หลัวเชว่หายใจเฮือกใหญ่เจียงเวยกลายเป็นคุณหนูของตระกูลกุงงั้นเหรอ?เจียงเซิงต่างหากที่ควรเป็นคุณหนูของตระกูลกุงไม่ใช่หรือ?ไม่น่าแปลกใจที่ผู้คนจากตระกูลลู่ยอมช่วยเจียงเวย ปรากฎว่าเจียงเวยใช้ตัวตนของเจียงเซิงเพื่อนับญาติกับตระกูลลู่ ผู้หญิงคนนี้ไร้ยางอายถึงขนาดนี้จริงๆ เลยเหรอ?"เย่เจ๋ว ฉัน…""แม่ของเธอคือกุงม่านม่าน?" ซือเย่เจ๋วจ้องมองเธออย่างไม่ละสายตา ดวงตาของเขาเย็นชามาก ราวกับว่าเขาต้องการที่จะกลืนกินเธอ ทำให้เจียงเวยหนาวจนตัวสั่นขาของเจียงเวยอ่อนแรงลงแทบจะทรุดลงกับพื้นซือเย่เจ๋วหรี่ตาลง "ฉันดูเหมือนจะจำได้ว่าแม่ของเจียงเซิงต่างหากชื่อกุงม่านม่านสินะ แม่ของเธอไม่ใช่เซียวหลานเหรอ ฮึ อะไรที่ไม่ใช่ของเธอ เธอมักจะชอบเอามาครอบครองนะ"เธอก็ได้ปลอมตัวแทนที่เจียงเซิงเมื่อหกปีที่แล้วไม่ใช่เหรอ?หกปีต่อมา เธอใช้กลอุบายเก่าๆ และแทนที่ตัวตนของเจียงเซิง เมื่อเห็นธาตุแท้ที่น่าขยะแขยงของเจียงเวย เขารู้สึกโชคดีที่เขาไม่เคยแตะต้องเธอเลยในช่วงหกปีที่ผ่านมาไม่เช่นนั้น เขาจะรู้สึกรังเกียจแทบแย่"เย่เจ๋ว ฉันเปล่านะ ฉันแค่..." เจียงเวยยื่นมือออกไปดึงเขาซือเย่เจ๋วก้าวถอยหลังเพื่อหลีกเลี่ย
เธอไม่กลัวที่จะทำให้ตระกูลลู่ไม่พอใจ เพราะถึงยังไงกล้าทำก็ย่อมกล้ารับมือกับผลที่ตามมา แต่เธอไม่คาดคิดว่า คุณลุงเรเวียร์จะให้ส่งทนายความส่วนตัวของเขามาให้ด้วยถ้าอย่างนั้นคุณจ้าวน่าจะบอกคนในตระกูลลู่แล้ว คนในตระกูลลู่จะมุ่งเป้าไปยังคุณลุงเรเวียร์เพราะเหตุนี้หรือไม่?แฟรงค์หยุดชั่วคราวและตอบช้าๆ "จริงๆ แล้ว ฉันก็ไม่ค่อยรู้เรื่องนี้มากนัก ฉันแค่รู้ว่าตัวตนของคุณเรเวียร์นั้นไม่ธรรมดา""แล้วคุณอารู้ตัวตนของแม่ฉันไหม" เจียงเซิงถามอย่างกะทันหันแฟรงค์และคุณลุงเรเวียร์รู้จักแม่ของเธอ คุณลุงเรเวียร์รู้ดีว่าแม่ของเธอมาจากตระกูลกุง แล้วคุณอาแฟรงค์ล่ะ?แฟรงค์ขมวดคิ้วแล้วส่ายหัว "ฉันไม่รู้ตัวตนของแม่เธอจริงๆ เพราะแม่ของเธอไม่เคยพูดถึงครอบครัวของเธอให้ฉันฟังเลย"เจียงเซิงยังอยากจะพูดอะไรอีก แต่จู่ๆ เธอได้รับข้อความทางโทรศัพท์มือถือของเธอของซือเย่เจ๋ว!เจียงเซิงมาที่สำนักงานบริหารเธอยืนอยู่นอกห้องทำงานและกำลังจะผลักประตูเข้าไปนั้น แต่จู่ๆ เธอก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังมาจากข้างในเธอตกตะลึง เสียงนี้ไม่ใช่เสียงของเจียงหลินเหรอ?"พี่เขย พี่เจียงเซิงไม่ชอบฉัน และยังให้ฉันยกของหนักด้วย ฉั
เจียงเซิงผลักหน้าที่เขาเข้ามาใกล้ ซือเย่เจ๋วก็เหมือนกับพลาสเตอร์ที่เธอไม่อาจสลัดออกได้หลัวเชว่เดินเข้ามาจากด้านนอก และทันทีที่เขาเปิดประตูก็เห็นภาพที่สนิทสนมตรงหน้าเขาเจียงเซิงและซือเย่เจ๋วต่างมองไปที่หลัวเชว่พร้อมกันบรรยากาศนิ่งอยู่ครู่หนึ่งหลัวเชว่รีบปิดประตูและออกไปเจียงเซิงลุกขึ้นจากร่างของซือเย่เจ๋ว และจากไปอย่างใจเย็น "การแสดงก็ดูจบแล้ว ฉันจะไปแล้ว""เดี๋ยวก่อน" ซือเย่เจ๋วจับมือเธอไว้ เจียงเซิงหันกลับมาด้วยความสับสน เพียงเห็นเขายิ้ม "คุณไม่อยากรู้เรื่องเกี่ยวกับตระกูลลู่เหรอ?"ตระกูลลู่?เจียงเซิงหยุดชะงัก หรือว่าสาเหตุที่เขาตามหาเธอเป็นเพราะตระกูลลู่?"คุณรู้หมดแล้ว?" เจียงเซิงลดขนตาลง ราวกับว่าไม่มีอะไรสามารถปิดบังเธอได้"คุณนายลู่ กุงหลี่หลี่เป็นพี่สาวของแม่คุณ เธอมาจากตระกูลกุง" ซือเย่เจ๋วพูดอย่างใจเย็นแต่แบ้วเมื่อเจียงเซิงได้ยินดังนั้น เธออดไม่ได้ที่จะตัวแข็งทื่อกับที่ในทันทีกุงหลี่หลี่......พี่สาวของแม่เธอ...ในตอนแรก ซือเย่เจ๋วเพียงสืบสวนว่าแม่ของเธอมาจากตระกูลกุง แต่เขาไม่ได้บอกว่าแม่ของเธอยังมีพี่น้องอะไรกัน แต่จนถึงตอนนี้เธอถึงรู้ว่าคุณนายตระกูลลู่
คุณนายหนานจิ่นพยักหน้าทันทีเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับคุณหนูของดวงใจจิวเวลรี่นั้นเธอเคยได้ยินมาบ้าง แต่เธอไม่คาดคิดว่าจะมีเรื่องแอบแฝงเช่นนี้คุณนายหนานจิ่นตะคอก "คนของตระกูลลู่มีตาไร้แววจริงๆ พวกเขากลับช่วยผู้หญิงที่อาศัยการขโมยผลงานคนอื่นมาสร้างชื่อตัวแล้วมาแบนเธอ ฉันว่ากุงหลี่หลี่คนนี้ ยิ่งไร้สมองไปเรื่อยๆ จริงๆ!"เจียงเซิงยิ้มและไม่พูดอะไรผู้คนจากตระกูลลู่ยอมช่วยเจียงเวย เพียงเพราะเจียงเวยขโมยตัวตนที่เธอไม่ควรมีเธอคิดไม่ถึงว่า เจียงเวยจะกล้าโกหกและอ้างว่าเป็นลูกสาวของแม่ของเธอ ดูเหมือนว่าเธอยันกรานใช้ประโยชน์ที่เจียงเซิ่น พ่อของเธอไม่รู้ตัวตนของแม่ของเธอ"แต่เธอไม่ต้องกังวล จิ่นซุ่ย จิวเวลรี่อย่างฉันให้ความสำคัญกับคนที่มีความสามารถมาโดยตลอด แม้ว่าตระกูลลู่จะมาออกคำขอกับฉัน ฉันก็จะไม่รับปาก"คำพูดเหล่านี้ทำให้เจียงเซิงมั่นใจ เจ้าขายเครื่องประดับรายอื่นๆ อาจกลัวตระกูลลู่ แต่จิ่นซุ่ย จิวเวลรี่ไม่เคยกลัวใครเลยเจียงเซิงยิ้มเล็กน้อย "คุณนายย่อมไม่เหมือนคนอื่นๆ ที่มากลับคำสัญญาหรอก"หลังจากรับประทานอาหารยามบ่ายกับคุณนายหนานจิ่นเสร็จ พวกเขาก็ออกจากห้องส่วนตัวด้วยกันเจียงเซิงเข
ให้ตายเถอะ หญิงชราคนนี้คือใครกันแน่?ในเวลานี้ มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาอย่างช้าๆ"เกิดอะไรขึ้น?"เจียงเวยหันกลับมาและเห็ ลู่ลี่เซินปรากฏตัวมา เธอรีบเดินไปหาเขาแล้วพูดอย่างน้อยใจว่า "พี่ ฉันก็ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไรไป พวกเธอจงใจหาเรื่องฉัน... "คุณนายหนานจิ่นหัวเราะเบาๆ "โอ้ เธอเป็นน้องของคุณชายลู่เหรอ ทำไมฉันถึงไม่รู้ล่ะ"เจียงเวยกัดริมฝีปากของเธอ ในเวลานี้ เธอไม่กล้าสบตากับ เจียงเซิงเลยเธอแค่เดิมพันอยู่ว่า เจียงเซิงไม่รู้เรื่องของตระกูลกุงลู่ลี่เซินค่อยๆ เดินไปหาคุณนายหนานจิ่น "คุณนายหนานจิ่น ผมขอโทษ หากเป็นน้องสาวของผมทำให้คุณขุ่นเคืองใจผมหวังว่าคุณจะไม่ถือสาอะไร""เหอะ เธอเพิ่งพูดอย่างมั่นอกมั่นใจว่าตระกูลลู่อย่างพวกคุณไม่มีทางจะไว้หน้าให้กับหญิงชราอย่างฉันเลย"ลู่ลี่เซินขมวดคิ้วและมองดูเจียงเวยอย่างเย็นชาเจียงเวยก้มศีรษะลงและกัดริมฝีปากของเธออย่างแรงจะเป็นแบบนี้ได้อย่างไร เมื่อพิจารณาถึงทัศนคติของคุณชายลู่ที่มีต่อชายชราคนนี้ คำพูดที่เธอเพิ่งพูดไปเมื่อกี้ไม่เท่ากับทำให้ตนเองหน้าแตกชัดๆ เหรอ?เดิมทีลู่ลี่เซินไม่ต้องการยุ่งกับเรื่องนี้ ยิ่งไม่ต้องการช่วยเจียงเวย เพียงแต่มัน
ถ้าเป็นอย่างที่เธอพูด เธอแค่คุยกับเจียงเซิง แต่กลับถูกเจียงเซิงหาเรื่อง คุณนายหนานจิ่นในฐานะผู้ยืนชมที่ไม่เกี่ยวข้องจะช่วยเหลือผู้หญิงที่ไร้เหตุผลได้ยังไงหากคิดเช่นนั้น มีความเป็นไปได้สูงว่าเจียงเวยจะเป็นฝ่ายผิดก่อน"คุณป้า...หนูไม่ได้โกหกคุณป้านะ""เหอะ จะเป็นคำโกหกหรือไม่นั้น ฉันจะสืบเอง เจียงเวย ถ้าเธอกล้าปกปิดฉันหรือแม้แต่หลอกลวงฉัน ต่อให้เธอเป็นลูกสาวของ กุงม่านม่าน ฉันก็จะไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ"หากกุงม่านม่าน น้องสาวของเธอให้กำเนิดลูกสาวเจ้าเล่ห์เช่นนี้จริงๆ เธอก็ไม่ต้องการนับญาติกับเธอ!เจียงเวยตื่นตระหนกจริงๆ และรู้สึกไม่ยอมอย่างยิ่งทำไมเรื่องถึงกลายเป็นแบบนี้...**เจียงเซิงส่งคุณนายหนานจิ่นไปที่ชั้นล่างของจิ่นซุ่ยคุณนายหนานจิ่นจับมือของเจียงเซิงแล้วพูดว่า "วันนี้ฉันดีใจมากที่เธอมีเวลาว่างมาดื่มชากับฉันเป็นเพื่อนนะ"เนื่องจากคุณนายหนานจิ่นไม่มีลูก เธอจึงเข้ากันได้ดีกับเจียงเซิง ผู้รักเครื่องประดับมากพอๆ กับที่เธอ และยิ่งมองเจียงเซิงมากเท่าไร เธอก็ยิ่งชอบเธอมากขึ้นเท่านั้นเจียงเซิงยิ้ม "ถ้าต่อไปคุณนายอยากดื่มชา ฉันชงให้คุณเองก็ได้ จะได้ไม่ต้องเสียเงินไปที่โรงแรม""
หรือว่าของที่ระลึกที่แม่ของเธอทิ้งไว้มีอะไรพิเศษเหรอ?เจียงเวยกลับไปที่ตระกูลเจียงเพื่อต้องการหารือวิธีแก้ปัญหากับแม่ของเธอ แต่ทันทีที่เธอเข้าไปในประตู ก็เห็นเจียงเซิ่นนั่งอยู่บนโซฟาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีส่วนแม่ของตนเองซึ่งไม่รู้ว่าเธอทำผิดอะไรกำลังคุกเข่าอยู่ข้างๆ"พ่อ…ทำไมแม่ถึง...""กล้าดียังไงมาถาม!"เจียงเซิ่นโกรธมากจนตบโต๊ะแล้วยืนขึ้น "เธอสองแม่ลูกช่างไร้ยางอายจริงๆ เธอกล้าที่จะเอาของที่ระลึกแม่ของเซิงเซิงไป!"หากไม่ใช่ซือเย่เจ๋วโทรหาเขาและบอกเขาว่าเจียงเวยออกไปปลอมตัวเป็นลูกสาวของกุงม่านม่าน และเขากลับมาก็พบว่าสร้อยข้อมือในกล่องหายไป เขาอาจไม่รู้ว่าลูกสาวของเขากล้าทำเช่นนี้นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นลูกชายของเธอโกรธมากขนาดนี้ เธอนั่งอยู่ที่นั่นด้วยความตกใจโดยไม่กล้าพูดอะไรเลยสีหน้าของเจียงเวยเปลี่ยนไปและเธอก็บีบแขนเสื้อของตนเองโดยไม่รู้ตัว "พ่อ... ฉันไม่รู้ว่าพ่อกำลังพูดถึงอะไร""ยังไม่ยอมรับอีกเหรอ?" เจียงเซิ่นกัดฟัน "เธอกล้าบอกต่อหน้าฉันไหมว่าใครคือแม่ของเธอ กุงม่านม่านหรือเซียวหลาน!"เซียวหลานที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นพลางร้องไห้และกอดต้นขาของเขา "ที่รัก มันเป็
"แหม ดูที่คุณพูดสิ ฉันจะลืมพี่เหน่งได้ยังไง""ฮ่าฮ่า คุณมาตามหาผมก็ต่อเมื่อคุณเหงานี่น่ะไม่ใช่เหรอ?" นิ้วขรุขระของเย่เหน่งโอบรอบเอวของเธอเซียวหลานบ่นขึ้น "เขาไม่สนใจฉัน ฉันจะทำอะไรได้ล่ะ?"ให้ตายเถอะ ถ้าไม่ใช่อยากมีลูกชาย และเจียงเซิ่นยังปฏิเสธที่จะแตะต้องเธอในช่วงนี้ แล้วเธอจะคิดวิธีการเช่นนี้ได้อย่างไร?เจียงเซิ่นเป็นผู้ที่ใจร้ายก่อน ดังนั้นอย่าตำหนิเธอที่นอกใจเขา!อย่างไรก็ตาม ในเมื่อเธอสามารถอุ้มเจียงเวยไปหาเขาโดยบอกว่าเป็นลูกของเขาในตอนแรก งั้นครั้งนี้เธอก็มีวิธีกำเนิดลูกชายของคนอื่นไปยอมรับเขาเป็นพ่ออีก!เย่เหน่งหัวเราะ "ผมว่าคุณมีจุดประสงค์อื่นในการตามหาผมมั้ง?""พี่เหน่งเข้าใจฉันดีจริงๆ " เซียวหลานพูดอย่างดุเดือดในสายตาของเธอ "ฉันตามหาพี่เหน่งเพื่อหนึ่งเรื่อง ฉันรู้ว่าลูกน้องของพี่เหน่งทำอะไรมาบ้าง ดังนั้นถ้าพี่เหน่งยินยอมทำสิ่งนี้ให้ฉัน ค่าตอบแทนคุณต้องพอใจมาก""โอ้? ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ" เย่เหน่งพ่นควันออกมาเซียวหลานยิ้มอย่างเย็นชา "เพื่อลูกสาวของฉัน ฉันต้องทำลายใครสักคน"**วันรุ่งขึ้นเจียงเซิ่นมาที่ TG กรุ๊ปพร้อมกล่องอันเล็กอันหนึ่งและยื่นกล่องให้กับ
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ