“ลงไป!!!” เขาตวาดเสียงดัง ทำเธอตกใจไม่น้อย ชายหนุ่มเมื่อรู้ตัวว่าเสียงดังกับเธอ เขาระงับสติอารมณ์แล้วพูดอย่างใจเย็นที่สุด “ไม่ต้องห่วงนะ ผมขับรถได้ บ้านผมก็ไม่ได้ไกลมาก ขับห้านาทีก็ถึง คุณลงไปเถอะ เดี๋ยวเพื่อนคุณสงสัยนะว่าคุณหายไปไหน เร็ว”หญิงสาวคลายสีหน้าตกใจลง แล้วจ้องเขาอย่างห่วงใย “ฉันบอกวิกับสาแล้วว่าจะกลับไปพักผ่อนที่ห้อง”“แต่...”“ไม่มีแต่” เธอพูดแทรก “ยังไงฉันก็ต้องมั่นใจว่าคุณปลอดภัย”ชายหนุ่มหน้าเสีย ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู เหลือเวลาอีกแค่สิบนาทีเท่านั้น เขาจะทำอย่างไรดี หากเขากลายร่างต่อหน้าเธอ แล้วทำให้เธอช็อคตายขึ้นมาล่ะ เขาคงบาปหนาแน่ๆ“ผมมียาดีจริงๆ ตอนเช้าคุณจะได้เห็นผมในสภาพปกติเลยล่ะ”เธอไม่ฟัง นำผ้าเช็ดหน้าซับแผลให้เขาที่ใบหน้าและมุมปากอย่างเบามือ นั่นทำให้หัวใจเขาเต้นรัวไม่หยุด“ถ้าคุณไม่ลงไป ผมปล้ำคุณนะ”มือของเจ้าหล่อนชะงัก เธอจ้องหน้าเขาอย่างตกใจ“ว่าไงนะ”สีหน้าของเธอทำให้เขารู้ว่ามันได้ผล เขายิ้มกริ่ม “ผมจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้าคุณยังไม่ยอมลงจากรถผม คุณเสร็จผมแน่”เขากระดกคิ้วกวนๆ เธอทำหน้าเหวอ กลืนน้ำลายแทบไม่ลงคอ “เอ่อ ไม่ต้องมาขู่ฉัน ฉันไม่เชื่อหรอก เพราะถ้าคุ
แพรทองไม่อยากอยู่ในงานต่อ เธอไม่มีกระจิตกระใจจะสนุก เธออยากหลบหน้าผู้คน ไม่อยากพูดคุยกับใครทั้งนั้น เธอตัดสินใจเดินกลับไปที่เรือนพัก โดยไม่ได้บอกเจ้าภาพเลยสักคำ หรือแม้แต่เพื่อนร่วมห้องที่เธอยังไม่เจอเลยว่ามันนั่งอยู่โต๊ะไหน จับผู้ชายได้สักคนรึยัง?ให้ตายเหอะ หญิงสาวไม่เคยรู้สึกเสียเซลฟ์เท่านี้มาก่อนเลย เธอคิดไม่ตกเลยว่าพรุ่งนี้จะเผชิญหน้ากับหมอนั่นได้อย่างไร“คอยดู พรุ่งนี้ฉันจะให้คนอื่นขับรถไปส่ง ฉันจะไม่ให้คุณเห็นหน้าฉันอีก”เจ้าหล่อนกำลังจะเปิดประตูห้อง ก็ต้องชะงัก เพราะนึกออกว่าเธอไม่ควรกลับมานอนคนเดียว เธออาจมีอันตรายก็ได้“ไม่เป็นไร ฉันมีปืน ใครปีนเข้าห้องฉัน ได้เจอไข้โป้งแน่” ที่สุด เธอตัดสินใจไขประตูเข้าเรือนพัก ก่อนล็อคเรียบร้อย แล้วเดินไปปล่อยร่างลงนอนแผ่หลาบนเตียงนุ่ม หญิงสาวอยากจะกรี๊ดให้ดังลั่น เพื่อคลายความอึดอัด แต่ก็ทำไม่ได้ เธอไม่อยากให้คนแตกตื่นแล้ววิ่งมาที่เรือนพักของเธอจนวุ่นวาย “นี่ฉันให้ท่าเขา แล้วเขาไม่เอาใช่มั้ย ทำไมนะ ทำไมผู้ชายถึงรังเกียจฉันนัก หรือว่าฉันมันไม่สวยพอ”เธอทั้งเซ็งและเศร้า“อยากกลับกรุงเทพฯ ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว” แล้วน้ำตาของเจ้าหล่อนก็ไหลล
“นายตัวใหญ่มากเลย ฉันน่าจะกลัวนายนะ” ลำตัวของมันยาวเฟื้อยเกือบห้าเมตร และขนาดลำตัวใหญ่กว่าแขนของผู้ชายเลยทีเดียว “แต่ทำไมฉันถึงไม่รู้สึกกลัวนายก็ไม่รู้”หญิงสาววางสำลีที่เช็ดแผลลงบนโต๊ะ ก่อนหันกลับมาหาเจ้างูยักษ์ ขณะที่มันชูคอขึ้นมาพอดี แล้วเธอก็ได้สบตากับมันอีกครั้ง สายตาของมันสะกดเธอ ทำให้ใจเธอสั่นไหวนี่เธอกำลังหลงรักงูตัวนี้และชายหนุ่มที่ทิ้งเธอไปพร้อมกันทั้งสองคนเลยหรือ...ไม่สิ! เจ้านี่นับเป็นตัวต่างหาก เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่อยู่ๆภาพในหัวจากความฝันก็ผุดขึ้นมา ภาพการร่วมรักระหว่างเธอกับงูจงอางยักษ์ทำให้เธอหน้าร้อนผ่าว“เสร็จแล้วนะ นาย...” เธออยากจะไล่ให้มันออกไป แต่ก็ไม่ได้พูด มันโน้มหัวเข้ามาสัมผัสริมฝีปากเธออีกครั้ง อย่างแผ่วเบาและอบอุ่น มันน่าตกใจก็ตรงที่เธอยอมให้มันจูบอีกครั้ง...ซึ่งหากมันเปลี่ยนจากจูบเป็นกัดแทน...เธอก็คงจะตายในคืนนี้“อืม...” เธอหลับตาพริ้ม จูบตอบมันอย่างอ่อนโยน ขณะฝ่ามือเล็กจับที่ลำคอของมันไว้หลวมๆ กลิ่นลมหายใจของงู ทำไมมันช่างเหมือนกลิ่นของผู้ชายคนนั้นนัก...เธอรู้สึกเหมือนกำลังจูบอยู่กับนายนาคินทร์ไม่มีผิด!!!เธอผละริมฝีปากออกมา แล้วจ้องมองมันนิ่งๆ“รู
“นายจงอาง!” เจ้าหล่อนว่าพลางก็เดินเชื่องช้าไปขึ้นเตียง แล้วนอนลงข้างๆงูจงอางยักษ์ที่นอนกองเต็มที่นอน “อยากทำอะไรก็เชิญ”เธอบอกมันอย่างนั้น แล้วมันจะรอช้าอยู่ทำไม มันเลื้อยสอดเข้าใต้สะเอวของเธอแล้วพันร่างกายของเธอไว้ ส่วนหางก็ตวัดเข้าไปในระหว่างขาของเธอ ลำตัวของมันปิดเนื้ออุ่นจนมิดทีเดียวมันเคลื่อนขยับบีดรัดลำตัวของเธอ ก่อนส่วนหัวจะเคลื่อนขึ้นมาละเลงบนยอดปทุมถันราวกับอดอยากมานานแสนนาน “โอววว....” เธอร้องครางออกมาแผ่วเบา ฝ่ามือลูบไล้ลำตัวของมันที่พันกายเธอไว้ราวกับกำลังโอบกอดเธอ “อื้ม....อ้า....”เธอรู้สึกเสียวซ่านไปทั้งตัว เพียงสัมผัสจากสัตว์เลื้อยคลานเลือดเย็น ที่แสนโหดร้ายตัวนี้ มันทำให้ยอดปทุมถันของเธอชูชันและแข็งเป็นไตจนแทบแตก...นี่เป็นครั้งแรก ครั้งแรกที่เธอมีอะไรกับเพศตรงข้ามและกับงู!!!“ใช่จ้ะ อย่างนั้นแหละ” เธอลูบหัวงูอย่างเอ็นดู ขณะที่มันกำลังแลบลิ้นโลมเลียเนื้ออกของเธอไปทั่วทั้งสองเต้า ราวกับมันกำลังชิมเลือดอันแสนหวานหรืออาหารเลิศรสชั้นดี “นายเก่งจัง”แล้วเธอก็สะดุ้งสุดตัว เมื่อรับรู้ได้ว่า ลำตัวของมันในส่วนล่าง กำลังถูไถซอกสวยของเธออยู่อย่างรู้งาน“อุ๊ย! อูย ซี๊ดดด
“มีความสุขจัง ฉันไม่เคยมีความสุขอย่างนี้มาก่อนเลย” มันเลื่อนหัวขึ้นมาถึงใบหน้าเธอ แล้วจูบริมฝีปากอิ่มสวยอย่างเสน่หา เธอลูบคลำลำคอของมัน ก่อนจะอ้าปากรวบจูบปากจงอางอย่างไม่นึกรังเกียจ“อืม...” เธอจูบดูดดื่มกับมันจนหนำใจ ก่อนจะปล่อยมัน แล้วลุกขึ้นนั่งอีกครั้ง นั่นเพราะมันถอดพิษสงออกแล้ว และกำลังจะสอดใส่ของอีกข้างเข้าไปแทน “ใช้ได้ทั้งสองอันเลยเหรอ”เธอถ่างขาออกเล็กน้อยเพื่อเปิดทางให้กับมัน“โอววว...” เธอเม้มริมฝีปากแน่น ยามที่ท่อนเนื้อข้างซ้ายฝังเข้าไปภายในจนจมมิดแล้วฝังแน่น “คราวนี้ ฉันจะทำเองนะ”เจ้าหล่อนว่าพลางก็พลิกร่างขึ้นข้างบน ให้ลำตัวงูอยู่ด้านล่าง เธอตั้งใจจะใช้ท่าม้าสาวกับเจ้าจงอาง เมื่อทุกอย่างเหมาะเจาะแล้ว เธอก็เริ่มขยับโยกอย่างช้าๆ ก่อนเปลี่ยนเป็นเร็ว แรง และดุดัน“โอยยยยย”“ฟู่....” เจ้างูก็ส่งเสียงร้องออกมาเช่นกัน เสียงครางของมันทำให้เธอหัวเราะ เธอทั้งโยก กระแทก และหมุนวนจนนับไม่ได้ว่าสักกี่รอบ เธอส่ายเอวจนเริ่มจะล้าแล้ว ตอนที่มันปล่อยของเหลวเข้าใส่กายเธอเป็นครั้งที่สอง“โอวววว โอ๊ยยยยย อ้า...” เธอเกร็งไปทั้วตัว ก่อนจะกระตุกสองสามครั้งแล้วปล่อยน้ำหวานออกมาจนปริ่มเธอนอนล
สองมือของเธอจับขอบอ่างอาบน้ำไว้แน่น แล้ววางศีรษะลงตรงที่พักขอบอ่าง หลับตาพริ้มอย่างมีความสุข กับบทรักอันแสนรัญจวนใจ ที่เจ้าจงอางมอบให้เธออย่างถึงใจอีกครั้ง“ซี๊ดดดดด...นี่นายจะเก่งไปถึงไหนเนี่ย” แม้จะอยู่ในน้ำอุ่น แต่เธอเร่าร้อนไปหมดทั้งตัวแล้ว “โอ๊ยยยย อื้มมมมม”มันเล้าโลม ก่อนรุกล้ำเข้าไปอย่างดุเดือด จนหญิงสาวกระตุกเกร็ง ปลดปล่อยความกำหนัดออกมาอย่างเต็มที่ เธอมีความสุขจนยากจะบรรยาย หากแล้วก็จำต้องผละออกจากท่อนสวาทที่แช่อยู่นานหลายนาที เพราะเสียงเคาะประตู!ก๊อก ก๊อก!“เพื่อนฉันคงมาแล้วล่ะ นายไปได้แล้ว” เจ้านั่นก็ทำตามคำสั่งอย่างไม่รีรอ หญิงสาวลุกจากอ่างอาบน้ำ มองจนเจ้างูเลื้อยผ่านช่องระบายอากาศของห้องน้ำออกไปเธอรีบไปหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำมาสวมทับร่างกายที่เปลือยเปล่า แล้วเดินออกจากห้องน้ำ ตรงไปที่ประตูห้อง เธอดูจากช่องตาแมวเพื่อมองให้แน่ใจว่าใครมา“ยัยสาเหรอ มาทำไมป่านนี้” หญิงสาวรีบเปิดประตูให้เจ้าของเคหะสถานทันทีโดยไม่ลังเล “ทำไมไม่เข้าห้องหอล่ะยะ”วันวิสายิ้มให้เพื่อน “กำลังจะเข้า แต่เป็นห่วงเธอ เลยแวะมาดูซะหน่อย เป็นไงบ้าง หายปวดหัวยัง”“หายแล้ว เธอรีบกลับไปเข้าห้องหอเลยไป๊”“จ้ะ
“วางไว้ที่โต๊ะเลยค่ะ” เจ้าหล่อนชี้ไปที่โต๊ะตรงระเบียง “แต่เพื่อนฉันยังไม่กลับห้องเลยค่ะ ป้าเห็นเพื่อนฉันมั้ยคะ ที่ชื่อวิมาลาน่ะค่ะ เธอน่าจะเมาพับอยู่ที่ไหนสักแห่งในรีสอร์ท”“ไม่เห็นเลยค่ะ”“อ้าว แล้วที่จัดงานเลี้ยงล่ะคะ”“ไม่มีนี่ค่ะ ตอนนี้คนงานช่วยกันเก็บข้าวของและทำความสะอาดหมดแล้วค่ะ ว่าแต่คุณจะออกไปตอนไหนคะ คุณนาคินทร์ฝากถามน่ะค่ะ”หญิงสาวอึ้งไปอึดใจเรื่องเพื่อนรักตัวแสบ “หายไปอยู่ไหนนะ อย่าบอกนะว่าห้องผู้ชายคนไหนสักคน!”“คุณคะ”เจ้าหล่อนถึงกับสะดุ้ง “ค่ะๆ ไปบอกว่าอีก...ชั่วโมงนึงจะออกไปค่ะ”แต่พอประตูปิด หญิงสาวก็รีบแต่งตัวอย่างรวดเร็ว โดยสวมเสื้อยืดพอดีตัวและกางเกงขาสั้นจู๋ สวมทับด้วยเสื้อกันหนาวอีกชั้น ก่อนวิ่งลงจากเรือนอย่างเร็ว เธอตั้งใจจะไปตามหาเพื่อนรักให้เจอโดยเร็วที่สุด“ยัยวินะยัยวิ หายไปไหนของแกนะ” เธอเดินตามหา และสอบถามคนไปทั่ว ทั้งแขกของงานที่กำลังทยอยกลับและคนงาน แม่บ้าน เจ้าหน้าที่รีสอร์ท ทุกคนที่เธอเจอ“ไม่มีใครเห็นเธอเลยเหรอ”ทุกคนบอกว่าไม่เห็นตั้งแต่เที่ยงคืนแล้ว...หมายความว่าวิมาลาหายตัวไปจากงานเลี้ยงตั้งแต่เที่ยงคืนอย่างนั้นหรือแพรทองกลุ้มใจและกังวลใจเป็นอย่า
ชายหนุ่มครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนพูดออกมา “เมื่อคืนนี้ ตอนผมขับรถออกไป” แล้วเขาก็จอดตรงข้างทาง ดับเครื่อง แล้วร่างกายก็เปลี่ยนเป็นงูจงอาง “ผมว่าผมเห็นเพื่อนของคุณนั่งรถกระบะคันหนึ่งออกไปแน่ๆ”“จริงเหรอ” ทั้งแพรทองแลละวันวิสาถามพร้อมๆกัน“ผมว่าใช่นะ”“คุณจำป้ายทะเบียนรถได้มั้ย” แพรทองถามเร่งเร้า ขณะชาญวุฒิเดินกลับมาด้วยสีหน้ากลัดกลุ้ม“ไม่มีใครเห็นคุณวิเลยสักคน แต่พวกไอ้โจ๊กมันบอกว่าคุณวิออกจากงานไปตั้งแต่เที่ยงคืนแล้ว แต่ไม่รู้ออกไปกับใคร”“คุณคิน!” แพรทองจับมือนาคินทร์ไว้ นั่นทำให้เขารู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด เขารู้สึกมีพลังเพิ่มขึ้นเมื่อเธอสัมผัส “ถ้าจำป้ายทะเบียนไม่ได้ แล้วยี่ห้อรถล่ะคะ สีรถ สติ๊กเกอร์ ลักษณะของมัน หรืออะไรก็ได้”เขาจ้องเธอเหมือนลืมตัว ก่อนจะสะดุ้งตื่นจากภวังค์ “ผมจำได้แค่ มันเป็นรถกระบะสองตอน สีดำ”“โอ๊ย เยอมากคิน” วันวิสากุมขมับ “ทำไงดีวุฒิ”“ใจเย็นๆ มันอาจไม่มีอะไรก็ได้ คุณวิอาจไปแอบนอนตรงไหนก็ได้”“ผมว่าถ้าผมได้เห็นมันอีกสักครั้ง ผมต้องจำได้แน่ เดี๋ยวผมออกไปตามหารถคันนี้ข้างนอกเอง” นาคินทร์บอกทุกคน ก่อนเดินตรงไปยังลานจอดรถด้านหน้า ซึ่งเขาจอดรถกระบะคันสวยของตัวเองท
“เออสิ ก็ยัยสาวิตรีน่ะมันชอบคินมาตั้งแต่เด็กแล้ว พอโตขึ้นมันก็ร้องจะฆ่าตัวตายถ้าไม่ให้มันแต่งงานกับคิน”“ว๊ายตาย อยากมีผัวจนตัวสั่นเลยเหรอ”“แล้วทำไมเขาตกลงล่ะ” แพรทองเองที่อยากรู้ “หรือว่าตอนนั้นก็แอบมีใจให้ยัยนั่นอยู่เหมือนกัน”“ฉันว่าไม่ใช่ เดาว่าคินทำตามที่พ่อต้องการ และตอนนั้นเขาก็ไม่ได้มีใครด้วย ไม่เหมือนตอนนี้...”วินาทีนั้นเองที่เสียงเคาะประตูดังขึ้น...ก่อนชายหนุ่มจะก้าวเข้ามาในห้อง ด้วยท่าทีตื่นเต้นดีใจ“วุฒิ กลับมาแล้วหรือคะ”“ใช่ ผมได้หลักฐานมาแล้วนะ แล้วก็จัดการส่งให้ตำรวจแล้ว ตอนนี้นายอัคนีถูกเรียกไปสอบสวนแล้ว”ทั้งสามสาวพากันดีใจเฮละโล “แล้วภาพจากกล้องวงจรปิดที่รีสอร์ทเราล่ะ?”“แน่นอน” ชาญวุฒิหมายมั่นปั้นมือ “ภาพจากกล้องวงจรปิดมัดตัวนายอัคนีแบบดิ้นไม่หลุดเลยล่ะ”“อะไรนะ นี่มีภาพจากกล้องวงจรปิดด้วยเหรอ” แพรทองถามอย่างตื่นเต้น “จริงเหรอยัยสา?”“ใช่ ไม่ต้องห่วงนะ ถึงพ่อมันจะใหญ่แค่ไหน แต่ถ้าหลักฐานมันชัดขนาดนี้ มันก็หนีคุกหนีตะรางไม่พ้นหรอก” วันวิสาพูดด้วยความสะใจ “โทษฐานที่มันล้วงคองูเห่า”ใครบอกว่าล้วงคองูเห่า...มันล้วงคองูจงอางต่างหาก!!!“อ้อ สาจ๊ะ ได้ข่าวเรื่องบ
เธอลูบไล้ใบหน้าหล่อเหลาของเขาอย่างโหยหา “อะไรคะ”“ถ้าเราสองคนอยู่ด้วยกันในคืนพระจันทร์เต็มดวง แสงจันทร์จะล้างคำสาปในตัวผมจนหมดสิ้น แล้วผมจะกลายเป็นมนุษย์เต็มตัว ไม่ต้องเป็นงูอีกแล้ว”“หืม...” หญิงสาวรู้สึกตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก “จริงหรือคะ?”“จริง คุณจะช่วยล้างคำสาปให้ผมรึเปล่า”“ช่วยสิคะ แล้วฉันต้องทำยังไง”“คุณก็แค่รักผมให้มากๆ และยอมให้ผมทำอะไรกับคุณก็ได้ในคืนนั้น”“ทำอะไรก็ได้ หมายถึงกัดรึคะ” เจ้าหล่อนยิ้มยั่ว“มั้ง” เขายิ้มพรายก่อนก้มลงจุมพิตที่ปลายจมูกสวยของหญิงสาว “แต่อีกตั้งเดือนกว่าจะถึงวันเพ็ญ คุณก็ต้องยอมเป็นเมียงูไปก่อนนะ”“ใครบอกคะ ฉันลาพักร้อนได้แค่สิบห้าวันเท่านั้น แล้วตอนนี้ก็ใช้ไปตั้งสามวันแล้วนะคะ ฉันคงต้องกลับกรุงเทพฯก่อนถึงวันเพ็ญ”“ผมไม่ยอมให้คุณไปไหนหรอก”“ก็คอยดูว่าฉันจะไปได้รึเปล่า ฉันไม่ได้มีคู่หมั้นอย่างใครบางคนนี่คะ” เจ้าหล่อนแสร้งพูดเรื่องนี้อีกครั้ง เพื่อเตือนความจำของเขา“พรุ่งนี้ผมกูกถอนหมั้นแล้วคุณ”หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่น “เหรอ?”เขายิ้มร่า ดูกะล่อนไม่เบา “ไม่เชื่อคุณก็คอยดูแล้วกัน”“อืม....อ้า!!!...” เขาใช้จังหวะที่หญิงสาวเผลอ ก้าวล้ำเข้าไปภายในของเจ้า
วันวิสาและวิมาลามองหน้ากัน รู้สึกทะแม่งๆกับท่าทางของเพื่อนสาวที่ไม่เคยสนใจผู้ชายคนไหนมาก่อน“อ๊ะๆ ทำไมห่วงนายคินขนาดนั้นยะ มีอะไรในกอไผ่รึเปล่าเนี่ยคู่นี้” วันวิสาแซว แพรทองทำหน้าแทบไม่ถูก เธอหันไปมองคนที่นอนอยู่บนเตียง อย่างรู้สึกสำนึกผิด“วิ แกอย่าโกรธฉันนะ”วิมาลาจ้องแพรทองนิ่ง ก่อนเอ่ยเสียงขรึม “ไปถึงไหนกันแล้วล่ะ”แพรทองก้มหน้านิดๆ เธอจะพูดอย่างไรดี ให้เพื่อนเสียใจน้อยที่สุด และไม่เกลียดโกรธเธอที่แย่งผู้ชายที่เธอหมายปองไปแต่เจ้าหล่อนไม่ทันจะตอบเพื่อน เสียงเคาะประตูดังขึ้นเสียก่อน วันวิสาเป็นคนเดินไปเปิดประตูให้แขกที่ทุกคนกำลังรอคอย“นาคินทร์!!!” เขากลับมาแล้ว ในสภาพที่ปกติ ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด “ทุกอย่างเรียบร้อย คลิปของคุณถูกทำลายแล้ว ตอนนี้สองคนนั้นอยู่ที่โรงพักแล้ว ยอมออกไปมอบตัวด้วยตัวเอง”“จริงหรือคะ!!!” วิมาลาดีใจจนเกือบจะกรี๊ดออกมา “ขอบคุณนะคะคุณคิน คุณนี่ทั้งหล่อทั้งเก่งเลยค่ะ แล้ววิจะเลี้ยงข้าวนะคะ”“แล้วคินทำยังไงให้พวกนั้นมันยอมมอบตัวได้” วันวิสาถามอย่างใคร่รู้นาคินทร์หันมองหญิงสาวที่กุมความลับเขาไว้ เธอยิ้มนิดๆให้เขา“ก็ไม่ได้ทำอะไร พวกมันคงสำนึกผิดเองมั้ง”“
“คุณอย่าชะล่าใจนะ หมองูคนนั้นท่าทางน่ากลัวจะตายไป บางทีเขาอาจจะมีคาถาอาคมแก่กล้าจนคุณนึกไม่ถึงก็ได้”เขาหัวเราะ “เอาเป็นว่า เรามาคอยดูกันคืนนี้ดีมั้ย ผมเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่ามันจะเก่งสักแค่ไหน”“คุณนี่นะ ยังจะปากดีอีก ฉันว่าคืนนี้คุณอย่าอยู่ที่เมืองนี้เลย ไปไหนก็ได้ ให้มันไกลๆ เชียงใหม่เชียงราย หรือ...”“ไม่ ผมจะอยู่ที่นี่” เขาจับมือเธอแล้วบีบแน่น “ผมวางแผนจะออกไปเล่นงานลูกน้องไอ้อัคนีคืนนี้ ผมนัดแนะกับงูตัวอื่นๆไว้แล้ว พวกเขาเตรียมตัวกันหมดแล้ว ผมไปไหนไม่ได้หรอก”“คุณนี่ดื้อจริงๆเลย” เธอเริ่มจะหัวเสียแล้ว “เออ อยากทำอะไรก็ทำเถอะค่ะ ฉันไม่ยุ่งด้วยแล้ว ขอตัวก่อน เดี๋ยวยัยสาจะมารับไปเยี่ยมยัยวิที่โรงพยาบาล”เจ้าหล่อนหมุนตัวหันหลังให้ชายหนุ่ม เขาคว้าข้อมือเธอไว้“ผมไม่ยอมตายง่ายๆหรอกนะคุณ มีเมียสวยขนาดนี้จะทิ้งให้เป็นหม้ายได้ยังไง คืนนี้รอฟังข่าวดีนะ”ในที่สุดเธอก็แพ้เขา ยอมปล่อยเขาไป ตามที่เขาต้องการ เธอกลับมาอาบน้ำแต่งตัวที่บ้านพักเรียบร้อย ไม่นานนัก วันวิสาก็โทรศัพท์ให้เธอออกไปรอที่ลานจอดรถด้านหน้ารีสอร์ทขณะเดินออกจากเรือนพัก เธอเห็นหมองู เสี่ยอาทรและลูกน้องสามสี่คน กำลังจัดเตรี
“ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่สบายใจอยู่ดี”ชายหนุ่มคว้ามือเธอมาจูบแน่น ก่อนเงยหน้ามองด้วยสายตาออดอ้อน “ผมรักคุณนะ รักคุณมากจริงๆ อดทนอีกนิด แล้วผมจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย รับรองว่าสาวิตรีจะทิ้งผมทันทีเลย”เธอหน้าตื่น “คุณจะทำยังไงคะ หรือว่าคุณจะเผยตัวตน”เขาส่ายหน้า “มันมีวิธีที่ง่ายกว่านั้น”ขณะนั้นเอง บริเวณด้านหน้าของตัวอาคารกลางของรีสอร์ท ได้มีคนกลุ่มหนึ่งเดินออกมา หนึ่งในนั้น มีบิดามารดาของวันวิสา และเสี่ยอาทร บิดาของอัคนีและสาวิตรีเดินมาด้วยกัน ดูจากสีหน้าท่าทางของทุกคน เหมือนมีเรื่องกังวลใจหนักหนา“มีเรื่องอะไรรึเปล่า เสี่ยอาทรถึงมาที่นี่”“ใครคะ”“โน่น พ่อของนายอัคนีตัวแสบ”“อ่อ ว่าที่พ่อตาคุณ”“เอ๊ะนั่น!” ชายหนุ่มไม่ได้สนใจเสี่ยอาทรเท่ากับชายชราอีกคน ที่สวมชุดขาวทั้งตัวและมีหนาวเคราขาวรกรุงรัง “หมองู”“ว่าไงนะคะ” เจ้าหล่อนหันไปมองตามสายตาของชายหนุ่มทันที “หมายความว่าไงคะ เสี่ยอาทรพาหมองูมาที่นี่ทำไมคะ”“คุณจะกลับห้องพักไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่ใช่เหรอ ลงไปได้แล้ว เดี๋ยวผมจะไปคุยกับพวกเขาหน่อย เผื่อมีอะไรจะช่วยได้”หญิงสาวรู้สึกเป็นห่วงเขา แต่ก็ยอมทำตามที่เขาสั่ง เธอลงจากรถไปด้
“แต่พี่ชายตรียังอยู่โรงพยาบาลอยู่เลยนะครับ”“พี่หินฟื้นแล้วค่ะ พ้นขีดอันตรายแล้วด้วย ตรีบอกป๊ากับม๊าแล้ว ท่านทั้งสองก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรนะคะ”แต่คนที่ขัดข้องคือว่าที่เจ้าบ่าวนี่แหละ เขายิ้มแทบไม่ออก ที่ยอมหมั้นในเวลานั้นก็เพราะบิดาใกล้เสียชีวิต อยากให้ท่านมีความสุขและสบายใจที่ลูกชายกำลังจะเป็นฝั่งเป็นฝา ไม่คิดว่าเรื่องมันจะเลยเถิดขนาดนี้“ไหนๆก็หมั้นกันมาตั้งหลายปีแล้ว แต่งกันสักที จะได้ไม่เป็นขี้ปากชาวบ้านเขา แม่ว่าจะไปสู่ขอน้องตรีอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า ลูกคิดว่าไงจ๊ะ”“ผมยังไม่พร้อมครับ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง สายตาคมดุหันมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้า เจ้าหล่อนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ทันที“แล้วเมื่อไหร่จะพร้อมล่ะลูก นี่ลูกพูดแบบนี้มาหลายครั้งแล้วนะ น้องตรีเสียหายมากนะลูก ถูกคนเขาเม้าท์ไปทั่วว่าลูกไม่เอา...”“คุณน้าคะ...” เจ้าหล่อนสะอื้นฮึกฮักขึ้นมาจนทำให้มารดาของชายหนุ่มสงสาร คว้ามากอดแนบอก “ไม่เป็นไรค่ะ ตรีรอได้ นานแค่ไหนก็จะรอ”“ไม่เอานะลูก ไม่ร้องนะหนูตรี ยังไงพี่คินก็ต้องแต่งกับหนูตรีนะ”นาคินทร์ลอบถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย เขาควรต้องจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด เพราะคนที่เ
นาคินทร์ยิ้มนิดๆอย่างรู้ทัน “ไม่ต้องทำเสียงหวานเลย”“อ้าว นี่คุณจะไม่ช่วยหรือคะ”“ช่วยสิ ทำไมจะไม่ช่วยล่ะ เพื่อนรักของคุณทั้งคนนะ”“นี่ถ้ามันจับตัวฉันไป คุณจะทำไงคะ” เจ้าหล่อนแสร้งทำเสียงฉอเลาะ ยั่วเย้า เบียดเนื้อเบียดตัว “หือ...”“ผมก็จะฆ่ามันน่ะสิ” สายตาของเขายิ่งกว่าอสรพิษ ยามก้มเข้าหาใบหน้าเธอแล้วจูบแน่น เธอไม่ปล่อยให้เขาสูบเอาความหวานจากริมฝีปากอิ่มไปแต่เพียงผู้เดียว จึงจูบตอบพร้อมเคลื่อนขยับงับเม้มริมฝีปากร้ายของเขาอย่างกระหาย“อืม...” เขาพึงพอใจไม่น้อย ยามลิ้นอุ่นของหญิงสาวทะลวงเข้ามาในโพรงปากของเขา ชายหนุ่มจึงตวัดลิ้นรัดรึงดุนดันจนพัลวันไปหมด“อา....” เธอครางผ่านลำคอออกมา ขณะเขาอุ้มร่างกายอรชนขึ้นแล้วนำไปที่เตียงนอน ก่อนกระโจนลงไปนัวเนียเล้าโลมอย่างกระหืดกระหาย จนร่างกายหญิงสาวอ่อนระทวย“ที่รักขา....”“ผมรักคุณ...แพทอง ผมรักคุณ” เขาคร่ำครวญขณะสอดใส่ลำยาวเข้าไปในกายเธอ หญิงสาวสะดุ้งโหยง ก่อนตวัดสองขาขึ้นรัดสะเอวของชายหนุ่มไว้ สะโพกแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อเริ่มขยับ กระแทกกระทั้นอย่างดุดัน“โอ้วววววว” หากแต่ทำไปได้สักพัก เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นก๊อกๆ ก๊อกๆ ชายหนุ่มจำต้องหยุดทำรั
“อยู่กับตรีที่นี่ได้มั้ยคะ ตรีเหงาน่ะค่ะ”เขาปลดมือเจ้าหล่อนออกอีกครั้ง อย่างไม่ไยดี “พี่มีอะไรต้องทำเยอะแยะเลย ไม่ว่างมาเฝ้าพี่ชายตรีหรอก อีกอย่าง ตรีก็รู้อยู่แก่ใจว่าพี่ชายของตรีก็ไม่ค่อยชอบขี้หน้าพี่สักเท่าไหร่ จริงมั้ย?”เมื่อฟังเหตุผลข้อหลัง เจ้าหล่อนจึงยอมปล่อยชายหนุ่มออกจากห้องไป ไม่กล้ากระเง้ากระงอดอีก เพราะกลัวเขารำคาญ เธอตั้งใจจะหาโอกาสครั้งใหม่ ในการยั่วชายหนุ่มแล้วรวบหัวรวมหางซะ ให้เขาตกเป็นของเธอเธอกับเขาจะได้แต่งงานกันให้เร็วที่สุด!!! วิมาลายังนอนลืมตานิ่งๆอยู่บนเตียงคนไข้ โดยมีเพื่อนรักสองคนนั่งข้างเตียง ดูแลไม่ห่าง เจ้าหล่อนกำลังนึกถึงสิ่งที่โดนสองคนร้าย ลูกน้องสุดชั่วของอัคนีกระทำกับเธอ!!!“ว่าไงยัยวิ จะบอกได้รึยังว่าเกิดอะไรขึ้น?” แพรทองเริ่มคาดคั้น เพราะเห็นเพื่อนเงียบไปนาน แต่วันวิสาแอบหยิกเนื้อแพรทองเบาๆเพื่อเตือนให้หยุดกวนสมาธิเพื่อนเสีย “พักผ่อนก่อนเถอะวิ จะได้แข็งแรงเร็วๆ”“ไม่” วิมาลาพูดขัดขึ้น “ฉันหลับไม่ลงจริงๆ”แพรทองจับมือวิมาลาไว้แน่น “พวกมันทำอะไรเธอรึเปล่า”“ทำสิ พวกมันทำ”“ไอ้พวกเลวระยำ” วันวิสาสบถด้วยความเจ็บใจ “เธอจำหน้าพวกมันได้ครบใช่มั้ย”“ใ
“บอกว่าคุณเป็นงูจงอางเหรอ”เขาหัวเราะเสียงใส อารมณ์ดี ก่อนจะหอมแก้มเธอเสียฟอดใหญ่ “บอกว่าเราสองคนเป็นผัวเมียกันแล้ว และจะแต่งงานกันให้เร็วที่สุด”หญิงสาวยิ้มอย่างมีความสุข ในอ้อมกอดของชายหนุ่มคนแรกในชีวิตที่เธอร่วมรักด้วยและมีใจเสน่หา เธอเสียพรหมจรรย์ให้แก่เขา ผู้ชายครึ่งงู ตัวประหลาดที่มีอยู่จริงในโลกนี้“คุณวิฟื้นรึยัง”ชาญวุฒิถามเมีย ทันทีที่เจ้าหล่อนออกมาจากห้องพักฟื้นคนไข้ของโรงพยาบาลอำเภอ “ฟื้นแล้ว แต่หลับไปอีก เพราะฤทธิ์ยา”“เสียดายที่จับคนร้ายไม่ได้”“เอาไว้ให้ยัยวิฟื้นและมีสติก่อน เมื่อไหร่มันพร้อมจะให้ปากคำกับตำรวจ ไม่ว่าจะใหญ่โตคับฟ้ามาจากไหน ฉันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเลย”“ยัยสา!” เสียงเรียกของแพรทองดังมาแต่ไกล วันวิสากับชาญวุฒิหันไปมองต้นเสียง ก็ได้เห็นแพรทองกับนาคินทร์เดินมาด้วยกัน“ยัยผึ้ง!”วันวิสาและแพรทองเข้าสวมกอดกันทันที เพื่อปลอบโยนกันและกัน ตามประสาเพื่อนรักที่รักกันราวกับพี่น้องท้องเดียว “ไม่เป็นไรแล้ว ยัยวิปลอดภัยแล้ว มันไม่เป็นอะไรแล้ว”เมื่อผละจากกัน วันวิสาจับมือแพรทองไว้แน่น“ฉันขอโทษนะที่ชวนพวกแกมา เลยทำให้พวกแกต้องเจอกับเหตุการณ์บ้าบอแบบนี้ ฉันดูแลพวก