หลบซ่อนมาหลายปีขนาดนี้ เขาก็ใช้ชีวิตเหมือนไม่ใช่คน คนที่เคยรุ่งโรจน์หากเมื่อตกทุกข์ได้ยากกลายและเร่ร่อน ก็จะยิ่งคิดถึงช่วงชีวิตที่ประสบความสำเร็จ และก็จะรู้สึกเสียใจไปหลายวันหลายคืนแต่เสียใจภายหลังก็ไม่มีประโยชน์แล้วเขาคิดว่าทุกอย่างนี้เป็นเพราะความโลภไม่รู้จักพอของแม่ของเธอ"พ่อ ทำไมพ่อต้องด่าคุณย่าด้วย ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ความผิดของคุณย่า ถ้าหากอายอมยกสิทธิในการรับมรดกให้ผมแต่ไม่ได้ให้พี่เจียงเซิง จะมีเรื่องมากมายแบบนี้ที่ไหนกัน"ได้ยินเจียงเฮงยังคงเรียกร้องความยุติธรรมแทนผู้เฒ่าเจียง เจียงยี่เหลือบมองเขาแล้วส่งเสียงไม่พอใจออกมาตอนนั้นถ้าหากเขารู้แต่แรกว่าลูกชายที่เกิดออกมามีสภาพเป็นแบบนี้ เขาคงจะบีบคอให้ตายไปแล้วผู้เฒ่าเจียงปลอบโยนอารมณ์ของหลานชาย และพูดกับเจียงยี่ "ลูกชาย เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไปเถอะ ตอนนี้แม่เหลือแค่ลูกกับเฮงเอ๋อร์ ลูกทำใจที่จะไม่สนใจแม่กับลูกชายของลูกได้เหรอ?""แม่อยากได้เงิน ผมไม่มี"เจียงยี่ขัดความคิดของเธอทันที "ตอนนี้เจียงเฮงอายุยี่สิบห้าปีแล้ว ควรจะไปทำงานได้แล้วไหม? หลานชายที่แม่อบรมสั่งสอนตอนนี้เขาทำอะไรเป็น? รอให้แม่แก่แล้วเสียชีวิตไป เขา
สีหน้าของหานเซิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย "งั้นคุณบอกพี่เจ๋วว่าฉันมาหาเขา"พนักงานต้อนรับตรงเคาน์เตอร์ยังคงยิ้มบางด้วยความใจเย็นและความเป็นมืออาชีพ "คุณหาน อย่าทำให้พวกเราลำบากใจเลยค่ะ คำสั่งที่ท่านเจ๋วสั่งเอาไว้พวกเราทำได้แค่ต้องทำตามคำสั่ง นอกจากว่าคุณจะโทรไปหาท่านเจ๋วด้วยตัวเอง"หานเซิงสีหน้าไม่ค่อยดีนัก จากนั้นหยิบโทรศัพท์ออกมาช้า ๆ แต่ไม่ได้กดโทรออกไป เพราะเขาไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของท่านเจ๋วด้วยซ้ำครั้งสุดท้ายที่มาบริษัทและนัดทานอาหารกับเขา เขายังให้พบหน้าได้ ทำไมครั้งนี้ถึงพบหน้าไม่ได้แล้วในตอนนี้ ซือเย่เจ๋วเดินออกมาจากในลิฟต์พอดี แต่ข้างกายของเขาไม่ใช่หลัวเชว่ แต่เป็นผู้หญิงผมสั้นวัยรุ่นคนหนึ่งผู้หญิงคนนั้นไม่ได้สวมเสื้อผ้าที่เป็นทางการ เธอแต่งตัวแบบสบายๆ ออกทอมบอย หน้าตาสาใสเหมือนกับเด็กผู้ชาย"พี่เจ๋ว!"หานเซิงเห็นซือเย่เจ๋ว ก็วิ่งไปทางเขา ตั้งใจทำให้รองเท้าส้นสูงแปดเซนที่อยู่ใต้เท้าพลิก จากนั้นก็โผไปทางซือเย่เจ๋วแต่ทว่าเธอไม่ได้ล้มลงเพราะมีคนคว้าไหล่ของเธอเอาไว้ เพื่อรักษาร่างกายที่ไม่สมดุลของเธอให้มั่นคงเธอชะงักงัน จากนั้นหันกลับไปมองสิบเจ็ดที่จับเธอเอาไว้ด้วยใบหน้านิ่ง
"ท่านเจ๋ว ดูท่าคุณหานจะตัดใจจากคุณไม่ได้แล้ว คุณต้องคิดหาวิธีถึงจะได้ถูก ไม่อย่างนั้นคุณเจียงคงจะหึงคุณอีก"หลัวเชว่เตือนเขาซือเย่เจ๋วหรี่ตาที่เย็นชา "พวกเขาไม่รู้ว่าฉันมีภรรยาเหรอ?"ขณะพูด เขาก็จ้องมองหลัวเชว่ "ฉันกับเธอแอบแต่งงาน ไม่ได้เปิดเผย?"หลัวเชว่ ตกตะลึงท่านเจ๋วลืมเรื่องเมื่อสามปีที่แล้ว นายท่านแบนข่าวที่ส่งผลเสียต่อท่านเจ๋วในตอนนี้ไปแล้ว คนที่อยู่ภายในบริษัทก่อนหน้านี้ถูกห้ามไม่ให้พูดถึงเรื่องของ "คุณเจียง" ต่อหน้าท่านเจ๋วแน่นอนว่า คนที่ออกคำสั่งนี้ก็คือท่านเจ๋วเองแต่ตอนนี้เขาจะไปรู้เรื่องอะไร?หลัวเชว่รู้สึกเก้กัง "ท่านเจ๋ว คุณไม่ต้องคิดมากหรอกครับ ตัวคุณเจียงไม่เอ่ยถึงก็เพราะคำนึงถึงคุณนะครับ""คำนึงถึงฉันอะไร?"ซือเย่เจ๋วลดสายตาลงต่ำ มือที่วางอยู่บนโต๊ะกำหมัดเล็กน้อย "จะต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ฉันบีบบังคับให้เธอหย่าร้างแน่นอน ฉันอยากจะฟื้นคืนความทรงจำให้เร็วหน่อย ต่อให้มีอะไรบอกเป็นนัย ๆ และสามารถทำให้ฉันนึกขึ้นได้..."พูดถึงตรงนี้ เขาลุกขึ้นทันที "หลัวเชว่ ติดต่อนักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญที่ดีที่สุดในประเทศ Z ให้ฉันเดี๋ยวนี้ ฉันต้องการทำการสะกดจิต"เขาต้อง
ที่สำคัญคือคำพูดนี้ออกมาจากปากของเธอเอง เธอพูดให้ "เพื่อนรัก" คนหนึ่งของเธอ และ "เพื่อนรัก" คนนี้ของเธอก็อยู่ในกลุ่ม จากนั้นนำบันทึกการสนทนาออกมา เธออยู่นอกหน้าจอก็แทบจะขำตายเจียงเซิงส่ายหน้าอย่างจนปัญญา "วงการนี้ของพวกเธอวุ่นวายจริง ๆ""นั่นเป็นเพราะหานเซิงอยู่ในวงการชื่อเสียงไม่ดี คนพวกนั้นภายนอกสนิทสนมกับเธอ อันที่จริงลับหลังพูดแขวะเยอะมาก"เซียวเถียนเถียนพูดจบ สองมือรองศรีษะและกระพริบตา "ฉันแค่ดูเรื่องสนุก แทบจะไม่ได้ส่งข้อความในกลุ่มเลย มีบางครั้งที่ซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มพวกเธอ ก็ได้รับรู้ข่าวซุบซิบที่นักข่าวไม่สามารถขุดคุ้ยออกมาได้"เมื่อพูดแบบนี้ เจียงเซิงก็รู้สึกประหลาดใจเธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วเลิกคิ้วเล็กน้อย "ไม่สู้ เธอเชิญฉันเข้าไปในกลุ่มหน่อยสิ?"รอยยิ้มที่มุมปากของเซียวเถียนเถียนค่อย ๆ หายไป เปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนกเซียวเถียนเถียนเชิญเจียงเซิงเข้าในกลุ่มชื่อกลุ่มชื่อว่า "มิตรภาพของผู้หญิงโสดเมืองหลวง" และก็มีแค่ร้อยกว่าคนเธอเปลี่ยนชื่อเป็น "อลิซ"เป็นเพราะเซียวเถียนเถียนเชิญเข้ากลุ่ม พวกเธอจึงไม่ได้สงสัยใด ๆ มากสุดก็แค่รู้สึกว่าแอ็คเคาน์ "อลิซ" มีความคุ
เธอจับมือของเขาไว้แล้วประสานนิ้วมือไว้แน่น พัวพันกันอย่างลึกซึ้ง ใบหน้าที่มีเสน่ห์ของเธอสะท้อนกับดวงจันทร์ สายตาเลือนลางและถามที่ข้างหูของเขา "พวกเรายังจะถ่ายพรีเวดดิ้งอยู่อีกไหม?"ซือเย่เจ๋วมีเหงื่อไหลเล็กน้อยและกอดเธอเอาไว้แน่น จากนั้นก็จูบมุมปากของเธอ หยดเหงื่อไหลลงจากสันคิ้วและตกลงบนหางตาของเธอ เหมือนกับจี้ไฝหางตาที่ร้อนลุ่ม "ครั้งที่แล้วคุณไม่ชอบไม่ใช่เหรอ?"เจียงเซิงพูดเสียงเบา "ใครบอกว่าฉันไม่ชอบ?"เขาก้มลงมองเธอ เส้นเลือดที่แขนปรากฏขึ้น เจียงเซิงหายใจถี่ คำพูดก็ติด ๆ ขัด ๆ "ฉันพูด...ว่าไม่ชอบแล้วเหรอ?"ซือเย่เจ๋วโอบเอวของเธอไว้แล้วอุ้มเธอขึ้นมา จากนั้นก็จูบใบหูของเธอและหัวเราะเสียงเบา "ได้ พอฟ้าสว่างพวกเราก็ไปถ่ายกัน"วันรุ่งขึ้น สตูดิโอเวดดิ้งเจียงเซิงกำลังนั่งแต่งหน้าอยู่ในห้องแต่งตัว สไตลิสต์กำลังทำผมและถามความคิดเห็นของเธอเป็นครั้งคราวสองชั่วโมงต่อมา เธอสวมชุดแต่งงานสีดำขาวยืนอยู่หน้ากระจกสูงจากพื้นจรดเพดาน ผมยาวสีน้ำเงินดำถักเปียเหมือนเจ้าหญิง บนศรีษะสวมมงกุฎสีดำ รับกันกับสร้อยคอเพชรสีดำที่อยู่ตรงคอของเธอชุดสีขาวบริสุทธิ์ถูกคลุมด้วยผ้ามุ้งสีดำ ศักดิ์สิทธิ์และลึก
ไม่ต่างจากที่คิดไว้ หลังจากที่เจียงยี่มีเงินก้อนนั้น เขาก็ไปเล่นพนันอีก คืนวันก่อนชนะเงินหนึ่งล้านกว่าบาท เขาจึงไปเลี้ยงเหล้าเพื่อนกินเพื่อนเที่ยวที่รู้จักในท้องถิ่นที่คลับเฮ้าส์ ในหนึ่งคืนใช้จ่ายไปหลานแสนบาทเจียงเซิงหรี่ตาลงเล็กน้อย ถ้าหากเจียงยี่ยอมใช้เงินก้อนนี้ไปทำธุรกิจใหม่อีกครั้ง เธอก็ยังแอบลงทุนได้ คนเรามีความผิดอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เธอก็สามารถให้โอกาสได้ ในเมื่อคุณอาคนนี้ไม่เคยวางแผนทำร้ายเธอกับพ่อของเธอแต่น่าเสียดาย อาคนนี้ของเธอสุดท้ายก็เป็นคนไร้ความสามารถต่อให้ช่วยเหลืออย่างไรก็ไม่มีผลสำเร็จ เธอก็ช่วยอะไรไม่ได้เธอส่งข้อความถึงบอดี้การ์ด*หลังจากที่ผู้เฒ่าเจียงรับรู้ เป็นอย่างที่คาดไว้เธอมุ่งหน้าไปที่ห้องเช่าของเจียงยี่ด้วยความโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ"ดีจริง ๆ เลย แกบอกกับฉันว่าไม่มีเงิน ๆ แกยังกล้าไปเล่นพนันอีก ไปสำมะเลเทเมาที่คลับเฮ้าส์ใช่ไหม?"เจียงยี่นั่งสูบบุหรี่อยู่บนโซฟา เมื่อคืนก็เมาทั้งคืน จนถึงตอนนี้เพิ่งจะสร่างเมาได้แค่ครึ่งหนึ่ง เมื่อเผชิญหน้ากับการถามเชิงตำหนิของแม่ เขาแสดงออกมาเหมือนไม่ได้ใส่ใจ "เพื่อนให้ผมยืมเงินไปเล่นพนัน ผมชนะเงินมานิดหน่อย ไปเที่ยวส
ผู้เฒ่าเจียงแทบจะขาดอากาศหายใจ "เป็นไปได้อย่างไร เงินสองสามพันบาทก็เอาออกมาไม่ได้เหรอ?"เห็นเจียงเฮงก้มหน้าไม่พูดไม่จา ผู้เฒ่าเจียงสีหน้าเปลี่ยนไป "เฮงเอ๋อร์ เงินพวกนั้น...หลานใช้ไปแล้วเหรอ?"ไม่รอให้เขาตอบกลับ ผู้เฒ่าเจียงก็รู้สึกโมโหขึ้นมาอีกครั้ง "หลานทำไมถึงได้ใช้เงินก้อนนั้นซี้ซั้ว เงินนั้นหลานเอาไปใช้ที่ไหนแล้ว?"เงินเหล่านั้นได้มาจากการขายธุรกิจท่องเที่ยวทิ้ง ยังเหลืออีกตั้งหลายแสนบาท พวกเขาเดินทางจากตระกูลเจียงที่เมืองจินเฉิงมายังเมืองหลวง ก็เช่าแค่โรงแรมราคาถูก เพื่อที่จะรอรับมรดกของเจียงเซิ่นปกติ เงินฝากเอาไว้ในบัตรและพกติดตัว เธอกลัวเก็บเอาไว้ที่เธอแล้วจะทำหายไป ดังนั้นจึงเก็บเอาไว้ที่หลานชายในเมื่อเธอเชื่อว่าหลานชายของเธอต้องเชื่อฟังคำพูดของเธออย่างแน่นอน ไม่กล้าใช้เงินก้อนนั้นซี้ซั้ว แต่เงินหลายแสนบาทจู่ ๆ ไม่มีแล้ว เธอจะไม่โมโหได้เหรอ?เจียงเฮงพูดอย่างไม่พอใจ "คุณย่ารับปากผมว่าเงินก้อนนั้นจะเอาไว้ให้ผมแต่งงาน เงินเหล่านั้นเป็นของผม ผมจะใช้จ่ายอย่างไรก็เรื่องของผม!"“เฮงเอ๋อร์!” ผู้เฒ่าเจียงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "รอให้ได้รับมรดกของอาของหลาน หลานอยากแต่งงานกับภรรย
เขายืนอยู่ในความมืด มองไม่เห็นแสงสว่างแม้แต่นิด มองไม่เห็นอะไรเลยจิตแพทย์มองดูนาฬิกาในมือแล้วหยิบกระดาษที่หลัวเชว่ยื่นมาให้ "คุณเห็นที่เกิดเหตุแล้วยัง"ที่เกิดเหตุ?ซือเย่เจ๋วหน้าผากมีเหงื่อเย็นซึมออกมาจิตแพทย์ก็ชี้แนะอีกครั้ง "รถคันนั้นที่ภรรยาของคุณโดยสารเกิดอุบัติเหตุ และคุณก็ไปตรงจุดเกิดเหตุ"ซือเย่เจ๋วที่ยืนอยู่ในความมือร่างกายแข็งทื่อ แอบสังเกตุเห็นแสงไฟที่อยู่ไม่ไกล เขาก้าวเท้าเดินออกไปด้วยความยากลำบาก มีเสียงที่เล็ก ๆ น้อย ๆ ดังก้องในศรีษะของเธอ“เซิงเซิง เซิงเซิงผมผิดไปแล้ว...”"พวกเราไม่หย่ากันแล้ว อย่าทิ้งผมเอาไว้คนเดียว...ซือเย่เจ๋วเห็นผู้ชายที่รูปร่างอ่อนแอคุกเข่าอยู่ตรงหน้ารถ และร้องไห้อย่างคลุ้มคลั่งลมหายใจของเขาหยุดนิ่ง มีเสียงดังกึกก้องและเสียงแหลมแสบแก้วหูเหมือนกับศีรษะแตกออกอย่างรุนแรง ปกคลุมเสียงทั้งหมดที่อยู่โดยรอบ"ซือเย่เจ๋ว"เขาเงยหน้าขึ้นด้วยความมึนงง เจียงเซิงอุ้มเด็กทารถคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเขา สายตาแฝงไปด้วยความเย็นชาเดินมาทางเขา "พวกเรามีลูกแล้ว คุณดูสิ เขาเหมือนกับคุณมาก"เจียงเซิงยื่นเด็กมาตรงหน้าของเขาแต่ทว่าเด็กคนนั้นกลายเป็นก้อนเนื้อแ
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ