แล้วพอพูดจบคุณชายหน้าซึนก็ก้มหน้าลงมา ริมฝีปากหนานุ่มหยุ่นของเขาคลอเคลียที่หลังคอ หลังใบหู และที่แก้ม เสียงสูดหายใจเข้าเบา ๆ อย่างเปี่ยมกำหนัด
“ตัวเธอหอมจัง”
ดาวหลับตาเคลิบเคลิ้ม รู้สึกขอบคุณแม่บ้านแตงโมขึ้นมาที่ใช้เวลาทั้งบ่ายขัดสีฉวีวรรณให้เขา และในตอนนั้นเองเจียเหาก็ทำบางอย่างที่มากกว่า เขาสอดลิ้นเข้ามาในรูหูด้วยจนดาวขนลุกซู่
“อ๊า คุณจะทำอะไรเนี่ย”
“ก็อยากหอมจนน่าเลียทำไมล่ะ”
“นี่คุณแกล้งผมเหรอ”
คนตัวใหญ่กว่าพูดงึมงำที่ข้างหู “แกล้งด้วยแล้วก็ทำจริงด้วย”
+++++
ดาวรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อฝ่ามือใหญ่ย้ายจากที่หน้าท้องของเขามากอบกุมอย่างเต็มที่รอบคอเล็ก นิ้วโป้งของอัลฟ่าเขี่ยเบา ๆ ที่โหนกแก้มอย่างหยอกเอิน
แค่นั้นก็รู้สึกจะแย่แล้ว หนุ่มโอเมก้าครางเบา ๆ เผยอปากแหงนคอขึ้น
คนตัวใหญ่ระบายลมหายใจออกหนักหน่วง ฟังดูก็รู้ว่าเต็มไปด้วยความปรารถนาอันดำมืด และเสียงลมหายใจกับความสากของกรามและคางก็ทำให้ของเล่นชิ้นโปรดเหมือนมีบางอย่างแผดเผาจ
เวลาผ่านไปอีกสักพัก คนตัวใหญ่เกือบเสร็จแต่รีบถอนดุ้นออกทัน เขายังอยากเล่นต่ออีกหน่อยเจียเหายอมปล่อยร่างเล็กให้เป็นอิสระ พอถูกปล่อยคนตัวเล็กก็ลงไปอยู่กับพื้นในสภาพเปลือยครึ่งตัว เขาคลานสี่เท้า พลางหอบแฮกจนใบหน้าเป็นสีชมพูเจียเหาเดินมาหาแล้วพูดกลั้วหัวเราะ “เธอไม่ได้เป็นคนทำซะหน่อยทำไมถึงเหนื่อยขนาดนั้น”“แฮก ๆๆ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน อาจเพราะต้องคอยรับแรงคุณมั้ง”“งั้นฉันจะให้เธอพัก” คนตัวใหญ่ย่อตัวลงมาคุกเข่าข้างหนึ่ง ใบหน้าของอัลฟ่าหันมาทางโอเมก้า“ดีครับ ๆ”พอได้พักดาวก็เริ่มหายเหนื่อยเขาเงยหน้าขึ้นมา แล้วพบว่าเจียเหาอยู่ในท่วงท่าที่ยั่วยวนราวกับนักแสดงระบำเปลืองผ้าคุณชายใหญ่คุกเข่านั่งทับส้นเท้า เอนตัวไปข้างหลัง จากนั้นก็ทำหน้าเจ้าเล่ห์ แล้วเขาก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อตัวเองทีละเม็ด ๆ พอหมดเขาก็กระชากเสื้อออกให้ไปกองที่แขนล่ำสัน ลีลาเมื่อครู่นี้ดูคล้ายกับนักเต้นระบำเปลื้องผ้าจริง ๆ ด้วยและการที่เสื้อเชิ้ตตัวนั้นยังคาอยู่ที่แขนในขณะที่แผงอกสวยกำยำถูกแหวกออก มันยิ่งดูเซ็กซี่กว่าการเ
ผ่านไปอีกสองเดือน นายดาวิชคนเดิมยังอยู่ที่คฤหาสน์เดิมของสามคุณชายมาเฟีย และสิ่งที่ยังเหมือนเดิมนับตั้งแต่เขาได้เป็นของเล่นของทั้งสาม คือทั้งสามยังเปย์ให้เขาอย่างไม่อั้น ทั้งเงินและข้าวของ ดาวนำเงินที่ได้ส่งให้ทางบ้าน นี่นับเป็นเรื่องดี มารดาของเขาได้คิวการผ่าตัดจากโรงพยาบาลที่ค่อนข้างมีชื่อที่หาดใหญ่แล้ว และดาวก็มีเงินจ้างคนดูแลพ่อในช่วงพักฟื้นหลังให้คีโมอย่างไรก็ตามดาวก็ยังคงสถานะเป็นของเล่นที่มีชีวิต ไม่ได้เป็นอะไรมากกว่านั้น เขายังทำหน้าที่ภาชนะรองรับความใคร่ให้สามพี่น้อง และทั้งสามก็ยังโปรดปรานที่ได้ใช้เวลาร่วมกับเขาตามวันคู่และวันคี่สิ่งหนึ่งที่หนุ่มโอเมก้าสงสัย ตอนแรกดาวคาดว่าหลังจากทั้งสามได้เสพสมกับร่างกายของเขามาสักระยะ อัลฟ่าพวกนั้นคงเบื่อของเล่นชิ้นนี้ แต่กลายเป็นว่าร่างกายของดาวประดุจสิ่งเสพติดของอัลฟ่า ยิ่งได้บ่อยเท่าไรพวกเขาก็ยิ่งอยากได้มากขึ้น ดาวตกเป็นของทั้งสามทั้งในแบบหนึ่งต่อหนึ่ง สองต่อหนึ่ง หรือบางทีก็สามต่อหนึ่งอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันและยังมีอีกอย่างที่น่าประหลาดใจ คือเริ่มมีประโยคเพราะ ๆ หวานหูให้ได้ยินบ่อยขึ้นจากทั้งสามในระหว่างการร่วมรัก
การปรากฏกายของหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบกว่าคนหนึ่งที่คฤหาสน์ตระกูลจางได้เปลี่ยนเรื่องราวของสมาชิกในคฤหาสน์ตระกูลจางไปจากชนิดหน้ามือเป็นหลังมือที่ห้องมรกต ห้องพักผ่อนโปรดของท่านปู่จางอี้เทา ต่อหน้าหลานชายทั้งสาม ชายชราพูดเสียงดังฟังชัดด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า“คนนี้เป็นเพื่อนรุ่นน้องของปู่เอง ชื่อว่าคุณหวังหง[1]”ขณะสามคุณชายทำหน้าแปลกใจอยู่ว่าทำไมคุณปู่ถึงแนะนำชายแปลกหน้าคนนี้ให้รู้จัก ก็พอดีที่ชายชราเล่าต่อว่า หวังหงเป็นเพื่อนเก่าแก่ของเขา เคยเป็นหัวหน้าใหญ่ของมาเฟียตระกูลหวังก่อนจะรามือลงจากบัลลังก์พร้อมทรัพย์สินมากมาย ตอนนี้เป็นนักธุรกิจ นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ และทำอะไรที่ดีงามมีคุณค่าอีกหลายอย่างผิดไปจากตอนที่เป็นมาเฟียสามคุณชายมองหนุ่มใหญ่ตรงหน้าด้วยท่าทีไม่ไว้วางใจ ต่างสัมผัสได้ว่าหวังหงมีอะไรบางอย่างที่เหนือกว่าพวกเขา และนั่นเป็นอะไรที่ทั้งสามไม่ชินและรับไม่ได้เอาเสียเลย ไม่ว่าจะในสถานที่ไหนหรือเมื่อไร พวกเขาจะต้องโดดเด่นเหนือคนอื่นเสมอหวังหงเป็นหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบกว่า แต่เรือนร่างยังสมบูรณ์แบบในชุดเสื้อเชิ้ตสีสะอาดที่ทับด้วยเสื้อตัวนอก
หวังหงถามดาวว่า “...ว่าแต่เธอเป็นคู่รัก หรือคู่หมั้นของคุณชายมาเฟียตระกูลจางคนไหนนะ”พอดาวได้ยินคำถามนั้น เขาก็ทำหน้าเศร้าอย่างไม่ปิดบัง น่าแปลกที่เขารู้สึกว่าหนุ่มใหญ่ตรงหน้าคือคนที่เขาไม่จำเป็นต้องเสแสร้งหรือระมัดระวังความรู้สึกเท่าใดนัก“ผมมาอยู่ที่นี่ในฐานะผู้อาศัยเท่านั้นครับ ไม่ได้เป็นคู่รักของใคร”หวังหงมองออก เขาเห็นสายตาของสามคุณชายที่มีต่อตนตั้งแต่ตอนกินมื้อกลางวันในห้องมรกตแล้ว ด้วยสายตาของหนุ่มใหญ่ผู้มีประสบการณ์ แค่มองแวบเดียวก็รู้แล้วว่าสามคนนั้นหึงเขา อาจกลัวว่าเขาจะมาจีบหรือเกี้ยวพาใครสักคนในคฤหาสน์หลังงามนี้ และสาเหตุแห่งความหวงก็คงมาจากหนุ่มน้อยน่ารักตรงหน้านั่นเองหวังหงกระแอมเบา ๆ ทีหนึ่งแล้วเปลี่ยนเรื่องคุยอย่างกะทันหัน“เธอคงรู้แล้วว่าฉันเคยเป็นมาเฟียมาก่อน”“ทราบมาบ้างจากท่านปู่ครับ”“และไม่ใช่แค่มาเฟียด้วย แต่เป็นหัวหน้ามาเฟียเลยทีเดียว”คราวนี้หนุ่มน้อยดาวิชทำตาโตหวังหงเห็นแล้วหัวเราะ “เป็นแค่อดีตน่ะ แต่ที่ฉันจะบอกคือ เวลามองหน้าเ
เจียเหาในฐานะพี่ใหญ่รวบรวมความกล้าเอ่ยถามท่านปู่ตรง ๆ“ดะ…ดาวเอาเรื่องนี้มาบอกคุณปู่เหรอครับ”“เปล่า ฉันรู้เอง ดังนั้นพวกแกอย่าเอาเรื่องนี้ไปโทษเขาล่ะ เขาไม่ได้เอามาฟ้องฉัน”ตอนแรกอี้เทากระหยิ่มในใจ แผนการโยนหินถามทางกับสามคุณชายปากแข็งน่าจะสำเร็จ ชายชราแค่ลองปะติดปะต่อเรื่องเอาเองแล้วเอ่ยโพล่งออกไป ซึ่งพอเห็นปฏิกิริยาของสามคุณชายเลยฟันธงว่าน่าจะเข้าใจถูกในประเด็นที่ทั้งสามคงตกลงอะไรบางอย่างกับดาวเกี่ยวกับสถานะความเป็นเมียแต่อี้เทาเป็นคนยุติธรรม เขาอยากให้ทั้งสามคุณชายเป็นผู้ใหญ่ เป็นลูกผู้ชายตัวจริงที่กล้ายอมรับเองว่าพวกตนทำอะไรไว้ทั้งสามนั่งตัวลีบแต่ยังปากแข็งไม่ยอมรับเวลาผ่านไป เข็มนาฬิกาของนาฬิกาคุณปู่ หรือนาฬิกาโบราณตั้งพื้นเรือนใหญ่ดังติ๊ก ๆ อย่างต่อเนื่องขนาดอี้เทาเป็นคนอารมณ์เย็นยังหมดความอดทน“ไอ้พวกหลานโง่ นี่ฉันทนพวกแกไม่ไหวแล้วนะ!”สามคนทำหน้าซีด แต่ยังปากแข็งไม่ยอมพูดสักคำท่านปู่จางอี้เทาทนไม่ไหวอีกจึงกระชากเสียงถามหลานชายจอมมึน“แกรู้ไหมว่า
“นั่นเลยเป็นที่มาตั้งแต่ก่อนพ่อแกจะตาย เราถึงเฝ้าเพียรพยายามหาคนที่ใช่ และมันไม่ง่ายเลย เราใช้เวลานานหลายปี หลายคนที่คุณสมบัติใช่แต่เขาไม่ร้อนเงิน ไม่มีเหตุผลที่จะยอมลำบากมาแต่งงานเป็นสะใภ้ตระกูลจาง มีหนูดาวนี่ละลงตัวที่สุด เป็นดอกบัวขาวอย่างที่เรามองหา แถมฐานะที่บ้านยังขัดสน”ชายชราเว้นช่วงเพื่อให้ความจริงตกตะกอนในสมองทึบ ๆ ของสามหลายชาย ก่อนจะย้ำด้วยประโยคอันเด็ดขาดและเสียงดังว่า“แกคิดว่าจะหาโอเมก้าคุณสมบัติเพียบพร้อมอย่างนี้ได้ง่าย ๆ หรือไง!”สามคุณชายพูดอุบอิบ รู้สึกผิดหวังอะไรสักอย่างกับตัวผู้ให้กำเนิด “แล้วทำไมพ่อกับแม่ไม่เคยบอกพวกเราเรื่องนี้เลย”“พ่อแกเคยมาปรึกษาฉัน แล้วเราก็ตกลงว่า จะดีกว่าถ้าปล่อยให้เรื่องนี้เป็นความลับ”สามคนถามโดยพร้อมเพรียง “ทำไมล่ะครับ”“การรู้จุดด้อยของตัวเองเร็วเกินไปส่งผลไม่ดีต่อความมั่นใจ โดยเฉพาะในช่วงที่แกเปลี่ยนจากวัยรุ่นกลายเป็นวัยผู้ใหญ่เต็มตัว พ่อแกรู้ว่าสักวันตำแหน่งหลงโถวของเขาจะต้องถูกส่งต่อให้พวกแกคนใดคนหนึ่ง ดังนั้นย่อมไม่ดีแน่ถ้า
ดาวกลับมาอยู่ที่อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา บ้านเกิดของเขาได้เกือบหนึ่งเดือนแล้วการตัดสินใจแค่ไม่กี่นาทีส่งผลให้ชีวิตของดาวเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ความเป็นอยู่ที่นี่สงบเงียบเรียบร้อย จนหนุ่มโอเมก้าไม่อยากเชื่อเลยว่านี่คือชีวิตเดียวกับตอนที่เป็นของเล่นของสามคุณชายที่คฤหาสน์และวันธรรมดาวันหนึ่ง ระหว่างที่พ่อกับแม่นั่งกินข้าวกลางวัน ส่วนดาวล้างจาน พ่อกับแม่ถามคำถามกับลูกเพราะเพิ่งนึกได้“ดาวเอ๊ย ตกลงแกไม่ได้ทำงานที่กรุงเทพฯ แล้วเหรอ”ลูกชายหรี่ก๊อกน้ำแล้วหันมาตอบ “เปล่าแล้วจ้ะแม่”พ่อกับแม่มองด้วยสีหน้านิ่งอย่างสงสัย แต่ไม่ถามอะไรที่กดดันอย่างเช่น ‘แล้วจะทำอะไรต่อ’ ทั้งคู่รู้ดีกว่าลูกชายของพวกตนไม่ใช่คนหลักลอยเหลวไหลคราวนี้เป็นตาพ่อถามบ้าง “เอ้อ พ่อว่าจะถามเรื่องค่ารักษาของพ่อ หนูไปเอาเงินมาจากไหน”“อ๋อ” ดาวชะงัก แต่ก็รีบแก้ตัวว่า “หนูไปคุยกับหมอและเจ้าหน้าที่ที่โรงพยาบาลมาแล้วจ้ะ ใช้สิทธิบัตรทองได้ ของแม่ก็เหมือนกันนะ ไม่ต้องกังวล”พ่อกับแม่กลืนอาหา
สามคุณชายเอ่ยเสียงลั่นเกือบพร้อมกันว่า “แล้วเราต้องขอโทษยังไงเธอถึงจะเชื่อล่ะ”แล้ว ณ ตอนนั้นสะใภ้จากสงขลาไม่รู้นึกอย่างไร เขาสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วโพล่งไปว่า“ตามธรรมเนียมคนบ้านผม ถ้าเราอยากให้คนที่เราตั้งใจขอโทษรู้ว่าเราสำนึกผิดจริง ๆ จากใจ ไม่มีทางอื่นเว้นแต่เราต้องกราบขอโทษแทบเท้าคนสำคัญของเขา”สามอัลฟ่าได้ยินแล้วถึงกับทำตาเบิกโพลง “ฮะ?! นั่นหมายถึง…”ดาวิชพยักหน้าแล้วเม้มปากล่าง “หมายถึงเท้าพ่อกับแม่ของผม”คราวนี้ถึงตาสามคุณชายไฮโซถึงกับอึ้งไปนานเลยแต่แล้วก็มีเสียงขัดจังหวะ เมื่อพ่อกับแม่ร้องบอกอย่างร่าเริงว่า“อาหารเย็นพร้อมแล้วมากินข้าวกันเถอะ”+++++อีกไม่นานอาหารง่าย ๆ ข้าวสวยร้อน ๆ น้ำพริกกับผัก และกับข้าวอีกสามสี่จาน–ยำกุ้งหวาน ปลาเล็กปลาน้อยทอดกรอบ กับไข่เจียวใบโหระพาฟูนุ่มก็พร้อมเสิร์ฟ“กินสิขรับคุณ ๆ อาจไม่ถูกปากนัก เพราะของสดที่เอามาทำก็ของพื้น ๆ ชาวประมงแถวนี้ พวกเราจับเอง เหลือก็เอาแบ่งกันกิน
ที่ห้องส่วนตัวของดาว หนุ่มโอเมก้าเดินกลับมาหาสามอัลฟ่าคุณชายที่แทบนั่งไม่ติดด้วยความกระวนกระวายพอเห็นหน้าเจ้าของห้องก็รีบถามทันที“เป็นไง เธอเข้าใจพวกเราแล้วใช่ไหม”ดาวพยักหน้าเร็ว ๆ “ครับ”ภรรยาเดินมานั่งเก้าอี้ที่หนึ่งในแฝดรีบสละให้ทันที พอนั่งลงดาวเขาก็ยังก้มหน้านิ่ง ไร้คำพูดคำจาสามคุณชายทนไม่ไหว รีบผลัดกันถามภรรยาของพวกเขา“เป็นยังไงบ้างล่ะดาว ท่านปู่ว่าอย่างไรบ้าง”“เธอรู้เรื่องราวทั้งหมดจากปากคุณปู่แล้วใช่ไหม”“ถ้าเธอได้รู้จะได้เข้าใจที่มาที่ไปของพวกเราทั้งหมด…ว่าทำไมเราถึงไม่ชอบเธอในตอนแรก”เมียที่กลายเป็นของเล่นตอบแต่ไม่เงยหน้า “สำหรับเรื่องนั้นท่านปู่จางอี้เทาเล่าให้ผมฟังแล้วเหมือนกันครับ”ดาวทราบแล้วและเข้าใจเหตุผลว่าทำไมทั้งสามถึงอาละวาดและตามมาข่มเหงเขาแทบแย่เมื่อรู้ว่าเมียแต่งของพวกตนเป็นโอเมก้า แต่ถ้าพูดอย่างยุติธรรม การกลั่นแกล้งก็คือการกลั่นแกล้ง ไม่อาจซักฟอกให้เป็นสิ่งถูกต้องได้นั่นคือสิ่งที่ดาวคิด แต่แล้วก็ถอ
สามคุณชายยอมให้ดาวใช้เวลาส่วนตัวคุยกับท่านปู่จางอี้เทาโดยพวกเขาไม่เข้ามารบกวนสองแฝดออกตัวว่า‘เผื่อเมียของเราอาจมีเรื่องลับ ๆ อยากคุยกับท่านปู่’‘หรือในทางกลับกันท่านปู่ก็อาจมีอะไรลับ ๆ อยากบอกหลานสะใภ้ก็ได้’‘เอ๊ะ คุณสองคนพูดอย่างนี้แปลว่าอะไรแน่!’ ดาวทำเสียงดุใส่ เขาแปลกใจตัวเองเหมือนกันที่สถานะระหว่างเขากับสามคุณชายดูจะสลับบทกันอย่างไรบอกไม่ถูกส่วนเจียเหาได้แต่ยิ้มบาง ๆ ก้มหน้าแล้วกอดไหล่น้องชายแฝดเดินหลบมุมไปเงียบ ๆดาวรู้ว่า ก่อนหน้านั้นคุณชายใหญ่เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้อี้เทาฟังคร่าว ๆ แล้วว่า ที่คฤหาสน์หลานสะใภ้ได้ยินเรื่องที่ปู่เล่าให้พวกหลาน ๆ ฟัง และไม่พอใจอย่างรุนแรงจนหนีกลับบ้านดาวได้ยินแล้วทำท่าขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน อยากชูกำปั้นใส่ด้วยที่คุณชายยังใช้คำว่าหนีกลับบ้านไม่เลิก มันฟังเหมือนดาวเป็นแค่เด็กเอาแต่ใจไม่มีผิดตอนนี้ในโทรศัพท์ของเจียเหามีหน้าคุณปู่อยู่ในนั้น ใบหน้าของท่านยังใจดีอย่างเคย[หนูดาวสบายดีไหม][สบายดีครับ แล้วท่านปู่ละครับ]หนุ่มน้อยโอเมก้าว่าที
สามคุณชายเอ่ยเสียงลั่นเกือบพร้อมกันว่า “แล้วเราต้องขอโทษยังไงเธอถึงจะเชื่อล่ะ”แล้ว ณ ตอนนั้นสะใภ้จากสงขลาไม่รู้นึกอย่างไร เขาสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วโพล่งไปว่า“ตามธรรมเนียมคนบ้านผม ถ้าเราอยากให้คนที่เราตั้งใจขอโทษรู้ว่าเราสำนึกผิดจริง ๆ จากใจ ไม่มีทางอื่นเว้นแต่เราต้องกราบขอโทษแทบเท้าคนสำคัญของเขา”สามอัลฟ่าได้ยินแล้วถึงกับทำตาเบิกโพลง “ฮะ?! นั่นหมายถึง…”ดาวิชพยักหน้าแล้วเม้มปากล่าง “หมายถึงเท้าพ่อกับแม่ของผม”คราวนี้ถึงตาสามคุณชายไฮโซถึงกับอึ้งไปนานเลยแต่แล้วก็มีเสียงขัดจังหวะ เมื่อพ่อกับแม่ร้องบอกอย่างร่าเริงว่า“อาหารเย็นพร้อมแล้วมากินข้าวกันเถอะ”+++++อีกไม่นานอาหารง่าย ๆ ข้าวสวยร้อน ๆ น้ำพริกกับผัก และกับข้าวอีกสามสี่จาน–ยำกุ้งหวาน ปลาเล็กปลาน้อยทอดกรอบ กับไข่เจียวใบโหระพาฟูนุ่มก็พร้อมเสิร์ฟ“กินสิขรับคุณ ๆ อาจไม่ถูกปากนัก เพราะของสดที่เอามาทำก็ของพื้น ๆ ชาวประมงแถวนี้ พวกเราจับเอง เหลือก็เอาแบ่งกันกิน
ดาวกลับมาอยู่ที่อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา บ้านเกิดของเขาได้เกือบหนึ่งเดือนแล้วการตัดสินใจแค่ไม่กี่นาทีส่งผลให้ชีวิตของดาวเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ความเป็นอยู่ที่นี่สงบเงียบเรียบร้อย จนหนุ่มโอเมก้าไม่อยากเชื่อเลยว่านี่คือชีวิตเดียวกับตอนที่เป็นของเล่นของสามคุณชายที่คฤหาสน์และวันธรรมดาวันหนึ่ง ระหว่างที่พ่อกับแม่นั่งกินข้าวกลางวัน ส่วนดาวล้างจาน พ่อกับแม่ถามคำถามกับลูกเพราะเพิ่งนึกได้“ดาวเอ๊ย ตกลงแกไม่ได้ทำงานที่กรุงเทพฯ แล้วเหรอ”ลูกชายหรี่ก๊อกน้ำแล้วหันมาตอบ “เปล่าแล้วจ้ะแม่”พ่อกับแม่มองด้วยสีหน้านิ่งอย่างสงสัย แต่ไม่ถามอะไรที่กดดันอย่างเช่น ‘แล้วจะทำอะไรต่อ’ ทั้งคู่รู้ดีกว่าลูกชายของพวกตนไม่ใช่คนหลักลอยเหลวไหลคราวนี้เป็นตาพ่อถามบ้าง “เอ้อ พ่อว่าจะถามเรื่องค่ารักษาของพ่อ หนูไปเอาเงินมาจากไหน”“อ๋อ” ดาวชะงัก แต่ก็รีบแก้ตัวว่า “หนูไปคุยกับหมอและเจ้าหน้าที่ที่โรงพยาบาลมาแล้วจ้ะ ใช้สิทธิบัตรทองได้ ของแม่ก็เหมือนกันนะ ไม่ต้องกังวล”พ่อกับแม่กลืนอาหา
“นั่นเลยเป็นที่มาตั้งแต่ก่อนพ่อแกจะตาย เราถึงเฝ้าเพียรพยายามหาคนที่ใช่ และมันไม่ง่ายเลย เราใช้เวลานานหลายปี หลายคนที่คุณสมบัติใช่แต่เขาไม่ร้อนเงิน ไม่มีเหตุผลที่จะยอมลำบากมาแต่งงานเป็นสะใภ้ตระกูลจาง มีหนูดาวนี่ละลงตัวที่สุด เป็นดอกบัวขาวอย่างที่เรามองหา แถมฐานะที่บ้านยังขัดสน”ชายชราเว้นช่วงเพื่อให้ความจริงตกตะกอนในสมองทึบ ๆ ของสามหลายชาย ก่อนจะย้ำด้วยประโยคอันเด็ดขาดและเสียงดังว่า“แกคิดว่าจะหาโอเมก้าคุณสมบัติเพียบพร้อมอย่างนี้ได้ง่าย ๆ หรือไง!”สามคุณชายพูดอุบอิบ รู้สึกผิดหวังอะไรสักอย่างกับตัวผู้ให้กำเนิด “แล้วทำไมพ่อกับแม่ไม่เคยบอกพวกเราเรื่องนี้เลย”“พ่อแกเคยมาปรึกษาฉัน แล้วเราก็ตกลงว่า จะดีกว่าถ้าปล่อยให้เรื่องนี้เป็นความลับ”สามคนถามโดยพร้อมเพรียง “ทำไมล่ะครับ”“การรู้จุดด้อยของตัวเองเร็วเกินไปส่งผลไม่ดีต่อความมั่นใจ โดยเฉพาะในช่วงที่แกเปลี่ยนจากวัยรุ่นกลายเป็นวัยผู้ใหญ่เต็มตัว พ่อแกรู้ว่าสักวันตำแหน่งหลงโถวของเขาจะต้องถูกส่งต่อให้พวกแกคนใดคนหนึ่ง ดังนั้นย่อมไม่ดีแน่ถ้า
เจียเหาในฐานะพี่ใหญ่รวบรวมความกล้าเอ่ยถามท่านปู่ตรง ๆ“ดะ…ดาวเอาเรื่องนี้มาบอกคุณปู่เหรอครับ”“เปล่า ฉันรู้เอง ดังนั้นพวกแกอย่าเอาเรื่องนี้ไปโทษเขาล่ะ เขาไม่ได้เอามาฟ้องฉัน”ตอนแรกอี้เทากระหยิ่มในใจ แผนการโยนหินถามทางกับสามคุณชายปากแข็งน่าจะสำเร็จ ชายชราแค่ลองปะติดปะต่อเรื่องเอาเองแล้วเอ่ยโพล่งออกไป ซึ่งพอเห็นปฏิกิริยาของสามคุณชายเลยฟันธงว่าน่าจะเข้าใจถูกในประเด็นที่ทั้งสามคงตกลงอะไรบางอย่างกับดาวเกี่ยวกับสถานะความเป็นเมียแต่อี้เทาเป็นคนยุติธรรม เขาอยากให้ทั้งสามคุณชายเป็นผู้ใหญ่ เป็นลูกผู้ชายตัวจริงที่กล้ายอมรับเองว่าพวกตนทำอะไรไว้ทั้งสามนั่งตัวลีบแต่ยังปากแข็งไม่ยอมรับเวลาผ่านไป เข็มนาฬิกาของนาฬิกาคุณปู่ หรือนาฬิกาโบราณตั้งพื้นเรือนใหญ่ดังติ๊ก ๆ อย่างต่อเนื่องขนาดอี้เทาเป็นคนอารมณ์เย็นยังหมดความอดทน“ไอ้พวกหลานโง่ นี่ฉันทนพวกแกไม่ไหวแล้วนะ!”สามคนทำหน้าซีด แต่ยังปากแข็งไม่ยอมพูดสักคำท่านปู่จางอี้เทาทนไม่ไหวอีกจึงกระชากเสียงถามหลานชายจอมมึน“แกรู้ไหมว่า
หวังหงถามดาวว่า “...ว่าแต่เธอเป็นคู่รัก หรือคู่หมั้นของคุณชายมาเฟียตระกูลจางคนไหนนะ”พอดาวได้ยินคำถามนั้น เขาก็ทำหน้าเศร้าอย่างไม่ปิดบัง น่าแปลกที่เขารู้สึกว่าหนุ่มใหญ่ตรงหน้าคือคนที่เขาไม่จำเป็นต้องเสแสร้งหรือระมัดระวังความรู้สึกเท่าใดนัก“ผมมาอยู่ที่นี่ในฐานะผู้อาศัยเท่านั้นครับ ไม่ได้เป็นคู่รักของใคร”หวังหงมองออก เขาเห็นสายตาของสามคุณชายที่มีต่อตนตั้งแต่ตอนกินมื้อกลางวันในห้องมรกตแล้ว ด้วยสายตาของหนุ่มใหญ่ผู้มีประสบการณ์ แค่มองแวบเดียวก็รู้แล้วว่าสามคนนั้นหึงเขา อาจกลัวว่าเขาจะมาจีบหรือเกี้ยวพาใครสักคนในคฤหาสน์หลังงามนี้ และสาเหตุแห่งความหวงก็คงมาจากหนุ่มน้อยน่ารักตรงหน้านั่นเองหวังหงกระแอมเบา ๆ ทีหนึ่งแล้วเปลี่ยนเรื่องคุยอย่างกะทันหัน“เธอคงรู้แล้วว่าฉันเคยเป็นมาเฟียมาก่อน”“ทราบมาบ้างจากท่านปู่ครับ”“และไม่ใช่แค่มาเฟียด้วย แต่เป็นหัวหน้ามาเฟียเลยทีเดียว”คราวนี้หนุ่มน้อยดาวิชทำตาโตหวังหงเห็นแล้วหัวเราะ “เป็นแค่อดีตน่ะ แต่ที่ฉันจะบอกคือ เวลามองหน้าเ
การปรากฏกายของหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบกว่าคนหนึ่งที่คฤหาสน์ตระกูลจางได้เปลี่ยนเรื่องราวของสมาชิกในคฤหาสน์ตระกูลจางไปจากชนิดหน้ามือเป็นหลังมือที่ห้องมรกต ห้องพักผ่อนโปรดของท่านปู่จางอี้เทา ต่อหน้าหลานชายทั้งสาม ชายชราพูดเสียงดังฟังชัดด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า“คนนี้เป็นเพื่อนรุ่นน้องของปู่เอง ชื่อว่าคุณหวังหง[1]”ขณะสามคุณชายทำหน้าแปลกใจอยู่ว่าทำไมคุณปู่ถึงแนะนำชายแปลกหน้าคนนี้ให้รู้จัก ก็พอดีที่ชายชราเล่าต่อว่า หวังหงเป็นเพื่อนเก่าแก่ของเขา เคยเป็นหัวหน้าใหญ่ของมาเฟียตระกูลหวังก่อนจะรามือลงจากบัลลังก์พร้อมทรัพย์สินมากมาย ตอนนี้เป็นนักธุรกิจ นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ และทำอะไรที่ดีงามมีคุณค่าอีกหลายอย่างผิดไปจากตอนที่เป็นมาเฟียสามคุณชายมองหนุ่มใหญ่ตรงหน้าด้วยท่าทีไม่ไว้วางใจ ต่างสัมผัสได้ว่าหวังหงมีอะไรบางอย่างที่เหนือกว่าพวกเขา และนั่นเป็นอะไรที่ทั้งสามไม่ชินและรับไม่ได้เอาเสียเลย ไม่ว่าจะในสถานที่ไหนหรือเมื่อไร พวกเขาจะต้องโดดเด่นเหนือคนอื่นเสมอหวังหงเป็นหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบกว่า แต่เรือนร่างยังสมบูรณ์แบบในชุดเสื้อเชิ้ตสีสะอาดที่ทับด้วยเสื้อตัวนอก
ผ่านไปอีกสองเดือน นายดาวิชคนเดิมยังอยู่ที่คฤหาสน์เดิมของสามคุณชายมาเฟีย และสิ่งที่ยังเหมือนเดิมนับตั้งแต่เขาได้เป็นของเล่นของทั้งสาม คือทั้งสามยังเปย์ให้เขาอย่างไม่อั้น ทั้งเงินและข้าวของ ดาวนำเงินที่ได้ส่งให้ทางบ้าน นี่นับเป็นเรื่องดี มารดาของเขาได้คิวการผ่าตัดจากโรงพยาบาลที่ค่อนข้างมีชื่อที่หาดใหญ่แล้ว และดาวก็มีเงินจ้างคนดูแลพ่อในช่วงพักฟื้นหลังให้คีโมอย่างไรก็ตามดาวก็ยังคงสถานะเป็นของเล่นที่มีชีวิต ไม่ได้เป็นอะไรมากกว่านั้น เขายังทำหน้าที่ภาชนะรองรับความใคร่ให้สามพี่น้อง และทั้งสามก็ยังโปรดปรานที่ได้ใช้เวลาร่วมกับเขาตามวันคู่และวันคี่สิ่งหนึ่งที่หนุ่มโอเมก้าสงสัย ตอนแรกดาวคาดว่าหลังจากทั้งสามได้เสพสมกับร่างกายของเขามาสักระยะ อัลฟ่าพวกนั้นคงเบื่อของเล่นชิ้นนี้ แต่กลายเป็นว่าร่างกายของดาวประดุจสิ่งเสพติดของอัลฟ่า ยิ่งได้บ่อยเท่าไรพวกเขาก็ยิ่งอยากได้มากขึ้น ดาวตกเป็นของทั้งสามทั้งในแบบหนึ่งต่อหนึ่ง สองต่อหนึ่ง หรือบางทีก็สามต่อหนึ่งอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันและยังมีอีกอย่างที่น่าประหลาดใจ คือเริ่มมีประโยคเพราะ ๆ หวานหูให้ได้ยินบ่อยขึ้นจากทั้งสามในระหว่างการร่วมรัก