“ฌอน ฉันเกลียดคุณ” แคทเธอรีนร้องไห้ออกมาทันที“พักผ่อนให้เพียงพอ ตอนนี้ไม่ต้องกลับไปที่ทำงาน ผมจะจัดทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับฮัดสันแทนคุณจนกว่าคุณจะคลอดลูกทั้งสอง”ฌอนไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากพูดออกมาอย่างลังเลใจเพราะเขาไม่อยากเห็นเธอร้องไห้หลังจากพูดจบแล้ว เขาหันหลังเดินไปที่ประตู“หยุดนะ...”แคทเธอรีนอยากจะตามเขาไป แต่เฮดลีย์มาขวางเธอเอาไว้อย่างช่วยอะไรไม่ได้ “คุณผู้หญิงฮิลล์ครับ คุณเลิกทะเลาะกับคุณชายฮิลล์คนโตจะดีกว่า เพราะคุณ หลัง ๆ มานี้ความสัมพันธ์ของเขากับคุณชายสโนว์ก็ไม่ค่อยดีสักเท่าไร พ่อแม่ของเชลลีถึงกับมาต่อว่าคุณชายที่ทำให้ลูกสาวของพวกเขาต้องตาย ซึ่งนั่นทำให้เขาเจ็บปวด”แคทเธอรีนหยุดเดินพลางถามขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ “เฮดลีย์ ศพเป็นเชลลีจริง ๆ เหรอ?”“ครับ หมอที่ทำการชันสูตรศพและตรวจดีเอ็นเอทำงานให้พวกเรา ดังนั้นผลการตรวจจึงไม่น่าจะผิดพลาด คุณเข้าใจผิดจริง ๆ ครับคุณผู้หญิงฮิลล์”เข้าใจผิดเธอเข้าใจผิดอย่างนั้นหรือ?คนอื่น ๆ ต่างอ้างว่าแชริตี้โกหกเธอแคทเธอรีนรู้สึกเองว่าเชลลีดูคุ้น ๆ โดยเฉพาะที่ดวงตาของเธอแล้วทำไมรายงานที่ฌอนได้รับมาถึงมีการพิสูจน์ได้ว่าเธอเป
การโทรกินเวลานานไปหลายนาทีถึงอย่างไรก็ตาม ทุกอย่างก็เป็นไปตามที่แคทเธอรีนคาดการณ์เอาไว้เป็นลินดาที่บอกเรื่องนี้กับรีเบคก้าเป็นลินดาที่ทำให้รีเบคก้าหนีไปและทำให้แชริตี้ต้องเข้าคุกขณะที่กำลังยืนอยู่ในสนามบิน เฟรยาก็รู้สึกสับสนเธอตรงไปยังบริษัทของแพทริคโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเธอเรียกแท็กซี่ได้อย่างไรช่วงนี้ลินดามาทำงานให้บริษัทของเขาหลังจากที่เธอไปถึง เฟรยาจึงรีบขึ้นไปชั้นบนทันที ลินดาที่แต่งกายสวยงามตกใจไปสักครู่เมื่อมองเห็นเธอ “เฟรยา เธอมาทำอะไรที่นี่? เธอมาหาแพท...”“ฉันมาหาเธอนั่นแหละ” เฟรยาตบหน้าลินดาทั้งสองข้างทันทีเธออยากทำแบบนี้มานานแล้ว แต่เธอบอกตัวเองว่าแพทริคคนเลวนั่น ไม่มีค่าพอที่จะเสียแรงทว่าบัดนี้...เพราะลินดา แชริตี้ถึงต้องเข้าคุกเพราะลินดา ฌอนจึงเข้าใจแคทเธอรีนผิดเพราะลินดา ร็อดนีย์ถึงขึ้นบัญชีดำเธอ“ลินดา ฉันยอมให้เธอทำอะไรก็ได้ แต่เธอไม่ควรติดต่อกับรีเบคก้า เธอบอกอะไรรีเบคก้าไปบ้าง? เธอทำให้เราต้องจนตรอก!”เมื่อคิดถึงรูปร่างเล็กและบอบบางของเธอ เห็นได้ชัดว่าลินดาไม่อาจตอบโต้เฟรยากลับได้ ในเวลาเพียงไม่นานใบหน้าของเธอก็บวมเป่งโชคดีที่มีคนในบริษัท
“มีความเป็นไปได้ ฉันเห็นพวกเขาอยู่ด้วยกันบ่อยมากเลยนะ”“นี่หมายความว่าคุณลินช์ถูกนอกใจใช่ไหมเนี่ย?”เมื่อแพทริคได้ยินคำพูดนินทาพวกนั้น ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาก็เริ่มฉายแววความโกรธออกมา “ทำความเข้าใจซะใหม่ เธอเป็นคนเข้ามาตบลินดา ฉันเลิกกับเธอไปตั้งนานแล้ว”“งั้นนายรู้ไหม ว่าอะไรทำให้เธอเข้ามาตบลินดาแบบนั้น?”เมื่อได้ยินคำถามที่เฉียบขาดของฟอร์เรส แพทริคก็อึ้งไป “ไม่ว่าเหตุผลจะคืออะไร แต่มาตบใครสักคนก็ไม่ใช่เรื่องถูกอยู่แล้ว”เฟรยายิ้มออกมา ทำให้เธอดูน่ากลัวมากกว่าที่เธอมีน้ำตานองหน้าของเธอเสียอีกในตอนนั้นเธอตกหลุมรักผู้ชายแบบนี้จริง ๆ เหรอ เธอตาบอดไปหรือเปล่า?ฟอร์เรสแตะไหล่บางของเฟรยาเบา ๆ ด้วยความสงสาร “ไม่ถูกหรอกนะ ที่ไปตบใครสักคน แต่ในฐานะแฟนเก่าของเธอ นายไม่รู้นิสัยของเธอหรือไง? ดีนี่ นายอาจจะไม่ได้สนใจที่จะเข้าใจเธอเลย สำหรับนาย แม้แต่ปลายผมของผู้หญิงคนนี้ก็สำคัญกว่าเฟรยา แพทริค ในสายตาของนาย เฟรยาก็เป็นแค่ผู้หญิงร้ายกาจเท่านั้นแหละ”แพทริคนิ่งไปครู่หนึ่ง “ฟอร์เรส เรากำลังคุยกันถึงเรื่องตบหน้านะ เสียเวลาที่จะมานั่งพูดถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้ว เราเลิกกันไปตั้งนานแล้ว”“ก็ถูกข
“พี่ชายคะ” เฟรยาร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ “ฉันโง่แค่ไหนกัน! เรื่องเล็ก ๆ แค่นี้ฉันก็รับมือไม่ได้ แล้วยังทำให้เพื่อนของฉันต้องเดือดร้อนอีก”“ไม่ต้องคิดมาก น้องเป็นเพียงตัวประกอบเท่านั้น ไม่ได้เก่งกาจถึงขนาดนั้น”เฟรยาพูดไม่ออกคำพูดเหล่านั้นเป็นการปลอบใจเธอ หรือทำให้เธอโกรธกันแน่?“พี่จริงจัง” ฟอร์เรสพูดเสริมอย่างไม่ใส่ใจนัก “อีกฝ่ายน่ากลัวมากนะ เพราะเขาหลอกได้แม้กระทั่งตระกูลที่ร่ำรวยหลายตระกูลของออสเตรเลีย เห็น ๆ กันอยู่ว่าผู้หญิงอย่างน้องต่างหากที่ไม่มีอำนาจ”“แล้วฉันทำอะไรได้บ้าง?” เฟรยาอารมณ์เสียจนได้“ถ้าน้องไม่กลับมาเมลเบิร์นและดูแลธุรกิจของครอบครัว ก็ไปเรียนต่อต่างประเทศ” ฟอร์เรสจ้องมองที่เธอ “เมื่อน้องกลายเป็นนักเคมีเครื่องสำอางที่มีชื่อเสียงระดับโลก ถึงตอนนั้น ตระกูลสโนว์ก็ขึ้นบัญชีดำน้องไม่ได้แล้ว มิหนำซ้ำ โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นจะมาขอร้องให้น้องทำงานให้พวกเขา”ขณะที่เฟรยากำลังจินตนาการถึงภาพนั้น คลื่นความรู้สึกก็ถาโถมเข้าใส่เธอ ผ่านไปครู่หนึ่ง ใบหน้าของเธอก็แฝงด้วยความทุกข์ “ไม่มีทาง จะให้ฉันทิ้งเคธี่ไปโดยไม่ช่วยเหลือเธอได้ยังไง? ยิ่งไปกว่านั้น แชริตี้ยังอยู่ในคุก มันค
เชสเตอร์ชำเลืองมองไปที่แคทเธอรีนพลางถามฌอนขึ้น “วันอาทิตย์นี้ นายจะไปร่วมงานศพของเชลลีไหม?”ฌอนพูดไม่ออก“นายไปร่วมงานจะดีกว่านะ ไม่อย่างนั้นร็อดนีย์จะมานั่งจับผิดนายอีก” เมื่อพูดเช่นนั้นแล้ว เชสเตอร์จึงลุกขึ้นยืน “ฉันจะกลับแล้วนะ”“เดี๋ยวก่อนค่ะ” แคทเธอรีนยืนขึ้น “ฉันมีอะไรบางอย่างจะให้พวกคุณดูค่ะ”เธอเปิดบันทึกโทรศัพท์ของลินดาและเอาให้พวกเขาดู “เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเฟรยาไปที่โรงพยาบาลในเมลเบิร์นเพื่อรับผลการตรวจดีเอ็นเอของเชลลีและเจฟฟี่ค่ะ ผู้หญิงที่ชื่อลินดาบังเอิญเจอกับเฟรยาเข้า และรีเบคก้าเองก็รู้จักเธอด้วยเหมือนกัน เมื่อเฟรยารับผลการตรวจมาแล้ว ลินดาจึงได้รับโทรศัพท์จากแคนเบอร์รา....”“คุณหมายความว่ายังไง?” เชสเตอร์พูดแทรกสิ่งที่เธอกำลังพูดอยู่ด้วยใบหน้าไม่พอใจ“ฉันหมายความว่ารีเบคก้าอาจจะเป็นคนโทรหาลินดาค่ะ เธอสงสัยว่าฉันจะใช้ผมของเธอไปตรวจดีเอ็นเอกับเจฟฟี่ เธอรู้ตัวว่าฉันเริ่มสงสัยเธอ ว่าเธอไม่ใช่เชลลีตัวจริงแล้ว ดังนั้น ตอนที่ฌอนไปจับเธอมา เธอจึงวางแผนหนีไปแล้ว และพาเชลลีตัวจริงกลับมา ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน คุณตรวจสอบการโทรจากแคนเบอร์รา...”“ผมบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าไม่ใ
ด้านหน้าสถานที่จัดงานศพ งานศพถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายฌอนและเชสเตอร์สวมชุดสูทสีดำลงมาจากรถแล้วเดินเข้าไปในงานศพพวกเขาไม่ทันรู้สึกตัวว่ามีคนกำลังเฝ้าดูพวกเขาด้วยท่าทางยินดีจากการได้รับชัยชนะอยู่ภายในรถสีดำซึ่งอยู่ไม่ไกล เป็นรีเบคก้า ที่วางแผนหนีเอาตัวรอดไปได้‘ฮี่ฮี่ โชคดีที่ฉันแอบพาเชลลีตัวจริงกลับมาล่วงหน้า พวกแกคงคิดไม่ถึงว่าฉันจะปลอมตัวเป็นเชลลีล่ะสิ?’รีเบคก้าแสยะยิ้มอยู่ภายในรถ ‘ฌอน แคทเธอรีน จำความทุกข์ทรมานที่พวกแกเคยทำกับฉันเอาไว้ให้ดี ฉันจะส่งพวกแกลงนรกเอง’“เธอทำได้ดีมาก” ผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งผู้โดยสารพูดขึ้นอย่างเฉยเมย “เชลลีตายแล้ว ไหนจะแชริตี้ที่อยู่ในคุก ยิ่งไปกว่านี้ ฌอน แคทเธอรีน และตระกูลสโนว์ยังมีความบาดหมางต่อกัน ทุกสิ่งทุกอย่างกลับตาลปัตรไปดีกว่าที่ฉันคิดเอาไว้มาก”รีเบคก้าลูบใบหน้าของเธอ “จะว่าไปแล้ว ใบหน้านี้ก็คงใช้ไม่ได้แล้ว...”“ตอนนี้ก็ไปต่างประเทศก่อน เธอยังคงมีประโยชน์อยู่” ผู้ชายคนนั้นดีดนิ้วแล้วสั่งให้คนขับสตาร์ทรถเมื่อฌอนมาถึงประตู จู่ ๆ เขาก็หันกลับไปมองรถสีดำที่ขับออกไป“มีอะไรเหรอ?” เชสเตอร์ถามขึ้นฌอนขมวดคิ้วเข้าหากัน “เมื่อกี้ ฉัน
ซาร่าเม้มริมฝีปากด้วยความเจ็บปวดโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา“ไม่เป็นไรหรอกร็อดนีย์ ซาร่าต้องมีเหตุผลของเธอ” เชสเตอร์พูดแทรกขึ้นมาร็อดนีย์มองซาร่าด้วยสายตาที่เคร่งขรึม จนในที่สุดเขาก็ถอนหายใจออกมา“แล้วทำไมจู่ ๆ ก็กลับมา?” ฌอนที่เอาแต่เงียบมาตลอด จู่ ๆ ก็พูดขึ้นหัวใจของซาร่าปวดร้าวเมื่อสายตาของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาอันคุ้นเคย เธอหันไปมองภาพถ่ายของเชลลีที่อยู่ด้านหลังของเขาช้า ๆ “เพราะฉันคิดไม่ถึงว่าเชลลีจะตาย เมื่อนึกถึงว่าเธอเป็นญาติที่รักของฉัน ฉันควรมาแสดงความเคารพต่อเธอเป็นครั้งสุดท้าย”ทุกคนยังคงเงียบทันใดนั้นเอง อเล็กซ์ก็เดิเข้ามาหาซาร่า เขากอดเธอเอาไว้พลางร้องไห้ออกมาทันที “ซาร่า ทำไมหนูถึงเพิ่งกลับมาเอาป่านนี้? การตายของเชลลีไม่ต่างอะไรกับโศกนาฏกรรมและไร้ซึ่งความยุติธรรม” “เชลลีตายได้ยังไงคะ คุณลุง?” ซาร่าถามขณะที่สะอื้นไห้หลังจากที่ได้ฟังคำถามนั้น อเล็กซ์ก็จ้องมองไปที่ฌอนทันที “เป็นฝีมือภรรยาของเขาและแชริตี้”สีหน้าของซาร่าตึงไปเล็กน้อยแล้วก็ค่อย ๆ ซีดเผือดลง เธอกะพริบตาและเบนสายตาไปที่ฌอน “ฌอนนิค...”ฌอนหลบสายตา “เป็นแชริตี้...”“ฌอน เลิกเข้าข้างแคทเธอรีนสักที
ซาร่ากำแก้วไวน์ในมือของเธอแน่น “แต่พวกนายเคยจินตนาการถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับหญิงสาวหน้าตาสะสวย หลังจากที่โดนลักพาตัวไปไหม?” ฌอน เชสเตอร์ และร็อดนีย์ต่างอึ้งไปมือที่ถือแก้วไวน์อยู่ของฌอนสั่นเทา เขาเงยหน้าขึ้นมองซาร่าด้วยความตกใจ“ฉันขอไม่พูดถึงรายละเอียดนะ มันเจ็บปวด” ซาร่าเหยียดริมฝีปากพลางจิบไวน์ “ฉันถูกทรมานซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลังจากที่ผ่านไปได้ระยะหนึ่ง ในที่สุดฉันก็หนีออกมาได้สำเร็จ แต่กลับต้องมาพบว่า ฉันถูกเข้าใจว่าเป็นคนที่ตายไปแล้ว วีซ่าของฉันถูกเพิกถอน ฉันจึงกลับมาไม่ได้ ฉันพยายามติดต่อตระกูลนีสัน แต่พวกเขาไม่สนใจฉันเลย พวกเขาบอกฉันตรง ๆ ว่าพวกเขาจะทิ้งฉันโดยไม่ให้ความช่วยเหลือใด ๆ กับฉันอีก”“พวกเขาชักจะทำเกินไปแล้วนะ พวกเขายังมีความเป็นคนอยู่หรือเปล่า?” ร็อดนีย์ปาแก้วพลางลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ“ฉันเคยคิดที่จะติดต่อฌอนนิค แต่ฉัน… ฉันไม่คู่ควรแม้กระทั่งจะอยู่กับเขาเสียด้วยซ้ำ” ซาร่ากะพริบตา น้ำตาไหลลงมาตามแนวแก้มของเธอ “เขาเป็นผู้ชายที่มีอนาคตอันสดใสรอคอยเขาอยู่ข้างหน้า ในทางตรงกันข้าม ฉันมีร่างกายที่สกปรกโสมม ฉันหวังว่าเขาจะได้พบผู้หญิงที่ดีหลังจากที่ฉันจากเขาไป”ฌอนหลับตา
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก