“ใช่ค่ะ” ซูซี่รีบพยักหน้าและกะพริบตาถี่ ๆ เพื่อให้น้ำตาไหลออกมา “ทุกครั้งที่หนูทานอาหารของคุณน้า หนูคิดถึงคุณแม่ค่ะ เมื่อกี้นี้หนูคิดว่าคุณน้าเป็นคุณแม่ของหนูซะอีก”จากนั้น เธอก็โผเข้าหาอ้อมแขนของแคทเธอรีนทันที “คุณน้า มาเป็นแม่ของหนูได้ไหมคะ?”“...”การแสดงของนักแสดงเจ้าบทบาทตัวน้อยเกิดขึ้นเร็วเกินไป แม้แต่แคทเธอรีนที่เรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะทางด้านการแสดง ก็ยังตามการแสดงของลูกสาวไม่ทันน่าเสียดายที่เด็กหญิงคนนี้ไม่ใช่นักแสดง เธอไปเปิดตัวไปนักแสดงเด็กได้เลย“ไม่ได้” ก่อนที่เธอจะทันได้ตอบ ใบหน้าของฌอนก็เปลี่ยนไปแล้วเขาก็พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำซูซี่มองเขาแล้วรู้สึกกลัวมากจนซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของแคทเธอรีน เธอเริ่มร้องไห้ออกมา “คุณลุงน่ากลัวจังเลยค่ะ”“ทำไมคุณต้องทำหน้าดุใส่เด็กด้วย?” แคทเธอรีนมองเขาด้วยความโกรธฌอนไม่ได้ตั้งใจทำให้ซูซี่กลัว ทว่าแค่คิดว่าแคทเธอรีนกำลังจะแต่งงานกับเลียมก็ทำให้ร่างกายของเขาแสดงความเย็นชาออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ“ซูซี่ ลุงขอโทษ” เขารีบเอ่ยขอโทษเธอเสียงเบา “แต่หนูยังเด็ก มีบางเรื่องที่หนูไม่เข้าใจ น้าเคธี่แต่งงานกับพ่อของหนูไม่ได้”“ทำไมถึงไม่ได้ล่ะคะ? หนูไ
“ลุงไม่ได้ห้ามไม่ให้หนูเจอคุณน้า” ฌอนเม้มริมฝีปากบางพลางพูดด้วยความหงุดหงิดใจ “ถ้าหนูอยากเจอคุณน้า ลุงจะพาหนูมาหาคุณน้าเอง แต่คุณพ่อของหนูไม่ได้”“ทำไมถึงไม่ได้ล่ะคะ?” ซูซี่เอียงคอด้วยแววตาที่สงสัยใคร่รู้ “คุณลุงชอบคุณน้าเคธี่เหรอคะ? แบบนี้… คือความหึงหวงหรือเปล่าคะ?”นัยน์ตาเข้มของฌอนหดตัวลงเขาชอบแคทเธอรีนอย่างนั้นเหรอ? มันเห็นได้ชัดจนซูซี่เองก็บอกได้เชียวหรือ?“อย่าพูดอะไรไร้สาระ” ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม “เด็กอย่างหนูจะรู้ได้ยังไงว่าการชอบใครสักคนหมายความว่ายังไง?”“หนูรู้ว่าชอบคืออะไร เคยมีเด็กผู้ชายหล่อ ๆ ที่อยู่แถวบ้านหนู แล้วเมื่อไรก็ตามที่มีเด็กผู้หญิงคนอื่นมาเล่นกับเขา หนูก็จะไม่มีความสุขมาก ๆ” ซูซี่หน้ามุ่ยแล้วพูดขึ้น “นั่นคือความหวง”“...”ฌอนเริ่มรู้สึกปวดหัว เขาอาจจะต้องคุยกับเลียม ด้วยกลัวว่าซูซี่จะเริ่มออกเดทตั้งแต่ก่อนวัยเรียน“เอาล่ะ หนูไม่เข้าใจหรอก ลุงจะไปส่งหนู” ฌอนรู้สึกว่าเขาจะยิ่งปวดหัวหนักกว่าเดิมถ้าเขาขืนโต้เถียงกับเธอต่อไป“คุณลุงขา ถ้าคุณลุงชอบคุณน้า คุณลุงก็ควรจะกล้า ๆ หน่อยสิคะ แล้วก็ตามจีบคุณน้าเลย” ซูซี่กำมือและให้กำลังใจเขา“ซ
ในตอนนี้ คนที่แคทเธอรีนอยากจะจัดการมากที่สุด… คือ ซาร่า นีสันหลังจากได้ส่งลูคัสไว้ที่วิลล่าแล้ว ในที่สุดแคทเธอรีนก็ได้โล่งอกคลายกังวลสักที พอมีเด็ก ๆ อยู่ใกล้ ๆ พวกเขาเป็นเหมือนกับระเบิดเวลาที่พร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อในค่ำคืนนั้น หลังจากที่ลูคัสผล็อยหลับไป แคทเธอรีนจึงออกจากวิลล่าเมื่อเธอขึ้นรถ เธอจึงโทรหาโลแกน “เรื่องลูซิเฟอร์ไปถึงไหนแล้ว?”“ผู้ชายคนนั้นเอาแต่เล่นการพนัน เมา แล้วก็ไปบาร์ทุกวันครับ เขายังพาผู้หญิงกลับมาด้วยสองคืนติดต่อกัน” โลแกนถอนหายใจ “ซาร่ามาหาสามครั้งต่อสัปดาห์ แล้วแต่ละครั้งจะอยู่เจ็ดถึงแปดชั่วโมง หึ ผมล่ะสงสัยจริง ๆ ว่าฌอนป่วยเป็นโรคอะไรหรือเปล่า ถ้าไม่ ในไม่ช้าก็เร็วเขาคงจะต้องป่วยแน่ ๆ”“เงียบเถอะ” แคทเธอรีนลูบหน้าผากของเธอ เขาพูดถึงเรื่องแบบนั้นตลอดเมื่อเธอโทรหาเขา แล้วมันก็ทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดใจมาก “จัดการกับคนที่เราใช้ติดต่อกับเขาเป็นยังไงบ้าง?”“เรียบร้อยแล้วครับ แต่ผมคิดว่าเขาคงใช้เงินที่เขามีไปเยอะแล้ว เร็ว ๆ นี้เขาคงจะขอเงินซาร่าอีก ผมเดาว่าซาร่าคงจะทนได้อีกไม่นาน”“ถ้าฉันเป็นซาร่า ฉันจะเคลียร์เรื่องระเบิดเวลานี่ก่อนที่ฉันจะแต่งงาน” แคทเธอรีน
“เราญาติดีกันตั้งแต่เมื่อไร?” ฌอนยิ่งเชื่อในสิ่งที่ซูซี่พูดมากขึ้นไปอีก “เลียม นายเองก็มีลูกแล้วนะ อายุเท่าไรแล้ว? นายเลิกเสเพลไปวัน ๆ สักที แล้วทำหน้าที่พ่อของลูก ซูซี่ต้องการนายนะ”“แต่ผมต้องการอิสระ นี่ บอกตรง ๆ นะครับพี่ ตอนแรกผมมีความสุขมากที่ผมมีลูกสาว แต่พอหลาย ๆ วันเข้า มันก็เริ่มเป็นปัญหา ผมไม่มีอิสระเลย แล้วซูซี่ก็ไม่อยากนอนกับคุณแม่ ผมก็ทำได้แค่ฝากลูกไว้กับพี่ไง”จากนั้นเลียมก็วางสายไปฌอนก้มลงมองแล้วก็เห็นน้ำตาคลอหน่วยอยู่ที่ดวงตาของซูซี่ “คุณพ่อไม่รักหนูแล้ว”“ไม่ใช่หรอกลูก คุณพ่อเขายุ่ง คืนนี้หนูมานอนกับลุง ตกลงไหมคะ?” มันทำให้ฌอนเจ็บปวดเมื่อเห็นเธอร้องไห้“ขอโทษที่รบกวนคุณลุงนะคะ” ความฉลาดของซูซี่ทำให้ฌอนก่นด่าเลียมมากกว่าหมื่นครั้งเลียมรู้สึกว่าเด็กผู้หญิงน่ารักน่าเอ็นดูขนาดนี้เป็นปัญหาได้อย่างไร? เขารู้บ้างไหมว่าฌอนอิจฉาเขาแค่ไหน? ให้ตายสิ...ที่วิลล่าริมทะเลเมื่อซาร่าได้ยินเสียงเครื่องยนต์ เธอก็รีบแต่งหน้าและวิ่งออกมาด้วยความดีใจ ทว่า เธอก็อารมณ์เสียขึ้นมาเมื่อเธอได้เห็นเด็กหญิงตัวเล็กที่ขี่คอฌอนอยู่ “ฌอน เธอ...”“คืนนี้หลานจะมาค้างที่นี่” ฌอนอธิบายอย่างร
ภายใต้แสงไฟสีเหลืองอบอุ่น ซาร่ากัดฟันกรอด และไม่ต้องการอะไรมากเกินไปกว่าการได้ตบซูซี่...หลังจากทานอาหารเย็นแล้ว ซูซี่ก็อยากอาบน้ำขึ้นมาฌอนไม่เคยอาบน้ำให้เด็ก เขาจึงทำได้เพียงขอให้ป้าซาร่าอาบน้ำให้เด็กหญิงทว่าซูซี่ก็ส่ายหน้า “คุณแม่ไม่ยอมให้คนแปลกหน้าเห็นร่างกายของหนูค่ะ คุณป้าซาร่าคะ อาบน้ำให้หนูหน่อยได้ไหมคะ?”เธอมองซาร่าอย่างมีความหวังซาร่ารู้สึกกระอักกระอ่วนใจ “ฉัน... ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”‘นอกจากนั้น เรายังไม่ได้รู้จักคุ้นเคยกันถึงขนาดนั้น ถูกไหม?’“ช่างเถอะค่ะ หนูไม่อาบก็ได้” ซูซี่ก้มหน้าลง “คุณลุงก็อาบน้ำกับหนูไม่ได้ เป็นเรื่องไม่เหมาะสมที่ผู้ชายจะแตะเนื้อต้องตัวผู้หญิง”ฌอนหัวเราะออกมาและหันไปหาซาร่า “แค่อาบน้ำกับหลานเองนะครับ คุณไม่คิดถึงตอนมีลูกบ้างเหรอ? ถือว่าเป็นการฝึกล่วงหน้าก็ได้นี่ครับ”ซาร่ากระทืบเท้าทำตัวเหมือนเป็นเด็กเอาแต่ใจ “ฉันจะไม่เลี้ยงลูกคนเดียวค่ะ ถึงตอนนั้นเราจะต้องจ้างพี่เลี้ยงแน่นอน เราก็แค่ให้พี่เลี้ยงอาบน้ำให้ลูกแค่นั้นเอง”ซูซี่เอียงคอด้วยความไม่เข้าใจ “แต่คุณแม่เป็นคนอาบน้ำให้หนูนะคะ แล้วคุณแม่ก็ยังซักแม้กระทั่งเสื้อผ้าให้หนูเองด้วย คุณแม่
ภาพนั้นทำให้ฌอนโมโห เขาอดที่จะปวดใจไม่ได้เขารีบหยิบผ้าเช็ดตัวไปห่อร่างเล็กเอาไว้แน่น จากนั้นเขาก็อุ้มซูซี่ขึ้นมาในอ้อมแขนแล้วรีบเดินออกจากห้องน้ำขณะที่ซูซี่ถูกอุ้มไปที่เตียง เธอก็ร้องไห้สะอึกสะอื้น “หนูเจ็บ... หนาวมากเลยค่ะ...”ฌอนแตะผิวของเด็กหญิง แล้วเมื่อเขาพบว่ามันเย็นเฉียบ เขาก็ตรวจดูร่างกายของเธอแล้วก็เห็นรอยช้ำตรงข้อศอก“ซูซี่ ไม่เป็นไรนะคะ เดี๋ยวคุณลุงจะใส่เสื้อผ้าให้นะคะ” ฌอนหยิบผ้าห่มมาพันรอบตัวเด็กหญิงเอาไว้ เมื่อเขาหันกลับมา เขาก็ชนเข้ากับซาร่าที่เดินมาพร้อมกับเสื้อผ้าของเด็กเธอดูกระวนกระวายใจและเสียใจ “ฌอนคะ ฉันขอโทษ ฉันไม่รู้ว่าจู่ ๆ เธอก็ล้มลงไปได้ยังไง...”“ผมบอกให้คุณอาบน้ำให้หลาน แต่คุณทำแบบนี้เหรอ? คุณนั่งอยู่เฉย ๆ ตอนที่หลานล้มลง”ความรู้สึกโกรธอย่างอธิบายไม่ได้เอ่อล้นขึ้นมาในกายซาร่า นี่เป็นครั้งแรกที่ฌอนควบคุมความโกรธของเขาไม่ได้แล้วมาพาลใส่เธอ “ฉัน… ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันตกใจมากจนไม่ทันได้ตั้งตัว”ซาร่าน้ำตาคลอจากที่โดนเขาตะคอกใส่ เธอกัดริมฝีปากและเอื้อมมือไปหาซูซี่ “ซูซี่ คุณป้าแต่งตัวให้หนูนะ”“ไม่เอา หนูไม่อยากให้คุณแต่งตัวให้หนู” ซูซี่ถอยหนีด้วยควา
ฌอนสั่นไปทั้งร่างถ้าเป็นคนอื่นพูดแบบนี้เขาคงไม่เชื่อ ทว่า ซูซี่เป็นเพียงเด็กอายุสองขวบที่ไร้เดียงสา เด็กหญิงอยู่ในวัยที่เธอจะไม่พูดโกหก ดังนั้น มันจะต้องเป็นความจริงเขาไม่เคยคิดว่าซาร่าจะพูดเรื่องแบบนี้เธอต่อว่าซูซี่เพียงเพราะว่าเขาดุเธอเล็กน้อยระหว่างที่รับประทานอาหารเย็นอย่างนั้นเหรอ?เขาไม่ชินกับด้านนี้ของซาร่าเลยตลอดเวลาที่ผ่านมา ซาร่าที่เขารู้จักเป็นผู้หญิงอ่อนโยน คิดถึงความรู้สึกของผู้อื่น มีน้ำใจ และร่าเริงเขาคิดว่าในอนาคตพวกเขาจะมีลูก ดังนั้นซาร่าคงจะมีความอดทนต่อเด็ก ๆ อย่างแน่นอน ทว่าหลังจากที่พาซูซี่มาที่นี่ในวันนี้ เขาถึงได้รู้ว่าซาร่าไม่ได้มีความอดทนอดกลั้นกับเด็กเลยนั่นก็ไม่เป็นไร แต่เธอพูดจาโหดร้ายแบบนั้นกับเด็กที่เพิ่งสูญเสียแม่ไปได้อย่างไร?เป็นซาร่าที่เปลี่ยนไป หรือเขาไม่เคยรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเธอกัน?“ซูซี่ บอกลุงมา เมื่อกี้หนูล้มในห้องน้ำได้ยังไง?” ฌอนถามด้วยเสียงทุ้มต่ำซูซี่กัดริมฝีปากเล็ก ๆ ของเธอ พลางความกลัวก็ฉายแววอยู่ในดวงตาของเธอ“หนูต้องพูดความจริง คุณลุงชอบเด็กที่ไม่พูดโกหก” แววตาของฌอนดูจริงจัง“เอ่อ... ตอนที่หนูออกมาจากอ่างอาบน้ำหนู
“ไอแซค สตริงเกอร์” แคทเธอรีนพูดเบา ๆ“...”ใบหน้าอันหล่อเหลาของฌอนดูอึมครึม เขานึกอยากจะต่อว่าเธอขึ้นมาจริง ๆ ทว่าพวกเขาหย่ากันแล้ว เขาจึงไม่มีเหตุผลที่จะกล่าวโทษเธอ “กลับมาเดี๋ยวนี้ ซูซี่ได้รับบาดเจ็บ ฉันอยู่หน้าประตูบ้านเธอ”“อะไรนะคะ?” เสียงที่เจือด้วยความเป็นห่วงของแคทเธอรีนดังขึ้น “ซูซี่ได้รับบาดเจ็บได้ยังไงคะ? แล้วเลียมไปไหน?”“ไม่รู้ เลียมมันเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบ รีบมา ซูซี่ร้องไห้ แล้วบอกว่าอยากเจอเธอ” ความจริงแล้วฌอนไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายตอนที่เขาพูดออกไปแบบนั้น อย่างไรก็ตาม ซูซี่ก็ไม่ใช่ลูกของแคทเธอรีนแล้วก็ทำให้เขาประหลาดใจเมื่อเธอพูดขึ้น “ตกลงค่ะ ฉันจะกลับไปเดี๋ยวนี้”หลังจากที่วางโทรศัพท์แล้ว ฌอนก็ก้มลงมองซูซี่ที่อยู่ข้าง ๆ เขา เขาคิดไม่ถึงว่าแคทเธอรีนจะเป็นห่วงซูซี่มากขนาดนี้ ราวกับว่าซูซี่เป็นลูกสาวของเธอ...ในอีกด้านหนึ่ง แคทเธอรีนที่วางสายไปรีบพูดกับไอแซค “ขอโทษนะคะ มีเรื่องเกิดขึ้นที่บ้านน่ะค่ะ ฉันคงต้องขอตัวกลับก่อน”“ผมจะไปส่งคุณกลับเองครับ” “ไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยวฉันขับรถกลับเอง”แคทเธอรีนรีบออกจากโรงหนัง เมื่อเธอขึ้นรถ เธอจึงรีบโทรหาเลียม “ทำไมซูซ
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก