“โอ๊ย! ไอ้หมวยเบาๆ ดิ นั่นมือหรือตีน” แฟรงก์สะดุ้งเฮือกร้องโวยวายออกมายกใหญ่ ในขณะที่หมวยเฟย์กำลังใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ล้างแผลให้ “ก็เบาแล้วเนี่ย อดทนแค่นี้ไม่ได้หรือไง” “หน้าหล่อๆ ของเฮียแหกหมดแล้ว ไอ้แว่นมือแม่งหนักฉิบหายเลย” แฟรงก์หยิบกระจกขึ้นมาส่องด้วยหัวใจอันปวดร้าว ขนาดไอ้แว่นมันออมมือ ซัดไม่เต็มแรงยังคิ้วแตกปากแหกจนเกือบได้เย็บ ถ้ามันเอาจริงมีหวังได้ไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มที่โรงพยาบาล ไม่อยากคิดสภาพตัวเองเหมือนกัน “รู้ว่าสู้เฮียฟรินไม่ได้แล้วยังทำเก่ง” “แล้วเรื่องอะไรจะยอมให้มันต่อยอยู่ฝ่ายเดียว” ใช่ความผิดเขาซะเมื่อไหร่ ไอ้แว่นนั่นแหละที่เป็นฝ่ายเริ่มก่อน “แล้วเรื่องที่เฮียพูดเป็นเรื่องจริงมั้ย” “เรื่องไหน” “ที่บอกว่าซ้อแท้งอ่ะ” “ไม่ได้แท้ง แค่เกือบ” “งั้นหมายความว่าหมวยกำลังจะมีหลานจริงเหรอ” หมวยเฟย์แสดงความดีใจออกนอกหน้าอย่างชัดเจน ต่างจากอีกคนที่เอาแต่นั่งก้มหน้าคอตกเหมือนหมดอาลัยตายอยาก “เซ็งว่ะ! ไอ้แว่นแม่งเอาจนได้” พ่นลมหายใจหนัก จะว่าดีใจมันก็ดีใจ
-หลายสัปดาห์ต่อมา- “ใจลอยอีกแล้ว มัวคิดอะไรอยู่” ทอแสงถามลูกสาวด้วยความเป็นห่วง หย่อนตัวนั่งลงบนโซฟาข้างกัน หันมองดาวเหนือที่กำลังเหม่อลอยคล้ายกับคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย “เปล่าค่ะ” “วันๆ แม่เห็นแกเอาแต่นั่งซึม เป็นอะไรไหนลองบอกแม่มา” “หนูมันไม่ได้เรื่องไม่เอาไหน ถ้าหนูเข้มแข็งและเก่งกว่านี้ แม่กับน้องคงไม่ลำบาก” วันๆ เอาแต่นั่งโทษตัวเองว่าเป็นพี่ที่แย่ เป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่อง อาจจะเป็นฮอร์โมนของการตั้งครรภ์เลยทำให้จิตใจอ่อนไหวมากกว่าปกติ “แม่ผิดหวังในตัวเหนือมั้ย เหนือขอโทษนะแม่” “เหนือเป็นลูกที่ดีของแม่ แม่ไม่เคยผิดหวังในตัวเหนือ” “…..” “เครียดเรื่องเจ้าแฝดใช่ไหม” “เหนือกลัวเลี้ยงเขาไม่ไหว” “จะทำแท้งเหรอ หยุดความคิดไว้เลยนะ! หลานแม่เดี๋ยวแม่เลี้ยงเอง” “เปล่าค่ะ หนูไม่ได้คิดจะทำแบบนั้น” “ดาวศุกร์เลี้ยงได้ เจ้าแฝดแม่ก็เลี้ยงได้เหมือนกัน” “…..” “อยากกลับไปหาฟรินไหม?” “ไม่ค่ะ” “เอาลูกเขามาสามคนแบบนี้ ยังไงพ่อเขาก็ต้องมาตาม”
-สองปีที่แล้ว- “เป็นยังไงเหนือ” ใต้ฝุ่นรีบเข้าไปถามพี่สาวที่เพิ่งเดินออกจากห้องน้ำ พักหลังมานี้ดาวเหนือมีอาการผิดปกติแปลกไปหลายอย่าง จนอดสงสัยไม่ได้ว่าบางทีเธออาจจะกำลังท้องหลังจากที่เลิกกับฟรินไปได้ไม่นาน “พะ…พี่ท้อง” ร่างเล็กทรุดตัวนั่งลงบนโซฟา ยกมือขึ้นปิดหน้าแล้วร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เป็นเหมือนที่กลัวมาโดยตลอด เธอกำลังตั้งครรภ์ “เอาดีๆ เหนือท้องจริงป่ะ” “ฮึก…” ยื่นที่ตรวจครรภ์ให้น้องชายแทนคำตอบ ไม่ว่าจะตรวจอีกกี่อันแต่ผลลัพธ์มันก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมปรากฏสองขีดสีแดงเข้ม “จริงด้วย ทะ..ทำไมมันขึ้นสองขีดวะ” ใต้ฝุ่นเริ่มอยู่ไม่นิ่ง เดินวนไปมารอบห้องด้วยสีหน้าตื่นตระหนกไม่ต่างจากพี่สาว “พี่ท้องจริงๆ” “เอาไงอ่ะ…ไม่ใช่เรื่องเล่นแล้วนะ” “พี่ควรทำยังไงดี” ใต้ฝุ่นดึงพี่สาวมากอดไว้แน่น ลูบศีรษะเบาๆ เพื่อเป็นการปลอบแต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ช่วยอะไรเมื่อหญิงสาวยังคงร้องไห้ออกมาอย่างหนัก “แกท้องเหรอเหนือ!” คนทั้งสองสะดุ้งหลังจากได้ยินเสียงของผู้เป็นแม่ดังแทรกขึ้นมา ไม่รู้ว่าแม่แอบเข้ามาได้ย
เหตุการณ์ในอดีตร้านอาหาร… “ขอโทษที่ต้องนัดคุณอาออกมากระทันหัน” ร่างสูงหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกัน แขนขวาด้ามด้วยเฝือกแข็ง ขอบตาดำคล้ำอิดโรยคล้ายกับคนที่นอนไม่พอ “ไม่เป็นไร เชิญนั่งก่อนสิ อาได้ข่าวว่าฟรินป่วย ตอนนี้เป็นยังไงบ้างดีขึ้นหรือยัง” เขาเป็นทนายประจำตระกูลที่ฟรินโทรเรียกให้เข้าพบด่วน “ไม่ต้องเป็นห่วง เชิญคุณอาเข้าเรื่องมาเลย ตอนนี้เมียผมเป็นยังไง” พอออกจากโรงพยาบาลก็รีบตรงมาที่นี่ทันที เรื่องที่เขาต้องการรู้คือตอนนี้ดาวเหนือหนีไปอยู่ที่ไหน “มีอะไรคืบหน้าบ้างมั้ย” “ตอนนี้ดาวเหนือพักอยู่ที่อพาร์ตเม้นต์แถวชานเมือง” “อยู่กับใคร” “อยู่กับน้องชาย” “แน่ใจแล้วใช่มั้ยว่าไม่มีคนอื่น” “มีผู้ชายคอยแวะเวียนมารับมาส่งดาวเหนืออยู่บ้าง แต่อาจจะเป็นความสัมพันธ์เชิงชู้สาวไม่ใช่สามีภรรยา” “…..” “ฟรินโอเคมั้ย?” “อาพูดต่อเลย ผมรอฟังอยู่” “…..” ยื่นภาพถ่ายให้ชายหนุ่มเพื่อเป็นหลักฐาน ฟรินจ้องมองรูปของหญิงสาวในอริยาบทต่างๆ ด้วยแววตาสั่นไหว ไม่ได้เจอหน้ารู้
-เหตุการณ์ในอดีต- “เหนือเขามีแฟนใหม่ มีผัวใหม่ไม่รู้กี่คนต่อกี่คนแล้ว ยังจะมานั่งเศร้าอยู่อีก” ไคโรกลอกตามองบนใส่เพื่อนชายคนสนิทที่เอาแต่นั่งเงียบไม่พูดจา พอมันรู้ว่าดาวเหนือมีแฟนใหม่ เลยโทรตามให้เขาออกมากินเหล้าเป็นเพื่อนย้อมใจ ไอ้ฟรินมันเอาแต่คิดมากเรื่องเมียเก่าจนใช้ชีวิตไม่ปกติ ยิ่งรู้ว่ามีลูกกับดาวเหนือ อาการคลุ้มคลั่งของมันยิ่งบ้าไปกันใหญ่ หน้าตามันหล่อเหลา เดินผ่านสาวก็พากันมองเหลียวหลังจนคอแทบเคล็ด ส่วนฐานะทางบ้านก็เข้าขั้นว่ารวยไม่ได้ลำบาก “ถ้ามึงจะหาเมียใหม่มันไม่ได้ยากเลยนะ กูแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงยังจมปลักอยู่แบบนี้” “…..” “ถ้าเหนือไม่มีลูก มึงยังจะคอยตามอยู่แบบนี้มั้ย” หรือสาเหตุที่มันยังคอยตามอาจจะมาจากลูก อันนี้ก็น่าคิดและมีส่วนเป็นไปได้ “ไม่ได้เกี่ยวกับลูก” “สรุปรักเขา” “อืม” พยักหน้าเบาๆ แทนคำตอบ นั่งทรงตัวแทบไม่ไหว เนื่องจากดื่มเหล้าเข้าไปจำนวนมาก “แล้วทำไมไม่ไปหาเขาอ่ะ ไปเอาลูกกับเมียคืนมาดิ” “เขาไม่ได้รักกูแล้ว กลับมาจะมีประโยชน์อะไร” “แล้วการที่ม
“ยังไม่เลิกคิดมากอีกเหรอ” ทอแสงหย่อนตัวนั่งลงบนขอบเตียง มองดาวศุกร์ที่กำลังนอนหลับอยู่ในอ้อมกอดของคนเป็นแม่ “เหนือควรจะทำยังไงดีแม่” ก้มมองลูกน้อยทั้งน้ำตา เกิดเป็นความกลัวว่าฟรินจะมาพรากลูกไปจากเธอ “เห็นสายตาของฟรินที่มองแกกับลูกไหม…มันรักแกนะเหนือ ขนาดแม่เป็นคนนอก แม่ยังมองออกว่ามันรักแกมาก” “ถ้าเขารักเหนือ ขะ..เขาจะไม่ทำร้ายเหนือแบบนั้น” ดาวเหนือรีบยกมือขึ้นปาดน้ำตา ก่อนจะโน้มริมฝีปากลงไปหอมแก้มลูกซ้ำๆ เธอเคยโดนทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ จนเกือบจะเสียลูกสองคนในท้องไป ถ้าไม่ได้แฟรงก์ช่วยไว้ใน เรื่องทุกอย่างมันคงจะแย่กว่านี้ “แม่ไม่รู้ว่าที่ผ่านมาแกต้องเจออะไรบ้าง แกช่วยเล่าให้แม่ฟังหน่อยว่าเรื่องมันเป็นมายังไง” “เหนือไม่อยากพูดถึงเขา” “แล้วแกยังรักมันอยู่หรือเปล่า” “ต่อให้เหนือรักเขา แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร” พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ไม่ว่าจะกี่ปีผ่านไป แต่คำพูดเล่านั้นยังคงอยู่ เธอยังจำได้ไม่ลืม ‘ดูแลหลานแม่ให้ดี อย่าให้เด็กดาวเหนือกลับเข้ามาวุ่นวายกับฟรินได้อีก ครอบครัวของคุณน
“มองอะไร” แฟรงก์ปรายหางตามองไปยังเด็กน้อยที่กำลังนั่งจ้องหน้า โดยที่ใกล้กันมีฟรินกำลังก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ “ฉันหล่อกว่าป๊าเธอตั้งเยอะ ไม่ต้องสงสัย” คล้ายกับรู้ทันความคิดจึงพูดออกไปแบบนั้น ดาวศุกร์เดินเตาะแตะเข้าไปหา วางใบหน้าซบลงบนตักของแฟรงก์อย่างออดอ้อน “ป๊า…” เด็กน้อยร้องเรียก ไม่ว่าจะทำยังไงก็ยังคงเรียกเขาว่าป๊าไม่หยุด “ป๊าเธอก็นั่งอยู่ตรงนั้นไง ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน” “อุ้ม” “ไม่อุ้มหรอกปวดแขน เด็กอะไรตัวเบ้อเริ่มเลย” แฟรงก์บ่นพึมพำ เผลอหันไปสบตากับหลานสาวอย่างไม่ตั้งใจ ผิวขาวแก้มป่องตาโตเหมือนตุ๊กตา ไม่รู้ว่าไอ้แว่นมันเก็บความลับแบบแนบเนียนมาได้ยังไงตั้งหลายปี “ป๊า…อุ้ม” “ก็บอกว่าไม่อุ้ม” “อุ้ม” ดาวศุกร์เบะปากน้ำตาคลอเมื่อแฟรงก์ขึ้นเสียงใส่ “เงียบเลยนะ อุ้มก็อุ้มดิ ไม่ต้องร้อง เรื่องมากจริง” ทนไม่ไหวจำใจอุ้มหลานสาวให้ขึ้นมานั่งบนตักอย่างไม่มีทางเลือก “…..” “มึงอ่ะ คิดมากอะไรอีก” แฟรงก์สังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการแปลกไป จู่ๆ ก็นั่งเงียบไม่พูดจา ส
“เอากับฉันอยู่คนเดียวยังจะมาปากแข็ง” “…..” “รู้ไหมว่าทำคนอื่นเขาเสียการเสียงาน เสียหายไปตั้งเท่าไหร่ จะชดใช้ยังไง” “ถ้าฟรินไม่ขโมยลูกมา นะ…เหนือก็คงไม่ทำแบบนี้” เป็นเพราะห่วงลูกมากเลยอาจจะทำอะไรที่ไม่ทันคิด แต่ต้นเหตุนั้นมาจากเขา “รู้ได้ยังไงว่าขโมย ดาวศุกร์เป็นคนร้องไห้อยากมากับฉันเอง” “ลูกยังเด็ก เขาไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร” “ใช้คำว่าขโมยกับพ่อของลูก อันนี้มันเกินไปหน่อย” สองขาเรียวขยับถอยหนี แผ่นหลังแนบชิดผนังเมื่อถูกต้อนให้เข้าไปอยู่ในมุมห้อง “จะคิดแบบไหนก็เรื่องของฟริน แต่เหนือจะพาลูกกลับบ้าน” “รู้หรือไงว่าลูกอยู่ไหน” “ก็บอกมาสิ ว่าเอาลูกไปไว้ที่ไหน เลิกยุ่งเลิกวุ่นวายกับพวกเราสักทีได้ไหม เอาลูกเหนือคืนมา” “เลิกไม่ได้” เลื่อนมือเข้าไปประคองใบหน้าแสนหวานไว้มั่น จนร่างบางเป็นฝ่ายยอมแพ้เบือนหน้าหันหนี “ถ้าทำได้คงทำไปตั้งนานแล้ว” “…..” “ดาวศุกร์กับสองคนที่อยู่ในท้องของเธอ ฉันขอแล้วกัน” เบี่ยงสายตามองต่ำไปยังหน้าท้องของหญิงสาวที่เริ่มนูนจนเ
“อืม…” แสงแดดสาดกระทบเข้ามาภายในห้องนอน ช่วยปลุกคนที่หลับอยู่ให้รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา “อรุณสวัสดิ์” ดาวเหนือขยับพลิกตัวไปมา ก่อนจะลืมตาขึ้นมองเมื่อถูกหอมแก้มซ้ำแล้วซ้ำอีก “สายมากแล้ว วันนี้ไม่ไปทำงานเหรอคะ” “ให้ป๋าไปดูงานแทน วันนี้เลยมีเวลาว่างทั้งวัน” “ชนินทร์งอแงไหมคะ” หญิงสาวหยัดตัวลุกขึ้นนั่ง เอนหลังพิงหัวเตียง มองดูลูกชายคนเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดของสามี “อยู่กับป๊าเป็นเด็กดี ไม่งอแงเลยครับ” “ปะ…ป๊า~” ชนินทร์ในวัยสิบเดือนเริ่มส่งเสียงเจื้อยแจ้ว วางหน้าซบลงบนลาดไหล่ของผู้เป็นพ่ออย่างออดอ้อน “ว่าไงสุดหล่อ อ้อนป๊าทำไม” “ป๊า~” “อยากมีลูกอีกสักสิบคน” ไม่พูดเปล่า แต่ยังปรายสายตามองไปทางภรรยาด้วยสีหน้าจริงจัง “เพ้อเจ้อ” “ถ้าเธอไม่หนีไปทำหมัน ป่านนี้คงกำลังท้องลูกฉันอยู่” “ใจคอไม่คิดจะให้พักบ้างเลยหรือไง เหนือเป็นคนนะ ไม่ใช่แม่วัว” ดาวเหนือถอนหายใจลากยาวด้วยความท้อใจ เพราะวันๆ ฟรินเอาแต่คิดหมกมุ่นอยู่กับเธอ ต่อให้เวลาจะผ่านไปนานกี่วัน กี่เดือน หรือกี่ปี เข
“ทำไมที่คอของแม่มีรอยแดง” ดาวเหนือหยุดชะงัก รีบดึงคอเสื้อขึ้นมาปิดลำคอ หลังจากได้ยินคำถามของลูกสาว “ป๊าทำเอง” ฟรินรีบออกรับแทน พลางไล่สายตามองปฏิกิริยาของภรรยา “ป๊ากับแม่ทะเลาะกันเหรอ บีบคอแม่ทำไม” “ป๊าไม่ได้บีบคอแม่ ป๊าแค่จุ๊บแรงๆ” “แล้วแม่เจ็บไหม” ลูกสาวคนโตหันมาถามผู้เป็นแม่อย่างไร้เดียงสา “จะ…เจ็บค่ะ” ดาวเหนือพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะหันไปถลึงตาใส่สามีด้วยความไม่พอใจ “ทีหลังป๊าห้ามจุ๊บแม่แรงนะ ศุกร์ให้จุ๊บเบาๆ ก็พอ” “งั้นคราวหน้าป๊าจะจุ๊บเบาๆ” “ฟรินนั่งคุยกับลูกไปก่อนนะ เดี๋ยวเหนือจะเข้าครัวไปหยิบจานผลไม้มาให้” “อย่าไปนาน…คิดถึง” ดึงมือของหญิงสาวมาหอมซ้ำไปซ้ำมา รู้ตัวว่าเสพติด รู้ว่าคลั่งเธอมาก แต่ก็หยุดพฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้ “ปัญญาอ่อนฉิบหาย” แฟรงก์ที่นั่งเงียบอยู่นาน เบะปากมองคว่ำด้วยความรำคาญใจ สองผัวเมียคู่นี้มันยอมกันที่ไหน ไอ้แว่นมันคิดจะทำอะไรก็ทำโดยไม่สนสถานที่หรือผู้คน “สาธุ…กูขอให้เหนือมีผัวใหม่ในเร็วๆ นี้ จะได้หลุดพ้นจากคนประสาทอย่างมึง”
“นิ่งเฉยอยู่ทำไม หรืออยากใช้มากกว่าปาก?” ดาวเหนือคุกเข่าลงตรงหน้า เลื่อนสองมือเข้าไปถอดกางเกงของชายหนุ่มออกอย่างรู้งาน ดวงตาคู่สวยไหวสั่น มองความเป็นชายที่กำลังขยายตัว ถึงแม้จะเห็นอยู่แทบทุกวันแต่หัวใจยังคงเต้นแรงทุกครั้ง ปากบางครอบลงบนแก่นกายอย่างละเมียดละไม เรียวลิ้นอุ่นเลียวนไปทั่วบริเวณส่วนปลาย ก่อนจะออกแรงดูดเบาๆ สัมผัสได้ถึงน้ำสีใสที่ไหลซึมเปียกแฉะไปทั่วริมฝีปาก ฟรินก้มลงมองการกระทำของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยา ท่าทางไม่ประสีประสาแต่เขากลับมองว่ามันน่าหลงไหลจนโงหัวไม่ขึ้น “แค่เห็นหน้าเหนือก็เหมือนจะแตก” “อึก…” ใบหน้าแสนหวานเบ้เบี้ยว เมื่อแก่นกายขยายใหญ่คับริมฝีปากจนเธอเริ่มรู้สึกหายใจติดขัด ปลายนิ้วเรียวเกลี่ยพวงแก้มแดงระเรื่ออย่างนึกเอ็นดู ภาพที่เธอกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเป็นสิ่งที่เขาอยากเห็นมากที่สุด มือสากเลื่อนเข้าไปจับศีรษะของหญิงสาวไว้มั่น ก่อนจะอัดกระแทกความเป็นชายเข้าออกในโพรงปากเล็กตามจังหวะที่ต้องการซ้ำแล้วซ้ำอีก “อยากให้แตกใส่ตรงไหน” “แล้วแต่ฟรินจะทำ”
“ชนินทร์น่ารักจังเลย หนูขอจับน้องได้มั้ยคะ” ดาวศุกร์เกาะขอบเตียงเขย่งปลายเท้าขึ้นมองน้องชายด้วยความตื่นเต้น “ได้ค่ะ จับน้องเบาๆ นะคะ” “ศุกร์รักน้องค่ะแม่” ดาวศุกร์เผยรอยยิ้มกว้างอย่างมีความสุขเมื่อมองเห็นน้องชายตัวจิ๋ว “เป็นพี่น้องต้องรักกันนะคะ” “ถ้าศุกร์โต เดี๋ยวศุกร์จะเป็นคนเลี้ยงน้องแทนแม่กับป๊าเอง” เพราะเห็นว่าป๊าทำงานหนักเลยอยากแบ่งเบาภาระช่วยดูแลแม่กับน้อง “ลูกสาวของแม่คนนี้เก่งที่สุดเลยค่ะ” “ป๊าแฟรงก์เคยสอน บอกว่าถ้าศุกร์เป็นเด็กดีจะมีแต่คนรักเรา” เด็กน้อยยืดอกพูดด้วยความภาคภูมิใจ เพราะถ้าดื้อมากๆ จะโดนป๊าแฟรงก์ดึงหู “ใช่แล้วค่ะ ถ้าหนูเป็นเด็กดี ทุกคนจะรักหนู” “ศุกร์สัญญาเลยว่าจะไม่ดื้อไม่ซน ป๊ากับแม่จะได้รักศุกร์มากๆ” โชคดีที่ดาวศุกร์เป็นเด็กเลี้ยงง่าย อาจจะซุกซนไปบ้างตามวัยแต่มีจิตใจดี ชอบสงสารและช่วยเหลือคนอื่นอยู่เป็นประจำ “…..” “เอาอีกดิไอ้แว่น” แฟรงก์สะกิดน้องชายเบาๆ เพื่อให้หันมองลูกทั้งสามคนที่กำลังวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน “อะไร?”
“ทำไมวันนี้คนสวยตื่นเช้า ไม่นอนต่ออีกสักหน่อยเหรอ” ชายหนุ่มเดินเข้าไปสวมกอดคนตัวเล็กไว้แน่นจากทางด้าน โน้มริมฝีปากพรมจูบที่ลำคอขาวเบาๆ ด้วยความหวงแหน วันนี้ดาวเหนือตื่นเช้ากำลังยืนดูพระอาทิตย์ขึ้นอยู่ริมระเบียงห้องของบ้านพัก “อยากดูพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ” “สวยมาก” “ใช่ค่ะ สวยมากเลย” “ไม่ได้หมายถึงพระอาทิตย์ แต่ฉันหมายถึงเธอ” ปลายนิ้วเรียวลูบไล้พวงแก้มอมชมพูอย่างอ่อนโยน “ตื่นมาก็อ้อนเมียแต่เช้าเลยนะคะ” เขย่งปลายเท้าขึ้นไปหอมแก้มของสามีเบาๆ “อยากทำมากว่าอ้อนอีก” “…..” ใบหน้าแสนหวานเห่อร้อนด้วยความเขินอาย ขยับถอยหนีแต่ฟริน ยังคงเดินตามไม่ห่างไปไหน “อยากย้ายมาอยู่ที่นี่มั้ย เธอจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นทุกวัน” “เหนือชอบที่นี่ แต่ฟรินเองก็ยังมีธุรกิจและลูกน้องที่ต้องดูแล เอาไว้ก่อนก็ได้ค่ะ” “ขอแค่บอกมาคำเดียว เดี๋ยวที่เหลือฉันจัดการเอง” อะไรที่เป็นความสุขของลูกกับเมียเขายินดีทำให้แบบไม่มีข้อแม้ “คงต้องถามลูกๆ ก่อนว่าอยากมาอยู่ที่นี่ไหม เหนือแล้วแต่ลูก” “ส่วนฉั
“กินผักเยอะๆ หลานแฟรงก์จะได้แข็งแรง” แฟรงก์ยื่นจานผักและผลไม้ให้หญิงสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ดาวเหนือท้องแก่ใกล้คลอดจำเป็นต้องกินแต่ของที่มีประโยชน์ “เหนือว่าคนนี้ต้องตัวโตมากแน่เลย” คนตัวเล็กเผยรอยยิ้มบางๆ อย่างมีความสุข ทุกคนในครอบครัวล้วนแต่เฝ้ารอที่จะได้เห็นหน้าสมาชิกใหม่ “ตัวโตก็ดีแล้ว จะได้ดูแลปกป้องพี่สาวได้” “ศุกร์ดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องให้ใครมาปกป้องหรอก” ดาวศุกร์พูดขึ้นลอยๆ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานอาหารในจานของตัวเอง “ตัวแค่นี้อย่าทำซ่าส์นะศุกร์” “ก็ป๊าฟรินเป็นคนสอนหนูเองว่าให้ลูกเข้มแข็ง” “สภาพอย่างไอ้แว่นเนี่ยนะจะมาเข้มแข็ง ตอนโดนเมียทิ้งร้องไห้จะเป็นจะตาย” แฟรงก์หรี่สายตามองหน้าน้องชายอย่างเอือมๆ “ป๊าต้องไปนั่งเฝ้านอนเฝ้า อดหลับอดนอน จนจะเป็นบ้าตามมันไปอีกคน” “กูอยู่ของกูดีๆ ไอ้แฟรงก์ อย่ามาลามปาม” คนที่ถูกกล่าวหา เกิดอาการร้อนตัวรีบพูดแทรกขึ้น เขาอุตส่าห์นั่งเงียบๆ แต่ก็ก็ยังมิวายโดนพูดจากระแทกแดกดัน “กูพูดความจริงทั้งนั้น มึงรับไม่ได้เหรอ” “แล้วเมียของป๊าเ
“ทำไมหน้ามึงโทรมขนาดนี้ ขอบตาดำอย่างกับหมีแพนด้า ไปอดหลับอดนอนมาจากไหน” แฟรงก์จับหน้าน้องชายฝาแฝดหันซ้ายหันขวา ไม่รู้ว่าไอ้แว่นมันมัวแต่ทำงานหนักหรือเอาแต่คิดเรื่องเมีย ถึงได้อดหลับอดนอน “ถึงเราจะเป็นผู้ชาย ก็ต้องดูแลตัวเองนะน้องรัก อย่าปล่อยตัวให้โทรมเหมือนผีดิบจำศิลแบบนี้” ตบบ่าแฝดน้องเบาๆ ถึงจะเป็นแฝดหน้าตาคล้ายกันก็จริง แต่คนอื่นมักจะพูดอยู่เสมอว่าเขาน่ะหล่อกว่าไอ้แว่นเป็นไหนๆ “เลิกวุ่นวายได้แล้วแฟรงก์ ถอยไปไกลๆ กูจะทำงาน” ฟรินปัดป่ายมือพี่ชายออกจากใบหน้าด้วยความรำคาญ จะให้เอาเวลาที่ไหนไปดูแลตัวเองแบบมัน ไอ้แฟรงก์มันเข้าคลินิกเสริมความงามกับแม่ทุกเดือน นั่งๆ นอนๆอยู่แต่ในร่ม เคยออกแดดที่ไหนกัน ส่วนเขาแค่ก้มหน้าทำงานก็หมดเวลาไปเกือบวัน “พักเรื่องงานเอาไว้ก่อน ไปรับลูกที่โรงเรียนกัน” “แต่อีกครึ่งชั่วโมงกูต้องเข้าประชุม” “มึงเห็นงานสำคัญกว่าลูกหรือไง” แฟรงก์ยืนเท้าเอวมองหน้าน้องชายอย่างไม่สบอารมณ์ “เรื่องงานเอาไว้ค่อยทำก็ได้ ยังไงเรื่องลูกก็ต้องมาก่อนเสมอ” ในหัวสมองของไอ้แว่น
“ทานอีกนิดสิเหนือ ผลไม้มันมีประโยชน์นะ” “เหนืออิ่มแล้วค่ะแม่” ดาวเหนือบอกอย่างเกรงใจ แม่สามีและทุกคนในครอบครัววรางกูรดูแลและรักเธอมากเสมือนเป็นญาติแท้ๆ ด้วยอีกคน “งั้นดื่มนมอีกสักหน่อย หลานแม่จะได้แข็งแรง” พอรู้ว่าได้หลานชายถึงกลับหัวใจพองโต อะไรที่ว่าดีก็หาประเคนมาให้ลูกสะใภ้แทบทุกอย่าง “ขอบคุณค่ะ” “ถ้าอยากกินอะไรให้บอกแม่นะ คนกำลังท้องต้องเลือกกินแต่สิ่งที่มีประโยชน์” ปาลินลูบศีรษะของดาวเหนือด้วยความรักใคร่เอ็นดู ถ้าลูกชายรักใครเธอก็รักด้วย “ค่ะแม่” “อิจฉาซ้อจริงๆ ผัวก็หลงจนหัวปักหัวปำ แถมแม่ผัวยังรักพร้อมยอมยกสมบัติให้อีก” หมวยเฟย์ที่นั่งเงียบอยู่นานพูดแทรกขึ้น ก่อนจะปรายสายตามองไปยังผู้เป็นแม่ที่เอาอกเอาใจลูกสะใภ้จนออกหน้าออกตา เจ๊ปาลินเห่อหลานชายคนนี้ยิ่งกว่าอะไรดี เตรียมของรับขวัญไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ “งั้นก็ดูไว้เป็นตัวอย่าง ถ้าแกจะมีผัวต้องหาให้ดีกว่าพวกเฮียสองคนนะรู้ไหม” แฟรงก์บอกน้องสาวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ผู้ชายสมัยนี้มันไว้ใจได้ที่ไหน “พวกสันดานเจ้าชู้หลายใจ อย่าไปคิดจะเ
“ป๊า!” ‘ชารา’ แฝดผู้พี่วิ่งเข้ามาในห้องทำงานของผู้เป็นพ่อด้วยความคุ้นเคย ด้านล่างเป็นออฟฟิศขนาดใหญ่ ส่วนชั้นบนเป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัว “ว่าไงครับ?” “เห็นชุดเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ของชารามั้ยคะ” เด็กน้อยยืนกอดอกถามด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้ว สามารถเรียกรอยยิ้มจากคนเป็นพ่อได้เป็นอย่างดี “ป๊าพับเก็บไว้ให้อยู่ในลิ้นชัก หนูลองไปหาดูนะ” “ขอบคุณค่ะ ชารารักป๊า” ชาราเดินเข้าหา เขย่งปลายเท้าขึ้นไปหอมแก้มผู้เป็นพ่อที่นั่งทำงานอยู่ “ป๊าก็รักลูกเหมือนกัน” แกร๊ก… บานประตูห้องทำงานถูกเปิดออกอีกครั้งพร้อมดาวเหนือและดาวศุกร์ที่เดินเข้ามาใหม่ ภาพวุ่นวายเล่านี้เป็นสิ่งที่บุรินทร์วัชร์มักจะได้เห็นเป็นประจำอยู่ทุกวัน “เหนือจะพาดาวศุกร์ออกไปซื้อของที่ห้างใกล้บ้าน ฟรินจะเอาอะไรไหม” “รอก่อนได้มั้ย เลิกงานแล้วค่อยไปพร้อมกัน” “ไม่เป็นไร ไปแค่แป๊บเดียวเดี๋ยวก็กลับแล้วค่ะ” “ท้องอยู่…ไม่อยากให้ไปไหนมาไหนโดยที่ไม่มีฉันไปด้วย เป็นห่วง” ท้องของดาวเหนือเริ่มขยายใหญ่จนเห็นได้ชัด เวลาจะไปไหนมาไห