ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาปิดหนังสือลง "ไป ไปดูกัน"ห้องโถงหมิงหลานเป็นส่วนหนึ่งของย่านไชน่าทาวน์เขตตะวันออก เป็นร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในไชน่าทาวน์ และก็เรียกว่า "ไข่มุกตะวันออกแห่งไชน่าทาวน์"อาคารก่อสร้างย้อนยุคสามารถพบเห็นได้ทุกที่ ชื่นชมความสง่างามสไตล์โบราณ มีโรงรับจำนำโบราณ ร้านอาหารจีนโดยเฉพาะ โรงเครื่องประดับ ร้านเหล้า ธนาคาร ร้านกาแฟ และอื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียงคนเดินถนนที่เข้าออกส่วนใหญ่เป็นชาวเอเชีย ชาวจีน และชาวต่างชาติภายในห้องส่วนตัวที่หรูหราที่สุดในห้องโถงหมิงหลาน มีคนยืนอยู่สองคนนักชงชาที่นั่งอยู่ด้านข้างเทชาผู่เอ๋อร์ที่บ่มเป็นระยะเวลานานแล้วลงในถาดชงชา รอสองสามวินาทีแช่ชาเอาไว้สักพัก เทน้ำชาลงในแก้วชาของแขกตามลำดับจากซ้ายไปขวาท่านผู้เฒ่ายกแก้วชาขึ้นลิ้มรส "คุณซูซีเป็นคนจีนเหรอครับ? เหมือนจะรู้เรื่องชาดีมาก"ผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงข้ามสวมเสื้อสูทสีขาว เสื้อซับในสีดำ ให้ออร่าที่ดูท่าทางทะมัดทะแมงผมสีดำถูกตัดให้สั้นปานกลาง ยาวประบ่า และหวีไปด้านหลังใบหูอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เธอแต่งหน้า ใบหน้างามเพริศพริ้ง แต่กลับให้ความรู้สึกโฉบเฉี่ยวซูซียิ้ม "พ่อของฉันเป็นคนจีน
ระหว่างทางกลับ ซือเย่เจ๋วมองออกไปนอกหน้าต่างอยู่ตลอด สายตาของเขาลึกซึ้งหลัวเชว่มองผ่านกระจกมองหลัง "ท่านเจ๋ว ซูซีคนนี้เป็นนักเรียนของเซียวจริง ๆ เหรอครับ?"ดูเด็กเกินไปหน่อยไหม?ซือเย่เจ๋วดึงสายตากลับ "รอให้ตามหากุงเห้อเจอก็รู้แล้ว""กุงเห้อ?" หลัวเชว่ตกตะลึง "คุณหมายความว่ากุงเห้อรู้จักเซียวเหรอครับ?"ภัยพิบัติเมื่อสามสิบปีก่อน เซียวปรากฏตัวที่ประเทศ S และพลิกแพลงสถานการณ์จนมีชื่อเสียง นอกจากชื่อเสียงโด่งดัง ได้ยินว่าคนที่ได้เจอกับเขานั้นน้อยมาก ๆ ภายหลังเขาถอนตัวออกจากวงการแพทย์ยิ่งไม่มีคนได้เจอเขา กุงเห้อจะรู้จักเซียวได้อย่างไร?"ซือเย่เจ๋วเงยหน้าขึ้น "เพราะว่ากุงม่านม่าน""คุณแม่ของคุณเจียง?"หลัวเชว่รู้สึกประหลาดใจ "คุณแม่ของคุณเจียงมีความสัมพันธ์กับคนขององค์กรต้าตูไม่ใช่เหรอครับ เธอก็รู้จักเซียวเหรอ? หรือว่า เซียวคือ......""พวกเรารู้แค่ว่าเซียวคือคนประเทศ M สำหรับเรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกับองค์กรต้าตูหรือไม่นั้นไม่แน่ใจ"สายตาของซือเย่เจ๋วเย็นชา "สำหรับซูซีคนนี้ เห็นได้ชัดว่ามีการเตรียมตัวมา"หลานอู๋เหยียนตายแล้ว กุงเห้อสถานะไม่ชัดเจน เรเจลไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ในต
หลังจากตรวจร่างกายเสร็จเรียบร้อยเธอก็สวมชุดผู้ป่วยมายังห้องผ่าตัด เมื่อนอนลง ก็มองดูแสงไฟและเครื่องมือ และก็นึกถึงตอนที่ตัวเองคลอดลูกก็ผ่านมาแบบนี้เซียวเดินไปด้านข้างเธอ แขวนถุงเลือดเอาไว้ตอนที่เริ่มปล่อยเลือด ภายนอกทายาชาเอาไว้ เจียงเซิงยังไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก แต่รู้สึกว่าตอนที่เลือดไหลออกจากเส้นเลือด ก็ค่อย ๆ มีความรู้สึกเจ็บปวดความเจ็บปวดแบบนี้เชื่องช้า แต่ตอนที่บีบคั้นเลือด เป็นความเจ็บจี๊ด เป็นระยะ ๆ เหมือนกับว่ามีมีดกรีดลงบนบาดแผลเดียวกันอยู่ตลอดเวลา และดึงทึ้งเนื้อหนังเธอขมวดคิ้ว แต่กลับอัดอั้นเสียงและกัดฟันอดทนไว้ เมื่อปล่อยเลือดออกปริมาณหนึ่ง ก็เริ่มวิงเวียนและปวดหัว ถึงขั้นที่เกิดอาการแน่นหน้าอก รู้สึกหายใจลำบาก"ถ่ายเลือด" เซียวรักษาความใจเย็นเซี่ยซานำถุงเลือดที่เตรียมเอาไว้แขวนขึ้นไป เธอสูญเสียเลือดในร่างกาย จำเป็นต้องใช้การถ่ายเลือดโดยเร็วที่สุดเพื่อบรรเทาอาการ เจียงเซิงถูกสวมหน้ากากออกซิเจน ใช้ออกซิเจนในการหายใจผ่านไปเป็นเวลานาน แขนของเจียงเซิงที่ถูกปล่อยเลือดออกรู้สึกเจ็บจนชาไปหมด แต่ตลอดเวลานั้นเธอไม่ได้ออกเสียงร้องเลยเซี่ยซาปลอบใจเธออยู่ข้าง ๆ อย่างใจเ
เรเวียร์หยุดอยู่ข้างๆ เธอ “ร่างกายฟื้นฟูดีขึ้นแล้วยัง?”เธอยิ้มและพยักหน้า “เกือบจะหายดีแล้วค่ะ อ่อใช่ คุณลุงเรเวียร์ คนของคุณอยู่ที่ประเทศ S ได้ข่าวคราวของคุณตาของฉันบ้างไหมคะ?”เรเวียร์หยุดนิ่งเล็กน้อยแล้วส่ายหน้า “ยังไม่มี”เมื่อได้ยินแบบนี้ เจียงเซิงก็ลดสายตาลงคุณตาของเธอจนถึงตอนนี้ยังไม่มีข่าวคราวใด ๆ เกรงว่ามีแนวโน้มไปทางร้ายมากกว่าดีเธอยืนขึ้นช้าๆ “ฉันจะกลับประเทศ S ”"คุณจะกลับตอนนี้ไม่ได้"“ทำไมคะ?” เจียงเซิงชะงักงันทันที เห็นเรเวียร์สีหน้าเคร่งขรึม “เกิดเรื่องอะไรขึ้นใช่ไหม?”เรเวียร์ไม่ได้ปิดบังอะไรเธอ “มีคนใช้ตัวตนของเซียวผลิตตัวแก้พิษชนิดใหม่ในประเทศ S ตอนนี้มีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่มาก กุงเห้อหายตัวไป ตระกูลหลานก็ล่มสลาย ในตอนนี้กลับมีเรื่องที่มีคนแอบอ้างตัวตนผลิตตัวแก้พิษตัวใหม่ออกมาอย่างมีลับลมคมใน เกรงว่าคงไม่ธรรมดา”แอบอ้าง?มีคนแอบอ้างตัวตนของเซียวผลิตยาต้านชนิดใหม่?เจียงเซิงสายตาเคร่งขรึม "คนที่เคยวิจัยสิ่งเหล่านี้ที่ประเทศ S มีแต่คนตระกูลหลาน แต่หลานอู๋เหยียนตายไปแล้ว มีใครจะแอบอ้างตัวตนของเซียว?"และทำไมเขาถึงใช้ตัวตนของ “เซียว” อยากจะแอบอ้างชื่อเสีย
เมื่อได้ยินคำตอบนี้ ท่านผู้เฒ่าก็คลายกังวลและยิ้มขึ้นมา “ดี ดีมากเลย”ใบหน้าของหลัวเชว่เผยความประหลาดใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด ควบคุมไว้ได้แล้วเหรอเหรอ?แต่ถ้าหากคนคนนั้นไม่ใช่เซียว ใครจะมีความสามารถแบบนี้อีก? หรือว่าเขากับท่านเจ๋วคาดเดาผิดไปเหรอ?ซูซียิ้มมุมปากขึ้นมา "คุณท่านซือ ตอนนี้คุณเชื่ออาจารย์แล้วหรือยังคะ?"ท่านผู้เฒ่าได้รับผลลัพธ์ที่ดี แน่นอนว่ายินยอมที่จะเชื่อมากยิ่งขึ้น "ครั้งนี้ต้องขอบคุณคุณเซียวจริง ๆ บุญคุณครั้งนี้ผมจำไว้ขึ้นใจแล้ว ถ้าหากมีความต้องการอะไร สามารถเอ่ยปากได้เต็มที่"“คุณท่านซือพูดเกินไปแล้วค่ะ อาจารย์ใช้ทั้งชีวิตอยู่กับการวิจัย ไม่มีความต้องการอะไร เพียงแค่ได้ช่วยเหลือผู้คนมากขึ้น อาารย์ก็พึงพอใจแล้วค่ะ”ซูซีถ่อมตัว การตอบกลับเป็นนัยก็ได้รับความชื่นชมจากท่านผู้เฒ่า "งั้นถ้าหากต่อไปคุณซูมีความต้องการอะไร ก็เอ่ยปากมาได้เต็มที่ ไม่ต้องเกรงใจนะครับ"ซูซีลดสายตาลง ในดวงตาเผรอยยิ้มเยาะหยันที่เลือนราง "ได้ค่ะ"เจียงเซิงมาถึงสนามบินประเทศ S เมื่อเดินออกไป ก็เห็นสิบเจ็ดยืนรออยู่ที่หน้ารถสิบเจ็ดเห็นสีหน้าท่าทางของเธอที่ซีดเซียวก็ขมวดคิ้ว "คุณหนู ร่างกายคุณไม่เ
เจียงเซิงไม่พูดจาเขาจนปัญญา "ผู้หญิงคนนั้น คุณปู่ผมเป็นคนบอกให้เธออยู่ดูแลผม" ถึงแม้เขาไม่ต้องการก็ตามเจียงเซิงยิ้ม "ท่านผู้เฒ่าหวังดีกับคุณมากจริง ๆ เซียวของประเทศ S ควบคุมไวรัสในร่างกายของคุณได้ เธอคือนักเรียนของเซียว เป็นผู้มีพระคุณ ท่านผู้เฒ่าแทบอยากจะให้คุณหย่าร้างกับฉันให้เสร็จสิ้นแล้วไปแต่งงานกับเธอสินะ?"ซือเย่เจ๋วขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วบีบจมูกเธอ "พูดจาหึงหวงขนาดนี้ ไม่กลัวฟันล้มเหรอ?""อย่าเอามือที่แตะต้องเธอเมื่อครู่มาจับฉันนะ!" เจียงเซิงปัดมือของเขา เธอแคร์มาก เหมือนกับของของเธอถูกคนอื่นแตะต้อง น่ารำคาญ!ซือเย่เจ๋วกอดเธอเอาไว้ น้ำเสียงทุ้มต่ำพูดขึ้น "ในใจของผมไม่มีที่ว่างเหลือให้คนอื่น ทั้งหมดถูกคุณครอบครองเต็มหมดแล้ว ถ้าหากไม่เชื่อ จะให้ควักออกมาให้คุณไหม? หือ?""เลือดนอง ฉันไม่เอาหรอก" เจียงเซิงพูดเสียงอุดอู้เขาวางคางลงบนศีรษะของเธอ "ผมรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นมีจุดประสงค์ที่จะเข้าใกล้ผม เมื่อครู่เธอตั้งใจล้มลงบนตัวผม ผมจึงใช้แผนซ้อนแผน"ฟังคำอธิบายของเขา เจียงเซิงลุกขึ้นนั่งจากในอ้อมกอดของเขา "แผนซ้อนแผน? ถ้าหากฉันไม่ปรากฏตัว คุณก็จะจูบลงไปแล้วไม่ใช่เหรอ?"ซือเย่เจ๋วร
ศัตรูคิดว่าควบคุมเขาได้แล้ว อันที่จริง คนที่ถูกควบคุมที่แท้จริง คือพวกเขาซือเย่เจ๋วบีบคางของเธอ ริมฝีปากบางปิดลง "บอกว่าไปแค่ไม่กี่วัน ผลปรากฏว่าไปนานขนาดนี้ ผมคิดว่า คุณจะไม่กลับมาแล้ว"เจียงเซิงกะพริบตา "ถ้าหากฉันไม่กลับมาจริง ๆ ล่ะ?"เขาไม่ตอบเจียงเซิงจับมือเย็นเยือกที่จับคางของเธอเอาไว้ "ซือเย่เจ๋ว รออีกสักช่วงหนึ่ง ฉันต้องช่วยคุณได้แน่นอน"ซือเย่เจ๋วหยุดชะงัก จากนั้นหอมศีรษะและหน้าผากของเธอ "คุณไปประเทศ M ก็เพื่อไปหาเซียวให้ช่วยผม?""อืม" เธอกอดเอวของเขา "เซียวมีวิธีแก้ปัญหาแล้ว แต่ยังต้องรอหน่อย"**ซูซีขึ้นลิฟต์ตรงไปที่ชั้นบนสุดของโรงแรม สีหน้าเข้าสู่ความเคร่งขรึมเธอซ่อนตัวอยู่ในประเทศ S สามปี ในที่สุดก็ได้รับข่าวการตายของหลานอู๋เหยียน แต่เธอคิดไม่ถึงว่า เจียงเซิงนังสารเลวนั่นจะยังมีชีวิตอยู่จริง ๆ!เดิมทีเธอต้องการพึ่งพายาต้านที่อารีย์ผลิตออกมา ถ้ามันสามารถช่วยชีวิต ซือเย่เจ๋วได้ บางทีเธออาจจะยังมีโอกาสเธอได้เปลี่ยนตัวตน เปลี่ยนชื่อ ตอนนี้แม้แต่ท่านผู้เฒ่าก็มองเธอใหม่ เธอมีความมั่นใจที่จะทำให้ท่านผู้เฒ่าวางใจเธอได้ใหม่แต่เจียงเซิงกลับยังไม่ตาย“ติ๊ง!” ประตูลิฟ
ได้ยินเขาตอบว่า “ระหว่างฉันกับเขามีความสัมพันธ์กันนิดหน่อย เรื่องนี้ฉันจะแก้ปัญหา รอผลลัพธ์ยาต้านตัวใหม่ผลิตออกมา ฉันจะให้เรเวียร์เอาไปให้หนู”สำหรับความสัมพันธ์อะไรนั้น เซียวไม่ได้บอกเธอ แต่เธอรู้ดี ความสัมพันธ์ในนี้จะต้องใหญ่มากเขาแอบอ้างตัวตนของเซียว แต่ยาต้านที่ผลิตออกมาเป็นยาต้านจริง ๆ เพียงแต่ไม่มีผลต่อซือเย่เจ๋วเท่ากับว่า ความตั้งใจเดิมของเขาไม่ได้เลวร้าย และก็ไม่เหมือนกับตระกูลหลานที่เอาไวรัสไปทำเป็นวัคซีนเพื่อหลอกประชาชนถ้าหากไม่ได้คิดร้าย เขาทำไปเพื่ออะไร หรือว่าเพื่อบีบบังคับให้เซียวปรากฏตัว?เป็นเพราะเร่งขึ้นเครื่อง การเดินทางรีบร้อน และร่างกายก็ยังไม่หายดี เจียงเซิงไม่ได้ทานอาหารเย็นด้วยซ้ำ เธอกินยาแล้วหลับไปตั้งแต่ค่ำแสงและเงาสลัวในลานบ้านตัดกับแสงจันทร์ ส่องไปที่ขอบหน้าต่างที่จับของขอบหน้าต่างและม่านก็แกว่งไปมาครู่หนึ่ง เจียงเซิงลืมตาขึ้นทันที ในคืนที่มืดมิดแต่ไม่มืดสนิทแต่ยื่นมือไปในความมืดก็มองไม่เห็น มีร่างสีดำเดินออกมาจากด้านหลังม่าน"ใคร!" เจียงเซิงยื่นมือไปจับปุ่มเปิดปิด ภายใต้การปกคลุมด้วยแสงสีเหลืองอ่อน เป็นใบหน้าอบอุ่นและหล่อเหลาของเขาที่คุ้นเคย“
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ