แคทเธอรีนรู้สึกตกใจ จริง ๆ แล้วตอนนั้นเธอรู้สึกไม่ชอบเลียม ทว่า บัดนี้พวกเขาทั้งคู่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่คล้ายกัน “คุณไม่ควรใส่ใจเรื่องแบบนี้นะคุณชายฮิลล์คนรอง เราเลือกภูมิหลังของเราไม่ได้หรอกค่ะ ยิ่งไปกว่านั้นนะคะ ชีวิตของคุณก็มีความสุขกว่าฉัน พ่อแม่ของคุณแต่งงานกันนะคะ”“ครับ ถึงอย่างนั้นก็เถอะนะ คนอื่น ๆ ก็มักจะเปรียบเทียบผมกับพี่ชายของผม ผมอยู่ใต้เงาของเขาเสมอแหละครับ” เลียมไหวไหล่อย่างช่วยไม่ได้ “มาเถอะครับ ผมจะพาคุณไปพบท่านอธิบดี”“... ขอบคุณนะคะคุณชายฮิลล์คนรอง”แคทเธอรีนเดินตามหลังเขาไปหลังจากที่ละล้าละลังอยู่ครู่หนึ่ง เพราะบริษัทมีพนักงานมากกว่า 10,000 คน เธอจึงไม่อาจทิ้งโอกาสนี้ไปได้...สามวันต่อมาฌอนกลับมาที่แคนเบอร์ราหลังจากที่เขาไปประชุมที่ต่างประเทศเสร็จแล้ว ทันทีที่เครื่องบินลงจอดที่สนามบิน เฮดลีย์ก็ได้ทำการรายงานสถานการณ์ของบริษัทให้เขาทราบฌอนฟังอย่างเงียบ ๆ หลังจากที่เขาขึ้นรถแล้ว เฮดลีย์ก็พูดขึ้น “ใบอนุญาตที่ดินของฮัดสันได้รับการอนุมัติแล้วนะครับ” ฌอนปลดเนคไทที่คอของเขาออก “นั่นเป็นที่ดินของฉัน ใครเป็นคนช่วยเธอ?”“คุณชายฮิลล์คนรองครับ”“...”มีความเงียบเก
“ฉัน...”ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของเวสลีย์ก็ดังขึ้น หลังจากที่เขารับสาย สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน “ผมจะไปเดี๋ยวนี้เลย”“เคธี่ครับ ผมมีธุระด่วนต้องไปจัดการ คืนนี้ผมคงอยู่กับคุณไม่ได้” หลังจากพูดจบแล้ว เวสลีย์จึงลุกขึ้นแล้วรีบจากไปแคทเธอรีนรู้สึกตกใจ ถึงเธอจะรู้จักเขามาสักระยะหนึ่งแล้ว ทว่านี่เป็นครั้งแรกที่เห็นเขามีท่าทางเป็นกังวลแบบนี้หลังจากที่เธอกลับไปที่โรงแรมแล้ว เธอจึงได้รู้ผ่านทางโทรทัศน์ว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับยาที่ผลิตโดยโกลเด้น คอร์ปอเรชั่น ในตอนนี้ เวสลีย์ถูกควบคุมตัวเอาไว้ข่าวนี้ทำให้เธอตกใจ เธอรีบพาทนายความไปที่คุมขัง ทว่า ทนายความก็ประกันตัวเวสลีย์ออกมาไม่สำเร็จสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเคยเกิดขึ้นมาแล้ว ทำให้แคทเธอรีนนึกถึงตอนที่เธอถูกจับในเมลเบิร์นต่างกันเพียงคราวนี้คนที่ถูกจับคือเวสลีย์ทนายความพูดขึ้น “คุณโจนส์ ประธานโลว์ยอนส์ต้องไปขัดขาใครสักคนเข้าแน่ ๆ ครับ คดีแบบนี้เขาสามารถได้รับการประกันตัวออกมาได้แน่ แต่ตำรวจปฏิเสธที่จะปล่อยตัวเขา ผมเลยทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้โกลเด้น คอร์ปอเรชั่น ไม่มีผู้นำแล้ว การก่อสร้างก็หยุดชะงักลง ถ้าประธาน
“ฌอน ฉันอยากคุยกับคุณ” ดวงตาสีเข้มของแคทเธอรีนจับจ้องไปที่ฌอนซึ่งยืนเอามือล้วงกระเป๋าอยู่ เขามองไปที่แคทเธอรีนอย่างไม่ยินดียินร้าย ด้วยท่าทางที่โดดเด่นของเขา ราวกับว่าเธอเป็นคนแปลกหน้าแม้ว่าบอดี้การ์ดจะไม่เคยเห็นแคทเธอรีนมาก่อน เขาเผชิญหน้ากับเธอแล้วผลักเธอลงกับพื้นด้วยความโมโห เพราะหญิงสาวพยายามเรียกร้องความสนใจจากคุณชายฮิลล์คนโตฌอนก้าวเรียวขายาวของเขาแล้วเดินขึ้นไปข้างบนอย่างไร้ความรู้สึกแคทเธอรีฝืนทนความเจ็บปวด หญิงสาวลุกขึ้นยืนและตามเขาไป “ฌอนคะ ฉันจะยอมทำทุกอย่างตามที่คุณต้องการ ตราบใดที่คุณยุติการกระทำที่ทำให้เวสลีย์กับบริษัทของเขาต้องได้รับความเดือดร้อน”ร่างสูงหยุดเดิน ในที่สุดฌอนก็หันกลับมามองเธอ เขายิ้มเหยียด ๆ อย่างเย็นชา “ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าก่อนหน้านี้ความต้องการของผมคืออะไร”แคทเธอรีนอึ้งไป สักครู่ต่อมาใบหน้าของหญิงสาวก็ซีดเผือดลงเธอไม่อาจพูดถึงข้อตกลงที่เธอต้องนอนกับเขาออกไปได้ ทิ้งเรื่องที่ว่าตอนนี้พวกเขาตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนออกไปแล้ว เธอจะไม่ทำอย่างนั้นเหมือนกัน แม้ว่าจะมีเพียงพวกเขาสองคนอยู่ด้วยกันหลังจากลองไตร่ตรองดูแล้ว เธอก็เข้าใจแล้วว่าดูเหมือนในค่ำค
ฌอนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับแคทเธอรีน หรี่ตาลงอย่างไม่รู้ตัว เขาเกือบจะทำแก้วไวน์แตกจากการกำแน่นจนเกินไป แม่งเอ้ย ตอนแรกเขาตั้งใจจะสอนบทเรียนให้กับเธอและทำให้เธอรู้สึกกลัว พอเขาเห็นประธานวอร์เนอร์แตะต้องร่างกายของเธอ ด้วยเหตุผลอะไรก็ตามฌอนรู้สึกเหมือนอยากจะตัดมือของวอร์เนอร์ทิ้งทว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ฌอนจะมาโมโห หลังจากที่ตามใจแคทเธอรีนมามากเกินไปแล้ว เขาตั้งใจจะให้บทเรียนกับเธอ เขาจะไม่ช่วยเธอจนกว่าเธอจะตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน เพื่อเธอจะได้บทเรียนของเธอและยอมเชื่อฟังเขา“ดีใจที่คุณชอบ” ฌอนตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ “ดื่มฉลองให้กับประธานวอร์เนอร์” ในความจนตรอกของเธอ เธอไม่รู้สึกถึงความโกรธหรือความขุ่นเคืองในดวงตาของเขาเมื่อพิจารณาถึงสิ่งที่เกิดขึ้น คืนนี้เธอคงจะหนีออกไปจากสถานการณ์แบบนี้ไม่ได้“ประธานวอร์เนอร์คะ ให้ดิฉันดื่มฉลองให้กับคุณ...”“ไม่มีประโยชน์ที่จะทำแบบนี้ เธอดื่มให้หมดขวดเลยดีกว่า” ประธานวอร์เนอร์พูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะเสียงดังแคทเธอรีนดื่มหมดทั้งขวดอย่างไม่เต็มใจ ความจริงแล้ว เธอเป็นคนคอแข็งพอสมควร ทว่าเพียงไม่นาน เธอก็รู้สึกมึนหัว อาจเป็นเพราะในค่ำคืนนี้เธอมีเรื่องบาง
“ใช่ ผมมันเลว ตอนนี้ผมจะให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณเอง” ฌอนเย้ยหยัน เขาหันกลับแล้วเดินไปที่ประตูแคทเธอรีนฝืนยิ้มออกมา จริง ๆ แล้วเธอไม่อยากปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจเลยเมื่อเทียบกับชายอ้วนที่อายุพอจะเป็นพ่อของเธอได้แล้ว เธออยากจะนอนกับฌอนมากกว่า“... ฉัน… ฉันไม่อยากอยู่กับเขา” แคทเธอรีนเดินตามฌอนไป และทนหน้าด้านกอดเอวของเขาเอาไว้ฌอนหันกลับมามองอย่างเฉยเมย และชำเลืองมองมาที่เธอ เขาดึงแขนเธอออกแล้วออกคำสั่ง “มาที่โอเอซิส อินเตอร์เนชั่นเนล กับผม” แคทเธอรีนเดินตามหลังเขาไปอย่างเงียบ ๆเมื่อฌอนเข้าไปในห้อง เขานั่งลงบนเตียง แสงไฟที่ส่องลงมาจากเหนือศีรษะของเขาเน้นให้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา“ทำไม? คุณอยากให้ผมสอนคุณว่าต้องทำยังไงเหรอ?” ฌอนเลิกคิ้วขึ้นและเหยียดยิ้มชั่วร้ายออกมาแคทเธอรีนเดินเข้าไปหาเขาด้วยใบหน้าแดงก่ำ ร่างบางสั่นเทา เธอจูบริมฝีปากของเขา...หลังจากที่หญิงสาวผล็อยหลับไปช่วงกลางดึก ฌอนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและถ่ายรูปของเธอเอาไว้ เขาส่งรูปถ่ายนี้ไปให้เวสลีย์...วันต่อมาแคทเธอรีนตื่นขึ้นมา แล้วก็ต้องพบว่าฌอนกำลังนั่งอยู่ข้าง ๆ เธอขณะที่เขา
แคทเธอรีนเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างภายในเวลาไม่กี่วินาทีฌอนเป็นคนถ่ายรูปและจงใจส่งให้เวสลีย์เมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่มีทางที่เธอจะปิดบังสิ่งที่เกิดขึ้นได้“รีบพาประธานโลว์ยอนส์ไปส่งที่โรงพยาบาลเร็วเข้า” เธอสั่งคนขับรถทันทีเมื่อพวกเขาไปถึงโรงพยาบาล หมอรีบทำการตรวจร่างกายและรีบสวมเครื่องช่วยหายใจให้กับเวสลีย์ทันที“คุณเป็นแฟนของเขาใช่ไหม? ผมขอเตือนคุณว่าเขาเหลือไตเพียงข้างเดียว พยายามอย่าทำให้เขาโมโหและเครียด เขายังต้องกินอาหารเพื่อสุขภาพเพื่อรักษาชีวิตของเขาให้อยู่นานขึ้น” หมอเตือน “ตอนนี้เราทำได้แค่ให้เขาพักผ่อน แต่มันก็ไม่สามารถแก้ปัญหาที่เป็นต้นเหตุได้จริง ๆ หรอกนะ”“ขอบคุณค่ะ คุณหมอ” แคทเธอรีนแสดงความขอบคุณต่อคุณหมอก่อนจะมองเขาเดินออกไปภายในห้องพักผู้ป่วย เวสลีย์ยังคงไอและจับหน้าอกเอาไว้อยู่ แคทเธอรีนรินน้ำอุ่นใส่แก้ว และนำไปป้อนให้กับเขาเขาชะงักนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะเขาจะจับแก้วเอาไว้ เขาชำเลืองมองเธอด้วยสายตายากจะอธิบายที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด “เขาบังคับให้คุณทำเหรอครับ?”“ขอโทษนะคะ” แคทเธอรีนละอายแก่ใจเกินกว่าจะสบตาเวสลีย์ได้ “ถ้าคุณยังถูกขังต่อไปอีกหลายวัน คุณจะไม่สบายและบริษั
เวสลีย์มองตามร่างบางที่เดินจากไปด้วยแววตาแข็งกร้าวซึ่งแฝงไปด้วยความเย็นชาเขากำมือแน่นเขาระงับความโกรธของเขาเอาไว้จนกระทั่งถึงบริษัท ในที่สุดเขาก็อดไม่ได้ที่จะทำลายข้าวของในห้องทำงานจู่ ๆ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเป็นเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่คุ้นเคย เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาด้วยความโมโหและยกขึ้นแนบหู เสียงหัวเราะทุ้มต่ำของชายคนหนึ่งดังขึ้น “คงจะเจ็บปวดน่าดู ที่ต้องเห็นคู่หมั้นของตัวเองนอนกับผู้ชายคนอื่น” “แกเป็นใคร?” แววตาของเวสลีย์สั่นระริก เสียงนี้ไม่คุ้นหูเลยแม้แต่น้อย“ฉันยังรู้มาอีกว่านายไม่เคยเสียไตของนายไป นายจงใจแกล้งทำเป็นบาดเจ็บเพื่อหลอกลวงแคทเธอรีน โจนส์ แล้วแกก็รู้ประวัติของเธอมานานแล้ว แกเลยคิดว่าแกจะใช้ตระกูลยูลในการไต่เต้า...”“หุบปาก!” เวสลีย์ไม่อาจกลั้นเสียงร้องโวยวายของเขาได้ในขณะที่รู้สึกเย็นไปถึงกระดูกสันหลัง เป็นครั้งแรก ที่เขารู้สึกถูกเปิดโปงจนหมดเปลือก ความรู้สึกนั้นเลวร้ายมาก“ฉันเป็นคนที่ช่วยแกแก้แค้นได้ยังไงล่ะ” เสียงทุ้มต่ำนั้นพูดขึ้น “ฉันยังช่วยให้โกลเด้น คอร์ปอเรชั่น เป็นบริษัทชั้นนำระดับประเทศได้อีกด้วย ฉันช่วยแกแย่งผู้หญิงที่แกชอบกลับมาได้ตราบใดที่ในอนาคต
หลังจากที่ฌอนพูดจบแล้ว เขาจึงหยิบเสื้อสูทและเตรียมตัวจะออกไป“ฉันคิดว่าแกก็แค่อยากให้น้องตายอยู่ที่นั่น แบบนั้นจะได้ไม่มีใครมาแย่งฮิลล์ คอร์ปอเรชั่นไปจากแกได้” ลีอาพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดเรียวขายาวของฌอนหยุดชะงัก เขาพูดออกมาเบา ๆ “แม่อยากคิดอะไรก็คิดไปเถอะ”“ฌอน ฮิลล์ ฉันเสียใจที่คลอดลูกอย่างออกมา ฉันน่าจะทำแท้งเอาแกออก”เสียงของลีอาดังขึ้นจากด้านหลังฌอนก้าวเข้าไปในลิฟต์ทันทีเฮดลีย์สังเกตสีหน้าของเจ้านายอย่างระมัดระวัง เขายังคงใจเย็นและไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ ออกมา ทว่าเฮดลีย์รู้ดีว่าในตอนนี้ เป็นความสงบก่อนที่พายุจะโหมกระหน่ำสถานการณ์แบบนี้มักจะเกิดขึ้นทุกครั้งที่ฌอนและลีอาพบกัน พวกเขาทั้งคู่จะต้องทะเลาะกันเป็นแน่ ราวกับว่าแม่และลูกชายเป็นศัตรูกับมาตั้งแต่กำเนิดเฮดลีย์ลอบถอนหายใจ คุณผู้หญิงเองก็ลำเอียงเหมือนกันคนขับรถขับรถมา ฌอนเปิดประตูออกและขึ้นรถก่อนจะขับรถออกไปด้วยตัวเองแคนเบอร์รากว้างใหญ่ ทว่าดูเหมือนเขาไม่มีที่ให้ไปเขาขับรถไปที่เมโทรโพลิส พาร์คเขาเปิดประตูเข้าไป คฤหาสน์หลังใหญ่มีเพียงความเงียบไม่มีแม้แต่เงาของใครสักคนเขาโทรหาแคทเธอรีนทันที หลังจากเสียงต่อสาย
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก