แคทเธอรีนรู้สึกอึ้งไปชั่วขณะ เธอจึงพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “คุณผู้หญิงคะ ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด แมวของฉันแค่อ้วนเท่านั้นเองค่ะ”“ฉันไม่คิดว่าเป็นอย่างนั้นนะคะ ฉันบังเอิญพบกับสามีของคุณก่อนหน้านี้แล้วถามเรื่องนี้ด้วย สามีของคุณยอมรับว่าแมวกำลังท้อง”“สามีของฉันหรือคะ?”คนที่ผู้หญิงคนนั้นหมายถึงคือฌอนหรือเปล่า?อันที่จริงฌอนจะพาแมวออกไปเดินเล่นไม่บ่อยนัก อย่างไรก็ตาม ฟัดจ์คงไม่ได้ท้อง“คุณผู้หญิงคะ ฉันมั่นใจว่าคุณต้องจำคนผิดแล้วคิดว่าเป็นฌอนแน่ ๆ ค่ะ” “เรื่องนั้นไม่น่าจะเป็นไปได้นะคะ ถึงฉันจะสายตายาวไปสักหน่อย แต่ท่าทางของสามีคุณไม่เหมือนใครนะคะ ไม่มีใครในละแวกที่ดูคล้ายกับเขาเลย แม้แต่คนมีชื่อเสียงในทีวีก็ยังดูหล่อได้ไม่เท่ากับเขา ยิ่งไปกว่านั้น แมวของฉันค่อนข้างคุ้นเคยกับแมวของคุณ เพราะพวกมันเล่นด้วยกันมาหลายครั้งแล้ว” ขณะที่ผู้หญิงคนนั้นกำลังพูด แมวของเธอก็เดินมา ฟัดจ์ร้องเมี๊ยวทักทายเจ้าแมวตัวนั้นทันที พวกมันดูสนิทสนมกันราวกับเป็นเพื่อนเก่าแคทเธอรีนรู้สึกผิดหวังขึ้นมาทันที ฟัดจ์ท้องเหรอ?เดี๋ยวก่อนนะ นี่ฟัดจ์เป็นแมวตัวเมียจริง ๆ เหรอ?คุณพระช่วย เธอคิดมาตลอดว่าฟัดจ์เป็นแมวตั
“เลิกหลอกลวงสักที! คุณบอกเพื่อนบ้านว่าฟัดจ์ท้อง ตอนที่ฉันไปหาสัตวแพทย์เพื่อถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันรู้มาว่าเธอกำลังจะคลอดในเร็ว ๆ นี้ เธออาเจียนเพราะท้อง ไม่ใช่เพราะอาหารที่ฉันให้”แคทเธอรีนยิ่งโกรธมากยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อเธอพูด แล้วเธอก็รู้สึกไม่พอใจ “ฌอน คุณคิดว่ามันสนุกมากเหรอที่หลอกฉันได้ ทำเหมือนฉันเป็นคนโง่?”ท่าทางของฌอนเปลี่ยนกลับเป็นเคร่งขรึม เขารู้สึกอับอาย“แคทเธอรีน คุณทำความเข้าใจเรื่องนี้ซะใหม่จะดีกว่า ก่อนหน้านี้คุณเป็นคนที่อยากจะย้ายเข้ามา ผมก็แค่ทำตามความต้องการของคุณโดยยื่นข้อเสนอตามความพอใจของผม”“ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันควรจะขอบคุณที่คุณโกหกฉันอย่างนั้นเหรอ...” แคทเธอรีนขบฟันของเธอ“ตอนนั้นคุณไม่ดีใจที่ได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่เหรอ? ยิ่งไปกว่านั้น ผมยังช่วยชีวิตคุณเองไว้ถึงสองครั้ง ถ้าไม่ใช่เพราะผม คุณคิดว่าคุณจะยังคงอยู่ที่นี่คุยกับผมอย่างครบสามสิบสองแบบนี้ได้หรือเปล่า?”ฌอนรู้สึกหงุดหงิด เพราะผู้หญิงคนนี้ไม่รู้จักตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเอง ตอนนั้นที่เธอไม่มีเงินและไม่มีที่ไป เขาก็ใจดีมากพอแล้วที่ให้เธอย้ายเข้ามาแล้วเธอล่ะ?สิ่งที่เธอทำกับเขาช่างน่ารังเกียจจริ
แคทเธอรีนดึงดันที่จะเดินกลับไปยังวิลล่าของเวสลีย์ เพื่อควบคุมดูแลความคืบหน้าของการปรับปรุงก่อสร้างเธออยู่ที่ไซต์งานตลอดทั้งวัน เวสลีย์แวะมาในช่วงบ่ายเพื่อนำของขวัญมามอบให้กับคนงานที่ทำงานอย่างหนักเธอรู้สึกซาบซึ้งเมื่อซองหนาเตอะวางอยู่บนมือของเธอ “ประธานโลว์ยอนส์คะ ของขวัญชิ้นนี้อาจจะมากเกินกว่าที่ดิฉันสมควรจะรับไว้”“เป็นแค่ของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อแสดงความขอบคุณครับ” เขาพิจารณาใบหน้าของเธอคราว ๆ “คุณดูไม่สบาย ป่วยหรือเปล่าครับ?”“แค่ไข้หวัดค่ะ”“หยุดพักผ่อนบ้าง ผมเชื่อว่าการปรับปรุงก่อสร้างจะเสร็จตามกำหนด ผมไม่ใช่เจ้านายที่ใจไม้ไส้ระกำอะไรนะครับ” เสียงของเขาฟังดูอบอุ่นและอ่อนโยนเธอพยักหน้ารับ คนนอกกลับมีความคิดมากกว่าฌอนที่อยู่กับเธอฌอนไม่แม้แต่จะถามว่าเธอเป็นอย่างไรบ้างตอนนี้เขาอาจจะเกลียดเธอเข้าไส้ไปแล้วก็ได้ แล้วทำไมเขาต้องเป็นห่วงด้วย?ผู้หญิงคงจะไม่สามารถใช้ชีวิตให้มีความสุขกับผู้ชายที่ใจจืดใจดำได้ใช่ไหม?“ขอบคุณนะคะประธานโลวยอนส์”เธอพยักหน้าอีกครั้งและเดินออกมาเธอเดินได้เพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น ก่อนที่เธอจะรู้สึกเวียนหัว โชคดีที่เวสลีย์ก้าวไปข้างหน้าและรับเธอเ
เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้วตั้งแต่ฌอนกลับมาจากที่ทำงาน ทว่าก็ยังไม่มีวี่แววของแคทเธอรีนเลย นี่เธอไม่สนใจเจ้าฟัดจ์อีกแล้วเหรอ ดูเหมือนเธอกำลังท้าทายเขาอยู่จริง ๆ “มานี่เจ้าฟัดจ์ ไปซื้อผลไม้กับฉันเถอะ”เขาอุ้มแมวขึ้นมาบนอ้อมแขนของเขาเจ้าฟัดจ์ร้องเหมี๊ยวสองสามครั้งเป็นการประท้วง แมวที่กำลังตั้งท้องไม่ต้องการจะออกไปข้างนอก ทว่าเขาก็ยังจะพาเธอออกไปด้วยอยู่ดีมีร้านค้าหลายร้านตั้งอยู่ใกล้กับทางเข้าหลัก ฌอนเดินไปที่ร้านขายผลไม้ด้วยอาการเหม่อลอย เขาเลือกดูผลไม้อยู่ครู่หนึ่งแต่ก็ไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรดีทำไมป่านนี้แล้วแคทเธอรีนยังไม่กลับมาถึงบ้านอีก?หญิงเจ้าของร้านผลไม้ที่ยืนอยู่ข้างประตูแอบชื่นชมชายหนุ่มที่หล่อเหลาคนนี้เป็นพิเศษเขามาทำอะไรที่นี่? เขาเดินไปรอบ ๆ ร้านนับครั้งไม่ถ้วนแต่ไม่ซื้ออะไรเลย เธอยังสังเกตเห็นอีกว่าเขาเอาแต่แอบมองมาทางประตู เป็นไปได้ไหมที่เขาสนใจเธอแต่เขินเกินกว่าที่จะชวนเธอไปเที่ยวความเขินอายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ ในที่สุดเธอก็รวบรวมกล้าเพื่อเดินเข้าไปหาเขาจู่ ๆ ความเคร่งขรึมก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชายผู้นี้ ขณะที่เขาก้าวยาว ๆ ไปที่ประตูเธอชะงักฝีเท้าพลางเบนสา
“ฉันทราบค่ะว่าฉันเป็นภรรยาตามกฎหมายของคุณ แต่คุณเคยปฏิบัติกับฉันแบบนั้นไหมคะ?” แคทเธอรีนถามเยาะ “ในความคิดของคุณ ฉันไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าผู้หญิงหน้าด้าน ด้อยค่ากว่าคนที่คุณรู้จัก”รวมถึงอีธานและรีเบคก้าถ้าเป็นแบบนั้น ทำไมเธอถึงต้องยอมอ่อนข้อ?ฌอนหงุดหงิดกับท่าทางเอาแต่ใจของเธอ “ดีแล้วที่คุณรู้...”“ค่ะ ฉันไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนแล้วเอาแต่คิดว่าตัวเองมีโอกาส ต่อจากนี้ไปอย่ามายุ่งกับฉันอีก! เราแต่งงานกับตามข้อตกลงเท่านั้น เราคงจะไม่ต่างอะไรจากเส้นขนาน ถ้าฉันไม่ฝืนใจตัวเองมาอยู่ที่นี่”“อย่างน้อยคุณก็จำได้ว่าคุณฝืนใจมาอยู่ที่นี่” น้ำเสียงของเขาเกรี้ยวกราด “ผมก็ไม่อยากมีอะไรกับคุณเหมือนกัน ผมไม่อยากแปดเปื้อนด้วยโรคจากความสกปรกโสมมที่คุณพากลับมาบ้านหลังจากไปติดมาจากที่อื่น”เหอะ...สกปรกโสมมเธอรู้สึกว่าเลือดกำลังแล่นขึ้นไปบนหัวของเธอ ตอนนี้ร่างกายของเธอสั่นจนเห็นได้ชัดเธอคิดว่าเธอจะอยู่จนเจ้าฟัดจ์คลอดลูกไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เจ้าแมวตัวนี้ก็ชอบเธอจริง ๆ ทว่าเธอรู้แล้วว่าเธอไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อีกแล้วริมฝีปากที่ซีดเผือดของเธอยกขึ้นยิ้มเป็นรอยยิ้มประชดประชัน “ได้ค่ะ เพื่อไม่ให้
ในที่สุดแคทเธอรีนก็เป็นอิสระ40 นาทีต่อมา เธอก็มาถึงบ้านของเฟรยาผมของเฟรยากระเซอะกระเซิง เธออ้าปากหาวออกมาด้วยความง่วงกับการมาเยือนที่ไม่ได้บอกกล่าวของแขก “ทะเลาะกันอีกแล้วเหรอ? คราวนี้เธอตั้งใจจะอยู่ที่นี่กี่วัน?”“คราวนี้จริงจังนะ ฉันจะไม่กลับไปที่นั่นแล้ว” แคทเธอรีนเปลี่ยนเป็นรองเท้าเดินในบ้านก่อนจะเข้าไป“เธอต้องล้อฉันเล่นแน่ ๆ เธอเสียสละแต่งงานและตอนนี้เธอก็เปลี่ยนใจแล้วเหรอ?”เธอเม้มริมฝีปากซีดของเธอก่อนจะฝืนยิ้มด้วยความขมขื่น “ไม่ใช่ทุกข้อตกลงจะได้รับประกันผลกำไร ฉันจะถือว่ามันเป็นการลงทุนที่ล้มเหลว”เฟรยาตกตะลึงจนอ้าปากค้าง “นี่เธอจริงจังหรือเปล่า?”“ใช่” แคทเธอรีนทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา เธอยังดูไม่สบายและอ่อนเพลีย “ฉันเหนื่อย เหนื่อยมากจริง ๆ”เฟรยาขมวดคิ้วเข้าหากัน “นี่เธอเป็นหวัดหรือเปล่า?”“ใช่” แคทเธอรีนกลั้นน้ำตาของเธอไม่ให้ไหลออกมา “ทุกคนเห็นว่าฉันป่วยยกเว้นเขา ฉันก็หวังที่จะได้รับการสนใจและดูแล แม้ว่าเขาจะเป็นน้าของอีธาน ฉันก็คงไม่ได้รับการเคารพจากรีเบคก้าถ้าเขาไม่ชอบฉัน ฉันไม่ต้องการให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง”เฟรยาเฝ้าดูเธออย่างใกล้ชิด และคิดว่าเธอคงจะยอมแพ
สนามกอล์ฟ บูม! ฌอนเหวี่ยงไม้กอล์ฟและลูกกอล์ฟหายไปในระยะไกลทันทีเชสที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รู้สึกถึงสายลมที่พัดผ่านเขาไปและตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้นับตั้งแต่แคทเธอรีนทิ้งเขาไป ฌอนก็ดูอารมณ์เสียแบบนี้ทุกวัน เชสเองก็กำลังจะเป็นบ้าไปด้วย“แคทเธอรีนยังไม่กลับมาอีกเหรอ?” “ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของฉันถ้าเธอจะอยู่หรือตาย” ฌอนพ่นลมหายใจออกมาอย่างดูถูกก่อนจะเดินไปข้างหน้า จู่ ๆ ท้องของเขาก็ร้องขึ้นมาเชสเกาปลายจมูกของเขา “ฉันรู้ว่านายชินกับอาหารที่เธอทำ แต่ตอนนี้นายจะปล่อยให้ตัวเองอดตายไม่ได้ เธอทิ้งนายแล้ว...”“เปล่า” ฌอนตอบด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด “ในที่สุดฉันก็สามารถควบคุมน้ำหนักได้ตอนที่เธอย้ายออกไปแล้ว”“...”เหงื่อผุดขึ้นมาจากหน้าผากของเชส เขาไม่เคยเห็นด้านนี้ของเพื่อนมาก่อนในตอนนั้นเองที่เขารู้สึกชื่นชมแคทเธอรีนที่เธอสามารถทนอยู่กับผู้ชายแบบนี้ได้ตั้งนาน ถ้าเป็นเขาเองคงจะเป็นบ้าภายในสองวันแน่ ๆ“มะรืนนี้เป็นงานฉลองหมั้นของรีเบคก้ากับอีธาน แคทเธอรีนอาจจะไปร่วมงานด้วยเหมือนกัน ตระกูลโจนส์ส่งบัตรเชิญมาให้ฉันด้วย ฉันควรไป...แล้วเกลี้ยกล่อมเธอไหม?”ฌอนเลิกคิ้วขึ้น “ฉันได้
“เห้ย พูดแบบนั้นไม่ดีเลยนะ คุณนี่ช่างแตกต่างไปจากคุณหนูโจนส์คนโตมากแม้ว่าพวกคุณทั้งสองคนจะมาจากครอบครัวเดียวกันก็ตาม”“นั่นสิ! ก่อนหน้าคุณหนูโจนส์คนโตยังนำกาแฟและชามาให้พวกเราเลย คุณถูกเลี้ยงดูโดยสามีภรรยาตระกูลโจนส์มาตั้งแต่เกิด แต่เมื่อเปรียบเทียบดูแล้วมารยาทของคุณแย่มาก”แคทเธอรีนหรี่ดวงตาของเธอลงแล้วชายหนุ่มรูปหล่อที่สวมชุดสูทสีเทาเข้ามาช่วยเธอเอาไว้ได้ทัน น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยการข่มขู่อย่างชัดเจน“วันนี้เป็นวันสำคัญสำหรับตระกูลโจนส์และโลว์ มีแขกผู้มีเกียรติมากมายที่มาร่วมงาน รวมถึง ซินดี้ เทิร์นเนอร์ แต่พวกคุณก็มารุมโจมตีผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้เพื่อฉีกหน้าเธอให้อับอาย แล้วเธอเป็นศิลปินหรือผู้มีอิทธิพลในโลกออนไลน์เหรอ? ดูเหมือนคุณจะชอบสัมภาษณ์เธอมาก ทำไมพวกคุณทุกคนไม่ร่วมมือกันเพื่อทำให้เธอเป็นคนที่มีชื่อเสียงในโลกออนไลน์คนต่อไปเลยล่ะ?”เครื่องแต่งกายของชายหนุ่มร่างสูงเสริมบุคลิกภาพของเขาให้สง่างามตามธรรมชาตินักข่าวต่างค่อย ๆ แยกย้ายกันไป และเสียงหัวเราะก็ออกมาจากริมฝีปากของแคทเธอรีน“ไม่เลวนี่ประธานแจ็คสัน คุณเปลี่ยนไปจริง ๆ หลังจากที่ได้รับตำแหน่งประธานสืบทอดบริษัทของคุ
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก