อาการบาดเจ็บแบบนี้ถือว่าร้ายแรงการเห็นด้วยตาตัวเองนั้น น่าตกใจยิ่งกว่าการคำบอกเล่าต้องรู้ว่า องค์จักรพรรดิเป็นตัวตนที่ไม่มีใครเอาชนะได้ในหัวใจของมนุษย์ในกาแล็กซีทางช้างเผือก และนั่นคือความเชื่อของพวกเขาตอนนี้ภาพพจน์ไร้เทียมทานได้นั้น ได้แตกสลายไปแล้ว ซึ่งทำให้ความศรัทธาก็พังทลายลงเช่นกันแม้แต่ผู้คนจำนวนมากก็เริ่มหลั่งน้ำตาพวกเขาทั้งหมดเติบโตมาด้วยการฟังตำนานขององค์จักรพรรดิ ซึ่งนั่นทำให้รู้สึกภาคภูมิใจและเป็นเกียรติที่ได้พบกับพระองค์ด้วยตนเองแถมยังตั้งองค์จักรพรรดิเป็นเป้าหมายสูงสุดของพวกเขาอีกด้วยอย่างไรก็ตาม หลังจากได้มีโอกาสพบองค์จักรพรรดิในที่สุด กลับฃกลายเป็นฉากเช่นนี้แล้วแบบนี้ พวกเขาจะยอมรับสิ่งนี้ได้อย่างไร?เหนือหอคอยทองคำดวงดาวจักรพรรดิทั้งหมด มีเสียงร้องไห้โศกเศร้าหลินตงเฝ้าดูทุกอย่างอย่างอธิบายไม่ถูกนี่คืออะไร?ทำไมยังร้องไห้อยู่?และร้องไห้ด้วยความใจสลายเสียด้วยหากไม่รู้ คงคิดว่ามีญาติสนิทล้มหายตายจาก!คงไม่ได้ตกใจจนสติแตกไปแล้วหรือ?คนเหล่านี้ไม่ใช่คนกลุ่มหัวกะทิของกองกำลังใหญ่ในกาแล็กซีทางช้างเผือกหรอกเหรอ?แล้วจะขี้ขลาดเช่นนี้ได้อย่างไร?หลินต
"ฮ่าๆ... เป็นฉากที่ซาบซึ้งจริงๆ ทำให้คนฟังเศร้าและน้ำตาซึม เซี่ยอวิ๋นชวน เก็บช่วงเวลานี้ไว้ให้ดี! นี่จะเป็นการกลับมาพบกันครั้งสุดท้ายของครอบครัวแก อย่าโทษฉันที่ไม่ให้โอกาสแกบอกลากัน" หลี่เทียนกล่าวด้วยรอยยิ้มเขาเฝ้ารอช่วงเวลานี้มานานเกินไปแล้วนับตั้งแต่ที่อาณาจักรสวรรค์พ่ายแพ้ต่ออาณาจักร ตระกูลหลี่ก็คิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะแก้แค้นอย่างไรไม่ว่าจะต้องแลกมาด้วยอะไร พวกเขาก็ต้องทำลายตระกูลเซี่ยในที่สุดวันนั้นก็มาถึงแม้ว่าจะสายไปสักหน่อยแต่ตราบใดที่มันมาถึง มันก็ยังดี"อาณาจักรสวรรค์จงเจริญ""ท่านผู้นำจงเจริญ"เศษซากอาณาจักรสวรรค์นับไม่ถ้วนเริ่มตะโกนด้วยความตื่นเต้นในที่สุดพวกเขาก็ไม่ต้องดิ้นรนอีกต่อไปและสามารถปรากฏตัวในอาณาเขตจักรพรรดิได้อย่างเปิดเผยจากนี้ไป กาแล็กซีทางช้างเผือกทั้งหมดจะเป็นของอาณาจักรสวรรค์ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ไหน จะไม่ถูกตะโกนใส่จากทุกคนอีกต่อไปแต่จะได้รับความเคารพทุกหนทุกแห่ง"ไอ้สารเลว! ทำไมแกถึงทำแบบนี้กับเสด็จพ่อของฉัน" เซี่ยมู่ชี้ไปที่หลี่เทียนและถาม"องค์หญิงสิบเก้า เธอควรใช้ตำแหน่งนี้ให้ดีที่สุดในขณะที่มันยังมีอยู่! เพราะอีกไม่นาน เธอจะไม่ใช่องค
เซี่ยอวิ๋นชวนเปิดปากพยายามเกลี้ยกล่อมหหลิวนิ่งเหยียนให้พาเซี่ยมู่ไปแต่สุดท้ายกลับกลายเป็นเสียงถอนหายใจเมื่อเผชิญกับอาณาจักรนิรันดรครึ่งขั้นถึงห้าแม้ในช่วงรุ่งเรืองของเขาและเซี่ยจิ่วโหยว พวกเขาก็ยังโชคไม่ดีนอกจากนี้ ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและไม่สามารถปลดปล่อยพลังการต่อสู้ได้แม้แต่ 30%ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ในฐานะสตรีของตระกูลเซี่ยตายยังดีกว่ามีชีวิตอยู่เว้นแต่จะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นในตอนนี้ หรือเจอกับผู้คุมกฏจักรวาลที่เดินทางผ่านกาแล็กซีทางช้างเผือกมิฉะนั้นก็ไม่มีใครสามารถช่วยพวกเขาได้แต่ความน่าจะเป็นนี้แทบจะเป็นศูนย์"พี่หยวนหลิน รีบตัดสินใจเร็วเข้า ฆ่าสมาชิกตระกูลเซี่ยทั้งหมด กาแล็กซีทางช้างเผือกจะเป็นของเรา" หลี่เทียนกล่าว"ตามที่พี่หลี่เทียนต้องการ!!!" หยวนหลินตอบเพื่อป้องกันอุบัติเหตุไม่ให้เกิดขึ้นควรกำจัดเซี่ยอวิ๋นชวนและเซี่ยจิ่วโหยวในคราวเดียวทั้งห้าผู้ทรงพลังอาณาจักรนิรันดรครึ่งขั้นโจมตีพร้อมกันบนยอดเขาสีทองของดวงดาวจักรพรรดิ ทุกคนเฝ้าดูท้องฟ้าด้วยสายตาที่ตึงเครียดความศรัทธาของพวกเขาถูกทำลายไปแล้วไม่เพียงแต่องค์จักรพรรดิเซี่ยอวิ๋นชวนจะได้รับบาดเ
ร่างที่ยืนอยู่ระหว่างสองฝ่ายที่ขัดแย้งกันนั้น แน่นอนว่าคือหลินตงในขณะที่หลี่เทียนและกลุ่มของเขาเตรียมที่จะโจมตีเซี่ยอวิ๋นชวน หลินตงก็ดึงดาบกำราบมารออกมาอย่างรวดเร็วและฟันเพียงครั้งเดียว ทำให้การรุกคืบของพวกเขาหยุดชะงักและบังคับให้พวกเขาล่าถอย ช่วยครอบครัวของเซี่ยอวิ๋นชวนไว้ด้วยแต่การฟันด้วยดาบครั้งนี้ไม่เหมือนกับที่เขาเคยทำมาก่อนในอดีต หลินตงมักจะฟันดาบอย่างไม่ใส่ใจเพราะคู่ต่อสู้ของเขาอ่อนแอเกินไปไม่คุ้มที่เขาจะจริงจังด้วยแต่คราวนี้มันแตกต่างออกไป เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้ทรงพลังระดับอาณาจักรนิรันดรครึ่งขั้นห้าคนแม้จะมีดาบกำราบมารในมือ ก็ยากที่จะเป็นภัยคุกคามต่อหลี่เทียนและกลุ่มของเขาด้วยดาบเพียงเล่มเดียวดังนั้นดาบเล่มนี้จึงเป็นครั้งแรกที่หลินตงใช้ดาบกำราบมารในการแสดงเทคนิคการต่อสู้ระดับสูงสามเทคนิค วิชาดาบกำราบมารการผสมผสานทั้งสองเข้าด้วยกันบวกกับความแข็งแกร่งของอาณาจักรนิรันดรครึ่งขั้นของหลินตงพลังนั้นค่อนข้างน่ากลัวหลินตงเองก็ตกใจเล็กน้อยนี่ไม่ง่ายเหมือนหนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับสองอีกต่อไปแม้แต่หลี่เทียนกับพวก อาณาจักรนิรันดรครึ่งขั้นห้าคน ก็ต้องหลบคมดาบชั่วครา
ตอนที่หลินตงทำลายล้างตระกูลเฟิง แม้ว่าเขาจะสวมหน้ากาก แต่เขาก็ใช้ดาบยาวสีแดงนี้"คุณปู่! เขาคือผู้อาวุโสที่ช่วยเราจัดการท่านผู้เฒ่าของตระกูลเฟิงครั้งที่แล้ว แม้ว่าเขาจะสวมหน้ากากในเวลานั้น แต่ดาบในมือของเขานั้นไม่ผิดแน่" ไป๋จิงถิงมองหลินตงบนท้องฟ้าและสูญเสียเสียงของเธอไป"หลังจากครั้งสุดท้ายเธอกลับไปที่พระราชวังหมิงเยว่และถามเจ้ากรมวังว่าเธอรู้จักผู้แข็งแกร่งที่ใช้ดาบยาวสีแดงหรือไม่แต่เจ้ากรมวังบอกว่าเธอไม่รู้จักเขาในบรรดาผู้แข็งแกร่งในอาณาเขตจักรพรรดิ มีหลายคนที่ถือดาบ แต่ไม่มีใครใช้ดาบยาวสีแดงเลยไป๋ไค่เซวียนย่อมลืมหลินตงไม่ได้ถ้าไม่ใช่เพราะการปรากฏตัวของหลินตง ตระกูลไป๋ของเขาอาจถูกทำลายโดยตระกูลเฟิงไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยหลินตงไม่เพียงแต่ช่วยตระกูลไป๋ แต่ยังให้โอกาสสำหรับการก้าวขึ้นมาของพวกเขาด้วย"ใช่แล้ว! ฉันไม่คาดคิดว่าผู้อาวุโสคนนี้จะยังเด็กและทรงพลังขนาดนี้ เราอยากจะขอบคุณเขาเป็นการส่วนตัว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่มีโอกาสแล้ว เพราะช่องว่างระหว่างพวกเรานั้นใหญ่เกินไป" ไป๋ไค่เซวียนถอนหายใจ"ช่องว่างมันใหญ่เกินไป? ไม่มีโอกาสเหลืออยู่เลยเหรอ?" ไป๋จิงถิงพึมพำกับตัวเ
การปรากฏตัวของหลินตง ไม่เพียงแต่ทำให้เซี่ยอวิ๋นชวนและครอบครัวของเขาประหลาดใจเท่านั้น แต่ยังทำให้หลี่เทียนและกลุ่มของเขาโกรธอีกด้วยพวกเขาเกือบจะประสบความสำเร็จเมื่อสักครู่ โดยสังหารเซี่ยอวิ๋นชวนและพิชิตกาแล็กซีในคราวเดียวโดยไม่คาดคิด ปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งในระดับเดียวกัน ได้ปรากฏตัวขึ้นในระหว่างนั้นและเมื่อตัดสินจากการโจมตีเมื่อสักครู่ก็ไม่ควรประเมินความแข็งแกร่งของคนผู้นี้ต่ำเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดาบยาวสีแดงในมือของเขายิ่งทำให้พวกเขารู้สึกถึงความคม และการถูกทำร้ายอย่างลับๆ โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้าหลี่เทียนและปรมาจารย์ทั้งห้าคน ถูกสะกดข่มด้วยดาบยาวของหลินตงพวกเขาไม่รู้สึกตัว จนกระทั่งเซี่ยอวิ๋นชวนเตรียมตัวจะออกไปเซี่ยอวิ๋นชวนต้องการจากไป แต่แน่นอนว่าหลี่เทียนจะไม่เห็นด้วยวันนี้ พวกเขาลอบโจมตีอย่างกะทันหัน และทำให้เซี่ยอวิ๋นชวนได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาไม่สามารถพลาดโอกาสอันยอดเยี่ยมนี้ในการสังหารเขาได้ไม่อย่างนั้น หากต้องการฆ่าเขาอีกครั้ง ก็จะไม่ง่ายเหมือนวันนี้หลี่เทียนเป็นผู้นำอาณาจักรสวรรค์คนอื่นๆ อาจลังเล แต่เขาทำไม่ได้ไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องไม่ให้เซี่ยอวิ๋นชวนจ
วันนี้เขาจะปล่อยวางและต่อสู้ด้วยพลังทั้งหมดของเขาดูสิว่าขีดจำกัดของเขาอยู่ที่ไหน"วิชาดาบกำราบมาร!!!"หลินตงส่งเสียงคำรามเบาๆ ในใจจากนั้นดาบกำราบมาร ก็ถูกฟันออกไปฉับเดียวแสงสีแดงปรากฏขึ้นอีกครั้งบนท้องฟ้าดาบเล่มนี้มีรัศมีดาบอันรุนแรง ตัดเส้นทางของหลี่เทียนและร่างที่สวมชุดดำทั้งสองโดยตรงในเวลาเดียวกัน อีกสองคนก็เข้าใกล้หลินตงแล้วคนหนึ่งอยู่ทางซ้าย คนหนึ่งอยู่ทางขวา ทั้งสองโจมตีหลินตงพร้อมกันพวกเขาเผยกรงเล็บขนาดใหญ่ที่เป็นของเผ่ามังกรเก้าหัว ที่ซ่อนอยู่ภายใต้ชุดดำของพวกเขา ซึ่งปกคลุมไปด้วยเกล็ดแข็งเมื่อเผชิญกับการโจมตีของคนทั้งสองนี้หลินตงไม่แสดงอาการตื่นตระหนกใดๆก่อนอื่น เขากำมือซ้ายของเขาและใช้หนึ่งในสามเทคนิคการต่อสู้ระดับสูง หมัดเทพแห่งความว่างเปล่า เพื่อปะทะกับการโจมตีครั้งหนึ่งของเขาปัง!!!ในเวลาเดียวกัน หลินตงก็ใช้พลังจิตวิญญาณทั้งหมดของเขาและสร้างกำแพงกั้นอีกด้านหนึ่งเมื่อการโจมตีของชายชุดดำอีกคนกำลังจะถึงตัวเขา เขาก็ถูกพลังจิตวิญญาณของหลินตงขัดขวางอย่างกะทันหันและพลังจิตวิญญาณอันทรงพลังก็ล้อมรอบชายชุดดำอย่างรวดเร็ว มัดเขาไว้แน่นแต่คราวนี้มันแตกต่าง
การต่อสู้กลางอากาศจบลงในพริบตาหลินตงใช้ดาบครั้งแรก เพื่อหยุดหลี่เทียนและพรรคพวกทั้งสามของเขาจากการลอบสังหารเซี่ยอวิ๋นชวนกับครอบครัวจากนั้นต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีแบบกะทันหันของชายชุดดำสองคน เขาก็ตอบโต้ด้วยหมัด เพื่อหยุดร่างหนึ่งและดาบเพื่อหยุดร่างอีกร่างหนึ่งผลการต่อสู้ของเขานั้นยอดเยี่ยมมากควรรู้ว่าคนทั้งห้านี้ ไม่ใช่ใครๆ ก็จัดการพวกเขาได้นี่คือปรมาจารย์ระดับอาณาจักรนิรันดรครึ่งขั้นถึงห้าคนแม้แต่องค์จักรพรรดิก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากการโจมตีร่วมกันของพวกเขาทุกคนตกตะลึงกับความสามารถของหลินตงแข็งแกร่งเกินไป!!!แข็งแกร่งเกินไปจริงๆ!!!ผู้คนนับไม่ถ้วนจ้องมองร่างบนท้องฟ้าหัวใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นสิ่งที่องค์จักรพรรดิเซี่ยอวิ๋นชวน ไม่สามารถทำได้ชายหนุ่มคนนี้ทำได้ขณะนี้เองศรัทธาที่แหลกสลายของคนรุ่นใหม่ทั่วกาแล็กซีทางช้างเผือก กำลังได้รับการฟื้นฟูเมื่อเทียบกับองค์จักรพรรดิเซี่ยอวิ๋นชวนพวกเขายิ่งบูชารูปร่าง ที่ส่องแสงจ้าในท้องฟ้าท้ายที่สุด เซี่ยอวิ๋นชวนก็เป็นตำนานมาโดยตลอดครั้งแรกที่พวกเขาเห็นเขาด้วยตาของตนเอง ก็ถูกซุ่มโจมตีและได้รับบาดเจ็บสาหัสถ้าไม่ใช่เ
หยวนเซิงกับหยวนหมิงต่างก็เห็นศาสตราเทพมายาในมือของหลินตงเหมือนกันความปรารถนาที่ต้องการครอบครองอย่างรุนแรงวูบผ่านในสายตาของพวกเขาก่อนจะหายไปพวกเขาก็อยากได้เช่นกันแต่ทั้งสองคนรู้ดีจากสถานการณ์ตอนนี้มังกรเก้าหัวไม่มีโอกาสเลยแต่การที่หลินตงใช้ศาสตราเทพมายานั้น กลับเป็นเรื่องดีสำหรับพวกเขาในสายตาของทั้งสองคนต่างก็เผยออกถึงความดีใจยอดเยี่ยมไปเลย ถือว่าสวรรค์เข้าข้างจริงๆตอนนี้หลินตงเอาศาสตราเทพมายาออกมา คือการรนหาที่ตายด้วยตัวเองหยวนหมิงกำลังคิดในใจ ว่าจะพูดอย่างไรเพื่อให้ทุกคนยอมร่วมมือกันจัดการกับหลินตงตอนนี้โอกาสมาถึงแล้วหลินตงถือศาสตราเทพมายาอยู่ในมือ ลองถามดูว่าในอสูรกาแล็กซี มีใครไม่อยากครอบครองบ้าง?ไม่ว่าจะเป็นใครในอาณาจักรนิรันดรที่ได้ครอบครองมัน ก็สามารถท้าทายผู้ที่เหนือกว่าได้ไม่มีใครที่สามารถปฏิเสธการล่อลวงแบบนี้ได้ตอนนี้ถ้าเขาเรียกออกไปรับประกันว่าจะมีหลายคนที่ออกมาจัดการกับหลินตงแค่จัดการหลินตงได้ศาสตราเทพมายาในมือของเขา คือเจ้าเหนือทุกสรรพสิ่งแบบนั้น ทุกคนก็มีโอกาสที่จะได้ครอบครองหลินตงยังไม่รู้ว่า ดาบกำราบมารในมือของเขากำลังดึงดูดสายตาจา
เจ้าหลินตงโชคดีมากจนเกินไปแล้วแม้แต่เฉินจิงจื่อหานในตอนนี้เอง ก็ยังรู้สึกอิจฉาเดิมทีเขากังวลว่า หลินตงคงไม่ใช่คู่มือของหยวนเซิงที่อยู่ในระดับเซียนเดินดินตอนปลายดูเหมือนว่าเขาคิดมากเกินไปมีศาสตราเทพมายาอยู่ในมือหลินตงสามารถท้าทายตัวต้นระดับที่เหนือกว่าของตัวเองได้จริง ๆไม่แปลกใจที่เขาจะมั่นใจขนาดนั้นเมื่อครู่นี้เจ้าเด็กคนนี้ซ่อนความลับเอาไว้ไม่น้อยเลยสมกับที่เป็นชายที่แม้แต่วิชาดวงตาจักรวาล ยังไม่สามารถมองทะลุได้ไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องพาหลินตงเข้าร่วมสำนักดาวสวรรค์ให้ได้การพาคนที่ดวงชะตาพิเศษมาก เช่นหลินตงมาเข้าร่วมกับสำนักดาวสวรรค์ ก็นับว่าเป็นการทำคุณงามความดีอย่างใหญ่หลวงให้กับสำนักดาวสวรรค์ถึงตอนนั้นพ่อของเขาจะต้องให้รางวัลเขาอีกครั้งแน่นอนเฉินจิงจื่อหานมองไปที่หลินตงด้วยสายตา ที่เรียกว่าตื้นเต้นโชคดีที่ตอนนี้หลินตงกำลังยุ่งกับการรับมือท่าไม้ตายของหยวนเซิงอยู่ ไม่อย่างนั้น ถ้าเขาเห็นสายตาของเฉินจิงจื่อหานแล้ว คงจะเข้าใจผิดไปแล้วในคฤหาสน์หรูหราบนหลังของเต่ายักษ์ห้องหนึ่งที่แทบจะกลายเป็นทะเลสีแดงไป๋หลี่เหยียนหงเองก็เฝ้าสังเกตการต่อสู้ที่เกิดขึ้นภายนอกเมื
"ปัง!!!"เสียงปังดังขึ้นหมัดเทพแห่งความว่างเปล่าของหลินตง อัดเข้าไปกระแทกเข้าเต็มกลางอกของหยวนเซิงอย่างจังๆแต่ในจังหวะที่หยวนเซิงถูกหมัดซัดเข้าเต็มๆ ก็หมุนตัวอย่างรวดเร็ว แล้วฟาดหางด้านหลังใส่หลินตงอย่างเต็มกำลัง"พลั๊ก!!!"ทั้งสองต่างก็รับการโจมตีเต็มกำลังจากฝ่ายตรงข้าม แล้วกระเด็นถอยร่นไปด้านหลังคนละทิศทุกที่ที่พลังกวาดผ่าน ทำให้ทะเลปั่นป่วน ภูผาสะเทือน ดวงดาวแตกสลายหายไปในพริบตามังกรเก้าหัวมีชื่อเสียงด้านพลังป้องกัน ร่างกายแข็งแกร่งราวเหล็กกล้าส่วนร่างกายของหลินตง หลังจากผ่านการหลอมขัดโดยระบบอย่างเข้มข้น ก็ไม่ด้อยกว่าแม้แต่น้อยถ้าวัดกันด้วยร่างกาย ทั้งสองก็เรียกได้ว่าสูสีไม่มีใครยอมใครแต่ถึงอย่างไรหลินตงก็ยังอยู่แค่ระดับเซียนเดินดินตอนต้น ขณะที่หยวนเซิงนั้นอยู่ตอนปลายแล้ว ห่างกันถึงสองขั้นย่อยนอกจากนี้ หยวนเซิงมีชีวิตอยู่มาเกือบหมื่นปี มีประสบการณ์การต่อสู้เหนือกว่าหลินตงอย่างมากเพราะฉะนั้น ตั้งแต่เริ่มแรก หลินตงก็เป็นฝ่ายตั้งรับ ถูกหยวนเซิงเป็นฝ่ายรุกใส่อย่างต่อเนื่องแต่เป้าหมายของหลินตงในตอนนี้ คือการสั่งสมประสบการณ์การต่อสู้เพื่อไม่ให้เมื่อเข้าสู่อาณาจักรดว
ในขณะนั้น เฉินจิงจื่อหานก็พุ่งเข้ามาและต่อยหมัดหนักเข้าที่ศีรษะของหยวนเซิงที่กำลังรวบรวมพลัง"ปัง!!!"ลูกบอลพลังงานเบี่ยงเบนไปจากตำแหน่งและยิงเข้าไปในความว่างเปล่าขณะที่เฉินจิงจื่อหานกำลังเตรียมช่วยหลินตงยกการปิดล้อม หยวนหมิงก็มาถึงด้วยเช่นกันเข้าไปพัวพันกับเฉินจิงจื่อหานในทันทีหลินตงพยายามดิ้นรนเพื่อหลุดพ้นจากการพันธนาการของหยวนเซิงที่จริงแล้ว แม้จะไม่มีเฉินจิงจื่อหานช่วยเหลือ หลินตงยังคงมีทางที่จะหลบหนีพลังจิตวิญญาณของเขายังไม่ได้ใช้!ร่างสีทองขนาดใหญ่สี่ร่างต่อสู้กันในความว่างเปล่าทุกคนใช้วิธีการดั้งเดิมที่สุด การต่อสู้ระยะประชิดหยวนเซิงกับหยวนหมิงจะรวบรวมลูกบอลพลังงานทันทีเ พื่อโจมตีหลินตงกับเฉินจิงจื่อหานเมื่อใดก็ตามที่มีโอกาสอย่างไรก็ตาม พวกเขาถูกโจมตีทุกครั้งในการต่อสู้ระยะประชิด การใช้การโจมตีระยะไกลแบบนั้นไม่มีประสิทธิภาพอย่างไรก็ตาม ลูกบอลพลังงานลูกหนึ่งกำลังโจมตีตำแหน่งของเต่ายักษ์มันสามารถทำให้หวงฝู่ซีเยว่และคนอื่นๆ ที่กำลังดูการต่อสู้ด้วยความกังวลตกใจได้พวกเธอทำได้เพียงเฝ้าดูอย่างช่วยไม่ได้ในขณะที่ลูกบอลแสงขนาดใหญ่เข้ามาใกล้ทันทีที่พวกเขาคิดว่า
หลินตงและเฉินจิงจื่อหานกำลังลูบไม้ลูบมือ พร้อมที่จะลงมือ!หยวนหมิงขมวดคิ้ว“เราจะปล่อยให้คนจากกาแล็กซี่ทางช้างเผือกทำอะไรก็ได้ที่ต้องการในอสูรกาแล็กซีของเราจริงๆ เหรอ?” หยวนหมิงตะโกนเสียงดังถามฝูงชน“หยวนหมิง! เนื่องจากหลินตงมาหาแก งั้นก็สู้กับเขาสิ! เขาพาคนมาแค่สองคน ไม่ได้รุมแกด้วยจำนวนเลยสักนิด นอกจากนี้ หลินตงเพิ่งเข้าสู่อาณาจักรนิรันดร แกยังคาดหวังอะไรจากพวกเราอีก? แกกำลังจะบอกว่ามังกรเก้าหัวของแกไม่สามารถรับมือกับความท้าทายเช่นนี้ได้เลยเหรอ?” เสียงทุ้มทรงพลังตอบเมื่อได้ยินเสียงนี้หยวนหมิงปิดปากเห็นได้ชัดว่าตัวตนของอีกฝ่ายทำให้เขารู้สึกระแวดระวังมากขณะนั้นเอง!!!"บึ้ม...บึ้ม...."เสียงดังสองครั้งปรากฏขึ้นติดต่อกันหลินตงและเฉินจิงจื่อหานได้แสดงกายาทองคำนิรันดร์ของพวกเขาสองร่างสีทองขนาดใหญ่ยืนอยู่ในความว่างเปล่า ราวกับยักษ์ใหญ่ที่สูงตระหง่านหากมองอย่างละเอียด ก็จะเห็นร่างยักษ์สีทองที่หลินตงแสดงนั้น มีขนาดเล็กกว่าของเฉินจิงจื่อหานเล็กน้อยขนาดของกายาทองคำอมตะนั้นไม่เท่ากัน มันจะเปลี่ยนไปตามความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นยิ่งความแข็งแกร่งแข็งแกร่งขึ้น กายาทองคำอมตะก็
ทั้งหมดนี้เป็นการกระทำของมังกรเก้าหัวเองทำไมพวกเขาต้องลุยน้ำโคลนนี้ด้วย?หยวนหมิงยังคงพูดอยู่ตามลำพังเขาคิดว่าสิ่งนี้จะกระตุ้นให้ทุกคนต่อสู้กับหลินตงร่วมกันหากไม่มีสิ่งที่ไท่ซานพูดเมื่อกี้นี้ อาจมีใครบางคนออกมาพูดจริงๆในขณะนี้ หลินตงหมดความอดทนจนถึงตอนนี้ เขาพูดเพียงสองประโยคเท่านั้นแต่หยวนหมิงกลับพูดไม่หยุดไป๋หลี่เหยียนหงบอกเขาโดยเฉพาะว่าให้รีบจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยถ้าเรื่องนี้ยืดเยื้อต่อไปอีก ใครจะรู้ว่าหยวนหมิงตั้งใจจะทำการแสดงของเขาไปอีกนานแค่ไหน"หยวนหมิง! แกจะพูดพล่ามอีกนานแค่ไหน แกย่อมรู้ชัดเจนเกี่ยวกับจุดประสงค์ในการมาเยือนของฉันในวันนี้ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แกรุกรานกาแล็กซี่ทางช้างเผือกของฉัน ทำไมแกต้องอธิบายให้ฉันฟังด้วย" หลินตงพูดขึ้นหลินตงขัดจังหวะหยวนหลินในใจของเขารู้สึกไม่สบายใจอย่างมากเขารอสักพักไม่มีใครเต็มใจที่จะก้าวออกไปข้างหน้าเขาหวังว่าข้าจะฉีกไท่ซานออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้ถ้าไม่ใช่เพราะคำพูดของเขาสถานการณ์นี้เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดขึ้น"หลินตง! ฉันไม่รู้ว่าแกกำลังพูดถึงอะไร และฉันก็ไม่มีอะไรจะอธิบายแก คราวที่แล้ว ตอนที่แกเข้าสู่
หลินตงมองหยวนหมิงซึ่งอยู่ในอาการโกรธจนพูดไม่ออกเกิดอะไรขึ้นที่นี่?เขาพูดไปแค่สองประโยคมังกรเก้าหัวก็จะเริ่มต่อสู้กับคนอื่นแล้วแต่เขากลับกลายเป็นตัวประกอบแทนเมื่อกี้ หลินตงจำได้ว่าโจมตีหยวนหมิงผู้นี้ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้นำวานรยักษ์ครั้งก่อนที่เขาเข้าสู่อาณาจักรนิรันดร เขาก็ปรากฏตัวขึ้น และหยวนหมิงซึ่งกำลังโกรธเช่นกันก็พูดไม่ออกไม่คาดว่ามันจะเกิดขึ้นอีกครั้งในครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะมีความแค้นฝังใจอย่างลึกซึ้งระหว่างวานรยักษ์กับมังกรเก้าหัว“เป็นอะไรไป หยวนหมิง ดูจากท่าทางของแกแล้ว คิดจะประลองฝีมือกับฉันก่อนหรือเปล่า? งั้นก็รีบมาสิ! เมื่อไหร่ที่ฉัน ไท่ซานเคยกลัวแกบ้าง น้องหลินตง! ให้ฉันทดสอบเจ้านี่ก่อนเถอะ เมื่อถึงเวลานั้น แกก็สามารถโจมตีได้เมื่อเห็นโอกาส”เสียงของไท่ซานดังออกมาจากความว่างเปล่าหยวนหมิงถูกไท่ซานยั่วยุและกำลังจะระเบิดกำลังจะเปิดใช้งานกายาทองคำอมตะของเขาและสั่งสอนบทเรียนให้แก่ไท่ซานแต่หลังจากได้ยินความเห็นสุดท้ายของไท่ซาน ความโกรธแค้นของเขาส่วนใหญ่ก็มลายหายไปเรื่องที่เผชิญหน้ากับสามอาณาจักรนิรันดรที่หลินตงนำมายังไม่ได้รับการจัดการ การพัวพันกับ
"หยวนหมิง! เลิกปลุกปั่นไปทั่วได้แล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างมังกรเก้าหัวของแกกับกาแล็กซีทางช้างเผือก อย่าลากทุกคนเข้ามาเกี่ยวข้อง แกได้ทำสิ่งดีๆ และได้รับประโยชน์ แต่ตอนนี้มีคนมาเคาะประตูบ้านแกและต้องการให้ทุกคนร่วมมือกัน นี่แกไปเอาตรรกะนี้มาจากไหน?"มันคือไท่ซาน ผู้นำวานรยักษ์ในอสูรกาแล็กซีวานรยักษ์และมังกรเก้าหัวเป็นศัตรูตัวฉกาจมาโดยตลอดทั้งสองเผ่าพันธุ์ต่อสู้กันมาเป็นเวลานับพันปี โดยแต่ละเผ่าพันธุ์ต่างผลักันแพ้ผลัดกันชนะ และไม่มีเผ่าพันธุ์ใดทำอะไรอีกฝ่ายได้มีโอกาสที่จะล้อเลียนเผ่ามังกรเก้าหัวไท่ซานจะปล่อยผ่านได้อย่างไร?"ไท่ซาน! ความแค้นระหว่างเผ่าของเราทั้งสองเป็นเรื่องภายในอสูรกาแล็กซีของเรา ตอนนี้มันเกี่ยวข้องกับกาแล็กซีสองแห่ง แกอยู่อสูรกาแล็กซีของเราหรือเปล่า หรือแกได้แปรพักตร์ไปแล้ว" หยวนหมิงตะโกนถ้าไม่ใช่เพราะหลินตงหาความช่วยเหลือโดยมีอาณาจักรนิรันดรทั้งสามยืนอยู่ตรงข้ามเขาหยวนหมิงคงร่วมมือกับหยวนเซิงเพื่อจัดการกับหลินตงแล้วแม้ว่าพวกเขาจะฆ่าหลินตงไม่ได้อย่างน้อยพวกเขาก็ทำให้เขาบาดเจ็บสาหัส สอนบทเรียนอันโหดร้ายให้เขา และขัดขวางการเติบโตในอนาคตของเขาแต่
มังกรเก้าหัว ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบเผ่าพันธุ์ที่ทรงพลังที่สุดในอสูรกาแล็กซี ยังมีนิสัยที่อาฆาตพยาบาทอีกด้วยหลังจากได้รับความสูญเสียครั้งใหญ่จากน้ำมือของหลินตง ไม่มีทางที่พวกเขาจะปล่อยมันไปและพวกเขายังรู้เกี่ยวกับความขัดแย้ง ที่ไม่อาจปรองดองได้ระหว่างเผ่ามังกรเก้าหัวและมนุษย์ในกาแล็กซีทางช้างเผือกอีกด้วยมังกรเก้าหัวได้พยายามหลายครั้ง เพื่อควบคุมกาแล็กซี่ทางช้างเผือก แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จครั้งนี้ กาแล็กซีทางช้างเผือกได้สัมผัสกับการปรากฏตัวของอาณาจักรนิรันดรและเพียงแค่เข้าสู่อาณาจักรนิรันดร ก็แข็งแกร่งมากแล้วเมื่อหลินตงเติบโตต่อไป ก็อาจกลายเป็นต้นเหตุของการสูญพันธุ์ของมังกรเก้าหัวในอนาคตได้ดังนั้นในทุกวันนี้พวกเขาจึงได้วางแผนต่อต้านกาแล็กซีทางช้างเผือกถึงกับใช้เงินจำนวนมาก ในการจ้างเผ่าพันธุ์อื่นอีกสองเผ่ามาช่วยเหลือแม้ว่าจะไม่สามารถเอาจัดการกาแล็กซี่ทางช้างเผือกได้จนหมดสิ้น แต่ก็ต้องกำจัดภัยคุกคามครั้งใหญ่ ที่อาจเกิดขึ้นจากหลินตงสิ่งที่ทำให้เผ่ามังกรเก้าหัวประหลาดใจก็คือ พวกเขายังไม่ได้ดำเนินการใดๆ กับหลินตงเลยหลินตงก็มาเคาะประตูบ้านพวกเขาแล้วใครทำให้เขามั่นหน้ามั่น