อลิษาทิ้งตัวนอนบนเตียงด้วยท่าตะแคงข้าง โชว์แผ่นหลังขาวนวลพร้อมแอ่นก้นยั่วยวนสามี“พี่อิน ท่านี้ปลอดภัยนะคะ”อินทัชเข้าไปประกบภรรยาจากด้านหลัง ริมฝีปากบางไล่จูบตั้งแต่ไหล่ แผ่นหลัง ลงไปถึงก้นงอน ฟอนเฟ้นซาลาเปาสองลูกด้วยใบหน้า จมูก และปาก“อะ อื้อ”คุณหมอฝากรอยรักสีกุหลาบไว้บนก้อนกลมทั้งคู่อย่างละจุด
“พี่อิน เสียวจังค่ะ อ๊า”“พี่ก็เสียว” อินทัชเพิ่มจังหวะเล็กน้อย แต่ยังคงความนุ่มนวลลึกซึ้งไว้ “พี่รู้สึกดีที่ได้อยู่ในตัวลิษา อา”“ลิษาก็รู้สึกดี อ๊ะ มากค่ะ อื้อ”ภายในคับแน่นเริ่มบีบรัดอินทัชเป็นจังหวะ เขารู้ทันทีว่าอลิษาใกล้ถึงจุดหมายเต็มทน เอวสอบขยับย้ำกับจุดที่อลิษาชื่นชอบเป็นพิเศษ ริมฝีปากร้อนผ
“ลิษาขอโทษค่ะคุณแม่”“ไม่เป็นไรค่ะ ตอนนี้ลิษามีทั้งหลานชายและหลานสาวให้แม่แล้ว แม่ไม่เสียใจแล้วล่ะค่ะ”อิงอรไม่เหลือความโศกเศร้าอีกแล้ว เธอตระหนักได้แล้วว่าอดีตก็คืออดีต มันผ่านมาแล้วและจะไม่มีทางหวนกลับไปได้อีก ถึงตอนนั้นเธอจะมีอินทัชแค่คนเดียว แต่ตอนนี่เธอกำลังจะได้เป็นคุณย่าของหมูน้อยตั้งสองคนโช
ธุรกิจของอลิษาขยายตัวอย่างรวดเร็ว นอกจากจะเป็นบริษัทหาคู่แล้ว ผู้บริหารยังสาวมีโปรเจกต์ขยายธุรกิจให้เป็นบริษัทรับจัดงานแต่งด้วย เรียกได้ว่าทั้งหาคู่และจัดงานให้ จบครบในที่เดียวเกือบสองเดือนแล้วที่ธุรกิจใหม่เปิดตัวขึ้น เงินลงทุนที่เข้ามาหนุนไม่ใช่จากใครอื่นไกลเลย สามีของอลิษาเอง อินทัชลงทุนเป็นเงินจ
“ไปกันใหญ่แล้วลิษา”อลิษาส่ายหัวแรง ๆ คำพูดขายตรงที่มะปรางทิ้งไว้กำลังล้างสมองเธอทีละนิด ขายเก่งเกินไปแล้ว แม้แต่เจ้านายยังไม่เว้นเลยเหรอแบบนี้เรียกว่าเป็นข้อดีได้ไหมล่ะเนี่ย..อลิษาดื้อจะไปงานแต่งของลูกค้าคนสนิทให้ได้ อินทัชก็เลยติดสอยห้อยตามไปดูแลเธอที่งานด้วย งานแต่งหรูหราแต่ไม่ดูเยอะเกินไป จั
“พี่ลิษาคะ คุณหมออินทัชมาแล้วนะคะ”“ให้คุณหมอเข้ามารอในห้องเลยมะปราง พี่ยังทำงานไม่เสร็จ”“ทำงานหนักไปแล้วนะครับ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นแทนมะปราง อินทัชเข้ามาทันได้ยินพอดี “เย็นแล้ว เลิกงานได้แล้วครับ”“อีกนิดนึงค่ะพี่อิน ลิษาอ่านตรงนี้นิดเดียว”มะปรางสบตากับหมออินทัช ส่ายหน้าเบา ๆ เพื่อบอกให้รู้ว่าเธอเอ
ไหล่เล็ก ๆ สั่นไหวอย่างน่าสงสาร ปลุกให้คุณหมอที่ระวังตัวตลอดเวลาตื่นขึ้น เขาจ้องแผ่นหลังของภรรยาเพื่อรอดูว่าเธอแค่ละเมอหรือว่าเจ็บปวดตรงไหน จนกระทั่งได้ยินเสียงสะอื้นดังออกมา อินทัชจึงรีบลุกขึ้นเปิดไฟทันที“ลิษา!”อินทัชพลิกร่างภรรยาให้นอนหงาย อลิษาไม่ได้ขัดขืน มือทั้งสองข้างกุมบนอกซ้ายพร้อมร้องไห้อ
“คุณพ่อคุณแม่กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะครับ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว” อินทัชเอ่ยอย่างเหนื่อยล้า แต่ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มสบายใจอลิษาไม่เป็นอะไรแล้ว และลูกหมูทั้งสองก็แข็งแรงดีอลิษามีภาวะแท้งคุกคาม รกลอกตัวออกจากผนังมดลูกก่อนกำหนด จึงทำให้มีเลือดซึมไหลออกมาอย่างที่เห็น โชคยังดีที่รู้เร็ว หากรู้ช้าก
“ปะป๊าหล่อที่สุด” จู่ ๆ พาดาก็พูดขึ้น อินทัชรู้ทัน เขาหลุบตามองถ้วยไอศกรีมที่หมดเกลี้ยงแล้วส่ายหน้า“ไม่ต้องเลยครับ ปะป๊าไม่ให้เพิ่มนะครับ”“บู้ว! ปะป๊ารู้ทันอีกแล้ววว”..ช่วงเย็น คุณหมอได้รับสายจากอลิษาว่างานยังไม่เสร็จ และอาจจะกลับบ้านดึก ให้อินทัชพาลูกเข้านอนก่อนได้เลย คนเป็นสามีได้ยินแบบนั้นก็
อินทัชขับรถไปที่โรงเรียน เขารีบรับขุนเขาพาดาขึ้นมาเพราะไม่อยากให้ลูกรอนาน และก็เป็นไปตามคาด ทันทีที่ขึ้นมาบนรถพาดาก็ทวงไอศกรีมจากปะป๊าทันที“ไอติม ไอติม”“ค่ะ เดี๋ยวปะป๊าพาไป แต่ตอนนี้พาดาต้องเบาเสียงหน่อยนะคะ น้องนอนอยู่”“พาดาขอโทษค่ะ โอ๋ ๆ นะสายหมอก หลับน้า”“คาดเข็มขัดกันด้วยครับ ไม่อย่างนั้นอดไ
(น้องหมอกต้องทานนมตอนเที่ยงนะคะ พี่อินเอาออกมาอุ่นก่อน อย่าลืมเหยาะหลังมือเทสอุณหภูมิด้วยนะคะ)“ครับ” อินทัชหนีบมือถือด้วยไหล่ มือทั้งสองข้างหยิบนมที่ภรรยาปั๊มเอาไว้ออกมาจากตู้แช่เพื่อเตรียมอุ่น “ลิษาไม่ต้องห่วง ประชุมต่อเถอะครับ”(พี่อินไม่เคยต้องอยู่กับลูกตามลำพัง ลิษากลัวว่าพี่จะเหนื่อยเกินไป)“ไ
“เตเต้ว่าพาดาอ้วน บอกว่าของขวัญว่าขี้โรค”“เตเต้คะ” ได้ฟังแบบนั้นคุณครูจึงกดเสียงต่ำ เด็กชายตัวกลมเริ่มเกรงกลัวเพราะครูตัวสูงกว่ามาก“กะ ก็จริงนี่คับ”“เตเต้คะ” คุณครูย่อตัวลงให้เท่ากับส่วนสูงของเด็กชาย “พูดถึงรูปร่างคนอื่นแบบนั้นไม่ดีเลยนะคะ จะอ้วน จะผอม เราก็ไม่มีสิทธิ์ไปว่าเขา ขอโทษเพื่อนนะคะ”“ไ
“ใช่แล้วค่ะ วันนี้มีข้าวผัดเบคอนของโปรดของหนู พี่ขุนหม่ำได้เลยครับ ส่วนพาดาเอาผ้ามาคลุมก่อนนะ เดี๋ยวจะเลอะเสื้อนักเรียน”พาดาทำตามที่หม่าม้าบอกอย่างแข็งขัน มือป้อม ๆ หยิบจับทุกอย่างอย่างคล่องตัวเพราะถูกฝึกให้ทำตั้งแต่เริ่มเข้าโรงเรียน มื้อเช้าเริ่มต้นขึ้นพร้อมกับเสียงพูดคุยของพาดาจนจบมื้ออาหาร คุณปู
เสียงนกร้องจิ๊บ ๆ ดังปลุกตอนหกโมงครึ่ง ตรงเวลาไม่ขาดไม่เกิน ร่างอวบอ้วนที่ตื่นเต็มตานอนตากลมแป๋วบนเตียงนุ่ม ซุกตัวในผ้านวมผืนหนาที่หอมและอบอุ่น ไม่มีทีท่าว่าจะลุก แต่ก็ไม่ได้หลับต่อสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ เริ่มต้นกิจกรรมตามปกติ แต่ใครบางคนกลับนอนนิ่ง ราวกับไม่ต้องการลุกไปทำอะไรทั้งนั้นไม่ใช่เพราะขี้เกีย
“ปล่อยเขาเถอะลิษา ให้เขาได้เรียนรู้ ได้เลอะ ได้ลองเจ็บด้วยตัวเอง”“เฮ้อ คนนี้ซนได้ใครก็ไม่รู้”พาดาที่ว่าแสบแล้ว เจอสายหมอกเข้าไปกลายเป็นเด็กเรียบร้อยเลยทีเดียว เด็กชายสายหมอกในวัยสามขวบทั้งซนทั้งขี้อ้อน ทั้งปู่ย่า ยาย พ่อแม่และพี่ ๆ ต่างรุมเอาใจเพราะแพ้ลูกอ้อน อลิษาอยากบ่นคนอื่นแต่ก็ทำได้ไม่เต็มที่
“แม่เกือบมาไม่ทัน ติดสอนค่ะ”“พ่อก็ติดประชุม ปลีกตัวไม่ได้เลย”“ไม่เป็นไรค่ะ ลิษาคงยังไม่คลอดเร็ว ๆ นี้”“ปากมดลูกเปิดเท่าไหร่แล้วคะ”“พี่อินบอกว่าแค่สองเซนเองค่ะ”“โธ่ ทนไหวไหมลูก ถ้าไม่ไหวก็ผ่าเถอะนะคะ” คุณหมออิงอรอดรู้สึกเจ็บแทนลูกสะใภ้ไม่ได้ มาโรงพยาบาลก็หลายชั่วโมงแล้ว แต่ปากมดลูกยังเปิดได้ไม่เ
“อึก! พี่อิน พี่อินอยู่ไหน”“คุณหมอกำลังมานะคะ”ไม่ทันขาดคำ ประตูห้องพักก็ถูกเปิดออกกว้าง อินทัชรีบพุ่งตัวเข้ามาหาภรรยา คว้ามือเย็นเฉียบมาบีบไว้เพื่อถ่ายทอดกำลังใจไปให้คนที่กำลังเจ็บปวด“ให้พี่ดูก่อนนะครับว่าปากมดลูกเปิดเท่าไหร่แล้ว”อลิษาพยักหน้ารับ ใบหน้าสวยซีดเซียวและบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด ตลอด