"คุณลั่ว! ไม่ได้เจอกันนานเลยครับ!" หลินตงตอบอย่างสุภาพเช่นกันสำหรับเฟิงซิวและชายหนุ่มอีกคน กลับไม่สนใจหลินตงเลยหลินตงก็ย่อมไม่ใส่ใจ แค่เด็กสองคนเท่านั้นเอง"น้องหลินเชิญนั่ง!" จูเก่อชางโฉงกล่าวลั่วหงอวี๋หาที่นั่งให้ทันที"หลินตง! มานั่งนี่สิ!"หลินตงไม่กล้าไม่ไว้หน้าลั่วหงอวี๋ เนื่องจากอีกฝ่ายก็สุภาพกับเขามากจึงเดินไปนั่งข้างลั่วหงอวี๋"น้องหลิน! ขอแนะนำให้คุณรู้จัก คนนี้คือจวงปี้ฝาน ผู้สืบทอดของตระกูลซ่อนเร้นตระกูลจวง ตระกูลจวงก็เป็นหนึ่งในผู้ร่วมมือของตระกูลจูเก่อของผม" จูเก่อชางโฉงชี้ไปที่ชายหนุ่มที่หลินตงไม่รู้จักแล้วแนะนำจวงปี้ฝาน?หลินตงตะลึง!จวงปีฟ่าน (นักโทษจอมอวด) ?ชื่อนี้ตั้งได้สุดยอดจริง ๆดูเหมือนว่าตระกูลจวงจะเป็นคนมีการศึกษา"พี่จวง! คนนี้คือหลินตงเพื่อนสนิทของผม! ครั้งนี้ก็มาช่วยผมรับมือกับพันธสัญญาสิบปีนี้ด้วย" จูเก่อชางโฉงแนะนำหลินตงให้จวงปี้ฝานอีกครั้ง"สวัสดีครับ! พี่จวง!" หลินตงยื่นมือออกมาทักทาย"สวัสดี! น้องหลิน!" จวงปี้ฝานยื่นมือออกไปจับมือกับหลินตงแล้วพูดคนที่สามารถถูกจูเก่อชางโฉงเชิญมาช่วยได้นั้น ไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอนจวงปี้ฝานก็ไม่กล้า
หลินตงออกจากห้องจูเก่อชางโฉง ตอนนี้เกือบจะเย็นแล้ว เขาเตรียมกลับห้องไปพักผ่อนเพื่อไม่ให้ดึงดูดความสนใจ ห้องที่หลินตงจองไว้อยู่ตรงกลางและไม่ถือว่าเป็นห้องที่ดีที่สุดตอนที่หลินตงกำลังจะเดินไปที่ห้องของตัวเอง ก็เห็นคนสองคนเดินมาชายหนึ่งหญิงหนึ่ง หนึ่งในนั้นหลินตงรู้จักลั่วเชียนโหรว!!!เพื่อนสนิทของจ้าวซวนหนึ่งในสามผู้ก่อตั้งเอสซีซีชื่อลั่วหงอวี๋ ทั้งคู่แซ่ลั่ว เห็นได้ชัดว่าเป็นลูกหลานของตระกูลใหญ่หมอตูดูเหมือนจะมีตระกูลลั่วเพียงตระกูลเดียวนะ?สองคนนี้น่าจะมาจากตระกูลเดียวกันไม่นานทั้งสามคนก็เผชิญหน้ากัน!ลั่วเชียนโหรวก็ย่อมเห็นหลินตงด้วยแน่นอนสำหรับเจ้านายของเพื่อนสนิทคนนี้ ลั่วเชียนโหรวก็สนใจมากเช่นกันเธอก็แอบตรวจสอบข้อมูลของหลินตง แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถตรวจสอบอะไรได้เลยยิ่งลึกลับยิ่งกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็น"คุณลั่ว สวัสดีครับ!" หลินตงทักทายก่อน"หลินตง! คุณก็มาเข้าร่วมพันธสัญญาสิบปีด้วยเหรอ?" ลั่วเชียนโหรวถามอย่างแปลกใจ"ไม่ใช่ผมเข้าร่วม! ผมแค่ถูกคนอื่นขอให้มา มาช่วยเขาเสริมทัพ!""จูเก่อชางโฉงขอให้คุณมาเหรอ?""ใช่ครับ!!!""งั้นคุณก็เก่งนะ! คาดไม่ถึงว่า
สำหรับน้องคนนี้เขาก็ปวดหัวเหมือนกัน ยี่สิบห้ายี่สิบหกแล้วยังไม่หาแฟน คลุกคลีกับแก๊งผู้หญิงทุกวัน ใช่เรื่องที่ไหน"ใช่แล้ว! พี่ลั่ว! เมื่อกี้ผมเจอผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อลั่วหงอวี๋ในห้องพี่จูเก่อ พวกคุณน่าจะรู้จักใช่ไหม?" หลินตงรีบเปลี่ยนเรื่องลั่วตงหลีสองพี่น้องได้ยินชื่อนี้ก็ตกใจอย่างเห็นได้ชัดหลินตงรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงอันละเอียดอ่อนนี้ทันทีหลังจากนั้นไม่นาน ลั่วตงหลีก็พูดว่า "เธอเป็นคุณหนูของตระกูลลั่วเรา! เป็นลูกสาวของลุงผม เป็นลูกพี่ลูกน้องของผมสองพี่น้อง"หลินตงรู้สึกแปลกเล็กน้อยตามหลักแล้วเป็นคนตระกูลเดียวกันไม่มีอุปสรรคใดที่ไม่อาจเอาชนะได้แต่รู้สึกว่าระหว่างพวกเขาน่าจะมีความขัดแย้งกันเขายังไม่เข้าใจถึงความโหดร้ายของการแข่งขันระหว่างตระกูลใหญ่ในสมัยโบราณยังมีเก้ามังกรแข่งขันกันเพื่อชิงบัลลังก์ทุกวันนี้ในตระกูลใหญ่เหล่านี้ ตราบใดที่ไม่มีทายาทที่ได้รับการยืนยัน การแข่งขันก็โหดร้ายมากแม้จะได้รับการยืนยันก็อาจมีคนทำอะไรลับหลังเว้นเสียแต่ว่าเป็นคนที่เก่งมาก ๆ แซงหน้าจนทิ้งคนอื่นไว้ข้างหลัง ทำให้คนอื่นเสียความมั่นใจในการแข่งขัน"หลินตง คุณสนิทกับลั่วหงอวี๋มากเห
หลังจากหลินตงแยกจากพี่น้องตระกูลลั่วแล้ว ก็กลับไปที่ห้องของตัวเองโดยตรง แล้วก็ไม่ได้ออกไปข้างนอกอีกเลยในอีกห้องหนึ่งของโรงแรมแบล็คแซนด์ จ้าวซือเต้ากำลังคุยกับหลายคนเกี่ยวกับพันธสัญญาสิบปีในวันพรุ่งนี้มู่หรงฉิงเกอไม่ได้เปิดเผยการจัดการใด ๆ ของพันธสัญญาสิบปีสองตัวเอกบอกว่าไม่ตื่นเต้นคงเป็นไปไม่ได้ที่โดยเฉพาะเรื่องมาถึงขั้นปัจุจบัน เป็นจุดโฟกัสของทั้งต้าเซี่ยถ้าแพ้ไม่ใช่แค่ทำลายความมั่นใจของตัวเองเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อตระกูลย่างมากอีกด้วยทั้งคู่แพ้ไม่ได้!!!และไม่อาจแพ้ได้เหมือนกัน!!!ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ พรุ่งนี้ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันแบบไหนก็ต้องสามารถรับมือได้คืนนี้มีหลายคนนอนไม่หลับจ้าวซือเต้า จูเก่อชางโฉง และมู่หรงฉิงเกอ สามคนต่างนอนไม่หลับอัจฉริยะอีกหลายคนที่รู้สึกว่าตนมีความแข็งแกร่งที่จะแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งอันดับหนึ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ของต้าเซี่ยต่างก็นอนไม่หลับหวงฝู่ซีเยว่ก็นอนไม่หลับเช่นกัน!!!พรุ่งนี้เธออาจจะได้รู้ว่าอีกครึ่งชีวิตของตัวเองคือใครในขณะนี้เธอรู้สึกกังวลและมีความหวังในใจ!!!มีเพียงหลินตงเท่านั้นที่นอนหลับสบาย!!
อัจฉริยะคนรุ่นใหม่ของต้าเซี่ยเกือบทั้งหมดอยู่ที่นี่ แถมในนี้ยังมีแม้กระทั่งระดับครึ่งเทพมากมายแต่แล้วไงล่ะ?ก็ไม่ใช่ต้องฟังคำสั่งของตัวเองเหรอสั่งระดับครึ่งเทพเข้าแถว!นี่เป็นช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุดของพวกเขาอย่างแน่นอน สามารถอวดไปได้ตลอดชีวิตข่าวที่หน้ากากเงินข่มขวัญเมื่อวานนี้ยังไม่ได้แพร่กระจายออกไปถ้าแพร่กระจายออกไป ย่อมสร้างความฮือฮาอย่างมากแน่นอนผู้พิทักษ์ระดับเทพอีกคนหนึ่งปรากฏตัวโดยไม่มีเหตุผลนี่เป็นเรื่องใหญ่!!!มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบในอนาคตคนที่ขึ้นเรือล้วนเป็นผู้สืบทอดของกองกำลังใหญ่ ๆ และผู้แข็งแกร่งที่ถูกส่งมาปกป้องพวกเขาส่วนผู้ติดตามคนอื่น ๆ พวกเขาทำได้เพียงอยู่ที่มุมมืด รอให้นายน้อยหรือคุณหนูเดินทางกลับมาเท่านั้นคนที่อยู่คือคนส่วนใหญ่!คาดว่ามีไม่ถึงหนึ่งในห้าเท่านั้นที่ขึ้นเรือในไม่ช้าหลังจากที่ทุกคนขึ้นเรือ เรือสำราญก็เคลื่อนตัวและเริ่มแล่นไปยังเกาะร้างซึ่งอยู่ห่างออกไปสิบกว่ากิโลเมตรไม่นานหลังจากที่เรือสำราญออกเดินทาง ทุกคนก็เห็นเกาะขนาดใหญ่แห่งหนึ่งระยะทางกว่าสิบกิโลเมตรก็ถึงอย่างรวดเร็วด้วยการแล่นอย่างรวดเร็วของเรือส
คนที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนเป็นผู้สืบทอดของกองกำลังใหญ่ ๆ ในต้าเซี่ย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายซ่อนเร้นหรือทางโลก ล้วนเคยเห็นโลกมาแล้วสาวสวยย่อมเคยเห็นมาไม่น้อยแต่รูปลักษณ์ที่สวยงามและมีเสน่ห์มู่หรงฉิงเกอ ประกอบกับท่าทางเหนือมนุษย์และออร่านางฟ้าที่พลิ้วไหว ทำให้คนมีความปรารถนาที่จะพิชิตจริง ๆตราบใดที่เอาชนะอัจฉริยะทั้งหมดของต้าเซี่ยและได้รับตำแหน่งอันดับหนึ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ของต้าเซี่ย ไม่เพียงเป็นที่รู้จักทั่วทั้งต้าเซี่ยเท่านั้น แต่ยังสามารถพิชิตสาวสวยที่สุดในต้าเซี่ยได้อีกด้วยสาวสวยคู่ฮีโร่ นี่คือความจริงที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงคนรุ่นใหม่ทุกคนที่เข้าร่วมในงานพันธสัญญาสิบปีล้วนถูมือและกระตือรือร้นที่จะประลอง ต้องการแสดงตัวเองมู่หรงฉิงเกอกำลังจะประกาศรายการต่อไปในเวลานี้จูเก่อชางโฉงก็ยืนขึ้นและพูดว่า "ฉิงเกอ! พันธสัญญาสิบปีคือสิ่งที่เราตั้งไว้เมื่อสิบปีก่อน ควรทำให้ผมกับจ้าวซือเต้าทำสำเร็จก่อน ส่วนการแข่งขันของอัจฉริยะต้าเซี่ยนั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่ควรเอาสองเรื่องนี้มาปนกัน""ถูกต้อง!!! ผมก็มีเจตนาแบบนี้เช่นกัน! พันธสัญญาสิบปีคือพันธสัญญาสิบปี การแข่งขันของอัจฉริยะต้าเซี่ยคือการแข่ง
"พี่เฟิง! นัดแรกคุณลงเป็นยังไง?" จูเก่อชางโฉงถาม"ได้เลย!!!" เฟิงซิวตอบไม่นานหลังจากนั้น หยวนอินก็พูดอีกครั้ง "ทั้งสองฝ่ายพร้อมแล้วหรือยัง?""พร้อมแล้ว!!!"จูเก่อชางโฉงและจ้าวซือเต้าตอบพร้อมกัน"งั้นก็เชิญคนแรกของทั้งสองฝ่ายลงสนาม"เฟิงซิวและชายในวัยสามสิบของอีกฝ่ายเดินไปที่ศูนย์กลางพร้อมกันการทำเช่นนี้ย่อมเพื่อป้องกันการจัดคนแบบไม่ยุติธรรมของทั้งสองฝ่ายเนื่องจากทั้งคู่ก็เป็นคนในตระกูลชั้นนำของทางโลก แม้ว่าจะไม่ได้รู้รากเหง้า แต่ก็เข้าใจความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายไม่มากก็น้อยทั้งสองฝ่ายออกไปพร้อมกันก็หลีกเลี่ยงสถานการณ์นี้ได้"เฟิงซิวจากตระกูลเฟิงของหมอตู!" เฟิงซิวรายงานตัวเองเสียงดังทุกคนในงานสามารถได้ยินอย่างชัดเจนเรื่องแบบนี้ถ้าชนะก็สามารถมีหน้ามีตาต่อหน้าหลายกองกำลังในต้าเซี่ยได้ ย่อมต้องรายงานตัวเองอย่างเสียงดังส่วนแพ้???คนที่กล้าลงสนามไม่มีใครคิดว่าตัวเองจะแพ้"หยูปินจากตระกูลหยูของมณฑลซีหมิง!" อีกฝ่ายก็พูดเสียงดังเช่นกันเฟิงซิวหยิบถุงมือโลหะออกมาออกมาสวมบนมือแล้วพูดว่า "แสดงอาวุธของนายมา! ไม่งั้นจะไม่มีโอกาสแล้ว""ตามคำขอ!!!"หยูปินพูดจบก็หยิบดาบออกมาจ
มือซ้ายต่อยมาที่เขาหยูปินรีบเอาหมัดขวาที่ปล่อยดาบมารับในเวลานี้ไม่สามารถสนใจได้ว่าคู่ต่อสู้จะสวมถุงมือโลหะหรือเปล่าถ้าถูกต่อยเข้าที่หน้าอก ผลที่ตามมาจะร้ายแรงมาก"ปัง!!!""คลิก!!!"เสียงสองเสียงดังขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งสองฝ่ายถอยกลับไปสองสามก้าวเฟิงซิวยืนตรง ยกมือขวาขึ้นมองดูดาบที่ตัวเองดึงกลับมา สะบัดมือโยนลงพื้นฝั่งตรงข้าม หยูปินตัวงอ มือซ้ายจับมือขวาของตัวเอง สีหน้าเจ็บปวดเล็กน้อยการปะทะกันของหมัดทั้งสองฝ่ายเมื่อกี้เขาไม่คิดว่าแรงมือซ้ายของเฟิงซิวจะเยอะขนาดนี้ ทำให้มือขวาของเขาหักโดยตรง และเนื่องจากอีกฝ่ายสวมถุงมือโลหะ หลังมือของเขาในขณะนี้จึงเต็มไปด้วยเลือด"จะสู้ต่ออีกไหม???" เฟิงซิวถามจริง ๆ แล้วคนปกติมือขวาจะมีพลังมากกว่ามือซ้าย เว้นแต่จะถนัดซ้ายแต่เฟิงซิวแตกต่างออกไป แม้ว่าเขาจะไม่ได้ถนัดซ้าย แต่มือซ้ายของเขามีพลังมากกว่ามือขวามากเพื่อทำให้ประหลาดใจ เขาได้ฝึกมือซ้ายมาโดยตลอด เพื่อให้บรรลุผลของการชนะด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวตอนนี้ดูเหมือนว่าผลลัพธ์ดีมากไม่เช่นนั้นแม้จะชนะการต่อสู้ครั้งนี้ แต่ก็จะยากมากหยูปินยังอยากต่อสู้ต่อไป แต่หยวนอินกลับพูดก่