เขายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เจียงเซิง: "..."รอทานข้าวเสร็จ เจียงเซิงกลับไปที่ห้องก็เห็นซือเย่เจ๋วนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวยาวที่ริมหน้าต่าง ขาทั้งสองข้างที่เรียวยาวทับซ้อนกันปลายนิ้วที่ผอมเรียวกำลังพลิกอ่านข้อมูลสองสามแผ่นอยู่“ตกลงแล้วคุณจะให้ฉันดูอะไร?”เจียงเซิงเดินไปนั่งข้างลงข้าง ๆ เขา ซือเย่เจ๋วยื่นเอกสารให้เธอ: “เรื่องที่เธออยากรู้”เจียงเซิงหยุดชะงัก และรับเอาเอกสารเหล่านั้นมาดูรูปวาดและภาพถ่ายที่อยู่บนเอกสารถูกถ่ายเอาไว้แล้วก๊อปปี้ออกมา ถึงแม้เป็นกระดาษสีขาวดำ แต่กลับมองเห็นได้ชัดเจนมากจนกระทั่งเธอเห็นรูปภาพหนึ่งที่มาจากบันทึกกล้องวงจรของศูนย์สปาเท้าหนึ่งในผู้หญิงที่แต่งหน้าจัดคือเจียงเวย ภาพที่เธอติดต่อกับคนสามคน“นี่คือ เจียงเวย …”"อืม ฉันให้คนไปตรวจบันทึกกล้องที่ถนนใต้ดินออกมา เจียงเวยถูกพวกเขาพาออกมา"ซือเย่เจ๋วน้ำเสียงเย็นชาเจียงเซิงมองดูสามคนนั่น ผู้ชายสองคนผู้หญิงหนึ่งคน และหญิงสาวคนนั้นก็สวมหน้ากาก ดูลึกลับมากด้วยอีกหนึ่งภาพ ใกล้ตระกูลเจียง แต่มีเพียงผู้ชายคนเดียวกับเจียงเวยชายคนดังกล่าวสวมหมวกสวมหน้ากาก ปิดบังใบหน้าไว้จนหมด อาจจะรู้ว่าทางแยกมีกล้องวงจรปิดจึ
ซือเย่เจ๋วอุ้มเธอไปอาบน้ำที่ห้องน้ำได้อย่างไร เธอง่วงนอนมากจนไม่มีความรู้สึกแล้วซือเย่เจ๋วพาเธอกลับมาวางไว้บนเตียง ตอนที่กำลังจะห่มผ้าห่มให้เธอ โทรศัพท์มือถือของเขาที่วางอยู่บนโต๊ะสั่นขึ้นมาเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูด้วยสายตาเย็นชา[หลัวเชว่: สองผู้อาวุโสตระกูลวั่งเกิดอุบัติเหตุ คุณนายวั่งได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ คุณวั่งเข้า ICU ตอนนี้ถูกช่วยชีวิตอยู่][ซือเย่เจ๋ว: ส่งคนไปจับตาดูที่โรงพยาบาลไว้ ป้องกันไม่ให้ใครเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบุคคลที่จะก่อให้เกิดภัย เรื่องอย่าพึ่งบอกหลัวหยิงก่อน]เขาเอาโทรศัพท์วางลง หันหน้ากลับไปมองเจียงเซิงที่กําลังนอนหลับสนิทเขาไม่อยากให้เธอคิดว่าการที่เธอเพิ่งจะไปหาสามีภรรยาตระกูลวั่ง ก็ทำให้พวกเขาได้เจอกับเหตุการณ์แบบนี้ซือเย่เจ๋วใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย และออกจากห้องไปเงียบ ๆที่โรงพยาบาล"ท่านเจ๋ว คุณมาแล้วเหรอครับ" หลัวเชว่เห็นซือเย่เจ๋วตามมา ก็เดินเข้าไปแล้วพูดขึ้น: “ผมส่งคนไปเฝ้านอกห้อง ICU แล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้คุณวั่งเป็นยังไงบ้างแล้ว”"ตํารวจว่าอย่างไรบ้าง?" ซือเย่เจ๋วถามหลัวเชว่ตอบกลับ: “ตํารวจบอกว่าพวกเขาเกิดอุบัติเหตุบนทางหลว
ถึงจะพูดแบบนี้ แต่เจียงเซิงฟังแล้วก็ยังรู้สึกเศร้าใจอยู่บ้างเธอกุมหลังมือของซือเย่เจ๋วและก้มหน้า: “ซือเย่เจ๋ว หลังจากนี้ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันจะไม่แยกจากคุณ นอกจากว่า……..”นอกจากว่าอะไรน่ะเหรอ?เธอยังคิดไม่ออกเธอเองไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆ ก็พูดแบบนี้ออกมา อาจเป็นเพราะซือเย่เจ๋วใจกว้างต่อเธออย่างมากครั้งหนึ่งเธอคิดแค่ว่าซือเย่เจ๋วรู้สึกต่อเธอแค่ชั่ววูบเท่านั้น หรืออาจจะทำเพื่อลูกแต่หลังจากอยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้ เธอรู้ว่าซือเย่เจ๋วต่างหากที่เป็นคนที่ทุ่มเทมากที่สุดซือเย่เจ๋วยิ้มมุมปาก ในดวงตามีความอ่อนโยนแฝงอยู่: "ภรรยาที่ฉันลำบากไล่ตามหา ฉันจะผลักดันออกไปได้เหรอ?นอกจาก ฉันตายไป ไม่อย่างนั้นเธอก็ไม่มีทางที่จะแยกออกจากฉันได้จริง ๆ นั่นแหละเพราะเขาไม่อนุญาตเจียงเซิงพูดขึ้น ทำลายบรรยากาศ: “ซือเย่เจ๋วอายุยืนยาวหนึ่งร้อยปีแหนะ วางใจเถอะ”ขณะพูด เธอก็หันหลังไปหาเสื้อผ้าที่ห้องแต่งตัวซือเย่เจ๋วมองดูเรือนร่างของเธอที่ค้นเสื้อผ้าในห้องแต่งตัว มุมปากยกขึ้น อารมณ์ดีมากในเมื่อ ร่างกายและจิตใจของภรรยาตัวน้อยของเขาเป็นของตัวเองโดยสมบูรณ์แล้วเธอแยกจากเขาไม่ได้และตราบใดที่เขายังมี
ซือเย่เจ๋วเดินไปข้าง ๆ เจียงเซิง เห็นเจียงเซิงคุกเข่านั่งอยู่หน้าป้ายหลุมฝังศพด้วยท่าทางโศกเศร้า เขายกมือขึ้นวางบนไหล่ของเธอ มองดูป้ายหลุมศพ: “คุณแม่ยาย คุณวางใจเถอะครับ จากนี้ไปผมจะดูแลเซิงเซิงไปตลอดชีวิต นอกจากตาย ใครก็ไม่สามารถที่จะมาแยกเราจากกันได้”เจียงเซิงเงยหน้ามองเขา สีหน้าประหลาดใจส่วนซือเย่เจ๋วก็แค่เลิกคิ้วขึ้นซือเย่เจ๋วประคองเธอขึ้น เจียงเซิงหันไปมองเจียงเซิ่น: “พ่อ พ่อก็มีอะไรอยากจะบอกแม่ใช่ไหม?”เจียงเซิ่นสะดุ้ง ใบหน้าหมองก้มหน้าลงเล็กน้อย มองไปที่หลุมฝังศพ ยิ้มเจื่อน ๆ: “ไม่มีอะไรจะพูด ที่ควรพูด เก็บใว้ในใจก็พอแล้ว”**เจียงเซิงเพิ่งกลับถึงห้องทำงาน เห็นหลัวหยิงที่เดินกลับไปกลับมาอย่างร้อนรนที่ตรงทางเดิน จึงเดินเข้าไปหา: “เป็นอะไรไป?”หลังจากหลัวหยิงเห็นเธอ สีหน้าเปลี่ยนเป็นวิตกกังวลขึ้นมาทันที "พี่สะใภ้ การตายของวั่งฉี ดูเหมือนว่าตำรวจจะมีเบาะแสบางอย่าง เธอ.......จริง ๆ แล้วเธอไม่ได้ฆ่าตัวตาย"ดังนั้นวั่งฉีถูกใส่ร้ายจริง ๆ เธอรับความผิดแทนคนอื่น!เจียงเซิงไม่แปลกใจกับผลลัพธ์นี้: “ฉันเดาได้ตั้งนานแล้ว”“และคนที่จับได้ครั้งที่แล้วก็สารภาพแล้วว่าเป็นคนของวั่งฉี
**เลานจ์สีทองในช่วงกลางวันที่เลานจ์ไม่มีคน มีแขกอยู่ไม่กี่โต๊ะที่กำลังรับประทานอาหารเจียงเซิงเดินตามพนักงานไปนั่งที่โต๊ะ เรเวียร์ก็นั่งรออยู่ตรงที่นั่งแล้ว“คุณลุงเรเวียร์”เรเวียร์ถือขวดของสะสมรุ่นของคอนติในมือของเขาเพื่อดูการผลิต เมื่อเห็นว่าเจียงเซิงกำลังเดินมา จึงนำไวน์ใส่กลับไปในกล่องของขวัญ: “มาแล้วเหรอ?”หลังจากเจียงเซิงนั่งลง มองไปที่ไวน์ที่วางอยู่ใกล้มือของเขา: “คนอื่นให้มาเหรอ?”เรเวียร์หัวเราะหึหึแล้วพูดขึ้น: "ใช่ มาจากเพื่อนที่กลับมาจากต่างประเทศ เพิ่งจะกลับไปเอง ตั้งใจมอบขวดที่หายากให้ฉันเป็นการพิเศษ"ขณะพูด เขาเงยหน้าขึ้นมองเจียงเซิง: “ทำไมอยู่ ๆ ก็มาล่ะ ?”เจียงเซิงสองมือค้ำศีรษะแล้วมองเขา: “แน่นอนว่าตั้งใจมาเพื่อขอบคุณคุณ ที่ช่วยเหลือฉันตั้งหลายอย่าง”เรเวียร์หัวเราะเบา ๆ จากนั้นสั่งกาแฟหนึ่งแก้วกับพนักงานบริการ และนำขวดไวน์วางไว้ข้าง ๆ "ถ้ามีอะไรก็พูดตรง ๆ เถอะ อ้อมค้อมไปมาฉันไม่ชินเท่าไหร่"เจียงเซิงวางมือทั้งสองข้างลง นั่งตัวตรง: “วันนี้เป็นวันครบรอบเสียชีวิตของแม่ของฉัน”พูดจบ เห็นเพียงเรเวียร์หยุดชะงักเล็กน้อย น้ำเสียงถอนใจ: “ฉันก็ลืมไปเลย แม่เธอเสีย
ตอนเย็นวิลล่าบลูเบย์เจียงเซิงทำอาหารมื้อเย็นเสร็จ ย้อนคิดภาพช่วงบ่ายถึงเรื่องที่คุยกับเรเวียร์ แต่ในไม่ช้าเธอก็ตั้งสติก็ไม่เห็นซือเย่เจ๋วลงมาชั้นล่าง จึงไปที่ห้องหนังสือ แต่เมื่อเธอกําลังจะเคาะประตูกลับได้ยินเสียงของซือเย่เจ๋ว“เกิดจากเครื่องยนต์ขัดข้อง นายแน่ใจเหรอ?”เจียงเซิงค่อย ๆ ดึงมือที่ยกขึ้นกลับมาเกิดจากเครื่องยนต์ขัดข้องอะไร ?"คุณวั่งยังไม่ฟื้นขึ้นเหรอ?ได้ ฉันรู้แล้วพวกนายให้ความร่วมมือในการสืบสวนของตำรวจก่อน ดูว่าพวกเขาสามีภรรยาได้ติดต่อกับใครบ้างไหมก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ หรือมีร่องรอยการโอนเงินในบัญชีหรือไม่"ซือเย่เจ๋ววางสายลง หันไปก็เห็นเจียงเซิงผลักประตูเข้ามา เห็นสีหน้าของเจียงเซิง ริมฝีปากบาง ๆ ที่เขาเม้มแน่นเปิดออกช้า ๆ: “เซิงเซิง เธอ……”"ฉันได้ยินหมดแล้ว"เจียงเซิงขัดจังหวะคำพูดของเขาอย่างสงบ "พวกเขาสามีภรรยาเกิดอุบัติเหตุเหรอ?"ซือเย่เจ๋วเดินไปที่ด้านหน้าของเธอ มือทั้งสองแตะที่ไหล่ของเธอ จากนั้นสีหนาเคร่งขรึม : “อืม ตอนนี้ตำรวจกำลังสอบหาสาเหตุของอุบัติเหตุอยู่ ฉันก็ได้ให้หลัวเชว่ไปตรวจสอบแล้ว”เจียงเซิงก้มหน้าลงสายตาเศร้าหมองคล้ายกับว่าจะหมดแร
“ไม่เหลือพยาน” เขาก้มหน้ามองเธอ “เธออยากจะล่องูออกจาถ้ำเหรอ?”เธอยิ้มบาง “มีความมั่นใจไหม?”ที่เอวมีความร้อนจากฝ่ามือของเขาแผ่ซ่านขึ้นมา เห็นเพียงแค่เขาหัวเราะเบา ๆ “ควรค่าที่จะลองดู”**ฝ่ายธุรการในห้องพักผ่อน พนักงานหลายคนที่สั่งเดลิเวอรี่รวมตัวกันเพื่อพูดคุยซุบซิบกัน “พวกเธอได้ยินมาไหมว่า สองสามีภรรยาที่ไปหาเรื่องภรรยาของท่านเจ๋วเมื่อวันก่อน ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตแล้ว”"ได้ยินมาแน่นอนยู่แล้ว คนจากชั้น 16 พวกนั้นพูดว่า สามีภรรยาสองคนนั้นหน้าไม่อาย ลูกสาวของตัวเองเสียชีวิตแล้วยังจะมาใส่ร้ายภรรยาท่านเจ๋วอีก แถมยังจะมาเอาเงินจากภรรยาท่านเจ๋วอีกด้วย""ใช่น่ะสิ ไม่กี่วันก่อนได้ชี้แจงไปหมดแล้ว รู้สึกว่าภรรยาของท่านเจ๋วถูกใส่ร้ายป้ายสียกใหญ่อย่างบอกไม่ถูกจริง ๆ ผู้หญิงคนนั้นชื่ออะไรนะ วั่งฉีใช่ไหม?"ตอนที่ซูหลิงโหรวเดินผ่านห้องพักผ่อน ก็ได้ยินเรื่องที่พูดคุยกันข้างในพอดี และได้ยินคำว่า “วั่งฉี” สองพยางค์ ทำให้เท้าของเธอหยุดชะงักโดยไม่รู้ตัวเมื่อมองผ่านช่องประตูเข้าไปด้านใน เป็นพนักงานหญิงสองสามคนที่กำลังทานข้าวกล่องอยู่"พวกเธอว่าภรรยาของของท่านเจ๋วไปทำอะไรใครไว้ ช่วง
เจียงเซิงเอามือวางบนไหล่ของเขา: “ตอนนี้หลัวเชว่พร้อมแล้วใช่ไหม?”ซือเย่เจ๋วเลิกคิ้ว: “คุณว่าไงล่ะ?”ตอนเย็นภายนอกห้องไอซียูของโรงพยาบาล ไม่มีใครเฝ้าดูแล้วตอนที่พยาบาลที่เข้าเวรตรวจห้อง เห็นหมอคนหนึ่งเดินมาก็ทักทายหมอพยักหน้าให้เธอ และเดินไปที่ห้องไอซียูมาถึงหน้าประตูของคนไข้ เห็นพยาบาลเดินออกไปไกล ถึงได้ผลักประตูเข้าไป อาศัยแสงสว่างจากภายนอกที่ส่องเข้ามาเห็นคนที่นอนอยู่บนเตียง เดินไปข้างเตียงและหยิบเข็มฉีดยาออกมาจากกระเป๋าเขาแทงเข็มลงไปในถุงให้น้ำเกลือ เพิ่งจะดันเข็มฉีดยาซึมเข้าไปภายในถุง อยู่ ๆ ห้องก็สว่างขึ้น พอเขาหันกลับไปก็โดนหลัวหยิงต่อยล้มลงกับพื้นหลัวเชว่ให้บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างหลังกดเขาลงกับพื้นและดึงหน้ากากของเขาออกผู้ชายคนนั้นยิ้มเห็นฟัน มองพวกเขาอย่างดุดัน: “เป็นพวกแก?”หลัวเชว่มองดูนาฬิกาแล้วยิ้มมุมปาก : “คาดไม่ถึง พวกเราจงใจที่จะปล่อยข่าวลือออกไป พวกแกก็ยังไม่ตายใจจริง ๆ ด้วย”ชายคนนั้นเข้าใจขึ้นมาทันทีนี้เป็นหลุมพราง!หลัวเชว่พูดกับพวกเขาว่า: “เอาตัวมันไป”**วิลล่าบลูเบย์ซือเย่เจ๋วได้รับข้อความจากหลัวเชว่: ท่านเจ๋ว คนอยู่ที่หลานถิงเซวียนเจียงเซ
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ