ผู้หญิงที่เป็นคนจูบเขาก่อนหน้านี้กำลังเช็ดหน้าเช็ดปากของเธออย่างแรง ราวกับว่าเธอไปจูบอะไรที่สกปรกมา“เฟรยา ลินช์...” ร็อดนีย์โกรธจัด“อยากได้ทิชชู่ไหม?” เฟรยาหยิบกระดาษทิชชู่แผ่นหนึ่งส่งให้เขา ดวงตาลึกซึ้งของเธอยังส่องประกายด้วยน้ำตาราวกับลูกแมวไร้เดียงสาร็อดนีย์หยิบทิชชู่มาด้วยความรำคาญ และเช็ดริมฝีปากของเขาทันที “สกปรกโสโครก”“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกันแหละ” เฟรยาพยักหน้ารับในขณะที่เธอเห็นด้วย “จูบกับคนแปลกหน้าที่ฉันไม่ได้รักนี่อึดอัดมากเลยเนอะ”“...”เธอไม่รู้สึกเหรอว่าเขาพยายามทำให้เธอขายหน้า?ร็อดนีย์รู้สึกว่าความโกรธของเขากำลังถูกเมินเฉย และหัวใจของเขาแทบจะปวดร้าวจากความโกรธ “แล้วเธอร้องไห้ทำไม? ฝืนใจทิ้งผู้ชายคนนั้น แต่เธอกลับฉีกหน้าเขา เธอไม่คิดว่าดูเจ้ามารยาไปหน่อยเหรอ?”“นายไม่มีแฟนแน่ ๆ” เฟรยาพูดขึ้นทันที “จูบเมื่อกี้นายแบบเงอะ ๆ งะ ๆ สุด ๆ ไปเลย คงไม่ใช่จูบแรกของนายหรอกใช่ไหม?”“พล่ามอะไรไร้สาระ...”ร็อดนีย์รู้สึกอับอายเป็นอย่างมากที่เธอรู้ทันเขา เขาอดไม่ได้ที่จะพ่นคำหยาบคายออกไป“ดูเหมือนว่าฉันจะเดาถูก” เมื่อดูท่าทางที่เหมือนกับจะระเบิดด้วยความโกรธ ความรู้สึกแปล
“ฉันทำสำหรับสี่คนทานทุกครั้งเลยนะคะ แล้วฌอนก็ทานหมดตลอดเลย” แคทเธอรีนหยิบบล็อกโคลี่ออกมาจากตู้เย็นเพิ่มป้าจัสมินรู้สึกสนใจ “นี่เป็นอนุภาพแห่งความรักหรือเปล่าคะ? ดิฉันเฝ้าดูคุณชายฮิลล์คนโตเติบโตขึ้นมา เขาทานอาหารไม่เก่ง เหมือนกับว่าเขาไม่ชอบทานอะไรเลย แล้วมันก็ดีมากพอแล้วที่เขาจะทานข้าวได้สักชาม”“...”พูดตามตรง ถ้าแคทเธอรีนไม่ได้อยู่กับเขาในแคนเบอร์รา เธอคงไม่มีวันเชื่อคำพูดของป้าจัสมินเมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เขาต้องชอบอาหารที่เธอทำตอนที่อยู่ที่เมลเบิร์นแน่นอน เพียงแต่ว่าเขาไม่เคยพูดความรู้สึกและความคิดของเขาออกมา เขาบอกแค่ว่าอาหารของเธอก็พอจะกินได้เขานี่อวดดีอะไรขนาดนี้ทว่า เมื่อมีคนชอบอาหารที่เธอทำ นั่นทำให้เธอมีความกระตือรือร้นที่อยากจะทำอาหารมากขึ้น“เดี๋ยวป้าก็จะรู้ค่ะ ว่าเขาทานเก่งแค่ไหน” แคทเธอรีนเริ่มหั่นหมูการทำหมูย่างต้องใช้เวลานานพอสมควรระหว่างที่เธอรอ เธออ่านข่าวในโทรศัพท์ของเธอทว่า เมื่อเธอเห็นการค้นหายอดนิยมที่สุดในค่ำคืนนี้ [คุณชายฮิลล์คนโตกับการฆ่าคนตายในอดีต] หญิงสาวอึ้งไปเธอรู้สึกไม่ดีจอยโฟล์ค ไฟแนนเชี่ยล ไทมส์ : [ธาตุแท้ของคุณชายคนโตแห่งออสเต
แคทเธอรีนรีบขึ้นไปข้างบนและพบขวดยาหลายขวดในลิ้นชักของห้องทำงานเธอค้นหาชื่อยาในโทรศัพท์ และยาทั้งสองชนิดคือยาที่ทำให้อารมณ์คงที่และยารักษาโรคทางจิตข่าวนั่น… เป็นความจริงอย่างนั้นเหรอ?เมื่อก่อนเขาต้องการฆ่าพี่เลี้ยงที่ดูแลเขา และตอนนี้เขายังเคยทำร้ายเธอด้วยซ้ำ ในวันข้างหน้า เขาคงคิดที่จะ...หญิงสาวรู้สึกเย็นวาบไปทั้งกระดูกสันหลัง และไม่กล้าลงไปข้างล่าง“คุณผู้หญิงคะ คุณชายฮิลล์คนโตยังไม่กลับ คุณจะโทรหาเขาไหมคะ?” ป้าจัสมินปรากฏตัวที่ประตู เมื่อเธอเห็นยาที่แคทเธอรีนกำลังถืออยู่ สีหน้าของเธอก็ดูนิ่งอึ้งไป “ยาพวกนี้...”“ป้าจัสมินคะ ป้าบอกว่าป้าเฝ้ามองฌอนเติบโตมา ถ้างั้นป้าคงจะรู้… เรื่องอาการป่วยทางจิตของเขาใช่ไหมคะ?” ใบหน้าของแคทเธอรีนซีดเผือด ทั้งริมฝีปากของเธอก็สั่นเทาป้าจัสมินทำอะไรไม่ถูก เธอเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อน “คุณไปรู้มาจากที่ไหนคะ? เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้...”“มันอยู่ในอินเตอร์เน็ตเต็มไปหมดเลยค่ะ” แคทเธอรีนเอารูปภาพให้เธอดู “ป้าจัสมินคะ ทั้งหมดนั่นเป็นเรื่องจริงเหรอคะ?”ป้าจัสมินตกใจเมื่อได้เห็นรูปภาพ “ใครเป็นคนเผยแพร่รูปพวกนี้กันคะ? นี่มันมากเกินไปแล้ว… คุณผู้หญิงคะ คุ
“คุณผู้หญิง คุณชายฮิลล์คนโต...” เสียงของเฮดลีย์ฟังดูกระวนกระวายใจ แต่เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มจากที่ตรงไหน“ฉันรู้เรื่องทุกอย่างจากป้าจัสมินแล้ว ฉันไม่ได้รังเกียจอาการป่วยของเขาเลย” แคทเธอรีนรู้ดีว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“หลังจากที่คุณชายคนโตได้เห็นข่าว เขาก็ขับรถออกไปตามลำพังครับ เราไม่รู้ว่าเขาไปที่ไหน และกำลังตามหาเขาทุกที่ครับ ผมคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับอารมณ์ของเขา อาการป่วยของคุณชายอาจจะกำเริบขึ้น แล้วผมก็สงสัยว่าเขาจะไปหารองประธานฮิลล์”“คุณลีอาเหรอคะ?”“ครับ ตอนที่เขาเห็นข่าวเมื่อสักครู่นี้ ผมได้ยินคุณชายพูดพึมพำบางอย่างที่ฟังเหมือน ‘เรื่องนี้ต้องเป็นฝีมือของคุณลีอา’ ด้วยท่าทางน่ากลัวครับ ถ้าคุณลีอามีส่วนเกี่ยวข้อง เขาจะควบคุมอารมณ์ของเขาไม่ได้” เฮดลีย์พูดอย่างใจร้อน “ตอนนี้ผมกำลังขับรถไปหารองประธานฮิลล์อยู่ครับ”“ช่วยส่งที่อยู่ให้ฉันด้วย ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”แคทเธอรีนหยิบกุญแจรถแล้วรีบออกไป...ในคฤหาสน์ส่วนตัวเมื่อลีอาเห็นข่าวเกี่ยวกับอาการป่วยของฌอนอยู่เต็มอินเตอร์เน็ตไปหมด เธอจึงรีบโทรหาวาเลรี่ทันที “เธอเป็นคนปล่อยภาพหรือเปล่า?”“พี่ใหญ่ ตอนนี้พี่กำลังสงสัยฉันอยู่เหรอ?”
“ฌอน ใจเย็น ๆ ก่อน ฉันเป็นแม่ของแกนะ” น้ำเสียงแหบแห้งของลีอาสั่นเครือ “สิ่งที่แกกำลังทำอยู่ตอนนี้มันโหดร้าย แกจะถูกคนทั้งโลกทอดทิ้ง”“เหอะ แล้วตอนนี้ผมไม่ได้ถูกทอดทิ้งหรือไง? แม่เป็นผู้หญิงที่ชั่วร้ายที่สุดแล้ว แม่รังเกียจผม!” ฌอนตะโกนสุดเสียง ร่างกายครึ่งหนึ่งของลีอาค้างอยู่กลางอากาศ แล้วเธอก็กำลังจะหล่นลงไป“นี่แกจะฆ่าฉันจริง ๆ เหรอ? แกมันคนบ้า!”“ผมมันบ้า เพราะแม่นั่นแหละที่ทำให้ผมต้องตกอยู่ในสภาพคนบ้าแบบนี้” ฌอนถูกเธอจี้ใจดำอีกครั้ง ตอนที่เขากำลังจะเสียสติไป เขาก็ได้ยินเสียงแคทเธอรีนกรีดร้องดังขึ้นข้างหลังของเขา“ฌอน อย่านะคะ!” ร่างกายของฌอนสั่นสะท้าน ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาซีดเผือดลงทันทีเขาไม่กล้าหันกลับไปมองเธอเขากลัวว่าเขาจะเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรังเกียจและหวาดกลัวเหนื่อย เขาเหนื่อยจริง ๆเขารู้สึกว่าอาการป่วยเขากำเริบขึ้นรุนแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ในอกของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งร้ายก่อนหน้านี้ เขาคุมตัวเองไม่ให้ทำร้ายลีอาได้ วันนี้เขากลับควบคุมตัวเองไม่ได้อีกต่อไปเขาไม่อยากถูกขังอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชที่น่ากลัวนั่นอีกแล้วที่นั่นมีเพียงกำแพงล้อมรอบทั้งสี่ด้
แคทเธอรีนกอดเขาเอาไว้ทันที พลางกระซิบชิดข้างหูของเขา “ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่จากไปไหนค่ะ เมื่อคุณฟื้นขึ้นมา ฉันจะทำหมูย่างให้คุณทานนะคะ”คิ้วของเขาที่ขมวดกันแน่นค่อย ๆ คลายลง เขาหมดสติลง และดูราวกับเด็กที่กำลังหลับสนิท ไม่มีใครจินตนาการได้ว่าเขาคือคนไข้ที่ป่วยเสียสติไปเมื่อสักครู่นี้ลีอานั่งลงบนพื้นหลังจากได้รับการช่วยเหลือ แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานแล้ว ใบหน้าของเธอก็ยังคงซีดเผือดอยู่เลียมวิ่งเข้าไปช่วยเธอ “คุณแม่ครับ ผมติดต่อโรงพยาบาลจิตเวชแล้ว พวกเขากำลังส่งรถมารับฌอนไปครับ”ลีอานิ่งอึ้งไปแคทเธอรีนจ้องมองเขา “ใครสั่งให้คุณโทร?”เลียมพูดตามตรง “ถ้าเราไม่ส่งเขาไปรักษา ด้วยอาการป่วยในปัจจุบันของเขา คุณอยากตายหรือไง?”“เขาพูดถูกนะ เมื่อกี้นี้มันน่ากลัวมาก” เมสันจับมือของลีอาพลางพูดขึ้นด้วยความกลัว “ผมกลัวจนแทบเสียสติ อีกนิดเดียวเท่านั้นเขาก็จะผลักคุณลงไปแล้ว ครั้งนี้เป็นคุณ แต่เมื่ออาการป่วยของเขากำเริบขึ้นมาอีกครั้ง ใครจะเป็นคนถัดไป...”เขาพูดอย่างลังเล ทว่าลีอากลับส่ายหน้า “ส่งเขาไปรักษาที่โรงพยาบาลจะดีกว่า ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยรักษามาก่อน...”แคทเธอรีนทนฟังไม่ได้อีกแล้ว “นี่คุณไม่ได้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ทำให้เธอนึกถึงเรื่องบางเรื่องที่นานมาแล้วได้กลับกลายเป็นว่าเธอทิ้งบาดแผลไว้ให้ฌอนมากมายความจริงแล้ว เธอเกลียดการมีชีวิตอยู่ของฌอน ทว่าฌอนเองก็เกลียดที่เธอให้กำเนิดเขาเหมือนกัน“เลียม แม่ขอถามลูกแบบนี้ ลูกเป็นคนปล่อยรูปใช่ไหม?” ลีอาขมวดคิ้วพลางถาม “งานแถลงข่าวไมโครชิปของฌอนนาราห์ คอร์ปอเรชั่นจะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ คนที่น่าสงสัยที่สุดในตระกูลฮิลล์คือน้าของลูก และคนต่อไปคือลูก”“คุณแม่ครับ ผมไม่ได้เป็นคนทำ” เลียมรู้สึกโกรธ “ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม สุดท้ายผมก็ยังเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดกับเขานะครับ ตั้งแต่ที่พี่เขาเริ่มป่วยแล้วผมก็ไม่ได้ทำอะไรเกินเลยจนไม่มีขีดจำกัด”ลีอานวดหว่างคิ้วของเธอ เธอกำลังปวดหัว เธอรู้ว่าลูกชายของเธอมีนิสัยยังไงวาเลรี่เป็นคนทำจริง ๆ เหรอ?“คุณแม่ สภาพของพี่ฌอนเป็นแบบนี้ งานแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้จะจัดขึ้นได้ไหม?” เลียมถามอย่างลังเลลีอามองเขาแล้วจากไป เธอจะไปหาวาเลรี่...เชสเตอร์ขับรถพาฌอนไปส่งที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกาย และให้ยาระงับประสาทกับเขาในห้องพักผู้ป่วย แคทเธอรีนจับมือฌอนเอาไว้เงียบ ๆที่ผ่านมาเธอเคยเห็นเพียงด้า
แคทเธอรีนรู้สึกขมขื่น “ใช่ค่ะ ฉันควรจะโกรธแค้นเขา ฉันควรจะโกรธเขาที่ไม่เชื่อใจฉันที่เมลเบิร์น และทำให้ฉันอับอายครั้งแล้วครั้งเล่า และที่ทำร้ายฉัน แต่ถึงอย่างไร ฉันก็อดเป็นห่วงเขาไม่ได้เมื่อฉันรู้ว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเขาบ้าง มันทำให้ฉันเจ็บปวดเมื่อได้รู้ว่าวัยเด็กของเขาแสนจะลำบาก ฉันหลอกตัวเองให้เชื่อว่าฉันไม่มีความรู้สึกอะไรกับเขาแล้ว แต่ฉันโกหกหัวใจของฉันไม่ได้ ยิ่งฉันอยู่ใกล้ชิดกับเขามากเท่าไร ฉันก็ยิ่งตกหลุมรักเขามากขึ้นเท่านั้น”เธอมองชายที่นอนหมดสติอยู่บนเตียงด้วยความรักเรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป นับจากนี้เป็นต้นไป เธออยากทำดีกับเขาตอนนี้โจเอลอยู่ในอาการโคม่า ฌอนเป็นครอบครัวเพียงคนเดียวของเธอสีหน้าของเชสเตอร์ดูโล่งใจ ทว่าเฮดลีย์ที่อยู่ข้าง ๆ เขาดูกังวล “ถ้าคุณชายฮิลล์ทำงานไม่ได้ แล้วงานแถลงข่าวเกี่ยวกับไมโครชิปจะเกิดขึ้นได้ยังไงครับ? ยิ่งไปกว่านั้น ข่าวเกี่ยวกับอาการป่วยทางจิตของคุณชายฮิลล์กำลังแพร่กระจายลุกลามไปกันใหญ่ เราต้องทำให้ความวุ่นวายซาลง”แคทเธอรีนตกใจ “ไม่มีคนอื่นที่ดูแลฌอนนาราห์ คอร์ปอเรชั่นในช่วงเวลาแบบนี้ได้เลยเหรอคะ?”“มีครับ แต่ได้มีการประกาศออ
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก