ตอนที่ 15หวง.. ทุกอย่างที่เป็นเธอเมื่อนึกถึงสิ่งที่พอจะเป็นไปในเวลานี้จึงทำให้ฉันคิดออกได้หนึ่งวิธี และทันทีที่เห็นแสงสว่างเล็ก ๆ ทางรอดเพียงทางเดียวที่มีอยู่ทำให้ฉันจึงรีบหยิบมือถือขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะทักหาเพื่อนสมัยเรียนที่เป็นอัจฉริยะด้านนี้โดยเฉพาะ และเขานั้นก็ไม่ทำให้ฉันผิดหวังทันทีที่ทักหาเขาพิมเล่าเรื่องราวให้เขาเข้าใจก็ได้วิธีที่สามารถกู้ไฟล์ที่ถูกลบไปได้ภายในไม่ถึงครึ่งชั่วโมง‘ขอบใจมากนะไวเปอร์.. ไว้ม่านจะเลี้ยงข้าว’ ฉันกดส่งข้อความให้เพื่อนเป็นประโยคสนทนาสุดท้ายด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ ก่อนจะจัดการปริ้นเอกสารที่จำเป็นออกมาจนแล้วเสร็จ“เรียบร้อยแล้วค่ะ” ปลายหางตาของฉันเหลือบมองสังเกต เห็นว่าคุณหนูน้ำตาลนั้นมีอาการตกใจไม่น้อยที่เห็นว่าฉันนั้นสามารถกู้เอกสารที่ถูกลบออกไปได้และกำลังเดินนำเอกสารนั้นไปยื่นให้กับเขา“เก่งนิ” ปิติภัททรเอ่ยออกมาพร้อมยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยส่งให้ ก่อนจะเก็บข้าวของที่จำเป็นแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง“แม่ไม่ไปไหนหรอครับ วันนี้ผมกับม่านฟ้าประชุมทั้งวันคงไม่อยู่คุยกับแม่นะครับ” เขาจ้องมองไปที่คุณหญิงอมรและผู้หญิงของคุณหญิงอย่างคนที่แสดงออกว่าจร
ตอนที่ 16เขา.. ไม่ใช่ลูกของผมใช่ไหม"สวัสดีครับ.. น้องเตชินใช่ไหมครับ""เรารู้จักกันแล้ว.. ผมชื่อเตชินคุณลุงชื่อลุงเธียร วันนี้คุณลุงจะมากินข้าวกับผมหรอครับ" ผมใช้ดวงตาที่ใสแจ๋วดั่งปลาทองที่ว่ายน้ำมองหน้าของคุณแม่ม่านฟ้าสลับกับใบหน้าของคุณลุงเจ้านายแม่ไปมาด้วยความสงสัย"ใช่ครับ.. ลุงทานข้าวกับเตชินได้ไหม" ผมหรี่ตาลงเพื่อจับผิดทั้งสองคนที่มีท่าทางอึกอัก แต่ก็แค่แวบเดียวเท่านั้น ผมมองเห็นได้ชัดเจนว่าสายตาของทั้งสองนั้นดูเลิ่กลั่ก เหมือนลุงธันวาเวลาแอบผมไปโทรหาพี่เว่ยเอินแล้วพูดจาหวานลิ้นจนขนแขนผมพากันลุกขึ้นพึ่บพั่บ"ได้ครับ.. คุณลุงถอดรองเท้าแล้วเข้ามาได้เลยครับ" ผมปล่อยมือที่กอดคุณแม่ออกมาจับมือของลุงเธียรให้เดินตามเข้ามาในบ้าน"ก่อนทานข้าวแม่สอนว่าต้องล้างมือก่อนนะครับ" ผมบอกคุณลุงไปเบา ๆ ก่อนจะชี้นิ้วของผมชี้ไปที่อ่างล้างมือที่อยู่ในครัวผมมีความรู้สึกที่ถูกชะตากับคุณลุงเจ้านายแม่เป็นอย่างมาก และก็คุ้นหน้าของคุณลุงมากเช่นกัน ผมมั่นใจว่าผมไม่เคยเจอคุณลุงมาก่อน แต่กลับรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นทุกครั้งที่เห็นหน้าของเขา"ล้างตรงนี้ใช่ไหม.. ลุงกำลังจะไปล้างแล้วเราละล้างมือหรือยัง ให้ลุงอุ้
ตอนที่ 17เจ้าเด็กแสบจอมวางแผนเพราะเมื่อวานกินอิ่มนอนหลับสบายทำให้เช้านี้ฉันตื่นสายมากเป็นพิเศษ แต่ยังถือว่าโชคดีอยู่ไม่น้อยเพราะว่าวันนี้เป็นวันหยุด ฉันนอนบิดตัวอยู่บนที่นอนนุ่มอยู่นานหลายนาทีแต่ในใจกลับรู้สึกไม่สบายใจราวกับว่าหลงลืมอะไรไป แต่ไม่ว่าจะนึกยังไงกลับนึกไม่ออกจึงทำได้เพียงหงายท้องนอนหลับตานิ่ง ๆ ก่อนจะลืมตามองเพดานห้องด้วยสายตาที่ว่างเปล่าก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!"คุณแม่ครับ! คุณแม่ตื่นหรือยังครับ.. คุณแม่บอกว่าจะพาผมไปเที่ยวสวนสนุกไง.. ตื่นหรือยังครับ" ฉันเด้งตัวด้วยความเร็วแสงมานั่งบนที่นอนด้วยอาการของคนที่ตกใจ เมื่อได้ยินเสียงเรียกของลูกชายแล้วภาพการให้คำมั่นสัญญาเมื่อคืนไหลกรอเข้ามาในหัวราวกับสายน้ำ ลืมไปสนิทเลยว่าวันนี้สัญญากับเตชินไว้ว่าจะพาเขาไปเที่ยวสวนสนุก"ตื่นแล้วครับ! ลูกแต่งตัวหรือยัง" ฉันตะโกนออกไปบอกกับลูกชายพร้อมกับรีบร้อนลุกจากที่นอนหวังจะไปหาเสื้อผ้าเพื่อจะเตรียมตัวอาบน้ำ แต่เพราะความเร่งรีบในตอนที่ฉันนั้นเพิ่งตื่นทำให้สองเท้าไม่สามัคคีกันเสียเท่าไหร่ พากันพันกันเองจนล้มลงไปหน้าคะมำอยู่ที่พื้นไม่แรงนัก"โอ๊ย! เจ็บชะมัด" ฉันยกมือขึ้นมาลูบหัวเข่าตัวเองป้อย ๆ ก่
ตอนที่ 18สวัสดีครับ.. น้องเวียงพิงค์"คุณปิติภัทรมาได้ยังไงคะ" ฉันไม่ปฏิเสธว่าตกใจไม่น้อยที่เห็นว่าเขาอยู่ที่สวนสนุกแบบนี้ เพราะเป็นที่รู้กันว่าสวนสนุกมักจะเป็นที่ที่ครอบครัวพากันมาพักผ่อนซึ่งเขาเองไม่มีครอบครัว"ผมเป็นคนบอกคุณลุงเจ้านายแม่เองครับผมอยากให้คุณลุงมาด้วย" ฉันทำได้เพียงแค่ยืนมองหน้าลูกชายด้วยอาการตกใจ ไม่คาดคิดมาก่อนว่าลูกชายของฉันจะสนิทกับพี่เธียรได้ไวขนาดนี้"ลูกไปรบกวนเจ้านายของแม่ได้ยังไงกัน แม่ไม่เคยสอนให้ลูกทำแบบนี้" ฉันดุใส่ลูกชายไปเล็กน้อยอย่างไม่ได้ใส่ใจมากนัก เพราะว่าฉันเองไม่เคยที่จะดุเขาจริงจังเลยสักครั้ง"คุณจะเสียงดังใส่ลูกทำไม""ลูก?" น้ำเสียงเบาหวิวราวเสียงลมที่ออกมาจากปากของคุณคณิน ทำให้ฉันและปิติภัทรหันไปมองพร้อมกัน"คุณคณินอย่าพึ่งเข้าใจผิดนะคะ.. คือเตชินเป็นลูกของฉันค่ะ ไม่ใช่ของของเขา" ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องแก้ต่างกับคุณคณิน"ถึงเขาจะไม่ใช่ลูกของผมแท้ ๆ แต่อนาคตเขาก็คือลูกของผมครับ" ยังไม่ทันที่ฉันจะได้มองหน้าของคุณคณินให้ชัด ๆ ใบหน้าของฉันก็ต้องหันขวับไปมองผู้ชายด้านข้างจนรู้สึกได้ว่าคอแทบหัก"หรือว่าคุณสองคนกำลัง.." สายตาที่แสดงออกถึงความส
ตอนที่ 19พี่รู้สึกว่าหนูกำลังหึงพี่อยู่นะฉันหันหน้าไปมองภรรยาของคุณคณิน สลับกับมองหน้าของผู้ชายด้านข้างที่เขาค่อย ๆ ขยับกายออกมาเพื่อมองเธอ ด้วยใบหน้าและท่าทางไม่ค่อยสู้ดีนัก‘หมายความว่ายังไง.. สองคนนี้รู้จักกันงั้นหรอ‘ฉันได้แต่เก็บคำถามนี้ไว้ในใจโดยที่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา หากเรื่องไปในทางที่ว่าพี่เธียรเคยตามจีบเวียงพิงค์แล้วละก็อาจจะไม่เป็นผลดีต่อการทำธุรกิจของเราในครั้งนี้ แต่หากไม่ใช่ทำไมพี่เธียรต้องทำหน้าพะอืดพะอมแบบนั้น“สบายนะคะ”“สบายดีครับ.. น้องเวียงพิงค์ล่ะ สบายดีนะ”ฉันมองดูทั้งสองที่เริ่มมีท่าทีที่ดีต่อกันต่างจากเมื่อครู่เล็กน้อย แต่คงไม่ได้มีแค่ฉันที่สงสัยความสัมพันธ์ของทั้งสอง เพราะตัวของคุณคณินเองก็มองภรรยาของเขากับพี่เธียรด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยจะสบอารมณ์สักเท่าไหร่เช่นกัน“พวกคุณสองคนรู้จักกันด้วยหรอครับ”บางที.. เรามองคนที่ภายนอกไม่ได้จริง ๆ ฉันเคยคิดว่าคุณคณินจะเป็นคนที่เงียบขรึมไม่ค่อยพูดจาเสียเท่าไหร่ ที่สำคัญเวลางานเขาช่างเป็นผู้ชายที่เข้าถึงตัวได้ยากมากคนหนึ่ง แต่วันนี้ฉันกลับเพิ่งค้นพบว่าภายในใบหน้าที่ดูดุดันของเขานั้นแฝงไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นมากมาย“รู้จักค
ตอนที่ 20 พี่เธียรไม่กลับหรอคะหลังจากคำพูดของเขาก็ทำให้ฉันนั้นไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีกเมื่อเหลือบสายตาไปมองลูกชายที่นั่งอยู่ด้านหลังก็เห็นว่าตอนนี้เขานั้นหลับไปแล้ว ก็แหงละ! วันนี้ตะลอนเที่ยวทั้งวันแถมแหกปากโวยวายมีความสุขซะขนาดนั้น ไม่เพลียสิแปลกเมื่อเห็นว่าลูกชายหลับไปแล้วฉันเองก็รู้สึกว่าร่างกายของตัวเองนั้นเพลียเช่นเดียวกัน ยิ่งเมื่อสมองกำลังคิด ดวงตาก็เหมือนรับรู้ได้มันค่อย ๆ รู้สึกหนักอึ้งอย่างไม่สามารถจะเปิดมันออกให้เต็มตาได้ และสติสัมปชัญญะสุดท้ายที่จำได้คือความมืด และความเย็นจากเครื่องปรับอากาศหน้ารถก่อนที่ทุกอย่างจะวูบดับไป”ม่านฟ้า”ฉันค่อย ๆ ลืมตาขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกของพี่เธียรพร้อมกับแรงสะกิดที่แขนจากด้านนอก ฉันหันมองหน้าของผู้ชายที่เปิดประตูยืนอยู่ด้านข้าง ด้านหลังนั้นมีน้องใจ๋ใจ๋และเตชินกำลังยืนมองมาที่ฉันเป็นสายตาเดียวกัน ห่างออกไปนั้นเป็นคุณคณินและคุณหมอเวียงพิงค์“ถึงแล้วหรอ” ฉันบิดตัวเล็กน้อยก่อนจะปลดเข็มขัดนิรภัยออก“พี่เธียร.. พี่ก็ขยับหนีสิไม่งั้นฉันจะลงยังไง”“อ่อ”พี่เธียรเอ่ยออกมาแค่นั้นก่อนจะหลบให้ฉันนั้นเดินลงจากรถ พวกเราทั้งหมดเดินมายืนหน้าร้านอาหา
ตอนที่ 21 เซอร์ไพรซ์ผมขับรถอยู่นานหลายชั่วโมงที่จะพาม่านฟ้าและเตชินกลับไปส่งที่บ้านของเธอ และเพราะว่าวันนี้ทั้งวัน ทั้งสองคนใช้พลังงานไปอย่างมาก ทันทีที่พวกเขาขึ้นรถดวงตาของสองแม่ลูกก็หลับลงโดยอัตโนมัติผมเหลือบตามองทั้งสองอยู่หลายต่อหลายครั้ง และมันมีความรู้สึกมากมายกำลังปนเปกันอยู่ในใจของผม ผมมองหน้าของม่านฟ้าด้วยความรู้สึกเรียบเฉยราวกับว่าพวกเราไม่ใช่คนรักกัน บางครั้งภาพของวันเวลาเก่า ๆ ก็สะท้อนขึ้นมาให้ผมเห็นจาง ๆม่านฟ้าถือว่าเป็นผู้หญิงที่อารมณ์ดี น่ารัก และเมื่อก่อนนั้นเธอเป็นผู้หญิงสดใสที่สุดที่ผมรู้จัก เรียกได้ว่าเธอเป็นแสงสว่างในหัวใจของผมเลยก็ว่าได้ ผมกับเธอคบกันตั้งแต่อยู่มหาวิทยาลัย ม่านฟ้าเป็นผู้หญิงที่ผมเจอครั้งแรกที่โรงอาหารตอนนั้นเธอเพิ่งเข้ามาเรียนได้ไม่กี่วันแต่กลับทำให้ผมนั้นตกหลุมรักเธอได้อย่างหมดใจ ตอนนั้นในสายตาของผมเธอเป็นเพียงเด็กผู้หญิงธรรมดาที่ไม่ได้ดูสวยหรือสะดุดตาเป็นพิเศษ แต่ผมกลับตกหลุมรักความสดใสของเธอแล้ววันเวลาก็กำลังทำให้เราสองคนรู้จักกันมากขึ้น แต่สำหรับเธอที่ดูไม่พิเศษนั้นในสายตาคนอื่นเธอกลับ ถูกเลือกให้เป็นดาวคณะ ผมใช้เวลาตามจีบเธออยู่เกือบปีจ
ตอนที่ 22ริมระเบียงชายทะเล“อื้อ~ ถึงบ้านแล้วหรอ” ผมเบนสายตาไปมองผู้หญิงข้าง ๆ ที่เธองัวเงียตื่นขึ้นมาพร้อมกับหันซ้ายหันขวามองออกนอกกระจกรถทันทีที่ผมนั้นจอดรถนิ่งสนิท“พี่เธียรที่นี่ที่ไหน” เธอมีสีหน้าดูกังวลและตกใจไม่น้อยก่อนจะหันมามองผมอีกครั้งด้วยสายตาเรียบนิ่ง“บ้านพักตากอากาศ” ตอบและส่งยิ้มให้กับเธอเล็กน้อยก่อนจะปลดเข็มขัดนิรภัยของตัวเองพร้อมทั้งเปิดประตูออกมาเพื่อไปอุ้มเตชินที่กำลังหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวนั้นออกมา ทางด้านม่านฟ้าเองก็เดินลงจากรถตามผมมาติด ๆทันทีที่พวกเราเดินลงจากรถกลิ่นของน้ำทะเลก็ได้ปะทะเข้ากับจมูก มันทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายและสดชื่นไม่น้อย ด้านหน้าของพวกเราเป็นบ้านพักตากอากาศที่ผมตั้งใจซื้อไว้ผมเคยวาดฝันว่าเมื่อผมมีครอบครัวผมจะมาอยู่ที่นี่ พาภรรยาและลูกมาสูดบรรยากาศรับลมทะเล วิ่งเล่นเหมือนครอบครัวทั่ว ๆ ไปที่ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาทำแต่งาน แล้วผมเองก็ไม่รู้ว่าความฝันนั้นของของผมเป็นจริงได้เมื่อไหร่.. หรือมันจะเป็นจริงได้ไหม”ทำไมเราถึงมาอยู่ที่นี่กันได้คะ“ ถึงแม้ว่าสองเท้าเล็ก ๆ ของเธอจะเดินตามผมมาติด ๆ แต่ผมสังเกตเห็นใบหน้าของม่านฟ้านั้นมีทีท่ากังวลไม่น้อย เธอหัน
ตอนที่ 42ครอบครัวหลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นผมก็รู้ว่าความจริงแล้วผมอาจจะไม่ได้เก่งอะไรเลย เพราะในทุก ๆ การเติบโตของผมนั้นจะคอยมีพี่ชายของตัวเองคอยช่วยเหลืออยู่ห่าง ๆ มาเสมอ ไอ้อัฐรู้มาตลอดว่าผมกับม่านฟ้าเป็นอะไรกันแต่มันกลับไม่เคยปริปากพูดกับพี่ชายของเธอเลยสักครั้งมันรู้มาตลอดว่าเรื่องราวของผมกับมันฟ้าเมื่อหกปีก่อนเกิดอะไรขึ้น แต่เพราะตอนนั้นมันไม่สามารถหาหลักฐานนั้นไว้ได้ ทำให้มันจำเป็นต้องปล่อยเบลอเรื่องในครั้งนั้นจนในวันที่ฟ้านั้นบินไปต่างประเทศมันพยายามถามธันวาหลายครั้งว่าเธอไปที่ไหน แต่สำหรับธันวาเองแล้วก็รักน้องสาวไม่แพ้กันจึงไม่เคยปริปากออกมาเลยสักครั้ง ไม่ว่าใครจะมาถามก็ตามตอนนี้บริษัทผมยังคงทรงตัว รวมทั้งบริษัทใหญ่ที่เคยถอนตัวไปนั้นเมื่อรู้ว่าบริษัทเอเมเจนจ์เป็นหุ้นส่วนกับบริษัทของผมก็ทำให้หลายบริษัทกลับเข้ามาเซ็นสัญญาอีกครั้ง “แล้ววันนี้มึงจะไปไหน” เพราะหลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นนี่ก็ผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้วที่ผมต้องเทียวไปให้ปากคำ รวมถึงจัดการเรื่องราวในบริษัท และตัวไอ้อัฐเองหลังจากที่พวกเราเปิดอกคุยกันมันก็แทบจะยึดห้องผม อยู่กับผมที่คอนโดมาตลอดเจ็ดวันเช่นกัน“ไปหาเมีย”
ตอนที่ 41เปิดโปงผมเห็นว่าการ์ดหน้าห้องนั้นชะงักเล็กน้อยก่อนจะโน้มตัวไปกระซิบกระซาบอะไรกันสักอย่าง ก่อนจะยืนขึ้นเต็มความสูงหันมามองที่พวกเราอีกครั้งพร้อมทั้งพยักหน้าและพาพวกเรามาอีกทางก่อนจะเปิดประตูให้“เชิญครับ” และทันทีที่ประตูเปิดออกก็เห็นว่าตรงนี้เป็นประตูอีกฝั่งที่อยู่ไม่ไกลจากด้านหน้าเวทีมากนัก เราทั้งสี่คนเดินมาหยุดยืนอยู่หลังเวทีที่คุณหญิงอมร เจ้าสัว และข้างกันนั้นมีน้องน้ำตาลที่กำลังยืนร้องไห้บีบน้ำตาอยู่“งานร่วมมือกันของ2บริษัท ทำไมถึงมีแต่นักข่าวถามเรื่องของกู” ถึงแม้ว่าจะรู้อยู่เต็มอกว่าเรื่องนี้ไม่มีทางที่จะไม่เกิดประเด็น แต่ตั้งแต่ที่ผมยืนมาเกือบ 10 นาทีนั้น ยังไม่มีนักข่าวคนไหนถามเกี่ยวกับการร่วมมือของบริษัทเลยสักประโยค“มึงรอดูอะไรสนุก ๆ ได้เลย” สิ้นสุดคำพูดของไอ้อัฐผมเห็นว่ามีนักข่าวคนหนึ่งหันมามองที่พวกเราเล็กน้อย และเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ไอ้พีชให้สัญญาณ“คุณหญิงอมรครับผมมีคำถาม” และทันทีที่นักข่าวคนนั้นเอ่ยถามนักข่าวคนอื่น ๆ ก็เงียบเสียงลงทันทีราวกับปิดสวิตช์ ซึ่งมันแปลกมากสำหรับวงการนี้นั่นทำให้ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้มีอะไรที่ไม่ชอบมาพากล“คุณหญิงอมรเป็นหัวหน้าสม
ตอนที่ 40 เก็บกวาดผมมองหน้าของม่านฟ้าก่อนจะปรายตาไปมองที่เรียวนิ้วของเธอ ซึ่งปลายนิ้วของเธอชี้มายังเสื้อคลุมสีขาวของผมที่พาดอยู่ที่แขนผมชูเสื้อคลุมตัวนี้ขึ้นเป็นเชิงคำถามว่าเธอกำลังหมายถึงชิ้นนี้อย่างนั้นหรอ และก็เป็นม่านฟ้าที่พยักหน้ารัวเป็นคำตอบว่าเธอหมายถึงสิ่งนั้นจริง ๆถึงแม้ว่าผมจะไม่เข้าใจว่าเธอต้องการมันไปทำอะไรแต่ก็ยินดียื่นให้เธออย่างไม่คิดลังเล ก่อนจะเดินลงมาจากรถพร้อมกับปิดประตูให้ รถตู้คันนี้ก็แล่นออกไปจากหน้าโรงพยาบาลทันที“ไอ้ธันมึงไม่กลับไปกับน้องหรอ" หลังจากที่รถตู้คันนั้นออกไปสู่ถนนใหญ่พวกเราก็หันมามองหน้ากัน ซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมทุกคนถึงยังอยู่ตรงนี้"มึงมีเรื่องที่ยังเล่าไม่หมดหรือเปล่าไอ้อัฐ" และทันทีที่ไม่มีม่านฟ้าผมก็รู้สึกได้เลยว่าบทสนทนามันเปลี่ยนไป"มี""เรื่องอะไร" ผมเอ่ยออกมาด้วยเสียงที่ค่อนข้างจะดังและฟังชัด เซนต์ของผมไม่น่าผิดพลาดเพราะว่าผมรู้สึกว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับม่านฟ้าแน่นอน“คนที่จ้างวานมาขับรถชนม่านฟ้า” ได้ยินเพียงแค่นั้นผมก็รู้สึกได้เลยว่าตัวเองเลือดขึ้นหน้าขนาดไหน ผมอยากรู้เหลือเกินว่าคนที่คิดจะทำร้ายเธอต้องจิตใจอำมหิตขนาดไหน แต่ผมกลับไ
ตอนที่ 39ให้อภัยฉันหันขวับไปมองที่พี่อัฐนิ่ง ฉันมั่นใจว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือของผู้หญิงที่จงใจทำลายสิ่งที่พี่เธียรสร้างขึ้นมาแน่ เพราะฉะนั้นเหลือเพียงเหตุผลเดียวที่บริษัทยักษ์ใหญ่จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือบริษัทที่กำลังจะล้มละลาย“เข้าใจแล้ว.. เดี๋ยวม่านฟ้าจัดการบอกคุณปิติภัทรให้ค่ะ” ฉันเอ่ยออกมาเพียงแค่นั้นก่อนจะกดวางสายแล้วยื่นมือถือคืนให้กับเขา พี่เธียรหันมามองที่มือถือเล็กน้อยแต่กลับไม่ได้หยิบมันไป สายตาของเขาชำเลืองมองไปที่ส้มลูกหนึ่งที่เขากำลังปลอกมันยังสวยงาม“หนูเพิ่งฟื้นกินอะไรหน่อยไหม รู้สึกเป็นยังไงบ้าง”ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าพี่เธียรนั้นตั้งใจที่จะง้อ และไอ้ความรู้สึกไม่รักดีของฉันในตอนนี้ก็พร้อมจะให้อภัยเขาซะด้วยสิ แต่การที่เราจะให้อภัยง่าย ๆ มันก็ไม่สนุกสิ ถูกไหม?“ไม่กิน” ฉันตอบออกไปแบบนั้นด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ แต่หารู้หรือไม่ว่าภายในท้องไส้ของฉันนั้นปั่นป่วนเหลือเกิน ความรู้สึกที่อยากกินจนน้ำลายสอ ความรู้สึกที่หอมอย่างที่ไม่เคยได้กลิ่นมาก่อนฉันใช้จมูกค่อยๆ สูดดมฟุดฟิดไปตามในห้องจนพบว่ากลิ่นที่หอมที่สุดและแรงที่สุดในตอนนี้มาจากตัวของพี่เธียร แล้วเหมือนว่าเขาเองก็จะเห็นอาการ
ตอนที่ 38เรื่องราวคลี่คลายผมหันไปตามเสียงที่ได้ยินเห็นว่าเป็นม่านฟ้าที่ลืมตามองพวกเราอยู่ก่อนแล้ว สองเท้าผมรีบปรี่เข้าไปหาเธอด้วยท่าทีของคนทั้งตื่นเต้นและดีใจ“หนูเป็นยังไงบ้าง” ผมทำได้เพียงแค่ยืนมองเธอมือไม้สั่นไม่กล้าแม้แต่จะจับ สังเกตได้ว่าเธอมองผมด้วยสายตาเรียบเฉย เย็นชา แต่ก็เป็นแค่เพียงแวบเดียวเท่านั้นเพราะเธอหันไปถามพี่ชายของผมอีกครั้ง“เรื่องที่พี่พูดมาเป็นเรื่องจริงหรอคะ”“เธอจะมัวมาสนใจเรื่องนี้ทำไม! เดี๋ยวพี่ไปตามหมอให้” สิ้นสุดเสียงของธันวาเขาก็เตรียมที่จะหันหลังออกไปตามพยาบาล แต่กลับเป็นเสียงของม่านฟ้าที่รั้งเขาเอาไว้“พี่ธันอย่าพึ่งไป หนูอยากฟังทั้งหมดให้จบ”“ทั้งหมด?” เป็นเสียงของพี่ชายของผมที่มันเอ่ยถามขึ้นพร้อมกับจ้องมองใบหน้าของเธอ“อือ.. ทั้งหมด เพราะว่าหนูก็ฟังเรื่องทั้งหมดนี้พร้อมกับพวกพี่ตั้งแต่แรก” เธอเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะเหลือบสายตามามองผมอีกครั้งสายตาของเธอที่จ้องมองมาไม่ได้แสดงออกว่าโกรธแค้น และก็ไม่ได้รู้สึกดีใจ ไม่ได้รู้สึกเสียใจ แต่เธอมองมาด้วยสายตาที่ว่างเปล่าราวกับว่าผมเป็นอากาศธาตุ“ถ้าอย่างนั้นพี่เล่าต่อนะ”“ค่ะ” ผมทำได้เพียงแค่มองหน้า
ตอนที่ 37เรื่องมีอยู่ว่า ที่ผ่านมาไม่ใช่เรื่องจริงเราสองคนหันไปตามเสียงของผู้ที่มาทีหลัง และทันทีที่ผมเห็นหน้าของมันความรู้สึกหมั่นไส้ก็เกิดขึ้น“มึงมาทำไม” ผมหลงลืมไปชั่วขณะว่าความจริงแล้วไอ้อัฐมันเป็นเพื่อนของธันวา“ก็นี่น้องสาวเพื่อนกู.. กูจะมาเยี่ยมน้องสาวเพื่อนกูไม่ได้หรอ" มันก็ยังคงเป็นพี่ชายที่กวนตีนผมไม่เลิก และเพราะเกรงใจพ่อของเธอที่นั่งอยู่ทำให้ผมได้แต่เบือนหน้าหนี แต่จู่ ๆ ผมก็นึกถึงคำพูดของมันเมื่อครู่"ว่าแต่เมื่อกี้มึงพูดว่าอะไรนะ" เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงหันไปมองหน้ามันอีกครั้ง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดออกมาจากริมฝีปากของผู้ชายที่หน้าตาไม่เหมือนผมเลยสักนิด"กูบอกว่า! มึงไม่ได้เอาเข้า! แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเข้าไม่ได้! มึงได้ยินชัดหรือยังไอ้น้องเวร!” มันจงใจพูดเน้นเสียงทุกคำถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยชอบมันเท่าไหร่แต่ในเวลานี้ผมกลับรู้สึกเหมือนว่าผมพลาดอะไรไป“คืออะไร” ผมเอ่ยถามมาอีกครั้งแต่ครั้งนี้มันทำเพียงแค่ยกยิ้มส่งให้ด้วยใบหน้าของคนเหมือนดูหมิ่นดูแคลน แต่ก็เป็นแค่เพียงแวบเดียวเท่านั้น“ไอ้พีช! ของที่กูให้มึงเอามาอยู่ไหน” ทันทีที่ไอ้อัฐเอ่ยขึ้นเพื่อนสนิทของมันก็เดินเข้ามาหาพวกผมด้ว
ตอนที่ 36ความจริงเมื่อ6ปีก่อน“เด็กในท้อง?” ไม่รู้ว่าตัวว่ากำลังแสดงสีหน้าแบบไหน รู้เพียงแค่ว่าตอนนี้ผมตกใจกับสิ่งที่ได้ยินมากจริงๆ หากวันนี้เธอไม่ประสบอุบัติเหตุผมไม่รู้เลยว่าจะได้รู้เรื่องที่กำลังมีลูกเมื่อไหร่ หรือม่านฟ้าตั้งใจที่จะปิดบังผมไปตลอดชีวิต ผมละสายตาจากใบหน้าของผู้เป็นพ่อเปลี่ยนไปจ้องมองผู้หญิงที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว ก่อนจะหันกลับไปมองใบหน้าของชายมีอายุและพี่ชายที่แสนจะเกรี้ยวกราดของเธออีกครั้ง“พ่อไปบอกมันทำไม! คนอย่างมันไม่สมควรที่จะรับรู้อะไรเกี่ยวกับไอ้ม่านเลยด้วยซ้ำ!” เขายังคงมีน้ำโหและยังคงพูดจาเชือดเฉือน จ้องมาที่ใบหน้าผมเรากลับว่าอยากจะกินเลือดกินเนื้อ“ผม.. กำลังจะเป็นพ่อลูกสองหรอ” ผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ติดจะตกใจ หันไปขอความมั่นใจทางผู้ใหญ่ที่อยู่เพียงคนเดียวในห้องนี้ แต่ยังไม่ทันที่พวกเรานั้นจะได้เอ่ยอะไรต่อก็มีพยาบาลเดินเข้ามาในห้องพักฟื้น ทำให้พวกเราต้องเงียบเสียงลง“เธอเป็นยังไงบ้างครับ” ผมเอ่ยถามทันทีที่พยาบาลเตรียมจะออกด้านนอก เธอหันมามองหน้าผมพร้อมตอบด้วยนะเสียงเรียบนิ่ง“อาจต้องรอคุณหมอนะคะ จากที่ดูตอนนี้ไม่เป็นอะไรมากแล้วค่ะ”
ตอนที่ 35พ่อของเด็กในท้องคือผมหรอ“นายโอเคมั้ย” ผมหลุดออกจากภวังค์หันหน้าไปมองผู้ชายที่กำลังขับรถด้วยความเร็วที่สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่เพราะการจราจรที่ติดขัดทำให้เราไม่ได้ดั่งใจสักเท่าไหร่“อืม” ผมตอบออกไปเพียงเท่านั้นก่อนจะหันหน้าจ้องมองไปบนถนนด้วยหัวใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว“ถ้าเป็นห่วงคนรักของนาย ไม่ต้องกังวลหรอกเธอถึงมือหมอแล้ว” สิ่งที่ผมรู้สึกว่าผมโชคดีมากก็คือ ผมกับพีชไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวเราเป็นเพียงแค่คนที่ผ่านมาเจอกัน แต่ในเวลาเร่งด่วนคนที่ช่วยผมกลับเป็นเขา“ทำไมถึงช่วย” เพราะไม่ว่าผมจะคิดยังไงหรือทางใด มันไม่มีจุดไหนเลยที่จะทำให้เขาต้องยื่นมือเข้ามาช่วยคนอย่างผม เพราะว่าแม้แต่ทางด้านธุรกิจเราสองคนแทบจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลยแม้แต่น้อย หรือหากเขากำลังทำดีเพื่อการร่วมมือในอนาคตอย่างนั้นหรอ“ไม่ดีหรอ” พีชหันมามองหน้าผมพร้อมกับตอบด้วยท่าทางยียวนกวนประสาท แต่ผมกลับรู้สึกว่าในสายตาของเขามีอะไรที่มากกว่านั้น“ก็แค่รู้สึกสงสาร.. แล้วก็เห็นใจนาย” ยิ่งคำพูดของเขายิ่งทำให้ผมสงสัยในเรื่องนี้เข้าไปใหญ่ ในเมื่อเราไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวเพราะอะไรเขาถึงต้องมาสงสาร แล
ตอนที่ 34ผิดสัญญาผมที่สวมชุดสูทสีขาวกลัดดอกกุหลาบแดงที่หน้าอกข้างซ้าย สองเท้าก้าวเดินต้อนรับแขกเหรื่อที่เข้ามาในงาน ข้างกายมีสาวสวยอย่างน้องน้ำตาลที่สวมชุดราตรีปักเพชรสีเดียวกันเรียกได้ว่าทำให้เราทั้งสองคนนั้นเป็นจุดเด่นในงานครั้งนี้ถึงแม้ว่าช่วงนี้ก็มีความรู้สึกที่แปลกใจอยู่สักหน่อย ราวกับว่าจะมีเรื่องอะไรไม่ดีเกิดขึ้นแต่เพราะมันคือหน้าที่ที่ผมตัดสินใจแล้ว และนี่ก็เป็นผลของการแลกเปลี่ยนอย่างหนึ่งงานหมั้นที่ถูกจัดที่โรงแรมหรู แขกเรือที่เข้ามาในงานมีแต่คนมีอำนาจ เงินทอง และชื่อเสียง ทุกอย่างดูเหมือนว่าจะเพอร์เฟกต์ไปเสียหมด แต่สำหรับผมมันก็เป็นแค่งานที่รวมคนรวยเท่านั้น“พี่เธียรยิ้มหน่อยไหมคะ ทำหน้าเหมือนคนอมทุกข์ขนาดนี้ ทำไมคะการที่พี่กำลังจะเข้าพิธีหมั้นกับน้ำตาลมันดูทุกข์ขนาดนั้นเลยหรอคะ” ผมเบนหน้าไปลงเล็กน้อยมองสาวที่อยู่ด้านข้างอย่างไม่ได้แสดงอารมณ์ใดออกมา น้ำตาลจ้องใบหน้าของผมพร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้ แต่ช่างดูเป็นรอยยิ้มที่ผมดูยังไงก็ไม่จริงใจเลยสักนิด“อย่าบังคับพี่ให้มาก” ผมตอบเพียงแค่นั้นโดยไม่ได้สนใจอะไร ก่อนจะเดินหลบมุมก่อนจะปลีกตัวออกมาด้านนอก เมื่อเห็นเป้าหมายจึงได้เดิน