ช่วงสายของวันใหม่ อัครพลทำเรื่องออกจากร.พ ให้รสสิกา หลังจากเคียร์ค่าใช้จ่ายเสร็จก็ส่งเธอขึ้นรถกลับ แล้วรีบมุ่งหน้าไปห้องของมาณวิกาทันที แต่พอเปิดประตูเข้าไปก็พบกับความว่างเปล่า จึงรีบไปถามพยาบาล" คนไข้ห้อง704 หายไปไหนครับ"" ออกไปแล้วค่ะ ทำเรื่องย้ายไปรักษาตัวต่อที่กรุงเทพแล้ว "ไปแล้ว แล้วทำไมไม่คิดจะบอกกันบ้าง " เธอ ไม่คิดจะบอกฉันสักคำเลยเหรอ "อัครพลตัดพ้อด้วยความน้อยใจ แล้วโทรบอกลูกน้องไห้รีบเอาเครื่องบินส่วนตัวมารับมาณวิกาตัดสินใจกลับกรุงเทพ เธอไห้หมอถอดเฝือกไห้ แล้วบอกว่าจะไปรักษาที่กรุงเทพต่อ ที่จริงเธอรู้สึกดีขึ้นมากแล้วแม้จะเดินไม่ถนัดอยู่บ้าง ส่วนอาการเจ็บท้องก็หายแล้วเช่นกัน เธออยากไปพักผ่อนอยู่ที่บ้านมากกว่า ทีแรกหมอปฏิเสธ แต่โชคดีที่อิงอรมีญาติผู้พี่เป็นหมออยู่ที่นี่ เมื่อประเมินอาการแล้ว บวกกับมาณวิกายืนยันว่าจะไปรักษาที่กรุงเทพแทน หมอถึงได้จัดการเอกสารส่งตัวไห้ ส่วนตั๋วเครื่องบินอิงอรก็จัดการให้เธอตั้งแต่เมื่อคืน ทำให้ช่วงเช้าของวัน เธอจึงได้ออกมาจากร.พพร้อมบินกลับกรุงเทพทันทีอัครพลมาถึงกรุงเทพ ก็ให้คชาไปสอบถามตาม ร.พต่างๆว่าร.พไหน รับมาณวิกามารักษาตัวต่อ แต่ก็ไม่มี
รสสิกาเข้าไปหาอัครพลในห้องทำงาน เธอนั่งรอเขาเงียบๆหยิบมือถือมาเล่นฆ่าเวลาอยู่แบบนี้มาพักใหญ่ อัครพลก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตาทำงาน ไม่สนใจเธอแม้แต่น้อย เอกสารกองเต็มโต๊ะ ไม่มีทีท่าว่าจะเคียร์เสร็จง่ายๆ รสสิกาดูเวลา นี่ก็เที่ยงกว่าแล้วจึงเดินเข้าไปหาอัครพล" อัคค่ะ เที่ยงกว่าแล้วนะ พักก่อนค่ะ ไปกินข้าวกัน "" โรส ไปกินเถอะ ผมยังไม่หิว งานด่วน ต้องรีบเคียร์ให้เสร็จ โปรเจคใหม่พวกนี้ ผมต้องอ่านให้ดี ก่อนเซ็นอนุมัติ จะรีบร้อนไม่ได้"" แต่อัคค่ะโรสไม่อยากไปกินคนเดียว โรสอุตส่าห์มานั่งรอคุณตั้งหลาย ช.ม นะ"" ผมก็บอกคุณ ตั้งแต่แรกแล้ว ว่าผมไม่ว่างและผมก็ไม่ได้ขอให้คุณมารอผมด้วย"อัครพลถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย ก่อนจะเอ่ยขึ้น โดยไม่มองหน้ารสสิกา แม้แต่น้อย" อัค โรสอยากรู้ว่าเมื่อไหร่คุณจะหย่าคุณบอกว่าครบ3ปีคุณจะหย่าไม่ใช่เหรอ นี่ก็จะ3ปีแล้วนะ"อัครพลวางปากกา เงยหน้ามองรสสิกา ดวงตามีประกายความไม่พอใจบ่งบอกชัดเจน " คุณเคยบอกโรส ว่าไม่ได้รักมาณวิกา ยังไงก็จะหย่ากับเธอให้ได้ "อัครพลไม่ปฏิเสธ ว่าก่อนหน้านั้นเขาเคยพูดแบบนั้นจริงๆ แต่ตอนนี้ไม่รู้ทำไม เขาไม่อยากพูดเรื่องหย่าเลย พูดเรื่องนี้ทีไร ในใจ
เลิกงานตอนเย็น มาณวิกาจึงต้องนั่งรถมากับเขา โดยมีเขาเป็นคนขับรถเอง ทั้งที่ปกติเขาจะมีคนขับรถส่วนตัว ตลอดทางจนถึงบ้านคุณปู่ มีแต่ความเงียบ เธอกับเขาไม่มีใครพูดจาเลยสักคำ ทำให้บรรยากาศอึดอัดชอบกล พอรถแล่นเข้ามาจอดในบ้าน มาณวิกาก็เดินเข้าไปในบ้านทันที ไม่รอเขาพิศมัยเห็นสะใภ้สุดที่รัก ก็รีบเข้าโอบกอดด้วยความคิดถึง หลายเดือนแล้วที่ไม่ได้เจอกัน เพราะเธอกับสามี ต้องไปดูแลบริษัทใหม่ที่ฮ่องกง เป็นบริษัทร่วมทุนกับนักธุรกิจชาวฮ่องกงชื่อดัง เธอเอ็นดูมาณวิกาเหมือนลูกสาวแท้ๆ ตั้งแต่มาณวิกายังไม่ได้มาอยู่ที่นี่ พอรู้ว่าจะได้มาณวิกามาเป็นสะใภ้ เธอก็ดีใจไม่น้อย หลายปีที่ผ่านมา มาณวิการักและดูแลเอาใจใส่อัครพล ลูกชายของตนมาตลอด เปลี่ยนชีวิตของอัครพลที่ช้ำรักจนเสียผู้เสียคน ให้กลายมาเป็นคนเดิม ทั้งยังช่วยกันบริหารบริษัทจนเติบโต ยิ่งใหญ่ได้ถึงทุกวันนี้" สวัสดีค่ะคุณแม่ " มาณวิกายกมือไหว้พิศมัย ที่เอ็นดูเมตตาเธอมาตลอด ตั้งแต่ตอนที่เธอมาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ" มาแล้วเหรอ หนูวิ แม่คิดถึงหนูจัง ไม่เจอกันตั้งนาน มาเร็ว แม่มีของฝากมาจากฮ่องกงเยอะเลย มีขนมอร่อยๆหลายอย่างเลยนะ"พิศมัยโอบกอดลูกสะใภ้ เข้าไปในบ้าน ไม่ส
" แกทำอะไรเอาไว้ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ เรื่องแกกับแม่นางแบบนั่น อย่าให้มันมากนัก ข่าวที่ออกไป แกไม่คิดว่าหนูวิจะเสียใจบ้างรึไง"" มันไม่มีอะไรทั้งนั้น โรสพึ่งกลับมา เขาขอให้ผมไปรับที่สนามบินก็แค่นั้น ผมไม่รู้ว่ามีคนเอาไปเขียนข่าวมั่วๆได้ยังไง""แล้วล่าสุดที่แก พากันไปดินเนอร์ใต้แสงเทียนนั่นอีก "คราวนี้คมกฤชถามบ้าง อัครพลหันมามองหน้าผู้เป็นพ่อ"ถึงฉันจะอยู่ที่ฮ่องกง แต่ฉันก็มีสายรายงานตลอด ""ข่าวนั่นก็ไม่มีอะไรเหมือนกัน วันนั้นเป็นวันเกิดโรส ผมแค่ไปกินข้าวเป็นเพื่อนเธอ ร้านอาหารร้านนั้นเธอเป็นคนเลือกเอง ผมเห็นว่าบรรยากาศดี ไม่เห็นจะมีอะไร"" แล้วเรื่องพรีเซนเตอร์ ที่ฉันรู้ตอนแรกเป็นพิชญา ทำไมแกถึงเปลี่ยนตามใจชอบ ""ผมรับปากโรสเอาไว้ ว่าจะให้เป็นของขวัญ อีกอย่างโรสลำบาก พึ่งกลับมา ยังไม่มีงาน ผมเลยต้องให้งานเธอ ช่วยเธอหากคอนเนคชั่น"" ให้ทั้งงาน ให้ทั้งเงิน หมดไปกี่ร้อยล้านแล้วหล่ะ กับหนูวิ แกเคยให้แบบนี้บ้างใหม หนูวิอยู่กับแกมาหลายปี ค่าใช้จ่ายของเขาไม่เคยใช้เงินของแกเลย แต่แกกลับไปปรนเปรอนังนั่น มันไม่ได้รักแกหรอก มันรักเงินแกต่างหาก"" ฉันไม่คิดว่าแก จะโง่ดักดานได้ขนาดนี้ แกลืมไปแล้ว
รสสิกาเดินเข้าไปในผับ สายตาสอดส่องหาศศิ เพื่อนสนิทพ่วงตำแหน่งผู้จัดการส่วนตัวศศิเห็นเธอก็โบกไม้โบกมือเรียก ด้วยหุ่นนางแบบส่วนสูง173 ขาเรียวยาว ผิวขาว ส่วนเว้าส่วนโค้งได้รูป รับกับเดรสสีดำที่เธอสวมใส่ ทำให้ทุกย่างก้าวที่เธอเดิน สง่างามเหมือนเดินอยู่บนแคทวอล์ค เรียกสายตาหนุ่มๆให้มองตามจนเหลียวหลัง " ว่าไง เรื่องที่ฉันให้จัดการหน่ะ"" มันก็ต้องได้เรื่องอยู่แล้ว นั่งก่อน สั่งอะไรดี เอาเหมือนฉันล่ะกัน น้อง มาร์การิต้าที่ "ศศิสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์" ฉันนัดเขาไว้ที่นี่แหละ อีกสักพักก็คงจะมา นั่นไงมาพอดีเลย"รสสิกาหันไปดู ก็พบผู้ชายสูงใหญ่หน้าตาไม่ถึงกับหล่อ แต่รวมๆแล้วก็มีเสน่ห์น่าดึงดูดไม่น้อย สังเกตุจากตลอดทางจนมาถึงโต๊ะที่เธอนั่งอยู่ มีผู้หญิงมองตาม บ้างก็ส่งสายตาเชิญชวนเขาไม่น้อย เขาใส่เสื้อเชิตไม่ติดกระดุมอยู่3เม็ด เผยให้เห็นซิกแพคแน่นๆ กับรอยสักที่ดูกร้าวใจสุดๆ รสสิการู้สึกตัวว่าจ้องเขานานเกินไป จึงละสายตาออกมาหยิบแก้วขึ้นจิบ" โรส นี่พี่พศิน ญาติห่างๆของฉันเอง"" พี่ศิน นี่โรส ที่ฉันเล่าให้ฟัง"" สวัสดีครับ คุณโรสคนสวย ยัยศิเล่าให้ฟัง ว่าคุณทั้งสวยและหุ่นดีมาก ไม่คิดว่าเจอ
อัครพลกระชากชุดเดรสออก ซุกไซร้ซอกคอไล่ต่ำลงมาจนถึงเต้าอวบ ดูดดึงเสียงดัง จ้วบจ้าบ โลมเลียสองเต้าด้วยความหื่นกระหาย " อะ อา อัคขา อืม เสียวเหลือเกินมาณวิกาขับรถออกจากบ้านแต่เช้า วันนี้เป็นวันหยุด เธอตั้งใจจะไปทำบุญให้กับพ่อและปู่ของเธอ จึงแวะซื้อเค้กไข่ที่ทั้ง2ชอบกิน ตอนมีชีวิตอยู่ ไปทำบุญให้ เมื่อได้ขนมมาแล้ว ก็เปิดฝาท้ายรถเอาขนมไปเก็บ แต่ก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรมาจี้ที่เอว เมื่อก้มลงดูก็ตกใจสุดขีด ปืนจี้เอวเธออยู่ " เดินตามมาอย่าตุกติก "ชายร่างสูงใหญ่ สวมแว่นตาดำใส่แมสปิดปาก บอกให้เธอขึ้นไปนั่งบนรถ เมื่อเธอขึ้นไปก็พบกับ ชายสวมไอ้โม่งปิดบังใบหน้าอีก2คน" พวกแกจับฉันมาทำไม ใครสั่งแกมาต้องการเงินใช่ไหม จะเอาเท่าไหร่บอกมา ฉันจะให้พวกแกมากกว่า"" เอาไงดีพี่"" เฮ้ย อย่าไปฟังมัน ถึงเราจะเป็นผู้ร้ายแต่ก็ต้องมีจรรยาบรรณ รับงานมาแล้วต้องทำให้สำเร็จ มัดมือมัดเท้ามันไว้ หาอะไรอุดปากมันด้วย"ปวรุจ มองดูรถตู้สีดำที่วิ่งผ่านหน้าเขาไปด้วยความรวดเร็ว เหตุการณ์เมื่อกี้เขาเห็นหมดแล้ว เขามาซื้อเค้กที่ร้านเค้กเล็กๆนี้ เพื่อไปจีบสาวนักศึกษาฝึกงาน ที่มาฝึกงานที่บริษัทของเขาเมื่อหลายวันก่อน พอรู้ว่าเธอชอบ
อัครพลลืมตาตื่นขึ้นมา มองดูเพดานห้องที่ไม่คุ้นเคย ที่นี่ที่ไหน เขาจำได้ว่าเมื่อคืนไปดื่มที่ผับ ก่อนจะกลับเขารู้สึกมึนหัวมาก และสติก็เริ่มเลือนราง เขาปวดหัวจี๊ดๆจนต้องใช้มือคลึงหัว พอก้มลงดูก็เห็นแขนขาวพาดเอวเขาอยู่ เมื่อเห็นหน้าคนที่นอนกอดเขาอยู่ข้างๆก็ตกใจ รสสิกา ทำไมถึงเป็นเธอถึงจะจำไม่ค่อยได้ แต่เขาคิดว่าเมื่อคืนเขามีอะไรกับมาณวิกา ทำไมนะถึงเป็นรสสิกาไปได้ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ก่อนจะที่เขาจะมีอาการแปลกๆ หลังจากที่ดื่มเหล้าแก้วสุดท้ายไป ใช่แล้วในเหล้าแก้วนั้นรสสิกาต้องใส่อะไรลงไปแน่ มิน่าเขาถึงไม่มีสติควบคุมตัวเองไม่อยู่ เห็นรสสิกาเป็นมาณวิกา จนต้องมีความสัมพันธ์กับเธอทั้งคืนจนถึงเช้า ยาต้องแรงขนาดไหน ทั้งที่เขาจะตั้งใจ จะตัดความสัมพันธ์กับรสสิกาหลังงานประมูล แล้วจะกลับไปทำหน้าที่สามีที่ดีกับมาณวิกา แต่เกิดเรื่องแบบนี้ ถ้ามาณวิการู้จะให้อภัยเขาไหม นึกถึงภาพมาณวิกามองเขา ด้วยสายตาเย็นชาและเดินจากเขาไป เขาก็รู้สึกไม่ยอมรับ อัครพลสะบัดตัวออก ลุกขึ้นจากเตียง รีบสวมเสื้อแล้วจากไป ไม่สนใจเสียงร้องเรียกของรสสิกาปวรุจพาตัวเองมานั่งเฝ้ามาณวิกาในห้องพักพิเศษ นานเท่าไหร่แล
อัครพลผลักประตูห้องเข้าไป พบร่างของมาณวิกานอนอยู่บนเตียง มีเพื่อนของเธอนั่งเฝ้าอยู่ไม่ห่าง เขารีบเดินเข้าไปหาเธอ ดารัณมองหน้าเขาอย่างไม่พอใจ แต่ก็ยอมเดินออกไปนั่งที่โซฟาแทน" คุณ เป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า"มาณวิกาสบตากับอัครพล ในตาของเขาเต็มไปด้วยความห่วงใย เธอไม่รู้หรอกว่าเขามาที่นี่ได้ยังไง ในเมื่อเธอไม่ได้บอกใครเลยนอกจากดารัณ แล้วเขารู้ได้ยังไงว่าเธออยู่ที่นี่ เขามาเพราะหน้าที่ หรือมาเพื่ออะไรเธอไม่สนใจ เมื่อกี้เขาถามว่าเธอเจ็บตรงไหนเป็นพิเศษ ก็คงจะเป็นที่ใจนี่แหละ มันเจ็บจนชาไปหมดแล้ว ก่อนหน้านี้เธอเห็นข่าวซุบซิบในทีวี เป็นภาพที่เขากอดจูบกับรสสิกาอยู่ข้างรถ ก่อนจะประคองกอดกันขึ้นคอนโด ในข่าวระบุว่าเกิดขึ้นเมื่อคืน และยังมีภาพที่เขาออกมาจากคอนโดนั่น ตอนเที่ยงของวันนี้ เธอถูกฉุดไปขืนใจ จนเสียลูกในท้อง แต่เขากลับนอนกกกอดกับคนรัก ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บ น้ำตาก็ไหลลงมาไม่หยุดอัครพลเห็นมาณวิการ้องไห้ เขาก็ใจไม่ดี เธอคงจะตกใจและเสียขวัญไม่น้อย เขาเอื้อมมือจะไปเช็ดน้ำตาไห้เธอ แต่เธอก็เบือนหน้าหนี นอนหันหลังไห้" คุณกลับไปเถอะ ไปอยู่กับคนรักของคุณ ฉันไม่เป็นอะไร มีรัณอยู่เป็น
เสียงมือถือดังขึ้น ศศิรีบกดรับสายแล้วเปิดลำโพง เพื่อให้รสสิกาได้ยินด้วย" ฮัลโหล พี่ศิน "" บอกนังโรสมาคุยกับกู"" ฉันฟังอยู่ มีอะไรรีบพูดมา"" เอาเงินมาให้กู10ล้าน ตอนนี้กูโดนตำรวจล่าตัวอยู่ ได้เงินแล้วกูจะหนีออกนอกประเทศ " " ฉันจะเอาเงินที่ไหนมาให้แกตั้ง10ล้าน เงินไม่ใช่น้อยๆ คราวก่อนฉันให้แกไปตั้งแสนนึง งานทำไม่สำเร็จ ยังจะมีหน้ามาขอเงินกับฉันอีก ฉันไม่มีให้แกหรอก "" มึงก็ไปเอามาจากผัวมึงสิ ไอ้ประธานบริษัทอะไรนั่นหน่ะ มันรวยมากนี่ แค่10ล้านขนหน้าแข้งมันไม่ร่วงหรอก อย่าลืมว่ากูกุมความลับของมึงอยู่ ถ้ากูไม่ได้เงินกูจะส่งคลิปเสียงที่กูบันทึกไว้ให้ตำรวจ แล้วถ้ากูถูกจับได้กูจะสารภาพให้หมด กูจะไม่ยอมนอนคุกคนเดียว กูจะลากมึงกับอีศิเข้าคุกไปกับกูด้วย"" กูให้เวลามึงถึงเที่ยงวันพรุ่งนี้ เดี๋ยวกูจะโทรมาบอกอีกทีว่าให้เอาเงินมาให้กูที่ไหน"รสสิกากรีดร้องด้วยความเจ็บใจ แล้วนึกก็ขึ้นมาได้ ว่าอัครพลบอกว่าจะให้เธอ20ล้าน ให้มันไป10ล้านยังเหลืออีก10ล้าน ยังไงเธอคงต้องไปตั้งหลักอยู่ต่างประเทศก่อน แล้วค่อยว่ากันอีกที คิดได้แบบนั้นก็สบายใจขึ้นมาหน่อยรสสิกาเอาเช็คไปขึ้นเงินเรียบร้อย ในมือถือกระเป๋าใส
ป้ายบิลบอร์ดที่เคยฉายภาพของรสสิกา สวมเครื่องเพชรหรูหรา คอลเล็คชั่นใหม่ล่าสุด แบรนด์jm รวมทั้งป้ายโฆษณาตามที่ต่างๆล้วนถูกปลดออก แม้แต่ภาพยนตร์ที่มีชื่อรสสิกาเป็นนางเอก ก็ถูกเปลี่ยนเป็นพิชญา ศศิโทรไปโวยวาย แต่ทางนั้นก็ตอบกลับมาว่า นายทุนต้องการเปลี่ยนตัวมาเป็นพิชญา และจะจ่ายค่าชดเชยให้ตามที่ระบุในสัญญา สักพักศศิก็ได้รับโทรศัพท์คุยอยู่ชั่วครู่ ก็บอกกับรสิกา ว่างานเปิดตัวเครื่องเพชรjm คอลเล็คชั่นใหม่ ที่จะมีขึ้นในอาทิตย์หน้า เปลี่ยนตัวนางแบบ " หมายความยังไง ทำไมถึงเปลี่ยนตัว ฉันเป็นพรีเซนเตอร์นะ ฉันต้องได้เดินโชว์เครื่องเพชรชุดนั้นสิ "" ฉันถามเขาแล้ว เขาบอกว่าเป็นคำสั่งของผู้บริหารสั่งมา แล้วเขาก็ยังบอกอีก ว่าเธอถูกปลดจากพรีเซนเตอร์แล้ว"" ฉันไม่เชื่อ อัค ไม่มีทางทำแบบนั้น"" แต่ข่าวแกกับเขาที่ออกไป มันดังไปทั่วทั้งโซเชียล ตอนนี้หุ้นของบริษัท Akm กำลังตก เห็นว่าเรียกประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันก่อน ถึงอัคจะเป็นประธาน แต่บริษัทก็ไม่ใช่ของเขาแค่คนเดียว ยังมีหุ้นส่วนคนอื่นๆอีก มีข่าวเสียหายแบบนี้ มันก็ส่งผลกระทบอยู่แล้ว ไม่แน่อาจจะถูกโหวตออกจากตำแหน่งประธานก็ได้"รสสิกาคิดได้ ว่าหรืออัครพลจะโก
เมื่อมาถึงร.พ เขาก็รีบไปหามาณวิกา ในมือถือกล่องเค้กบลูเบอร์รี่ ที่เธอชอบกินมาฝากด้วย แต่พอผลักประตูห้องเข้าไป ก็พบว่าพ่อกับแม่ของเขารวมทั้งคุณปู่ก็อยู่ที่นี่ด้วย เขาเดินเข้าไปใกล้มาณวิกาชูเค้กในมือ" ผมซื้อเค้กบลูเบอรี่ ของชอบคุณมาด้วย จะทานเลยไหม ผมจะใส่จานให้"" _ "มาณวิกาไม่ตอบรับ เธอยังคงเมินเฉยอย่างเคย " ออกมาคุยกับพ่อกับปู่ข้างนอก"คมกฤชบอกอัครพลก่อนเดินนำออกไป" แกจะเอายังไงเรื่องหนูวิ"" ผมผิดเอง ผมก็พึ่งรู้ว่าเธอท้อง ไม่อย่างงั้นผมคงจะดูแลเธอให้ดีกว่านี้"" แกพูดอย่างนี้ คือถ้าหนูวิไม่ท้องก็จะไม่ดูแล"" ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น "" ช่างเถอะ ที่ผ่านมา แกก็ไม่เคยสนใจหนูวิอยู่แล้ว ว่าเธอจะรู้สึกยังไง "" ผม " อัครพลพูดไม่ออก ที่ผ่านมาเขาละเลยเธอจริงๆ เขาทำให้เธอเสียใจ ถ้าคืนนั้นเขาไม่ไปผับก็จะไม่เมา ไม่เจอรสสิกาจนต้องถูกวางยาและเกิดเรื่องบ้าบอขึ้น เขาจะพาเธอไปวัดแล้วก็จะไม่เจอคนร้าย เธอก็ไม่ต้องเสียลูก "ฉันเคยเตือนแกหลายครั้งแล้ว เรื่องแม่นางแบบนั่น แล้วเป็นยังไง ออกข่าวดังขนาดนั้น สมใจแกไหม " คมกฤชเดือดดาลเขาผิดหวังในตัวลูกชายจริงๆ ทั้งที่บอกแล้วเตือนแล้วแต่ก็ไม่ฟัง หลงเม
อัครพลผลักประตูห้องเข้าไป พบร่างของมาณวิกานอนอยู่บนเตียง มีเพื่อนของเธอนั่งเฝ้าอยู่ไม่ห่าง เขารีบเดินเข้าไปหาเธอ ดารัณมองหน้าเขาอย่างไม่พอใจ แต่ก็ยอมเดินออกไปนั่งที่โซฟาแทน" คุณ เป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า"มาณวิกาสบตากับอัครพล ในตาของเขาเต็มไปด้วยความห่วงใย เธอไม่รู้หรอกว่าเขามาที่นี่ได้ยังไง ในเมื่อเธอไม่ได้บอกใครเลยนอกจากดารัณ แล้วเขารู้ได้ยังไงว่าเธออยู่ที่นี่ เขามาเพราะหน้าที่ หรือมาเพื่ออะไรเธอไม่สนใจ เมื่อกี้เขาถามว่าเธอเจ็บตรงไหนเป็นพิเศษ ก็คงจะเป็นที่ใจนี่แหละ มันเจ็บจนชาไปหมดแล้ว ก่อนหน้านี้เธอเห็นข่าวซุบซิบในทีวี เป็นภาพที่เขากอดจูบกับรสสิกาอยู่ข้างรถ ก่อนจะประคองกอดกันขึ้นคอนโด ในข่าวระบุว่าเกิดขึ้นเมื่อคืน และยังมีภาพที่เขาออกมาจากคอนโดนั่น ตอนเที่ยงของวันนี้ เธอถูกฉุดไปขืนใจ จนเสียลูกในท้อง แต่เขากลับนอนกกกอดกับคนรัก ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บ น้ำตาก็ไหลลงมาไม่หยุดอัครพลเห็นมาณวิการ้องไห้ เขาก็ใจไม่ดี เธอคงจะตกใจและเสียขวัญไม่น้อย เขาเอื้อมมือจะไปเช็ดน้ำตาไห้เธอ แต่เธอก็เบือนหน้าหนี นอนหันหลังไห้" คุณกลับไปเถอะ ไปอยู่กับคนรักของคุณ ฉันไม่เป็นอะไร มีรัณอยู่เป็น
อัครพลลืมตาตื่นขึ้นมา มองดูเพดานห้องที่ไม่คุ้นเคย ที่นี่ที่ไหน เขาจำได้ว่าเมื่อคืนไปดื่มที่ผับ ก่อนจะกลับเขารู้สึกมึนหัวมาก และสติก็เริ่มเลือนราง เขาปวดหัวจี๊ดๆจนต้องใช้มือคลึงหัว พอก้มลงดูก็เห็นแขนขาวพาดเอวเขาอยู่ เมื่อเห็นหน้าคนที่นอนกอดเขาอยู่ข้างๆก็ตกใจ รสสิกา ทำไมถึงเป็นเธอถึงจะจำไม่ค่อยได้ แต่เขาคิดว่าเมื่อคืนเขามีอะไรกับมาณวิกา ทำไมนะถึงเป็นรสสิกาไปได้ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ก่อนจะที่เขาจะมีอาการแปลกๆ หลังจากที่ดื่มเหล้าแก้วสุดท้ายไป ใช่แล้วในเหล้าแก้วนั้นรสสิกาต้องใส่อะไรลงไปแน่ มิน่าเขาถึงไม่มีสติควบคุมตัวเองไม่อยู่ เห็นรสสิกาเป็นมาณวิกา จนต้องมีความสัมพันธ์กับเธอทั้งคืนจนถึงเช้า ยาต้องแรงขนาดไหน ทั้งที่เขาจะตั้งใจ จะตัดความสัมพันธ์กับรสสิกาหลังงานประมูล แล้วจะกลับไปทำหน้าที่สามีที่ดีกับมาณวิกา แต่เกิดเรื่องแบบนี้ ถ้ามาณวิการู้จะให้อภัยเขาไหม นึกถึงภาพมาณวิกามองเขา ด้วยสายตาเย็นชาและเดินจากเขาไป เขาก็รู้สึกไม่ยอมรับ อัครพลสะบัดตัวออก ลุกขึ้นจากเตียง รีบสวมเสื้อแล้วจากไป ไม่สนใจเสียงร้องเรียกของรสสิกาปวรุจพาตัวเองมานั่งเฝ้ามาณวิกาในห้องพักพิเศษ นานเท่าไหร่แล
อัครพลกระชากชุดเดรสออก ซุกไซร้ซอกคอไล่ต่ำลงมาจนถึงเต้าอวบ ดูดดึงเสียงดัง จ้วบจ้าบ โลมเลียสองเต้าด้วยความหื่นกระหาย " อะ อา อัคขา อืม เสียวเหลือเกินมาณวิกาขับรถออกจากบ้านแต่เช้า วันนี้เป็นวันหยุด เธอตั้งใจจะไปทำบุญให้กับพ่อและปู่ของเธอ จึงแวะซื้อเค้กไข่ที่ทั้ง2ชอบกิน ตอนมีชีวิตอยู่ ไปทำบุญให้ เมื่อได้ขนมมาแล้ว ก็เปิดฝาท้ายรถเอาขนมไปเก็บ แต่ก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรมาจี้ที่เอว เมื่อก้มลงดูก็ตกใจสุดขีด ปืนจี้เอวเธออยู่ " เดินตามมาอย่าตุกติก "ชายร่างสูงใหญ่ สวมแว่นตาดำใส่แมสปิดปาก บอกให้เธอขึ้นไปนั่งบนรถ เมื่อเธอขึ้นไปก็พบกับ ชายสวมไอ้โม่งปิดบังใบหน้าอีก2คน" พวกแกจับฉันมาทำไม ใครสั่งแกมาต้องการเงินใช่ไหม จะเอาเท่าไหร่บอกมา ฉันจะให้พวกแกมากกว่า"" เอาไงดีพี่"" เฮ้ย อย่าไปฟังมัน ถึงเราจะเป็นผู้ร้ายแต่ก็ต้องมีจรรยาบรรณ รับงานมาแล้วต้องทำให้สำเร็จ มัดมือมัดเท้ามันไว้ หาอะไรอุดปากมันด้วย"ปวรุจ มองดูรถตู้สีดำที่วิ่งผ่านหน้าเขาไปด้วยความรวดเร็ว เหตุการณ์เมื่อกี้เขาเห็นหมดแล้ว เขามาซื้อเค้กที่ร้านเค้กเล็กๆนี้ เพื่อไปจีบสาวนักศึกษาฝึกงาน ที่มาฝึกงานที่บริษัทของเขาเมื่อหลายวันก่อน พอรู้ว่าเธอชอบ
รสสิกาเดินเข้าไปในผับ สายตาสอดส่องหาศศิ เพื่อนสนิทพ่วงตำแหน่งผู้จัดการส่วนตัวศศิเห็นเธอก็โบกไม้โบกมือเรียก ด้วยหุ่นนางแบบส่วนสูง173 ขาเรียวยาว ผิวขาว ส่วนเว้าส่วนโค้งได้รูป รับกับเดรสสีดำที่เธอสวมใส่ ทำให้ทุกย่างก้าวที่เธอเดิน สง่างามเหมือนเดินอยู่บนแคทวอล์ค เรียกสายตาหนุ่มๆให้มองตามจนเหลียวหลัง " ว่าไง เรื่องที่ฉันให้จัดการหน่ะ"" มันก็ต้องได้เรื่องอยู่แล้ว นั่งก่อน สั่งอะไรดี เอาเหมือนฉันล่ะกัน น้อง มาร์การิต้าที่ "ศศิสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์" ฉันนัดเขาไว้ที่นี่แหละ อีกสักพักก็คงจะมา นั่นไงมาพอดีเลย"รสสิกาหันไปดู ก็พบผู้ชายสูงใหญ่หน้าตาไม่ถึงกับหล่อ แต่รวมๆแล้วก็มีเสน่ห์น่าดึงดูดไม่น้อย สังเกตุจากตลอดทางจนมาถึงโต๊ะที่เธอนั่งอยู่ มีผู้หญิงมองตาม บ้างก็ส่งสายตาเชิญชวนเขาไม่น้อย เขาใส่เสื้อเชิตไม่ติดกระดุมอยู่3เม็ด เผยให้เห็นซิกแพคแน่นๆ กับรอยสักที่ดูกร้าวใจสุดๆ รสสิการู้สึกตัวว่าจ้องเขานานเกินไป จึงละสายตาออกมาหยิบแก้วขึ้นจิบ" โรส นี่พี่พศิน ญาติห่างๆของฉันเอง"" พี่ศิน นี่โรส ที่ฉันเล่าให้ฟัง"" สวัสดีครับ คุณโรสคนสวย ยัยศิเล่าให้ฟัง ว่าคุณทั้งสวยและหุ่นดีมาก ไม่คิดว่าเจอ
" แกทำอะไรเอาไว้ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ เรื่องแกกับแม่นางแบบนั่น อย่าให้มันมากนัก ข่าวที่ออกไป แกไม่คิดว่าหนูวิจะเสียใจบ้างรึไง"" มันไม่มีอะไรทั้งนั้น โรสพึ่งกลับมา เขาขอให้ผมไปรับที่สนามบินก็แค่นั้น ผมไม่รู้ว่ามีคนเอาไปเขียนข่าวมั่วๆได้ยังไง""แล้วล่าสุดที่แก พากันไปดินเนอร์ใต้แสงเทียนนั่นอีก "คราวนี้คมกฤชถามบ้าง อัครพลหันมามองหน้าผู้เป็นพ่อ"ถึงฉันจะอยู่ที่ฮ่องกง แต่ฉันก็มีสายรายงานตลอด ""ข่าวนั่นก็ไม่มีอะไรเหมือนกัน วันนั้นเป็นวันเกิดโรส ผมแค่ไปกินข้าวเป็นเพื่อนเธอ ร้านอาหารร้านนั้นเธอเป็นคนเลือกเอง ผมเห็นว่าบรรยากาศดี ไม่เห็นจะมีอะไร"" แล้วเรื่องพรีเซนเตอร์ ที่ฉันรู้ตอนแรกเป็นพิชญา ทำไมแกถึงเปลี่ยนตามใจชอบ ""ผมรับปากโรสเอาไว้ ว่าจะให้เป็นของขวัญ อีกอย่างโรสลำบาก พึ่งกลับมา ยังไม่มีงาน ผมเลยต้องให้งานเธอ ช่วยเธอหากคอนเนคชั่น"" ให้ทั้งงาน ให้ทั้งเงิน หมดไปกี่ร้อยล้านแล้วหล่ะ กับหนูวิ แกเคยให้แบบนี้บ้างใหม หนูวิอยู่กับแกมาหลายปี ค่าใช้จ่ายของเขาไม่เคยใช้เงินของแกเลย แต่แกกลับไปปรนเปรอนังนั่น มันไม่ได้รักแกหรอก มันรักเงินแกต่างหาก"" ฉันไม่คิดว่าแก จะโง่ดักดานได้ขนาดนี้ แกลืมไปแล้ว
เลิกงานตอนเย็น มาณวิกาจึงต้องนั่งรถมากับเขา โดยมีเขาเป็นคนขับรถเอง ทั้งที่ปกติเขาจะมีคนขับรถส่วนตัว ตลอดทางจนถึงบ้านคุณปู่ มีแต่ความเงียบ เธอกับเขาไม่มีใครพูดจาเลยสักคำ ทำให้บรรยากาศอึดอัดชอบกล พอรถแล่นเข้ามาจอดในบ้าน มาณวิกาก็เดินเข้าไปในบ้านทันที ไม่รอเขาพิศมัยเห็นสะใภ้สุดที่รัก ก็รีบเข้าโอบกอดด้วยความคิดถึง หลายเดือนแล้วที่ไม่ได้เจอกัน เพราะเธอกับสามี ต้องไปดูแลบริษัทใหม่ที่ฮ่องกง เป็นบริษัทร่วมทุนกับนักธุรกิจชาวฮ่องกงชื่อดัง เธอเอ็นดูมาณวิกาเหมือนลูกสาวแท้ๆ ตั้งแต่มาณวิกายังไม่ได้มาอยู่ที่นี่ พอรู้ว่าจะได้มาณวิกามาเป็นสะใภ้ เธอก็ดีใจไม่น้อย หลายปีที่ผ่านมา มาณวิการักและดูแลเอาใจใส่อัครพล ลูกชายของตนมาตลอด เปลี่ยนชีวิตของอัครพลที่ช้ำรักจนเสียผู้เสียคน ให้กลายมาเป็นคนเดิม ทั้งยังช่วยกันบริหารบริษัทจนเติบโต ยิ่งใหญ่ได้ถึงทุกวันนี้" สวัสดีค่ะคุณแม่ " มาณวิกายกมือไหว้พิศมัย ที่เอ็นดูเมตตาเธอมาตลอด ตั้งแต่ตอนที่เธอมาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ" มาแล้วเหรอ หนูวิ แม่คิดถึงหนูจัง ไม่เจอกันตั้งนาน มาเร็ว แม่มีของฝากมาจากฮ่องกงเยอะเลย มีขนมอร่อยๆหลายอย่างเลยนะ"พิศมัยโอบกอดลูกสะใภ้ เข้าไปในบ้าน ไม่ส