คุณเพลิงจ้องฉันด้วยสายตาที่อำมหิต เขาโกรธมาก ๆ จนเลือดขึ้นหน้า“อย่าใช้คำพูดที่ทำให้ฉันหงุดหงิดแบบนี้อีก” พูดจับมือที่บีบปลายคางฉันก็ค่อย ๆ คลายออก“มาอยู่กับเอยแบบนี้ได้ยังไงคะ ผู้หญิงคนใหม่ของคุณเพลิงไม่น้อยใจเอาเหรอ”“ฉันแค่แวะมาจัดการเธอ”“แล้วก็จะกลับไปอีกเหรอคะ”“อืม”“โกรธที่เอยไปดื่มใช่ไหมคะ”“ฉันไม่ชอบ ทีหลังอย่าทำอีก”“ถ้าไม่อยากให้เอยทำอีกคุณเพลิงก็อยู่กับเอยสิคะ นอนกับเอยทุกคืนได้หรือเปล่า” ฉันอาจจะกำลังงี่เง่ากับเขาอยู่ ไม่รู้จะทำวิธีไหนที่จะรั้งเขาเอาไว้ได้ ไม่อยากให้เขาต้องไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่น“ฉันไม่ใช่ของของเธอ” แค่คำตอบนี้ก็ทำเอารู้สึกจุกเป็นบ้า“…” น้ำตามันคลอเบ้าก่อนจะค่อย ๆ ไหลอาบแก้ม เจ็บปวดกับคำพูดนี้จัง“หวังว่าเธอจะไม่ทำอะไรที่ฉันไม่ชอบอีก” พูดจบคุณเพลิงก็เดินไปที่ประตูห้องไม่รู้ว่าอะไรมันสั่ง ร่างกายของฉันทำตามความรู้สึก รู้ตัวอีกทีตอนนี้ฉันก็กำลังสวมกอดเขาจากทางด้านหลัง“อย่าไปเลยนะคะ นอนกับเอยได้ไหม” ฉันร้องขออ้อนวอนอย่างไร้ค่า ถ้าเขาไปคงนอนไม่หลับแน่ ๆ“ปล่อย” คุณเพลิงบอกแล้วพยายามแกะมือที่ฉันสวมกอดตัวเองออก แต่ฉันไม่ยอม“เอย อึก~ เอยไม่อยากนอนคนเดียว น
วันต่อมาหลังจากที่จัสตินชวนไปแคมป์ปิ้งชะเอมกับมีนก็รีบลาหยุดกับโรงแรมล่วงหน้าเพราะกลัวจะไม่ได้หยุด ส่วนฉันไม่ต้องลาหยุดกับใครทั้งนั้นวันนี้หลังจากกลับมาจากมหาวิทยาลัยฉันกับเพื่อนก็รีบมาเตรียมสถานที่จัดงานเลี้ยงที่โรงแรม งานคงจะใหญ่กว่ารอบที่แล้วเพราะมีพนักงานโรงแรมหลายคนมาช่วยจัดเตรียม“เอยเขาจะมีงานอะไรแกรู้หรือเปล่า” มีนถามฉัน“ไม่รู้”“เอ้า! แกเป็นคนสนิทคุณเพลิงนะจะไม่รู้ได้ยังไงเอย”“แล้วฉันต้องรู้ทุกเรื่องเลยหรือไง แกนี่” ฉันทำเป็นหงุดหงิดกลบเกลื่อนเพราะน้อยใจที่ตัวเองไม่รู้ หากเป็นก่อนหน้านี้ฉันคงจะรู้อย่างที่มีนว่า“รีบ ๆ ทำเลยแกสองคนห่วงแต่คุยกัน อีกชั่วโมงกว่า ๆ งานจะเริ่มแล้วนะ” ชะเอมเดินมาบอกฉันกับมีน“ค่า ท่านประธาน” ฉันกับมีนพูดพร้อมกันทำให้ชะเอมรีบยกนิ้วขึ้นมาแตะปากเป็นสัญญาณบอกให้หยุดพูด“พูดดังเกินไปแล้วนะ ใครแถวนี้มาได้ยินจะเอาไปนินทาว่าฉันมักใหญ่ใฝ่สูง”“ฮัลโหลชะเอม เราคุยภาษาไทยกันนะแกลืมไปหรือเปล่า ใครจะฟังรู้เรื่อง”“เออแฮะ! ฉันลืมไปสนิทเลย”“รีบ ๆ ทำสิ ไหนบอกห้ามคุยไง แกชวนคนอื่นคุยนะชะเอม” ฉันดุเพื่อน“นี่สิประธานบริษัทตัวจริง”ฉันได้แต่ส่ายหน้าไปมาให้เพื่อนก่
ฉันพูดทั้งน้ำตา ไม่อยากให้มันจบแบบนี้สิ่งที่อยากได้คือ อยากให้คุณเพลิงมีแค่ฉัน แต่เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกัน ฉันไม่สามารถออกคำสั่งได้“จะกลับเมื่อไหร่ ?”“อยากให้เอยรีบกลับขนาดนั้นเลยเหรอคะ” แค่รั้งฉันเอาไว้คุณเพลิงยังไม่ทำเลย เขามีของเล่นใหม่ไปเรื่อย ๆ โดยไม่ย้อนกลับมามองของเล่นชิ้นเก่า มีแค่ฉันที่แทบจะเป็นบ้า“ใช่ฉันอยากให้เป็นแบบนั้น ตอบมาสิฉันจะรีบจัดการเรื่องมหาวิทยาลัยให้”“เดือนหน้าค่ะ ขอให้คุณเพลิงทำตามที่พูดด้วยนะคะ เอยต้องได้เรียนมหาวิทยาลัยชื่อดังที่มีงานดี ๆ รอรับนักศึกษาจบใหม่และคุณเพลิงต้องจ่ายค่าเทอมให้จนกระกว่าจะเรียนจบ”การตัดสินใจกลับไทยนั่นหมายความว่าฉันเสียเปรียบ ถึงจะโกรธแต่เรื่องเรียนไม่ควรเอามารวมอยู่ในเรื่องความสัมพันธ์ ยังไงฉันก็ต้องมั่นใจว่าตัวเองจะได้เรียนมหาวิทยาลัยดี ๆ จบไปมีงานที่ดีรองรับ“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น”ฉันเดินผ่านหน้าคุณเพลิง แต่ยังเดินได้ไม่กี่ก้าวแขนมันก็ถูกรั้งเอาไว้“ไม่ต้องทำงานแล้ว ฉันอนุญาตให้เธอพักได้”“กลัวเอยจะไปหาเรื่องผู้หญิงคนนั้นเหรอคะ เป็นห่วงเธอมากเหรอ คิดว่าเอยเป็นคนชอบหาเรื่องหรือไง”“ฉันยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ”“ควงเธอมางานด้วย ข
ฉันเงียบใช้ความคิดอยู่นาน สุดท้ายก็ตัดสินใจได้ว่าไม่ควร ฉันไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ เดือนหน้าก็จะกลับไทยแล้วให้ทุกอย่างมันจบเร็ว ๆ สักที ฉันเหนื่อยมากจริง ๆฉันมองไปตรงหน้าที่มีแต่ความมืดมนก่อนจะพูด “ใคร ๆ ก็บอกว่าเอยโง่ สงสัยจะจริงนะคะ”พูดจบฉันก็ลุกขึ้นเดินหนีจากตรงนั้น เขาไม่ได้รั้งหรือต่อว่าที่ฉันไม่ยอมรับข้อเสนอฉันเดินไปเรื่อยเปื่อยจนรู้สึกเหนื่อยจึงขึ้นรถกลับมาที่ห้องของคุณเพลิง ตามคำสั่งที่เขาให้มาที่ห้องรู้สึกแปลกใจที่วันนี้ฉันไม่เห็นใครยืนเฝ้าที่หน้าห้อง ปกติจะมีคนยืนเฝ้าอยู่ไม่หนึ่งก็สองคน#ภายในห้องพอเข้ามาฉันก็ต้องหยุดนิ่งเมื่อเห็นคุณเพลิงนั่งรออยู่ที่โซฟา สายตาคู่นั้นจ้องมองมาเหมือนฉันมีความผิดอะไร“กลับมา…” ยังพูดไม่จบประโยคคุณเพลิงก็พูดสวนขึ้นมา “ทำไมเธอเพิ่งกลับมาห้องทั้งที่ออกมาจากโรงแรมก่อนฉัน”“เอยไปนั่งเล่นที่สวนสาธารณะมาค่ะ”“ตอนนี้ ?”“ทำไมเหรอคะ มันน่าแปลกมากเลยเหรอ” พอฉันถามกลับคุณเพลิงก็เงียบ เห็นหน้าเขาในตอนนี้มันทำให้ฉันเจ็บปวดเอามาก ๆ“วันนี้คุณเพลิงไม่ไปนอนกับผู้หญิงคนใหม่เหรอคะ”“เมื่อไหร่จะเลิกพูดประชดฉันสักที”“อ๋อ! เอยลืมเรื่องนั้นไปเลย”พูดจบ
อยากจะรู้คำตอบแต่รอนานสองนานคุณเพลิงก็เอาแต่เงียบ หรือเขากำลังปั่นหัวฉันอยู่ ต้องลงทุนถึงขั้นบีบน้ำตาคลอเบ้าแบบนี้เลยหรือไง“บอกได้ไหมคะว่าตอนนี้คุณเพลิงไม่ได้แกล้งปั่นหัวให้เอยสับสน”“ฉันจะทำแบบนั้นทำไม”“เพราะไม่อยากให้เอยเลือกไปอยู่กับศัตรูไงล่ะคะ” ฉันถามอย่างตรงไปตรงม“เธอเป็นของหวง ใครก็ไม่มีสิทธิ์เอาตัวเธอไปจากฉัน”“เป็นของหวงแต่ไล่ให้เอยกลับประเทศไทย เป็นของหวงแต่คุณเพลิงก็มีของเล่นชิ้นใหม่ มันย้อนแย้งนะคะ”คุณเพลิงโน้มใบหน้าลงมาใกล้ ๆ ปลายจมูกโด่งแตะสัมผัสที่พวงแก้มของฉันก่อนจะลากไล้ไปมาเบา ๆ จนทั่วใบหน้า บรรยากาศในห้องตอนนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงหัวใจดวงน้อยของฉันที่เต้นแรง ๆ กลัวว่ามันจะดังออกมาให้อีกคนได้ยินเขาก็แค่กำลังทำให้ฉันตกหลุมพรางอีกครั้ง คำพูดต่าง ๆ คงไม่มีความจริงใจอยู่ในนั้นฉันจะไปหวังอะไรกับความสัมพันธ์นี้ จะไปหวังให้เขามารักมาชอบมันเป็นไปไม่ได้ คำพูดที่พูดกับฉันก็คงจะพูดกับผู้หญิงคนนั้นเหมือนกันฉันดันแผงอกแกร่งออกแล้วพูด “ถ้าจะใจร้ายกับเอยก็ใจร้ายให้ตลอดสิคะ อย่าทำให้สับสนได้ไหม”“… ฉันทำไม่ได้”จบคำพูดนั้นเรือนร่างเปลือยเปล่าของฉันก็ถูกอุ้มขึ้น ก่อนที่คุณเพ
ฉันมองคุณเพลิงอย่างไม่เข้าใจ ความจริงอะไร เรื่องอะไร ถ้ายอมฟังฉันจะแน่ใจได้แค่ไหนว่าที่เขากำลังจะเล่าคือความจริง“ความจริงที่ว่าไม่ใช่เรื่องโกหกใช่ไหมคะ” ฉันถามเพื่อจับผิดสายตาคู่นั้น แต่มันซับซ้อนเกินไปทำให้ไม่สามารถเดาอะไรได้“ฉันจะพูดความจริง สัญญามาก่อนว่าหลังจากที่เธอได้ฟังเรื่องทั้งหมดแล้วจะไม่โกรธ”“เรื่องเกี่ยวกับอะไรคะทำไมเอยต้องโกรธ”“สัญญากับฉันมาก่อน” เขาไม่ยอมพูดจะคาดคั้นให้ฉันสัญญา แบบนี้เรียกมัดมือชกหรือเปล่า“แค่บอกมาก่อนก็ไม่ได้เหรอคะ” คุณเพลิงมองหน้าฉันแล้วส่ายหน้าก่อนจะพูดต่อ “เธอต้องสัญญาก่อน”“มันเป็นเรื่องร้ายแรงเหรอคะ ?”“ไม่ขนาดนั้น”“หรือคุณเพลิงฆ่าผู้ชายคนนั้นไปแล้ว”“ฉันก็อยากจะฆ่ามันอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ใช่ตอนนี้”“แล้วมันเรื่องอะไรกัน” ฉันพยายามถามเพื่อหาคำตอบมาคาดเดาเอาเอง แต่ก็ไม่เห็นจะจับใจความอะไรได้เลย“รีบสัญญากับฉันสิแล้วเธอจะรู้ทุกเรื่อง ฉันจะตอบคำถามทุกข้อที่เธอสงสัย”เขาเอาความอยากรู้ของฉันมาเป็นตัวล่อ ในที่สุดก็จนมุมจนได้ ฉันไม่สามารถต้านทานความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองได้“ค่ะเอยสัญญาว่าจะไม่โกรธ”สิ้นสุดคำพูดคุณเพลิงก็ค่อย ๆ ปล่อยแขนของฉันให้เป็
ตอนนี้ฉันเหมือนคนกำลังตกภวังค์อยู่ในอ้อมกอดของคุณเพลิง“อ… ออกไปนะคะ”“ฉันอยากกอดเธอแบบนี้”“เอยเชื่อได้ใช่ไหมคะว่าคุณเพลิงให้ค่าผู้หญิงคนนั้นเป็นแค่หมากตัวนึง เอยเชื่อได้ใช่ไหมว่าคุณเพลิงกับเธอไม่ได้มีอะไรที่ลึกซึ้ง” “ฉันกลับไปนอนที่บ้านซะส่วนใหญ่ ไม่เชื่อเธอก็ถามไอ้ไฟดูมันช่วยคิดแผนนี้ให้”“แล้วต้องทำร้ายเอยด้วยเหรอคะ”“ฉันทำเพื่อปกป้อง ขอโทษที่ทำให้เธอเจ็บ”ฉันถามทวนทุกอย่างเพื่อความมั่นใจว่าตัวเองจะไม่ถูกหลอกอีก ตอนนี้ความรู้สึกดี ๆ มันกลับมา ฉันจะถูกมองเป็นคนโง่หรือเปล่าถ้าเกิดว่าเชื่อในตอนนี้“… ตอนนี้เอยเป็นอะไรสำหรับคุณเพลิงเหรอคะ”เหมือนว่าฉันคิดผิดที่ถามแบบนี้ออกไป เพราะคนที่ถูกถามเงียบไม่ตอบ แถมยังถอนหายใจออกมาหนัก ๆสุดท้ายสถานะของฉันก็เหมือนเดิมคุณเพลิงค่อย ๆ ดันกอดออก สายตาคู่นั้นจ้องลึกเข้ามาในตาก่อนที่มือหนาจะจับปลายคางของฉันให้เงยขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกัน“เธอเป็นคนรักของฉัน” คุณเพลิงบอกเสียงนุ่ม ทำเอาใจฉันเต้นแรงที่ได้ยินแบบนั้น แบบจะไม่เชื่อหูตัวเอง“ค… คนรักเหรอคะ” ฉันดีใจจนยิ้มออกมา แต่ก็ต้องหุบยิ้มแล้วถามต่อ “ไม่เคยขอคบ ไม่เคยบอกรักแล้วจะเรียกว่าคนรักได้ยังไงล่
ฉันค่อย ๆ พลิกตัวหันมากอดคุณเพลิง ไม่ได้ยินคำตอบแบบนี้มันทำให้รู้สึกเป็นห่วงเอามาก ๆ“อันตรายมากใช่ไหมคะ”“แฟนเธอเก่ง ไม่ต้องคิดมาก” ถึงจะไม่ค่อยชินกับคำว่าแฟนแต่ทำเอาฉันเขินยิ้มจนแก้มจะแตกอยู่แล้ว“แฟนของเอยจะปลอดภัยใช่ไหมคะ” คุณเพลิงพยักหน้าแทนคำตอบ“หิวไหม อยากกินอะไรบอกมาสิฉันจะทำให้”“เอยอยากกิน อยากกินคุณเพลิงค่ะ ^_^”คุณเพลิงยิ้มพอใจให้กับคำตอบของฉัน “เหนื่อยหน่อยนะถ้าจะกินฉัน”“เหนื่อยแค่ไหนเหรอคะ”พรึบ! ร่างหนาขึ้นมาคร่อมบนตัวของฉัน ก่อนจะก้มลงมาจูบริมฝีปาก บทกามได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งและกินเวลาไปจนเกือบเช้าช่วงสาย ๆ ของวันใหม่ฉันค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมองมาตรงที่นอนข้าง ๆ ไม่เจอคุณเพลิงอยู่แล้ว แต่คงเดาไม่ยากว่าเขาอยู่ไหนเพราะได้กลิ่นอาหารลอยคลุ้งมาแตะจมูกวันนี้ฉันไม่มีเรียน ข้อดีของการเรียนมหาวิทยาลัยคงเป็นแบบนี้ ไม่ได้มีเรียนทุกวัน แถมบางวันก็เรียนแค่ช่วงเช้าหรือช่วงบ่าย พอจะได้กลับไทยมันก็รู้สึกใจหวิว ๆ ฉันชอบที่นี่มากเลยนะ แต่ถ้าดื้อขออยู่ต่อคงทำให้คุณเพลิงเป็นห่วงหลังจากลุกขึ้นฉันก็มาล้างหน้าอาบน้ำในห้องน้ำ เสร็จแล้วก็เดินออกมาจากห้องนอนไปหาคุณเพลิงที่ทำอาหารอยู่ในครัว
ผู้ชายที่ชื่อลีวายมารับมิลินจริง ๆ เหมือนทั้งสองจะมีปัญหากัน แต่สุดท้ายมิลินก็ยอมกลับไป ไม่สิไม่ใช่ยอม เรียกว่าจำใจมากกว่า“ผู้ชายคนนั้นนิสัยเหมือนเฮียไม่มีผิด”คุณเฟยขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดของฉันก่อนจะถาม “ยังไง?”“ก็เป็นพวกดุร้ายแถมยังชอบบังคับ ดูท่าทางแล้วคงจะใจร้ายมาก ๆ มิลินถึงได้ไม่อยากเข้าใกล้แบบนั้น”“นั่นมันฉันในเมื่อก่อน ไม่ใช่ตอนนี้สักหน่อย”“ถ้าเฮียกลับมาทำนิสัยแบบนั้นหนูจะหอบลูกหนีไปไกล ๆ เลยคอยดูสิ”คุณเฟยดึงตัวฉันมาสวมกอดแน่นแล้วถอนหายใจเบา ๆ “ฉันจะเป็นสามีที่ดีของเธอ… แต่ตอนนี้เรามาทำเรื่องที่ค้างไว้กันต่อดีกว่านะ”“ทะ... ทำได้จริง ๆ ใช่ไหมคะ” ค่อนข้างกังวลเพราะฉันก็ศึกษามาบ้างว่าการมีเพศสัมพันธ์เสี่ยงต่อการแท้ง“ได้สิ ฉันจะค่อย ๆ ทำ”“รอคลอดก่อนแล้วเราค่อยทำ…”“ถ้าต้องให้รอนานขนาดนั้นก็ตัดของฉันทิ้งไปเลยดีกว่า”“หือ! นี่ถึงขนาดยอมตัดทิ้งเลยเหรอคะ” ฉันยกมือขึ้นมาป้องปากทำตาโต“ฉันแค่พูดประชด!!”คุณเฟยทำหน้าตึงใส่ จากนั้นก็อุ้มฉันพาเดินขึ้นบันไดไปบนชั้นสอง#ภายในห้องคุณเฟยวางฉันลงบนเตียงพร้อมกับขึ้นมาคร่อม แต่พอจะถูกถอดเสื้อผ้าฉันก็รีบรั้งมือหนาเอาไว้“ทำไม?”“หนูขอทำ
สีหน้าที่ดูเหมือนจะโกรธจริงจังของคุณเฟยทำให้ฉันแอบรู้สึกผิดไม่น้อย แต่ทำยังไงได้บอกมิลินไปแล้วนี่นา“ยะ... อย่าดุหนูสิคะ เดี๋ยวถ้ามิลินกลับหนูจะจัดชุดใหญ่ให้นะคะ ^_^”“ฉันต้องการ… ตอนนี้”“ตอนนี้ไม่ได้เพื่อนหนูมาเฮียเข้าใจหน่อยสิ”“เธอทำกับฉันเกินไปแล้วนะน้ำอิง”“นะคะ หนูสัญญาว่าจะไม่ทำให้เฮียผิดหวัง ^_^”“ครึ่งชั่วโมง ฉันให้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมง”“รับทราบค่ะ ^_^”“ถ้าเกินครึ่งชั่วโมงฉันจะไปอุ้มเธอขึ้นห้อง”คุณเฟยพูดทิ้งท้ายพร้อมกับถอนหายใจหนัก ๆ แล้วลุกขึ้นจากตัวฉัน จากนั้นก็หยิบเสื้อผ้ามาใส่ ฉันเองก็รีบแต่งตัวเพราะมิลินโทรมาสามสายแล้วหลังจากใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยฉันก็เดินมารับมิลินที่หน้าประตูบ้าน“ทำไมจู่ ๆ ถึงมาหา…”“น้ำอิง อึก~”มิลินโผล่เข้ากอดฉันแล้วร้องไห้โฮออกมา ทำเอาฉันทำตัวไม่ถูก“มิลินเป็นอะไร เธอร้องให้ทำไม”“ฉัน อึก~ ฉันรู้สึกแย่จัง ฉันไม่อยากอ่อนแอต่อหน้าเธอแบบนี้เลยน้ำอิง อึก~”“เข้าไปคุยกันข้างในบ้านดีกว่านะ” ฉันดันกอดออก มิลินพยักหน้าแล้วเดินตามฉันมาที่ห้องรับแขกฉันไม่รู้จะเริ่มปลอบเพื่อนยังไงดี ไม่รู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอร้องไห้หนักขนาดนี้ มิลินเอาแต่พูดว่าตัวเ
คุณเฟยผละใบหน้าขึ้นแล้วมองฉันตาหวานเยิ้ม ก่อนจะใช้นิ้วเกลี่ยวนไปมาตรงพวงแก้มของฉันเบา ๆ“เจ้าเล่ห์”“ฉันเจ้าเล่ห์แบบนี้แล้วเธอจะรับมือยังไง”“หนูจะ… รับมือยังไงดีน้า” ฉันใช้มือดันตัวเองลุกขึ้นนั่งแล้วถอดเสื้อออก ภาพที่เห็นทำให้คุณเฟยยิ้มอย่างพอใจคุณเฟยจับปลายคางฉันเงยขึ้นเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ก้มลงมาจูบอย่างดูดดื่ม ลิ้นสากค่อย ๆ สำรวจไปจนทั่วภายในโพรงปาก ความนุ่มนวลทำให้ฉันเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสนี้ในขณะที่จูบกันอย่างดูดดื่มคุณเฟยก็ค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อของตัวเองไปด้วย แล้วถอดเสื้ออกทิ้งลงพื้นอย่างไม่ใยดีถึงแม้เสื้อตัวนั้นราคาจะแพงขนาดไหนเสื้อผ้าที่อยู่บนร่างกายของเราทั้งคู่ถูกถอดออกไปทีละชิ้น ๆ จนไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียวยอมรับว่าตอนนี้ฉันกำลังเขินสายตาของคุณเฟยที่กำลังมองเรือนร่างของฉันอยู่แบบไม่กะพริบตา“เฮียมองแบบนี้หนูก็เขินเป็นนะคะ”“ภรรยาของฉันสวยขนาดนี้ ไม่ให้มองได้ยังไง”พูดจบคุณเฟยก็ค่อย ๆ ดันตัวเองลงมาตรงกลางระหว่างขาแล้วก้มหน้าลง ฉันจึงรีบใช้มือปิดตรงนั้นของตัวเองเอาไว้“ฮะ... เฮียจะทำอะไรเหรอคะ”“ฉันกำลังจะทำให้เธอมีความสุข”คุณเฟยจับมือที่ฉันเอาปิดตรงนั้นของตัวเองออกไปให้
ฉันได้แต่ถามตัวเองว่าตอนนี้กำลังฝันอยู่หรือเปล่า นี่ไม่ใช่ความฝันใช่ไหม คำพูดเมื่อครู่นี้หมายความว่า… ท่านยอมรับฉันแล้วอย่างนั้นเหรอแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เหมือนก่อนหน้านี้ไม่นานท่านยังไม่มีท่าทียอมรับฉันเลย จู่ ๆ พูดแบบนี้มันน่าเหลือเชื่อจริง ๆคุณเฟยเอามือมากุมมือฉันไว้เราสองคนต่างยิ้มให้กัน ความทุกข์ในใจที่ทำให้คิดมากมานาน วันนี้ทุกอย่างถูกปลดล็อกแล้ว ไม่มีเรื่องต้องคิดมากอีกต่อไปแล้ว“ขอบคุณครับพ่อ ขอบคุณที่ยอมรับผู้หญิงที่ผมรัก”“แกเลือกแล้วฉันจะขัดอะไรได้ อย่างน้อยเมียแกก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าไม่ได้เห็นแก่เงิน เพราะไม่ว่าฉันจะพยายามเสนอเงินมากมายเท่าไรเมียแกก็ไม่ยอมรับ”ฉันยิ้มแห้ง ๆ หลังจากได้ยินคำที่ท่านพูด เพราะตอนแรกฉันก็ขายตัวแลกเงิน ถ้าท่านรู้เบื้องหลังต้องไล่ฉันตะเพิดแน่ ๆ เลยท่านละสายตาจากคุณเฟยมาโฟกัสฉันแทน แล้วถาม “ฉันรู้มาว่าเธอไม่มีญาติที่ไหน ใช่หรือเปล่า”“ค่ะ” เอาเข้าจริงพอถูกยอมรับแล้วมันทำให้รู้สึกเกร็งมาก ๆ“ถ้าอย่างนั้นฉันจะคุยเรื่องค่าสินสอดกับเธอเลยก็แล้วกัน”“… ค… ค่าสินสอดเหรอคะ”“อืม เธออยากได้เท่าไรบอกมาสิ”“เอ่อคือหนูว่าไม่ต้อง…” กำลังจะปฏิเสธแต
ตรงหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่หัวใจดวงน้อย ๆ ของฉันเต้นแรงอย่างไม่มีทีท่าว่าจะเบาลง ก่อนหน้านี้ถึงจะมีความกล้าแต่ทว่าพอถูกพ่อของคุณเฟยเชิญมาที่บ้านด้วยตัวเองก็ถึงกับทำตัวไม่ถูก“เป็นอะไรไปมือเย็นเฉียบเชียว” คุณเฟยหันมาถามหลังจากที่จับมือของฉัน“หนู... หนูรู้สึกตื่นเต้นแล้วก็กลัว…” คุณเฟยจับปลายคางของฉันให้หันมา จากนั้นเขาก็ก้มลงมาจูบฉันตกใจรีบผละตัวออกแต่ถูกฝ่ามือหนารั้งท้ายทอยเอาไว้แล้วกดจูบลงมาหนัก ๆ“จะทำอะไรก็ไว้หน้าฉันด้วย ไม่รู้จักอายบ้างรึไง” เสียงทุ้มท้วงขึ้นมาอย่างไม่ชอบใจ ฉันกับคุณเฟยจึงรีบผละตัวออกจากกัน“คะ... คุณท่านสวัสดีค่ะ” ฉันรีบยกมือสวัสดีแล้วก้มหน้าไม่กล้าสบตา“ถ้าฉันไม่โทรไปบอกให้แกมา แกก็คงไม่โผล่หัวมาใช่ไหม”“ครับ”“ตาเฟย!!”“เฮีย” เห็นว่าคุณท่านเริ่มมีอารมณ์ฉันจึงรีบหันมาท้วงคุณเฟย ไม่อยากให้พ่อกับลูกมีปากเสียงกันไปมากกว่านี้ฟังจากคำพูดแล้วคุณท่านคงไม่ยอมรับฉันง่าย ๆพอท้องแล้วรู้สึกว่าตัวเองหวั่นไหวกับอะไรง่าย ๆ มากกว่าเมื่อก่อนเยอะเลยคุณเฟยถอนหายใจเบา ๆ ข่มอารมณ์ก่อนจะถาม “ให้ผมมาทำไมครับ”“ตามฉันมา”คุณท่านเดินนำเราสองคนเข้าไปในตัวบ้าน ส่วนฉันกับคุณเฟยเรามองหน้าก
ผ่านไป 2 อาทิตย์ฉันแพ้ท้องหนักพอสมควร แค่ได้กลิ่นอาหารก็คลื่นไส้กินอะไรก็อ้วกออกจนหมด โชคดีที่คุณเฟยคอยอยู่ดูแลตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง กลิ่นหอมจากตัวคุณเฟยทำให้อาการที่ฉันเป็นทุเลาลงบ้าง“กูสั่งให้ซื้อมะม่วงเปรี้ยวแต่มึงซื้อมะม่วงหวานมา อยากตายรึไงฮะ!!”“ขอโทษครับนายผมจะไปซื้อให้ใหม่เดี๋ยวนี้ครับ”“กูให้เวลาสิบนาทีถ้ายังไม่กลับมากูไล่มึงออก”เสียงคุณเฟยตวาดลูกน้องดังก้อง พักนี้เขาหงุดหงิดง่ายมาก ๆ แล้วก็ชอบกินของเปรี้ยวเป็นที่สุด“แค่ซื้อมาผิดไม่เห็นต้องดุเขาขนาดนั้นเลยเฮีย” ฉันเดินมากอดแขนคุณเฟยที่กำลังหงุดหงิดอยู่ แต่พอหันมามองฉันสายตาที่เคยเกรี้ยวกราดก็เปลี่ยนเป็นละมุนทันที“ถ้าไม่ดุมันก็จะเคยตัว”“แล้วถ้าหนูทำผิดล่ะคะ”“ฉันก็จะลงโทษเธอทั้งคืน”“…” ที่เงียบไม่โต้ตอบเป็นเพราะฉันกำลังเขินจนทำตัวไม่ถูก ใบหน้าร้อนผ่าวเอามาก ๆ กับคำพูดเมื่อครู่ของคุณเฟยพอห่างหายจากเรื่องบนเตียงไปนาน ๆ ได้ยินคำพูดอย่างว่าเมื่อไรใจมันหวิว ๆ ร้อนวูบวาบไปทั้งตัวทุกที“คิดอะไรอยู่หน้าแดงเชียว”“นะ... หนูไม่ได้คิดเรื่องสิบแปดบวกนะ”“หืม? ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรเลยนะ”“…” ฉันพูดอะไรออกไปเนี่ย บ้าที่สุดเลยตอนนี้คุณ
ละ... ลูกของเราเมื่อกี้ฉันไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหมหรือว่านี่คือความฝัน ใช่!! ตอนนี้ฉันกำลังฝันอยู่แน่ ๆ“ฉันอยากมีลูกมากขนาดเก็บมาฝันเลยเหรอเนี่ย”“ไม่นี่ ไม่ได้อยากมีสักหน่อย”ฉันพูดพึมพำกับตัวเองไม่ทันขาดคำ จู่ ๆ คุณเฟยก็เอานิ้วมาดีดหน้าผากฉันเสียงดังแปะ มันไม่ใช่เบา ๆ เลยนะ เจ็บด้วย“โอ๊ย... เฮียหนูเจ็บนะ” พอถูกทำให้เจ็บตัวฉันก็ตวัดสายตาจ้องคุณเฟยเขม็งทันที โกรธจริง ๆ นะ ดีดมาได้แรงขนาดนี้ นี่ฉันเป็นภรรยาเขานะ“ใช่ฝันหรือเปล่า?”“เฮียบ้า!!”“คงมีแค่ฉันที่ดีใจ เฮอะ! ใช่สิเธอไม่ได้อยากมีลูกกับฉันก็เลยไม่ดีใจ” พูดจบคุณเฟยก็ลุกขึ้นเดินหน้าบึ้งไปอีกมุมของห้อง ความโรแมนติกเมื่อครู่หายไปไหนแล้ว“ดะ... เดี๋ยวนะคะ ทำไมคิดแบบนั้นตัดสินเองเออเองโกรธเองใช้ได้ที่ไหนกัน”“ฉันเลี้ยงลูกเองก็ได้”“เฮีย! ไปกันใหญ่แล้วนะ”“จิ๊!!”“จู่ ๆ มาบอกว่าหนูท้อง ไม่ให้เวลาตกใจหน่อยเหรอคะ” ดูสิพูดแบบนี้แล้วยังเมินใส่ อารมณ์แปรปรวนยิ่งกว่าตอนผู้หญิงมีประจำเดือนอีกนะสามีฉันฉันยกมือขึ้นกอดอกแล้วมองแรง พร้อมกับพูด “มาตรงนี้”“เฮียหนูบอกให้มาตรงนี้ไงคะ” พูดครั้งที่สองแล้วคุณเฟยยังทำเป็นไม่ได้ยิน ฉันจึงใช้คำเด็ดขาด “ถ้า
มาถึงโรงพยาบาลคุณเฟยก็บอกให้หมอตรวจร่างกายของฉันให้ละเอียด สีหน้าแววตาที่คอยมองฉันด้วยความเป็นห่วงแบบนั้นทำให้หัวใจดวงน้อย ๆ มันพองโตขึ้นเรื่อย ๆขณะที่หมอตรวจก็รู้สึกเวียนหัวหน้ามืดตลอดเวลาแถมยังพะอืดพะอมจะอ้วกใส่หมอไปหลายครั้งแต่ดีที่กลั้นไว้ได้ผลตรวจรอบแรกออกมาว่าร่างกายของฉันปกติดีทุกอย่างต่างจากอาการที่เป็น แน่นอนว่าคุณเฟยโวยวายให้หมอตรวจอีกครั้ง จนหมอต้องทำตามอย่างเลี่ยงไม่ได้หลังจากตรวจรอบสองเรียบร้อยก็ต้องรอผล ตอนนี้ฉันกำลังเอนศีรษะซบลงบนไหล่กว้างของคุณเฟย เมื่อวานก็ปกติไม่เป็นอะไรแต่มาวันนี้เหมือนร่างกายไม่มีแรงอยากจะกลับบ้านนอนมาก ๆ“กลับไปรอผลตรวจที่บ้านได้ไหมคะ หนูไม่ไหวแล้ว” ฉันบอกเสียงเบา ตาก็คล้อยจะหลับเต็มที“เห็นเธอเป็นแบบนี้แล้วฉันยิ่งเป็นห่วง นอนดูอาการที่โรงพยาบาลสักคืนดีไหม”“ตอนนี้หนูเหม็นกลิ่นยาจนเวียนหัวไปหมดแล้ว ถ้าต้องนอนที่โรงพยาบาลหนูตายแน่ ๆ เลยค่ะ”คุณเฟยมองด้วยสายตาเป็นห่วงปนเอ็นดู จากนั้นก็ลุกยืนเต็มความสูงแล้วช้อนมือมาอุ้มฉันขึ้นในท่าเจ้าสาว“อื้อเฮีย นี่มันโรงพยาบาลนะคะวางหนูลงเดี๋ยวนี้เลย”“หน้าซีดขนาดนี้จะมีแรงเดินเองได้ยังไง”คุยกันเหมือนตรงนี้มี
คุณเฟยหันมามองหน้าฉันแล้วยกหางคิ้วขึ้นเหมือนมีคำถาม ทั้งที่พูดไปเมื่อกี้ว่าจะอ้วกไม่ได้ยินหรือไง“พาหนูไปห้องน้ำหน่อย อึก~”“อ๋อ เธอกำลังแพ้ท้องสินะ” คุณเฟยพยักหน้ายิ้มกริ่มก่อนจะประคองฉันขึ้น“อึก~”“ต้องขอโทษด้วยนะครับพอดีภรรยาของผมกำลังท้อง ช่วงนี้เธออ้วกบ่อย ๆ”“เร็ว ๆ อึก~ มันจะออก อึก~” ฉันทำตาดุใส่คุณเฟยที่เอาแต่ยิ้มพูดไม่ยอมพาเดินไปห้องน้ำซักที ถ้าขืนยังไม่ยอมไปจะอ้วกมันตรงนี้ซะดีไหมเนี่ยไม่รู้ว่าเผลอกินอะไรเข้าถึงได้พะอืดพะอมขนาดนี้ แต่จะว่าไปก็กินแบบเดิม ๆ ทุกวัน เพิ่งจะมามีอาการตอนเข้ามาในงาน คนเยอะแล้วเวียนหัว พอนั่งลงที่โต๊ะพวกกลิ่นอาหารมันตีขึ้นจมูกเหม็นมาก ๆ#ห้องน้ำพอเห็นประตูห้องน้ำมันเหมือนเห็นทางขึ้นสวรรค์ ฉันรีบวิ่งพุ่งตัวมานั่งตรงหน้าชักโครกแล้วอ้วกออกมาอย่างทรมาน“ไม่ต้องอ้วกเป็นจริงเป็นจังขนาดนั้นก็ได้ ตรงนี้มีแค่เธอกับฉัน”“อึก~ พะ... พูดอะไรคะ”แปะ แปะ แปะ จู่ ๆ คุณเฟยก็ปรบมือเสียงดัง ก่อนจะพูด “เมียฉันนี่การแสดงดีเยี่ยมจริง ๆ”“หนูไม่ อ้วกก~อึก แสดง~ อึกอ้วก~”“เลิกแกล้งได้แล้วน้ำอิง”“ก็บอกว่าไม่ได้แกล้ง ออกไปไกล ๆ เลยนะคะ อ้วกกก~” ฉันหันมาตวาดคุณเฟยที่เอา