ผมเส้นหนึ่งร่วงหล่นจากหูของเธอ และเธอก็จะยกมือขึ้นเพื่อทัดมันไว้ให้อยู่ข้างหลังเป็นครั้งคราว เป็นการเคลื่นไหวที่ดูธรรมดามาก แต่ในสายตาของกู้ยี่ฟานก็ยังคงดูงามมากใบไม้ร่วงหล่นบนปลายผมของเธอ กู้ยี่ฟานตกตะลึง และเดินไปข้างหน้าโดยไม่รู้ตัว เขาเหยียบไม้กวาดจนสะดุดล้ม และเข้าไปหาเจียงเซิงโชคดีที่เขารีบยกมือขึ้นเลยกางแข็นบนม้านั่งทันเวลา และการกระทำอย่างกะทันหันของเขาก็ทำให้เจียงเซิงตกใจ ซึ่งหันหลังไปก็มองเห็นใบหน้าที่อยู่ใกล้ชิดเจียงเซิง "..."กู้ยี่ฟาน "..."วั่งฉีที่ยืนอยู่ที่ไกมองเห็นฉากนี้และชกมือของเธอบนผนังด้วยความโกรธเมื่อนึกถึงอะไร เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูป พบกล่องข้อความของซูหลิงโหรว แล้วคลิกเพื่อส่ง**ณ TG กรุ๊ปซูหลิงโหรวมาที่สำนักงานบริหาร ก่อนเคาะประตูซือเย่เจ๋วรวบรวมเอกสาร และเงยหน้าขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา "มีอะไรหรือ?"ซูหลิงโหรวเดินไปที่โต๊ะแล้วพูดว่า "ฉันเพิ่งได้ข่าวว่าเมื่อวานคุณเจียงบังเอิญเข้าไปในเขตหวงห้าม และถูกครูฝึกลงโทษเมื่อเช้านี้"ดวงตาของซือเย่เจ๋วหรี่ลงเล็กน้อย เซิงเซิงจะเข้าไปในพื้นที่หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตได้อย่างไร เธอไม่ได้รับบาดเจ็บใช่ไ
เจียงเซิงขมวดคิ้วและหันไปมองเธอ "เรื่องอะไร?"วั่งฉียิ้มอย่างได้ใจราวกับจับจุดอ่อนที่ไม่อาจเปิดเผยให้คนอื่นรู้เลย แล้วพูดเยาะว่า "แน่นอนว่าเรื่องที่เธอขโมยผู้ชายคนอื่นสิ"เจียงเซิงคนนี้ ยังคิดว่าเธอไร้เดียงสามาก แต่กลับกลายเป็นว่าเธอถูกส่งเข้ามาเพราะเธอล่อลวงผู้ชายคนอื่นข้างนอกเธอต้องเปิดโปงธาตุแท้ที่น่าเกลียดของเธอ และให้กู้ยี่ฟานเห็นชัดเจนว่าผู้หญิงคนนี้น่าเกลียดแค่ไหน!เจียงเซิงดึงมือของเธอออก และหรี่ตาลงเล็กน้อย "ดูเหมือนว่าฉันไม่ได้ทำอะไรให้คุณขุ่นเคืองใช่ไหม?"เธอจงใจพาเธอไปยังพื้นที่หวงห้ามและทิ้งเธอไว้ตามลำพัง ตอนนี้ไม่รู้ไปเอาข่าวลือจากที่ไหนก้อยากจะใส่ร้ายเธอเหรอ?เธอเจียงเซิงไม่เคยคิดที่จะเป็นฝ่ายไปสร้างปัญหากับใคร แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอกลัววั่งฉีก็ไม่กลัวเจียงเซิง "เธอยั่วยวนกู้ยี่ฟาน ก็ถือว่าทำให้ฉันขุ่นเคืองใจแล้ว!"กู้ยี่ฟาน?ที่แท้เป็นเพราะเด็กชายคนนั้นงั้นเหรอ?เจียงเซิงเยาะเย้ยและเลิกคิ้ว "คุณชอบกู้ยี่ฟานมันก็เป็นเรื่องของคุณ มันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วย คุณไม่สามารถดึงดูดเขาด้วยตัวเอง ดังนั้นคุณต้องโยนความผิดมาใส่ฉันเหรอ""ฉันว่าเธอเป็นนังจิ้งจอก…"เจีย
"ใครบอกว่าเราต้องสร้างปัญหาให้เธอ? ติงเมิ่งหลานอาศัยอยู่ในหอพักเดียวกันกับเธอไม่ใช่หรือ ในเมื่อติงเมิ่งหลานมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเธอ งั้นเราไปสร้างปัญหาให้กับติงเมิ่งหลานเลย"ไม่มีการฝึกฝนตลอดช่วงบ่าย เจียงเซิงก็อยู่ในหอพักเพื่ออ่านหนังสือและวางแผนเรื่องข้อสอบด้วยอีกสองวัน เธอก็สามารถไปสมัครเข้าสอบได้ เวลาครึ่งเดือน มันก็เร็วมากแต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้เจอติงเมิ่งหลานมานานแล้ว จนกระทั่งประตูถูกเปิดออก เจียงเซิงก็วางหนังสือลง "ติงติง คุณกลับมา..."เมื่อเธอหันกลับไป และเห็นซือเย่เจ๋วกำลังปิดประตูอยู่ เจียงเซิงก็ยืนขึ้นแล้วพูดว่า "ซือเย่เจ๋ว ทำไมคุณถึง...""คุณแปลกใจมากเหรอ?"ซือเย่เจ๋วล็อคประตูเจียงเซิงกลัวว่าติงเมิ่งหลานจะเห็นเข้าเมื่อเธอกลับมา ดังนั้นเขาจึงเดินไปหาเขาและกำลังจะเปิดประตู จากนั้นซือเย่เจ๋วสอดแขนโอบรอบเอวของเธอ แล้วอุ้มเธอไปที่เตียง"ซือเย่เจ๋ว คุณมันบ้าไปแล้ว ที่นี่คือหอพักหญิง คุณ..." เจียงเซิงขัดขืนผู้ชายสารเลวคนนี้คิดจะทำอะไร?พอมาถึงก็ทำเรื่องแบบนั้นเลยเหรอ?ซือเย่เจ๋วจับมือของเธอไว้เหนือหัวของเธอ และมือของเขาดูเหมือนกำลัง "ตรวจสอบ" ร่างกายของเธอ เขาพู
เจียงเซิงเงียบซือเย่เจ๋วคิดอะไรได้ และหยิบแหวนหยกขาวออกมาจากกระเป๋าของเขา เขาจับมือเธอแล้วค่อยๆ สวมให้เธอ "วันนี้ที่ผมมาที่นี่แค่อยากให้ของขวัญคุณ ลองดูสิ คุณชอบไหม?"สีหน้าของเจียงเซิงเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเธอเห็นแหวนหยกขาวบนนิ้วหัวชอบงั้นเหรอ?น่าขำจริงๆ...เจียงเซิงลุกขึ้นนั่ง ถอดแหวนออกแล้วกระแทกมันลงบนพื้นด้วย "เสียงดังกราว" แหวนหยกขาวนั้นก็แตกเป็นเสี่ยงๆ และใบหน้า ซือเย่เจ๋วก็ดูไม่น่ามองทันทีเขาคว้าข้อมือของเธอด้วยสายตาบูดบึ้ง "เจียงเซิง อย่าทำตัวไร้เหตุผลเป็นเพราะผมตามใจคุณ!""คุณคิดว่าฉันเป็นอะไร"เจียงเซิงมองดูท่าทางโกรธเคืองของเขาด้วยตาแดงแล้วพูดอย่างน่าขัน "ซือเย่เจ๋ว อย่าคิดว่าฉันเป็นคนโง่ คุณกับซูหลิงโหรวไปที่ร้านอวี้ไจ่ก็เพื่อซื้อแหวนนี้ให้เธอไม่ใช่หรือ? ""ในเมื่อมันเป็นของที่ให้เธอแล้ว แต่คุณเอาของที่เธอใส่แล้วมาให้ฉัน คุณคิดว่าฉันเป็นขอทานหรือไง เอาของที่คนอื่นไม่ต้องการมาให้ฉันเหรอ?"ซือเย่เจ๋วอึ้งไป เธอหมายความว่ายังไง แหวนหยกขาวนี้กลายเป็นของที่เขามอบให้กับซูหลิงโหรวตั้งแต่เมื่อไรกันแล้วซูหลิงโหรวก็ใส่แหวนหยกขาวนี่มาก่อนเหรอ?เมื่อนึกถึงอะไรขึ้นมา เขาจึ
สองสาวนั้นอึ้งไป"ติงเมิ่งหลานอยู่ที่ไหน" เจียงเซิงมองตรงไปที่พวกเธอด้วยสายตาเย็นชาหญิงสาวคนหนึ่งตอบอย่างระมัดระวังว่า "วันนี้... เราเห็นติงติงถูกคนของวั่งฉีพาตัวไป และเราก็ไม่รู้ว่าเธอถูกพาตัวไปที่ไหน"วั่งฉีอีกแล้ว!ดวงตาของเจียงเซิงเย็นชากว่าเดิมวั่งฉีอยู่ในหอพักกับเพื่อนสองคนของเธอ เอาเรื่องที่พวกเธอกลั่นแกล้งติงเมิ่งหลานทำเหมือนคุยเรื่องตลก เกำลังพูดคุยอย่างสนุกสนามประตูหอพักถูกเปิดออกอย่างกะทันหันคนข้างในก็ตกใจหมดวั่งฉีเห็นเจียงเซิงเดินเข้ามา ยืนขึ้น "เฮ้ เธอมีมารยาทหรือ...""เพี๊ยะ!"เด็กผู้หญิงสามคนนั่งอยู่บนเตียงต่างก็ตะลึงวั่งฉีที่ถูกตบหน้า เลยปิดแก้มพลางมองเจียงเซิงด้วยความไม่เชื่อ "เธอ...เธอกล้าตบหน้าฉันเหรอ?""เพี๊ยะ!" เจียงเซิงตบเธอลงกับพื้นอีกครั้ง "ติงเมิ่งหลานอยู่ที่ไหน"เมื่อเห็นว่าเธอมาที่นี่เพื่อตามหาติงเมิ่งหลาน วั่งฉีที่ถูกตบสองครั้งก็ลุกขึ้นจากพื้น "เธอตบหน้าฉันแล้ว ยังอยากรู้ที่อยู่ของเธออีก ฉันจะบอกให้ ฉันไม่ใช่คนถูกรังแกได้ง่าย! "วั่งฉีก้าวไปข้างหน้าเพื่อต่อสู้กลับเจียงเซิงจับมือเธอเพื่อหยุดเธอไว้ จากนั้นก็ตบเธอด้วยความรุนแรงจนล้มลงกับพื
เจียงเซิงเทน้ำอุ่นให้เธอเพื่ออุ่นมือ "คงหิวแล้วนะ ฉันยังมาม่าอยู่ เป็นวันก่อนที่คุณให้ฉัน ฉันช่วยต้มให้"ติงเมิ่งหลานพยักหน้า ก้มศีรษะลงแล้วจิบน้ำอุ่นเธอหันไปมองติงเมิ่งหลาน "ฉันขอโทษ ฉันเองที่ทำให้คุณเดือดร้อนไปด้วย"เธอไม่คาดคิดว่าพวกวั่งฉีจะร่วมมือทำร้ายติงเมิ่งหลานด้วย หากเธอไม่ได้ไปจัดการในครั้งนี้ ติงเมิ่งหลานจะถูกขังไว้ที่นั่นทั้งคืนเลยใช่ไหม?ติงเมิ่งหลานยกมุมปากของเธอแล้วยิ้ม "ฉันไม่โทษคุณหรอก อันที่จริงเป็นฉันเองที่แย่มาก มาตั้งสามเดือนแล้ว และยังไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย คนอย่างฉันจะเป็นสายลับได้อย่างไรกัน?"เธออ่อนแอมากจริงๆ แม้แต่เด็กผู้หญิงพวกนั้นก็สู้ไม่ได้ แถมยังถูกขังอยู่ในห้องน้ำ และโดนน้ำสาดด้วย แค่คิดดูก็รู้สึกน่าขำเลยเจียงเซิงวางมาม่าที่ต้มในน้ำเดือดไว้ข้างๆ แล้วเดินไปหาติงเมิ่งหลานก่อนนั่งลง "ยังอีกนานอยู่เลย หากคุณต้องการเป็นสายลับ การฝึกฝนไม่ใช่แค่ปีสองปีนะ แต่อายุคุณยังน้อยอยู่ ดังนั้นค่อยๆ ฝึกฝนสักวันหนึ่งคุณจะประสบความสำเร็จแน่ๆ""พี่เจียงเซิง คุณอยู่ที่นี่แค่ครึ่งเดือนจริงๆ เหรอ?" ติงเมิ่งหลานมองดูเธอแล้วถามเจียงเซิงหลับตาลงและพยักหน้าติงเมิ่งหลานถอ
"ใช่ค่ะ ครูฝึก เป็นเธอที่มาข่มขู่พวกเราโดยไม่มีเหตุผล แถมเธอยังตบวั่งฉีด้วย ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องที่พวกเราไม่เคยทำ"พวกเธอคนเยอะ สามารถสลับกันเป็นพยานได้ แน่นอนว่าไม่กลัวเจียงเซิงที่มีแค่ปากเดียวอยู่แล้วขณะที่เจียงเซิงกำลังจะพูดอะไร ครูฝึกก็ตบโต๊ะ: "เอาล่ะ ไม่ต้องอธิบายแล้ว ค่ายฝึกอบรมไม่ใช่ที่ที่เธอควรจะอยู่ ตอนนี้เธอเก็บข้าวของแล้วกลับไปได้แล้ว"พวกวั่งฉีรู้สึกพึงพอใจอย่างมาก ต่อให้เธอเก่งแค่ไหนก็ต้องเผชิญหน้ากับจุดจบที่ถูกไล่ออกไปไม่ใช่เหรอ?เจียงเซิงยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อน ครูฝึกมองดูเธอแล้วนิ่งอึ้ง "บอกให้เธอกลับไปไม่ใช่เหรอ?""ฉันจะไปไม่ได้" เจียงเซิงน้ำเสียงเคร่งขรึม "อีกอย่างพวกเธอทำผิดก่อน ทำไมต้องให้ฉันไป?"ครูฝึกไม่เคยเจอคนที่ดื้อรั้นแถมไม่ฟังคำสั่งแบบนี้มาก่อน เขาตบโต๊ะด้วยความโมโหแล้วลุกขึ้นยืน: "เจียงเซิง เธออย่ามากเกินไป ที่นี่คือค่ายฝึกอบรม เธอทำผิดกฎฉันมีสิทธิ์ที่จะให้เธอออกไป!"“ฉันไม่ผิด ฉันไม่ไป” เจียงเซิงสบตาเขาด้วยสายตาที่เย็นชา"เธอ...""พี่หลี เป็นอะไรเหรอ โมโหมากขนาดนี้เชียว" หลัวหยิงยิ้มแย้มปรากฏตัวที่ห้องทำงานครูฝึกขมวดคิ้ว: “เธอมาได้อย่างไร?”
"ไม่เรียนรู้สิ่งดี ๆ รู้จักแต่ใส่ร้ายป้ายสีเพื่อนร่วมทีม แถมยังบูลลี่เพื่อนร่วมทีม? พี่หลี คุณต้องลงโทษให้ดี ๆ ไม่อย่างนั้นครั้งหน้ายังต้องมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก"ครูฝึกเห็นหลัวหยิงเข้ามายุ่ง ก็พูดอะไรอีกไม่ได้ เขาพูดกับพวกเธอ: "พวกเธอ ไปที่สนามวิ่ง วิ่งสิบรอบ!"ต่อให้พวกวั่งฉีไม่ยินยอมอย่างไร ก็ทำได้แค่ยอมรับความซวย และออกไปนอกห้องทำงานอย่างโมโหเจียงเซิงตามหลัวหยิงออกมาจากห้องทำงาน: "ขอบคุณคุณที่ช่วยฉัน"เธอดูออกว่าหลัวหยิงช่วยเธอแก้ตัว ดังนั้นจึงรู้สึกซาบซึ้งต่อหลัวหยิง"พี่สะใภ้ พี่ไม่ต้องเกรงใจฉัน อ่อใช่ เมื่อวานตอนบ่ายท่านเจ๋วมารอบหนึ่ง คุณบอกกับเขาเรื่องที่คุณเข้าเขตหวงห้ามโดยไม่ตั้งใจแล้วเหรอ?"เดิมทีหลัวหยิงอยากจะรายงาน แต่ยังไม่ทันได้รายงาน ท่านเจ๋วก็รับรู้แล้วเจียงเซิงหันไปมองเธอ: "ไม่ใช่ว่าเธอเป็นคนบอกเขาเหรอ?"หลัวหยิงนิ่งอึ้ง รีบโบกมือ: "ไม่ใช่ฉัน ฉันเปล่า ฉันยังไม่ได้พูดเลย และก็ไม่ใช่คุณที่พูด?"เจียงเซิงส่ายหน้า ไม่ใช่หลัวหยิงเป็นคนพูด งั้นยังมีใครที่รายงานข่าวให้ซือเย่เจ๋วอีก?ถึงขั้นที่ว่า เรื่องของเธอกับกู้ยี่ฟานก็มีคนรายงานเข้าหูของซือเย่เจ๋วมีใครแอ
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ