Share

บทที่ 2

Author: อูเหมยปิงเหม่ยซื่อ
เมิ่งเชียนเชียนเห็นลี่จื่อเซียนทำแบบนี้แล้ว ความผิดปกติสายหนึ่งก็ทอประกายออกมาจากดวงตา ทว่าหลังจากนั้นกลับแสร้งพูดออกมาอย่างเศร้าโศกเสียใจ

“อาเซียน ฉันรู้ว่านายชอบเด็กนะ แต่ว่า...”

เมิ่งเชียนเชียนกุมหน้าท้องไว้ ท่าทางราวกับตกเข้าไปอยู่ในความทรงจำอันน่าเศร้าใจบางอย่างก็ไม่ปาน

“ฉันไม่สนหรอกว่าหลินซินอวี๋จะเป็นคนให้กำเนิดลูกของนาย แค่เป็นลูกของนาย ฉันก็ชอบทั้งนั้น!”

ตอนที่เมิ่งเชียนเชียนพูดประโยคนี้ออกมา ในดวงตาก็เอ้อล้นไปด้วยน้ำตา จ้องมองลี่จื่อเซียนด้วยความรักลึกซึ้ง

ลี่จื่อเซียนมองเมิ่งเชียนเชียน แล้วก้มหน้ามองร่างไร้วิญญาณตรงหน้าอีกครั้ง “ฉันไม่ยอมให้หล่อนคลอดลูกของฉันหรอก หล่อนไม่คู่ควรเลยสักนิด”

“แต่พวกนายสองคน...”

“ฉันเปลี่ยนวิตามินของหล่อนเป็นยาคุมกำเนิดตั้งนานแล้ว หล่อนไม่มีทางให้กำเนิดลูกของฉันได้หรอก!”

พอได้ยินลี่จื่อเซียนพูดแบบนี้ ฉันก็เหมือนกับถูกสายฟ้าฟาดเข้าที่ศีรษะอย่างไรอย่างนั้น

ฉันแต่งงานอยู่กินกับลี่จื่อเซียนมาห้าปี ไม่เคยมีวี่แววจะตั้งท้องเลยสักนิด

พวกเราล้วนไปตรวจหาสาเหตุกันที่โรงพยาบาลแล้ว แต่ทุกอย่างก็ปกติดี แค่ไม่ตั้งท้องก็เท่านั้น

ที่แท้ก็เป็นเพราะลี่จื่อเซียน

เขาเปลี่ยนวิตามินของฉันเป็นยาคุมกำเนิดมาตั้งนานแล้ว!

ฉันได้ยินว่าวิตามินยี่ห้อนี้ไม่ดี เลยเปลี่ยนไปทานยี่ห้ออื่นแทน

ซึ่งลี่จื่อเซียนไม่รู้เรื่องนี้

และก็เพราะว่าเขาไม่รู้นั่นแหละ ฉันถึงได้ตั้งท้อง

เมิ่งเชียนเชียนพอใจกับคำตอบนี้ของลี่จื่อเซียนเป็นที่สุด

เธอเชิดหน้าชูคอมองฉันที่กลายเป็นร่างไร้วิญญาณด้วยท่าทีของผู้ชนะ

ฉันมองดูลี่จื่อเซียนแยกร่างของฉันออกจากกัน แล้วนำไปแช่ไว้ในฟอร์มาลีน

เมื่อเสร็จสิ้นทุกกระบวนการ ลี่จื่อเซียนก็เหน็ดเหนื่อยจนแทบจะไม่ไหว เขานั่งนิ่งอยู่บนโซฟา

เมิ่งเชียนเชียนส่งผ้าขนหนูอุ่นๆ ผืนหนึ่งให้เขา แล้วนั่งลงบนตักเขาด้วยท่าทางยั่วยวน พร้อมกับมองหน้าเขาไปด้วย

“อาเซียน ทำไมขอบตานายถึงได้ดำขนาดนี้ล่ะ พี่ซินอวี๋ยังโกรธอยู่อีกเหรอ? ให้ฉันโทรไปอธิบายกับพี่เขาดีกว่านะ!”

พอลี่จื่อเซียนได้ยินชื่อของฉัน เขาก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

แน่นอนว่าเมิ่งเชียนเชียนดูออกว่าเขารำคาญใจ เลยปลอบโยนไปว่า “อาเซียน พี่ซินอวี๋เป็นคนอารมณ์ร้อน นายก็ลองง้อพี่เขาดูสักหน่อยสิ!”

สีหน้าของลี่จื่อเซียนไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที “หล่อนขี้อิจฉาจนเป็นนิสัยไป แล้วก็ขี้หึงไปทุกเรื่อง ฉันไม่มีทางง้อหรอก แล้วฉันจะคอยดูซิว่าหล่อนจะเล่นสงครามเย็นกับฉันได้นานแค่ไหน!”

ก่อนเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์

ฉันกับลี่จื่อเซียนทะเลาะกันยกใหญ่เพราะเมิ่งเชียนเชียนเป็นสาเหตุ

ลี่จื่อเซียนคิดว่าฉันเป็นคนไม่มีเหตุผล จากนั้นฉันถึงได้ออกจากบ้านไป

ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน ฉันก็จะทำสงครามเย็นกับลี่จื่อเซียนอยู่หลายวันเสียทุกครั้งไป

ครั้งนี้เขาต้องคิดแน่นอนว่าฉันจะทำสงครามเย็นกับเขา

แต่เขาไม่รู้เลยว่าฉันตายไปแล้ว ก็เมื่อกี้นี้ไง ที่เขาช่วยให้เมิ่งเชียนเชียนพ้นความผิด ฉันถึงได้ถูกเขาล้วงอวัยวะภายในออกมาหมด เขาเป็นคนทำให้ภรรยาของตัวเองต้องกลายเป็นหุ่นจำลองด้วยมือของเขาเอง!

......

เพื่อปกปิดหลักฐานเอาผิดภายในห้องทดลอง ลี่จื่อเซียนจึงใช้สารเคมีมาทำความสะอาดห้องทดลองทุกซอกทุกมุมไปหนึ่งรอบ

ทั่วทั้งห้องทดลองสะอาดเอี่ยมอ่องเป็นประกายวิบวับ ราวกับว่าเมื่อครู่นี้ไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น

เพียงแต่เนื้อตั้งแต่บริเวณแขนทั้งสองข้างของฉันเป็นต้นไปนั้น จัดการค่อนข้างลำบากไม่น้อย

เมิ่งเชียนเชียนกระวีกระวาดขันอาสา “ให้ฉันทำเถอะ ฉันจะจัดการให้เรียบร้อยเอง”

ลี่จื่อเซียนส่งเสียงอืมออกมาเบาๆ

หลังจากนั้นพอเมิ่งเชียนเชียนเห็นว่าจัดการทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว ก็สวมกอดเข้าที่เอวของลี่จื่อเซียน อิงแอบอยู่ในอ้อมกอดของเขาอย่างสนิทสนม

“อาเซียน ขอบคุณนายมากเลยจริงๆ ถ้าไม่ได้นายฉันก็ไม่รู้ว่าควรทำยังไง!”

ลี่จื่อเซียนโอบกอดเมิ่งเชียนเชียนแน่น เขาประทับจุมพิตลงบนเส้นผมของเมิ่งเชียนเชียนเบาๆ “ไม่ต้องห่วงนะ มีฉันอยู่ทั้งคน ไม่มีทางเกิดอะไรขึ้นแน่”

แต่งงานกันมาห้าปี ฉันไม่เคยเห็นลี่จื่อเซียนทำสายตารักใคร่อ่อนโยนขนาดนี้มาก่อนเลยสักครั้ง

ฉันคิดมาตลอดว่าเขาเป็นคนเย็นชา ขอแค่ฉันไม่หยุดพยายามก็จะต้องละลายความเย็นชาของเขาได้แน่

พอตอนนี้ลองมาคิดดูแล้ว ฉันนี่มันน่าขันจริงๆ จะไปมีใครเย็นชาอะไรขนาดนั้นได้เล่า ก็แค่เขาไม่เคยรักฉันเลยตั้งแต่แรกต่างหาก

เมิ่งเชียนเชียนเปี่ยมล้นไปด้วยความปรารถนา สองมือเหนี่ยวร้องคอของลี่จื่อเซียนไว้ พลางมองเขาด้วยสายตามีเลศนัย

แรกเริ่มลี่จื่อเซียนถึงกับชะงักไป หันกลับไปมองศพที่ถูกทำเป็นหุ่นจำลองแล้วที่ด้านหลังโดยไม่รู้ตัว

ดูเหมือนว่าเขาอยากจะปฏิเสธ แต่เมื่อเผชิญกับเมิ่งเชียนเชียนที่กำลังเป็นฝ่ายรุก กอปรกับความต้องการในใจของเขาแล้ว

เขากลับเลือกจะยอมแพ้ แล้วก้มหน้าจูบริมฝีปากสีแดงสดของเมิ่งเชียนเชียน

ตอนที่ฉันกับลี่จื่อเซียนใกล้ชิดกันนั้น เขามักจะหลบเลี่ยงการจูบเสมอ

ฉันคิดไปว่าเขาไม่ชอบการจูบ

ทว่าในตอนนี้ ฉันได้แต่มองดูลี่จื่อเซียนประทับจูบลงบนริมฝีปากของเมิ่งเชียนเชียนอย่างเร่าร้อนระคนเอาแต่ใจ

ฉันถึงได้เข้าใจแจ่มแจ้ง ลี่จื่อเซียนไม่ได้รังเกียจการจูบ เขาก็แค่เกลียดที่จะต้องจูบกับฉัน

ฉันมองดูความเร่าร้อนของพวกเขาทั้งสองคนซึ่งอยู่ข้างๆ ร่างไร้วิญญาณของฉันด้วยสายตาเย็นชา

ฉันอยากจะลอยหนีออกไป แต่ฉันไม่อาจทำได้

พอตายฉันก็กลายเป็นวิญญาณดวงหนึ่ง ไม่อาจไปที่ไหนได้ทั้งนั้น ทำได้เพียงลอยตามอยู่ด้านหลังของลี่จื่อเซียน

ฉันรู้สึกว่าตัวเองช่างน่าเวทนาเหลือเกิน ก่อนตายก็ถูกลี่จื่อเซียนมองเป็นเพียงอากาศธาตุ

พอตายไปแล้วก็ยังต้องมาถูกบังคับให้ชมความใกล้ชิดสนิทสนมของพวกเขาทั้งสองคนอีก

ครั้นทั้งสองคนทำไปจนถึงครึ่งทาง โทรศัพท์ของลี่จื่อเซียนก็แผดเสียงขึ้นมา

ลี่จื่อเซียนที่ถูกขัดความอภิรมย์ ก็เดินหน้าดำคล้ำเครียดไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู

เป็นคุณแม่ลี่ที่โทรเข้ามา

ลี่จื่อเซียนกดตัดสายทิ้งอย่างไร้เยื่อใย แล้วกลับไปใกล้ชิดสนิทสนมกับเมิ่งเชียนเชียนต่ออย่างไม่อาจแยกจาก

ทันใดนั้นฉันก็นึกขึ้นมาได้ว่าวันนี้ฉันนัดแนะกับคุณแม่ลี่ไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าจะพาท่านไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล

ตอนนี้ก็มืดค่ำแล้ว แต่ฉันยังไม่โผล่หน้าไปหาท่านเลย แถมยังติดต่อไม่ได้อีก

ท่านคงจะเป็นห่วงแย่เลยใช่ไหมนะ?

Related chapters

  • ฉันถูกสามีเอามาทำเป็นหุ่นจำลอง   บทที่ 3

    ตอนที่ลี่จื่อเซียนออกไปจากห้องทดลองก็เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้วเพิ่งกลับถึงบ้าน ลี่จื่อเซียนก็ถูกแม่ของตัวเองซักถามอย่างดุดันทันที“จื่อเซียน นี่แกทะเลาะกับซินอวี๋อีกแล้วใช่ไหม?”พอลี่จื่อเซียนถูกคุณแม่ถามเข้าแบบนั้น ก็เข้าใจไปว่าฉันเป็นคนมาฟ้อง เขาเลยตอบไปด้วยความหงุดหงิดว่าเปล่าคุณแม่ลี่ไม่เชื่อเท่าไรนัก “แกไปยั่วให้ซินอวี๋โกรธเข้าละสิ ไม่อย่างนั้นสามวันมานี้ซินอวี๋จะไม่โทรมาหาแม่เลยสักครั้งได้ยังไง ปกติแล้ววันนี้ของทุกปีซินอวี๋ก็จะพาแม่กับแม่ยายแกไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล แต่วันนี้พวกแม่ติดต่อเธอไม่ได้เลย”ตอนนี้เองลี่จื่อเซียนถึงได้รู้เรื่องว่า ที่แท้ฉันก็จะคอยพาคุณแม่ทั้งสองไปตรวจสุขภาพอยู่ทุกปี“แม่จะบอกให้นะ ไม่ว่าแกจะทำอะไรให้ซินอวี๋โกรธ แต่ก็รีบไปง้อเธอกลับมาได้แล้ว ถ้าแกไม่ไปง้อซินอวี๋กลับมานะ แม่กับแกขาดกัน!”พอถูกคุณแม่พูดใส่แบบนี้ ลี่จื่อเซียนก็ตอบรับอย่างขอไปทีเมื่อหมุนตัวเดินมาถึงห้องหนังสือแล้ว ลี่จื่อเซียนก็ล้วงโทรศัพท์ออกมา เขาคิดอยู่พักหนึ่งแล้วตัดสินใจปลดบล็อกฉันตอนที่ฉันทะเลาะกับเขาแล้วหุนหันออกจากบ้านไป ลี่จื่อเซียนได้พูดจาโหดร้ายกับฉันว่า “ถ้าออกไปก็ไม่ต

  • ฉันถูกสามีเอามาทำเป็นหุ่นจำลอง   บทที่ 4

    ลี่จื่อเซียนที่นอนหลับไม่สนิทตลอดทั้งคืนหอบหิ้วขอบตาดำๆ ไปทำงานสาวน้อยนักศึกษาฝึกงานที่โต๊ะประชาสัมพันธ์หยิบยื่นห่อของขวัญให้ลี่จื่อเซียนลี่จื่อเซียนมองของขวัญที่ห่อด้วยกระดาษสีชมพูกับสีฟ้าตรงหน้าด้วยความงุนงง“ของขวัญนี่ฉันไม่ได้ให้คุณนะคะ ฉันให้ภรรยาของคุณต่างหาก วันนั้นฉันไปห้างแล้วเห็นภรรยาคุณอยากได้ขวดนมยี่ห้อนี้ แต่ตอนนั้นสินค้าดันหมด พอเมื่อวานฉันเห็นว่ามีของเข้ามาแล้วก็เลยซื้อเอาไว้ เพื่อให้เป็นของขวัญวันเกิดลูกของพวกคุณน่ะค่ะ!”พอได้ยินนักศึกษาฝึกงานพูดแบบนี้ฉันก็นึกขึ้นมาได้ทันที อาทิตย์ก่อนฉันไปเดินช็อปปิ้งที่ห้างเพราะอยากหาซื้อของใช้สำหรับแม่และเด็ก แล้วก็เจอเข้ากับสาวน้อยนักศึกษาฝึกงานคนนี้เข้าสาวน้อยเองก็มาหาเลือกของขวัญให้หลานตัวน้อยที่เพิ่งเกิดของตัวเองพอดีพอเธอเห็นว่าฉันกำลังเลือกพวกของใช้สำหรับแม่และเด็กอยู่ ก็แบ่งปันใบรายการต่างๆ ที่พี่สะใภ้ของเธอเขียนเอาไว้ให้ฉันฉันไม่คาดหวังว่าลี่จื่อเซียนจะซื้อให้ ฉันเลยอาศัยช่วงที่ตอนนี้ท้องของฉันยังไม่โต ยังถือข้าวของต่างๆ ได้ ตระเตรียมของใช้จำเป็นเอาไว้ล่วงหน้าให้เรียบร้อยลี่จื่อเซียนรับของขวัญไว้ แล้วเดินไปห้องทด

  • ฉันถูกสามีเอามาทำเป็นหุ่นจำลอง   บทที่ 5

    ลี่จื่อเซียนไปแจ้งความที่สถานีตำรวจว่าฉันหายตัวไปตำรวจถามเขาว่าฉันหายตัวไปนานเท่าไรแล้วลี่จื่อเซียนนึกย้อนไปถึงชุดทำงานบนโต๊ะเครื่องแป้งแล้วตอบ “น่าจะหายไปตั้งแต่วันอาทิตย์ครับ”“น่าจะ? วันอาทิตย์? วันนี้ก็วันพุธแล้ว หายไปตั้งหลายวันขนาดนั้นทำไมถึงเพิ่งจะมาแจ้งความล่ะ?”คำพูดนี้ของตำรวจไม่ต่างอะไรกับกระสุนปืนเลยสักนิด มันทิ่มแทงหัวใจลี่จื่อเซียนทีละคำๆ“ครั้งสุดท้ายเธอสวมใส่เสื้อผ้ายังไง? แล้วไปที่ไหน?”ไม่ว่าคุณตำรวจจะถามอะไร ลี่จื่อเซียนล้วนแต่ทำได้เพียงส่ายหน้าว่าตัวเองไม่รู้เลยซึ่งเขาไม่รู้จริงๆ นั่นแหละเพราะตั้งแต่ที่ฉันหุนหันออกจากบ้านไป เขาก็ไม่เคยตามหาฉันเลยพอคุณแม่ของฉันกับคุณแม่ลี่รู้ว่าฉันหายตัวไป ก็รีบวิ่งมาที่สถานีตำรวจทันทีเทียบกับลี่จื่อเซียนแล้ว พวกคุณแม่ทั้งสองคนยังให้ข้อมูลฉันได้มากกว่า“ครั้งสุดท้ายที่ฉันเห็นซินอวี๋ก็คือวันเสาร์ค่ะ วันนั้นฉันลงจากเตียงแล้วล้ม ซินอวี๋เลยรีบพาฉันไปโรงพยาบาล!”พอได้ยินคุณแม่ลี่พูดแบบนั้น ลี่จื่อเซียนก็รีบหันไปพูดกับคุณแม่ลี่ “แม่ แม่ไปล้มตรงไหน? ทำไมไม่บอกผมล่ะ?”คุณแม่ลี่ค้อนใส่เขาทีหนึ่งแล้วกล่าว “ซินอวี๋รู้ว่าแกงาน

  • ฉันถูกสามีเอามาทำเป็นหุ่นจำลอง   บทที่ 6

    เบาะแสของตำรวจจึงขาดหายด้วยประการนี้ลี่จื่อเซียนอยู่ไม่เป็นสุขเลยสักวันทว่าหลังจากนั้นสามวัน เขากลับเจอเข้ากับหนังสือหย่าที่ฉันเตรียมให้เขาในตู้บนหัวเตียงที่ด้านล่างหนังสือหย่า มีลายมือชื่อที่ฉันเซ็นลงไปด้วยตัวเองอีกทั้งฉันยังได้แปะกระดาษโน้ตเอาไว้ ข้อความบนกระดาษเขียนไว้ว่า ‘ลี่จื่อเซียน ฉันขอให้คุณกับเมิ่งเชียนเชียนสุขสมหวังอย่างที่ต้องการนะ เราหย่ากันเถอะ’เมื่อคุณแม่ลี่เห็นกระดาษแผ่นนั้น ก็ตบหน้าลี่จื่อเซียนทันทีคุณแม่ลี่โกรธจนตัวสั่น “แม่นึกแล้วเชียวว่าแกต้องทำอะไรผิดต่อซินอวี๋แน่ๆ ไม่อย่างนั้นซินอวี๋ก็คงไม้หอบลูกหนีออกจากบ้านไปแบบนี้ แถมยังปกปิดร่องรอยจนพวกเราหาตัวไม่เจออีก!”ลี่จื่อเซียนลูบแก้มของตัวเองที่ถูกตบจนบวม “แม่ ผมต้องหาตัวซินอวี๋จนเจอให้ได้ เธอกำลังท้องลูกของผมอยู่ ไปไหนได้ไม่ไกลหรอก”อาจเป็นเพราะหนังสือหย่าของฉันทำให้เขาคิดว่าฉันจงใจไปจากเขา ทำให้เขาตามหาตัวฉันไม่เจอขณะที่เขากำลังคิดจะถอนการแจ้งความรายงานข่าวฉบับหนึ่งก็เข้าสู่สายตาของเขาเข้าเช้าวันถัดมาถุงพลาสติกบรรจุเนื้อบดถูกเจ้าหน้าที่สุขาภิบาลประจำสวนสาธารณะเจอเข้า หลังจากแจ้งไปทางตำรวจแล้ว ตำ

  • ฉันถูกสามีเอามาทำเป็นหุ่นจำลอง   บทที่ 7

    ลี่จื่อเซียนสังหรณ์ใจว่าอีกไม่นานตำรวจก็จะสาวมาถึงเขาดังนั้นก่อนที่ตำรวจจะตามสาวมาถึงเขา เขาจะต้องรีบหาตัวฉันให้เจอวันนี้ลี่จื่อเซียนเจอเข้ากับผู้ช่วยของเขาที่ห้องทดลองผู้ช่วยเห็นว่าท่าทางของลี่จื่อเซียนเหมือนกับนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เลยเอ่ยปากถาม “ด็อกเตอร์ลี่ ก่อนหน้านี้คุณนายลี่เอาแกงไก่มาให้คุณ แต่ไม่รู้ว่าคุณนายลี่ไปเห็นอะไรเข้า ถึงได้เอาแกงไก่มาให้ผมแทน”“ผมกินแกงไก่นั่นไปแล้ว อร่อยมากจริงๆ!” ผู้ช่วยเกาหัวแกรกๆ “ผมยังอยากถามคุณนายลี่อยู่เลยว่าแกงไก่นั่นทำยังไง อยากเรียนแล้วเอาไว้ทำให้แฟนผมกิน”เมื่อฟังผู้ช่วยพูดจนจบลี่จื่อเซียนก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้หลังจากที่ฉันกับเขาทะเลาะกันใหญ่โตแล้วหุนหันออกจากไป ต่อมาฉันก็มาหาเขาอีกครั้งที่ห้องทดลอง เพียงแต่ตอนนั้นเขากำลังวุ่นวายคุยอยู่กับเมิ่งเชียนเชียน ไม่มีเวลาสนใจฉันเขารีบไปดูบันทึกของกล้องวงจรปิดในห้องทดลองทันทีภาพจากกล้องวงจรปิดนั้นเป็นคืนวันอาทิตย์ วันนั้นฉันมาหาเขาที่ห้องทดลองเช้าวันนั้นเขากำลังร่วมประชุมออนไลน์อยู่พอประชุมออนไลน์เสร็จ เมิ่งเชียนเชียนก็เป็นฝ่ายเข้ามาหาแล้วชวนเขาไปทานข้าวผู้ช่วยแจ้งแก่เข

  • ฉันถูกสามีเอามาทำเป็นหุ่นจำลอง   บทที่ 8

    ลี่จื่อเซียนถูกพาตัวมายังสถานีตำรวจบางทีอาจเป็นเพราะเขามีการเตรียมตัวมาก่อนแล้ว เพราะฉะนั้นตอนที่ลี่จื่อเซียนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวนจึงไม่ได้พูดอะไรสักคำแต่ถึงเขาจะนิ่งเงียบใจเย็นแค่ไหน ก็ไม่ได้หมายความว่าเมิ่งเชียนเชียนจะใจเย็นหรือเงียบมากพอวันที่สองที่ลี่จื่อเซียนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว เมิ่งเชียนเชียนก็ถูกตำรวจเข้าควบคุมตัวเหมือนกันเมิ่งเชียนเชียนทำตัวเป็นผู้บริสุทธิ์ บอกว่าตนเองไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้นน่าขันสิ้นดี บ้านเมืองมีขื่อมีแป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าแสร้งทำตัวเป็นผู้บริสุทธิ์แล้วก็จะหลุดพ้นจากการดำเนินการตามกฎหมายได้?ฉันเป็นเพียงดวงวิญญาณดังนั้นฉันจึงรู้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนพวกเขาทั้งสองคนอย่างไรบ้างได้อย่างง่ายดายฝั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเลือกลงมือกับเมิ่งเชียนเชียนที่จิตใจเปราะบางก่อน พวกเขาบอกเมิ่งเชียนเชียนว่า ลี่จื่อเซียนสารภาพออกมาหมดทุกอย่างแล้วตอนแรกเมิ่งเชียนเชียนยังคงไม่เชื่อ ทว่าเมื่อถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจซักถามอยู่สามรอบ จิตใจอันแสนเปราะบางของเมิ่งเชียนเชียนก็แตกกระเจิงเธอสะอื้นไห้ “พวกคุณไปถามลี่จื่อเซียนเถอะ เขารู้ว่าศพอยู่ที่ไหน! ไม่ใช่

  • ฉันถูกสามีเอามาทำเป็นหุ่นจำลอง   บทที่ 9

    คดีหุ่นจำลองเข้าสู่ชั้นศาลในไม่นานลี่จื่อเซียนถูกตัดสินให้ต้องโทษประหาร ซึ่งเขาแปลกใจไม่น้อยกับผลการตัดสินเช่นนี้ทว่าก่อนตายเขาอยากจะได้เห็นหน้าเมิ่งเชียนเชียนอีกสักครั้งเหลือเกินน่าเสียดายที่เมิ่งเชียนเชียนสุดที่รักของเขา เมิ่งเชียนเชียนที่เขารักดั่งดวงใจกลับปฏิเสธที่จะพบหน้าเขาเมื่อคุณแม่ลี่รู้ว่าลี่จื่อเซียนอยากเจอแต่เมิ่งเชียนเชียน ก็บันดาลโทสะขึ้นมาแล้วตบหน้าลี่จื่อเซียนอีกหลายฉาด “แกได้สติสักทีสิ ผู้หญิงคนนั้นมีดีอะไรให้แกต้องมานั่งคิดถึงขนาดนี้ ทั้งที่ซินอวี๋แสนดีขนาดนั้นแกก็ไม่รัก แต่ดันเอาแต่คิดถึงนางผู้หญิงใจโหดเหี้ยมคนนั้นอยู่ได้...”“แกถูกขังอยู่ในคุกนี่ตั้งหลายวัน มีสักวันไหมที่เมิ่งเชียนเชียนมาเยี่ยมแกน่ะ?”“หล่อนอยากจะรีบไปให้พ้นแกใจแทบขาด!”“เมื่อก่อนตอนที่ยังไม่ได้ร่ำรวยมีเงินทอง ไม่ว่าแกจะมีเงินหรือไม่ เจ็บไข้ได้ป่วยหรือเปล่า ซินอวี๋ก็คอยอยู่กับแกไม่ห่างไปไหนมาตลอด ถ้าซินอวี๋ยังอยู่แล้วรู้ว่าแกเป็นแบบนี้ไปแล้ว ซินอวี๋จะต้องมาเยี่ยมแกแน่นอน เสียดายแต่ก็ตอนนี้ซินอวี๋ไม่อยู่แล้ว ซินอวี๋จากไปเพราะแกทำให้โมโหไง! ซินอวี๋ไม่มีทางกลับมาแล้ว!”พอลี่จื่อเซียนถูกมารด

  • ฉันถูกสามีเอามาทำเป็นหุ่นจำลอง   บทที่ 10

    ใช้เวลาไปหนึ่งวันหนึ่งคืนลี่จื่อเซียนถึงทำใจยอมรับความจริงที่ว่าเขาเป็นคนฆ่าภรรยาและลูกของตัวเองได้จากนั้นเมื่อเขาได้สติ เขาก็รีบแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันทีว่าเมิ่งเชียนเชียนเป็นคนทำเรื่องทั้งหมดนี้เมิ่งเชียนเชียนต่างหากถึงจะเป็นตัวการหลักที่แท้จริงในคดีนี้เขาไม่อาจตายตกทั้งที่ทุกสิ่งทุกอย่างยังไม่กระจ่างแจ้งแบบนี้ เขาต้องแก้แค้นให้ฉันให้ได้!เจ้าหน้าที่ตำรวจเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เมิ่งเชียนเชียนถูกเข้าจับกุมที่สนามบินตอนที่กำลังจะขึ้นเครื่องบินหนีออกไปนอกประเทศในที่สุด ครั้งนี้ลี่จื่อเซียนก็ได้เจอเมิ่งเชียนเชียนเสียทีลี่จื่อเซียนขอบตาลึกโบ๋ ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ เขาจดจ้องเมิ่งเชียนเชียนไม่ละสายตาถ้าไม่มีกระจกกั้นไว้อีกชั้นหนึ่งละก็ เกรงว่าเขาคงจะพุ่งตัวเข้าไปฉีกทึ้งเมิ่งเชียนเชียนออกเป็นชิ้นๆ แน่“ทำไม ซินอวี๋ทำอะไรผิดต่อเธอไว้หรือไง แถมเธอยังมาทำร้ายลูกฉันด้วย ทำไมเธอถึงต้องฆ่าแกงซินอวี๋อย่างโหดเหี้ยมขนาดนี้ ทำไมกัน!”พอรู้ว่าตนเองหมดหนทางปิดบังความจริงอีกเมิ่งเชียนเชียนจึงสารภาพทุกสิ่งทุกอย่างออกมาละเอียดยิบทันทีเมิ่งเชียนเชียนว่า “ทำไมน่ะเหรอ แน่นอนว่าเป็นเพร

Latest chapter

  • ฉันถูกสามีเอามาทำเป็นหุ่นจำลอง   บทที่ 11

    เพียงหนึ่งคืน ลี่จื่อเซียนก็ผมขาวโพลนไปทั้งหัว ดูแก่ลงไปสิบปีแต่เมื่อความจริงกระจ่างแจ้งออกมาแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ขอลดหย่อนโทษกับทางศาล ลี่จื่อเซียนจึงไม่ถูกประหาร แต่เปลี่ยนเป็นถูกตัดสินจำคุกยี่สิบห้าปีส่วนเมิ่งเชียนเชียนก็ถูกตัดสินประหารชีวิตจำคุกยี่สิบห้าปีก็เท่ากับจำคุกตลอดชีวิต เรื่องนี้ทำให้คุณแม่ลี่รับไม่ได้ทว่าสิ่งที่ทำให้คุณแม่ลี่รับไม่ได้ยิ่งกว่าก็คือ ลี่จื่อเซียนช่วยเมิ่งเชียนเชียนทำลายศพของฉัน ฆาตกรรมเลือดเนื้อเชื้อไขของสกุลลี่คุณแม่ลี่จับบ่าของลี่จื่อเซียนไว้แน่นพลางถามไม่หยุด “ทำไม ซินอวี๋ไปทำอะไรผิดต่อแกนักหนาเหรอ?”“ทำไมแกต้องทำแบบนี้ด้วย?!”ลี่จื่อเซียนไม่ได้ยินคำถามของคุณแม่ลี่เลยสักนิด เหมือนกับว่าเขาสูญสิ้นสติสัมปชัญญะไปหมดแล้ว ปากก็พร่ำอยู่กับตัวเองไปเรื่อยไม่สนใจใคร “ซินอวี๋ ถ้าเธอกลับมา พวกเรามาเริ่มต้นกันใหม่ดีไหม?”ไม่ดีหากชาติหน้ามีจริง ฉันจะไม่ขอพบเจอเขาอีกหลังจากลี่จื่อเซียนติดคุกได้ไม่นานร่างกายก็เริ่มทรุดโทรมลงแพทย์วินิจฉัยแล้วลงความเห็นว่าเขาเป็นโรคซึมเศร้าไม่รู้ว่าเป็นเพราะไม่เหลือความคิดที่จะมีชีวิตอยู่ต่อแล้วหรืออย่างไร เพรา

  • ฉันถูกสามีเอามาทำเป็นหุ่นจำลอง   บทที่ 10

    ใช้เวลาไปหนึ่งวันหนึ่งคืนลี่จื่อเซียนถึงทำใจยอมรับความจริงที่ว่าเขาเป็นคนฆ่าภรรยาและลูกของตัวเองได้จากนั้นเมื่อเขาได้สติ เขาก็รีบแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันทีว่าเมิ่งเชียนเชียนเป็นคนทำเรื่องทั้งหมดนี้เมิ่งเชียนเชียนต่างหากถึงจะเป็นตัวการหลักที่แท้จริงในคดีนี้เขาไม่อาจตายตกทั้งที่ทุกสิ่งทุกอย่างยังไม่กระจ่างแจ้งแบบนี้ เขาต้องแก้แค้นให้ฉันให้ได้!เจ้าหน้าที่ตำรวจเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เมิ่งเชียนเชียนถูกเข้าจับกุมที่สนามบินตอนที่กำลังจะขึ้นเครื่องบินหนีออกไปนอกประเทศในที่สุด ครั้งนี้ลี่จื่อเซียนก็ได้เจอเมิ่งเชียนเชียนเสียทีลี่จื่อเซียนขอบตาลึกโบ๋ ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ เขาจดจ้องเมิ่งเชียนเชียนไม่ละสายตาถ้าไม่มีกระจกกั้นไว้อีกชั้นหนึ่งละก็ เกรงว่าเขาคงจะพุ่งตัวเข้าไปฉีกทึ้งเมิ่งเชียนเชียนออกเป็นชิ้นๆ แน่“ทำไม ซินอวี๋ทำอะไรผิดต่อเธอไว้หรือไง แถมเธอยังมาทำร้ายลูกฉันด้วย ทำไมเธอถึงต้องฆ่าแกงซินอวี๋อย่างโหดเหี้ยมขนาดนี้ ทำไมกัน!”พอรู้ว่าตนเองหมดหนทางปิดบังความจริงอีกเมิ่งเชียนเชียนจึงสารภาพทุกสิ่งทุกอย่างออกมาละเอียดยิบทันทีเมิ่งเชียนเชียนว่า “ทำไมน่ะเหรอ แน่นอนว่าเป็นเพร

  • ฉันถูกสามีเอามาทำเป็นหุ่นจำลอง   บทที่ 9

    คดีหุ่นจำลองเข้าสู่ชั้นศาลในไม่นานลี่จื่อเซียนถูกตัดสินให้ต้องโทษประหาร ซึ่งเขาแปลกใจไม่น้อยกับผลการตัดสินเช่นนี้ทว่าก่อนตายเขาอยากจะได้เห็นหน้าเมิ่งเชียนเชียนอีกสักครั้งเหลือเกินน่าเสียดายที่เมิ่งเชียนเชียนสุดที่รักของเขา เมิ่งเชียนเชียนที่เขารักดั่งดวงใจกลับปฏิเสธที่จะพบหน้าเขาเมื่อคุณแม่ลี่รู้ว่าลี่จื่อเซียนอยากเจอแต่เมิ่งเชียนเชียน ก็บันดาลโทสะขึ้นมาแล้วตบหน้าลี่จื่อเซียนอีกหลายฉาด “แกได้สติสักทีสิ ผู้หญิงคนนั้นมีดีอะไรให้แกต้องมานั่งคิดถึงขนาดนี้ ทั้งที่ซินอวี๋แสนดีขนาดนั้นแกก็ไม่รัก แต่ดันเอาแต่คิดถึงนางผู้หญิงใจโหดเหี้ยมคนนั้นอยู่ได้...”“แกถูกขังอยู่ในคุกนี่ตั้งหลายวัน มีสักวันไหมที่เมิ่งเชียนเชียนมาเยี่ยมแกน่ะ?”“หล่อนอยากจะรีบไปให้พ้นแกใจแทบขาด!”“เมื่อก่อนตอนที่ยังไม่ได้ร่ำรวยมีเงินทอง ไม่ว่าแกจะมีเงินหรือไม่ เจ็บไข้ได้ป่วยหรือเปล่า ซินอวี๋ก็คอยอยู่กับแกไม่ห่างไปไหนมาตลอด ถ้าซินอวี๋ยังอยู่แล้วรู้ว่าแกเป็นแบบนี้ไปแล้ว ซินอวี๋จะต้องมาเยี่ยมแกแน่นอน เสียดายแต่ก็ตอนนี้ซินอวี๋ไม่อยู่แล้ว ซินอวี๋จากไปเพราะแกทำให้โมโหไง! ซินอวี๋ไม่มีทางกลับมาแล้ว!”พอลี่จื่อเซียนถูกมารด

  • ฉันถูกสามีเอามาทำเป็นหุ่นจำลอง   บทที่ 8

    ลี่จื่อเซียนถูกพาตัวมายังสถานีตำรวจบางทีอาจเป็นเพราะเขามีการเตรียมตัวมาก่อนแล้ว เพราะฉะนั้นตอนที่ลี่จื่อเซียนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวนจึงไม่ได้พูดอะไรสักคำแต่ถึงเขาจะนิ่งเงียบใจเย็นแค่ไหน ก็ไม่ได้หมายความว่าเมิ่งเชียนเชียนจะใจเย็นหรือเงียบมากพอวันที่สองที่ลี่จื่อเซียนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว เมิ่งเชียนเชียนก็ถูกตำรวจเข้าควบคุมตัวเหมือนกันเมิ่งเชียนเชียนทำตัวเป็นผู้บริสุทธิ์ บอกว่าตนเองไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้นน่าขันสิ้นดี บ้านเมืองมีขื่อมีแป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าแสร้งทำตัวเป็นผู้บริสุทธิ์แล้วก็จะหลุดพ้นจากการดำเนินการตามกฎหมายได้?ฉันเป็นเพียงดวงวิญญาณดังนั้นฉันจึงรู้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนพวกเขาทั้งสองคนอย่างไรบ้างได้อย่างง่ายดายฝั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเลือกลงมือกับเมิ่งเชียนเชียนที่จิตใจเปราะบางก่อน พวกเขาบอกเมิ่งเชียนเชียนว่า ลี่จื่อเซียนสารภาพออกมาหมดทุกอย่างแล้วตอนแรกเมิ่งเชียนเชียนยังคงไม่เชื่อ ทว่าเมื่อถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจซักถามอยู่สามรอบ จิตใจอันแสนเปราะบางของเมิ่งเชียนเชียนก็แตกกระเจิงเธอสะอื้นไห้ “พวกคุณไปถามลี่จื่อเซียนเถอะ เขารู้ว่าศพอยู่ที่ไหน! ไม่ใช่

  • ฉันถูกสามีเอามาทำเป็นหุ่นจำลอง   บทที่ 7

    ลี่จื่อเซียนสังหรณ์ใจว่าอีกไม่นานตำรวจก็จะสาวมาถึงเขาดังนั้นก่อนที่ตำรวจจะตามสาวมาถึงเขา เขาจะต้องรีบหาตัวฉันให้เจอวันนี้ลี่จื่อเซียนเจอเข้ากับผู้ช่วยของเขาที่ห้องทดลองผู้ช่วยเห็นว่าท่าทางของลี่จื่อเซียนเหมือนกับนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เลยเอ่ยปากถาม “ด็อกเตอร์ลี่ ก่อนหน้านี้คุณนายลี่เอาแกงไก่มาให้คุณ แต่ไม่รู้ว่าคุณนายลี่ไปเห็นอะไรเข้า ถึงได้เอาแกงไก่มาให้ผมแทน”“ผมกินแกงไก่นั่นไปแล้ว อร่อยมากจริงๆ!” ผู้ช่วยเกาหัวแกรกๆ “ผมยังอยากถามคุณนายลี่อยู่เลยว่าแกงไก่นั่นทำยังไง อยากเรียนแล้วเอาไว้ทำให้แฟนผมกิน”เมื่อฟังผู้ช่วยพูดจนจบลี่จื่อเซียนก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้หลังจากที่ฉันกับเขาทะเลาะกันใหญ่โตแล้วหุนหันออกจากไป ต่อมาฉันก็มาหาเขาอีกครั้งที่ห้องทดลอง เพียงแต่ตอนนั้นเขากำลังวุ่นวายคุยอยู่กับเมิ่งเชียนเชียน ไม่มีเวลาสนใจฉันเขารีบไปดูบันทึกของกล้องวงจรปิดในห้องทดลองทันทีภาพจากกล้องวงจรปิดนั้นเป็นคืนวันอาทิตย์ วันนั้นฉันมาหาเขาที่ห้องทดลองเช้าวันนั้นเขากำลังร่วมประชุมออนไลน์อยู่พอประชุมออนไลน์เสร็จ เมิ่งเชียนเชียนก็เป็นฝ่ายเข้ามาหาแล้วชวนเขาไปทานข้าวผู้ช่วยแจ้งแก่เข

  • ฉันถูกสามีเอามาทำเป็นหุ่นจำลอง   บทที่ 6

    เบาะแสของตำรวจจึงขาดหายด้วยประการนี้ลี่จื่อเซียนอยู่ไม่เป็นสุขเลยสักวันทว่าหลังจากนั้นสามวัน เขากลับเจอเข้ากับหนังสือหย่าที่ฉันเตรียมให้เขาในตู้บนหัวเตียงที่ด้านล่างหนังสือหย่า มีลายมือชื่อที่ฉันเซ็นลงไปด้วยตัวเองอีกทั้งฉันยังได้แปะกระดาษโน้ตเอาไว้ ข้อความบนกระดาษเขียนไว้ว่า ‘ลี่จื่อเซียน ฉันขอให้คุณกับเมิ่งเชียนเชียนสุขสมหวังอย่างที่ต้องการนะ เราหย่ากันเถอะ’เมื่อคุณแม่ลี่เห็นกระดาษแผ่นนั้น ก็ตบหน้าลี่จื่อเซียนทันทีคุณแม่ลี่โกรธจนตัวสั่น “แม่นึกแล้วเชียวว่าแกต้องทำอะไรผิดต่อซินอวี๋แน่ๆ ไม่อย่างนั้นซินอวี๋ก็คงไม้หอบลูกหนีออกจากบ้านไปแบบนี้ แถมยังปกปิดร่องรอยจนพวกเราหาตัวไม่เจออีก!”ลี่จื่อเซียนลูบแก้มของตัวเองที่ถูกตบจนบวม “แม่ ผมต้องหาตัวซินอวี๋จนเจอให้ได้ เธอกำลังท้องลูกของผมอยู่ ไปไหนได้ไม่ไกลหรอก”อาจเป็นเพราะหนังสือหย่าของฉันทำให้เขาคิดว่าฉันจงใจไปจากเขา ทำให้เขาตามหาตัวฉันไม่เจอขณะที่เขากำลังคิดจะถอนการแจ้งความรายงานข่าวฉบับหนึ่งก็เข้าสู่สายตาของเขาเข้าเช้าวันถัดมาถุงพลาสติกบรรจุเนื้อบดถูกเจ้าหน้าที่สุขาภิบาลประจำสวนสาธารณะเจอเข้า หลังจากแจ้งไปทางตำรวจแล้ว ตำ

  • ฉันถูกสามีเอามาทำเป็นหุ่นจำลอง   บทที่ 5

    ลี่จื่อเซียนไปแจ้งความที่สถานีตำรวจว่าฉันหายตัวไปตำรวจถามเขาว่าฉันหายตัวไปนานเท่าไรแล้วลี่จื่อเซียนนึกย้อนไปถึงชุดทำงานบนโต๊ะเครื่องแป้งแล้วตอบ “น่าจะหายไปตั้งแต่วันอาทิตย์ครับ”“น่าจะ? วันอาทิตย์? วันนี้ก็วันพุธแล้ว หายไปตั้งหลายวันขนาดนั้นทำไมถึงเพิ่งจะมาแจ้งความล่ะ?”คำพูดนี้ของตำรวจไม่ต่างอะไรกับกระสุนปืนเลยสักนิด มันทิ่มแทงหัวใจลี่จื่อเซียนทีละคำๆ“ครั้งสุดท้ายเธอสวมใส่เสื้อผ้ายังไง? แล้วไปที่ไหน?”ไม่ว่าคุณตำรวจจะถามอะไร ลี่จื่อเซียนล้วนแต่ทำได้เพียงส่ายหน้าว่าตัวเองไม่รู้เลยซึ่งเขาไม่รู้จริงๆ นั่นแหละเพราะตั้งแต่ที่ฉันหุนหันออกจากบ้านไป เขาก็ไม่เคยตามหาฉันเลยพอคุณแม่ของฉันกับคุณแม่ลี่รู้ว่าฉันหายตัวไป ก็รีบวิ่งมาที่สถานีตำรวจทันทีเทียบกับลี่จื่อเซียนแล้ว พวกคุณแม่ทั้งสองคนยังให้ข้อมูลฉันได้มากกว่า“ครั้งสุดท้ายที่ฉันเห็นซินอวี๋ก็คือวันเสาร์ค่ะ วันนั้นฉันลงจากเตียงแล้วล้ม ซินอวี๋เลยรีบพาฉันไปโรงพยาบาล!”พอได้ยินคุณแม่ลี่พูดแบบนั้น ลี่จื่อเซียนก็รีบหันไปพูดกับคุณแม่ลี่ “แม่ แม่ไปล้มตรงไหน? ทำไมไม่บอกผมล่ะ?”คุณแม่ลี่ค้อนใส่เขาทีหนึ่งแล้วกล่าว “ซินอวี๋รู้ว่าแกงาน

  • ฉันถูกสามีเอามาทำเป็นหุ่นจำลอง   บทที่ 4

    ลี่จื่อเซียนที่นอนหลับไม่สนิทตลอดทั้งคืนหอบหิ้วขอบตาดำๆ ไปทำงานสาวน้อยนักศึกษาฝึกงานที่โต๊ะประชาสัมพันธ์หยิบยื่นห่อของขวัญให้ลี่จื่อเซียนลี่จื่อเซียนมองของขวัญที่ห่อด้วยกระดาษสีชมพูกับสีฟ้าตรงหน้าด้วยความงุนงง“ของขวัญนี่ฉันไม่ได้ให้คุณนะคะ ฉันให้ภรรยาของคุณต่างหาก วันนั้นฉันไปห้างแล้วเห็นภรรยาคุณอยากได้ขวดนมยี่ห้อนี้ แต่ตอนนั้นสินค้าดันหมด พอเมื่อวานฉันเห็นว่ามีของเข้ามาแล้วก็เลยซื้อเอาไว้ เพื่อให้เป็นของขวัญวันเกิดลูกของพวกคุณน่ะค่ะ!”พอได้ยินนักศึกษาฝึกงานพูดแบบนี้ฉันก็นึกขึ้นมาได้ทันที อาทิตย์ก่อนฉันไปเดินช็อปปิ้งที่ห้างเพราะอยากหาซื้อของใช้สำหรับแม่และเด็ก แล้วก็เจอเข้ากับสาวน้อยนักศึกษาฝึกงานคนนี้เข้าสาวน้อยเองก็มาหาเลือกของขวัญให้หลานตัวน้อยที่เพิ่งเกิดของตัวเองพอดีพอเธอเห็นว่าฉันกำลังเลือกพวกของใช้สำหรับแม่และเด็กอยู่ ก็แบ่งปันใบรายการต่างๆ ที่พี่สะใภ้ของเธอเขียนเอาไว้ให้ฉันฉันไม่คาดหวังว่าลี่จื่อเซียนจะซื้อให้ ฉันเลยอาศัยช่วงที่ตอนนี้ท้องของฉันยังไม่โต ยังถือข้าวของต่างๆ ได้ ตระเตรียมของใช้จำเป็นเอาไว้ล่วงหน้าให้เรียบร้อยลี่จื่อเซียนรับของขวัญไว้ แล้วเดินไปห้องทด

  • ฉันถูกสามีเอามาทำเป็นหุ่นจำลอง   บทที่ 3

    ตอนที่ลี่จื่อเซียนออกไปจากห้องทดลองก็เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้วเพิ่งกลับถึงบ้าน ลี่จื่อเซียนก็ถูกแม่ของตัวเองซักถามอย่างดุดันทันที“จื่อเซียน นี่แกทะเลาะกับซินอวี๋อีกแล้วใช่ไหม?”พอลี่จื่อเซียนถูกคุณแม่ถามเข้าแบบนั้น ก็เข้าใจไปว่าฉันเป็นคนมาฟ้อง เขาเลยตอบไปด้วยความหงุดหงิดว่าเปล่าคุณแม่ลี่ไม่เชื่อเท่าไรนัก “แกไปยั่วให้ซินอวี๋โกรธเข้าละสิ ไม่อย่างนั้นสามวันมานี้ซินอวี๋จะไม่โทรมาหาแม่เลยสักครั้งได้ยังไง ปกติแล้ววันนี้ของทุกปีซินอวี๋ก็จะพาแม่กับแม่ยายแกไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล แต่วันนี้พวกแม่ติดต่อเธอไม่ได้เลย”ตอนนี้เองลี่จื่อเซียนถึงได้รู้เรื่องว่า ที่แท้ฉันก็จะคอยพาคุณแม่ทั้งสองไปตรวจสุขภาพอยู่ทุกปี“แม่จะบอกให้นะ ไม่ว่าแกจะทำอะไรให้ซินอวี๋โกรธ แต่ก็รีบไปง้อเธอกลับมาได้แล้ว ถ้าแกไม่ไปง้อซินอวี๋กลับมานะ แม่กับแกขาดกัน!”พอถูกคุณแม่พูดใส่แบบนี้ ลี่จื่อเซียนก็ตอบรับอย่างขอไปทีเมื่อหมุนตัวเดินมาถึงห้องหนังสือแล้ว ลี่จื่อเซียนก็ล้วงโทรศัพท์ออกมา เขาคิดอยู่พักหนึ่งแล้วตัดสินใจปลดบล็อกฉันตอนที่ฉันทะเลาะกับเขาแล้วหุนหันออกจากบ้านไป ลี่จื่อเซียนได้พูดจาโหดร้ายกับฉันว่า “ถ้าออกไปก็ไม่ต

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status