“เธอทำเป็นเหนือกว่า ใช่ไหมล่ะ? ฉันแค่จะเตือนเธอ เธอกลัวมากเหรอ? มาบีบคอฉันสิ! เธอกำลังรออะไรอยู่? ฉันตบเธอ เธอต้องตบฉันกลับสิ!” "แก! แก… แก…” ทิฟฟานี่ตัวสั่นไปทั้งตัวและจ้องไปที่ชาร์ล็อต เธอไม่สามารถบีบคอชาร์ล็อตได้ ในขณะนั้นเอง รถทิ้งขยะจอดอยู่ด้านหลังทิฟฟานี่ และหยิบถังขยะที่หน้าร้านไปทิ้ง ชาร์ล็อตยิ้มออกมา เธอคว้าแขนทิฟฟานี่แล้วพาเธอพาดบ่าด้วยสุดกำลัง “อ๊าก!” ทิฟฟานี่ที่ผอมและบอบบางมีน้ำหนักเพียง 48 กิโลกรัมเท่านั้น เธอกรีดร้องขณะที่ชาร์ล็อตโยนเธอลงในถังขยะ ขณะที่มันกำลังถูกยกขึ้นมาพร้อมกับเสียงดังลั่น “อ๊า…อึก!” ขยะปิดปากทิฟฟานี่ แขนกลของรถบรรทุกขยะพลิกถัง โยนทิฟฟานี่เข้าไปในรถบรรทุกที่เต็มไปด้วยขยะ ทิฟฟานี่ตอนนี้เป็นคนสกปรกโสโครกและเต็มไปด้วยขยะหลากหลาย ทั้งแบบแห้งและเปียก ราวกับว่าเธอตกลงไปในส้วมซึม “โอ้พระเจ้า มันเหม็น! กลิ่นมันเหม็นมาก! ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย!” “ได้ยินไหม? มีคนอยู่ในรถบรรทุกขยะ! ช่วยฉันที!” “ฮือ… ช่วยฉันด้วย ได้โปรด!” ทิฟฟานี่ร้องไห้จนน้ำตาไหล ชาร์ล็อตดีดนิ้วให้เธอ “หุบปากไปเลยทิฟฟานี่... ขยะอย่างเธอควรถูกทิ้งให้อยู่ในกองขยะ” ทิฟฟานี่
มิแรนด้าที่โกรธชาล็อตมากอยู่แล้ว ยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีกหลังจากที่ทิฟฟานี่ใส่ไฟ “เฮอะ! เธอคงจะกลัวนางนั่น แต่ฉันไม่ ทิฟฟ์ เธอแค่ต้องรอ ฉันเอาศักดิ์ศรีเป็นประกันเลย ว่าครั้งนี้ฉันจะทำให้ชีวิตนางนั่นต้องทนทุกข์ทรมาน!”โครอลไลน์ไม่เพียงแต่เป็นเจ้าของร้านเสื้อผ้า แต่ยังเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์อีกด้วยตอนที่ชาร์ล็อตไปที่ร้านของเธอ โครอลไลน์กำลังวัดชุดให้กับลูกค้าท่านหนึ่งอยู่ ชาร์ล็อตนั่งอยู่ข้าง ๆ อย่างเงียบ ๆ ไม่ได้รบกวนเธอแต่อย่างใดหลังจากที่ลูกค้าออกจากร้านไปแล้วนั้น โครอลไลน์ก็สะบัดกระเป๋าตังไปที่ชาร์ล็อต “เช้านี้ฉันหาเงินได้ 50 ดอลลาร์ ไปกันเถอะ ฉันเลี้ยงข้าวกลางวันเธอเอง”ชาร์ล็อตเขย่าโทรศัพท์และกระเป๋าเงินของเธอไปมา “นี่อะไร? ฉันเพิ่งขายรูปได้ 11 รูปภายในคราวเดียว เพราะฉะนั้น ให้ฉันเลี้ยงเธอเถอะ”“อา? มีเรื่องอะไรดี ๆ เกิดขึ้นงั้นเหรอ?!” โครอลไลน์เข้าควงแขนชาร์ล็อตขณะที่ดวงตาของเธอเป็นประกาย“เล่าให้ฉันฟังสิ ทำไมถึงมีคนมาซื้อภาพจากเธอเยอะขนาดนั้นในคราวเดียว? นี่เธอไปหว่านเสน่ห์ผู้ชายรวย ๆ อะไรทำนองนั้นเหรอ? อย่าโกหกฉันนะ!”ชาร์ล็อตขยิบตาพลางหัวเราะ “คนที่ซื้อรูปฉันก็รวยจริง ๆ แหละ แ
“โครอลไลน์ อย่าเข้าใจฉันผิดสิ ฉันไปดุชาร์ล็อตตอนไหนเหรอ? ฉันแค่พูดเรื่องจริงเอง! เธอไม่รู้เหรอว่าชาร์ล็อตเป็นลูกของคอร์ทนีย์ ไคลน์แมน? คอร์ทนีย์จิ้งจอกเฒ่าที่แสนจะสำส่อนไงล่ะ เพราะฉะนั้นเชื้อของยายคอร์ทนีย์คงส่งต่อมาที่เธอด้วย แน่นอนว่ายายนั่นเป็นจิ้งจอกสาวที่...อ๊าห์—” ประโยคที่มิแรนด้าพูดถูกขัดด้วยเสียงกรีดร้องตัวเธอเอง เพราะโครอลไลน์ได้ยกขาของเธอ ถีบเข้าไปที่หน้าท้องของมิแรนด้าหลังจากที่มิแรนด้าโดนถีบ เธอก็ถอยไปชนเข้ากับกระจกในร้านอย่างจังเพล้ง! กระจกแตกเป็นเสี่ยง ๆ บนพื้น ส่วนมิแรนด้าที่สูญเสียการทรงตัวอยู่ก็ล้มทับเศษกระจก และร้องไห้อย่างเจ็บปวดออกมาเบาๆ แล้วสลบไป“อ๊า! มีคนโดนฆาตกรรมตรงนี้!” ลูกค้าที่อยู่นอกร้านส่งเสี่ยงแหลมเหมือนหมูทุกคนมามุงที่ร้านในทันที “โอ้ พระเจ้า เร็วเข้า! เรียก191เร็ว!”“โทรเรียกตำรวจ!”เมื่อชาร์ล็อตเห็นร่างมิแรนด้าที่นอนแน่นิ่งอยู่บนกองเลือด สมองเธอก็ตื้อไปหมดรถฉุกเฉินมาถึงที่ร้านอย่างรวดเร็ว มิแรนด้าถูกอุ้มขึ้นไปที่เปล และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ในขณะที่ชาร์ล็อตและโครอลไลน์ก็ถูกส่งตัวไปที่สถานีตำรวจ ทั้งสองคนถูกแยกไปอยู่ห้องสอบปากคำคนละห้องเจ
“ฉันรู้” ชาร์ล็อตยิ้มอย่างอ่อนแอ “ลุค บอกฉันหน่อย แซคคารีจะทำอะไรบ้าง?”ลูคัสส่ายหัวไปมา “ถ้ามีคนทำคุณมิแรนด้าเจ็บ คน ๆ นั้นต้องตายไปแล้วครับ แต่คุณโครอลไลน์เป็นเพื่อนสนิทของนายหญิง ดังนั้นนายท่านรองคงไม่แก้แค้นเธอ แต่สำหรับนายท่านรองคุณมิแรนด้าก็สำคัญพอ ๆ กับคุณครับ เพราะฉะนั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่นายท่านรองจะห้ามคุณมิแรนด้าไม่ให้แก้แค้นคุณโครอลไลน์ หากคุณมิแรนด้าต้องการให้คุณโครอลไลน์ขึ้นศาล นายท่านรองก็จะทำหน้าที่พี่ชายอย่างเต็มที่เพื่อหาทนายที่ดีที่สุดในเมืองนี้ และส่งคุณโครอลไลน์เข้าคุก”ร่างกายอันบอบบางของชาร์ล็อตสั่นเทา“นายหญิง!” ลูคัสรีบคว้าเธอไว้ “นายหญิงครับ ผมขอพูดแทนนายท่านรองเลยนะ การทำแบบนี้นายท่านรองได้เลือกทางที่ดีที่สุดสำหรับคุณแล้วครับ ได้โปรดอย่าไปหาเขาแล้วขอให้เขาบังคับคุณมิแรนด้ายกโทษให้คุณโครอลไลน์เลยครับ นายท่านรองคงจะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ถ้านายหญิงทำแบนนั้น”ชาร์ล็อตเงยหน้ามองสถานที่ที่เธอไม่รู้จัก ริมฝีปากที่เหมือนกับกลีบดอกไม้ของเธอเปิดออกอย่างสั่นเทา “ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกลุค แซคคารีทำเพื่อฉันมากเกินไปแล้ว ฉันพอใจแล้วล่ะ และฉันจะไม่เห็นแก่ตัวทำให้เขาต้องเสียค
“ครั้งสุดท้ายที่ยายสารเลวนั่นทำร้ายฉัน แกก็ทำให้พี่ชายฉันปล่อยมันไป แต่หลักฐานที่อยู่ในมือฉันในครั้งนี้ แกก็รู้นี่ว่ามันไม่ได้ผลแม้ว่าแกจะขอให้เขาไว้ชีวิตยายนั่น และฉันไม่หลงกลแกอีกแล้ว ดังนั้น แกควรหุบปากที่เสแสร้งและแกล้งทำเป็นโง่ซะ!”ปัง! ชาร์ล็อตขว้างอัลบั้มรูปหนัก ๆ ไปที่ข้างหมอนของเธอมิแรนด้าอึ้ง “นี่มันอะไรกัน?”ชาร์ล็อตพูดด้วยริมฝีปากอันบอบบางของเธอ “ทำไมเธอไม่ดูเองล่ะ?”มิแรนด้าเปิดอัลบั้มรูปอย่างสงสัย และดูรูปที่อยู่ในนั้น มือของเธอสั่นทาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นทันทีขณะที่ดวงตาเธอเป็นประกาย “เฮ้ ฉันไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย ชาร์ล็อต ซิมม่อนส์ แกทำให้ฉันประทับใจอยู่เรื่อยเลย แกนี่เหมือนคอร์ทนีย์ ไคลน์แมนไมมีผิด ศีลธรรมคงเป็นแค่เรื่องตลกสำหรับพวกแกสองคน และมันไม่มีขีดจำกัดสำหรับแกเลย...”“หยุดพูดเรื่องไร้สาระสักที!” ชาร์ล็อตขัดมิแรนด้าอย่างเย็นชา “ปล่อยโคร่าไปซะ แล้วฉันจะให้อัลบั้มรูปกับเธอ ว่าไง เธอตกลงไหม?”“ตกลง!” มิแรนด้าพยักหน้าอย่างไม่ลังเล“ได้!” ชาร์ล็อตไม่ได้พูดอะไรอีก เธอเลิกจ้องมิแรนด้าแล้วหันหลังกลับออกไปทางประตูห้องผู้ป่วย“ฉันไม่คิดเลยว่าโครอลไลน์จะสำคัญกับแกมา
เป็นเบอร์ของโคร่าที่โทรมา ชาร์ล็อตจึงรีบรับสายเสียงของโครอลไลน์ดังออกมาจากหูฟังทันที “คาร์ลี เจ้าหน้าที่ซิมเมอร์แมนบอกฉันว่า มิแรนด้าไม่เอาเรื่องฉันแล้ว ฉันจึงได้รับการปล่อยตัวออกมา ฉันคิดไม่ออกเลยจริง ๆ ฉันเป็นหนามยอกอกของเธอมาตลอด แล้วทำไมจู่ ๆ แม่นั่นถึงทำตัวผิดปกติขึ้นมานะ? เธอไปขอร้องแม่นั่นหรือเปล่า?”ชาร์ล็อตยิ้มราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ฉันมั่นใจว่าตอนนี้เธอจะปลอดภัย อย่ากังวลเรื่องอื่นมากนักเลย””“คาร์ลี่!” เสียงของโครอลไลน์เต็มไปด้วยความเป็นห่วง “มิแรนด้าไม่ปล่อยฉันไปโดยไม่มีเหตุผลแน่ เธอไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ นี่เธอไปทำข้อตกลงอะไรกับแม่นั่นหรือเปล่า?”“ใช่” ด้วยความที่กลัวโครอลไลน์ ชาร์ล็อตต์จึงพยายามตอบด้วยความใจเย็นที่สุด“ถึงอย่างไร มิแรนด้าก็เป็นน้องสะใภ้ของฉัน พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ฉันก็แค่ให้บางอย่างที่ทำให้เธอมีความสุข มิแรนด้าจะได้ไม่ต้องทำเธอลำบากอีกต่อไปไงล่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ฉันไม่ได้ทำอะไรพลาดไป”“โอเค...” โครอลไลน์โล่งออก “คาร์ลี่ อยู่ดี ๆ ก็มีบางอย่างทำให้ฉันคิดถึงเรื่องไร้สาระที่เราทำกันเมื่อสองปีก่อน และอัลบั้มรูปนั้น ได้โปร
“พี่รู้อะไรไหม? ฉันล่ะสงสารพี่จัง พี่กำลังทุกข์ทรมานอยู่กับความเจ็บปวดที่ลอร์เรนสร้างไว้ไม่นานนัก หลังจากนั้นพี่ก็เจอชาร์ล็อต ซิมม่อนส์ที่ต่ำช้าและสกปรกอีกกว่าอีก พี่น่าสงสารจริง ๆ ”แซคคารีทำหน้าบึ้งทันทีเขาเปิดริมฝีปากบางเฉียบเตรียมจะพูด แต่มิแรนด้าโยนอัลบั้มรูปลงบนตักของเขา“หยุดพูดว่าฉันอคติ พี่ดูเอาเองแล้วกัน!”แซคคารีเปิดอัลบั้มเขาได้เห็นภาพที่ไม่น่าดู ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาเปลี่ยนเป็นสีเข้มเหมือนก้นหม้อแซคคารีที่ดวงตาของเขามีความอบอุ่นในตอนแรก ตอนนี้กลายเป็นเย็นชาและไร้ความปราณีราวกับเขาเป็นพยายม ดวงตาของเขาปล่อยรังสีอันเยือกเย็น ทำให้ลึก ๆ มิแรนดารู้สึกยินดี…'ความตายของแกใกล้เข้ามาแล้ว ชาร์ล็อต ซิมมอนส์! คราวนี้ พี่ชายของฉันจะไล่แกออกไปแน่นอน มาดูกันว่าแกจะผลักไสทิฟฟานี่ไปได้อย่างไรเมื่อพี่ชายฉันไม่เข้าข้างแกแล้ว!'…ขาของชาร์ล็อตต์กลับมาดีขึ้นแล้ว แต่เธอยังคงนั่งบนม้านั่งข้างถนนด้วยความงุนงงถ้าเป็นเมื่อก่อน เธอคงจะกลับไปบ้านของเธอและแซคคารี ถ้าเธอไม่มีอะไรทำแต่ถ้าแซคคารีตัดสินใจหย่ากับเธอ บ้านหลังนั้นก็ไม่ใช่ที่สำหรับเธออีกต่อไปเธอกลัวเกินกว่าที่จะกลับไปหาพ่
ดวงตาของชาร์ล็อตสบกับสายตาที่เยือกเย็นและเฉียบคมของเขา ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะหยุดทุกอย่างที่ขวางหน้าได้ในขณะนั้น ใบหน้าของเธอซีดเผือดมากยิ่งขึ้นจากความหวาดกลัว จนเกือบจะหยุดหายใจ“อธิบายมาให้ชัดเจน”น้ำเสียงของแซคคารีเยือกเย็นราวกับน้ำแข็งแต่ก็ร้ายแรงและมีเสน่ห์ในคราวเดียวกัน ทั้งหมดประดังเข้ามาที่เธอทั้งหมดเธอสูญเสียการรับรู้ทางความคิดและตอนนี้กำลังกลัวความคิดของตัวเองอยู่“น-นายจะให้ฉันอธิบายอะไร?”“อธิบายรูปพวกนี้ ฉันยังไม่ได้ฟังคำอธิบายจากเธอ”แซคคารีที่ดูหล่อเหลาอย่างสมบูรณ์แบบ จ้องเข้าไปในดวงตาของเธอด้วยแววตาที่มืดมนและเยือกเย็นของเขา“โอ้… นั่น…”ชาร์ล็อตสูดหายใจเข้าลึก ๆ ถูกรัศมีอันทรงพลังของเขาข่มขู่อย่างแรง เธอไม่สามารทนมันได้อีกต่อไป“เมื่อสองปีที่แล้ว ในคืนวันเกิดของฉัน เซนิออส ไบรสัน โครอลไลน์ และฉันดื่มกันหนัก เราทุกคนเมามาก แล้วด้วยความเมาของพวกเรา เซนิออสบอกให้พวกเราลองแหกกฏดู…พวกเราเลยถ่ายรูปพวกนั้น…”“เธอแค่ถ่ายรูปใช่ไหม?”แซคคารีเหลือบมองที่อัลบั้มรูปอีกครั้งในรูปพวกนี้ชาร์ล็อตแต่งตัวแปลกไปเธอดูสวยและมีเสน่ห์มาก ๆ เธอดูไม่เหมือนตอนเธอมีอะไรกับเขาด้วยซ
"บาดแผลทางอารมณ์ของนายท่านรองในวันนี้ค่อนข้างแย่ การดื่มน้ำอุ่นเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะบรรเทาอาการของเขาได้ เขาต้องการความสงบและเงียบ"ชาร์ล็อตดูเหมือนจะคิดได้ในทันที "ฉันไม่คิดว่าเขาจะเจ็บปวดขนาดนั้น เพียงเพราะเขาได้เจอกับแกริสันในวันนี้และทำให้นึกถึงลอร์เรน วันนี้เขาได้เจอกับลอร์เรนแล้วหรือยัง?""ลอร์เรน? ฮ่า!" ลูคัสยิ้มอย่างมีเลศนัย"นายหญิง ถ้าคุณสนุกกับการแต่งเติมความคิดแบบนี้ ทำไมไม่ลองขยายจินตนาการของคุณดูล่ะ?"ชาร์ล็อตเกือบจะสติหลุด"นายกำลังพูดอะไร?"ลูคัสหันกลับมา ส่งยิ้ม และขยิบตาให้เธอ "เอาล่ะ มีหลายคนเคยได้ยินข่าวลือว่านายท่านรองเป็นเกย์จริง ๆ ทำไมคุณไม่พิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่แกริสันจะมีความรักที่แท้จริงกับนายท่านรองล่ะ? บางทีบาดแผลของเขาอาจจะถูกรบกวนอย่างมากเพราะเขารู้ว่าแกริสันหลงใหลในตัวคุณแค่ไหน?""นั่น... เป็นไปได้ยังไงกัน!?" ดวงตาของชาร์ล็อตเต็มไปด้วยความตกใจลูคัสยิ้มอย่างลึกลับ "ผมไม่รู้ คุณสามารถถามนายท่านรองได้เสมอ บางทีเขาอาจจะให้คำตอบกับคุณได้... โอ้!"เขาตะโกนขณะที่ชาร์ล็อตตบเข้าที่หัวของเขาเวลาไม่นานนัก ชาร์ล็อตก็กลับมาถึงเขตวิหารศักดิ์
ชาร์ล็อตตกตะลึง "ไม่ใช่ว่าฉันจะมีพลังวิเศษนะ ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอีกสี่ปีข้างหน้า?" เธอและแกริสันมีสัญญาสิบปีระหว่างกัน ตอนนี้ก็หกปีแล้ว สัญญาจะครบกำหนดในอีกสี่ปี เธอจะแต่งงานกับเขาอย่างที่เธอพูดไว้หรือเปล่า?" แซคคารีถามด้วยสีหน้าจริงจังมาก"เฮอะ!" ชาร์ล็อตหัวเราะออกมาราวกับว่าเธอได้ยินเรื่องที่ตลกที่ใหญ่ที่สุดในโลก"ถ้านายกำลังจะพยายามเล่นตลก ก็ไม่จำเป็นต้องดูจริงจังขนาดนั้นก็ได้ จริง ๆ แล้วนายดูดีมากเลยนะเวลายิ้ม มาเถอะ ยิ้มหน่อย!"แซคคารีดูบูดบึ้งยิ่งกว่าที่เคย รูม่านตาน้ำแข็งของเขาที่จ้องมาที่เธอดูน่ากลัวยิ่งกว่าเดิมชาร์ล็อตเข้าใจทันทีว่าแซคคารีไม่ได้พูดเล่น ๆ กับเธอเลย!'พอได้แล้ว! เราแต่งงานกันมาเกือบสามเดือนแล้ว และฉันไม่เคยได้ยินแซคคารีพูดเรื่องตลกมาก่อน ฉันเริ่มสงสัยแล้วว่าก้อนน้ำแข็งที่อยู่ในร่างกายของเขาเริ่มหลอมละลายตอนไหนกัน!'เธอส่ายศีรษะอย่างงุ่มง่าม"ถึงแม้ว่าแกริสันจะโง่เขลาพอที่จะรออยู่ที่สะพานนั้นเป็นเวลาสิบปี ฉันก็ไม่มีวันแต่งงานกับเขา ฉันบอกเรื่องนี้กับเขานับครั้งไม่ถ้วนตลอดหกปีที่ผ่านมา รวมทั้งวันนี้ด้วย แต่เขาก็ปฏิเสธที่จะฟัง มันเป็นเรื่อ
เป็นเวลาหนึ่งปีแล้วที่แซคคารีไม่เคยพบหรือติดต่อกับเขาเลย เขาคิดว่าความเย่อหยิ่งและถือตัวของแซคคารีนั้น จะทำให้แซคคารีไม่มีวันที่จะติดต่อกับเขาอีกเว้นแต่เขาจะเป็นคนเริ่มทำเช่นนั้นเอง มันทำให้เขาประหลาดใจที่แซคคารีเป็นคนทำลายกำแพงระหว่างพวกเขาเพราะเห็นแก่ชาร์ล็อต!แซคคารีช่วยพยุงแกริสันออกจากสะพานชาร์ล็อตรู้ดีถึงความสัมพันธ์ของแกริสันและแซคคารี ดังนั้นเธอจึงไม่แปลกใจที่พวกเขารู้จักกัน แต่สิ่งที่น่าแปลกใจนั้นก็คือ ในช่วงห้านาทีที่ผ่านมาตั้งแต่ที่แซคคารีช่วยพยุงแกริสันลงมาจากสะพานแล้วเดินไปยังรถของเจมส์สัน พวกเขาไม่พูดอะไรกันเลย แท้ที่จริงแล้วพวกเขาไม่แม้แต่จะมองหน้ากันด้วยซ้ำ...ดังนั้นพวกเขาจริงเดินไปด้วยกันด้วยใบหน้าที่เย็นชาในลักษณะที่แปลกประหลาดไปตลอดทาง ราวกับภูเขาน้ำแข็งสองลูกที่มาบรรจบกันที่ด้านหนึ่งชาร์ล็อตที่ยืนอยู่ข้างพวกเขา รู้สึกราวกับว่าเธอเสี่ยงที่จะถูกแช่แข็งตายเพราะพวกเขา ดังนั้น เมื่อพวกเขาลงมาจากสะพานแล้ว เธอจึงไม่เดินไปกับพวกเขาต่อ เธอหันหลังและมุ่งหน้าไปที่รถจองแซคคารีแทน"อ่า! คุณคอนเนอร์ ผมคิดว่าคุณจะไม่มาเจอคุณลาร์สันอีกแล้ว ช่างน่าประหลาดใจเสียนี่กระไร..." เ
ชาร์ล็อตหันกลับมาและเห็นแกริสันนั่งคุกเข่าบนสะพานโดยมีมือทั้งสองข้างของเขาพยุงตัวเองไว้กับพื้น ใบหน้าของเขาซีดเผือดและหน้าผากเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ แขนและขาของเขากำลังสั่น"ดูฉันตอนนี้สิ แค่เจ็บป่วยเล็กน้อยยังทำให้ฉันดูไร้ประโยชน์ขนาดนี้เลย ฉันยังเดินตรงไม่ได้ด้วยซ้ำ อย่าช่วยฉันนะ ฉันลุกขึ้นเองได้"เขาบังคับตัวเองให้ยืนขึ้น แต่เพราะเขาเจ็บป่วยและอ่อนแอมาก เขาจึงไม่สามารถยืนขึ้นได้เลยชาร์ล็อตเม้มริมฝีปากของเธอแกริสันคือความภาคภูมิใจของโรงเรียนมัธยมของพวกเขาในอดีต ไม่เพียงแต่เขาจะเป็นนักปราชญ์ที่ไม่มีใครกล้าแตะต้องเท่านั้น แต่เขายังเป็นความภาคภูมิใจและความสุขของคุณครูสอนพละอีกด้วย และเขาเคยทำลายสถิติการวิ่งระยะไกลอีกสองสามรายงานไม่น่าแปลกใจเลยที่เจมส์สันมาขอร้องเธอให้ช่วยพูดกับเขา แกริสัน แชมป์นักวิ่งที่ตอนนี้ป่วยจนแทบจะเดินไม่ได้!"หยุดฝืนตัวเองได้แล้ว มาเถอะ"ชาร์ล็อตเดิยมาอยู่เคียงข้างเขาและยื่นมือออกมาหาเขาแกริสันประหลาดใจกับการแสดงความรู้สึกที่กระทันหันจนน่าสับสนนี้ จากนั้นเขาก็คว้ามือของชาร์ล็อตไว้อย่างรวดเร็ว"ขอบคุณ!"แกริสันที่สุขภาพดีและแข็งแรงในตอนนี้ดูเหมือนชายชรา
เนื่องจากเขาไม่ได้รับการตอบรับใด ๆ จากแซคคารี ลูคัสจึงดึงโทรศัพท์ออกมา เปิดข้อมูลมี่เขาพบ และยื่นให้แซคคารีดู"ฟังนะครับ แกริสันมอบช่อดอกไม้ให้นายหญิงคอนเนอร์ 237 ช่อ เขียนจดหมายรัก 698 ฉบับ และสารภาพความรักที่เขามีต่อเธอ 1,966 ครั้งในช่วงหนึ่งภาคการศึกษา และอาจจะมากกว่านั้นหากเราพิจารณาถึงช่วงเวลาที่ไม่มีใครรู้หรือช่วงเวลาที่ไม่สามารถติดตามได้"แซคคารียังคงอยู่ในภาวะตึงเครียด ดวงตาของเขามืดลงจนน่ากลัวลูคัสทำได้เพียงพยายามปลอบเขา"แต่ถึงอย่างนั้น นายหญิงคอนเนอร์ก็ยังไม่ไปไหน เธอเคยล้อเล่นกับเขาด้วย... โดยการขอให้เขารอเธออยู่ที่สะพาน นั่นหมายความว่าแกริสันเป็นเพียงของเล่นที่ขาดไม่ได้สำหรับเธอ" "นายพูดอะไร?" ในที่สุดแซคคารีก็พูดขึ้นลูคัสจดจ่ออยู่กับข้อมูลในโทรศัพท์ของเขาอย่างเต็มที่ เขาไม่ได้สังเกตว่าการจ้องมองของแซคคารีนั้นลดลงกลายเป็นแสงสะท้อนสันทรายที่เยือกเย็น เขายังคงอธิบายต่อไป "เอ่อ พูดตามตรงนะครับ สำหรับนายหญิงคอนเนอร์แล้ว แกริสันเป็นเหมือนพี่ชายที่คอยดูแลเธอที่มีสถานะเดียวกับทิฟฟานี่ มิลเลอร์นายหญิงคอนเนอร์ไม่สนใจเขาเลยจริง ๆ เมื่อเธอเล่นกับเขาเสร็จแล้ว เธอจะ... แอ๊ะ!"
ดังที่กล่าวไว้ ไม่ว่าชาร์ล็อตจะปฏิเสธแกริสันอย่างโหดร้ายสักกี่ครั้ง เขาก็ไม่เคยยอมแพ้และยังคงไล่ตามเธอด้วยความมุ่งมั่นเมื่อหกปีที่แล้ว โรงเรียนของพวกเขาได้จัดทัศนศึกษามาที่ "สะพานสายรุ้ง" แกริสันได้สารภาพและมอบจดมายรักให้กับชาร์ล็อตที่สะพานสายรุ้งแห่งนี้ต่อหน้านักเรียนจำนวนมากเนื่องจากไม่มีทางเลือกอื่น ชาร์ล็อตจึงชี้ไปที่ "สะพานสายรุ้ง" และพูดว่า "เอาล่ะ แกริสัน คุณบอกว่าคุณจะไม่ยอมแพ้ใช่ไหม? ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณจะต้องมาที่สะพานแห่งนี้ทุกวันและรอฉันสองชั่วโมง ไม่ว่าฝนจะตกหรือแดดออก ถ้าคุณสามารถรักษามันไว้ได้เป็นเวลาสิบปีโดยที่ไม่ล้มเหลว หลังจากผ่านไปสิบปี ฉันจะแต่งงานกับคุณและเป็นภรรยาของคุณ"ชาร์ล็อตเดินจากไปทันทีหลังจากนั้น และเธอก็โยนจดหมายรักที่แกริสันมอบให้เธอลงไปในแม่น้ำด้วยชาร์ล็อตรู้สึกโล่งอกที่แกริสันจะต้องยอมแพ้เมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูดไป เพียงเพราะว่าเธอไม่เคยคาดหวังตั้งแต่แรก แต่แกริสันโดดเรียนทุกวันและมารอเธอที่สะพานสายรุ้ง โดยไม่คำนึงถึงสภาพอากาศ เขาทำแบบนี้มาหกปีแล้ว..."ที่นี่อากาศหนาวและชื้น และเธอค่อนข้างอ่อนแอ แค๊ก... ดังนั้นเธอควรกลับไปเดี๋ยวนี้" เสียงท
ลูคัสตัวสั่นเทาด้วยความกลัวต่อเสียงอันเคร่งขรึมของแซคคารี จากนั้นลูคัสก็สงบสติอารมณ์และยิ้มกว้างให้เขา "เอาล่ะ เอาล่ะ เพื่อความปลอดภัย ได้โปรดจิบน้ำอุ่นในแก้วนี้ไปก่อน นายท่านรอง"น้ำอุ่นหนึ่งแก้วถูกยื่นให้กับแซคคารี แต่เขาปัดมันออกไปอย่างเย็นชา ดวงตาของเขาดูลุ่มลึกราวกับว่าเขาสามารถกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ได้ในขณะที่เขาคำราม "นายรีบขับรถบ้านี่ไปเดี๋ยวนี้!""ครับ!" ลูคัสตะโกนตอบรับดังลั่น'ดูเถอะ! แม้แต่ชายผู้สูงศักดิ์และมีการศึกษามากที่สุดในรอธเซย์ยังสบถหยาบคาย ทั้งคุณ นายหญิงคอนเนอร์ และคุณแกริสัน ลาร์สัน อย่าทำอะไรโง่ ๆ เลยนะ!""สะพานสายรุ้ง" เป็นสะพานคู่ขนานสองเส้นเหตุผลที่ "สะพานสายรุ้ง" เป็นที่รู้จักในชื่อสะพานสายรุ้งก็เพราะมีหมอกหนาเป็นชั้น ๆ ตลอดเวลาในพื้นกว้างระยะสองเมตรระหว่างสะพานทั้งสองที่สร้างขนานกันเหนือน้ำ เมื่ออากาศไม่ดี คนบนสะพานด้านหนึ่งจะมองไม่เห็นคนที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของสะพาน เพราะฉะนั้นช่วงที่อากาศแจ่มใสและดวงอาทิตย์ขึ้นสูงเท่านั้นที่คนบนสะพานทั้งสองฝั่งจะมองเห็นกัน ในช่วงเวลานั้น รุ้งกินน้ำจะเกิดขึ้นระหว่างสะพานสองเส้นนี้ และคู่รักที่ยืนอยู่บนสะพานทั้ง
แซคคารีเลื่อนกระจกลงชายวัยกลางคนกล่าวอย่างเร่งรีบ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความกังวล "สวัสดี คุณคอนเนอร์...""ฉันเลิกยุ่งกับเธอแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย" แซคคารีพูดตัดบทชายคนนั้นให้สั้นลง ดวงตาที่เยือกเย็นของเขานั้นไม่มีสิ่งใดเลยนอกจากความแน่วแน่นและไม่แยแส"จำสิ่งที่ฉันจะพูดไว้ มิสเตอร์ฟอสเตอร์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอในอนาคต อย่ามาหาฉันอีก""เกี่ยวกับเรื่องนั้น..." มิสเตอร์ฟอสเตอร์พูดอย่างเชื่องช้า "ผมไม่ได้มาหาคุณ คุณคอนเนอร์ ผมมาหาคุณซิมม่อนส์ต่างหาก!"ใบหน้าที่ปราณีตของแซคคารีมีความประหลาดใจเล็กน้อยลูคัสหันหน้าจากที่นั่งคนขับเพื่อมองชาร์ล็อตมิสเตอร์ฟอสเตอร์เป็นพ่อบ้านของครอบครัวลาร์สัน ในช่วงเวลาที่แซคคารียังคงอยู่กับลอร์เรน มิสเตอร์ฟอสเตอร์มักจะตามลอร์เรนไปด้วยเสมอ'เป็นไปได้ไหมว่าแม่ของแซคคารีและมิสเตอร์ฟอสเตอร์จะเป็นเพื่อนกัน?'ชาร์ล็อตมุ่ยปากอย่างกังวลและพูดว่า "คุณต้องการอะไรจากฉัน?""เป็นเพราะคุณลาร์สัน" มิสเตอร์ฟอสเตอร์ถอนหายใจขณะที่จ้องมองใบหน้าอันบอบบางของชาร์ล็อต "คุณซิมมอนส์ คุณควรรู้ว่าคุณลาร์สันเป็นคนหัวแข็งและหยิ่งเหมือ
เสียงของแซคคารีดังขึ้นที่ข้างหูของชาร์ล็อต เมื่อเธอจ้องมองไปที่ขี้เถ้าในถังโลหะอย่างเลื่อนลอยรอยยิ้มว่างเปล่าเหยียดตรงริมฝีปากของเธอขณะที่เธอพูดว่า "ไม่ ต่อให้นายไม่ได้เป็นคนเผารูปพวกนี้ให้ฉัน สุดท้ายฉันก็จะเผามันเอง..."บางทีเธออาจจะมีความรู้สึกผิดหรือเหตุผลอื่นที่ตัวเธอเองเท่านั้นที่รู้ ดังนั้นเธอจึงปกปิดมันไว้และพูดเสริมว่า "ฮ่าฮ่า ฉันไม่ได้โกหกนาย ฉันกำลังพูดจากก้นบึ้งหัวใจของฉันเลย... อ๊ะ!"ช่วงครึ่งหลังประโยคของเธอถูกตัดขาดด้วยเสียงร้องของเธอเอง เมื่อแซคคารีใช้แขนของเขาโอบรอบเอวเล็ก ๆ ของเธอราวกับเป็นเครื่องหนีบเหล็ก แล้วดึงเธอเข้าไปกอด บีบรัดร่างที่บอบบางและอ่อนนุ่มกับหน้าอกที่แข็งแกร่งเหมือนแผ่นเหล็กของเขาเมื่อลมหายใจที่เยือกเย็นและเย้ายวนของเขาห้อมล้อมเธอไปทั้งตัว สมองของเธอก็ว่างเปล่า"จำไว้นะ ชาร์ล็อต ซิมม่อนส์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าพูดถึงข้อตกลงก่อนสมรส ว่าฉันต้องการไล่เธอออกไปจากบ้าน ฉันห้ามไม่ให้เธอพูดอีกถ้าฉันไม่ได้พูดถึงมัน"น้ำเสียงที่เยือกเย็นและมีเสน่ห์ของเขาแว่วเข้ามาในหูของเธอราวกับท่วงทำนองที่มาจากยอดของภูเขาหิมะชาร์ล็อตใช้เวลานา