หัวใจของฌอนบีบรัดแน่นเขาเอื้อมไปดึงแคทเธอรีนเข้ามาในอ้อมแขนและกอดเธอแน่นความอบอุ่นจนร้อนระอุจากร่างกายเขาโอบล้อมเธอเอาไว้ เธอเอนซบอกเขาโดยไม่รู้ตัว กำอกเสื้อเชิ้ตของเขาแน่นแต่พอเธอนึกได้ว่าเขาทําให้เธอกลัว เธอก็ยกมือขึ้นหยิกหน้าอกของเขาอย่างแรง “ฌอน ฮิลล์ บ้าเอ๊ย! ทําไมคุณต้องทําให้ฉันกลัวด้วย?”ฌอนร้องซี๊ดด้วยความเจ็บ แต่เมื่อเขาได้ยินเสียงที่นุ่มนวลของผู้หญิงคนนั้น เขาก็โกรธไม่ลง เขาได้กลิ่นน้ำหอมบนผมแถมยังได้กอดร่างที่อ่อนนุ่มของเธออีก รู้สึกว่าหัวใจของเขาอิ่มเอิบอย่างเต็มที่จากนั้นเสียงหงุดหงิดของซูซี่ก็ดังขึ้น “หืม คุณสองคนกอดกันและทิ้งหนูไว้อยู่ข้าง ๆ เนี่ยนะ”แคทเธอรีนหน้าแดงและอยากจะข้ามไปหาเธอ แต่ชิงช้าสวรรค์ยังคงสูงอยู่ ขาของเธอจึงอ่อนยวบ“ลืมมันไปเถอะ หนูจะดูแลตัวเอง” ซูซี่มองออกไปนอกหน้าต่างแคทเธอรีนลดสายตาลงอย่างรู้สึกผิดฌอนก้มมองเธอเห็นขนตาเป็นแพยาวเหมือนพัดโบกไหวไปมาสามนาทีต่อมา ชิงช้าสวรรค์ลงมาอยู่ช่วงสองในสามของขาลง เธอก็ผละออกจากอ้อมแขนของเขาทันทีเพื่อมานั่งข้างซูซี่ดวงตาของฌอนหรี่ลงมองอ้อมกอดที่ว่างเปล่าของตนและนึกในใจว่า “นั่นเป็นเพียงรอบแรก ยังมี
แคทเธอรีนสับสนว่าเกิดอะไรขึ้นจนกระทั่งเห็นคู่รักที่อยู่ข้าง ๆ เธอตัวแข็งและจําเรื่องเก่าบางอย่างได้ เธอและฌอนเคยมีประสบการณ์เดียวกันนี้มาก่อนเมื่อพวกเขามากินอาหารที่ร้านสาขา KFC ในเมลเบิร์นเขาจําอะไรขึ้นมาได้เหรอ?ขณะที่เธอกําลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงบริกร “คุณครับ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า? คุณ!“มีคนเป็นลม เขามากับใครเนี่ย?”“...”เธอมองไปทางห้องน้ำที่มีผู้คนต่างออกัน เธอรีบวิ่งฝ่าฝูงชนผ่านเข้าไปพบฌอนนอนหมดสติอยู่บนพื้นแล้ว“ฌอน... ฌอน...” เธอดึงเขาขึ้นมาและเรียกชื่อเขาเป็นเวลานาน แต่เมื่อเขาไม่ตอบสนอง เธอก็รีบกด 000ไม่นาน รถพยาบาลก็มาและเธอก็พาฌอนไปโรงพยาบาลกับซูซี่ซูซี่ดูกังวล “แม่คะ เกิดอะไรขึ้นกับคุณพ่อเฮงซวยคะ? ทําไมจู่ ๆ เขาก็เป็นลมล่ะ?”แคทเธอรีนขมวดคิ้ว เธอสงสัยว่าฌอนอาจจําอะไรบางอย่างได้เมื่อเขาได้ยินการสนทนาของคนคู่นั้นแต่นักจิตวิทยาเคยกล่าวไว้ว่ามีเพียง 0.1% ของผู้ถูกสะกดจิตเท่านั้นที่จะฟื้นสภาพได้อีก บางคนที่คืนสติกลับมากลายเป็นคนเสียสติก็มีทันใดนั้น ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก แพทย์เดินออกมาบอก “ผู้ป่วยไม่ได้นอนมาสองสามวันหรือเปล่า? ผมเชื่
ฌอนกุมขมับ "ทําไมฉันถึงมาอยู่นี่ได้?"ตอนนั้นเขาอยู่กับซูซี่และแคทเธอรีน กำลังกินแมคโดนัลด์ในสวนสนุกนี่นา“นายไม่ได้พักผ่อนติดต่อกันหลายวัน ทำให้เป็นลมเนื่องจากความผิดปกติของเส้นประสาทสมอง แคทเธอรีนพานายมาส่งที่นี่” เชสเตอร์ชำเลืองมองเขาอยู่นานเอ่ยว่า “แทนที่จะเป็นลม เรียกว่านายผล็อยหลับไปเพราะว่าเหนื่อยมากคงจะดีกว่า นายคิดว่าตัวเองเป็นคนเหล็กหรือไง? ฌอนค่อย ๆ ย่นคิ้วเข้าหากัน“แล้วนายหิวไหม? ฉันจะเรียกเฮดลีย์…”“ฉันจำได้ที่นายบอกว่าฉันเคยกินเคเอฟซีกับแคทเธอรีนมาก่อน” ฌอนขัดจังหวะเขาทันที“ใช่ ทําไมนายพูดถึงเรื่องนั้นขึ้นมาล่ะ?”“ว่าแต่ฉันเคยไปกับผู้หญิงคนอื่นมาก่อนด้วยไหม?” ฌอนถาม"ฉันจะรู้ได้ไง?" เชสเตอร์รู้สึกไม่อยากเชื่อ “อาจจะไม่ ทำไมเหรอ?""ก็ไม่มีอะไร"แม้ฌอนพูดแบบนั้น แต่เขาก็ผลุดลุกนั่งทันที เปิดผ้าห่มออกและเปลี่ยนเสื้อผ้ารองเท้า “ช่วยฉันจัดการเอกสารออกจากโรงพยาบาลด้วย ฉันจะไปแล้ว""ฌอน ฮิลล์" เชสเตอร์โกรธมาก “นายจริงจังกับสุขภาพของตัวเองหน่อยได้ไหม”“ตอนนี้ฉันหายแล้ว ไม่เป็นไร”ฌอนเปิดประตู ยาเอลซึ่งรออยู่ที่ประตูพูดทันทีว่า “คุณชายใหญ่ฮิลล์ คุณจะไปไหนคะ? ฉันจะ
“ใช่ แคธี่บอกผมครั้งก่อนว่าเธอชอบดอกกุหลาบสีชมพู… ”ก่อนที่ไอแซคจะพูดจบ ดอกไม้ในมือของเขาก็ถูกกระชากไป ฌอนคว้าดอกไม้และขว้างมันลงในถังขยะที่อยู่ข้าง ๆ ทันที“ฌอน ฮิลล์ คุณกําลังทําอะไรอยู่” ความโกรธปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่หล่อเหลาของไอแซค“อยู่ให้ห่างจากแคทเธอรีนถ้าคุณต้องการให้ตระกูลสตริงเกอร์ยังอยู่ดีไม่พังย่อยยับไปเสียก่อน” ฌอนเตือนเขา“คุณไม่อยู่ในฐานะที่จะยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของผมกับแคทเธอรีน ผมรู้ว่าเธอเป็นภรรยาเก่าคุณ แต่คุณสองคนหย่ากันแล้ว คุณไม่มีสิทธิ์มายุ่งเกี่ยวกับเธออีก” ไอแซคยิ้มเยาะ“คุณไม่เข้าใจที่ผมบอกเหรอ? อย่าคิดว่าผมไม่รู้ว่าที่คุณกําลังไล่ตามแคทเธอรีนเพียงเพราะตัวตนและสถานะของตระกูลยูลเท่านั้น สุดท้ายทำไปก็เพื่อประโยชน์ของตระกูลสตริงเกอร์เอง แต่คุณต้องเข้าใจว่าถ้าคุณทําให้ผมขุ่นเคือง แค่ผมบอกคําเดียวเท่านั้นชีวิตของตระกูลคุณก็จบเห่”ดวงตาของฌอนมืดหม่นและเสียงต่ำของเขาแสดงให้เห็นว่าความอดทนของเขาถึงขีดสุด“ฌอน ฮิลล์ คุณปล่อยเธอไปไม่ได้เหรอ? ใครบ้างในบ้านเมืองนี้ไม่รู้ว่าคุณมีซาร่า นีสันอยู่เคียงข้างคุณแล้ว? ในฐานะผู้ชาย คุณไม่คิดว่าคุณทำตัวไร้ยางอายเกินไปหรือ?”
ฌอนเห็นท่าทางตกใจของแคทเธอรีนมุมปากของเขายกยิ้มเล็กน้อย เขาโกหกได้ไม่เนียนแต่เธอเชื่อเขาอย่างง่าย ๆ“ที่ผมพูดเป็นความจริงนะ ผมแนะนําให้คุณอยู่ห่างจากเขาดีกว่า” ฌอนกล่าวเสริมแคทเธอรีนกลอกตามองเขาและหยิบโทรศัพท์เธอออกมาเพื่อโทรหาไอแซคฌอนกล่าวว่า "ไอแซคไปแล้ว"“ฌอน ฮิลล์ คราวนี้คุณทําอะไรอีก?” แคทเธอรีนจ้องมาที่เขา“ผมบอกเขาว่าการไล่ตามคุณทําให้ผมขุ่นเคือง และเขาก็จากไปโดยไม่พูดอะไรสักคํา” ฌอนกล่าวอย่างโอหัง "เขามันขี้ขลาดตาขาว"แคทเธอรีน "..."ถ้าเธอไม่รู้จักไอแซคดี เธอคงจะเชื่อเรื่องไร้สาระของฌอนชายคนนี้โกหกขึ้นมาหน้าด้าน ๆเมื่อเห็นว่าเธอหยุดพูดและมองเขาสีหน้าเรียบเฉยไร้อารมรณ์ด้วยใบหน้าที่สวยงามของเธอ ฌอนจึงกระแอมก่อนเอ่ยว่า “ผมมาที่นี่เพื่อขอบคุณที่ช่วยส่งผมไปโรงพยาบาลเมื่อวานนี้ ขอผมเลี้ยงอาหารค่ำคุณเพื่อแสดงคำขอบคุณคืนนี้ดีไหม?”“ขอบคุณแต่ไม่ต้องหรอก เมื่อวานนี้ฉันส่งคุณไปโรงพยาบาลด้วยความเมตตาและจบลงด้วยการถูกเพื่อนที่แสนดีของคุณขู่กระโชกโฮกฮากใส่ พวกเขาบอกว่าฉันเหมือนผีที่คอยตามหลอกหลอนคุณ และฉันถือโอกาสนี้กลับไปคบกับคุณ ฉันเลยบอกให้พวกเขาเตือนคุณให้จ่ายคืนค่ารักษา
ฌอนตามแคทเธอรีนไป เมื่อเขาเห็นความเด็ดเดี่ยวของแคทเธอรีนกลับมา เขารู้สึกว่าถ้าเขาไม่ได้ชี้แจงบางสิ่งให้ชัดเจน เขาอาจจะสูญเสียเธอไปตลอดกาล “อย่าเพิ่งไป อันที่จริงผม... ชอบคุณมาตั้งแต่เมื่อก่อน”นี่เป็นครั้งแรกที่เขาแสดงความรู้สึกที่แท้จริงของเขาออกมาแคทเธอรีนหยุดชั่วขณะ และฌอนก็ลดเสียงลงด้วยความผิดหวังเสียใจ “แต่ผมไม่สามารถพูดได้เพราะผมรู้จักซาร่ามานานเหลือเกินและติดค้างเธอมากเกินไป ผมไม่อาจทําให้เธอผิดหวังได้ ดังนั้นผมจึงทําได้เพียงเลือกที่จะหย่ากับคุณ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทําไมผมถึงเปลี่ยนใจ ผมชอบใช้เวลาอยู่กับคุณมากกว่า เมื่อผมเห็นคุณกับเลียมหรือไอแซค ผมก็โกรธ”"อย่างนั้นเหรอ?"แคทเธอรีนหันมองเขาตาแดงก่ำและจ้องเขาด้วยรอยยิ้มประชดประชัน “ฌอน ฮิลล์ คุณปักหลักพัวพันกับซาร่าไปขนาดนั้นแล้ว คุณก็มาบอกว่าชอบฉันแต่เทียบกับความรู้สึกผิดที่คุณมีต่อซาร่าได้ไหม? ครั้งต่อไปที่เธอพูดอะไรขึ้นมาสักคํา คุณก็จะทิ้งฉันไปอย่างไร้ความปราณีอีกครั้งสิ คุณเคยได้ยินนิทานเรื่องเด็กเลี้ยงแกะหรือเปล่าคะ? ฉันเป็นชาวบ้านในเรื่องนั้นแหละฉันไม่เชื่อใจคุณอีกแล้วค่ะ”“ไม่ มัน... ระหว่างซาร่ากับผมเป็นไปไม่ไ
”คุณลินซ์อย่ากลัวไปเลยครับ พวกเราไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร” พ่อบ้านพูดพลางเอามือดันประตูไว้“ฉันทำลายชื่อเสียงของร็อดนีย์ สโนว์ไปขนาดนั้น แล้วพวกคุณจะไม่ได้มีเจตนาร้ายได้ยังไง?”เฟรยาไม่เชื่อตำของพวกตระกูลใหญ่เหล่านี้เลย ในอดีตแคทเธอรีนเคยถูกนายท่านตระกูลฮิลล์เรียกพบ ตอนนั้นหน้าเธอก็ถูกทำจนเสียโฉมเธอยังหาแฟนไม่ได้เลยนะ จะให้มาโดนทำเสียโฉมหรือโดนกักขังได้ยังไง“ถ้าคุณให้ความร่วมมือ เราก็จะไม่บังคับจับตัวคุณไป” พ่อบ้านถอนหายใจอย่างหมดทางเลือกเมื่อเห็นพวกการ์ดบุกเข้ามา แคทเธอรีนก็เดินมาหา “เฟรยา ฉันจะไปกับเธอ”“คุณโจนส์ เรื่องนี้…” พ่อบ้านขมวดคิ้ว เขาเคยได้ยินชื่อแคทเธอรีนมาบ้าง เธอเป็นทายาทของตระกูลยูล“ฉันเชื่อว่าตระกูลสโนว์คงไม่ทำอะไรไร้เหตุผล ถ้ามีเรื่องจะคุยเราก็คุยกันได้ บอกตรง ๆ ว่าฉันไม่ไว้ใจที่จะให้เพื่อนฉันไปคนเดียว”“ก็ได้ครับ” พ่อบ้านพยักหน้า “งั้นก็ไปด้วยกัน”“แคธี่ เธออยากไปกับฉันจริงเหรอ?” เฟรยากังวล พวกเธอทั้งสองไม่รู้จักตระกูลสโนว์เลย ใครจะรู้ว่าพวกเธอกำลังเดินเข้าถ้ำเสือหรือเปล่า?“ไม่เป็นไรหรอก ฉันว่าตระกูลสโนว์คงไม่ก่อให้เกิดเรื่องยุ่งยากอะไรหรอก ถ้าเห็นแก่พ่อข
เมื่อคิดว่าเฟรยาอาจกลายเป็นคุณหญิงคนที่สองของตระกูลสโนว์ในอนาคต พ่อบ้านก็อดไม่ได้ที่จะเสริมว่า “ตอนนี้คุณหญิงใหญ่คือท่านประธานของสโนว์คอร์ปอเรชั่นและโดยปกติมักจะยุ่งมากครับ”“คุณหญิงใหญ่...” เฟรยาตกตะลึงเล็กน้อยแคทเธอรีนมองเธอด้วยรอยยิ้มคลุมเครือ “ใช่ แฟนเก่าของพี่ชายเธอคือคุณหญิงใหญ่ของตระกูลสโนว์”“... ฉันล้อเล่นน่ะ บางทีฉันอาจเข้าใจผิด” มุมปากของเฟรยายกยิ้ม เธอเชื่อว่าพี่ชายของเธอไม่มีความสามารถจะคบกับผู้หญิงระดับนั้นในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงห้องโถงใหญ่และเห็นมีคนสามคนนั่งอยู่ข้างในคนที่นั่งอยู่ตรงกลางเป็นชายชราผมขาวหน้าตาดูใจดี ถัดจากเขาเป็นชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าหล่อเหลาและหญิงวัยกลางคนที่แต่งหน้างดงาม ผู้หญิงคนนั้นดูค่อนข้างคล้ายร็อดนีย์ แค่ชำเลืองก็รู้เลยว่าพวกเขาเป็นพ่อแม่ของร็อดนีย์“คุณปู่ คุณลุง คุณป้า สวัสดีค่ะ” เฟรยาและแคทเธอรีนทักทายพวกเขาอย่างสุภาพโดยพร้อมเพรียงกันพ่อบ้านอธิบายจากด้านข้างว่า “นี่คือคุณแคทเธอรีน โจนส์ ลูกสาวของมิสเตอร์โจเอล ยูล เธอเป็นเพื่อนที่ดีของคุณลินช์และมาด้วยเพราะเธอเป็นห่วงครับ”นายท่านสโนว์พยักหน้า หลายคนในแวดวงชนชั้นสูงได้พูดคุยเกี่ยวกั
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก