน หนูจะให้พี่นอนนอกห้องเลยเคยดู”พี่เอื้อมองหน้ากับนี่น่า พร้อมกับหัวเราะออกมาเ
“จะยังไม่ออกผลงานเล่มห้าจริงๆเหรอคะคุณนักเขียน นักอ่านถามหากันมาเยอะมากๆ เลยนะคะ หากว่าคุณนักเขียนออกเล่มห้ามาในตอนนี้จะต้องขายหมดตั้งแต่วันแรกแน่ๆ”นิดาหัวเราะเบาๆ เมื่อปลายสายกล่าวมาเช่นนั้น“หนูว่าจะหยุดออกผลงานสักสามปีค่ะ เพราะว่าตอนนี้กำลังทำตามความฝันที่สองอยู่ ขอบคุณบรรณาธิการมากเลยนะคะที่นึกถึงหนูตลอด..”“ไม่เป็นไรค่ะคุณดา ยังไงก็รักษาสุขภาพด้วยนะคะ”นิดายกยิ้ม เธอวางโทรศัพท์เอาไว้บนโต๊ะก่อนจะตรงเข้าไปอุ้มเด็กชายวัยสามขวบมากอดเอาไว้เพราะดูเหมือนว่าเขาพึ่งจะตื่นนอน“แม่มาแล้วครับอีธาน นอนนานมากๆ เลยนะ รู้ด้วยรึไงว่าพ่อกำลังจะกลับมา..”ลูกชายของเธอนั้นไม่มีส่วนไหนเลยที่เขาเหมือนเธอ ดวงตาสีนิลที่เหมือนกับพ่อของเขายังกับแกะ“นิดา ขออุ้มเจ้าตัวเล็กหน่อยสิ”คนที่แวะมาหาเธอบ่อยมากกว่าใครๆ คือคุณแม่ของพี่หนุ่ม คุณย่าเห่อหลานตัวน้อยมากทีเดียว“ดูเขาสิ ย่าจะอุ้มไม่ไหวอยู่แล้ว”นิดาส่งยิ้มพร้อมกับมองคุณย่าและหลานที่กำลังเล่นกัน เธอเดินตามความฝันของตัวเองด้วยการเขียนนิยายภาคต่ออีกสามเล่ม เล่มสองถึงสี่ ด้วยระยะเวลาสองปีเต็มๆ และเมื่อเธอคลอดอีธานออกมาเธอก็อยากจะทุ่มเทเวลามาดูแลลูกก่อนเพราะ
“สวัสดีค่ะ หนูชื่อนิดาหรือเรียกสั้นๆ ว่าดาก็ได้ค่ะ หนูเคยมาฝึกงานที่นี่เมื่อสามเดือนที่แล้ว ดีใจมากๆ เลยค่ะที่ได้กลับมาทำงานที่นี่อีกครั้ง ฝากตัวด้วยนะคะ”เด็กใหม่ที่เข้ามาทำงานแนะนำตัวสั้นๆ แต่ด้วยรอยยิ้มที่น่าจดจำของเธอมันทำให้เขา..เผลอจ้องมองเธอไปโดยไม่รู้ตัวเลย“ยินดีต้องรับนะนิดา จากนี้ไปก็ใช้ความสามารถของเธอให้เต็มที่ได้เลย”แม่ของเขากล่าวสั้นๆ พร้อมกับตบไหล่ของนิดาเบาๆ หนุ่มก้มมองโทรศัพท์ที่มีการแจ้งเตือนของเพื่อนที่จะนัดกันไปดื่มเขาเลือกที่จะไม่ตอบเพราะว่าไม่ค่อยชอบเข้าสังคมสักเท่าไหร่ อีกทั้งปีหน้าเขาจะต้องมารับช่วงที่นี่ต่อจากแม่แล้วเขาไม่อยากใช้เงินของพ่อและเพราะแบบนั้นเขาจะทำให้ที่นี่โด่งดังและได้รับการยอมรับจากเจ้าสาวทุกคนที่กำลังจะแต่งงาน“ตรงนั้นยังดูเหมือนขาดอะไรไป นี่เธอตั้งใจทำงานจริงๆ ไหมเนี่ย แค่นี้ก็ดูไม่รู้เรื่องงั้นเหรอว่ามันยังขาดความสมดุลของดอกไม้”“ขะ..ขอโทษค่ะบอส”“ขอโทษงั้นเหรอ ขอโทษแล้วงานมันกลับมาดีขึ้นไหมละ ไปแก้ไขสิ เรื่องแค่นี้ก็จะต้องให้บอกด้วยรึไง”นิดามองเพื่อนร่วมงานที่ตัวสั่นเทาจากการถูกดุ เธอเดินเข้ามาก่อนจะหยิบดอกไม้ที่จัดแล้วออกมา“ใจเย็นๆ นะ
นิดากวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องทำงานของเธอ เธออยู่ที่นี่มานานหลายปี เข้ามาทำงานตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ ทุ่มเทเวลามากมายไปกับการทำงาน แต่ตอนนี้จะต้องเดินออกไปจากห้องที่นั่งทำงานมาหลายปี “จะมาอาลัยอาวรณ์อะไร รีบๆ เก็บของได้แล้วเพราะว่าห้องนี้มันจะเป็นของพี่แล้ว” นิดาส่งยิ้มให้กับเอเดน “พี่จะทำงานได้สักกี่เดือนกันคะ เดี๋ยวก็ต้องกลับไปนั่งในตำแหน่งบอสของบริษัทไอทีแล้ว” เอเดนทำท่าครุ่นคิด “อาจจะนานมากกว่าที่เธอคิด พอดีพี่มีงานที่อยากเรียนรู้จากอาอีกมาก..” “สู้ๆ นะคะ พี่ทำได้อยู่แล้ว แค่ลดความขี้เกียจลงนิดหน่อย” “นี่เธอ..” นิดารีบยกกล่องกระดาษขึ้นมาเมื่อเอเดนทำท่าว่าจะด่าเธอ เดี๋ยวเอาของไปเก็บที่คอนโดเสร็จแล้วต้องออกเดินทางไปต่างจังหวัดเลย เพราะว่าจะต้องไปจัดดอกไม้ที่นั่น ถึงจะลาออกแต่ก็มีงานที่เธอต้องทำให้เสร็จอีกสองงาน นิดาเดินออกมาข้างนอกก็พบเจอกับพี่เอื้อและคนอื่นๆ ในบริษัทที่ยืนรอเธออยู่ “พี่ดีใจที่ได้ร่วมงานนะ และดีใจล่วงหน้าเลยกับเรื่องของบอส” “ขอบคุณค่ะพี่เอื้อ ขอบคุณที่เอ็นดูหนูแล้วก็สอนงานหนูมาตลอด” พี่เอื้อเดินเข้ามากอดนิดาเอาไว้หลวมๆ “การขอบคุณที่ดีที่สุดคือการบอกบอสให้เพิ
งานแต่งที่สองของเดือนจบไปอย่างสวยงาม และตอนนี้หนุ่มกำลังออกไปดูสถานที่ของงานที่สามในเดือนนี้ งานสุดท้ายจะเป็นงานแต่งคุณพิมน้องสาวของพราว“ลูกค้าต้องการงานแบบไหนครับ..”พี่เอื้อส่งยิ้มให้กับบอส พร้อมกับส่งกระดาษที่เป็นรายละเอียดของงาน“เจ้าสาวต้องการงานแต่งแบบในสวนหลังบ้านที่เป็นกันเอง เพราะตั้งใจจะเชิญแค่เพื่อนและคนในครอบครัวมาเท่านั้นค่ะ สิ่งที่ลูกค้าต้องการคืองานแต่งท่ามกลางสวนดอกไม้”ที่นี่สวยมากๆ เลย เป็นสวนโรงแรมที่ตั้งอยู่บนภูเขา ไม่บ่อยนักที่เขาจะออกเดินทางมาต่างจังหวัดเพื่อจัดงานแต่งงานถ้านิดามาเห็นอากาศที่นี่จะต้องชอบมากแน่ๆ เลย หากว่าจัดงานเสร็จแล้วเขาน่าจะพาเธอไปเที่ยวแถวๆ นี้สักหน่อยเพราะไหนๆ ก็เดินทางออกมาต่างจังหวัดแล้ว“ตามที่ออกมาแบบมาก็ถือว่าสวยตรงกับที่ลูกค้าต้องการแล้วครับ”“ฝีมือของนิดาก็แน่อยู่แล้วค่ะบอส นิดามาเปรยๆ เอาไว้แล้วว่าจะลาออก..หากว่านั่นมันเป็นความต้องการของนิดา เอื้อก็ไม่ขัดหรอกค่ะ แต่อดเสียดายฝีมือของนิดาไม่ได้ หวังว่าบอสจะแอบพานิดามาช่วยงานที่บริษัทบ่อยๆ นะคะ”บอสยกยิ้มขึ้นมา เมื่อพูดถึงนิดาแววตาของเขามักจะอ่อนโยนเสมอเลย นี่คืออาการของคนคลั่งรักสินะ
นิดาอยู่ที่บ้านของพี่หนุ่มตลอดระยะเวลาห้าวันที่เธอและเขาหยุดงาน แม่ของเขาน่ารักมากๆ เลย คุณแม่ชอบอ่านนิยายมากๆ แถมยังสนับสนุนให้เธอเขียนนิยายต่อไปอีกด้วยท่านไม่ได้มองว่ามันไร้สาระ แต่กลับมองว่ามันคือความสามารถที่มีไม่กี่คนหรอกที่สามารถทำได้“อา พอหยุดงานยาวๆ แล้วไม่ชินเลยนะคะที่จะต้องไปทำงาน”หนุ่มลูบผมของนิดาเบาๆ โดยที่อีกมือยังขับรถอยู่“ก็พี่บอกแล้วให้เราลาออก พี่จะเลี้ยงดูเราเอง”นิดาหรี่ตามองหน้าเขา“นี่พี่พูดจริงเหรอคะ อันที่จริงหนูมีความฝันอีกอย่างที่ไม่เคยบอกใครมาก่อนเหมือนกัน หนูอยากเป็นแม่ค่ะ อยากมีลูกน่ารักๆ ทำกับข้าวเพื่อรอสามีกลับมาจากทำงาน ตอนเช้าก็ส่งลูกไปโรงเรียน..แต่ความฝันนี้มันทำคนเดียวไม่ได้เพราะแบบนั้นหนูก็เลยกำลังพยายามตามหาคนที่จะมาร่วมสร้างความฝันไปด้วยกัน”เขาปรายตามองหน้าเธอ“พูดเหมือนจะขอแต่งงานเลยนะ..หน้าที่การขอแต่งงานมันหน้าที่พี่ต่างหากเล่า”นิดาหัวเราะเบาๆ“โอ้ นี่หนูกำลังทำเกินหน้าที่ของตัวเองอยู่ใช่ไหมคะ น่าอายจังเลยน้า”พูดคำว่าน่าอายทั้งที่ทำหน้าระรื่นแบบนั้นเนี่ยนะ น่าจับถอดเสื้อผ้าแล้วตีที่ก้นแรงๆ สักทีจริงๆ เลยวันเสาร์ที่ผ่านมาเธอออกไปพบเจอกับพ
เมื่อได้ยินคำกล่าวของคุณพราว รสขมเฝื่อนก็ผุดขึ้นมาในอกอย่างบอกไม่ถูกเลย เธอไม่ชอบใจกับคำสารภาพรักของแฟนเก่าพี่หนุ่มเลยสักนิดให้ตายเถอะ!!พราวหันกลับมาตามเสียงก็เห็นพี่หนุ่มที่กำลังยืนอยู่พร้อมกับพนักงานในบริษัทของเขา..ริมฝีปากของพราวสั่นเทาอย่างบอกไม่ถูก หลายๆ อย่างมันบอกว่าผู้หญิงที่กำลังยืนอยู่ข้างพี่หนุ่มจะต้องไม่ใช่พนักงานธรรมดาๆ แน่นอน เธอจ้องมองใบหน้าของนิดาด้วยสายตาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ“พราว พี่ไม่มีทางกลับไปหาพราวหรอกนะ พี่มีแฟนใหม่แล้ว”เขายกมือที่กำลังกุมมือของนิดาขึ้นมาให้พราวดูเพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าเขาและนิดาเป็นคนรักกันเธอไม่เคยเสียหน้ามากขนาดนี้ เขาทำให้เธอต้องเสียศักดิ์ศรีถึงสองครั้งสองครา“เหอะ! แล้วแฟนใหม่ของพี่รับได้เหรอคะที่ส่วนนั้นของพี่มันใช้การไม่ได้น่ะ พราวรับได้นะคะพี่หนุ่ม ไม่ว่าพี่จะเป็นยังไงตอนนี้พราวรับได้ทั้งหมดเลย แค่พี่ยอมให้พราวกลับไปหาพี่..”“จริงอย่างที่คุณพราวบอก หนูไม่รู้จริงๆ ค่ะว่าส่วนนั้นของพี่หนุ่มใช้การไม่ได้”พราวแสยะยิ้มออกมาด้วยความเหนือกว่า“เห็นไหมล่ะคะ ไม่มีใครรับเรื่องนี้ได้หรอกค่ะ มีแต่พราวเท่านั้น..”“ที่หนูไม่รู้ว่าส่วนนั้น
หัวใจเต้นรัวราวกับจะทะลุออกจากอก นิดายกมือขึ้นมากุมหัวใจของตัวเองเอาไว้ เธอเดินตามบอสมาเพราะว่าต้องการถามเรื่องดอกไม้ที่เหลือ แต่กลับมาได้ยินเขาคุยกับนายสองแสน..ความอบอุ่นกระทบก้นบึ้งภายในใจ เธอไม่รู้จะบอกว่าตัวเองโชคดีหรือว่าอะไรกันแน่ที่ในวันที่เธอเมามายไม่ได้สติ เป็นเขาที่พาเธอออกไปจากที่นั่น และเป็นเขาที่ไม่ยอมปล่อยมือเธอการจะพบเจอใครสักคนที่รักเราในแบบที่เราเป็นมันไม่ง่ายเลยนะ แต่ว่าเธอหาเขาคนนั้นเจอแล้ว!นิดาตั้งมั่นในใจว่าเธอจะไม่มีทางปล่อยเขาให้หลุดมือไปอย่างแน่นอนเราทุกคนทำงานติดต่อกับเกือบๆ จะสามสิบชั่วโมง และด้วยมือของทุกคนที่ช่วยกันเนรมิตห้องจัดเลี้ยงในโรงแรมออกมาเป็นเหมือนเทพนิยายเลยดอกไม้ที่ประดับตกแต่งเหมือนสวนในพระราชวังที่เจ้าหญิงในนิทานอยู่ ที่ด้านบนมีดอกไม้ห้อยระย้าลงมาเหมือนดวงดาวที่กำลังตกจากฟากฟ้าไม่ว่าจะเห็นสักกี่ครั้งก็ทำใจให้ชินยากเหมือนกันแฮะ มันสวยมากกว่าที่ภาพในหัวคิดซะอีก“อ่า..คุ้มค่ากับการอดหลับอดนอนจริงๆ”พี่เอื้อพูดด้วยดวงตาที่ใกล้จะปิด บอสกำลังคุยกับลูกค้าเพื่อส่งมอบงานและรอแก้ไข แต่ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มของบอส เดาได้เลยว่าลูกค้าจะต้องชอบมากแน่ๆ เ
หน้างานวันนี้คือการจัดงานแต่งแสนอลังการงานสร้างของลูกสาวท่านเจ้าสัว เจ้าของโครงการหมู่บ้านกว่าหมื่นล้าน..เรื่องงบไม่มีจำกัดทางลูกค้าต้องการความสวยที่เหมือนกับเทพนิยาย ชุดเจ้าสาวสีขาวที่ไม่เหมือนชุดเจ้าสาวทั่วๆ ไปเพราะว่าเป็นชุดที่ปักด้วยมุกขนาดต่างๆ ตกแต่งชายด้วยลูกไม้ เป็นชุดเจ้าสาวแขนยาวแต่มีโชว์หลังเล็กน้อย ดูเรียบหรูสมเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่ดอกไม้ในวันนี้เน้นสีแดงชมพูเป็นหลัก นี่คือการทำงานที่เหนื่อย เหนื่อยมากๆ การจัดดอกไม้ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่ว่าจะจับดอกไม้แต่ละชนิดมาปักมั่วๆ ได้ แต่ละดอกจะต้องมีความเชื่อมโยงกัน..กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีก็มีมือมาโอบเอวเธอเอาไว้“มื้อเย็นมาแล้วครับ”“อ่า หนูลืมเรื่องทานข้าวไปเลย โชคดีจังเลยนะคะที่มีแฟนมาคอยเตือน หากรู้ว่ามีแฟนแล้วดีแบบนี้หนูมาจีบบอสไปตั้งนานแล้ว”เขาหัวเราะเบาๆ ก่อนจะบีบจมูกของเธอ“ไปทานเถอะ แล้วรีบมาทำต่อ ถึงจะเป็นแฟนแต่เรื่องงานผมไม่อ่อนข้อให้หรอกนะครับ”นิดาหุบยิ้มในทันที“ทราบแล้วค่ะบอส ตอนนี้เป็นบอสใช่ไหมคะ แบบนั้นกลับบ้านไปก็เป็นบอสนะคะห้ามมาเป็นแฟน หนูจะให้พี่นอนนอกห้องเลยเคยดู”พี่เอื้อมองหน้ากับนี่น่า พร้อมกับหัวเราะออกมาเ
“หนูมีความฝัน และอยากจะเดินตามความฝันนั้นด้วยความคิดที่แน่วแน่ แต่ในวันที่หนูบอกกล่าวความฝันของตัวเองกับพ่อแม่ พวกท่านเอาแต่หัวเราะไม่หยุดเลย”อ่า..เหมือนว่าเขาจะเข้าใจถึงความกังวลของเธอแล้วละสิ“เพราะแบบนั้นหนูถึงได้เลือกที่จะเก็บเรื่องนี้มาโดยตลอดเลย หนูเคยบอกกับพี่ไปแล้วว่าหนูพยายามทำงานอย่างหนัก เพื่อให้ไม่ต้องกังวลกับเรื่องการเงิน ให้มีเงินเก็บสักก้อน..เพื่อที่หนูจะได้ทำตามความฝันของตัวเองในวันที่ไม่มีเรื่องอะไรต้องมาคอยกังวล”“เราเก่งมากกว่าที่คิดอีกนะ..พยายามได้ดีมากๆ เลย”เธอมองหน้าเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความประหม่า ปลายนิ้วสั่นเทาด้วยอาการหวาดหวั่น“แต่หนูไม่ได้เขียนนิยายความรัก หนูหลงใหลและชื่นชอบการเขียนนิยายอีโรติก บอกเล่าเรื่องความรักผ่านการกระทำบนเตียงมากกว่าคำพูด หนูเป็นนักเขียนนิยายอีโรติกค่ะ ไม่ใช่นักเขียนนิยายความรัก!”สองมือของเธอถูกกอบกุมด้วยมือใหญ่ของเขาอย่างอ่อนโยน พร้อมกับตบที่หลังมือเบาๆ“พี่ไม่เห็นว่าการนักเขียนของเรามันจะแปลกตรงไหนเลย ชีวิตของพี่เหมือนกับมีคำสาปติดตัวมาให้พี่จะต้องเหงาและมีความรักไม่ได้ เพราะไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะชอบผู้ชายที่ส่วนนั้นจะใช้กา