สำเนียงเมื่อครู่ของชายหนุ่มแม้จะเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา หากแต่ก็ดังพอที่อรรวินทร์จะได้ยินสำเนียงภาษาฝรั่งเศสที่ชัดถ้อยชัดคำของชายหนุ่ม จนทำให้หญิงสาวอดสงสัยในที่มาที่ไปของชายหนุ่มผู้นี้ไม่ได้
“หรือตานี่จะมาจากประเทศฝรั่งเศส แล้วเขาเกี่ยวอะไรกับบ้านของเราล่ะ” อรรวินทร์เอ่ยกับตนเองอย่างแผ่วเบา
หญิงสาวสะบัดไล่ความคิดในหัวไปเสียดื้อๆ เวลานี้บุรษหนุ่มคนนี้ควรต้องไปพักผ่อน อรรวินทร์เดินอ้อมรถสปอร์ตคันหรูไปอีกทาง
อรรวินทร์เผชิญหน้ากับอามันด์ มือเรียวบางของหญิงสาวเอื้อมไปจับมือของชายหนุ่มอย่างรวดเร็วจนอามันด์สะดุ้งโหยง
“ตามมานายอามันด์” หญิงสาวเจ้าของฤหาสน์หลังโตเอ่ยเป็นสำเนียงภาษาฝรั่งเศสแล้วกึ่งลากกึ่งจูงอย่างถูลู่ถูกังชายหนุ่มที่เธอเพิ่งช่วยเหลือให้เดินตามเธอไปในคฤหาสน์
อรรวินทร์ออกแรงเพียงเล็กน้อย ไม่นานนัก..สองขาก็พาหญิงสาวและชายหนุ่มมาหยุดอยู่ที่คฤหาสน์หลังใหญ่โตมโหราฬหลังหนึ่ง
มือเรียวบางปล่อยมือของชายหนุ่มออกให้เป็นอิสระ หญิงสาวเจ้าของคฤหาสน์ผายมือเชื้อเชิญอามันด์เข้าไปพักในคฤหาสน์ของเธอทันที
“เข้าไปซิ ห้องนอนของนายอยู่ทางขวาติดกับห้องโถงใหญ่” อรรวินทร์กล่าวกับชายหนุ่มเป็นภาษาฝรั่งเศสด้วยน้ำเสียงปกติทว่าอามันด์ยังคงยืนนิ่งอย่างงุนงง นั่นทำให้หญิงสาวอดรู้สึกรำคาญใจไม่ได้
มือเรียวของหญิงสาวคว้าหมับเข้าที่มือหนาของชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว ร่างเพรียวออกแรงจูงชายหนุ่มอีกครั้งทันที
“ตามมา” หญิงสาวเอ่ยด้วยเพียงคำสั้นๆ แต่เป็นภาษาฝรั่งเศส
ปลายเท้าเรียวขาวสะอาดของอรรวินทร์สาวเท้าเข้าไปในคฤหาสน์หลังโตที่หญิงสาวเป็นเจ้าของอยู่อย่างไม่ทันที่อามันด์จะได้ตั้งตัวเตรียมใจอะไรทั้งสิ้น
เวลานี้อรรวินทร์ ‘ผู้จูง’ เดินนำอามันด์ผ่านห้องโถงใหญ่โออ่ากว้างขวาง และละลานตาไปด้วยรูปภาพ ศิลปะสมัยโกธิคที่เขวนผนังอยู่
ดวงตาคู่สีน้ำตาลอ่อนของอามันด์เบิกกว้าง ชายหน่มอดคิดไม่ได้ว่าเวลานี้อรวินทร์ได้พาเขากลับมายังบ้านเมืองของเขาทว่านี่ไม่ใช่สถานที่ที่ชนชั้นแรงงงาน ชาวนาอย่างพวกเขาควรอยู่และควรพบเจอ
ราวกับฝัน..อามันด์จ้องมองรูปภาพดอกกหุลาบสีดำสนิทที่อยู่ในโหลแก้วสะท้อนแสงอย่างลืมตัว ภาพที่ปรากฏแก่สายตาไม่อาจทำให้เขาละสายไปได้เลย
หยาดน้ำค้างในภาพวาดช่างเหมือนจริงยิ่งนัก ภาพเขียนสีน้ำมันตวัดลายเส้นอย่างบรรจงทว่าสีที่ละเลงลงไปนั้นเป็นสีดำเข้มสนิท...อามันด์อดนึกในใจไม่ได้
หากคะเนดูแล้วภาพนี้น่าจะใช้กฎสามเหลี่ยมทองคำของนักปรัชญาอย่างพีทากอรัสเป็นเส้นพื้นฐานสำคัญในการร่างภาพดอกกุหลาบในโหลแก้วขึ้นมา
อรรวินทร์สัมผัสได้ว่าอามันด์หยุดยืนนิ่งอยู่กับที่ ดวงหน้าคมขำเบือนหน้ากลับมามองยังชายหนุ่มที่มาเยือน
ภาพตรงหน้าของหญิงสาวหาดูได้ยากยิ่ง แสงแดดยามเช้าทอประกายอ่อนจางฉายอาบไล้ให้ดวงหน้าคมคายให้เข้มขึ้น...ยามเมื่อชายหนุ่มตรงหน้ากำลังมองสำรวจภาพวาดโกธิคของคุณย่าอย่างสนใจใคร่รู้
อรรวินทร์ ติวเตอร์สาวผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์รู้สึกราวกับแววตาทั้งสองข้างของอามันด์นั้นได้ดึงดูดความสนใจในตัวเธอ ห ญิงสาวอดรู้สึกไม่ได้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าช่างมีเสน่ห์เหลือเกินจนเธอเองก็ ‘รู้สึก’ ถึงบางอย่างที่กระเพื่อมในใจเธอเช่นกัน
“อามันด์” หญิงสาวเอ่ยพลางกระแอมไอเล็กน้อย
อามันด์หันมาสบดวงตาทั้งสองข้างของเธอที่มองมาทางเขาอย่างไม่ทันได้ตั้งใจ
วูบหนึ่งที่เขารู้สึกว่า อรรวินทร์เป็นสตรีชวนฝันที่กำลังหลงใหลในตัวเขา...ทว่าเพียงชั่วครู่แววตาคู่นั้นก็พลันเปลี่ยนเป็นกระด้างแข็งอย่างรวดเร็ว
“ขอรับ” อามันด์เอ่ยเป็นสำเนียงฝรั่งเศสอย่างลืมตัว
“ต่อไปนี้ไม่ต้องพูดว่าขอรับ ให้พูดว่าครับอย่างเดียวก็พอเข้าใจไหมคะ” อรรวินทร์เอ่ยสอนอามันด์เป็นภาษาอังกฤษด้วยน้ำเสียงเข้ม
“เข้าใจค...ครับ” อามันด์เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ท้ายประโยคชายหนุ่มเอ่ยตะกุกตะกักเล็กน้อยอย่างไม่มั่นใจในคำที่หญิงสาวตรงหน้าพาพูดนัก
“เชื่อมั่นในตัวนาย ฉันเชื่อว่านายสามารถทำได้” อรรวินทร์เอ่ยกับบุรุษหนุ่มด้วยสีหน้าและแววตาจริงจัง หญิงสาวเผลอตบบ่าของเขาอย่างลืมตัว
อรรวินทร์เดินออกไปนานแล้ว หากแต่อามันด์ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม น้ำเสียงของสตรีเบื้องหน้าของชายหนุ่มชนชั้นแรงงานในเวลานี้ช่างอ่อนโยนอย่างหาตัวจับได้ยากยิ่งนัก
หญิงสาวที่ปรากฎแค่เพียงไม่กี่ชั่วยามทำให้ดวงใจของเขาไหววูบได้ขนาดนี้เชียวหรือ...อามันด์อดนิ่งคิดในใจไม่ได้
มาต่อแล้วค่ะ ขอบคุณที่ติดตามไรท์กิ๊ฟ ดวงดาหลา สรีสามัญ นะคะ
ประตูห้องถูกเปิดออกด้วยมือหนาของชาวนาหนุ่ม ดวงตาคู่สีน้ำตาลอ่อนทอดมองห้องนอนใหม่ของเขาด้วยแววตาเปล่งประกายห้องนอนใหม่ของอามันด์หรูหราเสียจนเขาแทบไม่กล้าจะนั่งลงแต่ก็จำใจต้องนอนเพราะนี่คือคำสั่งของหญิงสาวต่างดาวคนนั้น ภายในห้องนอนแบ่งเป็นสัดส่วนระหว่างห้องน้ำและห้องนอนอย่างชัดเจน...อามันด์ถอดรองเท้าของเขาออกแล้วเอนหลังพิงเตียงนอนขนาดกว้างที่ชายหนุ่มมองว่ามันหรูหราที่สุดที่เขาเคยพบเจอมา!เอ๋งเอ๋งเอ๋ง” เสียงร้องลั่นของสุนัขพันธ์หนึ่งดังขึ้นขณะที่ชายหนุ่มกำลังเอนพิงและเข้าสู่ภวังค์อยู่อามันด์เปิดเปลือกตาขึ้นอย่างรวดเร็ว จิตใต้สำนึกของเขาบอกว่าเวลานี้ชายหนุ่มกำลังเผชิญหน้ากับเจ้าตูบหน้าย่นตัวหนึ่งเจ้าตูบตัวนี้มีผิวสีดำสนิท มันเป็นสุนัขที่ดวงตากลมโตแป๋วสดใสแลดูร่าเริง ทว่าเวลานี้ขาของมันติดอยู่กับซี่ล้อจักรยานคันใหญ่ที่อามันด์ไม่เคยเห็นจักรยานคันยักษ์แบบนี้ที่ไหนมาก่อนมือหนาของอามันด์เอื้อมลูบหัวเจ้าตูบอย่างแผ่วเบา อามันด์สังเกตว่าเสียงร้องของมันเวลานี้คล้ายกับว่ากำลังบาดเจ็บอยู่ ไวกว่าความเร็วแสง...ชายหนุ่มเอื้อมมือออกแรงดันขาข้างหลังของสุนัขที่ติดอยู่เบื้องหลังจักรยานออกมาอย่า
ตั้งแต่เกิดมาอามันด์ไม่เคยเจอสตรีใดที่ใจดีเฉกเช่นอรรวินทร์มาก่อน...นับแต่เขาได้ก้าวเข้ามาในบ้านที่ดูเหมือนปราสาทราชวังมากกว่าจะเป็นคฤหาสน์บ้านเรือนของคนธรรมดาบ่อยครั้งที่เขามักฝันถึงสตรีใบหน้าละม้ายคล้ายหญิงสาวเจ้าของเคหาสน์ในความฝัน…ชายหนุ่มอดคิดไม่ได้ว่านี่เขาตกหลุมรักอรรวินทร์ไปเสียแล้วหรือนี่กระไร!รอยยิ้มที่สดใส ร่าเริงและท่าทีที่ไม่เคยหวาดกลัวบุรุษหรือผู้ใดนั้นไม่อาจทำให้ดวงใจของชายหนุ่มกรุงปารีสสงบลงได้เลยชายหนุ่มลอบมองตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่ที่สะท้อนภาพของเขาอออกมาในตอนแรกที่เขาได้เจอกับอรรวินทร์ เขาคิดแต่เพียงว่าสตรีผู้นี้ผิดแผกแตกต่างจากสตรีในกรุงปารีสยิ่งนัก นั่นก็เพราะว่าสตรีที่อามันด์เคยพบเห็นพวกหล่อนมักจะไหว้ผมยาวสลวยถึงกลางหลัง แม้จะทำทรงผมทรงพองๆประหลาดตาไว้บนศีรษะก็ตามทีทว่าผิดกันกับอรรวินทร์ หล่อนเป็นสตรีที่พูดจาโผงผาง ท่าทีไม่เกรงกลัวใครหน้าไหน ทำให้อามันด์อดตกหลุมรักเธอไม่ได้ภาพที่สะท้อนในกระจกบานกว้างเป็นภาพของอามันด์ที่กำลังเปลือยแผ่นอกกำยำล่ำสัน ใบหน้าของเขาเปื้อนรอยยิ้มนั่นทำให้เขาอดสงสัยตนเองไม่ว่าเพียงวูบเดียวเขาสามารถตกหลุมรักหญิงสาวเฉกเช่นอรรวินทร์ได้ม
“เรียกฉันว่าอรระวินทร์” หญิงสาวเอ่ยขึ้นเป็นภาษาอังกฤษด้วยน้ำเสียงสะบัด“ครับผม” อามันด์เอ่ยตอบรับคำของหญิงสาว‘ค่อยคุยกันรู้เรื่องหน่อย’ อรรวินทร์อดนึกในใจไม่ได้“ส่งแขนของคุณมา” อรรวินทร์กล่าวด้วยเววตาจริงจังจนอามันด์อดกังวลใจไม่ได้อามันด์ส่งแขนให้หญิงสาว ครานี้อรรวินทร์ทำแผลใส่ยาให้เขาอย่างเบามือ จนทำให้ชายหนุ่มอดมองหญิงสาวอย่างเผลอไผลไม่ได้“ขอบคุณที่ช่วยผม” อามันด์กล่าวด้วยสำเนียงฝรั่งเศสชัดถ้อยชัดคำ“ไม่เป็นไร ไหนๆคุณก็มาอยู่บ้านฉันแล้ว” อรรวินทร์กล่าวกลับเป็นภาษาเดียวกับเขา“ขอบคุณมากครับ” อามันด์กล่าวขอบคุณหญิงสาวอีกคำรบหนึ่ง“แล้วอามันด์ คุณมาจากที่ไหน” อรรวินทร์นึกได้ว่าเธอต้องสืบเรื่องนี้ให้กระจ่างเสียก่อน หญิงสาวจึงเอ่ยถามคำถามที่ค้างคาใจหล่อนมานาน“ผมมาจากกรุงปารีส’ ชายหนุ่มชะงักแล้วตอบหญิงสาวอย่างรวดเร็ว“ดีจัง ฉันอยากไปปารีส’ อรรวินทร์เอ่ยขึ้น หญิงสาวเผลอระบายรอยยิ้มอ่อนเบาอย่างไม่รู้ตัว“คุณชอบปารีสหรอ” อามันด์เอ่ยถามหญิงสาวอีกครั้ง“ใช่ที่นั่นสวยมาก” อรรวินทร์กล่าวกับเขาด้วยน้ำเสียงสดใสสีหน้าและแววตาของอรรวินทร์ทำให้อามันด์เผลอหลุดปากบอกชอบเธอออกมาไม่ได้ “ผมก็ชอบ” อา
ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์“เอาละค่ะ...ไหนใครไม่รู้จักวิชาเคมีบ้าง” เสียงหวานใสของหญิงสาวดังขึ้นจนใครบางคนที่ได้ยินแอบลอบมองมาไม่ได้“ฮะแฮ่ม” อรรวินทร์กระแอมไอเล็กน้อยเรียกความสนใจของเด็กที่เข้าประชุมผ่านการเรียนการสอนออนไลน์ได้ดีอย่างยิ่ง “วันนี้พี่อรจะอธิบายถึงเรื่องของอิเล็กตรอนในภาควิชาเคมีให้ฟังกันนะคะ” อรรวินทร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใสร่าเริง “เย้” เสียงเด็กผู้มาเยือนเฮกันดังสนั่นผ่านลำโพงที่อรรวินทร์เปิดเอาไว้[อามันด์ part]เรียวปากอวบอิ่มของหญิงสาวยังคงขยับขึ้นลงอย่างรวดเร็ว น้ำเสียงเจื้อยแจ้ว ของอรรวินทร์สดใสร่าเริงมากจนอามันด์อดรู้สึกบางอย่างไม่ได้มือหนาของชายหนุ่มเอื้อมหยิบจับพู่กันโบราณที่เขาอ้อนววอนขอร้องอรรวินทร์ให้หาซื้อมาให้เขา อามันด์จับมันแล้วโยกซ้ายโยกขวาอย่างชำนาญในการใช้พู่กันขนนกอามันด์บรรจงวาดภาพของหญิงสาวในฝันของเขา หยดหมึกนับพันหยดร้อยเรียงจนติดต่อกันเป็นเส้นหมึกสีดำเข้มสนิทภาพที่ปรากฎแก่ดวงตาของชายหนุ่มผู้ก้าวข้ามผ่านรูหนอนของหลุมดำมาได้ช่างเป็นภาพวาดเสมือนที่หาตัวจับได้ยากยิ่งเค้าโครงหน้ารูปไข่ล้อมกรอบด้วยเรือนผมสีดำสนิททิ้งตัวสลวยแม้จะสั้นแค่พอประบ่าก็ตามที จมูกข
เวลานี้ชายหนุ่มยังไม่อยากไปไหนจากอรรวินทร์ หญิงสาวที่อามันด์มองว่าเธอช่างเหมือนกับเจ้าหญิงราพันเซล ทว่าเสียก็แต่เพียง ราพันเซลเป็นเจ้าหญิงผมยาวที่รอคอยการมาของเจ้าชายหนุ่มรูปงามที่ขี่ม้าขาวมาช่วยเธอแต่ไม่ใช่กับอรรวินทร์เป็นแน่ ชายหนุ่มนึกขันหล่อนเงียบๆอยู่ในใจ[End of อามันด์ part]“สำหรับเรื่องอิเล็กตรอนนี้ทั้งสองตัวนี้จะมีการเคลื่อนที่ที่เรียกว่าการหมุนและการหมุนจะแตกต่างกัน” เสียงหวานใสของอรรวินทร์ยังคงกล่าวอย่างเจื้อยแจ้วราวนกแก้วที่ไม่หยุดร้อง หญิงสาวอธิบายแล้วเขียนบนหน้าจออัจฉริยะอย่างรวดเร็ว อรรวินทน์วาดภาพการจัดเรียงตัวของอิเล็กตรอนในแต่ละออร์บิทัลได้อย่างสวยงามจนสาวเจ้าอดชื่นชมตัวเองไม่ได้ใช่แล้วในตอนนี้อรรวินทร์กำลังสอนพิเศษสดแบบออนไลน์ผ่านแอพที่สามารถประชุมร่วมกันได้ ทว่าหญิงสาวไม่ได้ใส่หูฟัง “ครูคะแล้วแต่ละออร์บิทัลมีวิธีการบรรจุอิเล็กตรอนอย่างไรเหรอคะ” เสียงหวานใสเอ่ยถามคำถามขึ้นมาผ่านการเรียนการสอนของหญิงสาว“การบรรจุอิเล็กตรอนของแต่ละออร์บิทัลนั้นจะเริ่มที่หนึ่งตัวก่อนค่ะ ตามหลักสากลเราจะใช้ลูกศรแทนค่าของตัวอิเล็กตรอนในแต่ละตัวนั้นๆนะคะ” อรรวินทร์เอ่ยอย่างไม่เหนื่อยห
อรรวินทร์เลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง หญิงสาวอดประหลาดใจไม่ได้ที่ยามนี้อามันด์ชวนเธอกินขนม ฝีมือของเขาที่ที่เขาได้ลงมือเข้าครัวมาเองดวงหน้าหวานของอรรวินทร์แต้มระบายรอยยิ้มเล็กน้อย หญิงสาวส่งรอยยิ้มจริงใจให้กับชายหนุ่ม“หิวมาก...มากินด้วยกันซิ” อรรวินทร์เอ่ยเสียงหวานเป็นภาษาฝรั่งเศส อรรวินทร์ยกตำราเรียนออกจากเก้าอี้ข้างๆหญิงสาว เธอเคลื่อนมือยกตำราวางไว้บนโต๊ะ ร่างสูงโปร่งทรุดตัวลงนั่งข้างๆหญิงสาว ชายหนุ่มไม่ลืมส่งแก้วชาที่ทำเองให้อรรวินทร์กับมือ“ทำเองเหรอ” หญิงสาวเอ่ยถามชายหนุ่มเป็นประโยคภาษาฝรั่งเศส แววตาของหญิงสาวเปล่งประกายสดใสใคร่รู้กว่าเดิม“ครับผมเข้าครัวเอง” อามันด์ตอบเป็นภาษาฝรั่งเศสอรรวินทร์อดรู้สึกไม่ได้ว่า อามันด์ในเวลานี้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเธอไปแล้ว ทุกครั้งที่เธอได้คุยอามันด์ หญิงสาวจะรู้สึกสบายใจอย่างแปลกประหลาดไม่ได้ ราวกับว่าชายหนุ่มมีมนต์บางอย่างให้หญิงสาวรู้สึก ‘ตกหลุมรัก’หญิงสาวสะบัดไล่ความคิดไม่เข้าท่าในหัวออกไป หล่อนทอดมองขนมทาร์ตพายที่ยามนี้ถูกเคลื่อนมาอยู่ตรงหน้าอรรวินทร์“กินได้จริงๆใช่ไหม” อรรวินทร์เอ่ยถามอามันด์แกมหยอกเย้าด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม“ลองดูค
แสงจากแชนเดอเรียสาดอาบไล้ให้ดวงตาของชายหนุ่มเปล่งประกายระยับกว่าเดิม “อร่อยแล้วรักไหม” อามันด์เอ่ยถามหญิงสาวราวกับคนต้องการคำตอบในคำถาม “อามันด์!” อรรวินทร์เอ่ยเรียกชื่อเขาเสียงดังด้วยน้ำเสียงดังฝังชัดเป็นภาษาไทยอย่างลืมตัว “ผมล้อเล่น” อามันด์เอ่ยแล้วส่งสัญลักษณ์มือให้หญิงสาวประมาณว่าเขาล้อเล่น ชายหนุ่มอมยิ้มอย่างอารมณ์ดี“แต่ฉันรู้ว่าคุณไม่ได้พูดเล่น” อรรวินทร์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมกว่าเดิม สีหน้าแววตาของหญิงสาวเวลานี้จริงจังเสียจนอามันด์อดกลัวใจของหล่อนไม่ได้ “ผม...” อามันด์เอ่ยเป็นภาษาฝรั่งเศสอรรวินทร์คลายคิ้วที่ขมวดเป็นปมออกอย่างรวดเร็ว หญิงสาวอดรู้สึกไม่ได้ว่าใบหน้าของเธอเวลานี้ร้อนผะผ่าวราวกับว่าถูกไฟสุม “อามันด์...” อรรวินทร์เรียนชื่อของเขาราวกับกำลังละเมอ “ให้เวลาฉันหน่อยนะ” เสียงหวานของหญิงสาวเปล่งออกมาจากเรียวปากอวบอิ่มได้รูปสวยอามันด์สบสายตาเว้าวอนจากหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเขาอย่างไม่ปิดบัง เวลานี้ชายหนุ่มเองก็ตัดสินใจแล้วเช่นกัน “ผมรักคุณ...ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยรักใครเท่าคุณมาก่อน"...อร” อามันด์เอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา“ฉันเข้าใจ” หญิงสาวเอ่ยตอบเป็นสำเนีงเสีย
ในตอนนั้นอรรวินทร์ร่ำไห้ปริ่มจะขาดใจตายตามคุณย่าไป โชคดีที่มีพี่เจมส์ พี่บุญธรรมที่คอยปลอบและคอยอยู่เป็นเพื่อนตั้งแต่ยังเด็ก บิดาและมารดาของอรรวินทร์หย่าขาดจากกัน เมื่อครั้งเธออายุได้ห้าขวบ บิดาและมารดาของเธอทั้งคู่ต่างแต่งงานใหม่อรรวินทร์เป็นลูกที่บิดาและมารดาต่างไม่ต้องการ หญิงสาวคือความรักที่ผิดพลาดของมารดาและบิดาในอดีต ท่านทั้งสองจึงส่งให้อรรวินทร์มาอยู่กับคุณย่าและขาดการติดต่อเธอตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาหญิงสาวจึงอาศัยอยู่กับคุณย่ามาโดยตลอดอายุยี่สิบสองปีของเธอ เมื่อคุณย่ามาด่วนจากไปภาระและหน้าที่ทั้งหมดก็มาตกที่ตัวเธออรรวินทร์รู้สึกเหนื่อยอ่อนทุกครั้งยามที่คิดถึงคุณย่า เวลานี้เธอคงทำงานพิเศษมากเกินไปหญิงสาวยกแก้วชาขึ้นชิม กลิ่นหอมของสมุนไพรในชาที่อามันด์ทำให้เธอได้ลิ้มลองนั้นทำให้หญิงสาวอดรู้สึกสดชื่นไม่ได้ “อามันด์...อรง่วงแล้วนะ” อรรวินทร์กล่าวหลังจากฟังประวัติความเป็นมาของอาสนวิหารนัวยงชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นสูงยามได้ยินคำพูดของสาวเจ้าในเวลานี้ หากอามันด์คาดคะเนไม่ผิด อรรวินทร์คงกำลังยืนหลับในอยู่เป็นแนชายหนุ่มนึกขันในใจ เวลานี้ดวงตาของอรรวินทร์กำลังจะปิดลง หญิงสาวหาวฟอดใหญ่อย
รถเก๋งสปอร์ตของอามันด์เลื่อนเข้าไปจอดยังทางรถเลี้ยวที่ไปทางรีสอร์ท เขามองอรรวินทร์ที่หลับไปด้วยความรู้สึกอ่อนโยนที่กำซาบอยู่ในใจ“ถึงแล้วเหรอคะอามันด์” หญิงสาวมองเห็นชายหนุ่มจอดรถเสียงดังลั่น“ยังหรอกแต่ผมไม่กล้าปลุกคุณก็เท่านั้นเอง” ชายหนุ่มกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบ“อามันด์…ที่นี่ที่ไหนเหรอคะ” อรรวินทร์กล่าวขณะที่ชายหนุ่มจอดรถอยู่ข้าง ๆ ต้นพญาเสือโคร่ง“อรรวินทร์ผมมีสิ่งของจะให้คุณ” ชายหนุ่มกล่าวกับหญิงสาวอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันเขาก็เดินลงมาจากรถอรรวินทร์รีบเดินตามลงไปอย่างตกใจ หล่อนทิ้งกระเป๋าสะพายของเธอไว้ในรถแล้วรีบเดินตามอามันด์ลงไปอย่างรวดเร็ว“อามันด์คะคุณจะไปไหน” หญิงสาวกล่าวพลางมองแผ่นหลังของเขาที่เดินห่างออกไปอย่างเร่งรีบดวงตาของหญิงสาวเบิกกว้างเมื่อเวลานี้อามันด์เดินหนีเธอหายเข้าไปในชายป่าลึก หล่อนจึงวิ่งตามเขาไปอย่างรวดเร็ว“อามันด์รออรด้วย รอฉันด้วยค่ะอย่าเพิ่งไป”“อรๆ” เสียงของชายหนุ่มปลุกเขย่าเรียกหญิงสาวอย่างรวดเร็วแพขนตาของหญิงสาวกระพือขึ้นมาอย่างรวดเร็ว หล่อนลืมตามองไปรอบ ๆ ก็พบกับอามันด์ที่สวมเสื้อกล้ามบางเบาตัวสีขาวเพียงตัวเดียวในห้องนอน“คุณเป็นอ
เวลานี้อามันด์รู้สึกไม่ได้เลยว่าเขากำลังกลายเป็นนกตัวน้อยที่พร้อมจะโผบินเข้าไปได้ในทุกเมื่อ…มันสวยงามมากจริงๆ“อามันด์ดูนั่นซิคะ ทะเลหมอกสวยมาก ๆ เลยค่ะ”อรรวินทร์กล่าวขึ้น พลางเชิญชวนให้เขาดูทะเลหมอก ที่ลอยล้อมรอบตัวพวกเขาอย่างน่าอัศจรรย์ใจดวงตาคู่ความปลาบของอามันด์มองทะเลหมอกที่เวลานี้ค่อย ๆ เคลื่อนคล้อยตัวเข้ามาปกคลุมฉาบท้องฟ้านภาที่กว้างใหญ่ไพศาล ย้อมสีฟ้าครามให้กลายเป็นสีขาวดุจหิมะช่างงดงามเหนือความคาดหมายของเขาเสียจริงอามันด์ก้มลงมองปลายรองเท้าของตนเองที่ยืนเหยียบพื้นต้นหญ้าอยู่ด้านล่าง เขาเห็นเพียงต้นหญ้าสีเขียวนั้น ค่อยๆ เลือนหายผ่านทะเลหมอกสีขาวพิสูจน์ดุจปุยเมฆ ต้นไม้สูงใหญ่สีเขียวขจีเหล่านั้นก็จางหายไปกลายเป็นทะเลหมอกสีขาวพิสุทธิ์ชายหนุ่มรู้สึกตื่นเต้นจนหัวใจดวงน้อยของเขาอดเต้นรัวๆไม่ได้ อรรวินทร์เองก็เช่นกัน หญิงสาวเคลื่อนมือของหล่อนมาจับกับมือของเขาอย่างรวดเร็วอรรวินทร์บีบมือของเขาอย่างแรง เวลานี้เองที่อามันด์นั้นก็จับมือหล่อนเช่นกันทั้งคู่รู้สึกราวกับว่ากระแสไฟบางอย่างกำลังแล่นผ่านร่างของพวกเขาโดยที่ทั้งสองไม่ทันได้ตั้งตัว อามันด์แล้วอรรวินทร์มองหน้ากันในทันทีดวงหน้า
ในมือของอรรวินทร์เป็นนาฬิกาเรือนสวยที่อามันด์ซื้อให้เธอตั้งแต่เขาได้เจอเธอหลังจากภพชาติที่แล้วของเขา“อิ่มหรือยังคะ” หญิงสาวเอ่ยถามชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนกว่าเดิม“อิ่มแล้ว” อามันด์กล่าวขณะปากของเขายังเคี้ยวซาลาเปาอย่างเอร็ดอร่อยจนหมดห้าลูกที่หญิงสาวซื้อมา“กินเร็วๆสิคะอามันด์ เดี๋ยวอรก็ไม่ทันไปดูทะเลหมอกหรอกค่ะ” หญิงสาวกล่าวพลางทำหน้ามุ่ยขึ้น“เดี๋ยวก็ได้ดูแล้วเดี๋ยวก็ได้ดูแล้ว” ชายหนุ่มกล่าวขณะมือเรียวหยิบขวดน้ำกรอกน้ำลงไปในปากชายหนุ่มสัมผัสได้ว่าเวลานี้น้ำที่เขากระดกลงไปผ่านลำคอของเขา มันช่างเย็นยะเยือกราวกับธารน้ำแข็งในมหาสมุดอันกว้างใหญ่ไพศาลดวงตาของอรริวินทร์เปล่งประกายวิบวับยามเมื่อเวลานี้หญิงสาวมองเห็นดวงตะวันที่ใกล้จะทอแสงขึ้นมาเบื้องหน้าหญิงสาวไม่รอช้า หล่อนฉวยคว้าข้อมือหนาของชายหนุ่มพลางลากออกไปยังจุดชมวิวทะเลหมอกทันทีอามันด์รีบเก็บถุงซาลาเปาเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของเขา ไม่นานนักดวงตาของชายหนุ่มพลันเบิกกว้างอย่างตระหนกสุดขีดอามันด์อดรู้สึกประหลาดใจขึ้นมาไม่ได้เมื่อเห็นชายหนุ่มหญิงสาวคู่รักมากมายต่างพากันมามุงดูยังที่จุดชมวิวแห่งนี้“ที่นี่เป็นจุดชมทะเลหมอกค่ะ” หญิงส
“อามันด์คะ” เสียงหวานเอ่ยเรียกชายหนุ่มที่เอาแต่สนใจขับรถบนท้องถนนในจังหวัดเชียงใหม่ที่เริ่มจะไม่สนใจเสียงเรียกของหญิงสาวอย่างอรรวินทร์“ตรงนั้นค่ะ อามันด์” อรรวินทร์ชี้นิ้วมือให้ชายคนรักขับรถไปจอดยังบริเวณลานจอดรถที่มีช่องว่างมือหนาของอามันด์กำลังสาวพวงมาลัยถอนเข้าไปในซองที่จอดรถอย่างรวดเร็ว“จ้ะ…ที่รัก” เสียงเข้มของชายหนุ่มกล่าวกับหญิงสาวพลางเงยหน้ามองอรรวินทร์ที่มีสีหน้าบึ้งตึงไม่น้อยเวลานี้อามันด์และอรรวินทร์มาฮันนีมูนที่ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากการประกาศวิวาห์อันหวานชื่นของหญิงสาวและชายหนุ่มได้จบไปอรรวินทร์ก็รบเร้าให้เขาพาหล่อนมาดูทะเลหมอกยามเช้าที่ประเทศไทยจนได้สายลมเหยียบเย็นหนาวเหน็บจับเข้าไปยังขั้วกระดูกของอรรวินทร์ หากแต่เวลานี้ใบหน้าของหญิงสาวกลับแต้มระบายรอยยิ้มอ่อนจางบนใบหน้า“หนาวไหมที่รัก” ชายหนุ่มกล่าวขึ้นดึงความสนใจของหล่อนให้หันมามองยังคนตัวสูงตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยรู้สึกหนาวเย็น ขนาดนี้มาก่อน อามันด์หันมองอรรวินทร์ที่เวลานี้หนาวสั่นอยู่ข้างๆเขาด้วยความรู้สึกประทับใจในตัวของภรรยาสาวนับตั้งแต่วันที่อรวินทร์และอามันด์ได้เจอกันอีกครั้ง ราวกับว่าอามันด
อามันด์เคลื่อนใบหน้าคมคายเข้าใกล้จนชิดใบหน้าของอรรวินทร์ ลมหายใจอุ่นรดใกล้จมูกของหญิงสาวทันที...อรรวินทร์แทบลืมหายใจยามเมื่อริมฝีปากบางประกบลงบนริมฝีปากอวบอิ่มรูปกระจับของหญิงสาวอย่างแผ่วเบา...ช่างอ่อนโยนและแสนตราตรึง.... “เจ้าสาวหอมแก้มเจ้าบ่าวบ้าง” เสียงเชียร์ดังสนั่นอีกครั้งจากพี่สะใภ้ของอรรวินทร์ อรรรวินทร์เคลื่อนใบหน้าของตนเองเข้าไปใกล้จมูกโด่งรั้นของชายหนุ่ม หญิงสาวหอมแก้มเจ้าบ่าวอย่างอามันด์ดังฟอดใหญ่ ท่ามกลางเสียงปรบมือของแขกเหรื่อที่มาร่วมแสดงความยินดีในความรักอันบริสุทธิ์ของทั้งคู่ห้องหอวิมานฟ้าครามซิปหลังชุดเจ้าสาวถูกรูดลงอย่างอ้อยอิ่ง เวลานี้มือหนากำลังสั่นเทา ทว่าอรรวินทร์ที่รับรู้ความรู้สึกของอีกฝ่าย หญิงสาวเบือนหน้ากลับมาหาเขา“อามันด์คะ” อรรวินทร์เอ่ยขึ้นขณะนั่งอยู่บนเตียงในชุดเจ้าสาว“ครับ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ปิดความตื่นเต้นไว้ไม่มิด ยามเมื่อเวลานี้อรรวินทร์และเขากำลังจะเข้าหอร่วมกัน“อรรักคุณนะคะ” อรริวนทร์เอ่ยบอกสามีป้ายแดงของเธออย่างรวดเร็วพลางเอื้อมมือไปกุมมืออันสั่นเทาของชายหนุ่ม“เช่นกันครับ ผมก็รักคุณดวงใจของผม” อามันด์กล่าวแล้วสบสายตากับหญิงส
เวลานี้เป็นวันที่เขามีความสุขอย่างยิ่ง ชายหนุ่มไม่นึกไม่ฝันว่าปรากฎการณ์ทางวิทยาศาสตร์จะพาเขาเข้ามาสู่ห้วงอารมณ์แห่งรักได้เคยมีคนกล่าวว่าวิทยาศาสตร์ต้องใช้ตรรกะแต่สำหรับอามันด์แล้ว เขาเชื่อว่ามันคือพรของพระเจ้าที่ทำให้เขาและเธอได้กลับมาเจอกันอีกครั้งคนเรามีระยะเวลาของตนเองเสมอ อามันด์เชื่อมั่นเช่นนั้นมาตลอด...วันนี้เป็นวันที่พิเศษอย่างยิ่งของเขา เป็นวันที่เขาปรารถนาจะมีที่สุด “นี่ใม่ใช่ความฝัน ในที่สุดการรอคอยของนายก็สิ้นสุดลงเสียทีนะอามันด์ นายกำลังจะเริ่มต้นใหม่กับอรรวินทร์ แสงสว่างของนาย และนายเองเชื่อว่านายก็คือคำตอบในใจของหล่อนเช่นกัน” อามันด์เอ่ยออกมาบอกตัวเองอย่างลิงโลด “อรรวินทร์คุณคือสิ่งมีค่าสิ่งเดียวที่ผมมี” อามันด์เอ่ยด้วยสีหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม[End of อามันด์ part]ห้องแต่งตัวเจ้าสาวร่างเพรียวของสตรีคนหนึ่งยืนอยู่หน้ากระจกบานกว้าง อรรวินทร์แทบไม่เชื่อสายตาของตนเองว่า หญิงสาวจะมีวันนี้...ช่วงเวลาที่หญิงสาวทุกคนในโลกใบใหญ่เฝ้าฝัน...วันแต่งงานของเธอและอามันด์ ชายหนุ่มผู้ที่เธอรักสุดดวงใจรองเท้าส้นสูงสาวเท้าออกมาจากห้องแต่งตัวเจ้าสาวอย่างรวดเร็ว เวลานี้อรรวินทร์สวมชุ
จวบจนวันนี้การรอคอยของเขาและเธอได้สิ้นสุดลงแล้ว อามันด์นึกขอบคุณนักวิทยาศาสตร์ผู้คิดค้นแนวคิดทฤษฎีสัมพันธภาพพิเศษอีกครั้งชายหนุ่มนึกขอบคุณทุกอย่างที่เกิดขึ้นและจบไปแล้วในชีวิตของเขาที่ผ่านมาเขาได้เรียนรู้แล้วว่า ความรักของเขาอยู่ได้ด้วยเธอ...และในเวลานี้เธอได้สอนให้เขารู้จักคำว่าสูญเสีย และสอนให้เขารู้จักคำว่า รักในเวลาเดียวกันอามันด์พยุงหญิงสาวขึ้นแล้วสบสายตากับอรรวินทร์ที่เวลานี้กำลังจะกลายเป็นเจ้าสาวของเขาอย่างเต็มตัว“อร...จากนี้ไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นผมจะอยู่กับคุณ” อามันด์กล่าวกับหญิงสาวแล้วเอื้อมมือมากอบกุมมือเรียวบางของหญิงสาว“เช่นกันค่ะ อามันด์ จากนี้ไปฉันจะอยู่เคียงข้างคุณเอง” อรรวินทร์กล่าวพลางสอดมือแล้วกระชับมือของชายหนุ่มไว้แนบแน่นจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกันดวงใจของหญิงสาวเต้นแรงกว่าเดิม...ยามเมื่อริมฝีปากบางทาบทับลงบนกลางกระหม่อมของหญิงสาว อามันด์จุมพิตอรรวินทร์อย่างแผ่วเบา“เที่ยงนี้คุณไปไหนไหม” อามันด์เอ่ยถามหญิงสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ฉันไม่... อรรวินทร์กล่าวทว่ายังไม่ทันได้สนทนาจบประโยคนิ้วเรียวสะอาดของอามันด์ก็สัมผัสริมฝีปากล่างของเธอเสียก่อนอรรวินทร์แหงนหน้ามองชาย
“คุณเคยเห็นภาพนี้ไหมครับ” สำเนียงภาษาฝรั่งเศสดังขึ้น อรรวินทร์คลับคล้าบคลับคลาว่าเคยได้ยินสุ้มเสียงนี้จากที่ไหน “ขอดิฉันดูหน่อยค่ะ” อรรวินทร์กล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นกว่าเดิมที่ชายหนุ่มตรงหน้าเอ่ยถามเธอในเรื่องของเขา มือหนาเอื้อมหยิบภาพม้วนกระดาษที่กองไว้ข้างตัวของเขาส่งให้หญิงสาว อรรวินทร์อดรู้สึกร้อนวูบวาบไม่ได้ยามเมื่อมือหนาจงใจเกี่ยวเข้าที่นิ้วก้อยของเธออย่างจงใจยั่วอีกฝ่าย หากเป็นเมื่อสมัยก่อนหญิงสาวคงวีนเหวี่ยงชายหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้าของเธอไปแล้ว แต่วันนี้ไม่ใช่อรรวินทร์ไม่มีเวลามาคิดเรื่องนั้น เพราะในใจของเธอมีเพียงแต่เขาคนเดียว หญิงสาววัยยี่สิบแปดปีคลี่กระดาษที่รับมาจากเจ้าของโรงละครเวทีบล็องอย่างเบามือ ภาพที่ปรากฎแก่สายตาของนักเขียนบทละครเวทีสาวเป็นภาพของสตรีคนหนึ่ง ใบหน้าของหญิงสาวคนหนึ่ง ดวงหน้าสวยคมล้อมกรอบด้วยผมสั้นเหยียดตรง ดวงตาคู่นั้นของหญิงสาวทอดมองอย่างอ่อนโยน มือเรียวของอรรวินทร์เอื้อมปิดเรียวปากอวบอิ่มของตนเองอย่างตระหนก หยาดน้ำใสไหลคลอหน่วยตาทั้งสองข้าง แววตาคู่นั้นเปล่ง
อามันด์หัวใจพองโต เขาลอบมองอากัปกิริยาของหญิงสาวที่ดูเหมือนปกติ หากแต่ชายหนุ่มสังเกตเห็นว่า หน่วยตาของหญิงสาวมีหยาดน้ำใสไหลคลออยู่ อามันด์อดมั่นใจไม่ได้ว่า อรรวินทร์เป็นกุญแจชิ้นส่วนที่สำคัญที่สามารถไขปริศนาในใจเขามาตลอดตั้งแต่เกิดมา ในเวลานี้การรอคอยของชายหนุ่มสิ้นสุดลงแล้ว[End of อามันด์ part] “เอาตรงๆ ผมคิดว่าเรื่องคำสาปของอามันด์สามารถนำมาทำมาป็นนิยายได้ แต่เป็นบทละครเวทีไม่ได้ครับ” อามันด์กล่าวด้วยท่าทีจริงจัง “ค่ะ” อรรวินทร์กล่าว หญิงสาวเองก็เตรียมใจไว้แล้วจากคำถามของท่านประธานหนุ่มมเมื่อครู่ “เรื่องนี้อาจจะไม่ได้เข้าร่วมกับทางโรงละครนะครับ” อามันด์เอ่ยขึ้นในที่สุด ชายหนุ่มเพียงแค่อยากลองใจหญิงสาวเท่านั้น อรรวินทร์หัวใจหล่นวูบ หญิงสาวอดรู้สึกไม่ได้ว่าหยาดน้ำใสไหลคลอหน่วยตาทั้งสองข้างของเธอ ดวงตาของชายหนุ่มเบิกกว้างขึ้น เขารีบส่งสัญญานมือบอกให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลออกไปก่อน แววตาของชายหนุ่มในยามนี้เปล่งประกายกว่าเดิม ฝ่ายทรัพยากรบุคคลออกไปนานแล้ว หากแต่อรรวินทร์ยังคงนั่งสงนบนิ่งอยู่ที่เด