จู่ ๆ โทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋าของผมก็สั่นขึ้นผมรีบควักโทรศัพท์มือถือออกมา พร้อมกับปรับเป็นโหมดปิดเสียงจากนั้นก็เปิดไลน์เป็นข้อความที่พี่สะใภ้ส่งมาให้ผมข้อความที่พี่สะใภ้ส่งข้อความเป็นตัวอักษร เนื้อหาคือ‘ฉันส่งคลิปตอนหนึ่งให้หลี่ลี่เจียว เธอจะต้องดูแน่นอน เธอรอดูอะไรดี ๆได้เลย’ผมเข้าใจในทันทีว่าคลิปที่พี่สะใภ้ส่งให้หลี่ลี่เจียวคือคลิปอะไรแล้วก็ไม่รู้ว่าวัน ๆพี่สะใภ้เอาคลิปมาจากไหนเยอะแยะแต่ว่าผมเองก็ไม่มีแก่ใจจะไปคิดมากขนาดนั้น ได้แต่มองเข้าไปด้านในผ่านผ้าม่านด้วยความตื่นเต้นเห็นหลี่ลี่เจียวนำโทรศัพท์วางไว้ที่หน้าอก ใบหน้าแดงระเรื่อย เหมือนว่ามีความลังเลเล็กน้อยผ่านไปครู่หนึ่ง เธอเลือกชุดนอนลูกไม้สีดำตัวหนึ่งออกมาจากตู้เสื้อผ้า จากนั้นไปที่ห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอนไม่นานนัก ก็ได้ยินเสียงน้ำไหลซ่าดังลอยออกมาจากในห้องน้ำหลี่ลี่เจียวไปอาบน้ำจริงด้วยเธอเชื่อฟังพี่สะใภ้จริง ๆ ด้วยแฮะเรื่องนี้ทำให้ผมค่อนข้างประหลาดใจเลยทีเดียวเพราะผมคิดว่าหลี่ลี่เจียวจะต่อว่าพี่สะใภ้อย่างรุนแรงมากซะอีกดูท่าพี่สะใภ้จะพูดเอาไว้ไม่ผิด หลี่ลี่เจียวถูกผู้ชายของเธอละเลยมาเป็นเวลา
ถ้าหากเมื่อครู่นี้ผมที่ถูกผีสิงพุ่งออกไปแล้วทำอะไรหลี่ลี่เจียว นั่นจะต้องจบเห่แน่แล้วจริง ๆด้วยลักษณะนิสัยของหลี่ลี่เจียว ดีไม่ดีเธออาจจะแจ้งความก็ได้และผมก็ต้องถูกจับด้วยข้อหาข่มขืน ชีวิตนี้คงไม่มีโอกาสได้ลืมตาอ้าปากคนที่ลุ่มหลงในกามราคะย่อมนำพาชีวิตสู่หายนะได้โดยง่าย คำพูดนี้พูดได้ถูกต้องมากจริง ๆเมื่อครู่นี้ผมบุ่มบ่ามเกินไปจริง ๆพี่สะใภ้ให้ผมมาเพื่อดูว่าหลี่ลี่เจียวทำเรื่องแบบอย่างว่าหรือไม่ แต่ไม่ได้ให้ผมทำอะไรหลี่ลี่เจียวหัวใจของผมมีความหวาดกลัวหลงเหลืออยู่ รีบปีนกลับมาจากระเบียงบ้านทันที แล้วก็ไม่ได้สนใจว่าคนที่โทรศัพท์มาหาหลี่ลี่เจียวคือใครกันแน่?พี่สะใภ้นอนอยู่ในห้องนอน เมื่อเห็นผมกลับมา ก็รีบลงมาจากเตียงนอนทันที“เป็นยังไงบ้าง?”ผมพูดอย่างไม่สบายใจ “ทำแล้ว พี่ลี่เจียวทำมันจริง ๆด้วย”“เธอเห็นไหมละ ฉันพูดถูกใช่ไหมล่ะ ผู้หญิงขี้เหงาที่ไม่ได้ถูกผู้ชายแตะต้องมาเป็นเวลานาน จะไม่รู้สึกเปล่าเปลี่ยวได้ยังไงกัน?”ในขณะที่พี่สะใภ้กำลังพูด ก็พบว่าอารมณ์ของผมผิดปกติไปเล็กน้อย“เธอเป็นอะไรไป? ทไมสีหน้าถึงดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยล่ะ?”ในใจของผมรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เม
ผมส่ายหน้า แล้วก็กลัดกลุ้มในเวลาเดียวกัน “ไม่รู้ครับ”พี่สะใภ้พูดว่า “เป็นเพราะหวังเจี้ยนกั๋วกำลังจงใจทำให้หลี่ลี่เจียวรู้สึกคลุมเครือ ทุกครั้งที่เธอโทรศัพท์ ก็มักจะพูดว่าฉันคิดถึงเธอเสมอ พูดว่าฉันต้องการเธอประมาณนั้น”“ให้หลี่ลี่เจียวรู้สึกอึดอัด แต่ก็ไม่ทำให้เธอ”ผมอดไม่ได้ที่จะด่า “สามีของพี่ลี่เจียวไม่ใช่มนุษย์เกินไปแล้วจริง ๆ ตัวเองมีคนอื่นอยู่ข้างนอกแล้ว ทำไมถึงยังทำแบบนี้กับพี่ลี่เจียวล่ะ”พี่สะใภ้ก็ด่าตามเช่นกัน “ใช่นะสิ หวังเจี้ยนกั๋วไม่ใช่มนุษย์ หักหลัง กลั่นแกล้ง ตอนนี้ยังวางแผนที่จะทำร้ายภรรยาของตัวเองอีก”“เรียกได้ว่าเป็นเดนมนุษย์ในเดนมนุษย์!”ผมได้ยินแล้วก็สงสารจับใจรู้สึกว่าพี่ลี่เจียวน่าสงสารมากเกินไปแล้วสามีของตัวเองมีคนอื่นอยู่ข้างนอก แต่ตนเองยังถูกกักขังอยู่ในกรงอีกทั้งพี่ลี่เจียวยังคงทำตามหน้าที่ของตัวเองอย่างดี แม้ว่าสามีของเธอจะไม่กลับมาเกินครึ่งปีแล้ว เธอก็ไม่มีทางทำเรื่องที่น่าละอายใจต่อของสามีของเธอพี่สะใภ้จ้องมองผม ถามอีกว่า “เธอจะต้องประหลาดใจมาก หลี่ลี่เจียวเป็นเพื่อนสนิทของฉัน ทำไมฉันถึงจะไม่บอกเรื่องจริงกับเธอใช่ไหมล่ะ?”ผมสงสัยแบบนี้จริง ๆ
“พี่สะใภ้ ขอบคุณที่พี่อยู่คุยกับผมในคืนนี้นะครับ”“หลังจากนี้ผมจะไม่ใจร้อนอีกแล้ว ผมจะตั้งใจจีบพี่ลี่เจียว”“อืม รู้แล้วก็ดี”พี่สะใภ้พูดพลางมองไปยังส่วนล่างของผม“พี่ว่าเธอคงจะจีบเพื่อนสนิทพี่ไม่ได้ง่าย ๆ ในเร็ว ๆ นี้หรอก แต่การที่เธอจะต้องทนทรมานแบบนี้ทุกวันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี”ผมเองก็ทุกข์ใจเหมือนกัน “พี่สะใภ้ พี่มีวิธีอะไรที่จะสามารถช่วยผมได้บ้างไหม”“พี่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะ ผมหมายถึงช่วยแบบจริงจัง”“ผมทรมานมากจริง ๆ ไม่รู้แล้วว่าควรจะทำยังไง”ยังไงซะ ผมไม่ได้มีประสบการณ์ทางด้านนี้ จึงไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร ก็เลยต้องขอความช่วยเหลือจากพี่สะใภ้ผมเห็นว่าใบหน้าของพี่สะใภ้ขึ้นริ้วแดง สายตาก็ดูแปลก ๆ ชอบกลแต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คงจะเป็นเพราะอากาศร้อนเกินไป และพี่สะใภ้ไม่ได้เปิดแอร์ ทำให้เธอร้อนจนหน้าแดง“พี่สะใภ้ พี่สะใภ้?”ผมเห็นว่าเธอนิ่งเงียบไป จึงทำการเรียกสติเธอพี่สะใภ้ราวกับกระต่ายขี้ตกใจ เธอร้อง “อ๊ะ” ขึ้นมาทันที“พี่เป็นอะไร? ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”ผมถามด้วยความเป็นห่วง เพราะผมคิดว่าเธอคงไม่สบายจริง ๆ พี่สะใภ้รีบส่ายหน้า “ไม่ได้ไม่สบาย พี่แค่กำลังคิดว่าจะช
ผมกับพี่สะใภ้ลงไปข้างล่างพร้อมกับเอาของของหลีลี่เจียวทั้งหมดไปด้วยจากนั้นพี่สะใภ้และผมก็ได้ไปเคาะประตูห้องของหลี่ลี่เจียวผ่านไปสักพัก หลี่ลี่เจียวก็เปิดประตูพี่สะใภ้รีบยิ้มทักทายเธอทันที “ทำอะไรอยู่? ออกมาเปิดประตูช้าจัง กำลังทำเรื่องน่าอายอะไรอยู่หรือเปล่า?”ใบหน้าของหลี่ลี่เจียวที่เดิมทีมีเลือดฝาดอยู่แล้ว เมื่อถูกพี่สะใภ้หยอกล้อแบบนี้ ยิ่งทำให้หน้าของเธอแดงขึ้นไปอีกพี่สะใภ้ส่งวิดีโอให้เธอดู จากนั้นก็จงใจแกล้งหยอกเธอ แต่หลี่ลี่เจียวปากแข็งมาก ให้ตายยังไงเธอก็ไม่ยอมรับ “พูดบ้าอะไรของเธอ ฉันเพิ่งอาบน้ำเสร็จ”“โอ้ อาบน้ำงั้นเหรอ เพราะฉันส่งวิดีโอให้เธอดู เธอถึงไปอาบน้ำใช่ไหม?”พี่สะใภ้พูดหยอกล้อหลี่ลี่เจียว ก่อนจะถือของเข้าไปข้างในหลี่ลี่เจียวรู้สึกประหม่า เธอจึงรีบพูดขึ้น “เธอส่งอะไรมาให้ฉันเหรอ? ฉันไม่ได้เปิดดู”ผมเบิกตากว้างอย่างตกใจ และคิดในใจว่า ทำไมพี่ลี่เจียวถึงพูดโกหกหน้าตายแบบนี้?เมื่อครู่ผมเห็นกับตาว่าเธอดู อีกทั้งยังมีอาการด้วยแน่นอนว่าผมไม่สามารถพูดมันออกมาได้ ไม่อย่างนั้นเรื่องที่ผมแอบดูจะโป๊ะแตกผมแสร้งทำเป็นคนไม่รู้เรื่องรู้ราว อีกทั้งยังให้ความร่วมมือ
ก็เพราะเธอรู้สึกผิดไงตอนที่เธอเห็นภาพนั้น เธอไม่ได้ตะโกนหรือตกใจเดินหนีไปทันที แต่กลับจ้องดูอยู่พักใหญ่ ทุกครั้งที่นึกถึง เธอจะรู้สึกอายเป็นอย่างมากเธอกลัวว่าผมจะพูดเรื่องนี้ขึ้นมา เธอจึงตัดบทผมไปก่อน“พี่ลี่เจียว งั้นพี่ให้อภัยผมได้ไหม?” ผมถามตะกุกตะกักหลี่ลี่เจียวหัวเราะเบา ๆ “งั้นพี่จะถือว่าเรื่องนี้เธอไม่ได้ตั้งใจก็แล้วกัน แต่ตอนที่อยู่ซุปเปอร์มาเก็ตล่ะ!”“ทำไมเธอถึงพูดแบบนี้กับพี่? หรือเธอเห็นว่าพี่ง่ายงั้นเหรอ?”นี่เป็นเรื่องที่ทำให้หลี่ลี่เจียวโกรธมากที่สุดหลี่ลี่เจียวกับผมเพิ่งจะเจอกันครั้งเดียว แต่ผมกลับพูดแบบนั้นใส่เธอ เธอคงจะคิดว่า สำหรับผมแล้วเธอเป็นคนง่าย ทุกอย่างมีต้นเหตุมาจากการนวดเมื่อเช้าตอนเช้า ตอนที่ผมนวดให้เธอ เธอรู้สึกได้ว่ามือของผมซุกซนเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่ได้ห้ามในทันทีเธอคิดว่าตัวเองส่งสัญญาณผิดให้ผมก่อน จึงทำให้ผมพูดแบบนั้นออกมาดังนั้นเธอจึงเสียใจและรู้สึกแย่เป็นอย่างมากอีกทั้งยังโทษตัวเองว่า ทำไมถึงยอมแพ้ต่อสิ่งล่อลวงได้ง่าย ๆพอมีหนุ่มหล่อมานวดให้เธอแค่สองที ทำไมเธอถึงปล่อยให้เขาทำตามใจตัวเอง?แล้วตอนนี้เป็นไงล่ะ เขาคิดไปแล้วว่าเธอง่าย
ผมจะกล้าพูดความจริงได้อย่างไรกันล่ะ ถ้าบอกพี่ลี่เจียวว่าผมเป็นแบบนี้บ่อย ๆ เธอคงคิดว่าผมเป็นพวกหื่นกามแน่ ๆผมจึงตอบกลับเธอไปอย่างระวังคำพูด “ไม่ใช่ครับ ปกติผมไม่ได้เป็นแบบนี้”“งั้นเธอก็หมายความว่า พอเห็นพี่แล้วเป็นงั้นเหรอ?” หลี่ลี่เจียวถามด้วยใบหน้าแดงก่ำผมรีบอธิบาย “นั่นก็ไม่ใช่ครับ ผมเคารพพี่ลี่เจียวมาตลอด ไม่เคยคิดอะไรที่ไม่ดีต่อพี่เลย”“ที่เป็นแบบนี้ อาจเป็นเพราะพี่ลี่เจียวสวยมาก ๆ ““ผู้ชายเวลาเห็นผู้หญิงสวย ๆ ก็มักจะชอบอยู่แล้ว”เมื่อผมพูดคำพวกนี้ออกไป ใบหน้าของพี่ลี่เจียวก็แดงมากขึ้น แววตาสะท้อนความเขินอายออกมาผมกลัวว่าพี่ลี่เจียวจะโกรธ จึงอธิบายอีกว่า “พี่ลี่เจียว ผมชอบมองพี่ แต่ไม่มีความคิดที่จะลวนลามพี่เลยนะ”“สำหรับผมแล้ว พี่เป็นเหมือนนางฟ้า ผมไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนที่ทั้งอ่อนโยนและสวยขนาดนี้แบบพี่มาก่อน”“พอแล้ว พอแล้ว นางฟงนางฟ้าอะไรกัน พี่สะใภ้ของเธอยังบอกว่าเธอเป็นคนซื่อ แต่พี่เห็นว่าเธอไม่เห็นจะซื่อเลย”หลี่ลี่เจียวพูดตัดบททันที เธอกลัวว่าหากเป็นแบบนี้ต่อไป เธอเองจะควบคุมตัวเองไม่ได้เมื่อเห็นว่าหลี่ลี่เจียวไม่ได้โกรธ ผมจึงพูดอย่างดีใจ “งั้นพี่ลี่เจียว ตอ
แต่ตอนนี้พี่สะใภ้ไม่ได้สนใจผมเท่าไหร่ เธอสนใจพี่ลี่เจียว เพื่อนสนิทของเธอมากกว่าพี่สะใภ้กำลังสังเกตสีหน้าของพี่ลี่เจียวพี่ลี่เจียวหน้าแดงเหมือนลูกแอปเปิล และดูเขินอายมาก เธอไม่กล้าแม้จะสบตาผมยิ่งเธอเป็นแบบนี้ ยิ่งแสดงให้เห็นว่าจริง ๆ แล้วเธอก็มีความต้องการมากเพราะสำหรับผู้หญิงแบบพี่ลี่เจียวแล้ว ต่อให้พวกเธอจะต้องการมากแค่ไหน อยากได้มากแค่ไหน ก็จะเก็บเอาไว้ในใจ ไม่พูดมันออกมาหากต้องการที่จะรู้ความคิดในใจของเธอ จะต้องจับสังเกตจากสีหน้าของเธอและพี่สะใภ้ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้เธอแค่มองพี่ลี่เจียวแวบเดียว ก็รู้ความในใจของอีกฝ่ายแล้ว“ลี่เจียว งั้นเธอรีบพักผ่อนเถอะ ฉันกับเอ้อร์โก่วขอตัวกลับก่อน”“พรุ่งนี้เช้าอย่าลืมไปให้เอ้อร์โก่วนวดต่อที่บ้านฉันด้วยนะ” พี่สะใภ้พูดจบ ก็หันมาส่งสายตาเป็นเชิงให้ผมกลับความจริงแล้วผมยังไม่อยากกลับ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จึงต้องเดินตามพี่สะใภ้ออกมาเมื่อกลับถึงบ้าน พี่สะใภ้หัวเราะออกมาทันที “พี่เดาไม่ผิดเลยจริง ๆ ความต้องการของลี่เจียวถูกกระตุ้นแล้ว”ผมยังคงสงสัยว่าทำไมพี่ลี่เจียวถึงโกรธขึ้นมาอย่างกระทันหันแต่คิดยังไงก็ไม่เข้าใจอยู่ดีผมจึ