เสียงปิ๊ด ๆ จากหน้าจอคอมพิวเตอร์ เป็นสัญญาณอีเมล์ใหม่ที่เข้ามาทำให้ชายหนุ่มที่นั่งเฝ้าคอมพิวเตอร์อยู่นานรีบลุกขึ้นก้าวเท้ายาว ๆ ไปด้านหลังร้านหมูหยองอินเตอร์เนทด้วยท่าทีร้อนใจ “โซดามีเมล์มาจากแป้งร่ำ” คุณผีไร้อิทธิฤทธิ์ ตะโกนบอก ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครอื่นได้ยินเสียงของเขา นอกจากเด็กสาววัยสิบเจ็ดที่ยืนตัวตรงให้หญิงสาวผมหยักศกผู้เป็นเพื่อนสนิทของพี่ชายวัดขนาดตัวของเธออยู่ “ฉันไม่ใช่คนรับใช้นายนะ!” โซดาพยายามกระซิบบอก “ฉันกำลังยุ่งอยู่ไม่เห็นเหรอว่าพี่น้ำหวานวัดตัวอยู่”เธอพยายามสื่อสารโดยไม่ให้คนในห้องผิดสังเกต ก็ตั้งแต่เธอเจอคุณผีความจำเสื่อมนี่…เธอก็ถูกมองว่าเพี้ยน ๆ สติไม่เต็มอยู่เสมอผีหนุ่มทำหน้างอน แอบค้อนให้หลายวง เอ่อ...ถ้าเขาหยิบจับอะไรได้เองคงไม่ต้องคอยเรียกแม่สาวตากลมโตคนนั่นให้มาทำโน่น -นี่-นั่น อยู่เรื่อยไปหรอก เดี๋ยวจะหาว่าเขาใช้แรงงานผู้หญิงแถมยังไม่บรรลุนิติภาวะอีกต่างหากแต่ทำไมตอนนั้น...เขารู้สึกเหมือน สามารถช่วยพี่เบียร์ของโซดาบังคับแฮนด์มอเตอร์ไซด์ได้หรือว่าต้องอยู่ในสภาวะฉุกเฉินเท่านั้นเฮ้อ! แถวนี้ไม่มีผีตัวอื่น
“อ้าว...ทำไมไปพร้อมกันสองคนเลยอ่ะ เอ๊ะ!” โซดาหันไปมองทางผีหนุ่มผู้สวมแว่นตาทรงกลมกรอบเงินแล้วทำตาโตก่อนหัวเราะรื่นออกมา “พี่ตั้มนี่ยอดเลย ความพยายามอยู่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั้นเนอะ” เด็กสาวหันไปของความคิดเห็น แต่คนเอ๊ย!ผีข้าง ๆ ก็ไม่ตอบอะไร “โกรธอะไรเหรอ หรืออยากกินขนม เอามะเดี๋ยวฉันจุดธูปแล้วถวายให้” โซดายื่นขนมโดนัทแกว่งไปแกว่งมาหน้าผีหนุ่มขี้เก๊ก “ไม่ต้องเร่งสืบประวัติผมหรอก อยากให้ผมไปเกิดใหม่เร็ว ๆ ใช่ไหม” วิญญาณหนุ่มทำหน้าบึงตึงเหมือนคนกำลังงอน เออแนะ เป็นผีก็งอนเป็นแหะ “เปล๊า” โซดาปฏิเสธเสียงสูง “ก็ฉันปั่นต้นฉบับอยู่นี่ยะ แต่ก็แหม…ตายเป็นผีอย่างนี้แล้วยังอยากรู้นั่นรู้นี่อีกเหรอ” เธอหมุนเก้าอี้กลับมาหน้าคอมพ์ก่อนกัดโดนัทคำโตอย่างประชด “ก็ลองมาเป็นผมดูบ้างไหม” คุณผีหนุ่มร่างโปร่งใสทำหน้างอนเหมือนเด็ก ๆ ไม่เข้ากับรูปร่างสูงเท่หน้าคมเอาเสียเลย“นี่ถ้ารู้ว่าตัวเองเป็นใครแล้วจะทำยังไงต่อไปละ กลับเข้าร่างเหรอ ถ้ามันเน่าหรือเผาไปแล้วจะทำยังไง” โซดาถามพลางทำกวาดสายตามองตั้งแต่หัวจรดเท้าของวิญญ
“ขอบใจนะเพื่อน!” ตั้มยิ้มจนตาหยีเมื่อรับเอกสารการสมัครเรียนที่เพื่อนรักเป็นธุระจัดการหาให้“ตั้งใจหน่อยนะ นายจบปวส.มาแล้ว อดทนต่ออีกสองปีก็ได้ปริญญาตรีเท่ากับฉัน”“เอ๊ะ!อะไรนะคะ” เด็กสาวทำหน้างงเมื่อได้ยินพี่ชายพูดขึ้น“อ้าว! โซดาไม่รู้เหรอว่าไอ้เบียร์มันเรียนมสธ. อยู่ปีสองแล้วนะ…เรานะถ้าขี้เกียจละก็จบที่หลังพี่ชายแน่ ๆ ” ตั้มหัวเราะร่วนเสียงดัง เป็นจังหวะที่ผู้เป็นพ่อดินเข้ามาครัวและได้ยินเข้า“อาตั้มจะเรียนต่อเหรอ”“ครับเตี่ย…แต่ไม่ต้องห่วงนะ ตั้มจะเรียนภาคค่ำรับรองว่าไม่เสียงานที่อู่แน่ ๆ ”“จะไหวเหรอ ไม่เหนื่อยแย่เหรอ” ถึงแม้จะดีใจแต่ก็อดห่วงใยไม่ได้“สบายครับผม!”นายตั้มทำท่าตะเบะเลียนแบบทหารเรียกเสียงหัวเราะจากคนในบ้าน แม้แต่ผู้เป็นพ่อที่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ เด็กสาวหัวเราะกับท่าทีตลกปนทะเล้นของเพื่อนพี่ชายแต่เมื่อหันไปสบตากับผีหนุ่มร่างโปร่งใส เขากลับฝืนยิ้มบาง ๆ และเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ในใจเธอวูบไหวแปลก ๆอยากจะเอ่ยถามแต่ก็กลัวจะเป้าสายตาจึงได้แต่แกล้งทำเป็นไม่เห็น เมื่อสองพี่น้องช่วยจัดโต๊ะอาหารเสร็จก็ขอตัวกลับทันที“ไม่เห็นพี่เบียร์บอกโซดา
เด็กสาวรูปร่างปราดเปรียวเดินเข้ามาในตึกบริษัท R&Mด้วยท่าทางมั่นใจต่างจากครั้งแรก ๆ ที่เธอมักจะมีอาการประหม่าและเกร็งจนเห็นได้ชัด อาจจะเป็นเพราะว่าระยะหลังที่เข้ามาส่งต้นฉบับเธอไม่ได้รู้สึกโดดเดี่ยว และที่สำคัญคล้ายว่ารอยยิ้มที่แต้มใบหน้าตลอดเวลานั้นเหมือนจะยิ้มให้ใครสักคนที่อยู่ใกล้ ๆ ไม่ห่างกาย “มาหาพี่ปกรณ์ค่ะ เอาต้นฉบับมาส่งโทรนัดแล้ว” โซดาเอ่ยกับประชาสัมพันธ์สาวสวยที่เคาน์เตอร์ด้วยความเคยชิน พนักงานคนหนึ่งยิ้มให้อย่างเป็นกันเองก่อนยื่นบัตรผ่านให้เด็กสาวเอามาติดที่อกเสื้อเช่นเคย “หนังสือของโซดาจะออกเมื่อไหร่ละจ๊ะ” “โอ๊ย อีกนานแหละค่ะ...หยอดเงินใส่กระปุกค่อยก่อนก็ยังได้เลย” เด็กสาววัยสิบเจ็ดยิ้มทะเล้นโบกมือลาก่อนเดินมารอลิฟต์ เธอยืนดูเงาตัวเองที่สะท้อนอยู่ในกระจกฝ้าติดกับลิฟต์ ใช้มือลูบผมที่รวบเป็นหางม้าด้านหลังให้เรียบร้อย ต่อให้พี่น้ำหวานสไตล์ลิสต์ส่วนตัวจับเธอแต่งตัวอย่างกับตุ๊กตาบาร์บี้ยังไง เธอก็ยังชอบใส่เสื้อยืดพอดีตัวสีพื้น ๆ กับกางเกงขายาวคุลมเข่าและรองเท้าผ้าใบเซอร์ ๆ อยู่ดี “
“โอ๊ย เจ็บ” โซดาทรุดตัวนั่ง ที่หัวเข่ามาเลือดซึมออกมา แต่เมื่อหันหลังไปเธอได้ยินเสียงตะโกนโหวกเหวกอยู่ด้านหลังพอลุกขึ้นจะก้าวตามก็เจ็บแปลกขึ้นมา เธอคิดว่าตัวเองต้องถูกจับได้แล้วแน่ ๆ แต่จู่ ๆ ก็มีมือเล็ก ๆ มาดึงแขนฉุดร่างของเธอให้เข้าไปในห้องใกล้ทางเดิน มือเรียวบอกบางยกขึ้นทำท่าจุ๊ปากเป็นสัญญาณให้เงียบ เด็กสาวทั้งสองมองลอดประตูที่แง้มไว้เล็กน้อยเมื่อเห็นว่าร่างของผู้ที่ไล่ตามหายลับตาไปแล้ว อีกฝ่ายจึงหันมายิ้มหวานแบบฉบับคุณหนูไฮโซฯให้“เล่นซ่อนหากับใครเหรอโซดา”“แป้งร่ำ!” โซดาไม่รู้จะอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไง ได้แต่ทำหน้าอึกอักบอกอาการไม่ถูก“ไปแล้วล่ะโซดาหาทางออกจากที่นี่ก่อนเถอะ” นายผีวุ่นวายชะโงกหน้าทะลุบานประตูเข้าบอก“เอ่อ...ขอบใจมากแต่ฉันต้องรีบไปก่อนนะ” โซดากำลังจะลุกขึ้นแต่ก็เจ็บที่หัวเข่าจนตัวเซเกือบล้มลง มือของเธอยื่นไปจับโต๊ะเพื่อพยุงตัว แต่ก็ดันดึงเอากระดาษอะไรไม่รู้บนโต๊ะหล่นลงมาด้วย นายผีวุ่นวายช้อนแขนเข้ามาจะประคองจากด้านหลัง ทว่ามือของเขาก็ทะลุร่างเพรียวลมที่ล้มกลิ้งที่พื้นอีกครั้งอย่างหมดสวย แป้งร่ำรีบเข้าประคองโซดาก่อนหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกร
“แต่วันนี้เธอก็โดด....”“ก็...มันสบโอกาส พอดีครูสอนไวโอลินท้องเสีย ก็เลยหนีออกมา” แป้งร่ำยิ้มทะเล้น พลางแกะผมเปียสองข้างออก“คงไม่ใช่ฝีมือเธอทำให้ครูท้องเสียนะ” โซดาพูดขึ้น แต่คนที่คิดได้คือนายวุ่นวายต่างหากแป้งร่ำทำตาโต เหมือนคนถูกจับได้ แต่ส่ายหน้ายิก ก่อนจะเบนความสนใจไปที่อื่น “กินสายไหมกันนะ” “ฮืม ... เอาซิ” ‘เพิ่งจะรู้ว่าชีวิตคุณหนูไม่ได้สบายอย่างที่คิดเลยแหะ’โซดายิ้มกว้างเหมือนตัวเองเป็นพี่เลี้ยงเด็กยังไม่รู้ เฮ้อ! ถ้าท่าทางจะเป็นคุณหนูตัวจริงแฮะ ทำเหมือนไม่เคยกินขนมสายไหม เธอเห็นเพื่อนสาวยืนจ้องที่ถังปั่นสายไหมด้วยใจจดจ่อ จึงแกล้งถอยหลังมาเล็กน้อยเพื่อจะได้ยืนคุยกับนายวุ่นวายได้สะดวกขึ้น“เรื่องวันนี้จะเอายังไง” เสียงทุ้มนุ่มถามเบา ๆ เจือความห่วงใยมากกว่าซ้ำเติม“ไม่รู้...คิดอะไรไม่ออก พี่ปกรณ์กับนายปลายศรเป็นคู่รักซึ่งเรื่องนี้ฉันยอมรับได้แต่...”“เขาไม่ใช่พี่ดุจตะวันของเธอ”“งานเขียนก็โดนขโมย”โซดาก้มหน้าเม้มปากแน่น จะอธิบายยังไงว่าความรู้สึกดี ๆ ในใจของเธอมันแตกสลายไปหมดแล้ว ถึงแม้ว่าการเป็น “เกย์”จะไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไร สำหรับเธอแล้วมันไม่ใช่เรื่องสำค
“เด็กโง่ๆนั่นนะเหรอ...อีกหน่อยก็เป็นเหมือนอุ้ม-อั้มอะไรนั้นอีกหรอก ให้เป็นghost writerดีๆไม่ชอบอย่างขึ้นมาประกาศตัวให้โลกรู้จัก เชอะ! ฝันไปเถอะ..สภาพพิการอย่างนั้นใครเค้าจะชื่นชม หมดยุคสมัยนักเขียนไส้แห้งกินอุดมคติกันแล้ว ลองไม่ใช่ปกรณ์หรือปลายศร หนังสือที่ไหนจะขายออกได้หลักแสนเล่มแบบนี้บ้าง” “เอานะ..เดี๋ยวพี่ปั้นเด็กใหม่ก่อน หลอกทำสัญญาให้เรียบร้อยก่อน เด็กนี่ก็ใช้ได้มีแววดีสั่งงานอะไรก็ทำได้ตามสั่งอย่างกับทำอาหารตามสั่งแนะเหมาะกับการทำงานเป็นGhost writerให้เรา”“ชื่ออะไรนะ โซดาเหรอ ปลื้มพี่ดุจตะวันน่าดูนี่นะ ถ้ารู้ว่าตัวจริงเป็นแค่ผู้หญิงพิการสาวเอ๋อออทิสติกละก็..จะเป็นยังไงนะ” ‘ ดุจตะวัน ’ คงมาจากชื่อจริงของพี่อุ้มนี่เอง พี่อุ้มก็คือนักเขียน‘ ดุจตะวัน ’ ตัวจริง ที่เธอปลื้มแล้วเด็กใหม่โง่ๆที่คิดแค่ทำอะไรก็ได้ให้ใกล้ชิดแวดวงนักเขียนก็พอก็คงเป็นเธอซินะ “โซดา!” นายวุ่นวายกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหู เขาเองก็รับรู้ความเจ็บปวดที่เธอมีและยิ่งนึกเจ็บใจตัวเองที่ไม่สามารถจะเอื้อมมือไปกุมมือเล็ก ๆ ที่สั่นระริก ปวดใจยิ่งนักที่ไม่สามารถปลอบใจและให้กำลังใจผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้ได้ โง่ให้พ
“คราวหน้าคงได้มาสนุกอย่างนี้อีกนะ” แป้งร่ำยิ้มบาง ๆ แล้วโบกมือลาเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ“เราเดินไปส่งนะ” โซดาลุกขึ้นยืนและยื่นมือออกไปให้มือเรียวเล็กจับก่อนลุกขึ้นยืน ผีหนุ่มมองภาพนั้นด้วยรอยยิ้มรู้สึกอิ่มข้างในใจอยากบอกไม่ถูก เด็กสาวสองคนเดินจูงมือกันไปที่ต้นถนนจุดที่นัดคนขับรถไว้ รถเก๋งยุโรปคันหรูเคลื่อนมาใกล้ แป้งร่ำไม่อยากเร่งเท้านักแต่รู้ว่าบริเวณนี้จอดรถนานไม่ได้เธอจึงจำใจเดินไปที่รถ“โชคดีนะ วันนี้สนุกมากเลย”“เช่นกันจ๊ะโซดา”ประตูเปิดออกก่อนที่มือของแป้งร่ำจะเอื้อมไปจับ แต่ร่างเล็ก ๆ ก็ถูกกระชากเข้าไปในรถอย่างรวดเร็ว โซดาตกใจกับภาพที่เห็นรีบกระโจนพุงตัวเข้าไปในรถทันที มือใครบางคนในรถเอื้อมมือออกมาปิดประตูรถอย่างรวดเร็วจนไม่ทันมีใครในบริเวณนั้นสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ รถเคลื่อนตัวออกไปพอดีกับที่ เบียร์ก้าวลงมาจากรถแท็กซี่ที่เข้ามาจอดแทนที่รถยุโรปที่พุ่งตัวออกอย่างรวดเร็ว“ช่วยด้วย! นายวุ่นวาย!” ผีหนุ่มร่างโปร่งใสยืนหันรีหันขวางอยู่ท่ามกลางผู้คนที่ไม่มีใครมองเห็นตัวเขา และไม่ทันสังเกตเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายวุ่นวายมองหาร่างของเบียร์ รีบวิ่งไปตะโก