“ก็มีบ้าง งอนเล็ก ๆ น้อย ๆตามประสาคู่รักทั่วไปน่ะแหละ เพราะต่างฝ่ายต่างทำงานหนักจนแทบไม่มีเวลาให้กัน หมูเค้าเป็นวิศวะกรที่บริษัทใหญ่ บางทีไปอบรมต่างจังหวัด ไปอบรมต่างประเทศหลายวัน ก็เลยมีงอนบ้าง ส่วนมากพี่นี่แหละที่งอน”
อรวิภาเล่าถึงแฟนทอมด้วยสายตาเปล่งประกาย ล้นเหลือความสุขเหมือนหญิงสาวที่เพิ่งถูกขอแต่งงาน
“พี่อรดูมีความสุขจัง แล้วจะแต่งงานกันรึเปล่า?”
“ก็คงแต่งมั้ง แต่คิดว่าอาจจะอีกห้าหรือหกปีโน่น ที่คิดกันไว้อยากไปเปิดกิจการเล็ก ๆ ที่เชียงใหม่ด้วยกัน เพราะบ้านหมูเค้าอยู่เชียงใหม่ เค้าเองก็อยากกลับไปอยู่บ้าน เค้าเป็นห่วงพ่อแม่น่ะ เป็นคนกตัญญูมาก ส่วนพี่ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว เพราะพ่อแม่มีลูกค่อนข้างเยอะ ตอนนี้มีพี่ ๆดูแลอยู่ ไม่มีอะไรน่าห่วง พี่ก็เลยคิดว่าจะหนีตามหมูไปอยู่เชียงใหม่ในอนาคต”
“พ่อแม่พี่โอเคกับแฟนพี่ใช่มั้ย?”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ พี่เคยพาหมูไปเที่ยวที่บ้านทุกคนก็โอเค พี่น้องทุกคนก็ยอมรับได้ หลาน ๆนี่ติดหมูกันใหญ่เลย”
“ดีจังพี่ อย่างหนูคบกับผู้ชายมาสามคนแล้ว แต่ไม่ได้เรื่องสักคน แถมยังเจ้าชู้เหมือนกันทุกคนด้วย สงสัยหนูต้องลองเปิดใจคุยกับสาวหล่อเหมือนพี่อรบ้างแล้ว”
“ก็ลองดูสิ ถ้ามีใครเข้ามาก็อย่าเพิ่งปิดกั้น เมื่อก่อนพี่ก็ชอบผู้ชายเหมือนกัน เป็นเพื่อนมหา’ลัย แอบรักเขาอยู่ตั้งหลายปี แต่สุดท้ายก็แพ้ใจให้ทอม เพราะทอมน่ารักและเทคแคร์เก่งกว่าเยอะเลย”
“จริงหรือพี่”
“จริงสิ เวลาไปเที่ยวกันน่ะ ส่วนมากเค้าเป็นคนจ่าย พี่ไม่ต้องออกอะไรเลย อย่างพี่เคยคุยกับผู้ชายทางเฟสคนหนึ่ง เป็นเพื่อนของเพื่อนที่แนะนำให้รู้จักกัน คุยกันไปคุยกันมา ดันขอยืมเงินพี่แสนหนึ่ง พี่เลย...ขอบาย คบกับทอมสบายใจกว่าเยอะเลย”
“แต่ทอมก็ใช่ว่าจะไม่เจ้าชู้นะพี่”
“แต่หมูไม่เจ้าชู้เลย เป็นคนดีมาก”
“พี่โชคดีไง แล้วมาเริ่มต้นคบกันได้ยังไง”
“ก็อย่างที่เล่า หมูเป็นรุ่นน้องที่มหา’ลัย ก่อนคบกันก็รู้จักกันอยู่แล้ว พอเรียนจบก็แยกย้ายกันไป จนเค้าเข้ามาคุยมาปรึกษาเรื่องแฟนเก่านั่นแหละ คุยกันบ่อยมั้งเลย...”
“น่าอิจฉาจัง อยากมีความรักดี ๆ แบบพี่อรบ้าง”
สองสาวนั่งเม้ามอยด์กันจนกระทั่งกินข้าวเสร็จ ทั้งคู่จึงกลับเข้าออฟฟิศ ด้วยความพร้อมสำหรับการทำงานในบ่ายวันนี้ อรวิภาเข้าประจำโต๊ะก็เริ่มทำงานทันที อย่างกระตือรือร้นและมีความสุข เอกสารเหล่านี้ทำให้เลือดลมเธอสูบฉีดได้ดีเสมอ “จะทำงานแล้วหรือพี่ ยังไม่ถึงเวลาเลย” ราณีเอ่ยทักขณะกำลังรื้อเครื่องสำอางขึ้นมาแต่งหน้าเพิ่ม หลังจากลิปสติกจางไปเพราะมื้อเที่ยง หากปากไม่แดง เธอจะไม่มีแรงทำงานสักเท่าไหร่“เอกสารของช่วงเช้าน่ะ อยากเคลียร์ให้เสร็จ ตอนเย็นจะได้ไม่มีงานกองเป็นภูเขาอยู่บนโต๊ะ”“พี่อรขยันที่สุดในบริษัทเลย” วิมาลาซึ่งเป็นลูกน้องอีกคนแสดงความชื่นชมอย่างจริงใจ “ไม่แปลกใจเลยทำไมถึงก้าวหน้าในหน้าที่การงานขนาดนี้ เงินเดือนถึงได้ขึ้นเอา ๆ”“เงินเดือนเยอะขนาดนี้แต่ยังนั่งรถเมย์นะยะ” ราณีอดแซวความมัธยัสถ์ของรุ่นพี่ไม่ได้ “ไม่เหมือนพวกเรา เงินเดือนกระจิ๋งเดียว แต่ผ่อนรถคันเป็นล้าน ผ่อนบ้านชานเมือง” “ก็พี่ไม่ได้คิดจะปักหลักอยู่กรุงเทพฯนี่นา ก็เลยเอาเงินไปลงทุนที่เชียงใหม่ซะเยอะ อย่างคอนโดถ้าไม่อยู่แล้วก็ให้เช่าหรือขายได้ เห็นพี่ประหยัดแบบนี้นะ แต่เวลาซื้อของ พี่ซื้อแต่ของใหญ่ทั้งนั้น ตอนนี้เงินเก
“เฮ่อ...ยังเคลียร์งานไม่เสร็จเลย” แต่เธอก็ควรจะกลับคอนโดได้แล้ว เพราะเวลาก็ล่วงเลยมาพอสมควรแล้ว“หกโมงแล้วเหรอเนี่ย เร็วจัง” เธอคิดจะไปห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัวให้เสร็จก่อนออกจากออฟฟิศ แต่ก่อนจะลุกออกจากโต๊ะทำงาน เพื่อนรักของเธอส่งคลิปมาให้ทางไลน์“ยัยสุเหรอ ส่งอะไรมา” พอเธอเปิดออกดูเท่านั้นล่ะ เธอตกใจมาก เพราะมันเป็นคลิปที่เพื่อนของเธอกำลังโดนผู้ชายเอาอย่างหนัก หน้าตาของเพื่อนรักเหยเกเต็มไปด้วยอารมณ์กำหนัดร่าน พร้อมเสียงครางดังลั่นราวกับลูกหมูถูกเชือด“เฮ๊ย ยัยสุ! บ้าจริง” เธอตกใจมากรีบปิดคลิปทันที ด้วยใจสั่นเทา “มีอะไรกับผู้ชายแล้วส่งมาให้เพื่อนดูเนี่ยนะ ทุเรศ!”หลังจากนั้นไม่เกินสามวินาที สุภาวดีเพื่อนรักของเธอก็ส่งข้อความมาว่า...“โทษทีอร ส่งผิดน่ะ”“โอ้...หรา...” เธอถอนหายใจอย่างเอือมระอาก่อนจะกดส่งสติ๊กเกอร์ปวดหัวไป“ยัยสุเอ๊ย แกมันร้าย” เธออดนึกถึงช่วงสมัยเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันไม่ได้ เธอกับสุภาวดีเป็นคู่ซี๊ปึ๊กที่ต่างกันสุดขั้วสุดสไตล์ คนหนึ่งโคตรเปรี้ยว ส่วนอีกคนโคตรจืด แต่กลับคบหากันได้อย่างสนิทใจ และถึงแม้จะชอบอะไรที่ไม่เหมือนกันเลย แต่ทั้งคู่กลับชอบผู้ชายคนเดียวกัน นั
“อ่า...อืม...ใจสั่นจัง” เธอรู้ดีว่าไม่เพียงแค่ใจเท่านั้นที่สั่น แต่อารมณ์ใคร่อันเบาบางก็ไหวความรู้สึกของเธอให้ลู่ตามไปด้วย เธอพยายามห้ามตัวเองแล้ว แต่ก็ทำไม่ได้ เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอีกครั้ง แล้วเปิดดูคลิปนั้นอีกหน...“วิน....ของเขาเหรอ?” ดวงตากลมใสอยากรู้อยากเห็นจับจ้องท่อนเอ็นขนาดเขื่องของผู้ชายที่กำลังสอดใส่ในช่องสวาทของเพื่อนสาวอย่างฮึกเหิม...“โอว...” นั่นคือของเขา...ของผู้ชายที่เธอเคยแอบชอบมาก่อน เอ็นอุ่นสีสวยที่กำลังป้อนความสุขเสียวให้แก่เพื่อนสาวของเธออย่างดุดัน ร้ายกาจ “วิน...นี่ของวินจริงเหรอเนี่ย”ยิ่งมอง ใจเธอก็ยิ่งสั่นรัว เลือดลมสูบฉีด ขนลุกซู่ตั้งแต่หัวจดปลายเท้า ความรู้สึกเร่าร้อนกระจายไปทั้งตัวอย่างห้ามไม่อยู่ เมื่อเผลอคิดว่ามันกำลังสอดใส่อยู่ในรูเสียวของเธอแทน“อะ....เราคิดอะไรของเราอยู่เนี่ย” เธอรู้สึกไม่ดีเลยที่อยู่ๆก็รู้สึกมีอารมณ์ร่วมกับคลิปนั้น เธอรู้สึกผิดกับแฟนทอมของเธอและรู้สึกผิดกับสุภาวดีมาก แต่กระนั้น ความพยายามระงับอารมณ์ของเธอมันล้มเหลวทันทีที่เห็นเอ็นถอนพรวดออกมาแล้วฉีดน้ำใคร่จนกระจายไปทั่วเนินเหน่าของเพื่อนสาว “อ่า...” อรวิภาต้านแรงราคะจากภายใน
“อูย...” เธอสาวนิ้วแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนเสียงกระแทกดังจ๊อกๆๆ ผสมกับเสียงร้องครางแว่วหวานอย่างกลมกลืน“อูยเสียว...อ๋อย...เสียวค่ะผัวขา...ฮือ” เมื่อกล้ามเนื้อบีบรัดดูดตอดนิ้วอย่างแรงไม่กี่วินาที เธอก็กระตุกซ้ำ ๆอย่างเสร็จสม ปลดปล่อยน้ำคาวสวาทออกมาจนเต็มร่อง ไหลเยิ้มซึมซับจนเป้ากางเกงเปียกแฉะ “อ่า...อ่าห์...อูย....ซี๊ดส์” เธอผ่อนคลายความเงี่ยนด้วยการหายใจอย่างสม่ำเสมอ ความสุขที่ได้รับจากนิ้วมือของตัวเอง มันเป็นความสุขที่ช่วยให้เธอหายเครียดจากการทำงานได้ไม่น้อย ซึ่งเธอทำมันบ่อยครั้งเมื่อแฟนไม่อยู่ห้อง แต่ก็ไม่เคยคิดทำในที่ทำงาน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอทนไม่ไหว“โอย...นี่เราทำให้ออฟฟิศได้ไงเนี่ย” วันนี้เธอรู้สึกว่าไม่เป็นตัวเองเอาเสียเลย เธอก๋ากั๋นกว่าปกติไปมาก เพราะเธอเป็นคนค่อนข้างเคร่งครัดกับกฎระเบียบพอสมควร แต่กลับปล่อยตัวปล่อยใจให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล“หืม กระโปรงเลอะด้วยอ่ะ” เธอรีบหยิบกระดาษทิชชู่ในกระเป๋าสะพายออกมาแล้วจัดการเช็ดคราบใคร่บนเป้ากางเกงในและส่วนที่ไหลละลงมาตามต้นขาและลำน่องจนสะอาด จากนั้นก็นำมันไปทิ้งลงในถังขยะอรวิภาทำธุระในห้องน้ำหญิงเสร็จแล้วก็เดินออกมาอย่างรู้สึกโล่งสบ
เดชายิ้มร้าย สายตารุกรนปนหื่น ขณะเดินกลับไปที่ห้องน้ำหญิงของออฟฟิศ แล้วตรงไปเปิดถังขยะ หยิบกระดาษชำระที่หญิงสาวเพิ่งใช้ขึ้นมาดูด้วยสายตาพราว “อือ....หอมมาก หอมจริงๆ” เขาจูบหอมกระดาษชำระที่เปื้อนไปด้วยน้ำสวาทของหญิงสาวราวกับกำลังหอมกลิ่นกุหลาบหรือกลิ่นอาหารโปรดอย่างนั้นล่ะ...“คุณอรนะคุณอร ทำไมทำให้ผมมีอารมณ์ขนาดนี้”เขาหายใจแรงและเร็วขณะเก็บกระดาษชำระพวกนั้นใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แล้วเปิดดูคลิปที่เขาแอบถ่ายตอนที่อรวิภากำลังช่วยตัวเองอยู่ในห้องน้ำ ด้วยสายตาหื่นกระหาย กลัดมัน อารมณ์คลั่งสวาทเต็มขั้นจนแทบจะทนไม่ไหว“โอว....เสียงร้องสุดยอด ครางเก่งมากอีหนูเอ๊ย เห็นเรียบร้อย ๆ ไม่คิดเลยว่าจะครางเร้าใจขนาดนี้...อืม...นั่นแหละ อย่างนั้น...อ่า...” เดชารูดซิปกางเกงแล้วควักท่อนเอ็นขนาดใหญ่ของตัวเองออกมาแล้วสาวมันอย่างบ้าคลั่ง รูดเน้นทั่วลำตัวไปพร้อมกับเสียงครางกระสันของหญิงสาวในคลิป พร้อมจินตนาการว่ากำลังทำเธอไปด้วยอย่างถึงใจ “อือ...อ่า...โอว...คุณอร...อรจ๋า...ผมจะเสร็จแล้ว ผมไม่ไหวแล้ว อรจ๋า...อ๊า”เขาร้องครางอย่างสุขสม สาวมือเร็วรี่ถี่ยิบจนเอ็นแข็งชูชันต
อรวิภากุมขมับ คิดภาพตัวเองไม่ออกเลยว่าจะทำงานท่ามกลางสายตาของผู้คนที่เคยเห็นคลิปนี้ได้ยังไง “ลุงจะเอายังไง” “ก็ให้ผมเอาสิ รับรองว่าคุณอรติดใจจนลืมไม่ลงแน่”“นี่เมียลุงรู้รึเปล่าว่าลุงเป็นคนแบบนี้” “เมียผมอยู่ต่างจังหวัดโน่น คุณอรไม่ต้องห่วงหรอกนะ ผมแค่อยากทำให้คุณอรหายเงี่ยนเท่านั้น” เธออยากจะบ้ากับข้อเสนอของตาแก่มากตัณหา อายก็อายที่มีคนเห็นความลับของเธอ แถมยังเครียดจนหัวจะระเบิดเมื่อคิดถึงหน้าพ่อแม่และญาติพี่น้องที่อาจได้เห็นคลิปของเธอกระจายไปตามโซเชี่ยล เธอเพิ่งรู้ในวินาทีนี้เองว่าการอยากฆ่าคนตายมันเป็นยังไง เธอล่ะอยากจะฆ่าลุงเดชนัก“แล้วถ้าอร...ยอม...ลุงจะลบคลิปใช่มั้ย” “ลบสิ ผมลบอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง”ถึงเขาไม่ลบ เธอก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อจะลบคลิปนั้นให้ได้ เธอไม่ต้องการให้ใครเห็นเธอในสภาพนั้น โดยเฉพาะเจ้านายของเธอ ที่ชื่นชมความสามารถของเธอมาตลอด ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องส่วนตัวก็ตาม แต่เธอก็ไม่ควรทำในห้องน้ำของบริษัท เพราะมันหมายถึงความมักง่าย ไม่รู้จักกาลเทศะ“ไม่น่าเลยเรา...บ้าจริง!” อรวิภาลงจากรถเมย์ก่อนจะถึงป้ายหน้าปากซอยคอนโดมิเนียม แล้วยืนเคว้งอยู่ตรงป้ายรถเมย์เหมือนคนหาท
อรวิภาทำงานเป็นพนักงานฝ่ายบัญชีที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่งมาแปดปีแล้ว ประสบการณ์และความขยันมุ่งมั่นทำให้เธอได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าฝ่ายบัญชีด้วยอายุเพียง 30 ปีเท่านั้น บริษัทที่จ้างเธอในอัตตราเงินเดือนเกือบหนึ่งแสนบาท เป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น มีเจ้านายเป็นคนญี่ปุ่นวัยห้าสิบเอ็ดปีนามว่า ‘มิยาซากิ’ หรือ คุณซากิ และมีผู้จัดการใหญ่เป็นคนไทย วัยสี่สิบห้าชื่อว่า ‘โอฬาร’ ส่วนพนักงานของบริษัทนับร้อยชีวิตซึ่งเป็นคนไทยทั้งหมด ทำงานกันอย่างขยันขันแข็งภายในตึกสูงชั้นสามสิบเอ็ดซึ่งเป็นออฟฟิศส่วนกลางที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานครอรวิภา หรือ อร...ในวัยสามสิบปีที่ดูภูมิฐานราวกับหญิงวัยสี่สิบจนใครต่างก็แซวเธอว่าป้า ด้วยความที่เป็นคนแต่งตัวเชย เฉิ่ม เบ๊อะ ราวกับยังอยู่ในยุค 60...สวมแว่นสายตาหนาเหมือนผู้คงแก่เรียนที่วัน ๆอยู่แต่กับหนังสือและเอกสารกองโต ไม่แต่งหน้าแต่งตา เปลือยปากโล้นจนเป็นนิสัย แถมยังยิ้มยาก ขี้บ่นและเป็นคนค่อนข้างดุ จนเหล่าพนักงานในบริษัทมักเกรงใจเธอ ราวกับว่าเธอเป็นเจ้านายอีกคนด้วยไสตล์ป้าของเธอ จึงทำให้ทุกคนมองผ่านเธอไป ทั้งที่อรวิภาก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร เพราะถ้าหากถอดแ
อรวิภากุมขมับ คิดภาพตัวเองไม่ออกเลยว่าจะทำงานท่ามกลางสายตาของผู้คนที่เคยเห็นคลิปนี้ได้ยังไง “ลุงจะเอายังไง” “ก็ให้ผมเอาสิ รับรองว่าคุณอรติดใจจนลืมไม่ลงแน่”“นี่เมียลุงรู้รึเปล่าว่าลุงเป็นคนแบบนี้” “เมียผมอยู่ต่างจังหวัดโน่น คุณอรไม่ต้องห่วงหรอกนะ ผมแค่อยากทำให้คุณอรหายเงี่ยนเท่านั้น” เธออยากจะบ้ากับข้อเสนอของตาแก่มากตัณหา อายก็อายที่มีคนเห็นความลับของเธอ แถมยังเครียดจนหัวจะระเบิดเมื่อคิดถึงหน้าพ่อแม่และญาติพี่น้องที่อาจได้เห็นคลิปของเธอกระจายไปตามโซเชี่ยล เธอเพิ่งรู้ในวินาทีนี้เองว่าการอยากฆ่าคนตายมันเป็นยังไง เธอล่ะอยากจะฆ่าลุงเดชนัก“แล้วถ้าอร...ยอม...ลุงจะลบคลิปใช่มั้ย” “ลบสิ ผมลบอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง”ถึงเขาไม่ลบ เธอก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อจะลบคลิปนั้นให้ได้ เธอไม่ต้องการให้ใครเห็นเธอในสภาพนั้น โดยเฉพาะเจ้านายของเธอ ที่ชื่นชมความสามารถของเธอมาตลอด ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องส่วนตัวก็ตาม แต่เธอก็ไม่ควรทำในห้องน้ำของบริษัท เพราะมันหมายถึงความมักง่าย ไม่รู้จักกาลเทศะ“ไม่น่าเลยเรา...บ้าจริง!” อรวิภาลงจากรถเมย์ก่อนจะถึงป้ายหน้าปากซอยคอนโดมิเนียม แล้วยืนเคว้งอยู่ตรงป้ายรถเมย์เหมือนคนหาท
เดชายิ้มร้าย สายตารุกรนปนหื่น ขณะเดินกลับไปที่ห้องน้ำหญิงของออฟฟิศ แล้วตรงไปเปิดถังขยะ หยิบกระดาษชำระที่หญิงสาวเพิ่งใช้ขึ้นมาดูด้วยสายตาพราว “อือ....หอมมาก หอมจริงๆ” เขาจูบหอมกระดาษชำระที่เปื้อนไปด้วยน้ำสวาทของหญิงสาวราวกับกำลังหอมกลิ่นกุหลาบหรือกลิ่นอาหารโปรดอย่างนั้นล่ะ...“คุณอรนะคุณอร ทำไมทำให้ผมมีอารมณ์ขนาดนี้”เขาหายใจแรงและเร็วขณะเก็บกระดาษชำระพวกนั้นใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แล้วเปิดดูคลิปที่เขาแอบถ่ายตอนที่อรวิภากำลังช่วยตัวเองอยู่ในห้องน้ำ ด้วยสายตาหื่นกระหาย กลัดมัน อารมณ์คลั่งสวาทเต็มขั้นจนแทบจะทนไม่ไหว“โอว....เสียงร้องสุดยอด ครางเก่งมากอีหนูเอ๊ย เห็นเรียบร้อย ๆ ไม่คิดเลยว่าจะครางเร้าใจขนาดนี้...อืม...นั่นแหละ อย่างนั้น...อ่า...” เดชารูดซิปกางเกงแล้วควักท่อนเอ็นขนาดใหญ่ของตัวเองออกมาแล้วสาวมันอย่างบ้าคลั่ง รูดเน้นทั่วลำตัวไปพร้อมกับเสียงครางกระสันของหญิงสาวในคลิป พร้อมจินตนาการว่ากำลังทำเธอไปด้วยอย่างถึงใจ “อือ...อ่า...โอว...คุณอร...อรจ๋า...ผมจะเสร็จแล้ว ผมไม่ไหวแล้ว อรจ๋า...อ๊า”เขาร้องครางอย่างสุขสม สาวมือเร็วรี่ถี่ยิบจนเอ็นแข็งชูชันต
“อูย...” เธอสาวนิ้วแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนเสียงกระแทกดังจ๊อกๆๆ ผสมกับเสียงร้องครางแว่วหวานอย่างกลมกลืน“อูยเสียว...อ๋อย...เสียวค่ะผัวขา...ฮือ” เมื่อกล้ามเนื้อบีบรัดดูดตอดนิ้วอย่างแรงไม่กี่วินาที เธอก็กระตุกซ้ำ ๆอย่างเสร็จสม ปลดปล่อยน้ำคาวสวาทออกมาจนเต็มร่อง ไหลเยิ้มซึมซับจนเป้ากางเกงเปียกแฉะ “อ่า...อ่าห์...อูย....ซี๊ดส์” เธอผ่อนคลายความเงี่ยนด้วยการหายใจอย่างสม่ำเสมอ ความสุขที่ได้รับจากนิ้วมือของตัวเอง มันเป็นความสุขที่ช่วยให้เธอหายเครียดจากการทำงานได้ไม่น้อย ซึ่งเธอทำมันบ่อยครั้งเมื่อแฟนไม่อยู่ห้อง แต่ก็ไม่เคยคิดทำในที่ทำงาน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอทนไม่ไหว“โอย...นี่เราทำให้ออฟฟิศได้ไงเนี่ย” วันนี้เธอรู้สึกว่าไม่เป็นตัวเองเอาเสียเลย เธอก๋ากั๋นกว่าปกติไปมาก เพราะเธอเป็นคนค่อนข้างเคร่งครัดกับกฎระเบียบพอสมควร แต่กลับปล่อยตัวปล่อยใจให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล“หืม กระโปรงเลอะด้วยอ่ะ” เธอรีบหยิบกระดาษทิชชู่ในกระเป๋าสะพายออกมาแล้วจัดการเช็ดคราบใคร่บนเป้ากางเกงในและส่วนที่ไหลละลงมาตามต้นขาและลำน่องจนสะอาด จากนั้นก็นำมันไปทิ้งลงในถังขยะอรวิภาทำธุระในห้องน้ำหญิงเสร็จแล้วก็เดินออกมาอย่างรู้สึกโล่งสบ
“อ่า...อืม...ใจสั่นจัง” เธอรู้ดีว่าไม่เพียงแค่ใจเท่านั้นที่สั่น แต่อารมณ์ใคร่อันเบาบางก็ไหวความรู้สึกของเธอให้ลู่ตามไปด้วย เธอพยายามห้ามตัวเองแล้ว แต่ก็ทำไม่ได้ เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอีกครั้ง แล้วเปิดดูคลิปนั้นอีกหน...“วิน....ของเขาเหรอ?” ดวงตากลมใสอยากรู้อยากเห็นจับจ้องท่อนเอ็นขนาดเขื่องของผู้ชายที่กำลังสอดใส่ในช่องสวาทของเพื่อนสาวอย่างฮึกเหิม...“โอว...” นั่นคือของเขา...ของผู้ชายที่เธอเคยแอบชอบมาก่อน เอ็นอุ่นสีสวยที่กำลังป้อนความสุขเสียวให้แก่เพื่อนสาวของเธออย่างดุดัน ร้ายกาจ “วิน...นี่ของวินจริงเหรอเนี่ย”ยิ่งมอง ใจเธอก็ยิ่งสั่นรัว เลือดลมสูบฉีด ขนลุกซู่ตั้งแต่หัวจดปลายเท้า ความรู้สึกเร่าร้อนกระจายไปทั้งตัวอย่างห้ามไม่อยู่ เมื่อเผลอคิดว่ามันกำลังสอดใส่อยู่ในรูเสียวของเธอแทน“อะ....เราคิดอะไรของเราอยู่เนี่ย” เธอรู้สึกไม่ดีเลยที่อยู่ๆก็รู้สึกมีอารมณ์ร่วมกับคลิปนั้น เธอรู้สึกผิดกับแฟนทอมของเธอและรู้สึกผิดกับสุภาวดีมาก แต่กระนั้น ความพยายามระงับอารมณ์ของเธอมันล้มเหลวทันทีที่เห็นเอ็นถอนพรวดออกมาแล้วฉีดน้ำใคร่จนกระจายไปทั่วเนินเหน่าของเพื่อนสาว “อ่า...” อรวิภาต้านแรงราคะจากภายใน
“เฮ่อ...ยังเคลียร์งานไม่เสร็จเลย” แต่เธอก็ควรจะกลับคอนโดได้แล้ว เพราะเวลาก็ล่วงเลยมาพอสมควรแล้ว“หกโมงแล้วเหรอเนี่ย เร็วจัง” เธอคิดจะไปห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัวให้เสร็จก่อนออกจากออฟฟิศ แต่ก่อนจะลุกออกจากโต๊ะทำงาน เพื่อนรักของเธอส่งคลิปมาให้ทางไลน์“ยัยสุเหรอ ส่งอะไรมา” พอเธอเปิดออกดูเท่านั้นล่ะ เธอตกใจมาก เพราะมันเป็นคลิปที่เพื่อนของเธอกำลังโดนผู้ชายเอาอย่างหนัก หน้าตาของเพื่อนรักเหยเกเต็มไปด้วยอารมณ์กำหนัดร่าน พร้อมเสียงครางดังลั่นราวกับลูกหมูถูกเชือด“เฮ๊ย ยัยสุ! บ้าจริง” เธอตกใจมากรีบปิดคลิปทันที ด้วยใจสั่นเทา “มีอะไรกับผู้ชายแล้วส่งมาให้เพื่อนดูเนี่ยนะ ทุเรศ!”หลังจากนั้นไม่เกินสามวินาที สุภาวดีเพื่อนรักของเธอก็ส่งข้อความมาว่า...“โทษทีอร ส่งผิดน่ะ”“โอ้...หรา...” เธอถอนหายใจอย่างเอือมระอาก่อนจะกดส่งสติ๊กเกอร์ปวดหัวไป“ยัยสุเอ๊ย แกมันร้าย” เธออดนึกถึงช่วงสมัยเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันไม่ได้ เธอกับสุภาวดีเป็นคู่ซี๊ปึ๊กที่ต่างกันสุดขั้วสุดสไตล์ คนหนึ่งโคตรเปรี้ยว ส่วนอีกคนโคตรจืด แต่กลับคบหากันได้อย่างสนิทใจ และถึงแม้จะชอบอะไรที่ไม่เหมือนกันเลย แต่ทั้งคู่กลับชอบผู้ชายคนเดียวกัน นั
สองสาวนั่งเม้ามอยด์กันจนกระทั่งกินข้าวเสร็จ ทั้งคู่จึงกลับเข้าออฟฟิศ ด้วยความพร้อมสำหรับการทำงานในบ่ายวันนี้ อรวิภาเข้าประจำโต๊ะก็เริ่มทำงานทันที อย่างกระตือรือร้นและมีความสุข เอกสารเหล่านี้ทำให้เลือดลมเธอสูบฉีดได้ดีเสมอ “จะทำงานแล้วหรือพี่ ยังไม่ถึงเวลาเลย” ราณีเอ่ยทักขณะกำลังรื้อเครื่องสำอางขึ้นมาแต่งหน้าเพิ่ม หลังจากลิปสติกจางไปเพราะมื้อเที่ยง หากปากไม่แดง เธอจะไม่มีแรงทำงานสักเท่าไหร่“เอกสารของช่วงเช้าน่ะ อยากเคลียร์ให้เสร็จ ตอนเย็นจะได้ไม่มีงานกองเป็นภูเขาอยู่บนโต๊ะ”“พี่อรขยันที่สุดในบริษัทเลย” วิมาลาซึ่งเป็นลูกน้องอีกคนแสดงความชื่นชมอย่างจริงใจ “ไม่แปลกใจเลยทำไมถึงก้าวหน้าในหน้าที่การงานขนาดนี้ เงินเดือนถึงได้ขึ้นเอา ๆ”“เงินเดือนเยอะขนาดนี้แต่ยังนั่งรถเมย์นะยะ” ราณีอดแซวความมัธยัสถ์ของรุ่นพี่ไม่ได้ “ไม่เหมือนพวกเรา เงินเดือนกระจิ๋งเดียว แต่ผ่อนรถคันเป็นล้าน ผ่อนบ้านชานเมือง” “ก็พี่ไม่ได้คิดจะปักหลักอยู่กรุงเทพฯนี่นา ก็เลยเอาเงินไปลงทุนที่เชียงใหม่ซะเยอะ อย่างคอนโดถ้าไม่อยู่แล้วก็ให้เช่าหรือขายได้ เห็นพี่ประหยัดแบบนี้นะ แต่เวลาซื้อของ พี่ซื้อแต่ของใหญ่ทั้งนั้น ตอนนี้เงินเก
“ก็มีบ้าง งอนเล็ก ๆ น้อย ๆตามประสาคู่รักทั่วไปน่ะแหละ เพราะต่างฝ่ายต่างทำงานหนักจนแทบไม่มีเวลาให้กัน หมูเค้าเป็นวิศวะกรที่บริษัทใหญ่ บางทีไปอบรมต่างจังหวัด ไปอบรมต่างประเทศหลายวัน ก็เลยมีงอนบ้าง ส่วนมากพี่นี่แหละที่งอน”อรวิภาเล่าถึงแฟนทอมด้วยสายตาเปล่งประกาย ล้นเหลือความสุขเหมือนหญิงสาวที่เพิ่งถูกขอแต่งงาน“พี่อรดูมีความสุขจัง แล้วจะแต่งงานกันรึเปล่า?”“ก็คงแต่งมั้ง แต่คิดว่าอาจจะอีกห้าหรือหกปีโน่น ที่คิดกันไว้อยากไปเปิดกิจการเล็ก ๆ ที่เชียงใหม่ด้วยกัน เพราะบ้านหมูเค้าอยู่เชียงใหม่ เค้าเองก็อยากกลับไปอยู่บ้าน เค้าเป็นห่วงพ่อแม่น่ะ เป็นคนกตัญญูมาก ส่วนพี่ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว เพราะพ่อแม่มีลูกค่อนข้างเยอะ ตอนนี้มีพี่ ๆดูแลอยู่ ไม่มีอะไรน่าห่วง พี่ก็เลยคิดว่าจะหนีตามหมูไปอยู่เชียงใหม่ในอนาคต”“พ่อแม่พี่โอเคกับแฟนพี่ใช่มั้ย?”“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ พี่เคยพาหมูไปเที่ยวที่บ้านทุกคนก็โอเค พี่น้องทุกคนก็ยอมรับได้ หลาน ๆนี่ติดหมูกันใหญ่เลย”“ดีจังพี่ อย่างหนูคบกับผู้ชายมาสามคนแล้ว แต่ไม่ได้เรื่องสักคน แถมยังเจ้าชู้เหมือนกันทุกคนด้วย สงสัยหนูต้องลองเปิดใจคุยกับสาวหล่อเหมือนพี่อรบ้างแล้ว”“ก็ลองดู
อรวิภาทำงานเป็นพนักงานฝ่ายบัญชีที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่งมาแปดปีแล้ว ประสบการณ์และความขยันมุ่งมั่นทำให้เธอได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าฝ่ายบัญชีด้วยอายุเพียง 30 ปีเท่านั้น บริษัทที่จ้างเธอในอัตตราเงินเดือนเกือบหนึ่งแสนบาท เป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น มีเจ้านายเป็นคนญี่ปุ่นวัยห้าสิบเอ็ดปีนามว่า ‘มิยาซากิ’ หรือ คุณซากิ และมีผู้จัดการใหญ่เป็นคนไทย วัยสี่สิบห้าชื่อว่า ‘โอฬาร’ ส่วนพนักงานของบริษัทนับร้อยชีวิตซึ่งเป็นคนไทยทั้งหมด ทำงานกันอย่างขยันขันแข็งภายในตึกสูงชั้นสามสิบเอ็ดซึ่งเป็นออฟฟิศส่วนกลางที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานครอรวิภา หรือ อร...ในวัยสามสิบปีที่ดูภูมิฐานราวกับหญิงวัยสี่สิบจนใครต่างก็แซวเธอว่าป้า ด้วยความที่เป็นคนแต่งตัวเชย เฉิ่ม เบ๊อะ ราวกับยังอยู่ในยุค 60...สวมแว่นสายตาหนาเหมือนผู้คงแก่เรียนที่วัน ๆอยู่แต่กับหนังสือและเอกสารกองโต ไม่แต่งหน้าแต่งตา เปลือยปากโล้นจนเป็นนิสัย แถมยังยิ้มยาก ขี้บ่นและเป็นคนค่อนข้างดุ จนเหล่าพนักงานในบริษัทมักเกรงใจเธอ ราวกับว่าเธอเป็นเจ้านายอีกคนด้วยไสตล์ป้าของเธอ จึงทำให้ทุกคนมองผ่านเธอไป ทั้งที่อรวิภาก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร เพราะถ้าหากถอดแ