บทที่ 25 กอดชิงเถาจัดเตรียมโต๊ะอาหารส่วนซูเม่ยยืนคอยทั้งสองที่หน้าห้องกินข้าวทันทีที่เธอเห็นใบหน้าของเขาหัวใจของเธอเต้นแรงตึกตัก....หวนคิดถึงยามที่เธอต้องนอนเตียงเดียวกับเขาใบหน้าของเธอยิ่งแดงระเรื่อมากกว่าเดิม“ฉันคิดอะไรกัน!! หรือเพราะถูกคุณแม่พูดเรื่องลูกทั้งวันในหัวสมองของฉันมีแต่เรื่องบนเตียงโอ๊ย!! ออกไปจากหัวของฉันนะ” ซูเม่ยคิดในใจอย่างเหม่อลอยเฉาจื่อวางอ้ายเยว่ลงจากแขน ก่อนที่จะเดินมากระซิบข้างหูของเธอด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา“คิดถึงจัง” ซูเม่ยสะดุ้งตกใจเล็กน้อยขยับกายหนีทันที“เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”“ตั้งแต่เธอยืนเหม่อลอยหรือว่าเธอเองก็คิดถึงฉันเหมือนกัน ฉันกลับบ้านครั้งนี้ต่อจากนี้เธอจะต้องไปนอนที่ห้องของฉัน และต่อจากนี้เรามาทำหน้าที่พ่อแม่ที่ดีของอ้ายเยว่กันเถอะ” เขาเดินเข้ามาสวมกอดเธอแนบแน่นอ้ายเยว่รีบวิ่งเข้ามากอดทั้งสองด้วยเช่นกัน“ว๊าวว^^ วันนี้คุณพ่อกับคุณแม่รักกันแล้ว อ้ายเยว่ดีใจที่สุดเลยครับ” ซูเม่ยใบหน้าร้อนผ่าวที่ถูกเขาโอบกอดอย่างนี้เธอรีบปัดมือเขาออกและดึงอ้ายเยว่มากอดไว้“อ้ายเยว่มีความสุขแม่เองก็ดีใจอย่างนั้นเราไปกินข้าวกันเถอะคุณย่าเตรียมอาหารไว้มากมาย ไม่รีบเ
บทนำหมิงลู่นักแสดงสาวตัวประกอบนั่งรอเวลาเข้าฉากจนเกิดอุบัติเหตุในกองถ่ายทำให้เธอได้รับบาดเจ็บจนหมดสติ ตื่นมาอีกทีเธอกลายเป็นภรรยาของท่านนายพลไร้ใจไปเสียแล้ว ที่น่าตกใจยิ่งกว่าเธอยังมีลูกชายที่แสนน่ารักอีกหนึ่งคน ชีวิตของตัวประกอบอย่างหมิงลู่เปลี่ยนไปทันที ตอนนี้เธอกลายเป็นซูเม่ยภรรยาที่สามีชังแม่สามีไม่ชอบใจแถมยังหาผู้หญิงอื่นเข้ามาอยู่ในบ้านเพื่อทำให้ทั้งสองหย่ากัน ซูเม่ยเธอพยายามหลายครั้งที่ขอหย่าแต่ทำอย่างไรจิ่นเฉาจื่อนายพลไร้ความรู้สึกกลับไม่สนใจในสิ่งที่เธอพูดและไม่ยอมหย่าให้เธอเสียที จนตอนนี้อ้ายเยว์อายุ 5 ขวบ ซูเม่ยต้องทนอยู่ในบ้านหลังนี้ด้วยความทุกข์ทรมานใจ จนกระทั่งหมิงลู่เข้ามาอยู่ในร่างเธอจะไม่ทนอย่างซูเม่ยคนเก่า ในเมื่อแม่สามีอยากจะได้ลูกสะใภ้คนที่เธอชอบใจ ได้!! ซูเม่ยคนนี้จะจัดการให้เอง และเธอจะเรียกร้องค่าเสียหายที่สามีนอกใจเมื่อนั้นเธอจะฟ้องหย่าและเรียกร้องเอาเงินเพื่อพาอ้ายเยว์ออกไปจากบ้านที่น่าเบื่อหลังนี้เสียที …แต่ทว่าเมื่อพบหน้ากันครั้งแรกทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปไม่เป็นดั่งใจคิด จากสามีที่เคยเกลียดชังไม่สนใจใยดี กลับกลายเป็นว่าเขาไม่ยอมหย่าไม่ว่าเธอ
บทที่ 2 ฉันไม่ทนเมื่อหมิงลู่ได้ยินเรื่องราวของเจ้าของร่างเดิม ยิ่งรู้สึกสงสารทั้งเธอและลูกชายทำไมชีวิตของทั้งสองถึงได้รันทดอย่างนี้ แต่งงานเข้ามาในบ้านของนายทหารแต่ทว่าทั้งสองไม่ได้แต่งกันด้วยความรัก อีกทั้งแม่สามียังคอยรังแกกลั่นแกล้งอยู่ตลอดเวลา และที่เธอนอนหลับอยู่บนเตียงไม่ได้สติมาหลายวันเพราะแม่สามีใช้งานเธอทั้งที่ฝนตกลงมากระหน่ำแต่ไม่ยอมให้เธอเข้าร่ม ทำให้ร่างกายที่ไม่ค่อยได้พักผ่อนอ่อนแอจนทนไม่ไหว เป็นลมท่ามกลางสายฝน เมื่ออ้ายเยว่ไม่เห็นแม่ของตัวเองทั้งที่ฝนตกกระโชกแรงจึงออกตามหาเห็นแม่ของตัวเองหมดสติกลางสายฝน เขาตกใจรีบเรียกให้คนมาช่วยเหลือ เวลาล่วงเลยจนมาถึงวันนี้วันที่ 3 อ้ายเยว่ดีใจมากที่เธอฟื้นขึ้นมา หมิงลู่ได้ฟังถึงกับรับไม่ได้ส่วนนายทหารผู้เป็นสามีหลังจากคืนแต่งงานเขาไม่เคยสนใจตัวเธอด้วยซ้ำ มีเพียงแม่ของเขาที่โทรเลขไปเล่าเรื่องของเธอให้สามีฟังแถมยังใส่ไฟให้สามีเกลียดเธอมากกว่าเดิม“ฮึ ฮึ อะไรกันทำไมถึงได้หูเบาเชื่อฟังแต่แม่ตัวเองไม่สนใจลูกเมีย เอาล่ะในเมื่อสวรรค์ส่งฉันมาอยู่ในร่างนี้ฉันจะทำทุกวิถีทางไม่ให้แม่สามีมารังแกได้อีก เป็นถึงภรรยาของท่านนายพลแต่กลับใช้งานยิ่งกว่
บทที่ 3 เริ่มเปลี่ยนแปลงซูเม่ยเดินออกมาจากห้องอย่างพอใจเธอเดินสำรวจแต่ละห้องอย่างใจเย็น ห้องด้านบนมีสี่ห้องด้วยกัน ถัดจากห้องของชิงเถาก็เป็นห้องว่างที่กว้างใหญ่เหมือนกันแต่เธอไม่เอาหรอกไม่อยากอยู่ใกล้ให้ปวดหัว อีกสองห้องฝั่งซ้ายเธอเดินดูด้านในหนึ่งห้องเป็นห้องของนายพลจิ่นเฉาจื่อผู้เป็นสามีของเธอ‘เฮอะ!หากเป็นสามีภรรยาคู่อื่นคงได้อยู่ห้องเดียวกัน แต่ทำไมซูเม่ยถึงได้อยู่ห้องข้างล่างนั่นนะ หรือว่าไม่ใช่แค่แม่สามีที่ไม่ชอบสามีของเธอก็ไม่ชอบเธอเหมือนกันเหรอะเนี่ย!! ช่างน่าปวดหัวเสียจริง แต่เอาล่ะอย่างไรเขาก็ไม่กลับมาง่าย ๆ คงยังไม่ต้องคิดหาทางรับมือ ตอนนี้ต้องรับมือกับแม่สามีให้ได้เสียก่อน’ ซูเม่ยเดินลงมาชั้นสองเดินสำรวจดูทุกห้องชั้นสองน่าจะเป็นห้องรับรองแขกเวลาที่มาเยี่ยมเยือน เธอเลยคิดว่าจะอยู่ที่ชั้นสองให้ไกลจากแม่สามีจะได้หลีกเลี่ยงการปะทะหน้ากัน เธอเห็นสาวใช้เดินผ่านมาพอดีจึงจะโกนเรียกให้สาวใช้ปัดกวาดเช็ดถูห้องนี้ให้เธอ“นี่!! เธอเดินมาที่นี่พอดี ฉันมีเรื่องจะให้ทำให้หน่อย”“เอ่อ...มีเรื่องอะไรให้ทำเหรอคะคุณนายเล็ก” สาวใช้ในบ้านเคยได้รับคำสั่งจากคุณนายใหญ่ไม่ให้ช่วยเหลืองานคุณนายเล็ก
บทที่ 4 ความผิดพลาดทั้งสองเดินเข้ามาในห้องกินข้าวเห็นแม่สามีนั่งไม่พอใจอยู่ที่โต๊ะอาหารด้วยสีหน้าบึ้งตึง ซูเม่ยหัวเราะคิกคักเข้ามาเห็นถึงกับหุบยิ้มทันที“นี่ใครบอกให้เธอเป็นคนสั่งพ่อครัวให้นำเป็ดมาทำอาหารรู้ไม่ว่าจะกินเป็ดแต่ละครั้งต้องมีเทศกาลหรืองานสำคัญ ๆ รวมถึงการแสดงความยินดีไม่ใช่อยากกินก็จะได้กิน สิ้นเปลืองจริง ๆ”“เฮ้อ! ถ้าคุณแม่ไม่อยากกินก็ไม่ต้องกินค่ะ ฉันกับอ้ายเยว่จะกินเองทำไมต้องรอวันเวลาฤกษ์งามยามดีด้วย อยากกินเมื่อไหร่ก็กินสิตายวันไหนใครจะไปรู้ได้ แค่เป็ดตัวเดียวไม่ทำให้ขนหน้าแข้งท่านนายพลหลุดร่วงหรอกใช่มั้ยคะ อ้ายเยว่นั่งลงที่เก้าอี้เร็วสิแม่จะฉีกเนื้อเป็ดให้วันนี้กินเยอะ ๆ นะเข้าใจมั้ย "ซูเม่ยไม่กลัวแถมยังตอบกลับอย่างหน้าตาเฉยจนสาวใช้ที่คอยรับใช้อยู่ในห้องสองคนถึงกับจ้องมองใบหน้ากันอย่างเลิกลัก ชิงเถานั่งตัวสั่นเทากำมือแน่นโมโหลูกสะใภ้มาก ๆ“ทำมาก็ต้องกินสิ นี่ชักช้าทำไมมาตักข้าวสิอาหารเย็นเดี๋ยวไม่อร่อย” ซูเม่ยแสยะยิ้มในที่สุดแม่สามีก็ไม่สามารถต่อว่าเธอต่อได้ทั้งสามกินอาหารกันเสร็จ ซูเม่ยพาอ้ายเยว่มาที่ห้องของเธอวันนี้เป็นวันแรกที่เธอทะลุมิติมาที่นี่การนอนคนเดียวใน
บทที่ 5 น้อยไปหน่อยรุ่งเช้าวันต่อมาร่างเล็กนอนอุดอู้อยู่ในอ้อมกอดของคนเป็นแม่อย่างอบอุ่น แสงแดดเริ่มสาดส่องเข้ามาเล็ดลอดหน้าต่างทำให้ร่างบางเริ่มแสบตาค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมองดูเธอสะดุ้งตกใจเมื่อเห็นเด็กชายในอ้อมกอด ก่อนจะคิดขึ้นมาได้ว่าเธอทะลุมิติมาเป็นแม่ของเด็กชายคนนี้ เธอหายใจเข้าออกอย่างช้า ๆ กลัวว่าจะทำให้เด็กชายตื่น จ้องมองใบหน้าของเด็กน้อยอย่างละเอียด คิ้วคมเข้มจมูกโด่งเป็นสันริมฝีปากเหมาะเจาะกับใบหน้า ยิ่งมองยิ่งเห็นว่าเด็กชายคนนี้โตขึ้นต้องหล่อมากแน่ ๆ“อื้อ...” เสียงเล็กครวญครางออกมาเมื่อรู้สึกตัวว่าเช้าแล้ว“ตื่นแล้วหรือ?”“อ้ายเยว่ตื่นแล้วครับ เมื่อคืนนี้อ้ายเยว่ฝันดีมากเลยครับ ฝันว่าคุณพ่อกลับมาครอบครัวของเราอยู่พร้อมหน้า คุณแม่กับคุณพ่อนอนกอดอ้ายเยว่ในอ้อมแขนอบอุ่นเหลือเกินจนไม่อยากจะตื่นเลยครับ”“หื้ม ..ฝันดีจริงๆ ด้วย!! เอาล่ะในเมื่อตื่นแล้วเราไปล้างหน้ากันเถอะนะ” เด็กชายยันกายลุกขึ้นบิดขี้เกียจซูเม่ยก็รีบลุกตามเปิดหน้าต่างมองออกไปด้านนอก วันนี้เธอคิดไว้จะไปทำผมทำเล็บที่ร้านเสริมสวยที่นี่น่าจะมีร้านอยู่บ้างอย่างไรยุคนี้ก็เป็นยุคที่เข้าถึงความเจริญแล้ว“อ้ายเยว่ตอนนี้ลูกได
บทที่ 6 เหลี่ยมมาเหลี่ยมกลับ“นี่มันจะเกินไปแล้วนะ!! เธอจะขูดเลือดฉันไปถึงเมื่อไหร่”“อะไรนะคะ ฉันขูดเลือดจากคุณแม่เมื่อไหร่กันตั้งแต่จำความได้คุณแม่ไม่เคยให้เงินฉันใช้สักหยวน อย่างนี้ใครกันแน่ที่เสียเปรียบหากคุณแม่ไม่อยากให้ฉันก็ไม่มีทางเลือกไปกันเถอะอ้ายเยว่วันนี้เราคงจะต้องไปที่อำเภอเรียกร้องความไม่ยุติธรรมในครั้งนี้เสียหน่อย” ชิงเถาทั้งโมโหทั้งโกรธที่ไม่สามารถเอาชนะซูเม่ยได้เลย“ก็ได้!! ฉันจะให้เธอเพิ่มอีกสักหน่อยเพราะอย่างไรอีกไม่กี่วันเธอจะไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้ให้ฉันรำคาญใจแล้ว” ชิงเถาล้วงเงินออกมาเพิ่มอีก 30 หยวนทั้งหมดเป็น 40 หยวนยื่นให้แก่ซูเม่ยรอบนี้เธอรีบรับทันทีพร้อมคิดตามคำพูดของแม่สามี“อย่างนี้ค่อยสมน้ำสมเนื้อหน่อย ว่าแต่เมื่อครู่คุณแม่พูดว่าฉันจะไม่ได้อยู่ในบ้านหลังนี้แล้วอย่างนั้นหรือ?ดีเหมือนกันฉันเองก็ไม่อยากอยู่ที่นี่หรอกช่วยโทรเลขบอกท่านนายพลกลับมาหย่าเร็ว ๆ นะคะฉันเองก็เบื่อเต็มทน” อ้ายเยว่ใบหน้าเศร้าสลดอีกครั้งเมื่อได้ยินผู้ใหญ่ทั้งสองพูดคุยกันเขาไม่อยากให้แม่ไปอยู่ที่อื่นเลยซูเม่ยอุ้มอ้ายเยว่เดินมาที่ห้องกินข้าวก่อนจะวางตัวของอ้ายเยว่ให้นั้งที่เก้าอี้ เธอสังเก
บทที่ 7 ฉันไม่หย่า"อาหารที่สั่งมาแล้วครับ " เสียงพนักงานบอกกล่าวว่าตอนนี้อาหารที่ซูเม่ยสั่งได้จัดเตรียมยกมาเสิร์ฟแล้ว อ้ายเยว่วางมือจากของเล่นเหลียวมองอาหารอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นปูนึ่งที่ซูเม่ยสั่งมาให้ เธอไม่ได้สนใจโต๊ะข้าง ๆ อีก หันกลับมาสนใจลูกชายตัวน้อยแทนหลังจากที่ทั้งสองเพลิดเพลินกับการกินอาหารจนอิ่มหนำสำราญซูเม่ยจัดการจ่ายเงินและพาอ้ายเยว่กลับบ้าน ตอนท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี ผู้คนพากันเดินทางกลับจากการทำงาน วันนี้เธอพาอ้ายเยว่ออกมาเที่ยวเล่นทั้งวันจริง ๆ ทั้งสองเดินมาถึงหน้าบ้านก็ต้องแปลกใจที่เห็นรถยนต์ที่ไม่คุ้นเคยจอดนิ่งอยู่ที่โรงจอดรถ"แม่ครับนั่นรถใครกัน""นั่นสิแม่เองก็ไม่รู้หรือว่าจะมีแขกมาที่บ้านกัน " ซูเม่ยคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างสงสัยแต่ไม่ทันให้ได้ได้คาดเดาก็เห็นเจ้าของรถกำลังยืนหน้าบูดบึ้งอยู่หน้าประตูเสียแล้ว ชายหนุ่มแต่งกายด้วยชุดทหารร่างกายบึกบึนหน้าอกกว้างสง่าผ่าเผย ใบหน้าคมเข้มจมูกโด่งเป็นสันดวงตาเฉียบแหลม ซูเม่ยเดาได้ทันทีเพราะใบหน้าเขาคล้ายอ้ายเยว่ไม่มีผิด นั่นคือจิ่นเฉาจื่อสามีของซูเม่ย'ว๊าวว หน้าตาหล่อเหลาใช้ได้รูปร่างก็สูงโปร่งบึกบึนดีไม่แปลกเลยที่พวกผู้หญิงพ
บทที่ 25 กอดชิงเถาจัดเตรียมโต๊ะอาหารส่วนซูเม่ยยืนคอยทั้งสองที่หน้าห้องกินข้าวทันทีที่เธอเห็นใบหน้าของเขาหัวใจของเธอเต้นแรงตึกตัก....หวนคิดถึงยามที่เธอต้องนอนเตียงเดียวกับเขาใบหน้าของเธอยิ่งแดงระเรื่อมากกว่าเดิม“ฉันคิดอะไรกัน!! หรือเพราะถูกคุณแม่พูดเรื่องลูกทั้งวันในหัวสมองของฉันมีแต่เรื่องบนเตียงโอ๊ย!! ออกไปจากหัวของฉันนะ” ซูเม่ยคิดในใจอย่างเหม่อลอยเฉาจื่อวางอ้ายเยว่ลงจากแขน ก่อนที่จะเดินมากระซิบข้างหูของเธอด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา“คิดถึงจัง” ซูเม่ยสะดุ้งตกใจเล็กน้อยขยับกายหนีทันที“เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”“ตั้งแต่เธอยืนเหม่อลอยหรือว่าเธอเองก็คิดถึงฉันเหมือนกัน ฉันกลับบ้านครั้งนี้ต่อจากนี้เธอจะต้องไปนอนที่ห้องของฉัน และต่อจากนี้เรามาทำหน้าที่พ่อแม่ที่ดีของอ้ายเยว่กันเถอะ” เขาเดินเข้ามาสวมกอดเธอแนบแน่นอ้ายเยว่รีบวิ่งเข้ามากอดทั้งสองด้วยเช่นกัน“ว๊าวว^^ วันนี้คุณพ่อกับคุณแม่รักกันแล้ว อ้ายเยว่ดีใจที่สุดเลยครับ” ซูเม่ยใบหน้าร้อนผ่าวที่ถูกเขาโอบกอดอย่างนี้เธอรีบปัดมือเขาออกและดึงอ้ายเยว่มากอดไว้“อ้ายเยว่มีความสุขแม่เองก็ดีใจอย่างนั้นเราไปกินข้าวกันเถอะคุณย่าเตรียมอาหารไว้มากมาย ไม่รีบเ
บทที่ 24 ย้ายประจำการเหวินฉิงจำชื่อนี้ขึ้นใจนายพลจิ่นเฉาจื่อคือคนที่จัดการน้องรักของเขาบนรถไฟแถมยังเข้ามาขัดขวางเขาหลายอย่าง เขาไม่มีทางปล่อยให้จิ่นเฉาจื่ออยู่อย่างสงบสุขแน่ ทุกคนในพื้นที่ต้องยอมและกลัวอิทธิพลของแก๊งมังกรดำ แต่เขากลับไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย มียศเป็นนายพลแล้วอย่างไรเขาจะทำให้ทุกคนในตระกูลของจิ่นเฉาจื่อต้องเจอเรื่องทุกข์ยากที่กล้าเข้ามาขัดขวางการทำงานของแก๊งมังกรดำ ยิ่งถ้าเขารู้ความเคลื่อนไหวในบ้านของนายพลยิ่งเป็นเรื่องง่ายต่อการจัดการ เขาตอบรับคำขอของยูร์เหยาไม่ใช่ว่าเพราะเขาทำเพราะชอบเธอเท่านั้นแต่เขาแค้นใจอยากแก้แค้นด้วย ต่างหากจึงใช้โอกาสนี้หลอกใช้เธออีกทีหลายวันต่อมาที่บ้านของชิงเถาตั้งแต่เฉาจื่อกลับที่กรมทหารไม่เคยมีวันไหนที่เขาจะไม่โทรเลขมาเลยสักวันและวันที่เขาโทมามักจะถามหาแต่ซูเม่ยขอคุยกับเธอแทบทุกวันจนซูเม่ยไม่อยากจะพูดกับเขาแล้ว"นี่คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันทุกวันรู้มั้ยว่าฉันเบื่อและไม่มีเรื่องจะคุยกับฉันแล้ว คุยกับคุณแม่ของคุณเถอะนะวันนี้ฉันจะพาอ้ายเยว่ออกไปข้างนอก ""ทำไมล่ะฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกและเป็นเรื่องใหญ่ด้วยจะพาอ้ายเย่วไปเที่ยวหรือไงกัน""เรื่อง
บทที่ 23 ยูร์เหยาไม่ยอมหลังจากกินข้าวเช้าเสร็จทั้งสี่คนได้ร่ำลากันจนกระทั่งถึงเวลาออกรถ เฉาจื่อจึงให้ทุกคนไปรอที่รถก่อนเขาบอกทุกคนว่าลืมของแต่แท้ที่จริงแล้วเขาได้เข้ามาหาแม่ของซูเม่ยก่อนจะล้วงเอาเงินจำนวนหนึ่งยื่นให้เธอเอาไว้ใช้ เขาเองก็รู้สึกผิดที่ผ่านมาไม่เคยให้ซูเม่ยมาดูแล เธอทั้งทำงานบ้านที่บ้านของเขาสารพัดไม่ต่างจากสาวใช้ เงินคุณแม่ก็ไม่เคยให้เธอได้จับจ่ายใช้ช้อยเธอคงไม่มีเงินที่จะส่งมาให้แม่ของเธอได้ใช้"คุณแม่เก็บเอาไว้ใช้นะครับ ที่ผ่านมาเป็นเพราะผมดูแลซูเม่ยไม่ดีเอง ทำให้เธอไม่ได้กลับมาเยี่ยมเยือนคุณแม่ต่อจากนี้ผมจะให้เธอมาบ่อย ๆ แม้เงินจำนวนนี้ไม่มากเท่าไหร่ คุณแม่ช่วยรับไว้ด้วยนะครับ""ไม่เห็นจะต้องเอาให้เลย อยู่ที่นี่ไม่ค่อยได้ใช้จ่ายอะไรเก็บเอาไว้ให้อ้ายเยว่ซื้อเสื้อผ้าเถอะ""รับไว้เถอะนะครับ ส่วนของอ้ายเยว่ผมจัดเตรียมไว้ให้แล้ว ผมลานะครับ" เขายัดเงินใส่มือของเธอก่อนจะก้มโค้งลาและเดินไปขับรถยนต์ออกจากที่หมู่บ้านแห่งนี้ระหว่างทางขากลับซูเม่ยรับรู้ได้ว่าบรรยากาศในรถเปลี่ยนไปไม่เหมือนตอนมาเลยสักนิด ทุกคนต่างเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นตอนอยู่บ้านคุณยายอย่างสนุกสนาน ชิงเถาจะขอมา
บทที่ 22 นอนเตียงเดียวกันท้ายที่สุดอ้ายเยว่ได้ไปนอนกับคุณยายจริง ๆ ส่วนเฉาจื่อได้นอนห้องนอนของซูเม่ยที่เธอเคยอยู่ตั้งแต่เด็ก ๆ ในห้องของเธอยังสะอาดเอี่ยมเพราะแม่ของเธอเข้ามาทำความสะอาดอยู่บ่อย ๆ ของใช้ที่เธอเคยใช้ยังคงเก็บไว้ที่เดิม แม้แต่รูปถ่ายของเธอตอนที่เรียนได้ถ่ายเอาไว้แม่ได้ใส่กรอบตั้งโต๊ะให้เธอได้เห็น น้ำตาของเธอไหลอีกครั้งเมื่อเข้ามาด้านในเฉาจื่อเดินตามเข้ามาซูเม่ยรีบปาดน้ำตาไม่อยากให้เขาได้เห็น"แม่ของเธอคงคิดถึงเธอมากแน่ ๆ ในห้องยังสภาพเหมือนมีคนเข้ามาอยู่ทุกวัน เป็นเพราะฉันถ้าฉันไม่ทำเธอท้องตอนนี้คงอยู่ที่นี่ดูแลคุณแม่ เฮ้อ! ฉันขอโทษนะแถมยังไม่เคยสนใจเรื่องราวของเธออีกด้วย ต่อจากวันนี้หากเธออยากกลับมานอนกับแม่มาเยี่ยมแม่มาได้เสมอ""มาพูดอะไรตอนนี้ ในเมื่อต้องนอนด้วยกันอย่างนั้นคืนนี้คุณนอนด้านล่างฉันไม่มีทางให้คุณนอนบนเตียงกับฉันเด็ดขาด คุณเป็นทหารนี่น่าเคยออกรบนอนที่พื้นคงไม่ยากลำบากอะไร นี่ผ้าห่มนี่หมอน" ซูเม่ยเดินไปใกล้เตียงจับผ้าห่มและหมอนยื่นให้เขา แต่ทว่าตอนนั้นเฉาจื่อไวกว่าซูเม่ย เขาทำท่าจะคว้าผ้าห่มแต่เขาจับแขนของเธอดึงไปที่เตียงนอนและนอนนาบลงบนเตียงโดยกอดเธอเอาไ
บทที่ 21 ไปเยี่ยมแม่ของซูเม่ยหลังจากที่เตรียมตัวเสร็จซูเม่ยเดินลงมาด้านล่างต้องแปลกใจเมื่อเห็นชิงเถาเตรียมตัวเสมือนจะออกไปกับเธอด้วย“มาแล้วหรือรีบออกเดินทางกันเถอะต้องแวะตลาดซื้อของฝากอีก”“ไม่คิดเลยนะคะว่าคุณแม่จะไปบ้านของฉันด้วย หรือว่าจะเกิดฝนตกน้ำท่วมหรือจะแล้งกัน” ซูเม่ยอดไม่ได้ที่จะเหน็บแนมแม่สามี เพราะจู่ ๆ เธอทำตัวเปลี่ยนไปจนน่าตกใจ“นี่ซูเม่ยคุณแม่แค่อยากไปเยี่ยมแม่ของเธอเช่นกัน ทำไมต้องพูดจารุนแรงกับคุณแม่ด้วยมาแล้วก็ไปกันเถอะ” เฉาจื่อไม่อยากให้ทั้งสองมีปากเสียงกันไปมากกว่ารีบมาจับมือของซูเม่ยให้เดินตามตนเองไปที่รถ แม่ของเขาเดินตามมาทีหลังพร้อมอ้ายเยว่“นี่ปล่อยฉันนะ ทำไมต้องพาคุณแม่คุณไปด้วยแค่รังแกฉันคนเดียวไม่พอหรือไงนี่จะให้แม่ของคุณไปพูดจาเหยียดหยามดูถูกแม่ของฉันอีกคน เรื่องนี้ฉันขอรับรู้เพียงคนเดียวหากแม่ของฉันรู้ว่าฉันมาอยู่ที่บ้านของคุณแล้วเจออะไรบ้าง ความรู้สึกของแม่ของฉันจะเป็นอย่างไร หากเป็นอย่างนี้อย่าไปเลยดีกว่า” คำพูดของซูเม่ยดังจนทำให้ชิงเถาที่เดินตามมาทีหลังได้ยินจนหมด ในความเป็นแม่เธอเองก็เข้าใจดี หากเห็นลูกของตัวเองถูกรังแกและถูกกลั่นแกล้งสารพัด จนเจ็บไข้
บทที่ 20 หลงรักภรรยาฝั่งด้านเฉาจื่อเขาตื่นเช้าขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี วันนี้เขาเลือกที่จะเข้าไปที่สวนหลังบ้านพื้นที่ที่คุณแม่ใช้ปลูกผักมากมาย นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้เข้ามาที่นี่ เขาจึงจัดการซ่อมแซมไม้ที่รกและของที่ผุพัง จนกระทั่งถึงตอนบ่ายเขากำลังนั่งพักก่อนที่จะทำต่อเนื่องจากแดดเริ่มร้อนระอุ จึงเอนกายนอนลงที่นั่งพักของสวนพักหูของเขาแว่วได้ยินเสียงเท้าที่เร่งรีบเดินมาใกล้ เขาคงไม่ต้องเดาก็รู้ได้ในทันทีว่าคงเป็นซูเม่ย เขาจึงแกล้งหลับตาอยากรู้เหมือนกันว่าเธอมาหาเขาทำไม“นี่!! ไม่ต้องทำมาเป็นนอนหลับเลยนะ ลืมตาลุกขึ้นมาคุยกับฉันเดี๋ยวนี้เรื่องเมื่อคืนนี้ฉันรู้นะว่าคุณไม่ได้ทำอะไรฉัน ที่คุณพาฉันไปที่ห้องคุณและแกล้งทำเป็นว่าเรานอนด้วยกัน เพราะคุณรู้แผนการณ์ของฉันใช่มั้ย เฮอะ! รู้แล้วทำไมต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้ด้วย เมื่อก่อนไม่เห็นจะสนใจฉันจะเป็นจะตายตอนนี้ทำไมถึงไม่อยากหย่าขึ้นมาล่ะ คงไม่ได้พึ่งจะมารู้สึกกับฉันตอนนี้หรอกนะ นี่คุณได้ยินมั้ยตื่นเดี๋ยวนี้เลยนะ!!!” ซูเม่ยพยายามปลุกเขาที่หลับปุ๋ยอยู่ จู่ ๆ เมื่อเธอพูดจบถูกเขากระชากแขนดึงร่างกายของเธอเข้าไปหาจนตอนนี้เธอนอนอยู่บนตัวของเขาและถูกเขาโ
บทที่ 19 ผิดแผนไม่นานซูเม่ยได้กลับมาพร้อมถังและผ้าเธอคิดว่าเฉาจื่อจะดื่มแล้วเสียอีกแต่ทว่าเขายังอยู่ท่าเดิมส่วนยูร์เหยาดวงตาเริ่มเคลิ้มแล้ว เธอจึงรีบเก็บกวาดตอนนั้นสาวใช้ลงพาจากด้านบนพอดีจึงเป็นคนจัดการต่อ"ทำไมคุณไม่ดื่มละคะ ยูร์เหยาเอาอีกมั้ยฉันจะรินให้""ได้ค่ะ แต่ฉันขออีกแก้วก็พอนะคะฉันดื่มไม่ค่อยเก่งแถมตอนนี้รู้สึกง่วงนอนอย่างไรก็ไม่รู้" แค่ได้ยินอย่างนั้นซูเม่ยตื่นเต้นเหลือเกินแค่เพียงเฉาจื่อดื่มหมดแก้วเรื่องทุกอย่างจะได้จบสิ้นลง"ได้สิ" ซูเม่ยลุกขึ้นไปรินให้ยูร์เหยาอีกแก้วเธอกลับมานั่งที่เก้าอี้ยกแก้วขึ้นอีกครั้ง"มาดื่มพร้อม ๆ กันเถอะค่ะ พรุ่งนี้คุณก็กลับแล้ววันนี้ปลดปล่อยตัวเองหน่อยสิคะ" เฉาจื่อหยิบแก้วไวน์ขึ้นมายิ้มกว้างให้ซูเม่ย"เอาสิแก้วนี้ฉันขอดื่มให้เธอแล้วกัน" เขาดื่มจนหมดไม่เหลือสักหยดซูเม่ยดีใจมาก ๆ จึงยกไวน์ในมือดื่มจนหมดเหมือนกัน ไม่นานนักยูร์เหยาได้สลบลงซูเม่ยรียเข้าไปประคองทันนี"ไม่คิดเลยว่าเธอจะคออ่อนอย่างนี้ฉันจะพาไปนอนตรงโต๊ะด้านนู้นนะ สาวใช้กลับมาจะให้ไปตามคนขับรถมาพาเธอกลับบ้าน ถ้ารู้อย่างนี้ฉันไม่ให้เธอมาดื่มด้วยหรอกเป็นความผิดของฉันแท้ ๆ "เมื่อเห็นอย่างน
บทที่ 18 ตลบหลังตอนเย็นมาถึงวันนี้ชิงเถาลงมือทำอาหารด้วยตัวเอง จนถึงเวลากินอาหารให้สาวใช้ไปตาทุกคนมาที่โต๊ะอาหาร เมื่อทุกคนมานั่งประจำที่สาวใช้กำลังตักข้าวใส่จานเสียงรถยนต์ได้ขับเคลื่อนเข้ามาที่หน้าบ้าน ทุกคนต่างพากันสงสัยว่าใครมาเยือน“เย็นขนาดนี้ใครมากันนะ!” ชิงเถาพูดขึ้นอย่างสงสัย“คุณแม่นั่งกินเถอะครับเดี๋ยวผมจะออกไปดูเองว่าใครมา” เฉาจื่อลุกขึ้นเดินออกไปต้อนรับแขกที่มาเยือน ซูเม่ยแอบยิ้มมุมปาก‘มาถูกเวลาจริง ๆ ’วันนี้ยูร์เหยาดีใจมาก ๆ ที่จะได้พบกับเฉาจื่ออีกเธอจะทำทุกวิถีทางมัดใจของเขาให้ได้“พี่เฉาจื่อออกมารับฉันด้วย หรือว่าเขาจะรู้สึกเสียใจที่เมื่อวานทำตัวเหินห่างฉันกันนะ!! ดีเลยวันนี้ฉันจะใช้มารยาที่ฉันมีทั้งหมดใช้กับเขาเอง”เฉาจื่อเห็นคนที่เดินลงมาจากรถคิ้วของเขาขมวดเข้าหากันทันที เธอมาที่นี่อีกทำไมกันนะ!! หรือว่าคุณแม่จะเป็นคนเรียกเธอมาให้มากินข้าวด้วยกัน แต่เมื่อเขานึกย้อนไปเมื่อครู่คุณแม่เองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะมีคนมา หรือว่าจะเป็นซูเม่ยเพราะช่วงเช้าเขาเห็นเธออยู่ใกล้ ๆ โทรศัพท์แถมยังยิ้มเล็กยิ้มน้อย เมื่อครู่เขาเหลือบไปเห็นรอยยิ้มที่มุมปากของเธอ หรือว่าเธอมีแผนการอะไรบางอ
บทที่ 17 หยุดเถอะครับบนเตียงนอนที่ไม่ได้ใหญ่มากสามคนนอนเบียดกันแน่นแต่ทว่าไม่ได้รู้สึกอึดอัดอ้ายเยว่หลับปุ๋ยในอ้อมกอดทั้งสองคน ก่อนที่เขาจะนอนหลับได้จับมือของซูเม่ยกับเฉาจื่อให้กอดตัวเองสองมือประกบกันอยู่บนตัวของเด็กชาย เมื่อเห็นว่าอ้ายเยว่หลับสนิทเฉาจื่อรีบดึงมือออกมาจากตัวของอ้ายเยว่โดยเร็วและค่อย ๆ ลุกจากเตียงนอน ซูเม่ยเองเธอเคยเข้าฉากอย่างนี้มามากเพียงเท่านี้เธอไม่ได้คิดอะไรเลยสักนิดเพราะคิดอย่างเดียวว่าทำเพื่ออ้ายเยว่แต่ใครจะไปคิดว่าเธอนอนไปเรื่อย ๆ จนเผลอหลับไปพร้อมอ้ายเยว่“ฟู่!!! ทำไมวันนี้อากาศถึงได้ร้อนขนาดนี้นะ ฉันคงนอนที่นี่ไม่ได้หรอก” เขาพูดพลางมองไปยังเตียงนอนเห็นซูเม่ยกับลูกชายนอนกอดกันแน่นหัวใจของเขาดังโครมครามมากกว่าเดิม“ทำไมถึงกล้าหลับทั้งที่ฉันอยู่ในห้องนี่ด้วยนะ แต่วันนี้เธอเองก็คงตกใจเหนื่อยมาทั้งวัน” เฉาจื่อห่มผ้าให้ทั้งสองพร้อมปิดไฟก่อนจะเดินออกไปจากห้องนี้ด้วยหัวใจที่ร้อนรุ่มเช้าวันต่อมาซูเม่ยลืมตาขึ้นมาไม่เห็นเงาของเขาแล้วมีเพียงอ้ายเยว่ที่นอนขดตัวอยู่ในอ้อมกอด“นี่ฉันเผลอหลับไปหรือเนี่ย.. แล้วฉันไว้ใจเขาได้ยังไงกันนะ!!แม้เขาจะปกป้องและทำดีกับฉันก็เถอะ แต่